แชร์

บทที่ 15 รักดอกจึงหลอกปล้ำ (3)

“แป่ว…งั้นถือเสียว่าสรไม่ได้พูดอะไรนะคะ” 

“ไม่ได้คิดเสียเมื่อไหร่” นั่นไง ผมว่าแล้วไม่มีผิดว่าไอ้นิกมันต้องคิดไม่ซื่อกับเพื่อนน้องสาวเป็นแน่ สุดท้ายก็จริงอย่างที่สงสัย เพราะถ้าไม่คิดอะไร เวลาไปดูงานที่ต่างประเทศ มันไม่สรรหาของฝากแบบเฉพาะเจาะจง เข้าป่า เข้าซอยมาฝากกรดาหรอก เพราะขนาดผมมันยังไม่สรรหาถึงขนาดนั้นเลย

“ห๊ะ!…ว่าไงนะคะ พี่นิกชอบดาเหมือนกันเหรอ”

“อื้อ...ชอบ” นี่คือครั้งแรกที่ผมเห็นเนติธรเขิน เขินจนหน้าแดง หูแดง เขินชนิดที่ว่าสามารถดื่มเหล้าเพียวๆ ได้สบาย 

“แหม…ทำมาเป็นเก๊ก สรไม่บอกดาหรอกว่าพี่นิกชอบ พี่นิกต้องบอกเพื่อนสรเอง อ้อ…เร็วๆ ด้วยนะคะ เห็นว่าอีกไม่กี่วัน ดาจะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว”

“งั้นเดี๋ยวพี่มา”

“พี่นิกจะไปไหน” เสียงของอัปสรดังขึ้น พร้อมกับเข้าไปห้ามพี่ชายของเธอไว้ 

“ไปบ้านดา”

“แต่นี่มันดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยไปก็ได้มั้งคะ อีกอย่างพี่ก็เมาแล้วด้วย ขับรถตอนเมามันอันตราย”

“งั้นพี่กลับไปกินเหล้าต่อก็ได้ มาเลยไอ้ตรัย ไม่ต้องไปอยู่ใกล้น้องข้า”

“เอ้า! ยังจะมาหวงอะไรตอนนี้” ผมเอ่ยขึ้นทันที ก่อนจะมองหน้าอัปสรอย่างขอความเห็นใจ กระทั่งถูกขัดจากเนติธรอีกยก 

“ก็ข้าชิน สรกลับห้อง ส่วนเอ็งจะกินไม่กินเหล้าเนี่ย ถ้าไม่กิน...นู่น ประตู กลับไปได้แล้ว”

“พอรู้ว่าสาวที่ชอบจะไปเรียนต่อเมืองนอก นี่เปลี่ยนอารมณ์มาโหดเลยนะเอ็ง” คำแซวของผม ยิ่งทำให้เนติธรเขิน น่าเสียดายที่แบตโทรศัพท์ของผมมันหมดไปแล้ว จึงไม่ได้อัดวีดีโอต่อ ไม่อย่างนั้นมันคงได้เห็นสีหน้าเป็นหมาหงอยของตัวเองตอนนี้แน่ๆ 

“ไหวแน่นะคะพี่ตรัย” อัปสรเดินเข้ามาสะกิดถามผม 

“ไหวครับ ถ้าไอ้นิกมันหลับ เดี๋ยวพี่ขึ้นไปบอก”

“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ ก่อนจะยอมกลับขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นบน ส่วนผมก็ชนแก้วกับเจ้าของบ้านอย่างบ้าคลั่ง เพราะจงใจมอมเหล้ามันนั่นเอง กระทั่งเนติธรน็อกคาแก้วเหล้า

“นิก...นิก...ไอ้นิก” ผมสะกิดเรียกมันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ กลับมา ผมจึงยิ้มมุมปากอย่างเข้าทาง 

พอจัดการเอานิกนอนบนโซฟาได้ ผมก็ขึ้นไปเคาะห้องบอกอัปสร แต่พอเห็นเธอ แทนที่จะบอก กลับอดใจไม่อยู่คว้าเธอมากอด จากนั้นผมก็รังแกเธอสารพัด ทั้งกอด ทั้งหอมและจูบเธออย่างดูดดื่ม มือไม้ของผมมันก็เริ่มรุกล้ำสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวที่เธอสวมเพื่อสัมผัสร่างกายและหน้าอกของเธอ

ผมได้ยินเสียงอัปสรค้าน แต่มันก็เบาแสนเบาจนผมไม่คิดจะทำตาม เวลานี้ความต้องการของผมมันพวยพุ่งเหมือนลาวา ยิ่งถูกกระตุ้นด้วยเหล้าที่กินเข้าไปหลายแก้ว มันก็ยิ่งทำให้ผมร้อนรุ่ม

“พะ…พี่ตรัย ปล่อยสรนะ เดี๋ยวพี่นิกมาเห็น” เธอผลักผมให้ออกห่างด้วยแรงที่มีอยู่น้อยนิด พร้อมกับเอากำปั้นทุบหัวไหล่ผมไปหลายครั้ง

เวลานี้อัปสรเขินจนเธอแทบไม่กล้าสู้หน้าผม แก้มใสแดงระเรื่อจนผมอดไม่ได้โน้มใบหน้าลงไปหอมฟอดใหญ่

“ไอ้นิกมันเมา ตื่นอีกทีคงสายๆ นู่น”

“อ้อ…นี่พี่ตรัยมอมเหล้าพี่ชายสรอย่างนั้นเหรอ” 

“เปล่า…แค่เหตุการณ์มันพาไปก็เท่านั้นเอง” ผมเฉไฉ ทั้งๆ ที่รู้เต็มอกว่าผมจงใจมอมเหล้าพี่ชายของเธอ 

“เจ้าเล่ห์”

“ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้ พี่จะได้อยู่กับสรสองต่อสองเหรอครับ…หืม”

“คนบ้า” เธอค้อนผมอายๆ 

“พี่คิดถึงสรใจจะขาด อยู่ใกล้กันแค่นี้แท้ๆ แต่กลับทำได้แค่มอง”

“สรก็คิดถึงพี่ตรัยเหมือนกัน” ผมตอบแทนคำพูดที่แสนจะน่าฟังของเธอด้วยจูบอันร้อนแรงจนอัปสรอ่อนระทวย จากนั้นผมก็ดันเธอเข้าไปในห้องนอน จัดการล็อกประตูให้เรียบร้อย และเราก็เริ่มถ่ายทอดความคิดถึงที่มีให้กันและกันด้วยการสัมผัส

เสียงพูดใดๆ แปรเปลี่ยนมาเป็นเสียงครางกระเส่าที่ดังประสานด้วยท่วงทำนองของความเสน่หา เพราะใจร้อนทำให้ผมไม่รีรอที่จะถอดเสื้อผ้าของอัปสรให้ออกไปจากตัวเธอจนหมด ตอนนี้เธอเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ผมไม่อยากให้เธอน้อยใจ จึงถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกไปจนหมดบ้าง โดยไม่ลืมที่จะหยิบซองฟอยล์สีเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วสอดมันไว้ใต้หมอน

ก่อนจะจ้องมองอัปสรให้เต็มๆ ตา ตอนนี้เธอสวยเหมือนเกิน สวยไปทุกสัดส่วนเลยก็ว่าได้ ผิวขาวเนียนละเอียดยามได้สัมผัส มันกระตุ้นให้ผมตื่นเต้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมโน้มตัวลงไปกอด ร่างกายเปลือยเปล่าของเราแนบชิดกัน มันร้อนรุ่มและวาบหวาม ซึ่งผมก็ชอบมากด้วย

จากนั้นผมก็จูบลงไปบนริมฝีปากอิ่มที่แสนหวานของเธอ ซอกซอนดูดกลืนความหวาน ตวัดปลายลิ้นหยอกเย้ากับปลายลิ้นของเธอ ขณะที่มือก็บีบคลึงหน้าอกทั้งสองข้างจนมันตั้งชัน ตอนนี้ผมปวดหนึบที่แก่นกายไปหมด ทรมานจนอยากปลดปล่อยแต่ก็ต้องรอ

 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status