รถยนต์เคลื่อนตัวมาจอดยังท้ายไร่พูนสุข ที่นี่ไม่ใช่บ้านที่เขาพาเธอไปเมื่อวันก่อน แต่กลับเป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่ทำจากไม้สนแบบเดียวกันกับบ้านหลังใหญ่ของเขา
เมื่อมองจากตรงที่เธอยืนจะสามารถมองเห็นไร่อุดมรักของเธอได้ เพียงแค่เดินข้ามสะพานไม้เก่าๆ นั้นมาก็จะสามารถมาที่นี่ได้อย่างง่ายดาย “เข้ามาสิ..” ที่ด้านหน้าบ้านหลังน้อยปลูกดอกไม้เอาไว้หลายชนิด และดอกไม้เหล่านั้นกำลังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ..มันทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น อลิสาเดินตามเขาเข้าไปด้านใน เธอเห็นโต๊ะทำงานที่มีกองเอกสารมากมายวางอยู่บนนั้น ถัดจากโต๊ะทำงานคือโซฟาตัวยาว และตรงมุมห้องคือเตียงนอน เท้าของเธอพลันชะงักพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่ และเมื่อเตลองซ์มองเห็นสายตาหวาดระแวงของอลิสาเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ เตลองซ์เดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับจูงมือของเธอไปนั่งบนโซฟา เขาไม่ลืมปิดประตูบ้านลงพร้อมลงกลอนอย่างแน่นหนา.. สิ่งแรกที่เขามองเห็นใบหน้าของอลิสาตอนที่อยู่ที่วัดคือความสวยของเธอก็จริง ทว่าเมื่อมองเข้าไปในดวงตาเขามองเห็นความเหนื่อยล้าและความทุกข์ใจ เท่าที่เขาพอจะเดาได้ เรื่องราวที่ทำให้เธอต้องใช้ความคิดมากเช่นนี้ อาจจะเป็นเรื่องราวภายในไร่อุดมรัก ที่นั่นไม่ได้รับการพัฒนาที่เหมาะสมมาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว ต้นองุ่นพวกนั้นเริ่มมีอายุมากขึ้น อีกทั้งสายพันธุ์ก็ไม่ได้รับความนิยมแล้ว ราคาก็เลยถูกลงตามลำดับ ไร่อุดมรักกำลังมีปัญหาเรื่องการเงิน และอลิสามาหาเขาคงเพราะว่าเธอต้องการจะขายที่ดินในส่วนที่ติดกับไร่พูนสุขเพื่อเอาเงินไปหมุนเวียนภายในไร่ “ว่ามาสิ เรื่องที่เธอต้องการคุยกับพี่” อลิสาหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา เธอไม่ได้คิดเลยว่าจะมาหาเขาในทันทีที่ทำบุญเสร็จ ไม่อย่างนั้นคงจะพกเอกสารที่เธอนั่งทำในช่วงเช้ามาให้เขาดูด้วย “คือหนูคิดว่าหนูจะขายที่ดินในส่วนที่ติดกับไร่พูนสุขค่ะ เพราะอย่างนั้นก็เลยมาถามพี่ซึ่งเป็นเจ้าของไร่ก่อน ว่าพี่สนใจที่จะขยายขนาดของไร่ตัวเองรึเปล่า?” เธอส่งรูปถ่ายใบโฉนดให้เขาดู “ที่ดินตรงนั้นหากจะขายให้คนอื่นก็จะต้องเสียที่ดินหลักเพื่อเป็นทางเข้าทางออกให้แก่ผู้ซื่อ แต่ถ้าหากขายให้พี่..ทางเธอก็ไม่ต้องเสียที่ดินเพิ่ม แต่ลิสาที่ตรงนั้นมันมีแต่ต้นองุ่นที่มีสายพันธุ์เก่าๆ ไม่ได้รับความนิยมแล้ว เธอคิดว่าพี่ควรจะเสียเงินซื่อที่ดินตรงนั้นเท่าไหร่ดีล่ะ?” เขามีท่าทีที่แตกต่างออกไปจากเดิมมากพอสมควร ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงเหมือนเป็นคนละคนกับพี่เตลองซ์จอมกะล่อนก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิงเลย หรือเป็นเพราะว่าเขาจะเข้าสู่โหมดจริงจังในทันทีเมื่อเราพูดคุยเรื่องงานกัน “ที่ดินตรงนั้นตอนแรกหนูว่าจะแบ่งขายสักห้าสิบไร่ค่ะ แต่พอมาคิดมาคิดไปหนูคิดว่าขายที่ดินมากขนาดนั้นในครั้งเดียวอาจจะขายได้ยากก็เลยจะขายให้พี่แค่ยี่สิบไร่” หากว่าเป็นเรื่องงาน เธอเองก็ไม่คิดยอมถอยให้เขาเหมือนกันนั่นแหละ “แบบนั้นเองสินะ แล้วลิสามีความคิดว่าจะขายที่ดินตรงนั้นไร่ละเท่าไหร่ล่ะ?” ไม่รู้ทำไม ในใจของเธอถึงคิดว่าเขากำลังหยั่งเชิงเธออยู่ ตามคำบอกเล่าของพี่ส้มแป้น ไร่พูนสุขนั้นรวยมาก ที่ดินแถวนี้ซื้อขายไร่ละประมาณสองล้านบาท แต่ที่ดินของเธอมันมีต้นองุ่นที่พร้อมจะเก็บเกี่ยวอยู่.. หากว่านี่คือการหยั่งเชิงหรือว่าการทดสอบเธอแล้วละก็ แม้แต่ก้าวเดียวเธอก็จะไม่มีวันเดินพลาดเลย “ไร่ละสี่ล้านค่ะ” เตลองซ์ยกมือขึ้นมาลูบคางเบาๆ “ลิสา บางทีเธออาจจะต้องศึกษาเรื่องราคาที่ดินมาใหม่นะ” อลิสายกยิ้ม เธอส่งยิ้มที่เจิดจ้าราวกับดวงตะวันให้เขา มันไม่ใช่รอยยิ้มของผู้ที่เดือดร้อนหรือว่ากำลังมาขอความช่วยเหลือจากเขาเลยสักนิด “เอ๋..ที่ดินแถวนี้ไม่ใช่ไร่ละสี่ล้านหรอกเหรอคะ พอดีว่าลิสาได้พูดคุยเรื่องการขายที่ดินกับพี่จองชัย พี่เขาบอกกับลิสาว่าหากจะขายที่ดินไร่เจริญรุ่งพร้อมจะรับซื้อไม่อั้นเลยในราคาไร่ละสี่ล้าน เพียงแต่ที่ดินที่ติดกับไร่เจริญรุ่งคนสวนพึ่งจะไถต้นแม่พันธุ์องุ่นออกไปเพื่อลงปลูกต้นกล้าใหม่ ลิสาก็เลยคิดว่าไม่อยากจะขายตรงนั้น แต่ถ้าการขายที่ดินตรงส่วนนี้ทางไร่พูนสุขไม่ยอมซื้อ เห็นทีว่าลิสาจะต้องไปขายที่ดินตรงที่พึ่งไถไปให้ไร่เจริญรุ่งแล้วล่ะคะ” พูดออกไปแบบนี้แล้ว ไม่ซื้อก็ให้มันรู้ไปสิ.. เตลองซ์หัวเราะออกมาเสียงดัง เขาลุกขึ้นก่อนจะย้ายไปนั่งข้างๆ อลิสาแทน ยัยเด็กนี่ไม่ได้โง่..ห่างไกลจากคำว่าไร้เดียงสามากทีเดียว แถมยังเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก เธอจะเอาเวลาที่ไหนไปพูดคุยกับไอ้จองชัยกันเพราะว่าเมื่อวานเธอแทบจะอยู่กับเขาตลอด “ลิสา..สี่ล้านมันแพงไปนะครับ” ปลายนิ้วของเขากำลังไล้ไปบนริมฝีปากของเธออย่างเชื่องช้า แต่ทว่ามันกลับสร้างความร้อนให้ร่างกายของเธออย่างน่าประหลาด “สามล้านเก้าก็ได้ค่ะ..” เขามองสบตาเธอ ดวงตาของเตลองซ์กำลังจ้องมองไปที่ดวงตาสั่นไหวของอลิสาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดละ “เอาอย่างนี้ พี่รู้ว่าเราไม่ได้อยากขายที่ดินของไร่อุดมรัก ลิสาต้องการเงินเท่าไหร่มายืมพี่ไปก่อน” อลิสารีบส่ายหน้าในทันที “ลิสาไม่อยากสร้างภาระเพิ่มค่ะ ต้องเอาเงินส่วนหนึ่งไปตัดหนี้ธนาคารที่ค้างเอาไว้ หนูไม่อยากเอาหนี้ไปตัดหนี้เพราะมันเท่ากับว่าจะต้องมาติดหนี้ใหม่อยู่ดี แถมยังต้องจ่ายดอกเบี้ยให้พี่..” เขายกมือขึ้นมาแตะบนริมฝีปากของเธอในทันทีเพื่อให้เธอหยุดพูด “มันมีวิธีง่ายๆ มากกว่านั้นอีกนะ วิธีนี้จะช่วยให้ไร่อุดมทรัพย์ฟื้นตัวกลับมาได้ไวมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้หนูสามารถใช้เงินของพี่ได้ไม่จำกัดด้วย...” คราวนี้เป็นอลิสาที่ยกมือขึ้นมาปิดปากเขาเอาไว้ “หนูไม่อยากมานั่งร้องไห้เพราะว่าสามีไปมีเมียน้อยหรอกนะคะ เพราะแบบนั้นหนูไม่มีทางแต่งงานกับพี่หรอก” เตลองซ์ถึงกับชะงักกับคำพูดของอลิสา “นี่พี่ดูเป็นคนเจ้าชู้ขนาดนั้นเลยเหรอ? ทั้งที่พี่จริงจังมากเลยนะ” อลิสาถอนหายใจ “หนูว่าเรากำลังหลงประเด็นสรุปว่าพี่จะซื้อที่ดินของหนูไหมคะ หากว่าไม่หนูจะได้ไปที่ไร่เจริญรุ่งแทน” เตลองซ์ดึงอลิสาเข้ามากอด เขาอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตักก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มเธอแรงๆ “คิดว่าจะได้ออกไปจากที่นี่ง่ายๆ งั้นเหรอลิสา..”อลิสากำมือแน่นเมื่อเธอได้ยินคำกล่าวนั้นของพี่เตลองซ์ รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขามันไม่น่าไว้ใจเอาซะเลย“ลิสาต้องทำงานนะคะ..คงจะไม่สามารถมาอยู่กับพี่ทั้งวันได้หรอก”เขามิได้กล่าวคำใด ดวงตาคมเข้มของเตลองซ์จ้องมองที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ หลังจากนั้นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ รู้สึกตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงโดยอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสหวานของจุมพิตร่างกายของอลิสาสั่นเทิ้มเบาๆ อย่างไม่คิดยินยอมเมื่อเขาทาบทับริมฝีปากลงมา แต่ทว่ามือของเขากลับจับมือของเธอเอาไว้ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย ส่วนมืออีกข้างก็กำลังใส่เฝือกอยู่ถึงแม้ว่าจะโน้มตัวไปด้านหลังก็ไม่สามารถหลบหนีจากจุมพิตของเขาได้เพราะว่าหลังของเธอมันชนกับพนักพิงโซฟาแล้ว“อื้อ!”เธอส่งเสียงร้องครางในลำคออย่างไม่คิดยินยอม แต่ทว่าเกลียวลิ้นของเขาก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน โพรงปากอ่อนนุ่มเสียดสีกันอย่างหนักหน่วง ริมฝีปากของเขากำลังไล่ตามเพื่อช่วงชิงลมหายใจของเธอครั้งแล้วครั้งเล่ามันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย ครั้งนี้กับครั้งที่แล้ว..อาจจะเป็นเพราะว่าครั้งนี้เธอมีสติครบถ้วนทุกอย่าง แถมนี่ยังเป็นตอนกลางวันที่ทุกอย่างชัดเจนไปหมด
ฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนไปที่สีข้าง เอว จนถึงหว่างขาเขากดแทรกก้านนิ้วเข้าไปในร่องแคบที่ชื้นแฉะ ทุกครั้งที่ขยับปลายนิ้วเบาๆ ก็จะมีเสียงเฉอะแฉะดังออกมาอย่างน่าอายอลิสาใช้มือของตัวเองมาปิดหน้าเอาไว้ด้วยความขวยเขิน เธอขบเม้มริมฝีปากจนห้อเลือดเพราะไม่ต้องการส่งเสียงร้องครางออกมา“ทำไมล่ะ ทั้งๆ ที่พี่อยากได้ยินเสียงครางของลิสามากแท้ๆ ไม่ต้องอายหรอก”เขาจับมือของเธอที่กำลังปิดบังหน้าตัวเองให้มันมากอบกุมแท่งกายของเขาอลิสาช้อนสายตามองหน้าเขา“เราไม่ได้พึ่งทำเป็นครั้งแรกสักหน่อย หรือหากว่าอายอยากให้พี่ป้อนเหล้าให้อีกไหม..”น่าแปลก..ที่วันนี้เธอไม่นึกอยากเมาเลย เพราะการมองหน้าเขาโดยที่ยังมีสติครบถ้วนแบบนี้มันทำให้เธอเผลอลืมเลือนทุกสิ่งทุกอย่างหมดสิ้นทั้งเสียงกระซิบที่เย้ายวนหรือปลายลิ้นที่ลากไล้อย่างเน้นย้ำก็ล้วนกระตุ้นความต้องการของเธออย่างร้ายกาจมือของเขากำลังจับมือเธอเพื่อนำพาให้เธอขยับปลายนิ้วรูดรั้งความเป็นชายของเขาขึ้นลงตามจังหวะอลิสารู้สึกเหมือนกันว่ามือของเธอมันเริ่มเปียกชื้นและพอมองดูดีๆ เธอก็พบว่าตรงส่วนหัวบวมแดงมันมีน้ำสีใสไหลย้อยออกมาสะ
เตลองซ์โทรกลับไปหาส้มแป้นเพื่อขอดูบัญชีทั้งหมดของไร่อุดมรัก ใช้เวลาไม่นานส้มแป้นก็ใช้ให้คนงานในไร่อุดมรักเอาเอกสารมากมายมาให้เขาถึงที่นี่อลิสายังคงนอนหลับอยู่ ท่าทางว่าเธอจะเหนื่อยมากจริงๆ เพราะนี่ก็ใกล้จะห้าโมงแล้วเธอจะไม่ตื่นขึ้นมาเลยเขายังคงตรวจดูบัญชีที่มียอดติดลบมาตั้งแต่ปีที่แล้วของไร่อุดมรักด้วยแววตาเรียบเฉยโลกพัฒนาไปทุกวัน ไม่ว่าจะธุรกิจใดก็ตามหากว่าไม่ปรับเปลี่ยนแนวคิดการตลาดในทันโลก ย่อมไม่สามารถยืนอยู่ในตลาดได้หรอกส้มแป้นเป็นคนของไร่พูนสุข ปู่ของเขาส่งคนไปทำงานที่นั่นตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้วเพื่อคอยช่วยเหลือคุณยายอุดมที่ไม่มีใครในเวลานั้นปู่คอยให้ความช่วยเหลือไร่อุดมรักลับๆ มาโดยตลอด ไม่อย่างนั้นที่นั่นคงจะไม่สามารถประคับประคองตัวเองมาได้จนถึงทุกวันนี้และเรื่องไหทองคำอะไรนั่น มันคือแผนการของปู่ที่อยากให้หลานสาวเพียงคนเดียวของคุณอุดมกลับมาที่นี่เพื่อแต่งงานกับเขาเตลองซ์นับถือความรักที่มั่นคงและยาวนานของปู่นะ แต่เขาก็สงสารคุณย่าไปในเวลาเดียวกัน เพราะแบบนั้นย่าถึงได้หย่ากับปู่แล้วไปอยู่ที่อื่น เพราะว่าปู่ไม่ได้รักย่าเลยในสมัยก่อนแต่งงานกันตามที่พ่อและแม่เห็นชอบ คนเป็นลูก
เมื่ออลิสาเดินมาทางถึงที่บ้าน เธอก็ตรงเข้าห้องนอนในทันที ตอนนี้ในไร่ไม่มีใครที่น่าไว้ใจสักคนรวมไปถึงพี่ส้มแป้นด้วยเพราะการจะเข้าถึงบัญชีรายรับรายจ่ายของไร่จะต้องเป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวเธอพอสมควรอลิสากดโทรศัพท์เพื่อโทรหาพี่ที่เธอสนิท“ว่าไงยัยลิสา”“พี่ไคโรคะ ลิสามีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือค่ะ”พี่ไคโรเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย เธอสนิทกับพี่ไคโรเพราะว่าพี่เขาบ้าดูดวงเหมือนสกาย แต่เธอไม่ได้บ้าถึงขนาดนั้นนะ กับพี่ไคโรจะใช้คำว่าบ้าดูดวงก็คงไม่ได้เพราะว่าพี่เขาคลั่งดูดวงมาก มันเลยขั้นของคำว่าบ้าไปไกลเลย“ว่ามาสิ”“ลิสาขอยืมเงินหน่อยค่ะ”ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมให้ไร่พูนสุขและพี่เตลองซ์มาถือไพ่เหนือกว่าเธออีกแล้วเธอจะทำให้พวกเขารู้ว่า ต่อให้ไม่มีพูนสุข อุดมรักก็สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง!!วันรุ่งขึ้นพี่ไคโรก็ขับรถมาที่ไร่ของเธอพร้อมกับ..ซินแส“ที่ตรงนี้ดีมากเลยครับ เป็นเนินที่สายลมแห่งทรัพย์พัดผ่านมา ไม่ว่าจะลงทุนทำอะไรก็แล้วแต่ มีแต่จะงอกงามไม่มีหด”ไคโรพยักหน้าเพื่อเป็นการรับรู้ เขาให้ซินแสกลับไปก่อนเพื่อดูฤกษ์งามยามดีในการสร้างโรงแรม..“เรื่องไร่องุ่นพี่ว่ามันต่อยอดได้เยอะมาก เราเองก็เรียนม
สายตาของอลิสานั้นไล่มองไปตามกิ่งก้านที่แผ่ออกอย่างสวยงามราวกับว่านี่คืองานศิลปะบนใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ มุมปากปรากฏรอยยิ้มออกมาอย่างน่ามอง“หวังว่าปีหน้าลิสาจะได้ชิมองุ่นอร่อยๆ ของเจ้าร้อยปีบ้างนะคะ”“แน่นอนสิ ลิสาจะต้องได้ชิมและได้มาเก็บด้วยตัวเองเลย ว่าแต่ในมือของเรามันคืออะไรกัน?”อ่า..เธอมัวแต่ชื่นชมเจ้าต้นองุ่นร้อยปีจนลืมเป้าหมายในการมาที่นี่ไปซะสนิทเลย อลิสายื่นเอกสารในมือให้กับพี่จองชัย“ลิสาคิดว่าจะแบ่งขายที่ดินค่ะ”จองชัยยกมือขึ้นมาลูบผมของเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู“เป็นเจ้าของไร่ เหนื่อยมากเลยใช่ไหม มาสิ มาบอกรายละเอียดให้พี่ฟังหน่อยว่าเรายังขาดเงินอีกเท่าไหร่?”จะกี่ครั้งความอ่อนโยนของพี่จองชัยก็ทำให้เธอรู้สึกดีได้เสมอเลย อลิสาอธิบายคร่าๆ ว่าเธอจะขายตรงไหนบ้างและกี่ไร่“ลิสากำลังจะทำโรงแรมค่ะ เพราะแบบนั้นก็เลยต้องการเงินทุนสักก้อนในการลงทุนกับพี่ที่รู้จักกัน”จองชัยพยักหน้าด้วยความเข้าใจ“แสดงว่าเราต้องการเงินประมาณสามสิบล้าน ลงทุนทำโรงแรมยี่สิบล้านส่วนอีกสิบล้านเอามาหมุนเวียนในสวนและทำโรงบ่มไวน์?”อลิสาหยักหน้าเร็วๆ“ใช่เลยค่ะ แบบนั้นเลย”“ถ้าเป็นอย่างนั้นลิสาไม่ต้อง
สองมือสั่นระริกยกมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา เมื่อเธอมองเห็นหน้าของเจ้าของเสียงนั่น ลิสาก็รีบหันหน้าหนีและเช็ดน้ำตาในทันทีแต่ทว่าเขากลับไวกว่า เตลองซ์อุ้มอลิสาขึ้นมาจากพื้นหญ้าเขาเปิดประตูรถก่อนจะโยนเธอเข้าไปในนั้น“ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะ”เมื่อเขากำลังจะปิดประตูรถเธอก็รีบเอามือมาดันไว้“ไม่พาไปขายหรอกน่า..”เรื่องนั้นเธอรู้ แถมยังรู้อีกต่างหากว่าเธอหลบหนีเขาไม่ได้“ช่วยเอาจักรยาน..ขึ้นรถไปด้วยได้ไหมคะ”เธอพึ่งจะทำซาเล้งพัง อลิสายังไม่อยากทำจักรยานหายไปอีกคัน และเมื่อพูดจบอลิสาก็ก้มหน้าลงเช็ดน้ำตาตัวเองอีกครั้ง“รู้แล้ว นั่งดีๆ”เขาปิดประตูรถก่อนจะยกจักรยานเธอขึ้นเอาไว้ท้ายรถ เขาตามหาเธอซะทั่วเลย..เพราะส้มแป้นบอกว่าอลิสากำลังไปที่ไร่เจริญรุ่งเพื่อไปหาจองชัย แต่พอเขาไปที่ไร่เจริญรุ่งจองชัยก็ทำหน้าหงอยๆ พร้อมกับบอกว่าอลิสาออกมาแล้ว พอเขาโทรเช็คที่ส้มแป้นก็พบว่าเธอยังไม่กลับไปที่ไร่ เขาก็เลยขับรถตามหาเธอไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่นี่เมื่อเขารู้ว่าเธอไปหาจองชัย ภายในใจของเขาก็ปั่นป่วนแบบไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ทว่าพอเขามองเห็นไหล่ของเธอที่มันกำลังสั่นไหวจากการร้องไห้..มันเหมือนกับมีเข็มที
ไฉไลกำลังมองถังใส่ปลามากมายที่วางเรียงรายอยู่ท้ายไร่ เธอพึ่งกลับมาจากโรงเรียนและพ่อใช้ให้เธอมาช่วยทำกับข้าว..ต้นยำปลา ปลาเผา เมี่ยงปลาเผา หมกปลา..สารพัดเมนูที่ทำจากปลากำลังถูกรังสรรค์ด้วยฝีมือของคนงานทั้งสองไร่“ไฉไล..เธอลืมเอาหนังสือกลับมา”ใบหน้าของเด็กสาวขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อเมื่อเธอเห็นออสการ์เดินมาทางนี้ เราเรียนโรงเรียนเดียวกันก็จริง แต่เขาเรียนห้องอีพีซึ่งเป็นห้องพิเศษที่ต้องจ่ายค่าเทอมแพงกว่าห้องที่เธอเรียนหลายเท่าตัว เพราะอย่างนั้นถึงเราจะเรียนที่โรงเรียนเดียวกันแต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะได้เห็นหน้าเขาบ่อยๆ“ขอบคุณนะออสการ์”“ไม่เป็นไร เราไปเปลี่ยนชุดก่อนจะ เดี๋ยวจะลงมาช่วยทำอาหารไม่รู้ว่าเฮียนึกยังไงถึงได้เหมาปลามาเลี้ยงแบบนี้”“นั่นสิ เราก็จะไปเปลี่ยนเสื้อเหมือนกัน เดี๋ยวมาเจอกันนะ”เธอโบกมือลาเขา โดยที่หัวใจของเธอมันลอยตามเขาไปไม่หยุดหย่อนเลย..ไอ้ใจไม่รักดีเอ้ย!! ทำไมยอมตามเขาไปง่ายขนาดนั้นกัน..ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เธอแอบชอบเขา รู้สึกตัวอีกทีสายตาของเธอมันก็หยุดอยู่ที่เขาแล้ว“ไฉไล รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ เดี๋ยวเสื้อนักเรียนก็เลอะหมดหรอก”“ค่ะแม่ เดี๋ยวหนูมานะคะ”ไฉไลเดินกลับบ้า
หลังจากนั้นคนงานของไร่ทั้งสองก็เริ่มลงมือทานอาหารเย็นด้วยกัน มีการก่อกองไฟเพื่อเผาปลาและมีเหล้ามากมายหลากหลายชนิดวางเรียงรายเอาไว้ให้เลือกสรรอลิสาเลือกที่จะไม่แตะต้องของมึนเมาพวกนั้นเลย เพราะว่าเธอยังขยาดไม่หาย หลังจากที่ดื่มอย่างหนักหนาสาหัสในวันนั้นกับสกายและ..พี่เต“วันนี้ไม่ดื่มงั้นเหรอ หรือว่าอยากให้ป้อนอีก”“พี่ต้องขับรถกลับไม่ใช่เหรอคะ ห้ามดื่มนะคะ”เตลองซ์หัวเราะออกมาเสียงดัง“อย่าลืมสิว่าบ้านของพี่อยู่แค่ตรงนี้เอง พี่เดินไปไม่กี่สิบก้าวก็ถึงแล้วจอดรถเอาไว้ที่นี่ก็ได้..อยากกลับแล้วงั้นเหรอ”อลิสาพยักหน้าเบาๆ“กลับไปที่บ้านพี่ใช่ไหม..ไปอยู่กับพี่เถอะนะ ขอแค่วันนี้ก็ได้พรุ่งนี้พี่จะยอมให้ลิสานอนที่บ้านกับยายวันหนึ่ง..”“ทำไมคะ ทำไมต้องเป็นวันนี้?”“เพราะพี่มีเรื่องอีกเยอะที่จะพูดกับลิสา พี่รู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นเราร้องไห้..อยากจะกอดปลอบและจูบแรงๆ สักที”เธอกำลังคาดหวังอะไรจากคนคนนี้กันนะ..“งั้นเดี๋ยวลิสาไปบอกพี่ส้มแป้นก่อนนะคะ”เตลองซ์พยักหน้าแต่เขากลับจับมือของเธอเอาไว้ แล้วลุกเดินไปหาส้มแป้นพร้อมๆ กันกับเธอ อลิสาได้แต่กลอกตามองบน“วันนี้ลิสาจะไปค้างกับผมครับ ฝากดูแลยายอุดมแทน
“พูดก็พูดเถอะ เรื่องของแกมันเหมือนกับในละครหลังข่าวเลยวะลิสา”สกายพูดพร้อมกับหมุนตัวของลิสาเบาๆ เพราะตรวจดูความเรียบร้อย วันนี้เพื่อนของเธอสวยมากกว่าทุกวันเลยอลิสาอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ที่กระโปรงยาวฟูฟ่อง ที่บนเรือนผมสวมมงกุฎดอกไม้เอาไว้ ส่วนที่มือก็ถือช่อดอกไม้เล็กๆ ไว้ด้วย“นั่นสินะ บางทีเราก็คิดนะว่าเหมือนเราเกิดมาเพื่อแต่งงานกับพี่เตเลย..”โรงแรมของเธอสร้างเสร็จก่อนปีใหม่สองเดือน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเพจของโรงแรมเปิดตัวก็มียอดจองเข้าพักยาวจนถึงปีหน้าเลย อาจจะเพราะผู้คนโหยหาธรรมชาติ อีกทั้งพี่ไคโรยังมีความสามารถในการสร้างโรงแรมของเราออกมาได้เหมือนกับอยู่ที่อิตาลีจริงๆ เลยเรื่องนั้นต้องยกความดีความชอบให้เขา และเรื่องฤกษ์แต่งงานก็เป็นพี่ไคโรเหมือนเดิมที่หาวันที่ดีที่สุดแบบที่เร็วที่สุดตามความต้องการของพี่เตลองซ์ได้“พรหมลิขิตสุดๆ ไปเลย”สกายพูดพร้อมกับจับมือของอลิสาเอาไว้“ขอให้แกมีความสุขมากๆ นะ”ส่วนอีกด้านเป็นพี่อาร์มที่เข้าไปแสดงความยินดีกับเตลองซ์“ให้ตายเหอะ นี่อย่าบอกนะว่าได้แต่งงานกันเพราะกู เหลือเชื่อจริงๆ เลย”เตลองซ์หัวเราะ เขาตบไหล่ของอาร์มเบาๆ“แต่งงานกันเพราะกู
ร่างกายของเรากอดก่ายกันอย่างแนบชิดกระทั่งไม่มีช่องว่างของอากาศแทรกผ่าน ฝ่ามือของเขาบีบเคล้นความนุ่มนิ่มทั้งสองข้างที่ชวนให้หลงใหลจนมันปริออกมาตามง่ามนิ้ว ปลายยอดสั่นระริกถูกเคล้นคลึงจากฝ่ามือของเขา สลับกับการใช้ปลายนิ้วบี้ลงไป.. “อา..” ช่องทางด้านล่างร้อนผ่าวเต้นตุบๆ ดูเหมือนจะยั่วเย้าปลายนิ้วที่กำลังสอดลึกเข้าไปด้านใน ชั่วพริบตาเมื่อถูกปลุกเร้าทั้งด้านบนด้านล่างพร้อมๆ กัน ร่างกายของเธอก็สั่นกระตุกเบาๆ พร้อมกับเสียงร้องครางที่ดังสนั่น “ชอบให้ใช้นิ้วขนาดนั้นเลยเหรอ หรือว่า..คิดถึงพี่จนทนไม่ไหว” เขาหมุนตัวเพื่อให้เธอหันหน้ามามองเขา เตลองซ์รูดรั้งแก่นกายขึ้นลงเบาๆ ก่อนจะกดสะโพกของอลิสาลงไป.. “อะ..อึ่ก” เขาไม่ยินยอมให้เธอได้พักแม้เพียงเสี้ยวนาที ฝ่ามือหนาใหญ่กำลังลูบไล้ไปตามสีข้าง ส่วนใบหน้าของเขาก็ฝังลงไปบนเนินเนื้อนุ่มนิ่มก่อนจะออกแรงดูดดึงมันเบาๆ ความตื่นตัวร้อนผ่าวเบียดแทรกเข้ามาช้าๆ แล้วฝังลึกเข้ามาในกายเรื่อยๆ จนสุดท้าย ร่างกายกำลังถูกเติมเต็มอีกครั้งหลังจากที่เธอพึ่งจะเสร็จสมไป ความรู้สึกต่างๆ ยิ่งไวต่อสัมผัสมากกว่าครั้งไหนๆ อลิสาบดเบียดสะโพกลงไปยังแท่งร้อนเผาก่อ
อลิสามองแผ่นหลังของพี่จองชัยและคุณเบลินดาที่เดินเคียงข้างกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มหวังว่าคำพูดของเธอมันจะสามารถสะเทือนกำแพงในใจของพี่จองชัยได้ไม่มากก็น้อยทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายเพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนผิด ถ้ายอมหันหน้ามาคุยกันตั้งนานก็คงไม่ต้องทะเลาะกันยาวนานมากขนาดนี้“กลับบ้านกันเถอะครับ พี่ง่วงแล้ว”“ที่นี่บ้านลิสาค่ะ จะกลับไปไหนได้อีก”เตลองซ์หน้ามุ่ย“งั้นขึ้นห้องกันเถอะครับ..เมียจ๋า ไม่ว่าจะยังไงคืนนี้พี่ไม่ยอมนอนคนเดียวแน่นอน พี่นอนคนเดียวมาหลายคืนแล้วนะ เมื่อวานลิสาก็อ้างว่าติดงาน เดี๋ยวนี้ติดงานมากกว่าพี่อีกเหรอครับ”จะว่าไป..เธอไม่ได้ไปอยู่กับเขานานแล้วเหมือนกัน“ก็ได้ค่ะ รอก่อนนะคะ เดี๋ยวลิสาช่วยไฉไลเก็บจานก่อน”“ได้เลยครับ เพื่อเมียนานแค่ไหนก็รอ”อลิสาหันหน้ามาหาเตลองซ์ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาหาเขาแล้วหอมแก้มเขาเบาๆ“ไปนั่งรอตรงนั้นเลยค่ะ”เธอชี้ไปที่เก้าอี้เพื่อให้เขาไปนั่งรอดีกว่ามายืนรอแบบนี้ เตลองซ์ยกมือขึ้นมาถูแก้มเบาๆ ตรงที่ลิสาพึ่งจะจุมพิตไปเมื่อครู่ ใบหน้าของเขาในตอนนี้คงกำลังยิ้มอยู่สินะ เขารู้สึกร้อนไปทั่วทั้งหน้าเลยอลิสาไม่ได้
จองชัยจับมือของเบลินดาเอาไว้“วันนี้พอเท่านี้เถอะครับ เรากลับกันเถอะ”เมื่อจองชัยพูดจบเขาก็จูงมือของเบลินดาออกไปจากที่นี่“ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นตัวต้นเรื่องแท้ๆ มาทำท่าเหมือนรู้สึกผิดงั้นเหรอไอ้จอง ทุเรศฉิบหายเลยว่ะ”จองชัยหันหลังกลับมามองหน้าของเตลองซ์“เออ กูมันทุเรศ แล้วยังไงล่ะ? หากว่ามึงมั่นใจในความรักของมึงทำไมจะต้องกลัว..”เตลองซ์ทำท่าจะถลาเข้าไปหาจองชัยแต่อลิสาเอาตัวเข้ามาขวางไว้ เธอมองหน้าเตลองซ์ด้วยสายตาโกรธเคืองเล็กน้อย“ไปขอโทษคุณเบลินดาแบบตั้งใจมากกว่านี้ค่ะ”อลิสาชี้นิ้วไปที่คุณเบลินดาเพื่อให้เตลองซ์ไปขอโทษเธอ ทว่าเตลองซ์กลับขมวดคิ้วมองหน้าของอลิสา“ลิสา..นี่พี่เป็นคนผิดงั้นเหรอ?”“หากถามลิสาก็ผิดทั้งคู่นั้นแหละ เพราะอย่างนั้นพี่เตไปขอโทษของลินดา หลังจากนั้นคุณลินดาก็ขอโทษพี่เตนะคะ ไม่เหนื่อยงั้นเหรอ โกรธแค้นกันมาเป็นสิบๆ ปีแบบนี้ ให้มันพอแค่นี้และหลังจากนี้ไปก็สนใจแค่ความสุขของตัวเองเถอะค่ะ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องการแก้แค้นหรือว่าอะไรแล้ว..นับจากนี้ไปใครมีความสุขมากกว่าคนนั้นชนะค่ะ”เตลองซ์เม้มปากเล็กน้อย เขาเดินเข้าไปหาเบลินดาที่กำลังทำท่าจะร้องไห้ออกมา“ผม..ขอโทษครับ หวังว่
เบลินดากำมือแน่นเมื่อเธอมองเห็นคุณปู่สุขมองหน้าของอลิสา สายตาเอ็นดูแบบนั้นในตอนที่เธอเป็นแฟนกับเตลองซ์ เธอไม่เคยได้รับมันเลยสักครั้งเดียว“ผมได้ข่าวมาว่าหุ้นส่วนอีกคนเป็นคนที่อลิสาแอบชอบมาตั้งแต่สมัยมหาลัย..แต่เธอไม่เคยบอกกล่าวความในใจออกไปเลย”เบลินดาส่งเสียงร้องเหอะออกมา“พึ่งรู้ว่านายเองก็มีประโยชน์เหมือนกันนะจองชัย อย่าบอกนะว่าที่นายทุ่มเทช่วยพี่ทำลายเต เพราะว่านายชอบอลิสา?”ความรู้สึกในใจมันขุ่นมัวไปหมดจนไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจนหรือเต็มปากได้ ว่าตกลงแล้วเขารู้สึกอย่างไรกับอลิสากันแน่รักเธอ หรือว่าต้องการเธอมาเพื่อจะให้คุณตาภูมิใจในตัวเขา“แต่นายจะรู้สึกยังไงมันไม่สำคัญหรอกนะจองชัย เพราะว่าพี่จะทำลายความรักครั้งนี้ของเตลองซ์เอง จะทำทุกทางเพื่อไม่ให้หมอนั่นมีความสุขกับคนรักเหมือนกับที่มันทำกับพี่”อลิสาเดินไปดูปลาก็พบว่ามันถูกเผาจนได้ที่แล้ว เธอใช้กรรไกรตัดหนังออกเบาๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทานแล้วใช้ให้คนยกปลาเผาไปให้คุณตาและคุณยายที่อยู่บนบ้าน“น่าทานสุดๆ เลยพี่ลิสา พี่ทำกับข้าวเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”ไฉไลพูดพร้อมกับทำจมูกขยับไปมาเพื่อสุดดมกลิ่นปลาเผาที่หอมฟุ้งไปทั่วไร่“ไม่ขนาด
สายลมในยามเย็นพัดผ่านใบหน้าของคุณยายอุดมไป คุณยายหันไปมองหน้าของคนที่คุณยายรักจนสุดหัวใจครั้งหนึ่งเราเคยจะหนีตามกันไป หนีไปจากที่นี่เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตในฐานะของคนรักแต่ทว่าที่บ้านของคุณยายไม่มีใครอีกแล้ว หากว่าคุณยายหนีไปคุณแม่ของคุณยายก็จะต้องอยู่คนเดียวเพราะอย่างนั้นคุณยายจำต้องกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงคอเพื่อแต่งงานกับคุณตาเสริมส่วนคุณปู่สุขก็ต้องกลับไปแต่งงานกับคนที่ทางครอบครัวบอกว่าดี..ย่ารตีเป็นผู้หญิงที่ดีสำหรับครอบครัวของคุณปู่สุข แต่ไม่ได้ดีสำหรับคุณปู่เลยเมื่อคลอดลูกคนแรกเราก็หย่ากันในทัน หลังจากนั้นคุณปู่ก็เลี้ยงลูกมาโดยลำพังและพอมีเตลองซ์ ปู่ก็อยู่กับเตลองซ์สองคนเพราะเจ้าลูกชายตัวดีไปอยู่กับแม่ของมันส่วนคุณยายอุดม ลูกสาวของยายคลอดอลิสาทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะหนีไปกับผู้ชาย หลังจากนั้นอีกสิบปีคุณตาก็เสียชีวิตคุณยายไม่โกรธเคืองลูกสาวเลย เพราะว่าอลิสาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของคุณยาย เด็กน้อยที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าราวกับแสงของดวงตะวันเหมือนกับว่าหน้าที่สุดท้ายของคุณปู่สุขและคุณยายอุดมคือการส่งหลานให้ถึงฝั่งฝัน..“ได้สิ หากว่าพี่ต้องการให้ฉันไปอยู่ด้วย ฉันก็จะไปอยู่กับพี่..จะไปสร้างภา
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อนเลยสินะ..แต่ปัญหาของพี่เตลองซ์กับคุณเบลินดามันดูเหมือนจะร้ายแรงมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ซะอีกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนรักกันเหมือนที่เธอได้คาดเดาไปก่อนหน้า แต่ว่าเป็นคู่แค้นกันมากกว่า“แต่เมื่อปีที่แล้วพี่ได้ยินมาว่าลินดาไปอยู่ต่างประเทศ แล้วทำไมยัยนั่นถึงกลับมากันนะ แถมมาร่วมหุ้นทำโรงแรมกับลิสาอีก บอกตามตรงว่าพี่เป็นห่วงมากๆ เลย”อลิสาล้มตัวนอนลงไปบนพื้นหญ้า เธอมองท้องฟ้าสีครามที่อยู่ด้านบนก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง“มีคำกล่าวจากหนังสือว่า ในการทำอะไรสักอย่างหากทางไหนที่เดินไปแล้วไม่เจออุปสรรคแสดงว่ามาผิดทาง เพราะแบบนั้นลิสาไม่กลัวหรอกค่ะ ไม่กลัวทั้งปัญหาเรื่องการทำโรงแรม และไม่กลัวว่าความสัมพันธ์ของลิสากับพี่เตจะมีปัญหาด้วย..อย่ากลัวไปเลยค่ะ เห็นแบบนี้ลิสามั่นคงมากกว่าที่พี่คิดอีกนะคะ”เตลองซ์ยกมือขึ้นมาเพื่อปังแดดที่กำลังส่องมาที่ใบหน้าของลิสา รอยยิ้มของเธอวันนี้มันช่างสวยงามเหมือนกับดอกทานตะวันที่กำลังผลิบานเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการมีคนรัก มันจะดีแบบนี้..“นั่นสินะ ไม่ว่าลิสาจะมีปัญหาอะไรพี่จะปกป้องลิสาเอง”เตลองจุมพิตลงไปบนหน้า
หลังจากที่คุณจอมทัพและคุณเบลินดา กลับไปแล้วก็เหลือแค่พี่ไคโรที่กำลังทำหน้าหมดอาลัยตายอยากอยู่“นี่พี่..ทำให้แกลำบากรึเปล่า ขอโทษด้วยนะครับคุณเต”อลิสาเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองสบตากับคนรักของเธอ เราทั้งสองต่างมีสภาพไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เรื่องในอดีตกำลังถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันที่ได้ตั้งตัว แต่ทว่ามือของเราสองคนกลับกอบกุมกันเอาไว้ไม่ปล่อยเลยตอนนี้เธออยากจะพูดคุยกับพี่เตลองซ์เป็นการส่วนตัวและลิสาเองก็คิดว่าเขาน่าจะอยากคุยกับเธอมากๆ เหมือนกัน“ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะพี่ไคโร ลิสาไม่ใช่เด็กแล้วนะที่จะก้าวผ่านเรื่องในอดีตไปไม่ได้ พี่ไม่ต้องคิดมากนะคะ ได้ฤกษ์งามยามดีเมื่อไหร่ก็ลงเสาเข็มก่อสร้างได้เลย”ไคโรขยี้มือลงไปบนผมของลิสาเบาๆ แต่ทว่าที่ด้านหลังของลิสากลับมีสายตาที่ไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่มองมา เขารีบยกมือขึ้นมาจากศีรษะของเธอในทันทีเขาเอ็นดูลิสาและมองว่ายัยเด็กนี่เหมือนน้องสาว แต่จากนี้ท่าทางว่าเขาจะต้องรักษาระยะห่างให้ดีซะแล้ว“ไว้เจอกันวันก่อสร้างนะ ช่วงนี้พี่อาจจะมาที่นี่บ่อยๆ เพราะว่าต้องมาคุมการก่อสร้างทั้งหมด”“เข้าใจแล้วค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะพี่”ไคโรพยักหน้าให้ลิสา เขามองหน้าของคุณเตลองซ์ก
เมื่อเราเดินทางมาถึงที่ไร่อุดมรัก อลิสาก็มองเห็นรถยนต์ยุโรปสามคันที่จอดอยู่หน้าไร่ของเธอเตลองซ์จอดรถมอเตอร์ไซค์ของเขาเอาไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาจับมือของอลิสาเอาไว้ พร้อมกับพาเธอเดินไปหาผู้ชายที่กำลังเดินมาหาเราเช่นกัน“สวัสดีค่ะพี่ไคโร นี่พี่เตแฟนหนูเองค่ะ”อลิสาช้อนสายตาพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเธอแนะนำให้พี่ไคโรรู้จักกับพี่เตลองซ์“อ่า..นี่พามาแนะนำหรือว่าพามาอวด”อลิสาหัวเราะเบาๆ“มาอวด เอ้ย..มาแนะนำค่ะ เพราะว่าในบางทีพี่เตอาจจะมาช่วยงานลิสาด้วย เลยอยากจะพามาแนะนำให้รู้จักกันไว้”ไคโรมองหน้าเตลองซ์ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้กับแฟนของเด็กที่นับถือกันเป็นน้องสาว“ผมไคโรครับ ยินดีอย่างยิ่งที่เด็กซนๆ แบบลิสามีแฟนกับเขาสักที และผมอยากจะแนะนำหุ้นส่วนคนอื่นให้รู้จัก..นี่พี่จอมทัพครับ”รอยยิ้มของอลิสาค่อยๆ จางหายไปจากใบหน้า เธอหุบยิ้มในทันทีพร้อมกับความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นที่ซัดสาดไม่หยุดใบหน้าที่เธอเฝ้ามองมาตลอดระยะเวลาเกือบสิบปี ดวงตาของเขาตกใจเล็กน้อยเมื่อมองเห็นเธอ แต่แล้วจากดวงตาที่ตกใจก็กลับกลายเป็นดวงตาที่แสนยินดี“ลิสา..บังเอิญจังเลยนะ”ความรู้สึกหนักอึ้งกระจายตัวออกมา