ตอนนี้เวลาผ่านมามากกว่า 5 วันแล้ว หลังจากงานประกาศแต่งตั้งองค์รัชทายาทและเปิดตัวพระชายา ตอนนี้โรมีโอยังคงนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยช้ำและรอยแดงระเรื่อห้อเลือด บริเวณสะโพกปวดหนึบจนชาไร้ความรู้สึก ขยับตัวแต่ละครั้งสะท้านไปทั่วกาย ที่เอวสอบและบั้นท้ายทั้งสองข้างเป็นรอยแดงปื้นของนิ้วมือเด่นชัด นอกจากนี้แล้วยังมีช่องทางด้านหลังที่บวมช้ำแดงก่ำบ่งบอกถึงการถูกใช้งานและเคี่ยวกรำอย่างหนักหน่วงตลอด 5 วันที่ผ่านมา โรมีโอยังคงนอนคว่ำหน้าพลางคิดไปถึงค่ำคืนอันเป็นจุดเริ่มต้นของบทรักที่แสนร้อนแรง ทำเอาเขาหมดสภาพไปโดยปริยาย
ไมเคิลไม่ได้พาเขากลับเข้างานเลี้ยง แต่กลับพาเขามุ่งตรงไปอีกทางแทน ทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมองพร้อมเอ่ยถามสลับกับมองดูทางไปพลาง
“ไปไหนครับ?” ไมเคิลหลุบตาลงต่ำมองคนในอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองตรง ก้าวเท้าเดินไปพลาง
“ห้อง.....”
“แต่แขกยัง-”
“ไม่สน......”
“.......” โรมีโอถึงกับหมดคำจะพูด ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมพยักหน้ารับ
“ก็ดีครับ ผมอยากพักเหมือนกัน” ทันทีที่พูดจบไมเคิลก็ขมวดคิ้วมอง ก่อนจะเอ่ยเสียงติดดุนิดๆ
“ใครให้นอน...... เข้าหอ......” เพียงเท่านั้นโรมีโอก็หันหน้ามองขวับทันควัน นี่อย่าบอกนะว่าที่อุ้มเขาขึ้นมาถึงห้องนี่เพื่อที่จะเข้าหอกับเขา ไม่ใช่ตั้งใจพาเขามาพักอย่างที่คิด!
ยังไม่ทันได้พูดอะไร ไมเคิลก็พาเขามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของอีกฝ่ายเสียแล้ว ไมเคิลเอื้อมมือไปเปิดประตูโดยที่ยังคงอุ้มเขาอยู่เช่นเดิมไม่ยอมปล่อยลงเลยแม้แต่น้อย เมื่อเปิดประตูออกแล้วก็เดินตรงไปที่เตียงพร้อมกับโยนโรมีโอลงบนเตียงอย่างไม่ออมแรง แต่เพราะเตียงอีกฝ่ายเป็นเตียงคุณภาพดีขนาดคิงไซส์พิเศษ ดังนั้นมันเลยไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเด้งดึ๋งอยู่บนเตียง โดยมีผ้าคลุมของอีกฝ่ายพันธนาการจนกลายเป็นดักแด้นอนอยู่บนเตียง
ไมเคิลเดินกลับไปที่ประตู จัดการปิดประตูและลงกลอนให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับมาหาโรมีโออีกครั้ง พร้อมกับการถอดเสื้อออกไปพลาง โรมีโอหยัดกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พยายามพาตัวเองให้หลุดออกจากพันธนาการ จึงไม่ทันได้หันมองไมเคิลแม้แต่น้อย
จนเมื่อสลัดผ้าคลุมออกได้ เงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็ต้องผงะถอยหลังไปเล็กน้อย เมื่อไมเคิลเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับการขึงดึงเนคไทสีแดงเข้มในมือไปด้วย ก่อนที่มันจะถูกทาบทับที่ดวงตาสีฟ้าสดใสและหลังจากนั้นคือการเล่นสนุกกับร่างกายของเขา ลิ้มรสความรักและความสุขที่เต็มไปด้วยห้วงอารมณ์อันบ้าคลั่งขององค์รัชทายาท ทั่วทุกพื้นที่ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นกามารมณ์ ทุกสิ่งที่สามารถสรรหามาเล่นกับร่างของเขาได้ ไมเคิลก็หยิบฉวยมาทั้งหมด
เพราะที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์ของตระกูลวัลโด้ แต่เป็นพระราชวังส่วนพระองค์ขององค์ราชินี ดังนั้นที่นี่จึงไม่มีห้องโพธิ์แดงที่ไมเคิลชอบใช้งาน ไมเคิลจึงเล่นสนุกกับร่างกายของเขาโดยตรงโดยไม่ผ่านอุปกรณ์เหมือนเช่นทุกที แต่ความซาดิสม์ก็ไม่ต่างกัน.....
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้โรมีโอนอนคว่ำหน้าหมดสภาพอยู่ในขณะนี้......
โรมีโอนอนคิดไปพลางๆ ก่อนจะต้องหันไปหาใครบางคนที่เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับขวดยาที่วางเรียงรายและอุปกรณ์นวดประคบ โรมีโอมองตามอย่างสนอกสนใจ ไมเคิลจัดการวางของทั้งหมดลงที่โต๊ะข้างเตียง จากนั้นก็จัดยาออกมาเป็นชุด แล้วส่งให้โรมีโอ
ชายหนุ่มรับยาไปกินทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้า หลังจากทานเสร็จก็หันมาสนใจไมเคิลอีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายเลิกผ้าห่มขึ้นสูงแล้วปัดออกไปจากกายของเขา ทำให้เปิดเผยผิวกายเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มที่เต็มไปด้วยรอยแดงช้ำ ก่อนที่ไมเคิลจะทายาลงบนผิวกายสลับกับการนวดไปมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการ
“คุณไม่ต้องทำก็ได้นะครับ” สิ้นคำไมเคิลก็เงยหน้าขึ้นมอง คิ้วคู่คมขมวดเข้าหากันแน่น แทนคำถาม
“เดี๋ยวค่อยให้เด็กมานวดให้ก็ได้” เพียงเท่านั้นใบหน้าของอีกฝ่ายก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยติดจะเย็นชาปะปนไปกับความกรุ่นโกรธ จนโรมีโอได้แต่นอนมองด้วยความงุนงง
“ไม่......” ว่าจบก็ก้มหน้าก้มตานวดให้โดยไม่สนใจจะฟังอีก โรมีโอเองก็เลยไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากปล่อยให้ไมเคิลได้ทำตามใจ
“อื้มมมมม” โรมีโอครางในลำคอด้วยความสบายตัว นอนคว่ำหน้าหลับตาพริ้ม จนเริ่มรู้สึกแปลกๆ เมื่อฝ่ามือที่ควรจะนวดคลึงไปทั่วทั้งตัว กลับบีบๆ คลึงๆ ที่บั้นท้ายทั้งสองข้าง เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อปลายนิ้วร้ายเริ่มเกลี่ยช่องทางด้านหลังไปมา
“ไมค์..... คุณทำอะไร?”
“ตรงนี้....... มันแดง......”
“อึก!” ไมเคิลไม่พูดเปล่า แต่ทำการสอดปลายนิ้วเข้าไปตื้นๆ และกดคลึงแผ่วเบา
“พอเลยไมค์ ผมเหนื่อย” โรมีโอพูดพร้อมหันไปทำตาดุใส่ไมเคิล หากแต่อีกฝ่ายไม่มีอาการตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับคลานขึ้นมาคร่อมทับตัวเขาไว้ มือข้างหนึ่งลูบศีรษะของเขาไปมา กดจูบที่ขมับแผ่วเบากระซิบบอกเสียงแหบพร่าข้างใบหู
“นอนเฉยๆ ..... ฉันทำเอง......” เพียงเท่านั้น บางสิ่งบางอย่างก็ดุนดันที่บั้นท้ายของเขาไปมา แถมอีกฝ่ายยังคงกดสะโพกและตอกอัดเบาๆ ผ่านเนื้อผ้า เหมือนกับท่าร่วมรักหากแต่ไม่ได้มีการสอดใส่ แต่มันก็ทำให้เขาอารมณ์ขึ้นได้ไม่ยาก และหลังจากนั้น โรมีโอก็โดนไมเคิลจับกินอีกหลายครั้งจนหมดสิ้นเรี่ยวแรง......
“พี่จ๋า! พี่โรมจ๋า!!” เมื่อโรมีโอออกจากห้องมาได้เอวาก็ร้องเรียกเสียงดังลั่นด้วยความยินดี เพราะวันนี้คือวันสุดท้ายของปี และบุคคลในตระกูลวัลโด้ รวมถึงบุคคลใกล้ชิดต่างมารวมตัวกันเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง และนั่นทำให้ไมเคิลยอมปล่อยตัวโรมีโอออกมาจากห้องในที่สุด เนื่องจากองค์ราชินีทรงไปตามด้วยพระองค์เอง ทำให้ชายหนุ่มแสดงท่าทีขัดใจ แต่ก็ยอมลงมาเข้าร่วมงานเลี้ยง โดยการอุ้มประคองโรมีโอลงมาด้วยตนเอง
เอวาส่งเสียงร้องทักพี่ชายทั้งสองของตน ใบหน้านวลนั้นแสดงความดีใจออกมาอย่างไม่ปกปิด จัดการขยับเก้าอี้ให้กับพี่ชายของตนอย่างเอาอกเอาใจ จนเมื่อโรมีโอนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เด็กน้อยก็ปีนขึ้นไปนั่งทับตักโดยหันหน้าเข้าหากัน ซุกใบหน้าลงกับบ่าของโรมีโอและถูไถไปมา
“คิดถึงพี่โรมจ๋า!!” โรมีโอยกยิ้มบางเบา สองมือยกขึ้นโอบกอดน้องน้อยกลับไป กดจูบสลับกับหอมแก้มของเอวาไปมาด้วยความเอ็นดู
“พี่ก็คิดถึงตัวเล็กค่ะ” พูดจบก็ฟัดจมูกลงที่แก้มนุ่มแรงๆ อีกหน ก่อนที่ไมเคิลจะขยับเข้ามาลูบศีรษะของเอวา ก้มลงหอมแก้มบ้างอย่างไม่ยอมน้อยหน้า เอ่ยถามพร้อมทำหน้าเศร้า
“ตัวเล็กไม่คิดถึงพี่บ้างหรอคะ” เอวาที่ได้ยินดังนั้นจึงเงยหน้าขึ้นแล้วยืดตัวไปจุ๊บแก้มของไมเคิลบ้างก่อนจะตอบกลับไป
“หนูไม่คิดถึงพี่จ๋าหรอกนะ เพราะหนูมากี่ทีก็เจอพี่จ๋าตลอดเลย เพราะพี่จ๋าเอาแต่พาพี่โรมจ๋าไปเก็บไว้ในห้องนั่นแหละ!” สิ้นคำ ไมเคิลก็กระตุกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ แล้วจึงกดจูบลงที่แก้มใสหลายๆ ครั้ง
จนในที่สุดบารอนก็ทนไม่ไหว ขยับเดินไปอุ้มน้องน้อยออกมาจากตักของโรมีโอ แล้วพาไปนั่งลงบนตักของตนเองโดยไม่สนใจสายตาที่มองจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อของไมเคิล และดวงตาของโรมีโอที่มองจ้องมาด้วยความไม่ชอบใจ นอกจากนี้แล้วยังกดจูบที่ริมฝีปากของเอวาอย่างดูดดื่ม หันมายักคิ้วส่งให้คนเป็นพี่ชายทั้งสองอย่างเป็นต่อ
ปึก!!
บารอนโยกศีรษะหลบส้อมเงินที่พุ่งมาอย่างรวดเร็วและปักลงที่กำแพงด้านหลังได้อย่างฉิวเฉียด ส่งยิ้มให้กับคนที่มองตรงมาพร้อมเอ่ยปากดุไม่จริงจังนัก
“จุ๊ๆๆ ไม่ดีเลยนะไมค์ นายจะทำให้เอวาได้รับบาดเจ็บไปด้วยนะ”
“ไม่มีทาง.....” ไมเคิลพูดพร้อมกับลดมือลงต่ำ แล้วขยับไปตักอาหารใส่จานให้กับคนที่นั่งอยู่ข้างกาย
“ขอบคุณครับ” โรมีโอบอกขอบคุณพร้อมกับตักอาหารคืนให้บ้าง องค์ราชินีที่ทรงประทับอยู่ตั้งแต่ต้นมองความวุ่นวายตรงหน้าแล้วส่ายพระพักตร์ไปมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนจะเอ่ยถามไมเคิลด้วยสุรเสียงอ่อนโยน
“แล้วนี่จะไปฮันนีมูนกันที่ไหนกันล่ะ?” เมื่อได้ยินคำถาม ไมเคิลก็หันมามองหน้าโรมีโอแทนเสียอย่างนั้น
“ตามใจนาย........”
“ผม..... ไม่มีที่ไหนเป็นพิเศษครับ” โรมีโอเงียบลงครู่หนึ่งอย่างครุ่นคิด แต่กลับไม่มีที่ไหนที่อยากจะไปเลยแม้แต่น้อย ชีวิตของเขาอยู่กับการทำงานและติดตามอดีตเจ้านายคนนี้ไปทั่วทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะขึ้นเหนือลงใต้ เขาก็ยังคงติดตามไปคอยรับใช้อยู่เสมอ พอมาตอนนี้แล้วอีกฝ่ายกลับถามเขาว่าอยากจะไปที่ไหน เขาเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรเช่นกัน
ไมเคิลพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไรอีก ทำให้เรื่องจบลงไปอย่างงงๆ และหลังจากนั้นคือการทานอาหารร่วมกันแล้วแยกย้าย องค์ราชินีเป็นคนแรกที่ขอแยกตัวขึ้นไปพักผ่อน เพราะไม่อาจทนรอจนถึงเที่ยงคืนได้ และคนต่อมาที่ขอตัวแยกกลับไปก่อนก็คือเอวาและบารอนที่ขอไปเค้าท์ดาวน์กันสองคน
เมื่อเอวาไม่อยู่ ทั้งไมเคิลและโรมีโอจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ ในคราวนี้ไมเคิลไม่ได้กลับขึ้นห้องนอนที่ชั้นบนของพระราชวัง แต่กลับพาโรมีโอมุ่งตรงกลับบ้านที่คฤหาสน์วัลโด้แทน
เมื่อมาถึงบ้าน โรมีโอที่ตั้งใจจะแยกตัวกลับไปนอนพักเอาแรงก็มีอันต้องเปลี่ยนแผน เมื่อตอนนี้ทุกคนที่เป็นบอดี้การ์ดและเมดสาวรับใช้พากันมายืนเรียงรายต้อนรับ ทันทีที่เขาก้าวเท้าลงจากรถ ทุกคนก็ก้มศีรษะลงต่ำ เอ่ยปากอย่างพร้อมเพรียง
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ/ค่ะ นายหญิง!!” โรมีโอที่ได้ยินถ้อยคำนั้นก็พลันชะงักนิ่ง หันหน้าไปมองไมเคิลอย่างต้องการขอคำตอบ หากแต่อีกฝ่ายกลับวางสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบอะไรกลับมา ทำให้โรมีโอต้องจัดการสถานการณ์ตรงหน้าด้วยตนเอง
“เรียกโรมีโอตามเดิมเถอะครับ” เมื่อเหล่าบอดี้การ์ดและเมดสาวได้ฟังก็เหลือบตามองบอสของตน ไมเคิลพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร แต่เป็นการบ่งบอกให้ทำตามใจคนร่างโปร่งโดยไร้เสียง ดังนั้นแล้วทุกคนจึงตอบรับอย่างพร้อมเพรียงอีกครั้ง
“รับทราบครับ/ค่ะ!” โรมีโอพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้าน จึงทำให้เห็นว่าตอนนี้ภายในห้องโถงกลางถูกตกแต่งไปด้วยสายรุ้งหลากสีสัน นอกจากนี้แล้วยังมีต้นคริสต์มาสต้นใหญ่อยู่ที่กลางห้องโถงจัดเลี้ยง ที่ใต้โคนต้นนั้นมีกล่องของขวัญวางไว้เรียงราย ก่อนที่ไมเคิลจะขยับเข้ามาใกล้พร้อมเอ่ยปากบอก
“วันคริสต์มาสย้อนหลัง....... ให้พวกเขา.....” โรมีโอยกยิ้มน้อยๆ พลางพยักหน้ารับ เพราะตัวเขาเองก็ยุ่งวุ่นวายไม่น้อยกับวันคริสต์มาสที่ผ่านมา เพราะต้องเกณฑ์คนมากมายไปช่วยในงานประกาศแต่งตั้งองค์รัชทายาท ทำให้การจัดงานเลี้ยงคริสต์มาสภายในตระกูลนั้นถูกเลื่อนออกไป
โดยปกติแล้วคนที่มีหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ก็คือเขาเอง แต่เพราะถูกไมเคิลจับขังไว้ในห้อง ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน สูบเอาเรี่ยวแรงของเขาไปจนหมด ทำให้หลงลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
ดังนั้นแล้วตอนนี้ทั้งไมเคิลและโรมีโอต่างก็เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองย้อนหลัง มีการสุ่มจับฉลากของขวัญกันภายใน ของไมเคิลนั้นเป็นอะไรที่เรียบง่าย แต่ทำให้เหล่าบอดี้การ์ดต่างตาโตและโห่ร้องอย่างยินดีไปทั่วทั้งคฤหาสน์ นั่นก็คือเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งล้านบาท มีทั้งหมดหนึ่งร้อยรางวัลจากคนรับใช้กว่าพันคน ผสมปนเปกันอยู่ภายในฉลากของส่วนกลาง
นอกจากนี้แล้วของโรมีโอเองก็ไม่น้อยหน้ากันสักเท่าไหร่นัก นั่นก็คือตั๋วท่องเที่ยวต่างประเทศพร้อมงบในการใช้จ่ายหนึ่งล้านบาทจำนวนสิบรางวัล อีกทั้งยังมีของขวัญจากเหล่าสมาชิกคนอื่นๆ อีก อย่างของโคลด์ก็เป็นปืนสั่งทำพิเศษที่มีลวดลายสวยงาม ของเบลซเป็นแจกันอียิปต์โบราณที่แอบขโมยมาจากสุสาน ของออสการ์คือบูมเมอแรงที่บางเฉียบแต่คมกริบ นอกจากนี้แล้วคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมน้อยหน้ากันแต่อย่างใด
โรมีโอและไมเคิลอยู่ร่วมงานเลี้ยงเกือบชั่วโมงกว่า ก่อนที่ไมเคิลจะผุดตัวลุกขึ้นแล้วจับดึงให้โรมีโอลุกตาม ก่อนจะพาเดินขึ้นไปที่ด้านบนดาดฟ้าของคฤหาสน์ ที่ด้านบนนั้นถูกตกแต่งอย่างสวยงาม มีโซฟาในลักษณะของเบาะรองนั่งข้างๆ กันมีไวน์ที่ถูกวางตั้งไว้พร้อมแก้วทรงสวยสองใบ อีกฝั่งเป็นต้นคริสต์มาสขนาดกลางที่ประดับไฟกะพริบสวยงาม และมีการเตรียมผ้าห่มผืนใหญ่ไว้คอยท่า รอบๆ ถูกประดับด้วยคบไฟที่รายล้อม ทำให้อากาศไม่หนาวเย็นเกินไปนัก
ไมเคิลจับดึงให้โรมีโอนั่งลงบนตักของตน ก่อนจะใช้ผ้าห่มตวัดคลุมคนทั้งคู่เอาไว้สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย เพราะการนั่งแบบนี้ทำให้โรมีโอต้องเอนหลังพิงอกแกร่งของอีกคนอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ยังไม่วายหันไปร้องบอก
“ถ้าหนักก็บอกนะครับ”
“ไม่หนัก........” ไมเคิลปฏิเสธเสียงเรียบ แต่แล้วก็ชะงัก ก่อนจะโน้มตัวลงแล้วกระซิบข้างใบหูนิ่มแทน
“อุ้มแตงเป็นชั่วโมง....... ก็ทำมาแล้ว......” โรมีโอพลันหน้าร้อนวาบ และยิ่งสะดุ้งเข้าไปใหญ่เมื่อไมเคิลขบกัดใบหูของเขาเบาๆ
“ฮึฮึ.....” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเอนหลังพิงเบาะ พร้อมกับดึงให้โรมีโอพิงตาม กอดอีกฝ่ายเอาไว้หลวมๆ แต่แน่นหนา ไม่ให้อึดอัดจนเกินไป แต่ก็ไม่สามารถดิ้นหลุดจากอ้อมกอดนี้ไปได้ ทั้งคู่ดื่มด่ำกับช่วงเวลาที่เงียบสงบนี้ไปด้วยกัน
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับดวงดารามากมาย ก้มหน้าลงต่ำก็เห็นตึกรามบ้านช่องที่ถูกประดับด้วยแสงไฟวิบวับไปทั่วทุกพื้นที่ และคล้ายๆ ว่าจะได้ยินเสียงดนตรีแว่วมาตามสายลม
“ชอบไหม.....”
“ครับ” โรมีโอตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ดวงตาสีฟ้าสดใสกวาดมองไปทั่วทุกพื้นที่ ชื่นชมบรรยากาศอย่างเต็มที่
“โรม.......”
“?” โรมีโอหันมามองหน้าคนเรียกพร้อมกับเลิกคิ้วสงสัย ไมเคิลยกมือขึ้นสูง ลูบไล้ใบหน้าของโรมีโอแผ่วเบา
“การแต่งงานกับนาย...... ไม่ใช่เรื่องที่ฝืนใจฉัน.....” โรมีโอที่หันมองตามเสียงเรียกและเมื่อได้ฟังถ้อยคำนั้นก็ชะงักนิ่งไป ก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ผมทราบครับ..... คุณเคยบอกผมแล้ว” โรมีโอพูดพร้อมยิ้มบางเบา แต่บางอย่างในแววตานั้นทำให้ไมเคิลขมวดคิ้วหมุน
“ไม่..... นายไม่เข้าใจ.......” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับส่ายศีรษะไปมา โรมีโอเม้มปากเอาไว้แน่น เมื่อถูกอีกคนจับได้ถึงความกังวลที่ซุกซ่อนอยู่ภายในดวงตา
แม้ว่าช่วงนี้ไมเคิลจะทำตัวน่ารักกับเขามากขึ้น คอยดูแลเอาอกเอาใจไม่ห่าง ความอ่อนโยนที่เอวาได้รับเริ่มเผื่อแผ่มาถึงเขาได้บ้าง ถึงไมเคิลจะบอกว่าการแต่งงานระหว่างกันไม่ใช่เรื่องที่ฝืนใจ แต่เขาก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า โอเค อีกฝ่ายไม่ได้ฝืนใจ แต่ก็ไม่ได้รักเขาเช่นกัน......
“ฉันพูดไม่เก่ง....... ไม่อ่อนโยนแถมยังแข็งกระด้าง...... ฉันอาจไม่ใช่คนรักที่ดี.....”
“.......”
“แต่ฉันจะพยายาม...... ฉันจะปรับปรุงตัวเอง.......” โรมีโอหันไปมองอีกฝ่ายอย่างตั้งใจฟัง ในตอนนั้นเองที่มีเสียงนับถอยหลังจากงานเลี้ยงที่ใดสักที่หนึ่งดังแววมา หรืออาจจะเป็นจากเหล่าบอดี้การ์ดและเมดสาวที่เลี้ยงฉลองกันอยู่ที่ด้านล่างก็เป็นได้
“10 9 8 7.......” ไมเคิลจับยกมือซ้ายของโรมีโอขึ้นสูง ก่อนจะกดจูบลงที่นิ้วนางข้างซ้าย โรมีโอมองจ้องไม่ละสายตา เมื่อไมเคิลเงยหน้าขึ้นมอง ก็เอ่ยปากบอกเสียงเรียบนิ่งแต่แววตานั้นจริงจังชวนให้ใจสั่นไหว…..
“ตั้งใจฟังให้ดี.......”
5…..
4…..
ตึกตัก.....
3…..
ตึกตัก ตึกตัก.......
2…..
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก.......
1!!!
“ฉัน............”
ปังๆๆๆๆๆ!!!
เสียงพลุมากมายดังขึ้นที่ด้านหลังและมันสะท้อนกับดวงตาของไมเคิลที่กำลังยกยิ้มเต็มดวงหน้าอย่างที่หาได้ยากจนคาดไม่ถึง พร้อมกับฝ่ามือหนาที่หยาบกร้านเอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้กับเขาแผ่วเบา
“ร้องไห้ทำไม........” โรมีโอก้มหน้าลงต่ำ ซ่อนรอยน้ำตาให้พ้นจากคนตรงข้าม ก่อนที่ทั้งตัวนั้นจะถูกจัดท่าทางเสียใหม่ให้หันหน้าเข้าหากันและถูกรวบตัวเอาไปกอดไว้อย่างแนบแน่น จนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นกระหน่ำรัวของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
“ฮึก! ฮือ” โรมีโอที่สะอื้นไห้อย่างหนักจนอกกระเพื่อมไหว น้ำตาและน้ำมูกเปรอะเปื้อนไปทั่วชุดสูทของไมเคิลแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดว่าอะไรออกมา แต่กลับไปบ่นเรื่องอื่นแทน
“อดดูเลย........”
“ฮึก! ฮือออ”
“สั่งทำใหม่ดีไหมนะ........” ด้วยความสงสัยกับถ้อยคำที่ได้ยิน ดังนั้นแล้วโรมีโอจึงหันหน้าไปมองตามทิศทางที่ไมเคิลมองอยู่ทั้งน้ำตา สิ่งที่เขาเป็นตรงหน้าคือพลุหลากสีที่ผลัดกันเปล่งประกายบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน มีทั้งรูปหัวใจ ตัวอักษร นอกจากนี้แล้วยังเรียงเป็นคำได้อีกว่า……
My love forever…..
รักคุณตลอดไป…..
“ฮือออออออ” ครั้งนี้โรมีโอยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม หันไปโอบกอดรอบคอของไมเคิลเอาไว้แน่น เอ่ยบอกทั้งน้ำตาและเสียงที่สั่นพร่าแทบไม่เป็นคำ
“ผมรักคุณ! ฮึก ฮือ ผมก็รักคุณ ฮือออ”
“ฉันรู้........” ไมเคิลพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบศีรษะของโรมีโอแผ่วเบา แต่อ้อมกอดนั้นยังคงแนบแน่นไม่จางหาย คอยปลอบคนขี้แยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหมดมาดเลขาคนเก่งอยู่บนตักด้วยรอยยิ้มบางเบา กระซิบถ้อยคำบ่งบอกความรู้สึกจากใจด้วยถ้อยคำที่ยาวกว่าปกติมากนัก แต่มันกลับทำให้โรมีโอร้องไห้ด้วยความสุขใจมากกว่าเดิม
“ขอโทษที่ทำให้คอยนาน...... หลังจากนี้เราจะเริ่มนับหนึ่งไปด้วยกัน จากนี้ไปขอให้นายอยู่ข้างฉันในทุกๆ วัน จนเราแก่เฒ่าไปด้วยกัน แม้ความตายมาพรากจากเราก็ยังคงอยู่คู่กัน......”
“ฮืออออออ” ความรู้สึกของโรมีโอในตอนนี้มันเต็มตื้อไปหมด วันนี้จะเป็นวันที่เขาจดจำไปชั่วชีวิต การกระทำที่เรียบง่าย แต่มันก็ทำให้เขาจดจำได้ไม่ลืม เหมือนเขาติดอยู่ในห้วงเวลานั้น......
วินาทีที่เสียงนับถอยหลังสิ้นสุดลงและถูกแทนที่ด้วยเสียงพลุที่แต่งเติมแสงสีบนท้องฟ้าพร่างพราว แต่เขานั้นกลับติดอยู่ในช่วงเวลาที่มองหน้าคนตรงข้ามอย่างตั้งใจ เสียงหัวใจเต้นเร็วระรัวจนตัวเองรู้สึกได้ และหลังจากนั้นมันก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงที่ดังอื้ออึง ซึ่งมาพร้อมกับรอยยิ้มและถ้อยคำของคนๆ นั้น
คนที่เขารอคอยมาทั้งชีวิต.......
คำที่เขาเฝ้าปรารถนาอยากได้ยิน......
ถ้อยคำที่ทำให้เขาหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่อาย.....
ถ้อยคำง่ายๆ อย่างคำว่า
‘ฉันรักนาย.......’
END
ตอนนี้ผมกำลังกะพริบตาปริบยืนมองภาพตรงหน้าสลับกับหันมองคนข้างกาย......“ไมค์......คุณแน่ใจนะว่าเป็นที่นี่?”“อืม....” ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่หาดทรายสีขาวนวลตา รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ดึงดูดให้ลงไปแหวกว่ายแต่คือ......ตอนนี้มันหน้าหนาวไงครับ.......อากาศเย็นๆ แบบนี้มันควรจะตั้งแคมป์ผิงไฟในป่าใหญ่ไม่ใช่หรอ!!!ผมโคลงศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ หลังจากผ่านวันสุดท้ายของปีในตอนนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาราวหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งไมเคิลเป็นคนวางแผนในการจัดทริปฮันนีมูนระหว่างเรามีแพลนกำหนดยิงยาวเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือน เพราะผมไม่มีที่ไหนที่อยากไปเป็นพิเศษโดยปกติแล้วการจัดการงานการต่างๆ อย่างการจองตั๋วจองบ้านพักกำหนดแผนการเดินทางอะไรพวกนี้จะเป็นหน้าที่ของผมเพราะเป็นเลขาส่วนตัวให้ไมเคิลมาครึ่งชีวิต ดังนั้นจึงจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีกว่า แต่เพราะผมไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไมเคิลเลยอาสารับหน้าที่ส่วนนี้ไปทำเอง ดังนั้นแล้วผมจึงให้สิทธิ์ขาดในการตัดสินใจกับไมเคิลได้เต็มที่ผมเอ่ยถามในตอนเขากำลังหาข้อมูลว่าเราจะไปที่ไหนกัน เขาก็ตอบกลับมาสั้นๆ แค่ว่า เซอร์ไพรส์และปล่อยให้เขาจัดการเอง ผลเป็นยังไงน่ะหรอครับ? ก็คือกา
“ขอนะ......”“ดะ เดี๋ยว” โรมีโอร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นดันแผ่นอกแข็งแกร่งเอาไว้พลางหันหน้าหลบไปอีกทาง อ้อมแอ้มบอกไม่เต็มเสียง“ตัวเล็กยัง-”“ไม่อยู่แล้ว.....” ไมเคิลบอกพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งดึงรั้งกางเกงว่ายน้ำของโรมีโอลงต่ำ มือข้างหนึ่งบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่ม ในขณะที่มืออีกข้างก็บีบเคล้นไปตามเนื้อตัว โรมีโอหันไปมองตามทิศทางที่เอวาเคยยืนอยู่ เมื่อหันไปก็พบว่าบารอนจับเอวาอุ้มพาดบ่า เดินมุ่งตรงเข้าบ้านไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมา เสียงโวยวายแว่วมาเป็นระยะ“อ๊ะ!! ไมค์!” โรมีโอสะดุ้งสุดตัวเมื่อช่องทางด้านหลังถูกล่วงล้ำโดยนิ้วมือเรียวยาวของไมเคิล ชายหนุ่มทำการสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนแล้วขยับเข้าออกในทันทีเพื่อเรียกร้องความสนใจ โรมีโอรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนพยุงตัวไม่อยู่ ศีรษะของโรมีโอซุกลงที่บ่ากว้างของไมเคิล ลมหายใจร้านผ่าวเป่ารินรดที่ซอกคอของไมเคิลแผ่วเบา ยิ่งเป็นการโหมกระหน่ำทำให้ไมเคิลมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น“โรม.....” ไมเคิลกัดฟันกรอด ปลายนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปภายในเริ่มขยับเข้าออก พร้อมๆ กับการดึงรั้งให้กางเกงว่ายน้ำของโรมีโอให้ต่ำลงอีกครั้ง และครั้งนี้มันลงต่ำจ
Michale Part“เริ่มได้.......” ไมเคิลพูดขณะที่กวาดสายตาไปทั่วห้องอัศวิน วันนี้ไมเคิลมีแผนที่จะขนย้ายข้าวของ ของโรมีโอไปไว้ในห้องคิง คงจะดูแปลกไปสักหน่อย หากให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยานอนพักผ่อนในห้องอัศวินที่ถูกตั้งไว้สำหรับบอดี้การ์ดคนสนิทหรือมือขวาของเจ้าของบ้านความจริงโรมีโอนั้นต้องได้นอนที่ห้องควีนเพื่อคู่กัน แต่น้องน้อยอยู่อาศัยในห้องนั้นตั้งแต่เจ้าตัวจำความได้ และไมเคิลก็ไม่อยากแย่งห้องของน้องน้อยมา ดังนั้นแล้วจึงตัดสินใจให้โรมีโอย้ายข้าวของมานอนด้วยกันในห้องคิง เมื่อคิดดูแล้วก็ถือว่าเหมาะสมในตอนนี้โรมีโอกำลังนอนหลับพักผ่อนในห้องโพธิ์แดงหลังจากกลับมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กันที่ตระกูลวัลโด้ ซึ่งไมเคิลไม่อยากจะเข้าไปกวนการหลับใหลของภรรยา ดังนั้นเขาจึงเป็นควบคุมการจัดเก็บและขนย้ายด้วยตนเอง ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงหลังกับกำแพงห้อง มองดูเหล่าบอดี้การ์ดและเมดสาวพากันขนย้ายข้าวของด้วยความรวดเร็วและเงียบเชียบทำให้ชายหนุ่มพึงพอใจเป็นอย่างมากไมเคิลยืนมองนิ่งๆ อยู่ชั่วครู่ แล้วจึงเดินไปนั่งลงบนเตียงของโรมีโอ ยกฝ่ามือลูบไล้บนหมอนนุ่มแผ่วเบา อดที่จะยกมันขึ้นมาดมกลิ่นไม่ได้แชมพูส่วนตัวที่เป็นกลิ่นเด
Baron Part“หึหึ” เสียงทุ้มขี้เล่นของใครบางคนดังขึ้น ปลายนิ้วมือไล้เกลี่ยไปตามกรอบหน้าและเส้นผมที่ปรกตาของเด็กน้อยในอ้อมแขนออกให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะจมูกเล็กเชิดรั้นอย่างเอ็นดู คนตัวเล็กยู่หน้าเล็กน้อย ก่อนจนมุดหนี ซุกหน้าลงกับอกอุ่นของอีกฝ่าย แล้วหลับลงอย่างสบายอารมณ์อีกหนบารอนเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า สองแขนรวบเอาคนตัวเล็กมาอยู่ในอ้อมกอด ภายในหัวสมองหวนคิดไปถึงเมื่อครั้งที่เขาได้เจอกับเด็กน้อยที่เขาเคยมองว่าเป็นตัวเกะกะในครั้งแรก........ในเย็นวันหนึ่งเขากลับบ้านมาพร้อมกับไมเคิล ด้วยความที่ทั้งคู่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน และบารอนเป็นคนที่มีเพื่อนมากเพราะความขี้เล่น ส่วนไมเคิลนั้นปั้นหน้านิ่งไม่รู้สึกยินดียินร้าย มีเพียงใบหน้าที่เรียบเฉย ข้างกายมีผู้ช่วยคนสนิทคอยตามดูแลอยู่ไม่ห่าง นายเดินไปไหนผู้ช่วยคนนั้นก็เดินตามไปด้วย ซึ่งบารอนมารู้ทีหลังว่าชื่อโรมีโอ และเพราะความเรียบนิ่งนี้เองที่ทำให้เขาอยากจะเห็นตอนไมเคิลทำสีหน้าท่าทางแบบอื่นดูบ้าง จึงเข้าไปตีสนิทด้วยไม่ว่าเขาจะพยายามทำอย่างไร ไมเคิลก็จะเพียงปรายตามองเล็กน้อยเท่านั้นหรือไม่ก็อาจจะเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้เขาเจ็บช้ำจนต้องกุ
Ava Partตอนนี้ทั้งเอวาและบารอนกลับมาจากการเที่ยวทะเลกันแล้ว เนื่องจากไมเคิลวางแผนฮันนีมูนกับโรมีโอและน้องน้อยของบ้านที่ผ่านมาได้ยิน จึงเข้าไปออดอ้อนขอพี่ชายตามมาเที่ยวด้วย จนบารอนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากห้ามปราม แต่ถึงกระนั้นไมเคิลก็ใจดีกับน้องน้อยเสมอ ตกปากรับคำในทันทีโดยไม่ต้องถามภรรยาที่กำลังนอนหลับพักผ่อนแม้แต่น้อยดังนั้นแล้วทำให้ท้ายที่สุดเอวาและบารอนก็ตามไปเที่ยวด้วยในทริปฮันนีมูนของพวกพี่ชาย แต่เด็กน้อยก็รู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร ดังนั้นจึงขอตามมาเพียงแค่สามวันสองคืน หลังจากนั้นจะเป็นไมเคิลที่ทำหน้าที่พาภรรยาออกเที่ยวรอบโลกตลอดหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ตามแผนที่วางไว้ตอนนี้เอวาและบารอนกำลังเดินกลับเข้ามาพักผ่อนในบ้านหลังใหญ่ของชายหนุ่ม เพราะพวกพี่ชายไม่อยู่บ้านตลอดหนึ่งเดือน ทำให้คนตัวเล็กอดที่จะรู้สึกเหงาหงอยไม่ได้ แม้ว่าแต่เดิมทั้งสองคนจะชอบไม่อยู่บ้านบ่อยๆ จนเคยชินก็ตามที เห็นทีก็คงจะมีเพียงช่วงนี้ที่มีเรื่องหลายๆ อย่างต้องจัดการ จึงทำให้บุคคลทั้งสองอยู่ติดบ้านและเอวาก็ชื่นชอบให้มันเป็นเช่นนั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้น้องน้อยต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ไมเคิลจึงออกปากอนุญาตให้มาอยู่อาศัยกับบารอ
คำเตือน มีเนื้อหาที่ขัดต่อศีลธรรมRomeo Partหลังจากที่บาลักซ์เข้ามาทำการสู่ขอเอวาด้วยตนเองและผลสรุปออกมาที่ทั้งสองคนต่างหมั้นหมายเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงจะจัดงานแต่งในอีก 4 ปีข้างหน้า หลังเสร็จสิ้นการพูดคุย และน้องน้อยของเขาเดินตามหลังว่าที่คู่หมั้นตามต้อยๆ ไปแล้วนั้น โรมีโอก็ถูกสามีของตนอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด มุ่งตรงพาไปที่ห้องโพธิ์แดง และรังแกเขาอย่างหนักหน่วง เพื่อเป็นการชดเชยให้กับการร่วมรักตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เขาถึงกับต้องนอนหยอดข้าวต้มกันเลยทีเดียวตอนนี้ไมเคิลและโรมีโอกำลังนั่งอยู่คู่กัน โดยตรงหน้ามีเอวากับบารอนกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ ถัดไปด้านข้างมีองค์ราชินีที่ทรงประทับ ทอดพระเนตรมองจ้องด้วยรอยยิ้มบางเบา ส่วนอีกฝั่งนั้นเป็นบาลักซ์ที่กำลังจ้องมองมาเช่นกันด้านข้างนั้นมีพานอันใหญ่ ข้างในเต็มไปด้วยแก้วแหวนเงินทองและเพชรพลอยในวันนี้คืองานหมั้นของคนทั้งคู่......บารอนสวมใส่ชุดสูทสีขาวคล้ายกับชุดเจ้าบ่าวส่วนเอวานั้นสวมใส่ชุดสีงาช้างเข้าคู่กันอย่างลงตัวกึก กึก กึกโรมีโอหันมองตามทิศทางของเสียงที่ตนได้ยิน เมื่อดวงตาสีฟ้าสดใสหันมองคนข้างกายก็ได้พบกับที่มาของเสียงนั้น“ฮึฮึ” โรม
“โรมไปไหน...” ไมเคิลถามพร้อมกับยื่นส่งเสื้อสูทของตนเองให้กับเมดสาวรับไปเก็บ พร้อม ๆ กับการดึงเนคไทออกจากลำคอแกร่งไปพลางก้าวเดินไปพลาง“คุณโรมยังไม่กลับค่ะ” เมดสาวตอบกลับและเดินตามหลังไปเงียบ ๆ ไมเคิลขมวดคิ้วหมุนด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วโบกมือไล่ไปหนึ่งที เพียงเท่านั้นเป็นอันเข้าใจ เมดสาวผละตัวไปจัดการข้าวของส่วนตัวของไมเคิลแล้วจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนจะล่าถอยไปอย่างเงียบเชียบตอนนี้ทั้งไมเคิลและโรมีโอแต่งงานกันได้มากกว่า 3 ปี แล้ว การอยู่กินใช้ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ค่อยแตกต่างจากเมื่อก่อนเท่าไหร่นัก ทั้งคู่ยังคงอยู่บ้านหลังเดียวกัน เพียงแต่ไป ๆ มา ๆ ระหว่างคฤหาสน์ตระวัลโด้ และตระกูลวอลเลอร์ ส่วนน้องน้อยของเขานั้นหลังจากที่ได้สวมแหวนหมั้นไป ก็แทนจะย้ายไปกินนอนอยู่ที่ตระกูลบาลักซ์แบบเต็มตัว อาจจะมีการแวะมาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้งไมเคิลก้าวเดินไปที่ทิศทางหนึ่งซึ่งเป็นด้านหลังคฤหาสน์ อันมีเจ้าเสือขาวตัวใหญ่พักอาศัยอยู่ในป่าจำลอง ในขณะที่ก้าวเท้าชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่าบ้านหลังให้ความรู้สึกเงียบเหงาและอ้างว้างแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาต่างมีงาน มีหน
“ไมค์”“...”“องค์ชายชาลส์ส่งจดหมายมาขอเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี”“ไม่...” โรมีโอกลอกตาใส่คนรัก แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน พร้อมเอ่ยปากบอก“ไมค์ คุณเป็นองค์รัชทายาทนะ ในอนาคตข้างหน้าก็คือคนที่มีหน้าที่ปกครองประเทศอาณาราช หากคุณไม่คิดสร้างสัมพันธ์กับละแวกเพื่อนบ้านใกล้เคียงบ้าง หากเกิดอะไรขึ้นมาเราจะขอความช่วยเหลือลำบากนะ” โรมีโอพูดด้วยความเป็นเหตุเป็นผล ไมเคิลเหลือบตามองเพียงชั่วครู่แล้วเอ่ยต่อ“ไม่...” ไมเคิลไม่ค่อยชอบองค์ชายคนนี้เท่าไหร่นัก ตั้งแต่ครั้งที่พบกันในสมัยเด็กแล้ว องค์ชายผู้นั้นค่อนข้างไม่น่าคบหาสักเท่าไหร่...“ไม่ครับ ถ้าคุณไม่อยากพบเขา ผมจะพบเขาเอง” ว่าจบก็ลุกขึ้นยืน เดินไปเขียนจดหมายตอบกลับที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ไมเคิลคิวกระตุกเข้าหากัน มองจ้องโรมีโอนิ่ง ๆ แล้วจึงสะบัดหน้าไปอีกทางหนึ่งเดือนผ่านไป...ตอนนี้องค์ราชินี ไมเคิล โรมีโอ และเอวาพร้อมด้วยบารอน กำลังมายืนอยู่ที่หน้าประตูของพระราชวัง หลังจากที่โรมีโอเขียนจดหมายตอบกลับไป อีกฝ่ายก็ตอบรับกลับมาอย่างรวดเร็ว และแจ้งกำหนดการเดินทางในทันทีโรมีโอจึงจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับแขกผู้มาเยือนอย่างไม่ขาดตกบกพร
‘ลุงงงงงงงงงง’ มิลาด้ากลอกตามองอย่างเบื่อหน่าย พลิกกายหนีไอ้ลูกเสือตัวเล็กที่ชอบล้อมหน้าล้อมหลังไม่หยุดมิลาด้าไปเจอเจ้าลูกเสือตัวนี้เพราะได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังสนั่นจากทางด้านหลังของป่า พอไปถึงก็เห็นแม่เสือตัวหนึ่งที่นอนไร้ลมหายใจ อยู่ข้างนอกรั้ว โดยมีชายคนหนึ่งเอาปืนจ่อเอาไว้ ส่วนเจ้าลูกเสือนั้นเข้ามาในกรงด้วยกันกับมันอย่างงงๆ ซึ่งมันได้มารู้ภายหลังว่าแม่ของเจ้าตัวเล็กนี่ขุดหลุมเพื่อใช้หลบหนี แต่เพราะมันหลุมเล็กเกินไป เจ้าลูกเสือจึงรอดมาได้แค่ตัวเดียว ส่วนแม่ของมันถูกยิงตายและนอนปิดทางเข้าออกไว้แทนกรรรรรรรรรรมันขู่คำรามเสียงดังทำให้มนุษย์คนนั้นรีบวิ่งหนีไป มันมองหน้าลูกเสือตัวเล็กเพียงชั่วครู่ พอได้ยินเสียงเจ้านายร้องเรียกก็พุ่งทะยานกลับไปหาทันที ไม่สนใจเจ้าจิ๋วอีกใครจะไปรู้ว่าเจ้าจิ๋วนี่วิ่งตามมาแถมยังทำร้ายเจ้านายของเขาจนได้เลือดอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายเขาสั่งไว้ เจ้าจิ๋วคงไม่ได้มาวิ่งเล่นรอบตัวเขาแบบนี้เป็นแน่ เพราะเขาจะกัดหัวมันทิ้งด้วยตัวเอง!‘ลุงงงงงง หนูหิวนมมมมม’ เจ้าลูกเสือร้องแง้วๆๆ น่ารำคาญ ปีนป่ายตัวของมิลาด้าไม่หยุด จนเจ้าเสือหนุ่มรำคาญ ใช้เท้าหลังดีดเจ้าจิ๋วจ
“ไมค์”“...”“องค์ชายชาลส์ส่งจดหมายมาขอเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี”“ไม่...” โรมีโอกลอกตาใส่คนรัก แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน พร้อมเอ่ยปากบอก“ไมค์ คุณเป็นองค์รัชทายาทนะ ในอนาคตข้างหน้าก็คือคนที่มีหน้าที่ปกครองประเทศอาณาราช หากคุณไม่คิดสร้างสัมพันธ์กับละแวกเพื่อนบ้านใกล้เคียงบ้าง หากเกิดอะไรขึ้นมาเราจะขอความช่วยเหลือลำบากนะ” โรมีโอพูดด้วยความเป็นเหตุเป็นผล ไมเคิลเหลือบตามองเพียงชั่วครู่แล้วเอ่ยต่อ“ไม่...” ไมเคิลไม่ค่อยชอบองค์ชายคนนี้เท่าไหร่นัก ตั้งแต่ครั้งที่พบกันในสมัยเด็กแล้ว องค์ชายผู้นั้นค่อนข้างไม่น่าคบหาสักเท่าไหร่...“ไม่ครับ ถ้าคุณไม่อยากพบเขา ผมจะพบเขาเอง” ว่าจบก็ลุกขึ้นยืน เดินไปเขียนจดหมายตอบกลับที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ไมเคิลคิวกระตุกเข้าหากัน มองจ้องโรมีโอนิ่ง ๆ แล้วจึงสะบัดหน้าไปอีกทางหนึ่งเดือนผ่านไป...ตอนนี้องค์ราชินี ไมเคิล โรมีโอ และเอวาพร้อมด้วยบารอน กำลังมายืนอยู่ที่หน้าประตูของพระราชวัง หลังจากที่โรมีโอเขียนจดหมายตอบกลับไป อีกฝ่ายก็ตอบรับกลับมาอย่างรวดเร็ว และแจ้งกำหนดการเดินทางในทันทีโรมีโอจึงจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับแขกผู้มาเยือนอย่างไม่ขาดตกบกพร
“โรมไปไหน...” ไมเคิลถามพร้อมกับยื่นส่งเสื้อสูทของตนเองให้กับเมดสาวรับไปเก็บ พร้อม ๆ กับการดึงเนคไทออกจากลำคอแกร่งไปพลางก้าวเดินไปพลาง“คุณโรมยังไม่กลับค่ะ” เมดสาวตอบกลับและเดินตามหลังไปเงียบ ๆ ไมเคิลขมวดคิ้วหมุนด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วโบกมือไล่ไปหนึ่งที เพียงเท่านั้นเป็นอันเข้าใจ เมดสาวผละตัวไปจัดการข้าวของส่วนตัวของไมเคิลแล้วจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนจะล่าถอยไปอย่างเงียบเชียบตอนนี้ทั้งไมเคิลและโรมีโอแต่งงานกันได้มากกว่า 3 ปี แล้ว การอยู่กินใช้ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ค่อยแตกต่างจากเมื่อก่อนเท่าไหร่นัก ทั้งคู่ยังคงอยู่บ้านหลังเดียวกัน เพียงแต่ไป ๆ มา ๆ ระหว่างคฤหาสน์ตระวัลโด้ และตระกูลวอลเลอร์ ส่วนน้องน้อยของเขานั้นหลังจากที่ได้สวมแหวนหมั้นไป ก็แทนจะย้ายไปกินนอนอยู่ที่ตระกูลบาลักซ์แบบเต็มตัว อาจจะมีการแวะมาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้งไมเคิลก้าวเดินไปที่ทิศทางหนึ่งซึ่งเป็นด้านหลังคฤหาสน์ อันมีเจ้าเสือขาวตัวใหญ่พักอาศัยอยู่ในป่าจำลอง ในขณะที่ก้าวเท้าชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่าบ้านหลังให้ความรู้สึกเงียบเหงาและอ้างว้างแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาต่างมีงาน มีหน
คำเตือน มีเนื้อหาที่ขัดต่อศีลธรรมRomeo Partหลังจากที่บาลักซ์เข้ามาทำการสู่ขอเอวาด้วยตนเองและผลสรุปออกมาที่ทั้งสองคนต่างหมั้นหมายเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงจะจัดงานแต่งในอีก 4 ปีข้างหน้า หลังเสร็จสิ้นการพูดคุย และน้องน้อยของเขาเดินตามหลังว่าที่คู่หมั้นตามต้อยๆ ไปแล้วนั้น โรมีโอก็ถูกสามีของตนอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด มุ่งตรงพาไปที่ห้องโพธิ์แดง และรังแกเขาอย่างหนักหน่วง เพื่อเป็นการชดเชยให้กับการร่วมรักตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เขาถึงกับต้องนอนหยอดข้าวต้มกันเลยทีเดียวตอนนี้ไมเคิลและโรมีโอกำลังนั่งอยู่คู่กัน โดยตรงหน้ามีเอวากับบารอนกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ ถัดไปด้านข้างมีองค์ราชินีที่ทรงประทับ ทอดพระเนตรมองจ้องด้วยรอยยิ้มบางเบา ส่วนอีกฝั่งนั้นเป็นบาลักซ์ที่กำลังจ้องมองมาเช่นกันด้านข้างนั้นมีพานอันใหญ่ ข้างในเต็มไปด้วยแก้วแหวนเงินทองและเพชรพลอยในวันนี้คืองานหมั้นของคนทั้งคู่......บารอนสวมใส่ชุดสูทสีขาวคล้ายกับชุดเจ้าบ่าวส่วนเอวานั้นสวมใส่ชุดสีงาช้างเข้าคู่กันอย่างลงตัวกึก กึก กึกโรมีโอหันมองตามทิศทางของเสียงที่ตนได้ยิน เมื่อดวงตาสีฟ้าสดใสหันมองคนข้างกายก็ได้พบกับที่มาของเสียงนั้น“ฮึฮึ” โรม
Ava Partตอนนี้ทั้งเอวาและบารอนกลับมาจากการเที่ยวทะเลกันแล้ว เนื่องจากไมเคิลวางแผนฮันนีมูนกับโรมีโอและน้องน้อยของบ้านที่ผ่านมาได้ยิน จึงเข้าไปออดอ้อนขอพี่ชายตามมาเที่ยวด้วย จนบารอนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากห้ามปราม แต่ถึงกระนั้นไมเคิลก็ใจดีกับน้องน้อยเสมอ ตกปากรับคำในทันทีโดยไม่ต้องถามภรรยาที่กำลังนอนหลับพักผ่อนแม้แต่น้อยดังนั้นแล้วทำให้ท้ายที่สุดเอวาและบารอนก็ตามไปเที่ยวด้วยในทริปฮันนีมูนของพวกพี่ชาย แต่เด็กน้อยก็รู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร ดังนั้นจึงขอตามมาเพียงแค่สามวันสองคืน หลังจากนั้นจะเป็นไมเคิลที่ทำหน้าที่พาภรรยาออกเที่ยวรอบโลกตลอดหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ตามแผนที่วางไว้ตอนนี้เอวาและบารอนกำลังเดินกลับเข้ามาพักผ่อนในบ้านหลังใหญ่ของชายหนุ่ม เพราะพวกพี่ชายไม่อยู่บ้านตลอดหนึ่งเดือน ทำให้คนตัวเล็กอดที่จะรู้สึกเหงาหงอยไม่ได้ แม้ว่าแต่เดิมทั้งสองคนจะชอบไม่อยู่บ้านบ่อยๆ จนเคยชินก็ตามที เห็นทีก็คงจะมีเพียงช่วงนี้ที่มีเรื่องหลายๆ อย่างต้องจัดการ จึงทำให้บุคคลทั้งสองอยู่ติดบ้านและเอวาก็ชื่นชอบให้มันเป็นเช่นนั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้น้องน้อยต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ไมเคิลจึงออกปากอนุญาตให้มาอยู่อาศัยกับบารอ
Baron Part“หึหึ” เสียงทุ้มขี้เล่นของใครบางคนดังขึ้น ปลายนิ้วมือไล้เกลี่ยไปตามกรอบหน้าและเส้นผมที่ปรกตาของเด็กน้อยในอ้อมแขนออกให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะจมูกเล็กเชิดรั้นอย่างเอ็นดู คนตัวเล็กยู่หน้าเล็กน้อย ก่อนจนมุดหนี ซุกหน้าลงกับอกอุ่นของอีกฝ่าย แล้วหลับลงอย่างสบายอารมณ์อีกหนบารอนเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า สองแขนรวบเอาคนตัวเล็กมาอยู่ในอ้อมกอด ภายในหัวสมองหวนคิดไปถึงเมื่อครั้งที่เขาได้เจอกับเด็กน้อยที่เขาเคยมองว่าเป็นตัวเกะกะในครั้งแรก........ในเย็นวันหนึ่งเขากลับบ้านมาพร้อมกับไมเคิล ด้วยความที่ทั้งคู่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน และบารอนเป็นคนที่มีเพื่อนมากเพราะความขี้เล่น ส่วนไมเคิลนั้นปั้นหน้านิ่งไม่รู้สึกยินดียินร้าย มีเพียงใบหน้าที่เรียบเฉย ข้างกายมีผู้ช่วยคนสนิทคอยตามดูแลอยู่ไม่ห่าง นายเดินไปไหนผู้ช่วยคนนั้นก็เดินตามไปด้วย ซึ่งบารอนมารู้ทีหลังว่าชื่อโรมีโอ และเพราะความเรียบนิ่งนี้เองที่ทำให้เขาอยากจะเห็นตอนไมเคิลทำสีหน้าท่าทางแบบอื่นดูบ้าง จึงเข้าไปตีสนิทด้วยไม่ว่าเขาจะพยายามทำอย่างไร ไมเคิลก็จะเพียงปรายตามองเล็กน้อยเท่านั้นหรือไม่ก็อาจจะเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้เขาเจ็บช้ำจนต้องกุ
Michale Part“เริ่มได้.......” ไมเคิลพูดขณะที่กวาดสายตาไปทั่วห้องอัศวิน วันนี้ไมเคิลมีแผนที่จะขนย้ายข้าวของ ของโรมีโอไปไว้ในห้องคิง คงจะดูแปลกไปสักหน่อย หากให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยานอนพักผ่อนในห้องอัศวินที่ถูกตั้งไว้สำหรับบอดี้การ์ดคนสนิทหรือมือขวาของเจ้าของบ้านความจริงโรมีโอนั้นต้องได้นอนที่ห้องควีนเพื่อคู่กัน แต่น้องน้อยอยู่อาศัยในห้องนั้นตั้งแต่เจ้าตัวจำความได้ และไมเคิลก็ไม่อยากแย่งห้องของน้องน้อยมา ดังนั้นแล้วจึงตัดสินใจให้โรมีโอย้ายข้าวของมานอนด้วยกันในห้องคิง เมื่อคิดดูแล้วก็ถือว่าเหมาะสมในตอนนี้โรมีโอกำลังนอนหลับพักผ่อนในห้องโพธิ์แดงหลังจากกลับมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กันที่ตระกูลวัลโด้ ซึ่งไมเคิลไม่อยากจะเข้าไปกวนการหลับใหลของภรรยา ดังนั้นเขาจึงเป็นควบคุมการจัดเก็บและขนย้ายด้วยตนเอง ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงหลังกับกำแพงห้อง มองดูเหล่าบอดี้การ์ดและเมดสาวพากันขนย้ายข้าวของด้วยความรวดเร็วและเงียบเชียบทำให้ชายหนุ่มพึงพอใจเป็นอย่างมากไมเคิลยืนมองนิ่งๆ อยู่ชั่วครู่ แล้วจึงเดินไปนั่งลงบนเตียงของโรมีโอ ยกฝ่ามือลูบไล้บนหมอนนุ่มแผ่วเบา อดที่จะยกมันขึ้นมาดมกลิ่นไม่ได้แชมพูส่วนตัวที่เป็นกลิ่นเด
“ขอนะ......”“ดะ เดี๋ยว” โรมีโอร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นดันแผ่นอกแข็งแกร่งเอาไว้พลางหันหน้าหลบไปอีกทาง อ้อมแอ้มบอกไม่เต็มเสียง“ตัวเล็กยัง-”“ไม่อยู่แล้ว.....” ไมเคิลบอกพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งดึงรั้งกางเกงว่ายน้ำของโรมีโอลงต่ำ มือข้างหนึ่งบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่ม ในขณะที่มืออีกข้างก็บีบเคล้นไปตามเนื้อตัว โรมีโอหันไปมองตามทิศทางที่เอวาเคยยืนอยู่ เมื่อหันไปก็พบว่าบารอนจับเอวาอุ้มพาดบ่า เดินมุ่งตรงเข้าบ้านไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมา เสียงโวยวายแว่วมาเป็นระยะ“อ๊ะ!! ไมค์!” โรมีโอสะดุ้งสุดตัวเมื่อช่องทางด้านหลังถูกล่วงล้ำโดยนิ้วมือเรียวยาวของไมเคิล ชายหนุ่มทำการสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนแล้วขยับเข้าออกในทันทีเพื่อเรียกร้องความสนใจ โรมีโอรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนพยุงตัวไม่อยู่ ศีรษะของโรมีโอซุกลงที่บ่ากว้างของไมเคิล ลมหายใจร้านผ่าวเป่ารินรดที่ซอกคอของไมเคิลแผ่วเบา ยิ่งเป็นการโหมกระหน่ำทำให้ไมเคิลมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น“โรม.....” ไมเคิลกัดฟันกรอด ปลายนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปภายในเริ่มขยับเข้าออก พร้อมๆ กับการดึงรั้งให้กางเกงว่ายน้ำของโรมีโอให้ต่ำลงอีกครั้ง และครั้งนี้มันลงต่ำจ
ตอนนี้ผมกำลังกะพริบตาปริบยืนมองภาพตรงหน้าสลับกับหันมองคนข้างกาย......“ไมค์......คุณแน่ใจนะว่าเป็นที่นี่?”“อืม....” ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่หาดทรายสีขาวนวลตา รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ดึงดูดให้ลงไปแหวกว่ายแต่คือ......ตอนนี้มันหน้าหนาวไงครับ.......อากาศเย็นๆ แบบนี้มันควรจะตั้งแคมป์ผิงไฟในป่าใหญ่ไม่ใช่หรอ!!!ผมโคลงศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ หลังจากผ่านวันสุดท้ายของปีในตอนนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาราวหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งไมเคิลเป็นคนวางแผนในการจัดทริปฮันนีมูนระหว่างเรามีแพลนกำหนดยิงยาวเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือน เพราะผมไม่มีที่ไหนที่อยากไปเป็นพิเศษโดยปกติแล้วการจัดการงานการต่างๆ อย่างการจองตั๋วจองบ้านพักกำหนดแผนการเดินทางอะไรพวกนี้จะเป็นหน้าที่ของผมเพราะเป็นเลขาส่วนตัวให้ไมเคิลมาครึ่งชีวิต ดังนั้นจึงจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีกว่า แต่เพราะผมไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไมเคิลเลยอาสารับหน้าที่ส่วนนี้ไปทำเอง ดังนั้นแล้วผมจึงให้สิทธิ์ขาดในการตัดสินใจกับไมเคิลได้เต็มที่ผมเอ่ยถามในตอนเขากำลังหาข้อมูลว่าเราจะไปที่ไหนกัน เขาก็ตอบกลับมาสั้นๆ แค่ว่า เซอร์ไพรส์และปล่อยให้เขาจัดการเอง ผลเป็นยังไงน่ะหรอครับ? ก็คือกา