Share

บทที่ 11 อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“แมน ทำอะไร ปล่อย” เสียงของฉันดังห้วนขึ้น สีหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ส่วนกรดาที่จะเข้ามาช่วยกลับถูกเพื่อนของวศินขวางเอาไว้ 

“ทำไม เราเป็นแฟนกันนะสร จะกอด จะจูบหรือจะมีอะไรกันก็ได้ไม่ใช่เหรอ”

“แต่เราไม่ชอบ”

“ไม่ชอบแล้วสรจะมาคบกับเราทำไม คนเป็นแฟนกันก็ต้องมีอะไรๆ กันได้สิ” คำพูดเห็นแก่ตัวของวศิน ทำเอาฉันเดือดปุดๆ 

“เห็นแก่ตัว ปล่อย!”

“แมน ปล่อยสร มากอดอะไรเพื่อนดาตรงนี้ น่าเกลียด” ในเมื่อมาถึงตัวไม่ได้ กรดาก็พูดขึ้นอีกคน สีหน้าของเพื่อนฉันตอนนี้บ่งบอกว่าโกรธมากเช่นกัน 

“ถ้าน่าเกลียดก็ไปบ้านเราไหมล่ะ ส่วนดาก็ให้ไอ้ต่อไปส่ง เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ดึกๆ แบบนี้หาอะไรสนุกๆ ทำกันดีกว่า” วศินพูดได้หน้าตาเฉย ส่วนฉันยิ่งรังเกียจเขามากขึ้นไปอีก 

“ไม่!”

“อะไรวะ นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ จะหวงตัวไปถึงไหน รู้หรอกว่าก็อยาก” ประโยคที่ได้ยิน มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่วศินทำมันขาดเองกับมือ ฉันรวบรวมแรงแล้วฮึดสู้ จนสามารถเป็นอิสระ และค่าตอบแทนของเขาที่พูดแบบนั้นกับฉัน คือสิ่งนี้…

เพี้ยะ!

“ถ้าเมาจนคุมสติตัวเองไม่ได้ เราก็จะไม่ถือโทษ แต่ถ้านี่มันคือสันดานเห็นแก่ตัวของแมน เราก็เลิกกัน” ฉันตบหน้าวศินไปจนเขาหน้าหงาย จากนั้นก็บอกเลิก แม้เราจะจบไม่สวย ฉันก็ไม่แคร์

“เราไม่เลิก”

“ปล่อย ปล่อยเรานะแมน…” ฉันถูกรวบเข้าไปกอด และวศินก็บังอาจจูบฉัน แม้มันจะเป็นแค่จูบแผ่วๆ ไม่ได้ดูดดื่ม แต่ริมฝีปากของเขามันก็สัมผัสริมฝีปากของฉันไปแล้ว นั่นทำให้ฉันโกรธจนเลือดขึ้นหน้า จูบนี้มันไม่ได้ทำให้ฉันฟินหรืออะไรสักนิด 

เพราะเมาทำให้วศินมีกำลังน้อยลงไปมาก ฉันผละออกจากเขาสุดแรงเกิด ก่อนจะตบหน้าเขาไปฉาดใหญ่อีกครั้ง แรงแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่ามือฉันชาไปเลยทีเดียว 

เพี้ยะ! 

“แต่เราต้องการเลิก” พูดจบฉันก็เดินไปจูงมือกรดา จากนั้นเราก็เดินตรงไปที่รถด้วยกัน ฉันได้ยินเสียงวศินตะโกนตามหลัง แต่ก็ไม่ได้หันไปมองให้เสียสายตา 

“สร...สร โธ่โว้ย!”

“มาฉันขับรถเอง” กรดาอาสา ก่อนจะคว้ากุญแจรถฉันไปถือ จากนั้นก็ไปทำหน้าที่คนขับ เพราะตอนนี้อารมณ์ฉันมันปรี๊ดมาก ขืนขับรถอาจเกิดอุบัติเหตุเอาได้ง่ายๆ 

“ผู้ชายเฮงซวย...อี๋!” ฉันลูบหน้าลูบแก้ม ใช้หลังมือขยี้ริมฝีปากตัวเองจนบวมเจ่อ ลิปสติกสีสวยที่ทามาเลอะเต็มหน้าไปหมด สภาพดูไม่ได้แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ

“แกแวะเซเว่นที ฉันจะไปซื้อน้ำเกลือมาบ้วนมาก”

“เออๆ” ยัยดารับปาก จากนั้นก็แวะปั๊มน้ำมัน พุ่งไปจอดรถหน้าเซเว่นให้ฉัน พอรถจอดเสร็จ ฉันก็ลงไปซื้อน้ำเกลือทั้งๆ ที่หน้าก็ดูไม่ได้แบบนั้นแหละ ไม่สนใจสายตาใครแล้วในตอนนี้

พอได้น้ำเกลือมา ฉันก็ตรงดิ่งไปห้องน้ำ จัดการล้างหน้า บ้วนปากจนน้ำเกลือที่ซื้อมาหมดทั้งขวด ก่อนจะกลับมาที่รถด้วยสภาพหน้าสด หัวเปียก น้ำนี่หยดติ๋งๆ จนยัยดาต้องไปควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาส่งให้ฉัน

“แก…โอเคไหมอ่ะเนี่ย” 

“ไม่โอเคเลยว่ะ สงสัยพรุ่งนี้ต้องไปวัดรดน้ำมนต์” ฉันยืนพิงรถแล้วเอ่ยขึ้น มือก็เช็ดหน้าไปด้วย โดยไม่ได้เอะใจว่ารถคันที่จอดอยู่ถัดไปคือรถของคนที่ฉันกำลังจะพูดถึง

“โอ๊ย...แก จูบพี่แมนมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ”

“เออดิ ไม่ได้ฟิน ไม่ได้ห่าอะไรเลย” 

“ผิดกับจูบของพี่ตรัยมากไหม” ยัยดาได้ทีแซวฉัน

“มาก พี่ตรัยดีกว่าเยอะ”

“ที่ดีกว่าเยอะ เพราะแกมีใจให้พี่ตรัยนั่นแหละ จริงไหม”

“อื้อ…คงงั้นแหละ แกก็รู้ว่าฉันชอบพี่เขามาตั้งนานแล้ว แต่พี่เขาไม่ได้ชอบฉันเหมือนที่ฉันชอบเขาหรอก ไม่งั้นเขาคงไม่มีแฟนใหม่ ทั้งๆ ที่เพิ่งขอฉันเป็นแฟนได้ไม่ถึงสองอาทิตย์” 

“เอ้า! ก็แกมัวแต่ลีลาไม่ตอบรับรักไปเสียทีนี่นา บวกกับพี่ชายแกก็แทงกั๊กไว้ซะขนาดนั้น พี่ตรัยก็ใส่เกียร์ถอยไว้ก่อนสิ”

“ใส่เกียร์ถอยแต่ก็ไม่ต้องไปคบใครก็ได้มั้ง ส่วนเรื่องพี่นิก ถ้าพี่ตรัยเขาชอบฉันจริงๆ เขาก็ต้องสู้สิ ไม่ใช่ทำแบบที่ผ่านๆ มา”

“พี่ขอโทษ ที่ใส่เกียร์ถอยจนสรเข้าใจพี่ผิด” เสียงที่ดังขึ้น ทำเอาฉันหันขวับไปมอง ก่อนจะเห็นว่าตรัยยืนอยู่ไม่ไกล เขามายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วได้ยินอะไรบ้างไหม โอ๊ยยย...ฉันจะทำยังไงดี 

“พะ…พี่ตรัย มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็นานพอจะได้ยินอะไรๆ โดยเฉพาะประโยคที่ว่าสรชอบพี่” นั่นไง...คิดไว้แล้วไม่มีผิด วันนี้ทำไมโลกถึงได้กลมนัก ดั้นมาเจอเขาที่ปั๊มน้ำมัน แถมยังจอดรถติดกันอีก

 

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status