แชร์

บทที่ 10 หนีใจตัวเอง (3)

ผมไม่เคยมาบ้านไอ้นิกแล้วรู้สึกตื่นเต้นเหมือนวันนี้มาก่อน เกือบหนึ่งอาทิตย์เข้าไปแล้วที่ผมไม่ได้คุยกับเธอ พยายามติดต่อหาเท่าไหร่ก็ติดต่ออัปสรไม่ได้ อยากจะบุกมาหาเธอที่บ้านวันละหลายๆ ครั้ง แต่ขืนสุ่มสี่สุ่มห้าทำอย่างที่ใจคิด มหาพายุอาจเกิดขึ้นเพราะไอ้นิกนี่แหละ

ผมจึงต้องใจเย็นเป็นแม่น้ำเข้าไว้ รอจังหวะดีๆ ใช้เวลาวันหยุดแวะมาหานิกที่บ้านเหมือนที่ได้ทำ โดยมั่นใจว่าอัปสรเองก็อยู่บ้านเช่นเดียวกันแน่ แต่วันนี้ผมไม่ได้มามือเปล่า ผมซื้อเหล้า โซดาและกับแกล้มมาด้วย หวังมอมเหล้านิกเต็มที่ หลังจากนั้นผมก็จะได้คุยกับเธออย่างสะดวก 

“อยากกินเหล้าหรือไงเอ็ง ถึงได้ซื้อเข้ามาด้วย”

“เออ…นึกอยากชวนแกเมา พักนี้เครียดเรื่องงาน หาเรื่องผ่อนคลายหน่อย แล้วนี่น้องเอ็งไม่อยู่บ้านเหรอ” นี่คือคำถามที่ผมถามเป็นประจำ แต่วันนี้ผมกลับใจเต้นแรงเมื่อรอคำตอบ เพราะตั้งแต่มาถึง ผมยังไม่เห็นเธอเลย 

“ไม่อยู่ ไปนอนบ้านดา”

“ไปนอนบ้านดา” 

“อื้อ…เห็นว่าอาทิตย์หน้ามีสอบ เลยไปนอนติวหนังสือกัน” คำตอบที่ได้ยิน ทำเอาผมห่อเหี่ยว อัปสรจงใจหลบหน้าผมล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่งั้นเธอไม่ทำแบบนี้แน่ 

“อ้อ...”

“เอ็งถามหาน้องข้า มีอะไร”

“ก็แค่ถามเฉยๆ ไม่มีอะไร” ผมเฉไฉ ส่วนไอ้นิกก็ช่างสงสัยจริง ก่อนที่ผมจะรวบรัด เพราะในเมื่อเธอไม่อยู่ ผมก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องอยู่ที่บ้านกับไอ้นิกมันสองคนเช่นกัน แค่เจอหน้ามันที่บริษัทก็คงมากพอแล้ว 

“ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ งั้นกลับก่อนนะ”

“เอ้า! จะไม่อยู่กินข้าวกับข้าก่อนหรือไง”

“ไม่ ข้าไม่หิว” ผมตะโกนตอบ พอมาถึงรถก็ขับออกไปทันที ไม่ได้มีอารมณ์อยากอยู่กินข้าวหรือทำอะไรทั้งนั้น 

“อะไรของมัน บทจะมาก็มา บทจะกลับก็กลับ เฮ้อ...” ประโยคบ่นของไอ้นิกลอยตามลมมาแว่วๆ แต่ผมกลับไม่ได้สนใจ 

ตอนนี้รู้สึกหัวเสียอย่างบอกไม่ถูก และเพราะอารมณ์ไม่ดี จึงขับไปที่สนามมวย ปล่อยพลังงานด้านมืดออกมาด้วยการชกมวยมันเสียเลย รีดเหงื่อออกไปซะบ้าง สมองจะได้หยุดฟุ้งซ่านเสียที 

 

คืนวันสอบเสร็จ คือคืนแห่งการฉลอง ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายไปทำตามความฝันของตัวเอง เพราะหลังจากนี้จะไม่มีคำว่าเปิดเทอมสำหรับพวกเธออีกแล้ว 

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอาจจบลงแค่วันนี้ นั่นทำให้ฉัน กรดา นีรา อาทิตย์ ตัดสินใจฉลองกัน โดยวศินและเพื่อนเขาอีกคนขอมาด้วย ซึ่งฉันก็ไม่ได้ค้าน 

เราทั้งหมดมาปลดปล่อยอารมณ์ไปกับเพลงที่ถูกเปิดในผับ โดยครั้งนี้ฉันไม่แตะเหล้าแม้แต่นิดเดียว นั่นเพราะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอย ต่อให้มีเพื่อนที่ไว้ใจอยู่ข้างๆ ด้วยก็เถอะ กันไว้ดีกว่าแก้น่าจะดีกว่า

แต่วศินกลับมอมเหล้าฉัน ดีที่อาทิตย์เห็นเสียก่อน จึงสะกิดให้นีรามาบอก และให้ฉันเปลี่ยนแก้วกับอาทิตย์ใต้โต๊ะ วศินจึงมอมเหล้าฉันไม่สำเร็จสักที ไปๆ มาๆ กลับเมาเสียเอง

“แมนเมามากแล้ว ฉันว่าเรากลับกันดีกว่า” ฉันเอ่ยขึ้น ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย 

“ก็ดี…นี่แฟนฉันก็เมาปลิ้นมากแล้วเหมือนกัน” นีราส่ายหน้าให้แฟนหนุ่มของเธอ ส่วนฉันก็มองอย่างขอบคุณ 

“ขอบใจแกกับแฟนมากนะนีรา ที่ช่วยกินเหล้าพวกนั้นแทนฉัน”

“ไม่เป็นไร ดีกว่าแกถูกแมนมอมเหล้า นิสัยเสียแบบนี้ มันน่านัก” ขณะพูดเราก็หันไปมองหน้าวศิน ที่ตอนนี้นั่งฟุบอยู่บนเก้าอี้ ส่วนเพื่อนที่ชื่อว่าต่อซึ่งมาเที่ยวด้วยก็ชนแก้วกับสาวๆ อยู่อีกมุม 

“หึ…ฉันก็ไม่เอาไว้หรอก กะบอกเลิกพรุ่งนี้แล้วแหละ”

“โอ๊ย…ดีใจที่ได้ยินแกพูดแบบนี้” นีราฉีกยิ้มกว้าง ส่วนกรดาเองก็ยักไหล่เบาๆ พร้อมยกนิ้วโป้งให้ฉัน ทำนองว่าเยี่ยมมากอะไรแบบนี้

“คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง ตอบแทนที่แกกับแฟนช่วยฉัน” ฉันจ่ายเงินค่าเหล้าพร้อมกับขออาสาเป็นเจ้ามือ 

“อื้อ…ขอบใจแก งั้นฉันกลับก่อนนะ”

“จ้ะ…ขับรถดีๆ นะแก” กรดาช่วยนีราพยุงอาทิตย์ไปส่งที่รถ ส่วนฉันก็ยืนกอดอกมองคนเมาแล้วเบ้ปากมองบนใส่ ไม่นานกรดาก็กลับมาพร้อมกับเพื่อนของวศิน 

“เฮ้ย!…แมน ลุกๆ กลับบ้านกันเพื่อน” เสียงของเพื่อนวศินดังขึ้น ก่อนจะหิ้วปีกเขาให้ลุก จากนั้นก็ออกไปจากร้านกัน ฉันกับกรดาเองก็เดินตามมาไม่ห่าง

“แยกกันตรงนี้นะคะต่อ ไว้ค่อยเจอกัน” ฉันเอ่ยบอก แต่จังหวะที่ฉันกำลังจะหมุนตัวกลับไปที่รถพร้อมกรดา ฉันกลับถูกวศินคว้าตัวไปกอด แรงรั้งจากเขาทำเอาฉันตัวปลิว พอตั้งสติได้ ฉันก็รีบผลักให้เขาออกห่าง แต่ยิ่งผลักวศินก็ยิ่งกอดฉันแน่นขึ้น จนหายใจแทบไม่ออก

 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status