“พักสักหน่อยไหมครับ” โรมีโอยกมือขึ้นนวดขมับหลับตาลงเพื่อพักสายตา ในขณะที่เรนเดลวางแก้วกาแฟลงตรงหน้าของชายหนุ่ม โรมีโอส่ายศีรษะช้าๆ รับแก้วกาแฟมาจิบเล็กน้อยก่อนจะวางลงตามเดิม ตอนนี้โรมีโอกำลังโอนย้ายงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในตระกูลวอลเลอร์ให้กับเรนเดล ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์หลังนี้ สิ่งที่เรนเดลต้องคอยดูแลไม่ให้ขาดตกบกพร่อง นอกจากนี้ยังมีงานของตระกูลอีกเล็กๆ น้อยๆ ที่โรมีโอไม่จำเป็นต้องเป็นคนดูแลเอง
เพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่มีความสามารถ และเป็นมันสมองของทีมอยู่แล้ว ดังนั้นการโอนย้ายงานจึงเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้น เพราะการที่โรมีโอฟื้นฟูกิจการของตระกูลวัลโด้ตั้งแต่เมื่อ 3 ปี ก่อน ทำให้ทั้งสองต้องทำงานอย่างหนักจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพื่อให้ทันกำหนดหนึ่งสัปดาห์ตามที่ไมเคิลสั่งไว้
ตอนนี้เป็นเวลากว่า 5 วันแล้วที่โรมีโอโหมงานหนัก เพราะต้องคอยสอนให้เรนเดลทำงานแทนตน เมื่อถึงเวลาพักของเรนเดล โรมีโอกลับนั่งเตรียมเอกสารแผนงานที่อีกฝ่ายต้องทำในวันถัดไป ทำให้ตอนนี้โรมีโอไม่ได้พบหน้าของเอวาหรือไมเคิลมาพักใหญ่ เพราะต้องเร่งสะสางงานการที่ค้างคา
“บอสโหมหนักมากเกินไปแล้วนะครับ” เรนเดลเอ่ยพร้อมกับขยับกายไปยืนอยู่ที่ด้านหลัง สองมือถูกวางลงบนบ่าแกร่ง และเริ่มต้นลงน้ำหนักมือด้วยความพอดี บีบนวดคลายกล้ามเนื้อที่แข็งตึงและเคร่งเครียดมาเป็นเวลานาน
“อืม.....” โรมีโอครางในลำคอด้วยความผ่อนคลาย ปกติแล้วหากว่าคนที่นั่งทำงานเป็นไมเคิล ก็มักจะเป็นเขาที่ยืนซ้อนด้านหลังและลงมือบีบนวดให้กับผู้เป็นนาย แต่เมื่อได้สลับบทบาทกลายเป็นคนที่นั่งทำงาน และมีคนคอยปรนนิบัติเช่นนี้ก็นับว่าดีไม่น้อย
“สูงอีก....”
“......”
“แรงๆ .... อืมมมม”
“......” เมื่อโรมีโอออกคำสั่ง เรนเดลก็ทำตามไม่อิดออด เสียงครางหวานถูกเปล่งออกจากภายในลำคอ ความเบาสบายจากการผ่อนคลายกล้ามเนื้อทำให้โรมีโอหมุนคอไปมาคลายความเมื่อยขบ คล้ายกับการสลับเปลี่ยนจุดที่ถูกนวดคลึงอย่างสบายอารมณ์
ปัง!!
เสียงบานประตูที่ถูกเปิดออกอย่างแรงจนกระแทกกับกำแพงที่ด้านข้างดังลั่นสนั่นไปทั่วห้อง ทำให้โรมีโอและเรนเดลต้องเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือนด้วยความงุนงง สิ่งที่แรกที่เห็นคือใบหน้าถมึงทึงของอดีตเจ้านายที่กำลังเขม็งมองจ้องมาด้วยสายตาดุดัน
โรมีโอกะพริบตาปริบด้วยความไม่เข้าใจ ยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใดออกไป สายตานั้นก็ตวัดหันไปมองคนที่ซ้อนอยู่ทางด้านหลัง เรนเดลสะท้านเฮือกเมื่อได้สบตากับบอสอีกคนก่อนที่ดวงตาสองสีของเจ้านายจะเลื่อนลงไปมองมือของเขาที่กำลังบีบนวดต้นคอและบ่ากว้างของโรมีโอ
เพียงเท่านั้นก็เข้าใจ ชายหนุ่มผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศรีบผละมือออก ราวกับเนื้อตัวบอสเป็นเผือกร้อนที่ไม่อยากแตะต้อง ทำให้ใบหน้าเคร่มขรึมนั้นคลายลงได้บ้าง ไมเคิลก้าวเดินอย่างมั่นคงหนักแน่น แต่เต็มไปด้วยความดุดัน บรรยากาศในห้องกดต่ำจนแทบหายใจไม่ออก จนกระทั่งมาหยุดลงตรงหน้าของโรมีโอ เหลือบสายตามองงานบนโต๊ะเพียงชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยปาก
“ชักช้า.....” โรมีโอกะพริบตาปริบอีกหน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเรนเดล ทั้งคู่ประสานสายตาให้กันด้วยความงุนงง ก่อนที่โรมีโอจะหันกลับไปสบตาไมเคิล เอ่ยปากบอกอย่างใจเย็น
“ก็ไม่ช้านะครับ ยังไม่ถึงกำหนดที่คุณตั้งไว้ด้วยซ้ำ” ไมเคิลทรุดตัวนั่งลงตรงหน้า เหลือบตามองแล้วเอ่ยเสียงเรียบ
“ตามกำหนด..... ก็ดี..... แต่เสร็จก่อนกำหนด..... จะดีมากกว่า......”
“....” โรมีโอถึงกับบื้อใบ้ อะไรคือจะให้เสร็จก่อนกำหนด? ตัวเขาเข้าใจดีในสิ่งที่อดีตเจ้านายต้องการจะสื่อ แต่เดิมเขาขอเวลาในการโอนถ่ายงาน 1 เดือน เจ้าตัวกำหนดให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ นี่ก็เรียกได้ว่าบีบคั้นมากแล้ว เพราะต้องเร็วกว่าเดิมถึง 4 เท่า พอมาคราวนี้กลับอยากให้เสร็จเร็วกว่าที่กำหนดเสียอย่างนั้น!
โรมีโอสูดลมหายใจเข้าลึก กัดฟันเอ่ยอย่างอดทน
“เผื่อคุณจะลืมนะไมค์..... ผมไม่ใช่ลูกน้องของคุณ.....” โรมีโอเอ่ยเสียงเย็นชา สองมือประสานกันบนโต๊ะ เอนหลังพิงกับพนักพิง ดวงตาคมกล้าสีฟ้าสดใสเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ตรงข้ามด้วยความไม่ชอบใจ
“และอีกอย่าง ผมไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของคุณด้วยซ้ำ แค่ที่ผมยอมเคลียร์งานให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ก็ถือว่าผมให้เกียรติคุณมากแล้ว....” ไมเคิลยังคงขีดเขียนแผนงานที่วางค้างอยู่บนโต๊ะคล้ายกับไม่ใส่ใจ ซึ่งโรมีโอเองก็ใจเย็นพอที่จะเฝ้ามองอีกฝ่ายเงียบๆ จนกระทั่งเอกสารฉบับนั้นถูกเขียนต่อจนเสร็จสิ้น ไมเคิลจึงดันมันไปอยู่ตรงหน้าของโรมีโอ เอ่ยปากด้วยเสียงเรียบนิ่ง
“ในฐานะองค์รัชทายาท..... ฉันขอสั่ง..... นายต้องกลับตระกูลวัลโด้คืนนี้.......” โรมีโอถึงกับคิ้วกระตุกเข้าหากัน รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นักที่อีกฝ่ายใช้อำนาจในทางมิชอบ กำลังจะอ้าปากเอ่ยแย้ง หากแต่ผู้มาใหม่ทำให้เขาหยุดชะงัก และแปรเปลี่ยนเป็นคำทักที่อ่อนหวานนุ่มละมุน
“ตัวเล็ก” เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อโรมีโอลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก้าวเท้าเร็วๆ เข้าไปหาน้องน้อย ก่อนจะรวบตัวเด็กน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอด กดจูบลงที่ข้างแกมนุ่มเสียหลายที
“คิดถึงจังค่ะ” เอวายิ้มหวานตาหยี พร้อมกดจมูกลงที่แก้มของผู้เป็นพี่ชายแล้วจึงตอบรับคำ
“หนูก็คิดถึงพี่โรมจ๋า” เด็กน้อยออดอ้อน กอดรัดคนเป็นพี่เอาไว้แน่น ยิ่งทำให้โรมีโอระดมกอดระดมหอมคนตัวเล็กเสียยกใหญ่
“ตัวเล็กไปรอพี่ที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะคะ” พูดพร้อมกับจับจูงน้องน้อยให้เดินออกจากห้อง เด็กน้อยเดินแกว่งมือไปมาระหว่างทาง จนกระทั่งทั้งคู่มาหยุดอยู่ที่ห้องนั่งเล่น โรมีโอก็จัดการอำนวยความสะดวกให้น้องน้อยเต็มที่ ขนมนมเนยนำมาวางกองไว้ เปิดทีวีและนำแมคบุ๊คมาวางให้เสร็จสรรพ กดจูบลงที่กระหม่อมบางของเด็กน้อยและทำท่าจะผละออกไปเร่งจัดการงานของตนเอง แต่เอวากลับดึงมือเอาไว้ สายตาสอดส่ายไปมา ราวกับกลัวว่าใครจะมาได้ยิน นอกจากนี้ยังคงขวักมือเรียกยิกๆ ดึงให้โรมีโอโน้มตัวลงต่ำ เอ่ยกระซิบข้างใบหูเสียงแผ่ว
“พี่จ๋าคิดถึงพี่โรมจ๋าล่ะ!!” เมื่อได้ฟัง โรมีโอก็หลุดขำพรืดออกมา พร้อมกับการโคลงศีรษะเล็กน้อย ผละถอยห่างจากเอวาอีกทั้งยังดีดนิ้วใส่หน้าผากมนไปเสียหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว
“ล้อพี่เล่นอีกแล้ว”
“หนูพูดจริงนะ!” เอวาทำท่าทีขึงขัง แสดงให้รู้ว่าตนจริงจังแค่ไหน ทำให้โรมีโอหัวเราะในลำคอ ตอบรับกลับไป
“ค่ะๆ พี่เชื่อก็ได้”
“พี่โรมจ๋าไม่จริงใจเลย” เอวาทำปากยู่อย่างน่ารักน่าชัง หันซ้ายหันขวาอีกหน พูดด้วยเสียงที่กระซิบแผ่วเบาให้แค่พอได้ยิน
“จริงๆ วันนี้หนูมีนัดไปนอนกับบาร์คล่ะ! แต่พี่จ๋าชิงอุ้มหนูออกมา บอกว่าโรมจ๋าทำงานช้า ให้หนูมาตาม แต่ว่าเป็นพี่จ๋าต่างหากที่อยู่ไม่สุขเลย!” โรมีโอเลิกคิ้วขึ้น ท่าทีตั้งใจฟังเพิ่มมากขึ้นอีกนิด แสดงให้น้องน้อยรู้ว่าตนใส่ใจฟังจริงๆ เพราะกลัวว่าเจ้าตัวเล็กจะงอนเขามากขึ้นไปอีก
“หื้ม ไม่สุขยังไงคะ?”
“ก็พี่จ๋าทำงานได้แป๊บๆ ก็เงยหน้าขึ้นมองประตู วันแรกๆ ยังไม่เท่าไหร่ วันหลังๆ นี่มองถี่มากๆ แต่ไม่ยอมพูดอะไรเลย แถมช่วง 2 – 3 วันมานี้ก็หงุดหงิดง่ายด้วย อะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็ขัดใจไปหมดเลย เอาแต่ถามหนูตลอดเวลาว่าคิดถึงพี่โรมจ๋าไหม จะไปหาพี่โรมจ๋ารึเปล่า หนูบอกว่าคิดถึง แต่ตอนนี้พี่โรมจ๋ารีบเคลียร์งานอยู่ หนูไม่อยากไปกวนให้พี่โรมจ๋าทำงานช้าลง พี่จ๋าทำหน้าไม่ชอบใจแป๊บหนึ่ง แล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อ สักพักก็ถามขึ้นมาอีก วนเวียนอยู่อย่างเนี้ยะ จนหนูจะหนีไปนอนกับบาร์คจ๋านี่แหละ ถึงได้ชิงตัวหนูมา!” เอวาพูดด้วยความโมโหเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรมากนัก เพราะถึงจะไม่ได้พบหน้าคนรัก แต่ก็ยังสามารถพูดคุยผ่านวีโอคอลได้ โรมีโอได้ฟังก็นิ่งคิดไปชั่วครู่ แล้วจึงเอ่ยปากตอบกลับไป
“บางทีไมค์เขาอาจจะหงุดหงิดเพราะพี่ทำงานช้าก็ได้ค่ะ” โรมีโอตอบอย่างไม่คิดอะไรมาก เอวาทำแก้มป่องพองลมอย่างขัดใจ
“ทำไมพี่โรมจ๋าไม่เชื่อหนูล่ะ!! พี่จ๋าคิดถึงพี่โรมจ๋าจริงๆ นะ!!” โรมีโอมองเด็กน้อยด้วยความอ่อนใจ ลูบศีรษะเล็กแผ่วเบา
“ถึงตัวเล็กจะบอกว่าเขาคิดถึงพี่ แต่ถ้าเขาไม่ได้พูดมันออกมาเองก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ ตัวเล็กนั่งเล่นไปก่อนนะคะ ถ้าง่วงก็เข้าไปนอนในห้องพี่ได้เลย หรือจะนอนห้องตัวเองก็ได้ค่ะแล้วแต่ตัวเล็กเลยนะ” โรมีโอเอ่ยย้ำพร้อมกับก้มลงกดจูบที่หน้าผากมน แล้วจึงผละออกจากห้องนั่งเล่น เดินเข้าห้องครัวจัดชาและขนมใส่ถาดอีกเล็กน้อย แล้วจึงเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของตน
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับไมเคิลที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในตำแหน่งของเขา ส่วนเรนเดลนั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานด้านข้าง ชายหนุ่มจัดการเสิร์ฟชาและขนมลงตรงหน้าของไมเคิล ซึ่งชายหนุ่มปรายสายตามองเล็กน้อย แล้วก้มหน้าลงทำงานต่อโดยไม่พูดอะไร
โรมีโอเองก็ไม่ได้บ่นว่าอะไรเมื่อไร้คำจากคนตรงข้าม เพราะเป็นปกติเสียแล้วที่เขาจะทำเช่นนี้ให้กับไมเคิลทุกครั้งที่ต้องทำงานหนักจนแทบไม่ได้พัก หากแต่ในครั้งนี้ความห่วงใยกลับเพื่อแผ่ไปถึงใครอีกคนในห้อง
โรมีโอเดินไปหาเรนเดลวางแก้วชาหย่อนน้ำตาลลงไปสองก้อน คนแก้วแผ่วเบาจนมั่นใจว่าน้ำตาลละลายดี จึงวางลงที่ด้านข้างของเรนเดลพร้อมขนมจานเล็ก
“ทานสักหน่อยนะครับ ลำบากคุณมากทีเดียว” โรมีโอพูดด้วยรอยยิ้มบางเบา ในขณะที่เรนเดลแสดงสีหน้าตกใจ หันมองคนเป็นนายด้วยสีหน้าแตกตื่น
“บอสครับ! ไม่ต้องทำอะไรแบบนี้ให้ผมหรอกครับ!”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเตรียมมาให้ไมค์พอดี ไหนๆ ก็เตรียมแล้วก็เลยทำมาทีเดียว ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ” โรมีโอส่งยิ้มอ่อนจางมาให้อีกครั้ง ต่างจากเรนเดลที่กลืนน้ำลายด้วยความฝืดคอเหลือบมองใครบางคน ดวงตาคมกล้าราวกับเปล่งประกายเต้นระริก เรนเดลคลับคล้ายคับคลาว่ามองเห็นเปลวไฟพวยพุ่งออกจากดวงตาของคนเป็นนายอีกคน สายตานั้นทิ่มแทงราวหอกแหลมอย่างกับจะฆ่ากันให้ตาย จนคนมองใจสั่นสะท้าน หนาวสั่นไปทั่วทั้งกาย หากแต่เมื่อโรมีโอหมุนตัวกลับไป แววตานั้นก็กลับกลายเป็นราบเรียบดั่งไม่เคยมีพายุคลื่นลมใดๆ มาก่อน....
“อ่า.....”
“ครับ?” เรนเดลส่งเสียงครางในลำคอ คล้ายว่าจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่เสียงนั้นกลับเป็นการเรียกให้โรมีโอหันกลับมาอีกครั้ง ด้วยคิดว่าผู้ช่วยคนนี้คงมีอะไรจะพูดคุยด้วย และนั่นก็ทำให้เรนเดลได้เห็นมัจจุราชในคราบมนุษย์เต็มตาอีกครั้ง และครั้งนี้คล้ายกับว่าจะเห็นเขาและปีกงอกออกมาจากกายของเจ้านายอีกคนอย่างน่าหวาดผวาเพราะตนดึงความสนใจจากโรมีโอไปจากคนตรงหน้า ทำให้เรนเดลละล่ำละลักตอบอย่างร้อนรน
“ไม่มีอะไรครับ พอดีผมคิดเรื่องอะไรบางอย่างได้ขึ้นมาแค่นั้นเอง” โรมีโอยังคงมองจ้องนิ่งๆ เอียงคอเล็กน้อยคล้ายกับจะถามว่าเรื่องอะไร เกี่ยวกับงานหรือไม่ จนเรนเดลอึกอัก ด้วยพญามัจจุราชที่ด้านหลังเริ่มขยายตัวให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าเริ่มมืดครึ้มไม่น่ามอง แววตาเย็นชาเปล่งประกายแวววาวเรืองรองในความมืด แม้ว่าภายในห้องนี้จะเปิดไฟสว่างจ้าเพราะทำงานอยู่ก็ตามที
“คือ... เรื่องส่วนตัวน่ะครับ”
“อ้อ ครับ” โรมีโอพยักหน้ารับแล้วหมุนกายหันกลับไป คล้ายกับว่าพญามัจจุราชคืนร่างกายเป็นมนุษย์หนุ่มผู้แสนต่ำต้อย นั่งทำงานด้วยความนิ่งเฉย ไม่ได้ให้ความสนใจสิ่งใด ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังมองจ้องแยกเขี้ยวขู่แม้จะไร้เสียงก็ตามที เรนเดลยกมือขึ้นลูบอกของตัวเอง ภายในกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ใครก็ได้เอาผมออกไปจากห้องนี้ที!!!
โรมีโอทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับไมเคิล โคลงศีรษะเล็กน้อยเมื่อตำแหน่งที่นั่งของตนถูกแย่งชิงไปโดยคนที่เป็นว่าที่องค์รัชทายาท จนเขาต้องมานั่งอีกฝั่งแทนเสียอย่างนั้น แต่เมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้วก็เห็นแผนงานและรายละเอียดที่ไมเคิลทำออกมาวางกองไว้ที่ฝั่งหนึ่งอย่างทึ่งๆ
เขาใช้เวลาหลายวันในการถ่ายโอนงาน สอนและอธิบายในส่วนที่เรนเดลต้องทำแทนตนอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีสิ่งใดตกหล่น แต่สิ่งที่ไมเคิลทำนั้นคือการขีดเขียนถ้อยคำออกมาในรูปแบบของแผนผังโฟลชาร์ต เขียนคำอธิบายกำกับเอาไว้ทุกกระบวนการ สิ่งใดที่สำคัญยังมีการเขียนดอกจันและขีดเส้นใต้ไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้แล้ววิธีการกระบวนการเหล่านั้นยังเป็นในรูปแบบการทำงานของเขาเสียด้วย
สิ่งที่โรมีโอต้องทำในตอนนี้คือการเรียกเรนเดลมาอธิบายเรื่องต่างๆ ที่ไมเคิลเขียนเอาไว้ให้อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อย้ำถึงความเข้าใจ ดังนั้นแล้วชายหนุ่มจึงรวบเอกสารทั้งหมดไว้ในมือ ลุกขึ้นจากเก้าอี้อีกครั้งและเดินไปนั่งที่ด้านข้างของเรนเดล ซึ่งทำให้เจ้าตัวผวาสะดุ้งเฮือก
“อะ อะไรครับบอส?”
“พอดีไมค์เขาเขียนสรุปไว้ให้น่ะครับ ค่อนข้างละเอียดทีเดียว เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะครับ”
“อ้อ ได้ครับ” เรนเดลตอบรับพร้อมขยับกายเข้ามานั่งใกล้ๆ เตรียมสมุดจดงานอย่างตั้งใจ
เปาะ!
เสียงที่ดังขึ้นเรียกความสนใจจากคนทั้งสองที่นั่งข้างกันได้เป็นอย่างดี เมื่อหันไปมองก็เห็นว่าไมเคิลวางปากกาลงบนโต๊ะ หลับตานิ่งโดยไม่พูดอะไร โรมีโอขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วละความสนใจจากว่าที่องค์รัชทายาท หันกลับมาสนใจเรนเดลตามเดิม แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากเริ่มสอน ก็มีเสียงๆ หนึ่งเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน
“ปากกา......” ไมเคิลพูดทั้งที่ยังคงหลับตา โรมีโอกะพริบตาปริบๆ จนไมเคิลลืมตาขึ้นมอง ตวัดสายตามองอดีตผู้ช่วย เอ่ยปากอีกครั้ง
“ปากกา.....” เพียงเท่านั้นโรมีโอก็เข้าใจ พยักหน้ารับพร้อมเอ่ยตอบ
“รอสักครู่นะครับ” โรมีโอหันมองปากกาของไมเคิล ที่ส่วนปลายของปากกาอันหรูหักไปอย่างงงๆ แล้วจึงลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินออกจากห้องเพื่อไปเอาปากกา คล้อยหลังของโรมีโอเพียงชั่วครู่ ไมเคิลก็เอ่ยปากเสียงเรียบแต่ทำให้คนฟังสะท้านเฮือก
“ห่างจากเขา......”
“ครับ....” เรนเดลตอบรับเสียงแผ่ว สูดลมหายใจเข้าลึก หลังสิ้นบทสนทนาโรมีโอก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง แต่ภายในมือนั้นว่างเปล่า ทำให้ไมเคิลเลิกคิ้วขึ้นมอง
“ผมนึกขึ้นได้ว่ามีปากกาของผมบนโต๊ะน่ะครับ” โรมีโอพูดพร้อมส่งยิ้มบางไปให้ แล้วเดินไปทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เรนเดลเช่นเดิม ไมเคิลเหลือบตามองเรนเดลนิ่งงัน ทำให้เจ้าตัวรีบร้อนขยับจนได้ยินเสียงล้อเลื่อน โรมีโอเงยหน้าขึ้นมองพลางเลิกคิ้วเป็นคำถาม ซึ่งเรนเดลก็ส่งยิ้มกลับมาให้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นแล้วโรมีโอจึงก้มหน้าลงอ่านเอกสารและเริ่มต้นอธิบายให้เรนเดลได้ฟัง
ตลอดการทำงานภายในห้องนั้นมีเสียงของโรมีโอที่เอ่ยอธิบายเรื่องราวให้เรนเดลได้ฟัง ในขณะที่ไมเคิลนั้นขีดเขียนเอกสารไปพลางสลับกับการเงยหน้ามองเป็นระยะ บุคคลทั้ง 3 นั่งทำงานจนมืดค่ำ เวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว โรมีโอใช้เสียงในการอธิบายงานที่เรนเดลต้องทำต่อจากตนจนเสียงแหบแห้ง เอวานั้นแวะเข้ามาดูบ้างเป็นครั้งคราว เอาน้ำและของว่างรองท้องมาให้ ก่อนที่สุดท้ายจะทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาวหนานนุ่มภายในห้องทำงานของโรมีโอ
ไมเคิลเห็นเช่นนั้นจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ อุ้มน้องน้อยขึ้นแนบอก พาเอวาเข้าไปนอนในห้อง แล้วกลับเข้ามาทำงานต่อ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าเป็นเวลาตี 3 เข้าไปแล้ว ชายหนุ่มผู้มีลวดลายมังกรคำรามที่ต้นคอ หันมองคนข้างกาย เมื่อเสียงทุ้มต่ำติดนุ่มนวลเงียบหายไป
ภาพที่ได้เห็นทำให้คิ้วคู่คมกระตุกเข้าหากันด้วยความไม่ชอบใจ โรมีโอนั้นผล็อยหลับฟุ้บหน้าลงกับโต๊ะอย่างอ่อนแรง ในขณะที่เรนเดลเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน ศีรษะแนบชิดกันจนทำให้คนมองเกิดความขุ่นมัว ไมเคิลวางปากกาในมือลงแล้วเดินขยับเข้าไปอุ้มอดีตผู้ช่วยเข้ามาไว้ในอ้อมแขน พาคนที่มีเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเข้าไปนอนในห้องอย่างนุ่มนวล ส่วนใครอีกคนนั้น..... ปล่อยไปเถอะ ไม่เห็นจะต้องสนใจ......
ไมเคิลไล้เกลี่ยปลายนิ้วมือไปบนใบหน้าของใครอีกคน คล้ายกับเจ้าตัวจะออดอ้อนกันกระไรอย่างนั้น เมื่อเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มขยับใบหน้าเข้าหาปลายนิ้วมือคล้ายกับการร้องของไออุ่น ไมเคิลขยับยิ้มมุมปากเล็กน้อยค้างมือไว้อย่างนั้นด้วยความพึงพอใจ ไมเคิลนั่งมองอย่างนั้นอยู่อีกครู่ใหญ่ แล้วจึงออกจากห้องกลับไปทำงานเช่นเดิม
คล้อยหลังผู้เป็นนาย คนที่หลับใหลก็ลืมตื่น โรมีโอพลิกกายนอนตะแคงข้าง คว้าหมอนใบใหญ่เข้ามากอดก่าย ซุกใบหน้าลงกับหมอนซ่อนรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนดวงหน้า เขาได้ยินถ้อยคำที่ไมเคิลเอ่ยบอกกับเรนเดลชัดทุกถ้อยคำ นอกจากนี้ยังมีการกระทำที่อ่อนหวานชวนให้ใจสั่นสะท้าน และในคืนนั้นโรมีโอก็จมลงสู่ห้วงนิทราด้วยรอยยิ้ม
ในเช้าวันถัดมาเมื่อตื่นขึ้นจากนิทรา โรมีโอก็พบกับเอกสารตั้งใหญ่ที่มีการเขียนสรุปความอย่างรวบรัดแต่เข้าใจง่าย รายละเอียดครบถ้วนพร้อมกับการรีมาร์คจุดสำคัญให้เห็น ซึ่งคนที่ทำก็ไม่ใช่ใคร อดีตเจ้านายของเขานั่นเอง
ไมเคิลลุกจากเก้าอี้ที่นั่งทำงานมาตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่ายของวันจนกระทั่งรุ่งสาง งานการทั้งหมดของโรมีโอก็เสร็จเรียบร้อยดี ไมเคิลอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับการไปทำงาน ในขณะที่โรมีโออธิบายงานที่ยังคงค้างอยู่ของตนกับเรนเดลอย่างต่อเนื่อง จวบจนกระทั่งไมเคิลและเอวาพร้อมที่จะออกจากบ้าน โรมีโอที่ยังคงคุยงานติดพันอยู่ ถูกไมเคิลดึงเอกสารออกไปจากมือ แล้วยื่นส่งทั้งหมดนั้นให้กับเรนเดลแทน เอ่ยปากบอกเสียงเรียบ
“อ่านเอง.....” เรนเดลรับเอกสารที่ถูกยัดเหยียดให้อย่างงงๆ ก่อนที่จะจับคว้าต้นแขนของโรมีโอเอาไว้แน่น ฉุดให้ลุกขึ้นจากโซฟาและดึงลากออกไปจาห้อง ชายหนุ่มได้แต่กะพริบตาปริบๆ ด้วยความงุนงง ถูกจับยัดให้นั่งที่ด้านหน้า ส่วนตัวเองนั้นเดินขยับไปที่ด้านหลังซึ่งมีเอวานั่งอยู่ เมื่อเจ้านายทุกคนนั่งประจำที่ รถประจำกายของไมเคิลก็ขับออกจากคฤหาสน์วอลเลอร์ในทันที เอวาส่งสายตาเป็นประกายวิบวับส่งมาให้ โรมีโอถอนหายใจให้กับท่าทีหยอกล้อของน้องน้อยพลางโคลงศีรษะไปมาด้วยความอ่อนใจ
Michael Partจุดหมายปลายทางของรถยนต์คันหรูนั้นคือบริษัทที่อยู่ในเครือของตระกูลวัลโด้ เอวาตรงขึ้นไปที่ห้องทำงานของไมเคิลโดยไม่ลังเล ตลอดสองข้างทางพนักงานทั้งหลายต่างเอ่ยปากทักทายผู้เป็นนายทั้ง 3 คน ไมเคิลพยักหน้ารับน้อยๆ ในขณะที่โรมีโอส่งยิ้มบางเบาให้กับคนคุ้นเคยเมื่อคนทั้งสามมาถึงห้องทำงานของไมเคิล เอวาก็กระโดดขึ้นโซฟานอนเขี่ยโทรศัพท์ในทันที ไมเคิลเดินไปทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ของตน ในขณะที่โรมีโอยืนหยุดอยู่กับที่ ด้วยความไม่แน่ใจว่าตนต้องทำอะไร ไม่แน่ใจว่าไมเคิลจะให้ตนช่วยทำงานหรือไม่ ในขณะที่ยืนตัดสินใจอยู่นั้น ไมเคิลก็เอ่ยปากเสียงเรียบ“ตัวเล็กคะ” เอวาเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือ มองคนเป็นพี่ตาแป๋ว เอียงคอเล็กน้อยอย่างน่ารักน่าชัง ไมเคิลยกยิ้มบางเบาให้กับท่าทางนั้นแล้วจึงเอ่ยต่อ“หลังจากนี้พี่จะให้โรมีโอสอนงานให้ตัวเล็กนะคะ”“หืออออ” เอวาครางในลำคอ กะพริบตาปริบๆ ในขณะที่โรมีโอทำเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่เพียงไม่นานก็ทำหน้าคล้ายกับเข้าใจอะไรในบางสิ่ง ซึ่งนั่นทำให้ไมเคิลพอใจที่อดีตผู้ช่วยมีความคิดฉับไวและรวดเร็วเช่นเคย ไม่ทิ้งลายอดีตผู้ช่วยคนสนิทไปเลยแม้แต่น้อย“ในวันประกาศแต่งตั้งองค์รั
Romeo Part"แต่งงานกับฉัน""ห๊ะ?! " ผมได้ยืนอึ้งอยู่กับที่หลังสิ้นประโยคของคนตรงหน้า ดวงตาคมกล้ามองสบมาด้วยความแน่วแน่เพราะผมได้แต่ยืนนิ่งไม่ได้ตอบอะไรกลับไป สุดท้ายแล้วคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ก็ผุดลุกขึ้นในที่สุด มือข้างหนึ่งของไมเคิลยื่นออกมาด้านหน้า จับคว้ามือซ้ายของผมเอาไว้ สวมใส่แหวนวงหนึ่งเข้าที่นิ้วนาง ก่อนจะจับยกมือของผมจรดริมฝีปากด้วยใบหน้าเรียบเฉย ต่างจากผมที่ยืนกะพริบตาปริบด้วยความอึ้งปะปนกับความงุนงงเป็นรอบที่สอง"ดะ เดี๋ยว-" ยังไม่ทันจบประโยคดี ผมก็ถูกไมเคิลฉุดรั้งให้เดินออกไปด้านหน้าด้วยกัน จนกระทั่งไปหยุดอยู่ตรงที่องค์ราชินีทรงยืนประทับอยู่ โรมีโอทรุดตัวลงคุกเข่าทำความเคารพองค์ราชินี พระนางขยับกายเข้ามาใกล้พร้อมกับช่วยฉุดประคองให้ลุกขึ้นยืน พาไปหยุดอยู่ที่ด้านข้างไมเคิลที่ยืนมองมานิ่งๆความสับสนมึนงงปรากฏขึ้นภายในดวงตาสีฟ้ากระจ่างใสของโรมีโอ จนทำให้พระนางแย้มสรวลเล็กน้อยอย่างขบขัน ก่อนส่งมือของโรมีโอให้ไมเคิลได้จับกุม ไมเคิลรับมือของโรมีโอมากุมกระชับเอาไว้แน่น แล้วจึงหันหน้าไปหาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานในวันนี้ เอ่ยปากด้วยเสียงราบเรียบทว่าเฉียบขาด"ต่อแต่นี้ไป..... โรมีโอ วอลเ
ไมเคิลและโรมีโอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในเวลาราว 5 โมงเย็นของวัน เนื่องจากพวกเขาทั้งคู่ต้องเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงฉลองที่จะเกิดขึ้นในเวลา 1 ทุ่มตรงในคราแรกที่ตื่นขึ้น โรมีโอเป็นคนที่ตื่นก่อนคนข้างกาย เพราะเสียงเคาะประตูห้องทำให้เขาตั้งใจจะลุกไปเปิดประตูแต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากใครบางคนกอดรัดเอวสอบของเอาไว้แน่นและมันมาพร้อมกันคิ้วคู่คมที่ขมวดเข้าหากันอย่างขัดอกขัดใจ แต่ถึงอย่างนั้นโรมีโอก็ค่อยๆ แกะอ้อมแขนนั้นออกจากตัวได้ในที่สุดเมื่อเปิดประตูออกไป ก็เห็นเมดสาวเอ่ยบอกด้วยท่าทีสำรวม แต่สองแก้มแดงปลั่งด้วยความเขินอาย หญิงสาวเข้ามาแจ้งเรื่องกำหนดเวลาของงานเลี้ยงในช่วงค่ำคืนที่จะมาถึงนี้โรมีโอพยักหน้ารับ ตั้งใจจะหันมาปลุกคนหลับให้ตื่นขึ้น แต่เมื่อหันกลับมาก็พบกับไมเคิลที่นั่งชันขาข้างหนึ่งมองตรงมาอยู่ก่อนแล้ว อีกฝ่ายไร้ซึ่งแววง่วงงุน แต่กลับมีดวงตาคมดุมองจ้องเมดสาวไม่ละสายตา จนโรมีโอได้แต่งุนงงเมื่อเห็นว่าไมเคิลตื่นแล้ว โรมีโอจึงตั้งใจจะออกจากห้อง เพื่อกลับไปอาบน้ำแต่งตัว แต่กลับไม่เป็นอย่างที่เขาตั้งใจ เมื่อเมดสาวมากมายพากันกรูเข้ามาหา เชื้อเชิญให้โรมีโอมุ่งตรงไปที่ห้องน้ำ และช่วยปลดเสื้อ
ในที่สุดโรมีโอก็ได้ออกจากห้องเสียที หลังจากที่เสียเวลาไปอีกเกือบ 40 นาที เพราะคนที่อาสาช่วยเขาแต่งตัวเอาแต่จับตรงนั้นตรงนี้ไม่หยุด จนเกือบจะได้ถอดชุดทิ้งไปอีกรอบ ถ้าหากองค์ราชินีไม่เปิดประตูเข้ามาตอนครบเวลาเสียก่อนหลังจากนั้นเมดสาวหลากหลายคนก็รุมล้อมเขาเต็มไปหมด ใบหน้าถูกจับหันไปทางนั้นทางนี้ ในขณะที่มีอะไรต่อมิอะไรไม่รู้ถูกสวมใส่บนร่างกาย จนเมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงได้มองตัวเองภายในกระจกชัดๆชุดที่โรมีโอสวมใส่ในขณะนี้คือชุดสีขาวขลิบทองทั้งตัว เครื่องอิสริยาภรณ์ถูกติดตามร่างกายจนหนักอึ้ง และสิ่งที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะเป็นสายสะพายที่ถูกพาดอยู่บนบ่าด้วยสีแดงกำมะหยี่หรูหราสมกับตำแหน่งมารดาของแผ่นดินคนถัดไป เรือนผมสีน้ำตาลเข้มถูกจับถักเปียหลวมๆ ธรรมดา แต่เครื่องประดับที่ใช้ไม่ธรรมดาตาม เมื่อบนศีรษะของเขานั้นเต็มไปด้วยเพชรพลอยที่ร้อยเรียงปักลดหลั่นกันลงมาไมเคิลที่กำลังถูกเมดสาวรุมล้อมอยู่เช่นกันได้แต่ยืนมองโรมีโอนิ่งๆ ไม่ละสายตาราวกับถูกมนต์สะกด โรมีโอไม่ได้สวยงามน่ามองเฉกเช่นหญิงสาว ไม่ได้น่ารักอ่อนหวานเหมือนกับเอวา แต่เต็มไปด้วยเสน่หาที่มากล้น สะกดตรึงทุกสายตา ไม่ว่าจะชายหญิงคนช
ตอนนี้เวลาผ่านมามากกว่า 5 วันแล้ว หลังจากงานประกาศแต่งตั้งองค์รัชทายาทและเปิดตัวพระชายา ตอนนี้โรมีโอยังคงนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยช้ำและรอยแดงระเรื่อห้อเลือด บริเวณสะโพกปวดหนึบจนชาไร้ความรู้สึก ขยับตัวแต่ละครั้งสะท้านไปทั่วกาย ที่เอวสอบและบั้นท้ายทั้งสองข้างเป็นรอยแดงปื้นของนิ้วมือเด่นชัด นอกจากนี้แล้วยังมีช่องทางด้านหลังที่บวมช้ำแดงก่ำบ่งบอกถึงการถูกใช้งานและเคี่ยวกรำอย่างหนักหน่วงตลอด 5 วันที่ผ่านมา โรมีโอยังคงนอนคว่ำหน้าพลางคิดไปถึงค่ำคืนอันเป็นจุดเริ่มต้นของบทรักที่แสนร้อนแรง ทำเอาเขาหมดสภาพไปโดยปริยายไมเคิลไม่ได้พาเขากลับเข้างานเลี้ยง แต่กลับพาเขามุ่งตรงไปอีกทางแทน ทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมองพร้อมเอ่ยถามสลับกับมองดูทางไปพลาง“ไปไหนครับ?” ไมเคิลหลุบตาลงต่ำมองคนในอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองตรง ก้าวเท้าเดินไปพลาง“ห้อง.....”“แต่แขกยัง-”“ไม่สน......”“.......” โรมีโอถึงกับหมดคำจะพูด ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมพยักหน้ารับ“ก็ดีครับ ผมอยากพักเหมือนกัน” ทันทีที่พูดจบไมเคิลก็ขมวดคิ้วมอง ก่อนจะเอ่ยเสียงติดดุนิดๆ“ใครให้นอน...... เข้าหอ......”
ตอนนี้ผมกำลังกะพริบตาปริบยืนมองภาพตรงหน้าสลับกับหันมองคนข้างกาย......“ไมค์......คุณแน่ใจนะว่าเป็นที่นี่?”“อืม....” ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่หาดทรายสีขาวนวลตา รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ดึงดูดให้ลงไปแหวกว่ายแต่คือ......ตอนนี้มันหน้าหนาวไงครับ.......อากาศเย็นๆ แบบนี้มันควรจะตั้งแคมป์ผิงไฟในป่าใหญ่ไม่ใช่หรอ!!!ผมโคลงศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ หลังจากผ่านวันสุดท้ายของปีในตอนนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาราวหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งไมเคิลเป็นคนวางแผนในการจัดทริปฮันนีมูนระหว่างเรามีแพลนกำหนดยิงยาวเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือน เพราะผมไม่มีที่ไหนที่อยากไปเป็นพิเศษโดยปกติแล้วการจัดการงานการต่างๆ อย่างการจองตั๋วจองบ้านพักกำหนดแผนการเดินทางอะไรพวกนี้จะเป็นหน้าที่ของผมเพราะเป็นเลขาส่วนตัวให้ไมเคิลมาครึ่งชีวิต ดังนั้นจึงจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีกว่า แต่เพราะผมไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไมเคิลเลยอาสารับหน้าที่ส่วนนี้ไปทำเอง ดังนั้นแล้วผมจึงให้สิทธิ์ขาดในการตัดสินใจกับไมเคิลได้เต็มที่ผมเอ่ยถามในตอนเขากำลังหาข้อมูลว่าเราจะไปที่ไหนกัน เขาก็ตอบกลับมาสั้นๆ แค่ว่า เซอร์ไพรส์และปล่อยให้เขาจัดการเอง ผลเป็นยังไงน่ะหรอครับ? ก็คือกา
“ขอนะ......”“ดะ เดี๋ยว” โรมีโอร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นดันแผ่นอกแข็งแกร่งเอาไว้พลางหันหน้าหลบไปอีกทาง อ้อมแอ้มบอกไม่เต็มเสียง“ตัวเล็กยัง-”“ไม่อยู่แล้ว.....” ไมเคิลบอกพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งดึงรั้งกางเกงว่ายน้ำของโรมีโอลงต่ำ มือข้างหนึ่งบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่ม ในขณะที่มืออีกข้างก็บีบเคล้นไปตามเนื้อตัว โรมีโอหันไปมองตามทิศทางที่เอวาเคยยืนอยู่ เมื่อหันไปก็พบว่าบารอนจับเอวาอุ้มพาดบ่า เดินมุ่งตรงเข้าบ้านไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมา เสียงโวยวายแว่วมาเป็นระยะ“อ๊ะ!! ไมค์!” โรมีโอสะดุ้งสุดตัวเมื่อช่องทางด้านหลังถูกล่วงล้ำโดยนิ้วมือเรียวยาวของไมเคิล ชายหนุ่มทำการสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนแล้วขยับเข้าออกในทันทีเพื่อเรียกร้องความสนใจ โรมีโอรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนพยุงตัวไม่อยู่ ศีรษะของโรมีโอซุกลงที่บ่ากว้างของไมเคิล ลมหายใจร้านผ่าวเป่ารินรดที่ซอกคอของไมเคิลแผ่วเบา ยิ่งเป็นการโหมกระหน่ำทำให้ไมเคิลมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น“โรม.....” ไมเคิลกัดฟันกรอด ปลายนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปภายในเริ่มขยับเข้าออก พร้อมๆ กับการดึงรั้งให้กางเกงว่ายน้ำของโรมีโอให้ต่ำลงอีกครั้ง และครั้งนี้มันลงต่ำจ
Michale Part“เริ่มได้.......” ไมเคิลพูดขณะที่กวาดสายตาไปทั่วห้องอัศวิน วันนี้ไมเคิลมีแผนที่จะขนย้ายข้าวของ ของโรมีโอไปไว้ในห้องคิง คงจะดูแปลกไปสักหน่อย หากให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยานอนพักผ่อนในห้องอัศวินที่ถูกตั้งไว้สำหรับบอดี้การ์ดคนสนิทหรือมือขวาของเจ้าของบ้านความจริงโรมีโอนั้นต้องได้นอนที่ห้องควีนเพื่อคู่กัน แต่น้องน้อยอยู่อาศัยในห้องนั้นตั้งแต่เจ้าตัวจำความได้ และไมเคิลก็ไม่อยากแย่งห้องของน้องน้อยมา ดังนั้นแล้วจึงตัดสินใจให้โรมีโอย้ายข้าวของมานอนด้วยกันในห้องคิง เมื่อคิดดูแล้วก็ถือว่าเหมาะสมในตอนนี้โรมีโอกำลังนอนหลับพักผ่อนในห้องโพธิ์แดงหลังจากกลับมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กันที่ตระกูลวัลโด้ ซึ่งไมเคิลไม่อยากจะเข้าไปกวนการหลับใหลของภรรยา ดังนั้นเขาจึงเป็นควบคุมการจัดเก็บและขนย้ายด้วยตนเอง ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงหลังกับกำแพงห้อง มองดูเหล่าบอดี้การ์ดและเมดสาวพากันขนย้ายข้าวของด้วยความรวดเร็วและเงียบเชียบทำให้ชายหนุ่มพึงพอใจเป็นอย่างมากไมเคิลยืนมองนิ่งๆ อยู่ชั่วครู่ แล้วจึงเดินไปนั่งลงบนเตียงของโรมีโอ ยกฝ่ามือลูบไล้บนหมอนนุ่มแผ่วเบา อดที่จะยกมันขึ้นมาดมกลิ่นไม่ได้แชมพูส่วนตัวที่เป็นกลิ่นเด
‘ลุงงงงงงงงงง’ มิลาด้ากลอกตามองอย่างเบื่อหน่าย พลิกกายหนีไอ้ลูกเสือตัวเล็กที่ชอบล้อมหน้าล้อมหลังไม่หยุดมิลาด้าไปเจอเจ้าลูกเสือตัวนี้เพราะได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังสนั่นจากทางด้านหลังของป่า พอไปถึงก็เห็นแม่เสือตัวหนึ่งที่นอนไร้ลมหายใจ อยู่ข้างนอกรั้ว โดยมีชายคนหนึ่งเอาปืนจ่อเอาไว้ ส่วนเจ้าลูกเสือนั้นเข้ามาในกรงด้วยกันกับมันอย่างงงๆ ซึ่งมันได้มารู้ภายหลังว่าแม่ของเจ้าตัวเล็กนี่ขุดหลุมเพื่อใช้หลบหนี แต่เพราะมันหลุมเล็กเกินไป เจ้าลูกเสือจึงรอดมาได้แค่ตัวเดียว ส่วนแม่ของมันถูกยิงตายและนอนปิดทางเข้าออกไว้แทนกรรรรรรรรรรมันขู่คำรามเสียงดังทำให้มนุษย์คนนั้นรีบวิ่งหนีไป มันมองหน้าลูกเสือตัวเล็กเพียงชั่วครู่ พอได้ยินเสียงเจ้านายร้องเรียกก็พุ่งทะยานกลับไปหาทันที ไม่สนใจเจ้าจิ๋วอีกใครจะไปรู้ว่าเจ้าจิ๋วนี่วิ่งตามมาแถมยังทำร้ายเจ้านายของเขาจนได้เลือดอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายเขาสั่งไว้ เจ้าจิ๋วคงไม่ได้มาวิ่งเล่นรอบตัวเขาแบบนี้เป็นแน่ เพราะเขาจะกัดหัวมันทิ้งด้วยตัวเอง!‘ลุงงงงงง หนูหิวนมมมมม’ เจ้าลูกเสือร้องแง้วๆๆ น่ารำคาญ ปีนป่ายตัวของมิลาด้าไม่หยุด จนเจ้าเสือหนุ่มรำคาญ ใช้เท้าหลังดีดเจ้าจิ๋วจ
“ไมค์”“...”“องค์ชายชาลส์ส่งจดหมายมาขอเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี”“ไม่...” โรมีโอกลอกตาใส่คนรัก แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน พร้อมเอ่ยปากบอก“ไมค์ คุณเป็นองค์รัชทายาทนะ ในอนาคตข้างหน้าก็คือคนที่มีหน้าที่ปกครองประเทศอาณาราช หากคุณไม่คิดสร้างสัมพันธ์กับละแวกเพื่อนบ้านใกล้เคียงบ้าง หากเกิดอะไรขึ้นมาเราจะขอความช่วยเหลือลำบากนะ” โรมีโอพูดด้วยความเป็นเหตุเป็นผล ไมเคิลเหลือบตามองเพียงชั่วครู่แล้วเอ่ยต่อ“ไม่...” ไมเคิลไม่ค่อยชอบองค์ชายคนนี้เท่าไหร่นัก ตั้งแต่ครั้งที่พบกันในสมัยเด็กแล้ว องค์ชายผู้นั้นค่อนข้างไม่น่าคบหาสักเท่าไหร่...“ไม่ครับ ถ้าคุณไม่อยากพบเขา ผมจะพบเขาเอง” ว่าจบก็ลุกขึ้นยืน เดินไปเขียนจดหมายตอบกลับที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ไมเคิลคิวกระตุกเข้าหากัน มองจ้องโรมีโอนิ่ง ๆ แล้วจึงสะบัดหน้าไปอีกทางหนึ่งเดือนผ่านไป...ตอนนี้องค์ราชินี ไมเคิล โรมีโอ และเอวาพร้อมด้วยบารอน กำลังมายืนอยู่ที่หน้าประตูของพระราชวัง หลังจากที่โรมีโอเขียนจดหมายตอบกลับไป อีกฝ่ายก็ตอบรับกลับมาอย่างรวดเร็ว และแจ้งกำหนดการเดินทางในทันทีโรมีโอจึงจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับแขกผู้มาเยือนอย่างไม่ขาดตกบกพร
“โรมไปไหน...” ไมเคิลถามพร้อมกับยื่นส่งเสื้อสูทของตนเองให้กับเมดสาวรับไปเก็บ พร้อม ๆ กับการดึงเนคไทออกจากลำคอแกร่งไปพลางก้าวเดินไปพลาง“คุณโรมยังไม่กลับค่ะ” เมดสาวตอบกลับและเดินตามหลังไปเงียบ ๆ ไมเคิลขมวดคิ้วหมุนด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วโบกมือไล่ไปหนึ่งที เพียงเท่านั้นเป็นอันเข้าใจ เมดสาวผละตัวไปจัดการข้าวของส่วนตัวของไมเคิลแล้วจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนจะล่าถอยไปอย่างเงียบเชียบตอนนี้ทั้งไมเคิลและโรมีโอแต่งงานกันได้มากกว่า 3 ปี แล้ว การอยู่กินใช้ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ค่อยแตกต่างจากเมื่อก่อนเท่าไหร่นัก ทั้งคู่ยังคงอยู่บ้านหลังเดียวกัน เพียงแต่ไป ๆ มา ๆ ระหว่างคฤหาสน์ตระวัลโด้ และตระกูลวอลเลอร์ ส่วนน้องน้อยของเขานั้นหลังจากที่ได้สวมแหวนหมั้นไป ก็แทนจะย้ายไปกินนอนอยู่ที่ตระกูลบาลักซ์แบบเต็มตัว อาจจะมีการแวะมาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้งไมเคิลก้าวเดินไปที่ทิศทางหนึ่งซึ่งเป็นด้านหลังคฤหาสน์ อันมีเจ้าเสือขาวตัวใหญ่พักอาศัยอยู่ในป่าจำลอง ในขณะที่ก้าวเท้าชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่าบ้านหลังให้ความรู้สึกเงียบเหงาและอ้างว้างแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาต่างมีงาน มีหน
คำเตือน มีเนื้อหาที่ขัดต่อศีลธรรมRomeo Partหลังจากที่บาลักซ์เข้ามาทำการสู่ขอเอวาด้วยตนเองและผลสรุปออกมาที่ทั้งสองคนต่างหมั้นหมายเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงจะจัดงานแต่งในอีก 4 ปีข้างหน้า หลังเสร็จสิ้นการพูดคุย และน้องน้อยของเขาเดินตามหลังว่าที่คู่หมั้นตามต้อยๆ ไปแล้วนั้น โรมีโอก็ถูกสามีของตนอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด มุ่งตรงพาไปที่ห้องโพธิ์แดง และรังแกเขาอย่างหนักหน่วง เพื่อเป็นการชดเชยให้กับการร่วมรักตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เขาถึงกับต้องนอนหยอดข้าวต้มกันเลยทีเดียวตอนนี้ไมเคิลและโรมีโอกำลังนั่งอยู่คู่กัน โดยตรงหน้ามีเอวากับบารอนกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ ถัดไปด้านข้างมีองค์ราชินีที่ทรงประทับ ทอดพระเนตรมองจ้องด้วยรอยยิ้มบางเบา ส่วนอีกฝั่งนั้นเป็นบาลักซ์ที่กำลังจ้องมองมาเช่นกันด้านข้างนั้นมีพานอันใหญ่ ข้างในเต็มไปด้วยแก้วแหวนเงินทองและเพชรพลอยในวันนี้คืองานหมั้นของคนทั้งคู่......บารอนสวมใส่ชุดสูทสีขาวคล้ายกับชุดเจ้าบ่าวส่วนเอวานั้นสวมใส่ชุดสีงาช้างเข้าคู่กันอย่างลงตัวกึก กึก กึกโรมีโอหันมองตามทิศทางของเสียงที่ตนได้ยิน เมื่อดวงตาสีฟ้าสดใสหันมองคนข้างกายก็ได้พบกับที่มาของเสียงนั้น“ฮึฮึ” โรม
Ava Partตอนนี้ทั้งเอวาและบารอนกลับมาจากการเที่ยวทะเลกันแล้ว เนื่องจากไมเคิลวางแผนฮันนีมูนกับโรมีโอและน้องน้อยของบ้านที่ผ่านมาได้ยิน จึงเข้าไปออดอ้อนขอพี่ชายตามมาเที่ยวด้วย จนบารอนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากห้ามปราม แต่ถึงกระนั้นไมเคิลก็ใจดีกับน้องน้อยเสมอ ตกปากรับคำในทันทีโดยไม่ต้องถามภรรยาที่กำลังนอนหลับพักผ่อนแม้แต่น้อยดังนั้นแล้วทำให้ท้ายที่สุดเอวาและบารอนก็ตามไปเที่ยวด้วยในทริปฮันนีมูนของพวกพี่ชาย แต่เด็กน้อยก็รู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร ดังนั้นจึงขอตามมาเพียงแค่สามวันสองคืน หลังจากนั้นจะเป็นไมเคิลที่ทำหน้าที่พาภรรยาออกเที่ยวรอบโลกตลอดหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ตามแผนที่วางไว้ตอนนี้เอวาและบารอนกำลังเดินกลับเข้ามาพักผ่อนในบ้านหลังใหญ่ของชายหนุ่ม เพราะพวกพี่ชายไม่อยู่บ้านตลอดหนึ่งเดือน ทำให้คนตัวเล็กอดที่จะรู้สึกเหงาหงอยไม่ได้ แม้ว่าแต่เดิมทั้งสองคนจะชอบไม่อยู่บ้านบ่อยๆ จนเคยชินก็ตามที เห็นทีก็คงจะมีเพียงช่วงนี้ที่มีเรื่องหลายๆ อย่างต้องจัดการ จึงทำให้บุคคลทั้งสองอยู่ติดบ้านและเอวาก็ชื่นชอบให้มันเป็นเช่นนั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้น้องน้อยต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ไมเคิลจึงออกปากอนุญาตให้มาอยู่อาศัยกับบารอ
Baron Part“หึหึ” เสียงทุ้มขี้เล่นของใครบางคนดังขึ้น ปลายนิ้วมือไล้เกลี่ยไปตามกรอบหน้าและเส้นผมที่ปรกตาของเด็กน้อยในอ้อมแขนออกให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะจมูกเล็กเชิดรั้นอย่างเอ็นดู คนตัวเล็กยู่หน้าเล็กน้อย ก่อนจนมุดหนี ซุกหน้าลงกับอกอุ่นของอีกฝ่าย แล้วหลับลงอย่างสบายอารมณ์อีกหนบารอนเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า สองแขนรวบเอาคนตัวเล็กมาอยู่ในอ้อมกอด ภายในหัวสมองหวนคิดไปถึงเมื่อครั้งที่เขาได้เจอกับเด็กน้อยที่เขาเคยมองว่าเป็นตัวเกะกะในครั้งแรก........ในเย็นวันหนึ่งเขากลับบ้านมาพร้อมกับไมเคิล ด้วยความที่ทั้งคู่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน และบารอนเป็นคนที่มีเพื่อนมากเพราะความขี้เล่น ส่วนไมเคิลนั้นปั้นหน้านิ่งไม่รู้สึกยินดียินร้าย มีเพียงใบหน้าที่เรียบเฉย ข้างกายมีผู้ช่วยคนสนิทคอยตามดูแลอยู่ไม่ห่าง นายเดินไปไหนผู้ช่วยคนนั้นก็เดินตามไปด้วย ซึ่งบารอนมารู้ทีหลังว่าชื่อโรมีโอ และเพราะความเรียบนิ่งนี้เองที่ทำให้เขาอยากจะเห็นตอนไมเคิลทำสีหน้าท่าทางแบบอื่นดูบ้าง จึงเข้าไปตีสนิทด้วยไม่ว่าเขาจะพยายามทำอย่างไร ไมเคิลก็จะเพียงปรายตามองเล็กน้อยเท่านั้นหรือไม่ก็อาจจะเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้เขาเจ็บช้ำจนต้องกุ
Michale Part“เริ่มได้.......” ไมเคิลพูดขณะที่กวาดสายตาไปทั่วห้องอัศวิน วันนี้ไมเคิลมีแผนที่จะขนย้ายข้าวของ ของโรมีโอไปไว้ในห้องคิง คงจะดูแปลกไปสักหน่อย หากให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยานอนพักผ่อนในห้องอัศวินที่ถูกตั้งไว้สำหรับบอดี้การ์ดคนสนิทหรือมือขวาของเจ้าของบ้านความจริงโรมีโอนั้นต้องได้นอนที่ห้องควีนเพื่อคู่กัน แต่น้องน้อยอยู่อาศัยในห้องนั้นตั้งแต่เจ้าตัวจำความได้ และไมเคิลก็ไม่อยากแย่งห้องของน้องน้อยมา ดังนั้นแล้วจึงตัดสินใจให้โรมีโอย้ายข้าวของมานอนด้วยกันในห้องคิง เมื่อคิดดูแล้วก็ถือว่าเหมาะสมในตอนนี้โรมีโอกำลังนอนหลับพักผ่อนในห้องโพธิ์แดงหลังจากกลับมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กันที่ตระกูลวัลโด้ ซึ่งไมเคิลไม่อยากจะเข้าไปกวนการหลับใหลของภรรยา ดังนั้นเขาจึงเป็นควบคุมการจัดเก็บและขนย้ายด้วยตนเอง ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงหลังกับกำแพงห้อง มองดูเหล่าบอดี้การ์ดและเมดสาวพากันขนย้ายข้าวของด้วยความรวดเร็วและเงียบเชียบทำให้ชายหนุ่มพึงพอใจเป็นอย่างมากไมเคิลยืนมองนิ่งๆ อยู่ชั่วครู่ แล้วจึงเดินไปนั่งลงบนเตียงของโรมีโอ ยกฝ่ามือลูบไล้บนหมอนนุ่มแผ่วเบา อดที่จะยกมันขึ้นมาดมกลิ่นไม่ได้แชมพูส่วนตัวที่เป็นกลิ่นเด
“ขอนะ......”“ดะ เดี๋ยว” โรมีโอร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นดันแผ่นอกแข็งแกร่งเอาไว้พลางหันหน้าหลบไปอีกทาง อ้อมแอ้มบอกไม่เต็มเสียง“ตัวเล็กยัง-”“ไม่อยู่แล้ว.....” ไมเคิลบอกพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งดึงรั้งกางเกงว่ายน้ำของโรมีโอลงต่ำ มือข้างหนึ่งบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่ม ในขณะที่มืออีกข้างก็บีบเคล้นไปตามเนื้อตัว โรมีโอหันไปมองตามทิศทางที่เอวาเคยยืนอยู่ เมื่อหันไปก็พบว่าบารอนจับเอวาอุ้มพาดบ่า เดินมุ่งตรงเข้าบ้านไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมา เสียงโวยวายแว่วมาเป็นระยะ“อ๊ะ!! ไมค์!” โรมีโอสะดุ้งสุดตัวเมื่อช่องทางด้านหลังถูกล่วงล้ำโดยนิ้วมือเรียวยาวของไมเคิล ชายหนุ่มทำการสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนแล้วขยับเข้าออกในทันทีเพื่อเรียกร้องความสนใจ โรมีโอรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนพยุงตัวไม่อยู่ ศีรษะของโรมีโอซุกลงที่บ่ากว้างของไมเคิล ลมหายใจร้านผ่าวเป่ารินรดที่ซอกคอของไมเคิลแผ่วเบา ยิ่งเป็นการโหมกระหน่ำทำให้ไมเคิลมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น“โรม.....” ไมเคิลกัดฟันกรอด ปลายนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปภายในเริ่มขยับเข้าออก พร้อมๆ กับการดึงรั้งให้กางเกงว่ายน้ำของโรมีโอให้ต่ำลงอีกครั้ง และครั้งนี้มันลงต่ำจ
ตอนนี้ผมกำลังกะพริบตาปริบยืนมองภาพตรงหน้าสลับกับหันมองคนข้างกาย......“ไมค์......คุณแน่ใจนะว่าเป็นที่นี่?”“อืม....” ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่หาดทรายสีขาวนวลตา รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ดึงดูดให้ลงไปแหวกว่ายแต่คือ......ตอนนี้มันหน้าหนาวไงครับ.......อากาศเย็นๆ แบบนี้มันควรจะตั้งแคมป์ผิงไฟในป่าใหญ่ไม่ใช่หรอ!!!ผมโคลงศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ หลังจากผ่านวันสุดท้ายของปีในตอนนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาราวหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งไมเคิลเป็นคนวางแผนในการจัดทริปฮันนีมูนระหว่างเรามีแพลนกำหนดยิงยาวเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือน เพราะผมไม่มีที่ไหนที่อยากไปเป็นพิเศษโดยปกติแล้วการจัดการงานการต่างๆ อย่างการจองตั๋วจองบ้านพักกำหนดแผนการเดินทางอะไรพวกนี้จะเป็นหน้าที่ของผมเพราะเป็นเลขาส่วนตัวให้ไมเคิลมาครึ่งชีวิต ดังนั้นจึงจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีกว่า แต่เพราะผมไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไมเคิลเลยอาสารับหน้าที่ส่วนนี้ไปทำเอง ดังนั้นแล้วผมจึงให้สิทธิ์ขาดในการตัดสินใจกับไมเคิลได้เต็มที่ผมเอ่ยถามในตอนเขากำลังหาข้อมูลว่าเราจะไปที่ไหนกัน เขาก็ตอบกลับมาสั้นๆ แค่ว่า เซอร์ไพรส์และปล่อยให้เขาจัดการเอง ผลเป็นยังไงน่ะหรอครับ? ก็คือกา