แชร์

บทที่ 7 พูดถึงแฟน

“เดี๋ยวๆ ทำไมแกรู้ว่าต้องกินยาคุมฉุกเฉินด้วย” อีกไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านขายยา แต่ฉันกลับรั้งกรดามาถาม

“หืม…ข้อมูลพวกนี้ในเฟส ในกูเกิ้ลก็มีย่ะ ฉันก็ส่องหาสาระใส่ตัวเองบ้างสิ”

“เออๆ”

“รีบไปๆ” กรดาตัดบท ก่อนจะผลักประตูเข้าร้านขายยาไป จากนั้นก็สั่งยาคุมฉุกเฉินพร้อมน้ำมาหนึ่งขวด พอออกจากร้านขายยามาได้ ก็จัดแจงให้ฉันกินยาทันที พร้อมกับกำชับว่าห้ามลืมกินอีกเม็ดเด็ดขาด 

จากนั้นเราก็ขึ้นไปนั่งคุยกันที่ดาดฟ้าของอเวนิว ที่ถูกออกแบบเป็นโซนนั่งเล่นแบบสามร้อยหกสิบองศา ลมเย็นๆ ที่พัดโกรกไปมา ช่วยให้อากาศรอบๆ ตัวเย็นขึ้นมาได้มาก แต่ใจฉันมันกลับยังคงร้อนรุ่มด้วยเรื่องเมื่อคืน 

“แล้วนี่แกเอาไงกับแมน ยังจะบอกเลิกอยู่ไหม” 

“ยังก่อน ฉันกะจะควงแมนอีกสักระยะ เพื่อให้ฉันกับพี่ตรัยห่างกันมากกว่านี้หน่อย รอจังหวะดีๆ อาจหลังสอบค่อยบอกเลิก” นั่นเพราะสิ่งสำคัญสำหรับฉันอีกหนึ่งอย่างคือการสอบเทอมสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งใกล้เข้ามาทุกที 

“แกนี่มันร้าย จะหลอกใช้แมนเป็นไม้กันพี่ตรัยว่างั้น”

“อื้อ…ไว้ค่อยขอโทษทีหลัง” ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกใช้วศินหรอกนะ แต่ฉันมีความจำเป็นจริงๆ 

“เฮ้อ...ถ้าพี่แกหรือแฟนพี่ตรัยรู้เรื่องนี้เข้านะ ฉันว่าฟ้าถล่มแน่นอน”

“แกก็เหยียบไว้ อย่าให้พี่ฉันรู้เด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะเอาความลับของแกไปบอกพี่ชายฉัน ว่าแกชอบพี่นิก” คำขู่ของฉันทำเอากรดาพยักหน้าหงึกหงักรับทันที

ฉันกับกรดา นอกจากจะเป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว อะไรหลายๆ อย่างของเราก็แอบจะคล้ายกันอีกต่างหาก ฉันเคยแอบชอบตรัย ก่อนจะตัดใจเมื่อรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว ส่วนกรดาก็แอบชอบพี่ชายฉันมาตั้งหลายปี รู้ทั้งรู้ว่าพี่ฉันยังไม่มีแฟนก็ไม่ยอมสารภาพรักออกไปเสียที ไม่รู้รออะไร 

“อย่าทำนะแก อย่าเด็ดขาด”

“งั้นแกก็จงเหยียบเรื่องนี้ไว้ซะ”

“เหยียบสองตีนเลยอ่ะ” ประโยครับปากของกรดา ทำเอาฉันยิ้มออก ดูท่าเพื่อนรักจะไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูพี่ชายเธอจริงๆ 

“ดีมาก”

“เฮ้อ...แกนะแก หลังจากนี้ห้ามเมาอีกรู้ไหม”

“เออ…รู้แล้วน่า ไม่เมาแล้ว” ฉันไม่มีทางเมาแล้วทำเรื่องอย่างเมื่อคืนอีกเด็ดขาด เข็ดแล้ว เฮ้อ... 

สามวันแล้วที่ผมไม่ได้คุยอะไรกับอัปสรเลย เป็นสามวันที่เกือบทำให้ผมเป็นบ้า ผมพยายามโทรศัพท์ไปหา แต่เธอก็ไม่รับสายสักครั้ง จึงเปลี่ยนมาเป็นการส่งข้อความไปหาแทน แต่เธอกลับไม่แม้จะเปิดอ่านมันเหมือนกัน หลังเกิดเหตุการณ์วันนั้น ผมตั้งใจให้พื้นที่ส่วนตัวกับเธอจึงยอมกลับง่ายๆ แต่ไม่ใช่ให้เธอหายไปแบบนี้ 

ยิ่งเธอทำเหมือนไม่มีอะไร ผมยิ่งกระวนกระวาย ทั้งๆ ที่ผมน่าจะคุมตัวเองได้ดีแท้ๆ ผู้ชายอย่างผมได้แอบหลงรักน้องสาวเพื่อนสนิท ผมหลงรักเธอตั้งแต่แรกเห็นก็ว่าได้ กว่าจะรวบรวมความกล้าเดินไปสารภาพก็ใช้เวลาเป็นปี แต่ผมกลับถูกสะกัดดาวรุ่งโดยพี่ชายของเธอ ซึ่งมันคือไอ้นิก ที่เกิดหวงน้องสาวขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย 

แต่ผมก็ยังมีความหวัง เพราะถ้าเธอยอมรับรัก ผมก็จะลุยให้เต็มที่ แต่เธอกลับนิ่งจนผมใจเสีย และคิดว่าเธอคงไม่ได้ชอบผมเหมือนที่ผมชอบเธอ ผมจึงถอยห่างและเลือกจะควงลูกพี่ลูกน้องบังหน้าว่านั่นคือแฟนของผม แต่เมื่อวันก่อน เรากลับมีอะไรกันแล้ว

“เฮ้อ...” ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ มันกลัดกลุ้มบอกไม่ถูก คืนนั้นผมได้จูบเธอ ก่อนจะตัดใจให้จบเพียงแค่จูบ ทั้งๆ ที่ผมถอยออกมาแล้ว แต่กลับหวนเข้าไปหาเธอใหม่และเราก็มีอะไรกัน

พอเข้าใจได้ว่าเวลานั้นเธอเมา ส่วนผมนี่สิมีสติเต็มร้อย สติที่น่าจะพาตัวเองออกมาจากวังวนของความปรารถนาได้ แต่กลับเลือกที่จะทำตามอารมณ์ และหลังจากนั้นเธอก็เฉยจนผมเป็นบ้าอย่างตอนนี้ 

“เฮ้อ...”

“เอ้า! เป็นอะไรของเอ็งไอ้ตรัย นั่งถอนหายใจเฮือกๆ อกหักมาหรือไง” ตรัยคือชื่อของผมครับ ส่วนเจ้าของประโยคคำถามเมื่อครู่ คือ เนติธรหรือนิก เพื่อนสนิทของผมเอง 

เรารู้จักกันมาเกือบสิบปีแล้ว เรียนก็เรียนมาด้วยกัน พอจบก็ยังออกมาทำธุรกิจนำเข้าด้วยกันอีก และที่สำคัญผมรักน้องสาวของมันมาก แต่มันกลับหวง จนสั่งห้ามไม่ให้ผมชอบ ถ้านิกเกิดรู้ว่าผมกับสรได้เสียกันแล้ว หัวผมอาจแตกจนหมอไม่รับเย็บแน่นอน 

“เปล่า”

“เปล่าแล้วเอ็งเป็นอะไร”

“กลุ้มใจนิดหน่อย” ผมตอบเลี่ยงๆ แต่ดูเหมือนสีหน้าของผมมันจะยังคงผิดปกติ ไอ้นิกก็เลยทำการสันนิษฐานไปตามเรื่องตามราว 

“ทะเลาะกับแฟนมา”

“ก็ไม่เชิง”

“เออ…พูดถึงแฟนเอ็ง นี่เอ็งคบกันมากี่ปีแล้วนะ”

 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status