แชร์

บทที่ 14 รักดอกจึงหลอกปล้ำ (2)

“อะไร” น้ำเสียงของคนข้างๆ เริ่มยืดๆ บ่งบอกว่าเมาเข้าแล้ว 

“เอ็งรับปากข้ามาก่อน ว่าจะไม่โกรธ”

“เออ…จะพูดอะไรก็พูดมา” ผมสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ สองสามครั้งเพื่อรวบรวมความกล้าแล้วจึงสารภาพออกไป 

“ข้าชอบน้องสาวเอ็งจริงๆ นะเพื่อน ชอบมานานหลายปีแล้ว แต่ที่ไม่กล้าบอกเอ็งเพราะเอ็งขอข้าไว้ว่าห้ามคิดอะไรกับสรเด็ดขาด แต่ความรู้สึกคนเรามันห้ามกันไม่ได้ ข้าขอคบกับน้องเอ็งได้ไหม”

“ไม่ได้” คำตอบของไอ้นิก มันทำให้ผมเหมือนถูกค้อนตีหัว

“ทำไมไม่ได้วะ”

“สรมีแฟนแล้ว ส่วนเอ็งก็มีแฟนแล้ว จะมาคบกันได้ยังไง ไอ้นี่” พูดจบพี่ชายของคนที่ผมรักก็หยิบแก้วเหล้าขึ้นดื่มแบบรวดเดียวหมด ผมจึงทำหน้าที่ชงให้อีกแก้ว จะได้ไม่ขาดความต่อเนื่อง 

“สรเลิกกับแฟนแล้ว ส่วนข้าก็ไม่เคยมีแฟน”

“เอ็งรู้ได้ไง ว่าสรเลิกกับแมนแล้ว” ไอ้นิกมันเริ่มมองผมตาเขียวปัดเข้าให้แล้ว ส่วนผมก็ขึ้นขี่หลังเสือแล้วนี่ เรื่องอะไรจะลงง่ายๆ 

“สรบอกข้าเอง”

“แล้วที่บอกว่าเอ็งไม่เคยมีแฟนคืออะไร น้องน้ำหวานคนที่แกควงมาให้ข้าเห็นบ่อยๆ นั่นใคร แม่ซื้อแกเหรอ...ห๊ะ!”

“น้ำหวานเป็นลูกพี่ลูกน้องข้าไม่ใช่แฟน ข้าก็แค่ควงมาบังหน้าให้เอ็งสบายใจว่าข้ามีแฟนก็เท่านั้นเอง”

“นี่เอ็งหลอกข้ามาตลอดเลยอย่างนั้นเหรอ” เสียงตบโต๊ะดังขึ้นฉาดใหญ่ ผมกับเนติธรสบตากันตรงๆ 

“เออ”

“ไอ้นี่ วอนโดนถีบ” ไม่พูดเปล่า มันยังยกขาขึ้นมาทำท่าจะถีบผมอีกต่างหาก 

“สรุปว่าไง เอ็งจะไฟเขียวให้ข้าคบสรได้ไหม”

“อยากคบก็คบไปสิ ข้าไม่ได้ว่าอะไร” ประโยคที่ได้ยินจากปากของเพื่อนนิก ทำเอาผมถึงกับสตั้นไปสามวิ มองหน้ามันพร้อมทำตาปริบๆ หรือผมจะหูฝาดได้ยินอะไรแว่วไปเอง

“ตะกี้เอ็งพูดว่าอะไรนะ”

“ข้าบอกเอ็งว่า ถ้าอยากคบสรก็คบไปสิ ไม่ได้ว่าอะไร” คราวนี้ผมได้ยินชัดเต็มสองหู ดีใจจนอยากคว้ามันเข้ามากอดมาจูบเสียจริงๆ 

“เอ็งพูดแล้วห้ามเปลี่ยนใจนะเว้ย” หน้าของผมตอนนี้คงระรื่นมากแน่ๆ นั่นเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคแบบนี้จากไอ้นิกมันสักเท่าไหร่ 

“ไม่เปลี่ยน”

“แน่ใจนะ”

“เออ…แต่ถ้าเอ็งยังเซ้าซี้ไม่เลิก ข้ามีเปลี่ยนใจแน่”

“โอเคๆ ไม่ทำ” ผมนี่รีบรับปากทันที ความอัดอั้น ความอึดอัดที่สะสมมานานค่อยๆ หายไปจากใจผม มันเหมือนยกภูเขาออกจากอกไม่มีผิด คุยงานกับลูกค้าที่ว่าเคี่ยวมากๆ ยังไม่ยากเท่ากับคุยเรื่องนี้เลย 

“แต่ข้ายังสงสัยอยู่อย่าง ทำไมก่อนหน้านี้เอ็งถึงห้ามไม่ให้ข้าคบกับสรว่ะ”

“ก็น้องข้ายังเด็ก เกิดหลงความรักจนไม่ยอมเรียน พ่อกับแม่ก็คงผิดหวังในตัวข้าแย่น่ะสิ อีกอย่างเอ็งก็เพิ่งเริ่มลงมือทำธุรกิจกับข้า ง่ายๆ นะ ก็คือกำลังก่อร่างสร้างตัว เอ็งต้องพิสูจน์ตัวเอง ต้องมีงานทำที่ดี เพราะข้าไม่อยากให้น้องไปกัดก้อนเกลือกินกับผู้ชายที่ดูแลน้องข้าไม่ได้หรอกโว้ย”

“แล้วทำไมเอ็งถึงยอมให้สรไปคบกับแมน”

“ลองใจเอ็งไง” คำตอบของเนติธร ทำเอาผมอยากถีบมันเข้าให้บ้าง คิดยังไงมาลองใจผมเรื่องแบบนี้ เดี๋ยวเถอะ 

“ไอ้นี่ มันน่าตัดเพื่อนกันซะดีไหม” 

“เอาเป็นว่า หลังจากนี้ข้าไม่ขวางทางรักของเอ็งกับสรอีกต่อไปแล้ว โอเคไหม เพราะสรเองก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว ส่วนเอ็งหน้าที่การงานก็ผ่าน” จะไม่ให้โอเคได้ยังไง ก็ผมลุยธุรกิจมาด้วยกันตั้งแต่ต้น รู้ทุกซอกทุกมุม และคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันกำลังไปได้สวย จนมีโอกาสเติบโตได้มาก อายุน้อยร้อยล้านอยู่ใกล้แค่เอื้อม 

“ขอบคุณมากครับคุณเพื่อน”

“สร...สรได้ยินพี่ไหม ลงมาหาพี่หน่อย” เสียงของเนติธรดังขึ้นเพื่อเรียกน้องสาวที่อยู่ชั้นบนให้ลงมาหา ไม่นานเธอก็เดินลงมาตามคำเรียกนั้น ผมส่งยิ้มให้เธอ เพื่อให้เธอสบายใจว่าทุกอย่างไม่มีปัญหาอะไรแล้ว 

“มีอะไรคะพี่นิก”

“ไอ้ตรัยมันสารภาพว่ารักสร มันจะขอคบกับสร สรว่าไง”

“แล้วพี่นิกว่าไง” เธอตอบอายๆ แถมยังถามพี่ชายกลับอีกต่างหาก 

“เอ้า! จะมาถามพี่ทำไม ถามใจตัวเองสิ”

“คบค่ะ”

“ก็แค่นี้แหละ ไปๆ กลับขึ้นห้องไปได้แล้ว” พอฟังคำตอบเสร็จ เนติธรก็ไล่น้องสาวกลับขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง 

“พี่นิก สรเองก็มีอะไรจะบอก”

“อะไร”

“ยัยดาชอบพี่นิก แอบชอบมาตั้งนาน พี่นิกคิดอะไรกับเพื่อนสรไหม”

“ไม่ได้คิด”

 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status