เมื่อเราเดินทางมาถึงที่ไร่อุดมรัก อลิสาก็มองเห็นรถยนต์ยุโรปสามคันที่จอดอยู่หน้าไร่ของเธอ
เตลองซ์จอดรถมอเตอร์ไซค์ของเขาเอาไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาจับมือของอลิสาเอาไว้ พร้อมกับพาเธอเดินไปหาผู้ชายที่กำลังเดินมาหาเราเช่นกัน “สวัสดีค่ะพี่ไคโร นี่พี่เตแฟนหนูเองค่ะ” อลิสาช้อนสายตาพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเธอแนะนำให้พี่ไคโรรู้จักกับพี่เตลองซ์ “อ่า..นี่พามาแนะนำหรือว่าพามาอวด” อลิสาหัวเราะเบาๆ “มาอวด เอ้ย..มาแนะนำค่ะ เพราะว่าในบางทีพี่เตอาจจะมาช่วยงานลิสาด้วย เลยอยากจะพามาแนะนำให้รู้จักกันไว้” ไคโรมองหน้าเตลองซ์ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้กับแฟนของเด็กที่นับถือกันเป็นน้องสาว “ผมไคโรครับ ยินดีอย่างยิ่งที่เด็กซนๆ แบบลิสามีแฟนกับเขาสักที และผมอยากจะแนะนำหุ้นส่วนคนอื่นให้รู้จัก..นี่พี่จอมทัพครับ” รอยยิ้มของอลิสาค่อยๆ จางหายไปจากใบหน้า เธอหุบยิ้มในทันทีพร้อมกับความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นที่ซัดสาดไม่หยุด ใบหน้าที่เธอเฝ้ามองมาตลอดระยะเวลาเกือบสิบปี ดวงตาของเขาตกใจเล็กน้อยเมื่อมองเห็นเธอ แต่แล้วจากดวงตาที่ตกใจก็กลับกลายเป็นดวงตาที่แสนยินดี “ลิสา..บังเอิญจังเลยนะ” ความรู้สึกหนักอึ้งกระจายตัวออกมารอบๆ ตัวเธอ แต่ถึงอย่างนั้นบนใบหน้าของอลิสาก็ยังคงหยักยิ้มขึ้นมาใหม่ ตั้งสติเดี๋ยวนี้ลิสา เธอไม่ใช่ลิสาคนเดิมที่หลงรักพี่จอมทัพจนโงหัวไม่ขึ้นแต่ว่าตอนนี้เธอเป็นลิสาคนใหม่ที่มีแฟนแล้ว และแฟนของเธอกำลังยืนอยู่เคียงข้างเธอในตอนนี้ ต้องไม่ทำให้พี่เตลองซ์ลำบากใจไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามเธอจะต้องให้เกียรติแฟนของตัวเอง ไคโรเลิกคิ้วมองหน้าของลิสา “ไม่ยักรู้ว่าทั้งสองคนรู้จักกัน” จอมทัพยกมือขึ้นมาลูบผมของลิสาเบาๆ ด้วยความเอ็นดู “ลิสาเป็นน้องที่มหาลัยครับ คุณไคโรเองก็รู้จักลิสาเพราะอยู่มหาลัยเดียวกันงั้นเหรอครับ น่าแปลกที่ตอนเรียนเราไม่ได้รู้จักกัน” ไคโรหัวเราะออกมาเพื่อทำให้บรรยากาศมันไม่ตึงเครียดมากไปกว่านี้ เพราะว่าตอนนี้แฟนลิสามองมาที่คุณจอมทัพด้วยสายตาที่ไม่สู้ดีสักเท่าไหร่นัก “ว่าแต่หุ้นส่วนอีกคนยังไม่มาเหรอครับ?” จอมทัพกล่าวถามไคโรด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย และเมื่อเขากล่าวจบรถยุโรปคันงามก็ขับเข้ามายังตรงที่เรากำลังยืนอยู่ คนที่เปิดประตูรถลงมาคือผู้หญิงที่สวมชุดสูทสีแดงสด ผมยาวสลวยนั้นถูกจัดทรงให้ยาวตรงลงมาจนถึงกลางหลัง ใบหน้าที่สวยสง่านั้นไม่ได้ส่งยิ้มมาให้ทุกคนที่ยืนอยู่อย่างที่ควรจะเป็น “มาแล้วครับ ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักคุณเบลินดา หุ้นส่วนอีกคนของเรา” เบลินดาค่อยๆ ถอดแว่นกันแดดของเธอออก ก่อนจะปรายตามองหน้าของผู้ชายที่หล่อที่สุดในสายตาของเธอ “ไม่เจอกันนานเลยนี่เต นี่แฟนใหม่นายเหรอสวยดีนี่” เตลองซ์ไม่แม้แต่จะมองหน้าของเบลินดาด้วยซ้ำ เขากระชับฝ่ามือที่กำลังกุมมือของลิสาเอาไว้ให้แน่นยิ่งขึ้นมากกว่าเดิม “คุยเรื่องงานกันเถอะครับ เรื่องอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงาน บางทีไม่ต้องเสียเวลาคุยก็ได้” อลิสารับรู้ได้ถึงน้ำเสียงที่เยือกเย็นของพี่เตลองซ์ ที่หน้าผากของเขามีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาราวกับว่าเขากำลังข่มอารมณ์โกรธอยู่ “งั้นเหรอ? ยังเลือดร้อนไม่เปลี่ยนเลยสินะ เหมือนตอนที่นายไปทำลายงานแต่งพี่เลย..มาเถอะค่ะ ไปคุยงานให้จบพวกเราจะได้แยกย้ายกันไปสักที เวลาของลินดามีไม่มากด้วย” ไคโรเรียกซินแสมาพูดคุยเรื่องวันที่จะลงเสาเข็ม ส่วนเรื่องโครงสร้างและแบบร่าง เขาได้ส่งให้ทุกคนดูก่อนหน้านี้แล้ว “อีกอย่างที่ผมต้องการความชัดเจนคือสิทธิพิเศษของหุ้นส่วน ผมจะถือหุ้นอยู่สิบสองเปอร์เซ็นต์เมื่อลงเงินยี่สิบล้านไปแล้ว ผมต้องการสิทธิพิเศษในฐานะหุ้นส่วนที่ชัดเจนมากกว่านี้ครับคุณไคโร” ไคโรส่งเอกสารให้กับคุณจอมทัพ “ถึงยังไงเรื่องการบริหารเราจะเรียกประชุมทุกเดือนอยู่แล้วครับ แต่การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดก็ยังคงเป็นของลิสาอยู่ดี เรื่องนี้เข้าใจตรงกันนะครับ ถึงเวลาการประชุมค่อยไปเรียกร้องสิทธิพิเศษที่ต้องการก็แล้วกัน อย่างเช่นการพาแขกวีไอพีเข้าพัก หรือการพักในระยะยาวอะไรแบบนั้น” พี่ไคโร ไม่ทำให้เธอผิดหวังเลยให้ตายเถอะ ลิสาคิดว่าเรื่องการทำธุรกิจเธอเก่งและเจนสนามพอสมควรแต่พอมายื่นอยู่หน้าคนระดับนี้ เธอเป็นลูกเจี๊ยบไปเลย “แบบนั้นก็เข้าใจตรงกันแล้วล่ะค่ะ ตัวลินดาไม่ได้มีปัญหาเพราะเมื่อลองมาดูสถานที่ก่อสร้างด้วยตาของตัวเองแล้ว ลินดาคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเรื่องของการเข้าพัก” ถึงแม้ว่าเธอจะพูดเกี่ยวกับโรงแรมแต่ลินดากลับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเตลองซ์พร้อมกับส่งยิ้มให้เขา..แบบไม่เกรงใจอลิสาสักนิดเลย กำหมัดแล้วนะ “ในเมื่อได้ข้อสรุปกันแล้วเราก็แยกย้ายกันไปเถอะครับ เจอกันอีกทีในวันเปิดโรงแรมนะครับหรือหากว่าใครจะเข้ามาดูการก่อสร้างก็เข้ามาได้ตลอด จดเบอร์ลิสาเอาไว้สิครับ” จอมทัพส่งยิ้มให้กับไคโร “ผมมีเบอร์ของลิสาอยู่แล้วครับ ไม่ต้องจดก็ได้ เดี๋ยวพี่โทรมาสอบถามความคืบหน้านะลิสา” “อ่า..ค่ะ ได้เลยค่ะพี่จอมทัพ” เบลินดาแสยะยิ้มเมื่อเธอเห็นสายตาของจอมทัพที่กำลังมองอลิสา นั่นมันใช่สายตาของพี่น้องซะที่ไหนกันล่ะ วงการธุรกิจมันไม่ได้กว้างและเธอได้ข่าวมาว่างานแต่งของคุณจอมทัพพึ่งจะถูกยกเลิกไป ยัยเด็กที่หน้าตาน่ารักคนนี้รึเปล่านะที่ทำให้งานแต่งของมหาเศรษฐีล่ม “ส่วนลินดาจะขอติดต่อผ่านเตนะคะ พอดีสนิทกันอยู่แล้ว” เตลองซ์เบนสายตามามองหน้าของเบลินดา “ติดต่อผ่านลิสาเถอะครับ เพราะถึงผมจะเป็นแฟนลิสาแต่เรื่องโรงแรมนี้ผมไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจเท่าลิสา อีกอย่าง..เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นด้วย อย่าคิดไปเองสิครับ” เบลินดาหัวเราะ “ก็ได้ค่ะ ลินดาจะติดต่อมาทางน้องลิสานะคะ หวังว่าในอนาคตเราคงจะได้ร่วมงานกันอย่างจริงจัง หากว่าน้องลิสามีเรื่องอะไรที่สงสัยเกี่ยวกับเต สามารถถามพี่ได้เลยนะคะเพราะว่าเรื่องของเตลองซ์ ไม่มีใครจะรู้จักเขาดีกว่าพี่อีกแล้วล่ะ” อลิสามองพี่เบลินดาสลับกับพี่เตลองซ์ บอกตามตรงว่าเธอไม่ได้หึงเขาเลย อาจจะเพราะว่าทั้งสองคนดูเหมือนคนที่จะฆ่ากันมากกว่าคนที่รักกัน.. “เรื่องโรงแรมเราอาจจะต้องคุยกัน แต่เรื่องแฟนของลิสา ลิสาทำความเข้าใจเขาเองน่าจะดีกว่าไม่กล้ารบกวนพี่ลินดาหรอกค่ะ” เบลินดาส่งยิ้มให้ลิสา เธอกำมือแน่น มันแน่นมากพอที่เล็บจะจิกเข้าไปในมือของเธอ อย่าหวังเลยว่าชีวิตนี้จะได้มีความสุขเพราะความรัก นายจะต้องชดใช้สิเตลองซ์!!หลังจากที่คุณจอมทัพและคุณเบลินดา กลับไปแล้วก็เหลือแค่พี่ไคโรที่กำลังทำหน้าหมดอาลัยตายอยากอยู่“นี่พี่..ทำให้แกลำบากรึเปล่า ขอโทษด้วยนะครับคุณเต”อลิสาเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองสบตากับคนรักของเธอ เราทั้งสองต่างมีสภาพไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เรื่องในอดีตกำลังถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันที่ได้ตั้งตัว แต่ทว่ามือของเราสองคนกลับกอบกุมกันเอาไว้ไม่ปล่อยเลยตอนนี้เธออยากจะพูดคุยกับพี่เตลองซ์เป็นการส่วนตัวและลิสาเองก็คิดว่าเขาน่าจะอยากคุยกับเธอมากๆ เหมือนกัน“ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะพี่ไคโร ลิสาไม่ใช่เด็กแล้วนะที่จะก้าวผ่านเรื่องในอดีตไปไม่ได้ พี่ไม่ต้องคิดมากนะคะ ได้ฤกษ์งามยามดีเมื่อไหร่ก็ลงเสาเข็มก่อสร้างได้เลย”ไคโรขยี้มือลงไปบนผมของลิสาเบาๆ แต่ทว่าที่ด้านหลังของลิสากลับมีสายตาที่ไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่มองมา เขารีบยกมือขึ้นมาจากศีรษะของเธอในทันทีเขาเอ็นดูลิสาและมองว่ายัยเด็กนี่เหมือนน้องสาว แต่จากนี้ท่าทางว่าเขาจะต้องรักษาระยะห่างให้ดีซะแล้ว“ไว้เจอกันวันก่อสร้างนะ ช่วงนี้พี่อาจจะมาที่นี่บ่อยๆ เพราะว่าต้องมาคุมการก่อสร้างทั้งหมด”“เข้าใจแล้วค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะพี่”ไคโรพยักหน้าให้ลิสา เขามองหน้าของคุณเตลองซ์ก
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อนเลยสินะ..แต่ปัญหาของพี่เตลองซ์กับคุณเบลินดามันดูเหมือนจะร้ายแรงมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ซะอีกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนรักกันเหมือนที่เธอได้คาดเดาไปก่อนหน้า แต่ว่าเป็นคู่แค้นกันมากกว่า“แต่เมื่อปีที่แล้วพี่ได้ยินมาว่าลินดาไปอยู่ต่างประเทศ แล้วทำไมยัยนั่นถึงกลับมากันนะ แถมมาร่วมหุ้นทำโรงแรมกับลิสาอีก บอกตามตรงว่าพี่เป็นห่วงมากๆ เลย”อลิสาล้มตัวนอนลงไปบนพื้นหญ้า เธอมองท้องฟ้าสีครามที่อยู่ด้านบนก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง“มีคำกล่าวจากหนังสือว่า ในการทำอะไรสักอย่างหากทางไหนที่เดินไปแล้วไม่เจออุปสรรคแสดงว่ามาผิดทาง เพราะแบบนั้นลิสาไม่กลัวหรอกค่ะ ไม่กลัวทั้งปัญหาเรื่องการทำโรงแรม และไม่กลัวว่าความสัมพันธ์ของลิสากับพี่เตจะมีปัญหาด้วย..อย่ากลัวไปเลยค่ะ เห็นแบบนี้ลิสามั่นคงมากกว่าที่พี่คิดอีกนะคะ”เตลองซ์ยกมือขึ้นมาเพื่อปังแดดที่กำลังส่องมาที่ใบหน้าของลิสา รอยยิ้มของเธอวันนี้มันช่างสวยงามเหมือนกับดอกทานตะวันที่กำลังผลิบานเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการมีคนรัก มันจะดีแบบนี้..“นั่นสินะ ไม่ว่าลิสาจะมีปัญหาอะไรพี่จะปกป้องลิสาเอง”เตลองจุมพิตลงไปบนหน้า
สายลมในยามเย็นพัดผ่านใบหน้าของคุณยายอุดมไป คุณยายหันไปมองหน้าของคนที่คุณยายรักจนสุดหัวใจครั้งหนึ่งเราเคยจะหนีตามกันไป หนีไปจากที่นี่เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตในฐานะของคนรักแต่ทว่าที่บ้านของคุณยายไม่มีใครอีกแล้ว หากว่าคุณยายหนีไปคุณแม่ของคุณยายก็จะต้องอยู่คนเดียวเพราะอย่างนั้นคุณยายจำต้องกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงคอเพื่อแต่งงานกับคุณตาเสริมส่วนคุณปู่สุขก็ต้องกลับไปแต่งงานกับคนที่ทางครอบครัวบอกว่าดี..ย่ารตีเป็นผู้หญิงที่ดีสำหรับครอบครัวของคุณปู่สุข แต่ไม่ได้ดีสำหรับคุณปู่เลยเมื่อคลอดลูกคนแรกเราก็หย่ากันในทัน หลังจากนั้นคุณปู่ก็เลี้ยงลูกมาโดยลำพังและพอมีเตลองซ์ ปู่ก็อยู่กับเตลองซ์สองคนเพราะเจ้าลูกชายตัวดีไปอยู่กับแม่ของมันส่วนคุณยายอุดม ลูกสาวของยายคลอดอลิสาทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะหนีไปกับผู้ชาย หลังจากนั้นอีกสิบปีคุณตาก็เสียชีวิตคุณยายไม่โกรธเคืองลูกสาวเลย เพราะว่าอลิสาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของคุณยาย เด็กน้อยที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าราวกับแสงของดวงตะวันเหมือนกับว่าหน้าที่สุดท้ายของคุณปู่สุขและคุณยายอุดมคือการส่งหลานให้ถึงฝั่งฝัน..“ได้สิ หากว่าพี่ต้องการให้ฉันไปอยู่ด้วย ฉันก็จะไปอยู่กับพี่..จะไปสร้างภา
เบลินดากำมือแน่นเมื่อเธอมองเห็นคุณปู่สุขมองหน้าของอลิสา สายตาเอ็นดูแบบนั้นในตอนที่เธอเป็นแฟนกับเตลองซ์ เธอไม่เคยได้รับมันเลยสักครั้งเดียว“ผมได้ข่าวมาว่าหุ้นส่วนอีกคนเป็นคนที่อลิสาแอบชอบมาตั้งแต่สมัยมหาลัย..แต่เธอไม่เคยบอกกล่าวความในใจออกไปเลย”เบลินดาส่งเสียงร้องเหอะออกมา“พึ่งรู้ว่านายเองก็มีประโยชน์เหมือนกันนะจองชัย อย่าบอกนะว่าที่นายทุ่มเทช่วยพี่ทำลายเต เพราะว่านายชอบอลิสา?”ความรู้สึกในใจมันขุ่นมัวไปหมดจนไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจนหรือเต็มปากได้ ว่าตกลงแล้วเขารู้สึกอย่างไรกับอลิสากันแน่รักเธอ หรือว่าต้องการเธอมาเพื่อจะให้คุณตาภูมิใจในตัวเขา“แต่นายจะรู้สึกยังไงมันไม่สำคัญหรอกนะจองชัย เพราะว่าพี่จะทำลายความรักครั้งนี้ของเตลองซ์เอง จะทำทุกทางเพื่อไม่ให้หมอนั่นมีความสุขกับคนรักเหมือนกับที่มันทำกับพี่”อลิสาเดินไปดูปลาก็พบว่ามันถูกเผาจนได้ที่แล้ว เธอใช้กรรไกรตัดหนังออกเบาๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทานแล้วใช้ให้คนยกปลาเผาไปให้คุณตาและคุณยายที่อยู่บนบ้าน“น่าทานสุดๆ เลยพี่ลิสา พี่ทำกับข้าวเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”ไฉไลพูดพร้อมกับทำจมูกขยับไปมาเพื่อสุดดมกลิ่นปลาเผาที่หอมฟุ้งไปทั่วไร่“ไม่ขนาด
จองชัยจับมือของเบลินดาเอาไว้“วันนี้พอเท่านี้เถอะครับ เรากลับกันเถอะ”เมื่อจองชัยพูดจบเขาก็จูงมือของเบลินดาออกไปจากที่นี่“ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นตัวต้นเรื่องแท้ๆ มาทำท่าเหมือนรู้สึกผิดงั้นเหรอไอ้จอง ทุเรศฉิบหายเลยว่ะ”จองชัยหันหลังกลับมามองหน้าของเตลองซ์“เออ กูมันทุเรศ แล้วยังไงล่ะ? หากว่ามึงมั่นใจในความรักของมึงทำไมจะต้องกลัว..”เตลองซ์ทำท่าจะถลาเข้าไปหาจองชัยแต่อลิสาเอาตัวเข้ามาขวางไว้ เธอมองหน้าเตลองซ์ด้วยสายตาโกรธเคืองเล็กน้อย“ไปขอโทษคุณเบลินดาแบบตั้งใจมากกว่านี้ค่ะ”อลิสาชี้นิ้วไปที่คุณเบลินดาเพื่อให้เตลองซ์ไปขอโทษเธอ ทว่าเตลองซ์กลับขมวดคิ้วมองหน้าของอลิสา“ลิสา..นี่พี่เป็นคนผิดงั้นเหรอ?”“หากถามลิสาก็ผิดทั้งคู่นั้นแหละ เพราะอย่างนั้นพี่เตไปขอโทษของลินดา หลังจากนั้นคุณลินดาก็ขอโทษพี่เตนะคะ ไม่เหนื่อยงั้นเหรอ โกรธแค้นกันมาเป็นสิบๆ ปีแบบนี้ ให้มันพอแค่นี้และหลังจากนี้ไปก็สนใจแค่ความสุขของตัวเองเถอะค่ะ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องการแก้แค้นหรือว่าอะไรแล้ว..นับจากนี้ไปใครมีความสุขมากกว่าคนนั้นชนะค่ะ”เตลองซ์เม้มปากเล็กน้อย เขาเดินเข้าไปหาเบลินดาที่กำลังทำท่าจะร้องไห้ออกมา“ผม..ขอโทษครับ หวังว่
อลิสามองแผ่นหลังของพี่จองชัยและคุณเบลินดาที่เดินเคียงข้างกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มหวังว่าคำพูดของเธอมันจะสามารถสะเทือนกำแพงในใจของพี่จองชัยได้ไม่มากก็น้อยทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายเพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนผิด ถ้ายอมหันหน้ามาคุยกันตั้งนานก็คงไม่ต้องทะเลาะกันยาวนานมากขนาดนี้“กลับบ้านกันเถอะครับ พี่ง่วงแล้ว”“ที่นี่บ้านลิสาค่ะ จะกลับไปไหนได้อีก”เตลองซ์หน้ามุ่ย“งั้นขึ้นห้องกันเถอะครับ..เมียจ๋า ไม่ว่าจะยังไงคืนนี้พี่ไม่ยอมนอนคนเดียวแน่นอน พี่นอนคนเดียวมาหลายคืนแล้วนะ เมื่อวานลิสาก็อ้างว่าติดงาน เดี๋ยวนี้ติดงานมากกว่าพี่อีกเหรอครับ”จะว่าไป..เธอไม่ได้ไปอยู่กับเขานานแล้วเหมือนกัน“ก็ได้ค่ะ รอก่อนนะคะ เดี๋ยวลิสาช่วยไฉไลเก็บจานก่อน”“ได้เลยครับ เพื่อเมียนานแค่ไหนก็รอ”อลิสาหันหน้ามาหาเตลองซ์ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาหาเขาแล้วหอมแก้มเขาเบาๆ“ไปนั่งรอตรงนั้นเลยค่ะ”เธอชี้ไปที่เก้าอี้เพื่อให้เขาไปนั่งรอดีกว่ามายืนรอแบบนี้ เตลองซ์ยกมือขึ้นมาถูแก้มเบาๆ ตรงที่ลิสาพึ่งจะจุมพิตไปเมื่อครู่ ใบหน้าของเขาในตอนนี้คงกำลังยิ้มอยู่สินะ เขารู้สึกร้อนไปทั่วทั้งหน้าเลยอลิสาไม่ได้
ร่างกายของเรากอดก่ายกันอย่างแนบชิดกระทั่งไม่มีช่องว่างของอากาศแทรกผ่าน ฝ่ามือของเขาบีบเคล้นความนุ่มนิ่มทั้งสองข้างที่ชวนให้หลงใหลจนมันปริออกมาตามง่ามนิ้ว ปลายยอดสั่นระริกถูกเคล้นคลึงจากฝ่ามือของเขา สลับกับการใช้ปลายนิ้วบี้ลงไป.. “อา..” ช่องทางด้านล่างร้อนผ่าวเต้นตุบๆ ดูเหมือนจะยั่วเย้าปลายนิ้วที่กำลังสอดลึกเข้าไปด้านใน ชั่วพริบตาเมื่อถูกปลุกเร้าทั้งด้านบนด้านล่างพร้อมๆ กัน ร่างกายของเธอก็สั่นกระตุกเบาๆ พร้อมกับเสียงร้องครางที่ดังสนั่น “ชอบให้ใช้นิ้วขนาดนั้นเลยเหรอ หรือว่า..คิดถึงพี่จนทนไม่ไหว” เขาหมุนตัวเพื่อให้เธอหันหน้ามามองเขา เตลองซ์รูดรั้งแก่นกายขึ้นลงเบาๆ ก่อนจะกดสะโพกของอลิสาลงไป.. “อะ..อึ่ก” เขาไม่ยินยอมให้เธอได้พักแม้เพียงเสี้ยวนาที ฝ่ามือหนาใหญ่กำลังลูบไล้ไปตามสีข้าง ส่วนใบหน้าของเขาก็ฝังลงไปบนเนินเนื้อนุ่มนิ่มก่อนจะออกแรงดูดดึงมันเบาๆ ความตื่นตัวร้อนผ่าวเบียดแทรกเข้ามาช้าๆ แล้วฝังลึกเข้ามาในกายเรื่อยๆ จนสุดท้าย ร่างกายกำลังถูกเติมเต็มอีกครั้งหลังจากที่เธอพึ่งจะเสร็จสมไป ความรู้สึกต่างๆ ยิ่งไวต่อสัมผัสมากกว่าครั้งไหนๆ อลิสาบดเบียดสะโพกลงไปยังแท่งร้อนเผาก่อ
“พูดก็พูดเถอะ เรื่องของแกมันเหมือนกับในละครหลังข่าวเลยวะลิสา”สกายพูดพร้อมกับหมุนตัวของลิสาเบาๆ เพราะตรวจดูความเรียบร้อย วันนี้เพื่อนของเธอสวยมากกว่าทุกวันเลยอลิสาอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ที่กระโปรงยาวฟูฟ่อง ที่บนเรือนผมสวมมงกุฎดอกไม้เอาไว้ ส่วนที่มือก็ถือช่อดอกไม้เล็กๆ ไว้ด้วย“นั่นสินะ บางทีเราก็คิดนะว่าเหมือนเราเกิดมาเพื่อแต่งงานกับพี่เตเลย..”โรงแรมของเธอสร้างเสร็จก่อนปีใหม่สองเดือน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเพจของโรงแรมเปิดตัวก็มียอดจองเข้าพักยาวจนถึงปีหน้าเลย อาจจะเพราะผู้คนโหยหาธรรมชาติ อีกทั้งพี่ไคโรยังมีความสามารถในการสร้างโรงแรมของเราออกมาได้เหมือนกับอยู่ที่อิตาลีจริงๆ เลยเรื่องนั้นต้องยกความดีความชอบให้เขา และเรื่องฤกษ์แต่งงานก็เป็นพี่ไคโรเหมือนเดิมที่หาวันที่ดีที่สุดแบบที่เร็วที่สุดตามความต้องการของพี่เตลองซ์ได้“พรหมลิขิตสุดๆ ไปเลย”สกายพูดพร้อมกับจับมือของอลิสาเอาไว้“ขอให้แกมีความสุขมากๆ นะ”ส่วนอีกด้านเป็นพี่อาร์มที่เข้าไปแสดงความยินดีกับเตลองซ์“ให้ตายเหอะ นี่อย่าบอกนะว่าได้แต่งงานกันเพราะกู เหลือเชื่อจริงๆ เลย”เตลองซ์หัวเราะ เขาตบไหล่ของอาร์มเบาๆ“แต่งงานกันเพราะกู
“พูดก็พูดเถอะ เรื่องของแกมันเหมือนกับในละครหลังข่าวเลยวะลิสา”สกายพูดพร้อมกับหมุนตัวของลิสาเบาๆ เพราะตรวจดูความเรียบร้อย วันนี้เพื่อนของเธอสวยมากกว่าทุกวันเลยอลิสาอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ที่กระโปรงยาวฟูฟ่อง ที่บนเรือนผมสวมมงกุฎดอกไม้เอาไว้ ส่วนที่มือก็ถือช่อดอกไม้เล็กๆ ไว้ด้วย“นั่นสินะ บางทีเราก็คิดนะว่าเหมือนเราเกิดมาเพื่อแต่งงานกับพี่เตเลย..”โรงแรมของเธอสร้างเสร็จก่อนปีใหม่สองเดือน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเพจของโรงแรมเปิดตัวก็มียอดจองเข้าพักยาวจนถึงปีหน้าเลย อาจจะเพราะผู้คนโหยหาธรรมชาติ อีกทั้งพี่ไคโรยังมีความสามารถในการสร้างโรงแรมของเราออกมาได้เหมือนกับอยู่ที่อิตาลีจริงๆ เลยเรื่องนั้นต้องยกความดีความชอบให้เขา และเรื่องฤกษ์แต่งงานก็เป็นพี่ไคโรเหมือนเดิมที่หาวันที่ดีที่สุดแบบที่เร็วที่สุดตามความต้องการของพี่เตลองซ์ได้“พรหมลิขิตสุดๆ ไปเลย”สกายพูดพร้อมกับจับมือของอลิสาเอาไว้“ขอให้แกมีความสุขมากๆ นะ”ส่วนอีกด้านเป็นพี่อาร์มที่เข้าไปแสดงความยินดีกับเตลองซ์“ให้ตายเหอะ นี่อย่าบอกนะว่าได้แต่งงานกันเพราะกู เหลือเชื่อจริงๆ เลย”เตลองซ์หัวเราะ เขาตบไหล่ของอาร์มเบาๆ“แต่งงานกันเพราะกู
ร่างกายของเรากอดก่ายกันอย่างแนบชิดกระทั่งไม่มีช่องว่างของอากาศแทรกผ่าน ฝ่ามือของเขาบีบเคล้นความนุ่มนิ่มทั้งสองข้างที่ชวนให้หลงใหลจนมันปริออกมาตามง่ามนิ้ว ปลายยอดสั่นระริกถูกเคล้นคลึงจากฝ่ามือของเขา สลับกับการใช้ปลายนิ้วบี้ลงไป.. “อา..” ช่องทางด้านล่างร้อนผ่าวเต้นตุบๆ ดูเหมือนจะยั่วเย้าปลายนิ้วที่กำลังสอดลึกเข้าไปด้านใน ชั่วพริบตาเมื่อถูกปลุกเร้าทั้งด้านบนด้านล่างพร้อมๆ กัน ร่างกายของเธอก็สั่นกระตุกเบาๆ พร้อมกับเสียงร้องครางที่ดังสนั่น “ชอบให้ใช้นิ้วขนาดนั้นเลยเหรอ หรือว่า..คิดถึงพี่จนทนไม่ไหว” เขาหมุนตัวเพื่อให้เธอหันหน้ามามองเขา เตลองซ์รูดรั้งแก่นกายขึ้นลงเบาๆ ก่อนจะกดสะโพกของอลิสาลงไป.. “อะ..อึ่ก” เขาไม่ยินยอมให้เธอได้พักแม้เพียงเสี้ยวนาที ฝ่ามือหนาใหญ่กำลังลูบไล้ไปตามสีข้าง ส่วนใบหน้าของเขาก็ฝังลงไปบนเนินเนื้อนุ่มนิ่มก่อนจะออกแรงดูดดึงมันเบาๆ ความตื่นตัวร้อนผ่าวเบียดแทรกเข้ามาช้าๆ แล้วฝังลึกเข้ามาในกายเรื่อยๆ จนสุดท้าย ร่างกายกำลังถูกเติมเต็มอีกครั้งหลังจากที่เธอพึ่งจะเสร็จสมไป ความรู้สึกต่างๆ ยิ่งไวต่อสัมผัสมากกว่าครั้งไหนๆ อลิสาบดเบียดสะโพกลงไปยังแท่งร้อนเผาก่อ
อลิสามองแผ่นหลังของพี่จองชัยและคุณเบลินดาที่เดินเคียงข้างกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มหวังว่าคำพูดของเธอมันจะสามารถสะเทือนกำแพงในใจของพี่จองชัยได้ไม่มากก็น้อยทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายเพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนผิด ถ้ายอมหันหน้ามาคุยกันตั้งนานก็คงไม่ต้องทะเลาะกันยาวนานมากขนาดนี้“กลับบ้านกันเถอะครับ พี่ง่วงแล้ว”“ที่นี่บ้านลิสาค่ะ จะกลับไปไหนได้อีก”เตลองซ์หน้ามุ่ย“งั้นขึ้นห้องกันเถอะครับ..เมียจ๋า ไม่ว่าจะยังไงคืนนี้พี่ไม่ยอมนอนคนเดียวแน่นอน พี่นอนคนเดียวมาหลายคืนแล้วนะ เมื่อวานลิสาก็อ้างว่าติดงาน เดี๋ยวนี้ติดงานมากกว่าพี่อีกเหรอครับ”จะว่าไป..เธอไม่ได้ไปอยู่กับเขานานแล้วเหมือนกัน“ก็ได้ค่ะ รอก่อนนะคะ เดี๋ยวลิสาช่วยไฉไลเก็บจานก่อน”“ได้เลยครับ เพื่อเมียนานแค่ไหนก็รอ”อลิสาหันหน้ามาหาเตลองซ์ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาหาเขาแล้วหอมแก้มเขาเบาๆ“ไปนั่งรอตรงนั้นเลยค่ะ”เธอชี้ไปที่เก้าอี้เพื่อให้เขาไปนั่งรอดีกว่ามายืนรอแบบนี้ เตลองซ์ยกมือขึ้นมาถูแก้มเบาๆ ตรงที่ลิสาพึ่งจะจุมพิตไปเมื่อครู่ ใบหน้าของเขาในตอนนี้คงกำลังยิ้มอยู่สินะ เขารู้สึกร้อนไปทั่วทั้งหน้าเลยอลิสาไม่ได้
จองชัยจับมือของเบลินดาเอาไว้“วันนี้พอเท่านี้เถอะครับ เรากลับกันเถอะ”เมื่อจองชัยพูดจบเขาก็จูงมือของเบลินดาออกไปจากที่นี่“ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นตัวต้นเรื่องแท้ๆ มาทำท่าเหมือนรู้สึกผิดงั้นเหรอไอ้จอง ทุเรศฉิบหายเลยว่ะ”จองชัยหันหลังกลับมามองหน้าของเตลองซ์“เออ กูมันทุเรศ แล้วยังไงล่ะ? หากว่ามึงมั่นใจในความรักของมึงทำไมจะต้องกลัว..”เตลองซ์ทำท่าจะถลาเข้าไปหาจองชัยแต่อลิสาเอาตัวเข้ามาขวางไว้ เธอมองหน้าเตลองซ์ด้วยสายตาโกรธเคืองเล็กน้อย“ไปขอโทษคุณเบลินดาแบบตั้งใจมากกว่านี้ค่ะ”อลิสาชี้นิ้วไปที่คุณเบลินดาเพื่อให้เตลองซ์ไปขอโทษเธอ ทว่าเตลองซ์กลับขมวดคิ้วมองหน้าของอลิสา“ลิสา..นี่พี่เป็นคนผิดงั้นเหรอ?”“หากถามลิสาก็ผิดทั้งคู่นั้นแหละ เพราะอย่างนั้นพี่เตไปขอโทษของลินดา หลังจากนั้นคุณลินดาก็ขอโทษพี่เตนะคะ ไม่เหนื่อยงั้นเหรอ โกรธแค้นกันมาเป็นสิบๆ ปีแบบนี้ ให้มันพอแค่นี้และหลังจากนี้ไปก็สนใจแค่ความสุขของตัวเองเถอะค่ะ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องการแก้แค้นหรือว่าอะไรแล้ว..นับจากนี้ไปใครมีความสุขมากกว่าคนนั้นชนะค่ะ”เตลองซ์เม้มปากเล็กน้อย เขาเดินเข้าไปหาเบลินดาที่กำลังทำท่าจะร้องไห้ออกมา“ผม..ขอโทษครับ หวังว่
เบลินดากำมือแน่นเมื่อเธอมองเห็นคุณปู่สุขมองหน้าของอลิสา สายตาเอ็นดูแบบนั้นในตอนที่เธอเป็นแฟนกับเตลองซ์ เธอไม่เคยได้รับมันเลยสักครั้งเดียว“ผมได้ข่าวมาว่าหุ้นส่วนอีกคนเป็นคนที่อลิสาแอบชอบมาตั้งแต่สมัยมหาลัย..แต่เธอไม่เคยบอกกล่าวความในใจออกไปเลย”เบลินดาส่งเสียงร้องเหอะออกมา“พึ่งรู้ว่านายเองก็มีประโยชน์เหมือนกันนะจองชัย อย่าบอกนะว่าที่นายทุ่มเทช่วยพี่ทำลายเต เพราะว่านายชอบอลิสา?”ความรู้สึกในใจมันขุ่นมัวไปหมดจนไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจนหรือเต็มปากได้ ว่าตกลงแล้วเขารู้สึกอย่างไรกับอลิสากันแน่รักเธอ หรือว่าต้องการเธอมาเพื่อจะให้คุณตาภูมิใจในตัวเขา“แต่นายจะรู้สึกยังไงมันไม่สำคัญหรอกนะจองชัย เพราะว่าพี่จะทำลายความรักครั้งนี้ของเตลองซ์เอง จะทำทุกทางเพื่อไม่ให้หมอนั่นมีความสุขกับคนรักเหมือนกับที่มันทำกับพี่”อลิสาเดินไปดูปลาก็พบว่ามันถูกเผาจนได้ที่แล้ว เธอใช้กรรไกรตัดหนังออกเบาๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทานแล้วใช้ให้คนยกปลาเผาไปให้คุณตาและคุณยายที่อยู่บนบ้าน“น่าทานสุดๆ เลยพี่ลิสา พี่ทำกับข้าวเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”ไฉไลพูดพร้อมกับทำจมูกขยับไปมาเพื่อสุดดมกลิ่นปลาเผาที่หอมฟุ้งไปทั่วไร่“ไม่ขนาด
สายลมในยามเย็นพัดผ่านใบหน้าของคุณยายอุดมไป คุณยายหันไปมองหน้าของคนที่คุณยายรักจนสุดหัวใจครั้งหนึ่งเราเคยจะหนีตามกันไป หนีไปจากที่นี่เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตในฐานะของคนรักแต่ทว่าที่บ้านของคุณยายไม่มีใครอีกแล้ว หากว่าคุณยายหนีไปคุณแม่ของคุณยายก็จะต้องอยู่คนเดียวเพราะอย่างนั้นคุณยายจำต้องกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงคอเพื่อแต่งงานกับคุณตาเสริมส่วนคุณปู่สุขก็ต้องกลับไปแต่งงานกับคนที่ทางครอบครัวบอกว่าดี..ย่ารตีเป็นผู้หญิงที่ดีสำหรับครอบครัวของคุณปู่สุข แต่ไม่ได้ดีสำหรับคุณปู่เลยเมื่อคลอดลูกคนแรกเราก็หย่ากันในทัน หลังจากนั้นคุณปู่ก็เลี้ยงลูกมาโดยลำพังและพอมีเตลองซ์ ปู่ก็อยู่กับเตลองซ์สองคนเพราะเจ้าลูกชายตัวดีไปอยู่กับแม่ของมันส่วนคุณยายอุดม ลูกสาวของยายคลอดอลิสาทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะหนีไปกับผู้ชาย หลังจากนั้นอีกสิบปีคุณตาก็เสียชีวิตคุณยายไม่โกรธเคืองลูกสาวเลย เพราะว่าอลิสาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของคุณยาย เด็กน้อยที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าราวกับแสงของดวงตะวันเหมือนกับว่าหน้าที่สุดท้ายของคุณปู่สุขและคุณยายอุดมคือการส่งหลานให้ถึงฝั่งฝัน..“ได้สิ หากว่าพี่ต้องการให้ฉันไปอยู่ด้วย ฉันก็จะไปอยู่กับพี่..จะไปสร้างภา
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อนเลยสินะ..แต่ปัญหาของพี่เตลองซ์กับคุณเบลินดามันดูเหมือนจะร้ายแรงมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ซะอีกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนรักกันเหมือนที่เธอได้คาดเดาไปก่อนหน้า แต่ว่าเป็นคู่แค้นกันมากกว่า“แต่เมื่อปีที่แล้วพี่ได้ยินมาว่าลินดาไปอยู่ต่างประเทศ แล้วทำไมยัยนั่นถึงกลับมากันนะ แถมมาร่วมหุ้นทำโรงแรมกับลิสาอีก บอกตามตรงว่าพี่เป็นห่วงมากๆ เลย”อลิสาล้มตัวนอนลงไปบนพื้นหญ้า เธอมองท้องฟ้าสีครามที่อยู่ด้านบนก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง“มีคำกล่าวจากหนังสือว่า ในการทำอะไรสักอย่างหากทางไหนที่เดินไปแล้วไม่เจออุปสรรคแสดงว่ามาผิดทาง เพราะแบบนั้นลิสาไม่กลัวหรอกค่ะ ไม่กลัวทั้งปัญหาเรื่องการทำโรงแรม และไม่กลัวว่าความสัมพันธ์ของลิสากับพี่เตจะมีปัญหาด้วย..อย่ากลัวไปเลยค่ะ เห็นแบบนี้ลิสามั่นคงมากกว่าที่พี่คิดอีกนะคะ”เตลองซ์ยกมือขึ้นมาเพื่อปังแดดที่กำลังส่องมาที่ใบหน้าของลิสา รอยยิ้มของเธอวันนี้มันช่างสวยงามเหมือนกับดอกทานตะวันที่กำลังผลิบานเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการมีคนรัก มันจะดีแบบนี้..“นั่นสินะ ไม่ว่าลิสาจะมีปัญหาอะไรพี่จะปกป้องลิสาเอง”เตลองจุมพิตลงไปบนหน้า
หลังจากที่คุณจอมทัพและคุณเบลินดา กลับไปแล้วก็เหลือแค่พี่ไคโรที่กำลังทำหน้าหมดอาลัยตายอยากอยู่“นี่พี่..ทำให้แกลำบากรึเปล่า ขอโทษด้วยนะครับคุณเต”อลิสาเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองสบตากับคนรักของเธอ เราทั้งสองต่างมีสภาพไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เรื่องในอดีตกำลังถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันที่ได้ตั้งตัว แต่ทว่ามือของเราสองคนกลับกอบกุมกันเอาไว้ไม่ปล่อยเลยตอนนี้เธออยากจะพูดคุยกับพี่เตลองซ์เป็นการส่วนตัวและลิสาเองก็คิดว่าเขาน่าจะอยากคุยกับเธอมากๆ เหมือนกัน“ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะพี่ไคโร ลิสาไม่ใช่เด็กแล้วนะที่จะก้าวผ่านเรื่องในอดีตไปไม่ได้ พี่ไม่ต้องคิดมากนะคะ ได้ฤกษ์งามยามดีเมื่อไหร่ก็ลงเสาเข็มก่อสร้างได้เลย”ไคโรขยี้มือลงไปบนผมของลิสาเบาๆ แต่ทว่าที่ด้านหลังของลิสากลับมีสายตาที่ไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่มองมา เขารีบยกมือขึ้นมาจากศีรษะของเธอในทันทีเขาเอ็นดูลิสาและมองว่ายัยเด็กนี่เหมือนน้องสาว แต่จากนี้ท่าทางว่าเขาจะต้องรักษาระยะห่างให้ดีซะแล้ว“ไว้เจอกันวันก่อสร้างนะ ช่วงนี้พี่อาจจะมาที่นี่บ่อยๆ เพราะว่าต้องมาคุมการก่อสร้างทั้งหมด”“เข้าใจแล้วค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะพี่”ไคโรพยักหน้าให้ลิสา เขามองหน้าของคุณเตลองซ์ก
เมื่อเราเดินทางมาถึงที่ไร่อุดมรัก อลิสาก็มองเห็นรถยนต์ยุโรปสามคันที่จอดอยู่หน้าไร่ของเธอเตลองซ์จอดรถมอเตอร์ไซค์ของเขาเอาไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาจับมือของอลิสาเอาไว้ พร้อมกับพาเธอเดินไปหาผู้ชายที่กำลังเดินมาหาเราเช่นกัน“สวัสดีค่ะพี่ไคโร นี่พี่เตแฟนหนูเองค่ะ”อลิสาช้อนสายตาพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเธอแนะนำให้พี่ไคโรรู้จักกับพี่เตลองซ์“อ่า..นี่พามาแนะนำหรือว่าพามาอวด”อลิสาหัวเราะเบาๆ“มาอวด เอ้ย..มาแนะนำค่ะ เพราะว่าในบางทีพี่เตอาจจะมาช่วยงานลิสาด้วย เลยอยากจะพามาแนะนำให้รู้จักกันไว้”ไคโรมองหน้าเตลองซ์ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้กับแฟนของเด็กที่นับถือกันเป็นน้องสาว“ผมไคโรครับ ยินดีอย่างยิ่งที่เด็กซนๆ แบบลิสามีแฟนกับเขาสักที และผมอยากจะแนะนำหุ้นส่วนคนอื่นให้รู้จัก..นี่พี่จอมทัพครับ”รอยยิ้มของอลิสาค่อยๆ จางหายไปจากใบหน้า เธอหุบยิ้มในทันทีพร้อมกับความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นที่ซัดสาดไม่หยุดใบหน้าที่เธอเฝ้ามองมาตลอดระยะเวลาเกือบสิบปี ดวงตาของเขาตกใจเล็กน้อยเมื่อมองเห็นเธอ แต่แล้วจากดวงตาที่ตกใจก็กลับกลายเป็นดวงตาที่แสนยินดี“ลิสา..บังเอิญจังเลยนะ”ความรู้สึกหนักอึ้งกระจายตัวออกมา