Share

บทที่ 12 สุขมากจนแทบจะบินได้

“งั้นไปเจอกันที่บ้านนะแก ตอนนี้ฉันง๊วงง่วง ขอกลับก่อนแล้วกันเนอะ”

“ยัยดา นี่จะทิ้งฉันไว้เลยเหรอ” ฉันหันมามองกรดา ที่ทำหน้าทะเล้นใส่จนน่าตี

“ไม่ได้ทิ้ง แค่ให้แกไปกับพี่ตรัย ส่วนฉันก็กลับก่อนไง ไปล่ะ” เอ่ยจบกรดาก็กลับเข้าไปในรถ สตาร์ทเสร็จก็ขับออกไปทันที ปล่อยให้ฉันยืนมองตามตาปริบๆ กระเป๋าก็ยังอยู่ในรถ ตอนนี้ในมือมีแค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียว ไม่มีเงินสักบาทด้วย 

“พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”

“แต่สรว่า…” ฉันอึกๆ อักๆ นั่นเพราะยังลังเลที่จะคุยอะไรๆ กับตรัยในตอนนี้ ต่อให้คุยกัน อะไรๆ มันก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนักหรอก สู้ยังคงหลบหน้าแล้วปล่อยให้มันผ่านไปจะดีกว่า 

“ถ้าสรอยากรู้ว่าทำไมพี่ถึงทำแบบนั้น เราต้องคุยกัน”

“โอเคค่ะ” ไหนๆ มันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว คุยกันไปเลยก็ดี จะได้เข้าใจและจะได้จบ ตรัยพาฉันไปที่รถ จากนั้นเขาก็ขับออกไปจากปั๊มน้ำมัน

“พี่ตรัยจะพาสรไปไหนคะ”

“บ้านพี่”

“สรไม่ไปบ้านพี่” ฉันรีบค้าน นั่นทำให้เขาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ 

“ทำไม กลัวพี่ปล้ำเหรอ”

“กลัวสิ”

“ครั้งแรกมันน่ากลัวกว่ากันตั้งเยอะ” คำพูดของตรัย ทำให้ฉันหน้าแดงก่ำ ตัวร้อนๆ หนาวๆ ยังกับคนเป็นไข้ แต่ภายในร่างกายกลับวูบๆ วาบๆ เสียวซ่านแปลกๆ 

“หยุดพูดเลยนะ ไม่งั้นสรกระโดดกัดคอจริงๆ ด้วย” คำขู่ของฉันดูเหมือนจะไม่ได้ทำให้ตรัยกลัวสักนิด กลับได้ยินเสียงเขาหัวเราะออกมาซะงั้น 

“ถ้าสรไม่อยากไปบ้านพี่ งั้นเราไปจอดรถคุยกันที่สโมสรในหมู่บ้านพี่ก็แล้วกัน”

“อื้อ…” ฉันเอ่ยรับแค่นั้น และเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก กระทั่งรถเลี้ยวเข้ามายังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขนาดของตัวบ้าน รูปแบบบ่งบอกราคาได้เป็นอย่างดีว่าคงเจ็ดหลักขึ้นแน่นอน

ถ้าจำไม่ผิด ตรัยไม่ได้อยู่ที่นี่นี่นา นั่นเพราะเธอเคยติดรถพี่ชายไปบ้านเขาแบบไม่ได้ตั้งใจมาแล้วสองสามครั้ง หรือเขาเพิ่งซื้อบ้านหลังใหม่ 

“สรตั้งใจหลบหน้าพี่ใช่ไหม” ทันทีที่รถจอด เขาก็หันมาถามฉัน 

“ใช่”

“รู้ไหมว่าพี่จะเป็นบ้าอยู่แล้ว ทำไมเราไม่คุยกัน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันคือความผิดของพี่คนเดียว” 

“สรเองก็ผิด สรผิดต่อตัวเองแล้วก็รู้สึกผิดต่อแฟนพี่ตรัยด้วย ถ้าเธอรู้…” ฉันเอ่ยเสียงสั่น เพราะรู้สึกผิดต่อเธอคนนั้นจริงๆ 

“เธอคนนั้นไม่มีตัวตนหรอกสร หรือต่อให้มี พี่ก็หมายถึงสรนั่นแหละ”

“ไม่มีตัวตนได้ไง ก็สรเห็นพี่ตรัยควงเธอมาบ้านตั้งหลายครั้ง” ใช่…เธอเห็นกับตา

“มันก็แค่ฉากตบตาไอ้นิกว่าพี่มีแฟนแล้ว มันจะได้ให้พี่มาที่บ้าน มาหาสรได้น่ะครับ” 

“มาหาบ่อยๆ แต่ก็ชอบทำเฉยเมยใส่”

“ถึงข้างนอกพี่จะเฉยเมย แต่ข้างในมันตะโกนบอกว่าชอบสรตลอดเวลานะ” ตรัยสบตาฉัน นั่นทำเอาใจฉันสั่นไปหมด ความกังวลที่สะสมมาหลายวัน ค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ตอนนี้ฉันได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้จากตรัยตั้งหลายอย่าง

“ก็สรไม่ได้ยินนี่” ฉันตอบอ้อมๆ แอ้มๆ ก้มหน้าไว้ก่อน เพราะยังไม่ค่อยกล้าสบตาตรัยสักเท่าไหร่เลย อยู่ๆ ก็เขินเขาจนทำตัวไม่ถูก 

“รู้ไหมว่าพี่อึดอัดแค่ไหน ที่ต้องทำตัวเฉยเมยแบบนั้น พี่เข้าใกล้สรไปเรื่อยๆ ไม่ทำอะไรขัดใจไอ้นิกมัน เฝ้ามองสรเหมือนมดแดงแฝงพวงมะม่วงมาตั้งหลายปี เพราะไม่งั้นพี่คงไม่สารภาพไปหรอก ทั้งๆ ที่รู้ว่านิกมันหวงน้องสาวยังกับอะไร ถึงขนาดเอ่ยห้ามพี่หลายครั้ง ส่วนพี่พอมาคิดๆ ดู ตอนนั้นสรเองก็ยังเด็กและพี่ก็เพิ่งเริ่มทำธุรกิจกับมัน ยังไม่รู้จะเดินไปทางไหน จะขาดทุนหรือได้กำไร พี่เลยอยากให้สรโฟกัสเรื่องเรียน ส่วนพี่ก็พยายามสร้างเนื้อสร้างตัว จนธุรกิจมันโอเค และตั้งใจจะบอกรักสรอีกครั้งในวันที่สรเรียนจบ ต่อให้ไอ้นิกมันห้ามพี่ก็จะตื๊อ ถ้ามันไม่ฟังพี่ก็จะพาสรหนี แต่สรก็หักอกพี่ มีแฟนซะก่อน” คำสารภาพของตรัยที่พรั่งพรูออกมามากมาย ทำเอาฉันยิ้มแก้มแทบแตก รู้สึกมีความสุขมากจนแทบจะบินได้

“สรก็แค่ควงแมนไปงั้นเอง ไม่ได้รักหรอก นี่ก็บอกเลิกไปแล้วด้วย”

“เยส…ดีใจจังที่ได้ยินแบบนี้ ตะกี้ตอนอยู่ปั๊ม พี่ได้ยินแว่วๆ ว่าแมนจูบสรใช่ไหม” น้ำเสียงของตรัยฟังดูห้วนขึ้น เหมือนกับเขาไม่พอใจอย่างนั้นแหละ 

“ค่ะ…อื้อ” ฉันเงยหน้าขึ้น กะว่าจะมองหน้าเขาเสียหน่อย แต่กลับถูกเขาจูบ แม้จะตกใจในครั้งแรก แต่สุดท้ายฉันก็เต็มใจรับจูบจากเขา จูบจากตรัยมันช่างแตกต่างจากจูบของวศินโดยสิ้นเชิง เป็นอย่างที่กรดาบอกไม่มีผิด ถ้าเธอมีใจให้ใคร เธอจะมีความสุขจากสัมผัสที่เขามอบให้

เขาจูบฉันนานมาก พอถอนจูบออกก็ยังคงหอมแก้มทั้งซ้ายทั้งขวา จุมพิตหน้าผากและวกกลับมาจูบปากฉันอีกครั้ง ฉันรู้ว่าตรัยจูบเก่ง ส่วนฉันไม่ได้เสี้ยวเขาสักนิด สงสัยต้องมอมเหล้าตัวเอง เผื่อจะได้กล้าจูบเขามากขึ้น

 

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status