Home / โรแมนติก / One night stand!! / บทที่ 1 มั่นใจว่าตัวเองไหว

Share

One night stand!!
One night stand!!
Author: วรนิษฐา / Miss sexy

บทที่ 1 มั่นใจว่าตัวเองไหว

last update Last Updated: 2024-10-30 11:18:14

เสียงเพลงในผับดังกึกก้อง จนต้องตะโกนคุยกันคอแทบแตก ปกติฉันไม่ชอบสถานที่แบบนี้สักเท่าไหร่นักหรอก แต่วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ก็เลยนัดเพื่อนให้ออกมาปาร์ตี้แก้เซ็ง 

และนี่คือการมาเที่ยวผับครั้งแรกในวัยยี่สิบเอ็ดปีของนางสาวอัปสรก็ว่าได้ เรียนอีกแค่เทอมเดียว ฉันก็จะเรียนจบปริญญาตรีแล้วด้วย พอจบไปก็ตั้งใจจะใช้วิชาความรู้ที่ได้มา ไปทำงานช่วยงานพี่ชายที่เปิดบริษัท ขายส่งสินค้าจากเมืองจีน เห็นแบบนี้กำไรปีหนึ่งเป็นล้านๆ นะบอกเลย

“เป็นอะไรของแกสร หน้ามุ่ยเป็นตูดหมึก ทะเลาะกับแมนมาเหรอ” คนที่เพื่อนฉันเอ่ยชื่อขึ้นมาก็คือแฟนของฉันเอง เราคบกันมาได้สามถึงสี่เดือนแล้ว แต่ยิ่งคบมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่ใช่ จนตัดสินใจจะบอกเลิกวันพรุ่งนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอด 

“อื้อ...เบื่อว่ะ” ฉันพูดเซ็งๆ ก่อนจะหยิบแก้วที่ผสมเหล้ากับเป๊บซี่ขึ้นมาดื่ม ฉันไม่ใช่พวกคอแข็งจึงผสมเป๊บซี่มากหน่อย จนเพื่อนแซวว่าถ้าฉันจะกินแบบนี้ก็กินเป๊บซี่มันอย่างเดียวไปเลย

เหตุผลของความเบื่อ คือ ฉันถูกวศินหรือแมนตามเช้าตามเย็น ไปไหนก็ต้องรายงาน แถมเขาก็เป็นพวกขี้หึงบ้าๆ บอๆ หึงแบบไร้เหตุผล นี่ฉันยังคิดว่ามีแฟนหรือมีลูกกันแน่ ขี้หึงไม่พอ เขายังเสือกเจ้าชู้อีก 

พอฉันดื่มหมด เพื่อนที่มาด้วยก็ชงให้อีกแก้ว คราวนี้เหล้ามันเข้มขึ้นกว่าเดิมจนเจน เอ้ย!…ฉันสัมผัสได้ แต่ก็ยังดื่มมันเพราะคิดว่าคงไม่เมา และในที่สุดฉันก็เมาจนได้ 

“สร…แกโอเคไหมอ่ะ” 

“ไม่โอเคว่ะ นี่แผ่นดินไหวเหรอ ทำไมร้านมันหมุนๆ เอียงๆ” ฉันตอบดาหรือกรดาเพื่อนสนิทที่วันนี้ฉันหิ้วมาผับด้วย แถมพ่วงนีรากับอาทิตย์มาด้วย สองคนนี้เป็นแฟนกัน ชอบเที่ยว ทำให้ดื่มเหล้าเก่งยังกับดื่มน้ำเปล่า มัชในคืนนี้จึงทำหน้าที่เป็นคนชง 

“แผ่นดินไหวที่ไหน แกมันเมา” คำตอบของกรดาทำเอาฉันขำตัวเอง 

“เมา…เกิดมาเพิ่งจะเคยเมา เออ…ดี”

“เอ้า! แกนี่”

“เฮ้ย! ยืนดีๆ แก” ฉันยืนเซทั้งๆ ที่มั่นใจว่ายืนตรงแล้วแท้ๆ ยัยดารีบเข้ามาพยุงฉันแล้วชวนกลับ 

“ฉันว่าเรากลับกันก่อนดีกว่า แกยืนจะไม่ไหวอยู่แล้ว”

“กลับๆ” ฉันไม่มีเหตุผลให้อยู่ผับต่อ นั่นเพราะมึนหัวหนักมาก พะอืดพะอมอีกต่างหาก โต๊ะฉันเรียกเช็คบิลทันที

“แกพาสรกลับเองได้ แน่นะดา”

“ได้สิ แกสองคนไปเที่ยวต่อเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันกับสร”

“อื้อ…ไว้เจอกันวันจันทร์”

“เครๆ” ฉันได้ยินทั้งสามคนคุยกันแบบนี้ ก่อนที่ฉันจะถูกยัยดาหิ้วปีกไปที่รถ อาการของฉันตอนนี้มันร่อแร่มาก สภาพดูไม่ได้แน่นอน สีหน้าของฉันมันคงกำลังซีดเป็นไก่ต้มแน่ๆ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผมจนฉันสัมผัสได้

“สร…ถึงบ้านแล้วแก”

“หืม…ถึงบ้านแล้วเหรอ” น้ำเสียงยืดๆ ยานๆ เหมือนเทปเพลงสมัยก่อนดังขึ้น ตานี่หนักอึ้งแทบจะลืมไม่ได้กันเลยทีเดียว รู้สึกว่ามันหนักๆ ชอบกล เฮ้อ...เวลาเมานี่มันควบคุมตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ 

“อื้อ…กุญแจบ้านแกอยู่ไหน”

“ในกระเป๋า” ฉันยื่นกระเป๋าทั้งใบให้กรดาไปค้นหากุญแจ พอเห็นยัยดาก็เอาไปเปิดแล้วกลับมาหิ้วฉันเข้าไปข้างในพร้อมกับเอ่ยถามไปด้วย

“พี่แกอยู่บ้านไหมเนี่ย”

“ไม่อยู่ บินไปคุยงานที่เมืองจีน” 

“เออ…โล่งอกไปหน่อย ขืนพี่แกมาเห็นแกสภาพนี้นะ ฉันกลัวระเบิดลง” เสียงถอนหายใจของเพื่อน ทำเอาฉันขำ นั่นเพราะพี่ชายฉันคงไม่ปลื้มแน่ๆ ที่เห็นน้องตัวเองเมามายขนาดนี้ 

“นี่ก็กลัว แต่พอดีพี่นิกไม่อยู่ ฉันเลยไปเมากับแกได้นี่ไง” ฉันไม่รู้ตัวสักนิดว่าพูดจาชักจะไม่รู้เรื่อง ทั้งๆ ที่มั่นใจว่าพูดชัดทุกคำ นั่นเพราะดูจากสีหน้าและประโยคที่ได้ยินจากคนตรงหน้านี่แหละ

“นั่งๆ แกนี่เมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ” กรดาวางฉันลงบนโซฟาตัวยาว ส่วนสภาพของฉันตอนนี้ไม่ต้องพูดถึง หัวเหอฟูฟ่อง หน้าจากที่แต่งไปแบบจัดเต็มตอนนี้ก็ชักจะเยิ้มๆ เรียกว่าดูไม่ได้แบบสุดๆ ใครบอกผู้หญิงเมาแล้วสวยกันฟะ ไม่เห็นจะจริงสักนิด 

“ขอบใจนะแกที่มาส่ง”

“ให้ฉันพาแกขึ้นไปบนห้องไหมสร”

“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวฉันขึ้นไปเองได้” ฉันโบกมือห้าม นั่นเพราะมั่นใจว่าตัวเองไหวแน่นอน เมาแค่นี้ไม่ถึงกับทำอะไรไม่ได้หรอก

 

Related chapters

  • One night stand!!   บทที่ 2 สารภาพรัก

    “อย่าเมาแล้วคึกไปไล่ปล้ำใครเขานะยะ”“บ้า! ใครจะไปทำ แต่ถ้าพี่ตรัยมา…ก็ว่าไปอย่าง” พูดแล้วฉันก็หัวเราะออกมา นั่นเพราะสภาพของฉันตอนนี้จะไปไล่ปล้ำใครเขาได้“แหม…มีเลือก”“แกขับรถดีๆ นะ” ฉันโบกไม้โบกมือให้กรดา “อื้อ…งั้นฉันกลับก่อนนะ” กรดาโบกไม้โบกมือลาฉันด้วยเหมือนกัน พอเพื่อนกลับออกไปแล้วฉันก็ทิ้งตัวนอนยาวไปกับขนาดของโซฟามันเสียเลยอาการคนเมามันทำให้ฉันปั่นป่วน พะอืดพะอมบอกไม่ถูก โลกมันหมุนๆ ในตัวก็ร้อนแปลกๆ ฉันพยายามตั้งสติ สูดอากาศเข้าปอดลึกๆ “ฉันไม่เมา...ไม่เมา...ไม่เมา” ฉันพูดกับตัวเองแบบนี้ เพื่อเอาชนะความเมา แต่ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยได้ผล กระทั่งรู้สึกเหมือนมีใครมายืนกอดอกมองฉันที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา“พะ…พี่ตรัยเหรอคะ”“ครับ” เสียงทุ้มที่แสนจะคุ้นดังขึ้น ฉันส่งยิ้มให้เขา พยายามลืมตามองหน้าเขาให้ชัดๆ แต่ภาพมันก็ซ้อนทับกันจนรู้สึกเหมือนเขามีฝาแฝดแถมตอนนี้เขายืนกอดอกมองเธอด้วยสายตาดุๆ จนฉันต้องเด้งตัวขึ้นมานั่งตรงแหน่ว แต่สงสัยจะรีบลุกมากไป ถึงได้มึนๆ หัวหนักเข้าไปอีก“ฉลองอะไรมา ถึงเมาได้ขนาดนี้”“ก็แค่ปาร์ตี้สนุกๆ ตามประสาเพื่อนแค่นั้นเอง ว่าแต่พี่ตรัยมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” ฉันพยา

    Last Updated : 2024-10-30
  • One night stand!!   บทที่ 3 น่ารักหรือเปล่า

    “โหย…ผู้ชายโลเล” “ก็คนมันหล่อเลือกได้” เขายิ้มมุมปากให้ฉัน ส่วนฉันเองก็ยิ้มหวานๆ ตาเยิ้มๆ ตามสไตล์คนเมากลับไปให้“งั้นถ้าให้เลือกอีกที พี่ตรัยจะชอบสรอยู่ไหม” เพราะเมาฉันถึงกล้าถามแบบนี้ออกไป จะว่าไป เวลาเมานี่ก็ดีแฮะ เพราะมันทำให้ฉันกล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป พอสร่างก็มีข้ออ้างว่าเมา คนเมาพูดอะไรย่อมไม่ผิด...ฮ่าๆ ไม่งั้นเขาจะพูดกันเหรอว่า อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา “นี่เมาใช่ไหม ถึงถามอะไรแบบนี้”“เปล่าเมา สรแค่อยากรู้” อันที่จริงฉันเมานั่นแหละ แต่ไม่ยอมรับ “ไว้สร่างเมาก่อน พี่ค่อยตอบ คืนนี้ดึกแล้ว ไปนอนได้แล้ว”“สรนอนไม่หลับ” ฉันเริ่มงอแงเป็นเด็กๆ “ไม่หลับก็นอนเล่นๆ ไป เดี๋ยวก็หลับเอง” เขาดุฉันเหมือนฉันยังเป็นแค่เด็กอนุบาล ทั้งๆ ที่เขาอายุห่างจากฉันแค่ห้าปีเท่านั้นเอง “ผู้หญิงคนนั้นโชคดีจังที่ได้พี่ตรัยเป็นแฟน” ลึกๆ ฉันอิจฉาผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่ฉันไม่เคยเห็นหน้าสักครั้ง แต่ก็มั่นใจว่าเธอต้องสวยและนิสัยดีมากแน่ๆ “ทำไม แฟนสรทำตัวไม่ดีเหรอ” “อื้อ…เขาขี้หึงแบบไม่ลืมหูลืมตา ทำตัวเป็นเด็ก ง้องแง้งไม่เข้าท่า ปากหวานก้นเปรี้ยว เกลียดผู้หญิงเจ้าชู้ แต่ตัวเองเสือกเจ้าชู้ไก่แจ้ แถมยัง

    Last Updated : 2024-10-30
  • One night stand!!   บทที่ 4 One night stand แสนระทึก!!! (1)

    ก่อนจะฝัน...ในฝันฉันกำลังนอนอยู่และมีเจ้าชายกำลังโน้มใบหน้าลงหมายจะมาจูบฉัน ฉันพยายามเพ่งสายตามองหน้าของเจ้าชายคนนั้น แต่กลับมองไม่เห็น กระทั่งริมฝีปากของเราสัมผัสกัน นั่นทำให้ฉันสะดุ้งและตื่นขึ้นจากความฝัน แต่ทว่าฝันกลับกลายเป็นจริง เพราะเมื่อครู่พี่ตรัยจูบฉัน“พี่ขอโทษ” ฉันนั่งนิ่ง ฟังคำขอโทษจากเขา แต่ทำไมใจถึงไม่รู้สึกโกรธอะไรเลย หรือฉันจะเมาจนความรู้สึกตายด้าน ไหนขอลองจูบเขาอีกสักครั้งซิ ความคิดของฉันมันไวเท่ากับการกระทำ เมื่ออยู่ๆ ฉันก็ล็อกคอเขาไว้แล้วเป็นฝ่ายจูบก่อน แม้จะจูบไม่เป็นแต่ฉันก็รู้ว่ามันคงไม่ยากมั้ง เพราะเห็นพระเอกนางเอกในซีรีส์จูบกันออกบ่อยนี่นา จากที่เขานิ่งจนฉันใจเสีย เกือบจะถอดใจถอนจูบออก ตรัยก็เริ่มจูบตอบฉันกลับมา จูบของเขามันทำเอาฉันสั่นไปทั้งตัว เพราะมันวาบหวามเร่าร้อนชนิดที่ว่าปลุกไฟในตัวของฉันให้ลุกพรึบได้ในชั่วพริบตา ฉันไม่รู้ว่าเราจูบกันมานานเท่าไหร่ รู้เพียงแค่ว่าฉันไม่อยากให้เขาหยุดที่จะจูบฉันเลยจริงๆ นี่ฉันกำลังเมาอยู่ใช่ไหม ต้องใช่แน่ๆ “พี่ตรัย” ฉันเอ่ยเรียกเขาทันทีที่เราถอนจูบออก และสีหน้าของเขาดูรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ จนเด้งตัวลุกขึ้น

    Last Updated : 2024-10-30
  • One night stand!!   บทที่ 5 One night stand แสนระทึก!!! (2)

    “พะ…พี่ตรัยขา อ่าห์…” เอ่ยเรียกชื่อเขาได้ไม่เท่าไหร่ เสียงของฉันก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงครางอีก เพราะตอนนี้เขาจูบต่ำลงไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงหน้าท้อง ปลายลิ้นของเขาที่หยอกเย้ากับสะดือทำเอาฉันขนลุก ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้ว่าเขาจูบต่ำลงไปจนถึงจุดที่ฉันหวงมากที่สุด“สรสวยเหลือเกิน” เขาเอ่ยชมฉัน เป็นคำชมที่ยิ่งทำให้ฉันเขินอาย จนต้องเกร็งขาเข้าหากัน แต่ทว่ากลับทำไม่ได้ เพราะมีเขาขวางอยู่ตรงกลางเพียงแค่เขาไล้ปลายนิ้วลงไปบนกลีบสาว ฉันถึงกับกลั้นหายใจ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเขาเปลี่ยนจากใช้มือมาเป็นริมฝีปาก ฉันบิดเร้าไปมาอย่างวาบหวาม ความทรมานที่มาพร้อมความสุขที่ฉันไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน และตรัยก็กำลังมอบประสบการณ์ครั้งแรกให้กับฉัน“อ่า…” ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้เลย นอกจากส่งเสียงครางออกมาเพื่อปลดปล่อยความเสียวซ่านที่กำลังเกิดขึ้นตรัยละเลียดชิมฉันอย่างช้าๆ ทุกสัมผัสจากเขามันตราตรึงอยู่ในร่างกายของฉัน แต่ยิ่งเขาช้าฉันก็ยิ่งทรมานและฉันก็ได้ประสบการณ์แปลกๆ เป็นครั้งแรก มันมีความสุขเหมือนกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า“พี่จะกินสรจริงๆ แล้วนะ” คำพูดของเขาทำให้ฉันยิ่งตื่นเต้นจนใจเต้นแรงมาก หายใจหอบเหนื่อยราวกับวิ่งล

    Last Updated : 2024-10-30
  • One night stand!!   บทที่ 6 One night stand แสนระทึก!!! (3)

    “สร...” เขาเหมือนมีอะไรจะพูด แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน ตรัยลังเลว่าจะรับหรือไม่รับ กระทั่งตัดสินใจรับสาย“ว่าไงนิก” ชื่อที่ได้ยิน ทำเอาฉันเย็นไปทั้งตัว ฉันทำให้พี่ชายต้องผิดหวังเสียแล้วสิ มิหนำซ้ำยังทำร้ายจิตใจของผู้หญิงอีกคนด้วย เฮ้อ…ถึงแม้จะไม่มีน้ำตาไหลออกมาให้เห็น แต่ข้างในใจฉันมันก็กำลังร้องไห้อยู่ ฉันขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำ กระทั่งได้ยินเสียงของตรัยดังขึ้น“สร…เป็นอะไรหรือเปล่า”“สรไม่เป็นไรค่ะ พี่ตรัยกลับไปก่อนเถอะ” ฉันตะโกนบอกเขา เราต่างเงียบด้วยกันทั้งคู่ กระทั่งฉันได้ยินเสียงประตูปิดลง จึงเดาเอาว่าตรัยกลับออกไปแล้วแน่ๆ ฉันรวบรวมความกล้าและสติ บอกตัวเองว่าขอให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวพอOne night stand แม้มันจะไม่ง่าย แต่มันก็ไม่ได้ยากหากฉันจะทำ ฉันนั่งซึมกะทือเป็นซอมบี้ไร้ชีวิต ทั้งๆ ที่ตรงหน้ามีของโปรดของฉันวางอยู่แท้ๆ ท่าทางของฉันพลอยทำให้ยัยดาสงสัยไปด้วยเพราะไม่อยากอยู่บ้าน ฉันจึงโทรนัดกรดาให้ออกมาหาอะไรกินกัน แต่แทนที่จะกินฉันกลับนั่งจ้องบิงชูแสนอร่อยจนมันละลายไปต่อหน้าต่อตา “สร…แกเมาค้างอยู่เปล่าอ่ะ”“เปล่า” ฉันก้มหน้าก้มตาตอบ“นี่การเมาหัวทิ่มครั้งแ

    Last Updated : 2024-11-07
  • One night stand!!   บทที่ 7 พูดถึงแฟน

    “เดี๋ยวๆ ทำไมแกรู้ว่าต้องกินยาคุมฉุกเฉินด้วย” อีกไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านขายยา แต่ฉันกลับรั้งกรดามาถาม“หืม…ข้อมูลพวกนี้ในเฟส ในกูเกิ้ลก็มีย่ะ ฉันก็ส่องหาสาระใส่ตัวเองบ้างสิ”“เออๆ”“รีบไปๆ” กรดาตัดบท ก่อนจะผลักประตูเข้าร้านขายยาไป จากนั้นก็สั่งยาคุมฉุกเฉินพร้อมน้ำมาหนึ่งขวด พอออกจากร้านขายยามาได้ ก็จัดแจงให้ฉันกินยาทันที พร้อมกับกำชับว่าห้ามลืมกินอีกเม็ดเด็ดขาด จากนั้นเราก็ขึ้นไปนั่งคุยกันที่ดาดฟ้าของอเวนิว ที่ถูกออกแบบเป็นโซนนั่งเล่นแบบสามร้อยหกสิบองศา ลมเย็นๆ ที่พัดโกรกไปมา ช่วยให้อากาศรอบๆ ตัวเย็นขึ้นมาได้มาก แต่ใจฉันมันกลับยังคงร้อนรุ่มด้วยเรื่องเมื่อคืน “แล้วนี่แกเอาไงกับแมน ยังจะบอกเลิกอยู่ไหม” “ยังก่อน ฉันกะจะควงแมนอีกสักระยะ เพื่อให้ฉันกับพี่ตรัยห่างกันมากกว่านี้หน่อย รอจังหวะดีๆ อาจหลังสอบค่อยบอกเลิก” นั่นเพราะสิ่งสำคัญสำหรับฉันอีกหนึ่งอย่างคือการสอบเทอมสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งใกล้เข้ามาทุกที “แกนี่มันร้าย จะหลอกใช้แมนเป็นไม้กันพี่ตรัยว่างั้น”“อื้อ…ไว้ค่อยขอโทษทีหลัง” ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกใช้วศินหรอกนะ แต่ฉันมีความจำเป็นจริงๆ “เฮ้อ...ถ้าพี่แกหรือแฟนพี่ตรัยรู้เรื่องนี้เ

    Last Updated : 2024-11-07
  • One night stand!!   บทที่ 8 หนีใจตัวเอง (1)

    “จะสามปีแล้ว” ผมเริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่ควงลูกพี่ลูกน้องมาให้นิกมันเห็นนั่นแหละ ไอ้นี่ก็ชอบจับผิดเรื่องแฟนกำมะลอของผมจัง วันดีคืนดีก็อยากเจอซะงั้น มันแทงกั๊กไม่ให้ผมชอบน้องสาว แต่กลับยอมให้สรไปคบกับวศิน มันน่าถีบจริงๆ “คนนี้จริงจังหวังแต่งงานเลยเปล่า”“ยังไม่รู้ว่ะ” “ยังไง ยังไม่รู้”“ยังไม่รู้ก็คือยังไม่รู้ เอ็งมีอะไร” ผมถามห้วนๆ ชักจะเริ่มไม่ค่อยสบอารมณ์ “ข้าก็แค่ถามเฉยๆ ทำไมต้องมีน้ำโห”“ข้าก็ตอบเฉยๆ ของข้านี่แหละ”“เออๆ จบๆ เดี๋ยวได้ต่อยกันปากแตก ข้าเองก็กลุ้มๆ เรื่องน้องข้าอยู่ด้วย” คำพูดของเพื่อนที่ดังขึ้น ทำเอาผมลืมตัว รีบถามทันที “สรเป็นอะไร”“ไม่รู้ เห็นพักนี้เงียบๆ ซึมๆ แปลกๆ ถามว่าทะเลาะกับแฟนไหม ก็ตอบว่าไม่ สงสัยเครียดเพราะใกล้สอบเทอมสุดท้ายแล้วมั้ง”“เออ…แป๊บๆ น้องเอ็งก็จะเรียนจบแล้วนี่” ผมเออออตามไปด้วย แต่มั่นใจว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้อัปสรผิดปกติ คือตัวผม“อืมม์...ทำงานๆ เดี๋ยวมีออเดอร์ลูกค้ารายใหญ่มา เอ็งจัดการเคลียร์โกดังให้ข้าที จะได้มีที่เก็บ”“โอเค” คุยเรื่องส่วนตัวกันได้ไม่เท่าไหร่ ไอ้นิกก็หวนกลับมาคุยเรื่องงาน ซึ่งผมเองก็ต้องวางเรื่องของอัปสรไว้ชั่วคราว จัดก

    Last Updated : 2024-11-07
  • One night stand!!   บทที่ 9 หนีใจตัวเอง (2)

    “สงสัยจะทะเลาะกับแฟนมามั้งคะ คนไม่มีแฟนแบบพี่นิกไม่มีทางเข้าใจหรอก” ฉันแอบแขวะพี่ชายไปหนึ่งยก อันที่จริงอยากบอกเหลือเกินว่ามีสาวแอบชอบ แต่ไม่เอาดีกว่า ให้รู้กันเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชาตินี้พี่ชายฉันจะได้รู้ไหม เพราะกรดาเองก็ปากแข็ง ไม่สารภาพรักง่ายๆ แน่นอน “ก็ไม่เห็นเป็นไร พี่อยากรวยมากกว่าอยากมีแฟน”“เหอะ...พูดแบบนี้ระวังเถอะ ระวังจะเสียใจทีหลัง”“แล้วเรากับแมนเป็นไง ถึงขั้นไหนกันแล้ว มีอะไรกันยัง” ขณะถามพี่ชายฉันก็ละสายตาจากโทรศัพท์มาจ้องฉันตาเขียวปัด นี่ฉันมีพี่หรือมีพ่อกันเนี่ย...ดุ๊ดุ “ยัง…จับมือยังไม่เคย”“ดีแล้ว พี่ไว้ใจเรานะสร อย่าทำอะไรให้พี่เสียความรู้สึก...โอเค”“สรรู้แล้วค่ะ” ฉันแอบกลืนน้ำลายลงคอ กับวศินฉันไม่เคยแม้แต่จะจับมือ แต่กับตรัยฉันข้ามขั้นไปกว่านั้นมาก นี่ถ้าพี่รู้ มีหวัง...อ๋อย ไม่อยากจะคิดสภาพ คงตายอย่างอนาถแน่นอน “เสาร์อาทิตย์นี้สรขอไปนอนอ่านหนังสือที่บ้านดาได้ไหมคะ และขออยู่จนกว่าจะสอบเทอมสุดท้ายเสร็จได้ไหม”“ได้สิ”“ขอบคุณค่ะ” ฉันรีบขอบคุณทันที เพราะกลัวพี่ชายจะเปลี่ยนใจ ขืนวันหยุดนี้อยู่บ้าน มีหวังได้เจอหน้าตรัยแน่นอน ฉันต้องชิ่งหลบก่อน แล้วค่อยกลับมาเคลียร์

    Last Updated : 2024-11-07

Latest chapter

  • One night stand!!   บทที่ 20 ลมหายใจสุดท้าย (จบ)

    “เอ็งมีอะไรกับสรแล้วใช่ไหม” คำถามของนิก ทำเอาผมสำลักเหล้าที่กำลังดื่มดังพรวด หน้าแดงก่ำ หันมามองมันอย่างสำนึกผิด “มีแล้วว่ะ”“ไอ้เพื่อนเลว” ไม่พูดเปล่า เนติธรยังยกเท้ามาถีบผมอีก ดีที่ผมอาศัยความไวหลบบาทาของมันได้ทัน ไม่อย่างนั้น อาจลงไปนั่งพับเพียบที่พื้นแล้วก็ได้“ข้าขอโทษ แต่ข้ารักของข้า นี่ก็กะจะให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอน้องเอ็งอย่างเป็นทางการอยู่”“อดเปรี้ยวไว้กินหวานหน่อยไม่ได้หรือไง...ห๊ะ!”“ไม่ได้” ผมตอบไปตามตรง นั่นเพราะผมอดเปรี้ยวมาพอแล้ว ถึงขนาดทำตามคำขอของว่าที่พี่เขยไปเสียทุกอย่างแบบนั้น“ข้าจะทำให้เอ็งดูเป็นตัวอย่าง รับรองว่าข้าจะไม่แตะต้องน้องดาจนถึง วันส่งตัวเข้าหอ”“ให้มันจริง”“มาพนันกันไหมล่ะ ว่าไง” เนติธรยักคิ้วท้าทายผม “เอาสิ เอ็งจะเอาอะไรมาพนันกับข้า”“เงินสดแสนนึงเป็นไง”“โอเค” ผมรับปากอย่างไม่ลังเล ซึ่งมั่นใจว่าผมต้องได้เงินสดหนึ่งแสนบาทนี้แน่นอน จากนั้นเราก็เปลี่ยนมาคุยเรื่องธุรกิจของเราที่กำลังไปได้สวยบ้าง คุยไปคุยมา คนข้างๆ ก็ชิ่งหลับไปก่อนผมเสียอีก ผมจึงนั่งกินเหล้าคนเดียวต่ออีกหน่อย พร้อมๆ กับคิดถึงเรื่องของผมกับอัปสรไปด้วย ตั้งแต่รู้ว่าชอบเธอ ผมก็มีเธอเป็น

  • One night stand!!   บทที่ 19 ต้องหาเวลาพิสูจน์

    “ก็พี่คิดถึงเมียนี่ครับ”“ไว้มีโครงการเรียนต่อหรือไปเที่ยว สรจะบอกพี่ตรัยนะคะ” “ครับผม” เสียงทุ้มเอ่ยรับ จากนั้นเราก็ลงไปชั้นล่าง เดินเล่นที่สวนด้วยกัน ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของฉันจะดังขึ้น และคนที่โทรเข้ามาก็ไม่ใช่ใครอื่น พี่ชายของฉันนั่นเองอยู่ไหน กับใคร ทำอะไรอยู่ กลับมาบ้านตอนนี้ได้ไหม นี่คือประโยคคำถามและคำสั่งกลายๆ จากพี่ชายคนเดียวของฉัน พอบอกตรัยไปเขาก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ “พี่ว่าคืนนี้น่าจะได้มอมเหล้าไอ้นิกมันอีกคืน”“บ้า!” ฉันแยกเขี้ยวใส่คนทะลึ่ง ก่อนที่เราสองคนจะกลับไปบ้านของฉันกัน แต่พอมาถึงฉันก็ตาโตเป็นไข่ห่าน เมื่อเห็นยัยดานั่งยิ้มเขินอยู่ในห้องรับแขก ถามไปถามมา ถึงได้รู้ว่าเมื่อเช้าพี่ชายฉันไปหากรดาที่บ้าน บุกไปบอกว่าชอบและขอคบต่อหน้าพ่อกับแม่ของกรดา แถมยังไปเล่าประวัติส่วนตัว หน้าที่การงานให้ผู้ใหญ่ฟังจนละเอียดยิบ ฟังแล้วฉันก็ได้แต่หัวเราะให้พี่ชายตัวเอง ที่บทจะเอาจริงก็เอาจริงเสียจนอึ้งกันไปถ้วนหน้า“แล้วแกตอบว่าไงดา”“ก็คบสิ” กรดานั่งก้มหน้าก้มตาตอบ ส่วนฉันก็หัวเราะชอบใจ คู่นี้เป็นคู่รักสายฟ้าแลบกว่าคู่ของฉันเสียอีก แอบชอบกันอยู่เงียบๆ แต่บทจะสารภาพรักก็เล่นเอาตูมเดีย

  • One night stand!!   บทที่ 18 ยังไม่ทันไรก็เผด็จการซะแล้ว

    “เพิ่งรู้ว่าสรเองก็ทะลึ่ง”“ก็ใช่ว่าสรจะเป็นแบบนี้กับทุกคนนะคะ” ฉันสบตาเขาไปตรงๆ พยายามไม่เขิน แต่สงสัยสีหน้ามันจะออกอาการแน่ๆ “เป็นกับพี่คนเดียวก็พอ...รู้ไหม” เขายื่นมือมาบีบจมูกฉันเบาๆ ก่อนจะถามขึ้น “วันนี้สรว่างไหม”“ว่างค่ะ”“งั้นกินข้าวเสร็จ ไปช่วยพี่ซื้อของหน่อยได้ไหมครับ”“ได้สิคะ” ฉันรับปาก นั่นเพราะวันนี้ฉันเองก็ไม่ได้มีแผนไปที่ไหน ออกไปซื้อของกับตรัยก็คงเพลินไปอีกแบบ เมื่อเรากินข้าวเช้าอิ่มก็พากันออกไปข้างนอก เขาขับรถพาฉันไปห้างสรรพสินค้าที่เน้นแต่ของตกแต่งบ้าน นั่นทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าเขาเคยชวนฉันไปบ้านที่ฉันเดาเอาว่าเขาเพิ่งซื้อ เพราะเมื่อก่อนเขาอยู่คอนโดมิเนียม แต่ฉันปฏิเสธเขาจึงขับรถพาฉันไปนั่งคุยที่สโมสรในหมู่บ้านแทน แต่ความที่รอบข้างมันมืด ฉันจึงมองไม่เห็นบรรยากาศอะไรมากสักเท่าไหร่“พี่ตรัยอยากแต่งบ้านเหรอคะ”“ครับ…ซื้อของเสร็จ เดี๋ยวเราไปบ้านพี่กัน” “ค่ะ” ฉันรับปากแล้วเดินตามเขาไปยังแผนกเครื่องนอน จังหวะหนึ่งตรัยเดินเข้ามากุมมือฉันไว้ขณะที่พนักงานในแผนกก็เดินเข้ามาแนะนำนั่นนี่ตามหน้าที่“พี่เพิ่งซื้อบ้านใหม่ได้ราวๆ เดือนกว่า ยังไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก โดยเฉพาะห้องนอน

  • One night stand!!   บทที่ 17 เสียพลังงาน

    ฉันตื่นมาอย่างสดใส ทั้งๆ ที่เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ ส่วนคนข้างๆ ก็หน้าระรื่นไม่แพ้ฉันสักเท่าไหร่ เห็นแล้วก็หมั่นไส้จนต้องมองค้อนให้อยู่หลายครั้งเช้านี้ตรัยอาสาเข้าครัวเตรียมอาหารเช้าให้ ซึ่งฉันก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะบ่อยครั้งที่เขามานอนค้างที่บ้านแล้วตื่นเช้ามา ฉันก็จะได้กินกับข้าวฝีมือเขา ระหว่างรอฉันก็ชะเง้อชะแง้มองหาพี่ชายไปด้วย แต่น่าแปลกที่ไม่เห็นพี่ชายฉันแม้แต่เงา สงสัยพอสร่างเมาแล้วจะรีบไปหากรดาที่บ้านเป็นแน่ อยากรู้ผลนักว่าป่านนี้จะเป็นยังไง“คิดอะไรอยู่ครับ”“คิดว่า ป่านนี้พี่นิกจะทำอะไรอยู่”“นั่นน่ะสิ” คนในครัวเอ่ยเห็นด้วย สีหน้าดูครุ่นคิดจนคิ้วขมวด “จะสารภาพรักกับยัยดาเลยไหมนะ” ฉันสันนิษฐานไปตามเรื่องตามราว “อาจมีสิทธิ์ เพราะดาไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งสองปี ถ้าไม่สารภาพตอนนี้มันอาจกินแห้วได้” เพราะคิดไปก็คงมีแต่จะฟุ้งซ่าน ฉันจึงรอให้พี่ชายกลับมาค่อยถามน่าจะดีกว่า ก่อนจะหันมาให้ความสนใจผู้ชายตัวโต ที่ตอนนี้กำลังใส่ผ้ากันเปื้อนและยืนทำอะไรอยู่หน้าเตานานสองนาน “ว่าแต่พี่ตรัยทำอะไรอยู่คะ กลิ่นหอมเชียว” กลิ่นหอมๆ ที่ลอยมาเตะจมูก ทำเอาท้องฉันร้องเพราะความหิวเสียแล้วสิ

  • One night stand!!   บทที่ 16 รักดอกจึงหลอกปล้ำ (4)

    “อืมม์…” เสียงครางของเธอช่างน่าฟัง สีหน้าเหยเกทรมานของเธอตอนนี้ก็แสนจะเซ็กซี่ชวนมอง ผมจูบหนักๆ ลงไปบนเนินหน้าอก จูบซับต่ำลงไปกระทั่งรับเม็ดยอดสีสวยเข้าไปในปาก ตวัดหยอกเย้าด้วยลิ้นสลับการดูดดุนจนเธอบิดเกร็ง ครางจนฟังไม่ได้ศัพท์“สรของพี่หวานเหลือเกิน” ผมเอ่ยชม นั่นเพราะอัปสรหอมหวานไปทั้งตัวจริงๆ ผมกลืนกินหน้าอกทั้งสองข้างของเธอจนพอใจ ก่อนจะไซ้ใบหน้า ฝากรอยจูบหนักๆ ต่ำลงไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงหน้าท้องแบนราบ รับรู้ได้ว่าตอนนี้ร่างกายของเธอบิดเกร็ง เสียงหอบหายใจดังต่อเนื่อง“พี่ตรัยขา” เธอเอ่ยเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงแหบพร่า บ่งบอกว่าอารมณ์ของเธอเวลานี้ก็คงกำลังโลดแล่นไม่แพ้ผมแน่นอนผมจูบหนักๆ ตรงท้องน้อยนั่น แล้วลากผ่านริมฝีปากร้อนๆ ลงไปบนเนินเนื้อซึ่งถ้าต่ำลงไปอีกนิดมันคือจุดที่อัปสรหวงมากที่สุด และผมก็ได้ครอบครองมันเป็นคนแรกแต่ผมกลับเปลี่ยนใจไม่สัมผัสตรงนั้นในเวลานี้ โดยเลือกฝังใบหน้าลงไปจูบหน้าขาที่บิดเกร็งจนสั่นเล็กๆ นั่นของเธอ จากนั้นก็ไล้จูบต่ำลงไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงปลายเท้าขวา ก่อนจะจูบไซ้ขึ้นมาเรื่อยๆ จากปลายเท้าซ้ายที่ผมยังไม่ได้สัมผัส ซึ่งผมใช้จังหวะนี้แทรกตัวอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้า

  • One night stand!!   บทที่ 15 รักดอกจึงหลอกปล้ำ (3)

    “แป่ว…งั้นถือเสียว่าสรไม่ได้พูดอะไรนะคะ” “ไม่ได้คิดเสียเมื่อไหร่” นั่นไง ผมว่าแล้วไม่มีผิดว่าไอ้นิกมันต้องคิดไม่ซื่อกับเพื่อนน้องสาวเป็นแน่ สุดท้ายก็จริงอย่างที่สงสัย เพราะถ้าไม่คิดอะไร เวลาไปดูงานที่ต่างประเทศ มันไม่สรรหาของฝากแบบเฉพาะเจาะจง เข้าป่า เข้าซอยมาฝากกรดาหรอก เพราะขนาดผมมันยังไม่สรรหาถึงขนาดนั้นเลย“ห๊ะ!…ว่าไงนะคะ พี่นิกชอบดาเหมือนกันเหรอ”“อื้อ...ชอบ” นี่คือครั้งแรกที่ผมเห็นเนติธรเขิน เขินจนหน้าแดง หูแดง เขินชนิดที่ว่าสามารถดื่มเหล้าเพียวๆ ได้สบาย “แหม…ทำมาเป็นเก๊ก สรไม่บอกดาหรอกว่าพี่นิกชอบ พี่นิกต้องบอกเพื่อนสรเอง อ้อ…เร็วๆ ด้วยนะคะ เห็นว่าอีกไม่กี่วัน ดาจะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว”“งั้นเดี๋ยวพี่มา”“พี่นิกจะไปไหน” เสียงของอัปสรดังขึ้น พร้อมกับเข้าไปห้ามพี่ชายของเธอไว้ “ไปบ้านดา”“แต่นี่มันดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยไปก็ได้มั้งคะ อีกอย่างพี่ก็เมาแล้วด้วย ขับรถตอนเมามันอันตราย”“งั้นพี่กลับไปกินเหล้าต่อก็ได้ มาเลยไอ้ตรัย ไม่ต้องไปอยู่ใกล้น้องข้า”“เอ้า! ยังจะมาหวงอะไรตอนนี้” ผมเอ่ยขึ้นทันที ก่อนจะมองหน้าอัปสรอย่างขอความเห็นใจ กระทั่งถูกขัดจากเนติธรอีกยก “ก็ข้าชิน สรกลับห้

  • One night stand!!   บทที่ 14 รักดอกจึงหลอกปล้ำ (2)

    “อะไร” น้ำเสียงของคนข้างๆ เริ่มยืดๆ บ่งบอกว่าเมาเข้าแล้ว “เอ็งรับปากข้ามาก่อน ว่าจะไม่โกรธ”“เออ…จะพูดอะไรก็พูดมา” ผมสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ สองสามครั้งเพื่อรวบรวมความกล้าแล้วจึงสารภาพออกไป “ข้าชอบน้องสาวเอ็งจริงๆ นะเพื่อน ชอบมานานหลายปีแล้ว แต่ที่ไม่กล้าบอกเอ็งเพราะเอ็งขอข้าไว้ว่าห้ามคิดอะไรกับสรเด็ดขาด แต่ความรู้สึกคนเรามันห้ามกันไม่ได้ ข้าขอคบกับน้องเอ็งได้ไหม”“ไม่ได้” คำตอบของไอ้นิก มันทำให้ผมเหมือนถูกค้อนตีหัว“ทำไมไม่ได้วะ”“สรมีแฟนแล้ว ส่วนเอ็งก็มีแฟนแล้ว จะมาคบกันได้ยังไง ไอ้นี่” พูดจบพี่ชายของคนที่ผมรักก็หยิบแก้วเหล้าขึ้นดื่มแบบรวดเดียวหมด ผมจึงทำหน้าที่ชงให้อีกแก้ว จะได้ไม่ขาดความต่อเนื่อง “สรเลิกกับแฟนแล้ว ส่วนข้าก็ไม่เคยมีแฟน”“เอ็งรู้ได้ไง ว่าสรเลิกกับแมนแล้ว” ไอ้นิกมันเริ่มมองผมตาเขียวปัดเข้าให้แล้ว ส่วนผมก็ขึ้นขี่หลังเสือแล้วนี่ เรื่องอะไรจะลงง่ายๆ “สรบอกข้าเอง”“แล้วที่บอกว่าเอ็งไม่เคยมีแฟนคืออะไร น้องน้ำหวานคนที่แกควงมาให้ข้าเห็นบ่อยๆ นั่นใคร แม่ซื้อแกเหรอ...ห๊ะ!”“น้ำหวานเป็นลูกพี่ลูกน้องข้าไม่ใช่แฟน ข้าก็แค่ควงมาบังหน้าให้เอ็งสบายใจว่าข้ามีแฟนก็เท่านั้นเอง”“นี่เอ็

  • One night stand!!   บทที่ 13 รักดอกจึงหลอกปล้ำ (1)

    “พี่ลบจูบแมนออกให้แล้ว ต่อจากนี้ไปห้ามให้ใครจูบ นอกจากพี่...โอเคนะ”“อื้อ” ฉันพยักหน้ารับ และตรัยก็จูบฉันอีก พอถอนจูบออก เขาก็กระซิบถามฉัน สีหน้า แววตาของเขาที่แสดงออก ทำเอาใจที่สั่นอยู่แล้วของฉันมันยิ่งสั่นเข้าไปอีก เดี๋ยวก็ปล้ำเลยนิ “คราวนี้สรมีอะไรจะบอกพี่ไหม”“บอกอะไร ไม่มี” ต่อให้ปากไม่ได้เอ่ย แต่สายตาของฉันมันก็คงสารภาพทุกอย่างออกไปจนหมดแล้วแน่ๆ “บอกว่าชอบพี่ให้ได้ยินอีกครั้งได้ไหม พี่อยากฟัง”“สรชอบพี่ตรัยค่ะ” ฉันนิ่งเพื่อรวบรวมความกล้าอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เขาอยากฟังออกไป “จูบอีกได้หรือเปล่า เพราะพี่คิดถึงแต่จูบของสรจนนอนไม่หลับมาตั้งหลายคืน” คำพูดอ้อนๆ มันช่างขัดกับบุคลิกของเขานัก ฉันจึงแหวใส่แต่สุดท้ายเราก็จูบกันอีกและครั้งนี้มันก็นานกว่าครั้งแรกมาก ถ้าทำได้ ฉันอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้ อยากให้มีแค่เราสองคน“พรุ่งนี้ค่ำๆ พี่จะเข้าไปคุยเรื่องของเรากับนิก”“พรุ่งนี้เลยเหรอคะ”“ครับ พี่ไม่อยากรออะไรอีก” “แผนคืออะไร” ฉันรอฟัง แต่ตรัยกลับยังไม่มีแผนด้วยซ้ำ แบบนี้งานจะล่มไหมหนอ “พี่ยังคิดไม่ออก”“เอ้า! จะเชื่อใจได้ไหมเนี่ย”“ได้สิ ดึกแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้านดา หรือสรจะเป

  • One night stand!!   บทที่ 12 สุขมากจนแทบจะบินได้

    “งั้นไปเจอกันที่บ้านนะแก ตอนนี้ฉันง๊วงง่วง ขอกลับก่อนแล้วกันเนอะ”“ยัยดา นี่จะทิ้งฉันไว้เลยเหรอ” ฉันหันมามองกรดา ที่ทำหน้าทะเล้นใส่จนน่าตี“ไม่ได้ทิ้ง แค่ให้แกไปกับพี่ตรัย ส่วนฉันก็กลับก่อนไง ไปล่ะ” เอ่ยจบกรดาก็กลับเข้าไปในรถ สตาร์ทเสร็จก็ขับออกไปทันที ปล่อยให้ฉันยืนมองตามตาปริบๆ กระเป๋าก็ยังอยู่ในรถ ตอนนี้ในมือมีแค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียว ไม่มีเงินสักบาทด้วย “พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”“แต่สรว่า…” ฉันอึกๆ อักๆ นั่นเพราะยังลังเลที่จะคุยอะไรๆ กับตรัยในตอนนี้ ต่อให้คุยกัน อะไรๆ มันก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนักหรอก สู้ยังคงหลบหน้าแล้วปล่อยให้มันผ่านไปจะดีกว่า “ถ้าสรอยากรู้ว่าทำไมพี่ถึงทำแบบนั้น เราต้องคุยกัน”“โอเคค่ะ” ไหนๆ มันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว คุยกันไปเลยก็ดี จะได้เข้าใจและจะได้จบ ตรัยพาฉันไปที่รถ จากนั้นเขาก็ขับออกไปจากปั๊มน้ำมัน“พี่ตรัยจะพาสรไปไหนคะ”“บ้านพี่”“สรไม่ไปบ้านพี่” ฉันรีบค้าน นั่นทำให้เขาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ “ทำไม กลัวพี่ปล้ำเหรอ”“กลัวสิ”“ครั้งแรกมันน่ากลัวกว่ากันตั้งเยอะ” คำพูดของตรัย ทำให้ฉันหน้าแดงก่ำ ตัวร้อนๆ หนาวๆ ยังกับคนเป็นไข้ แต่ภายในร่างกายกลับวูบๆ วาบๆ

DMCA.com Protection Status