หูของทหารยศร้อยเอกได้ยินเสียงกระพรวนข้อเท้าดังกรุ๊งกริ๊งมาแต่ไกล มือหยาบละเมียดจับกระดาษบางขึ้นมาพิจารณา แม้จะมีเงาของผู้มาเยือนพาดผ่านโต๊ะไม้เนื้อดีก็ยังคงไม่เงยหน้าขึ้นไปพาที ตึง! เสียงฝ่ามือฟาดเข้าบนพื้นที่ทำงาน นายทหารมองว่าเป็นจังหวะเหมาะสมจึงได้เงยหน้าขึ้นมาแต่ก็ยังไม่ได้ปรับระยะสายตาให้ดี "คุณฝึกหนักเกินไปแล้วนะครับ ถึงพวกเขาจะเป็นยุวชนทหารแต่ยังไงก็เป็นเด็กนะ!" เขาชินชากับประโยคพวกนี้แล้วจึงฟังหูซ้ายทะลุหูขวา อย่างไรเสียก็คงจะเป็นผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจบริบทของสังคมไทยตอนนี้ที่พวกญี่ปุ่นกดดันเราเข้ามาทุกที ทหารชั้นกลางหลับตา เอนกายกับพนักพิงก่อนจะหรี่ตามองแล้วเห็นว่าคู่สนทนาหาได้ใส่ชุดคลุมมิดชิดตามมารยาทแต่เป็นผ้าเกาะอกและผ้าถุงทว่าเผยเนื้อเอวบางส่วนแม้จะมีผ้าแพรคลุมสัดส่วนแต่ในมุมของกาลเทศะอย่างไรผิดก็คือผิด เขาจึงกล่าวตักเตือนไปอย่างไม่ยี่หระ "ผู้ปกครองครับ ผมเข้าใจในสัมมาอาชีพของคุณ แต่ที่นี่เป็นโรงเรียน รบกวนให้เกียรติสถานที่ราชการโดยการไม่ใส่ชุดนางรำมาพบด้วยครั- เสียงเข้มขาดห้วงเมื่อเขาเงยหน้ามามองเจ้าของเสียงเจี๊ยวจ้าวนั่นชัด ๆ 'อะไรกัน นักเรียนเขามีผู้ปกครองเป็น นางฟ้า ด้วยเหรอ'
ดูเพิ่มเติมตรีศูลเม้มปากผินหน้าไปทางอื่นหยิบช่อผมขึ้นมาเล่นอย่างขัดเขิน พลอยช้อนสายตามองอดีตเพื่อนทางจดหมายเป็นพัก ๆเสียงประตูแง้มปิดลงล็อกดัง'ปึง'ทันใดนั้นบรรยากาศโดยรอบจึงเงียบสงัดขึ้นมาทันควัน จุดกำเนิดแสงสะท้อนใบหน้างามให้เห็นริ้วแดงจาง ๆ บนแก้มนวล ไออุ่นจากตะเกียงไม่อาจเทียบความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นใต้อกได้เลยสักนิด"คุณแก้วครับ"นายทหารโน้มตัวลงพอเป็นพิธีเชยมือคู่น้อยที่คล้องสายสิญจน์ขึ้นเชยชมผิวพรรณเนียนละเอียดแล้วจึงประทับริมฝีปากลงอย่างแผ่วเบา"ผมรักคุณ"น้ำเสียงทุ้มต่ำกล่าวอย่างหนักแน่น ร่างสูงใหญ่กระชับมือบางเข้ามาใกล้ แล้วจึงกล่าวต่อโดยมองเข้าไปยังนัยน์ตากลมใสของแม่คนงาม "ดังนั้นแล้วคุณแก้ว...ได้โปรดมาเป็นคนรักของผมได้ไหมครับ?"นางรำหนุ่มมองเข้าไปยังนัยน์ตาคมกริบนั้น เขาไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเมื่อจังหวะนี้มาถึงข้างในตัวเขามันจะรู้สึกเบาหวิวได้ขนาดนี้ แม้ไม่มีสายลมพัดผ่านอยู่ใต้ปีกก็รู้สึกเหมือนกำลังโผบินอยู่ หรือแม้ค่ำคืนในฤดูฝนนี้จะหนาวเพียงใดทว่าเพียงสัมผัสฝ่ามือหนาของ
ตรีศูลไม่รู้จะตกใจกับรอยสักที่มีอยู่เต็มแผ่นหลัง หรือมวลกล้ามเนื้ออย่างชายชาติทหารนี้ดี โฉมงามรีบกลั้นใจแต้มยาจรดปลายนิ้วทาลงไปบนแผลพลางทอดสายมองยันต์บนผิวหนังหยาบ จนเกิดความสงสัยว่าถ้าเป็นด้านหน้าเจ้าตัวจะสักเหมือนกันไหม แม้จะเคยเห็นราง ๆ ตอนเอาเสื้อผ้าไปให้หน้าห้องน้ำคราวนู้นแต่เพราะเขินเลยไม่ทันได้สังเกต"คุณดินสักเยอะจังเลยนะครับ"ตรีศูลทักขึ้นพลางคิด หรือบางทีนี่อาจจะของปกติในวงการตำรวจทหารก็ได้ แต่เขาไม่ได้ช่ำชองเรื่องพวกนี้ แถมเป็นนางรำมีรอยสักจะใส่เสื้อผ้าเปิดเนื้อหนังทีหนึ่งเป็นเขาคงรู้สึกขัด ๆ เขิน ๆ"พ่อจับผมสักตั้งแต่เด็กน่ะครับ""ทำไมคุณพ่อถึงทำแบบนั้นเหรอครับ?"ตรีศูลพูดแล้วก็มารู้สึกผิดในใจ นี่เขาถามล้วงลึกไปรึเปล่าพิภพยังไม่ตอบเพียงแต่หยิบเสื้อมาสวมเข้าที่เดิม ทิ้งคำถามของแม่นางรำไปสักพัก ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาเมื่อทำใจได้แล้ว"ผมเคยอยู่ชุมเสือมาก่อนครับ""ครับ?"ตรีศูลอึ้งเมื่อได้ยินในขณะที่กำลังลุกขึ้น สงสัยเมื่อครู่เขาอาจจะฟังผิดไป"ผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของชุมโจรครับ""งะ...งั้
ปลื้มที่เข้ามาผิดจังหวะเกือบโดนรุ่นพี่แพ่นกบาล เขาก้มกราบแทบไม่ทัน ก็คนมันไม่รู้ว่ากำลังตะล่อมอยู่ให้ทำอย่างไรได้เพื่อเป็นการลงโทษรุ่นน้องตัวดีจึงถูกใช้เป็นคนถือของฝากที่ชักจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนนายสิบคิด 'นี่คุณพี่จะซื้อไปถมที่หรือเจ้าคะ' แล้วนี่ก็ปาไปบ่ายโมงตรงใครไม่รู้บ้างว่าแดดประเทศไทยมันร้อนนรกกินหัวขนาดไหนพิภพที่เดินหิ้วสัมภาระตัวเองสบายตัวมองหาอะไรไปเรื่อยจนหางตาไปสะดุดกับร้านขายเครื่องนอนแล้วนึกขึ้นได้ว่าผ้าห่มคุณแก้วค่อนข้างบาง ผนวกกับเดี๋ยวนี้คนพระนครนิยมห่มผ้านวมกันแล้วหากได้แบบนั้นก็คงดีในตอนที่เขาเตรียมตัวจะควักเงินจ่ายก็เงยหน้าขึ้นไปเห็นเตียงพับสามตอนแล้วจึงคิดว่าจะซื้อแยกไปเป็นที่นอนของตัวเองเลยดีไหม แต่เมื่อกลับมามองผ้าห่มผืนกว้างสำหรับสองคนแล้วจึงปัดความคิดที่จะซื้อของเพิ่มไปโดยปริยายในเมื่อมีเตียงอยู่แล้วจะซื้อฟูกนอนเพิ่มไปอีกทำไม"ร้อย...แค่ไปนอนพักชั่วคราวถึงกับต้องซื้อของแพงขนาดนั้นเลยดิ"ปลื้มออกปากบ่นด้วยความอิดโรย ผ้าห่มผืนนั้นราคาตั้งสิบห้าบาทแต่รุ่นพี่แกกลับหยิบเงินขึ้นจ่ายแบบไม่คิดสักนิด เงินขนาดน
เช้าขึ้นมาศรที่นอนอยู่ห้องข้าง ๆ เดินมาถามเลยว่าเมื่อคืนที่ห้องพี่ชายเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าเพราะเขาได้ยินเสียงตึงตังแว่วมา ตรีศูลจึงปฏิเสธไปเพียงว่าของหล่นนิดหน่อย ทั้งที่จริงรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองเขินผู้ชายจนไม่เป็นอันหลับอันนอนนอนกลิ้งไปกลิ้งมากว่าจะได้นอนก็ปาไปห้าทุ่มจนตื่นสิบเอ็ดโมงจนได้ศรในวันนี้ขอตัวออกไปเล่นที่บ้านเพื่อน ตรีศูลจึงอนุญาตในขณะที่เขาก็จะขอตัวไปโรงพยาบาลสนามเช่นกันทว่าเมื่อมาถึงกลับเห็นว่าคุณดินกำลังนั่งคุยอยู่กับหญิงชราแล้วก็...เด็กอยู่! ตรีศูลที่ยังไม่ก้าวเข้าไปในห้องเต็มที่จึงแอบสอดส่องมองเมียงไปก่อน แม้จะไม่ชัดเจนนักแต่เขาก็พอจะได้ยินอยู่บางส่วน'แล้วที่ผ่านมาแม่นอนที่ไหน''โรงแรมแถวนี้แหละ เอ็งไม่ต้องห่วงหรอกเงินแม่มีเหลือเฟือ หัดซื้อให้ตัวเองบ้างไม่ใช่ใส่แต่เสื้อขาด ๆ'ตรีศูลได้ยินก็นึกถึงข้อความของคุณดินบนจดหมายเมื่อนานมาแล้วก็ลอบยิ้ม เขาอยากเห็นเลยว่าในตู้เสื้อผ้าของคุณดินจะเป็นอย่างที่คุณแม่เจ้าตัวพูดหรือเปล่า'พ่อปลื้มบอกแม่ว่าเอ็งมีเมียใหม่เป็นนางรำรึ?'ประโยคต่อม
"วันนี้คุณสวยจริง ๆ นะครับ""คุณดินพอได้แล้วครับ!"ตรีศูลในตอนนี้กำลังสนทนากับนายทหารพิภพด้วยความหัวเสียเพราะเจ้าตัวแทนที่จะถามเรื่องสำคัญกลับพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องวนไปวนมาเสียอย่างนั้น คิดว่าสารภาพรักแล้วจะทำอะไรก็ได้รึอย่างไรแม่นางรำทำท่ากอดอกฮึดฮัดแก้เขินเป็นที่ถูกอกถูกใจแก่พิภพจนอยากจะแกล้งพูดอีกเยอะ ๆ เสียจริง*ตึก* พิภพที่นั่งพิงหมอนอยู่บนเตียงได้ยินเสียงเดินจึงชะโงกหน้าไปดู ตรีศูลจึงหันตามจึงเห็นว่าหมอน้ำมาเดินตรวจพอดี ใบหน้าหวานยิ้มร่าในที่สุดเขาก็จะได้หลุดจากสถานการณ์ที่โดนกลั่นแกล้งทางคำพูดจากคุณดินเสียที!"สายัณห์สวัสดิ์ครับคุณน้ำ""ครับคุณแก้ว"พิภพมองอึ้ง เขาหลับไปหนึ่งเดือนคุณแก้วไปตกใครมาได้อีกแล้วเหรอ!? นายทหารบนเตียงกระวนกระวายอยู่ในใจในขณะที่ได้รับการตรวจก็เหล่มองแม่นางรำข้างเตียงพลางสังเกตพฤติกรรมไปด้วย"หันหลังครับ"พิภพทำตามอย่างว่าง่ายทั้ง ๆ ที่ปากมันคันยุบยิบอยากจะถามโฉมงามให้รู้ว่าชายคนนี้เป็นใครถึงได้ทักทายสนิทสนมกันนัก แต่เมื่อนายแพทย์ที่กำลังตรวจเขาอยู่เลื่อนมือขึ้นมาดูต
พี่ตรีบอกว่าเจ้าตัวเอาจดหมายมามอบให้ช่วงหัวค่ำด้วยตัวคนเดียวผ่านการถามทางชาวบ้านรอบข้าง แต่เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนบอกทางไปบ้านใครสักคนกับทหารต่างชาติที่พึ่งเข้าประเทศมาได้เพียงไม่กี่วัน แม้เขาจะลองบอกเรื่องนี้ให้พี่ตรีทราบแล้วแต่เจ้าตัวก็บอกเพียงว่า'ไม่เป็นไรหรอก ยังไงพี่ก็คงไม่ได้คุยอะไรกับเขามากมายอยู่แล้ว'จนเมื่อจบการแสดงนายทหารคนนั้นมีท่าทีเหมือนจะเดินตรงเข้าหาเจ้าของคณะนางรำคล้ายว่ามีเรื่องจะคุยด้วย สิงห์และนพที่เคี้ยวขนมอยู่เต็มปากยืนกำกับอยู่จึงมองอย่างมาดร้าย ส่วนสองตาที่คราวแรกตั้งใจจะยืนเฝ้าเด็ก ๆ อยู่ด้วยแต่เพราะกลิ่นสุรามันหอมจึงร่นถอยไปร่วมวงกับทหารญี่ปุ่นเสียอย่างนั้น"คุณคือ...คุณแก้วใช่ไหมครับ?"คนในชุดสีเทาหม่นเดินเข้ามาถามไถ่เพราะตอนนี้อีกฝ่ายโกนหนวด ผัดหน้า แต่งกายสะสวยจนเขาเกือบจำไม่ได้"ครับผมเอง" โฉมงามเงยหน้าขึ้นตอบอย่างเป็นมิตร"คุณแสดงสวยมากเลยครับ ยิ้มก็สวย ผมไม่เคยดูอะไรแบบนี้มาก่อนเลยครับ""ผมได้ยินมาว่าที่ญี่ปุ่นก็มีรำแบบนี้เหมือนกันนี่ครับ"ตรีศูลผินหน้าไปทางอื่นกระชับแว่นแล้วจึงตอ
ด้วยงานที่กระชั้นชิดเข้ามาทุกที แต่ละวันของตรีศูลจึงเอาแต่ฝึกซ้อม จัดชุดเครื่องประดับ เตรียมการวางแผนอะไรหลาย ๆ อย่างให้ทันภายในสามสัปดาห์ หากแต่เวลาไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญเท่าความอึดอัดใต้แผ่นอกที่เริ่มกัดกินเขาทีละนิด ด้วยเรื่องงานประกอบกับคนที่กำลังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงโรงพยาบาลกว่าเขาจะหาเวลามาเยี่ยมได้มาปาไปสี่ห้าวัน เดินเข้ามาก็เห็นว่าโรงเรียนมัธยมถูกเปลี่ยนเป็นฐานที่มั่นอย่างเต็มรูปแบบ นายทหารหลายนายต่างพากันขนย้ายแผ่นไม้เดินไปมา กางกระโจมตั้งโต๊ะวางเครื่องมือการช่าง ตรีศูลเดินผ่านมองด้วยสายตาเหม่อลอย แล้วจึงผินหน้าไปยังที่อื่นพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนมาปะหน้ากับหมอน้ำที่กำลังจะขึ้นอาคารพอดี"คุณน้ำสวัสดีครับ""ครับ"ตรีศูลยืนนิ่งแล้วคิดว่าบางทีอีกฝ่ายอาจจะเป็นคนพูดไม่เก่งถึงได้เอาแต่มองหน้าเขาไม่พูดไม่จาแบบนี้ ทว่าไม่นานอีกฝ่ายก็กล่าวต่อ"คือเมื่อวาน...ผมอาจจะพูดแรงไป ต้องขอโทษด้วยนะครับ"ตรีศูลพยายามย้อนจนนึกได้ว่าคงจะเป็นตอนที่เจ้าตัวรายงานอาการของคุณดินให้เขาได้ทราบ"เรื่องนั้นผมเข้าใจได้ครับ ยังไงเรื่องแ
เจ้าศรตกเย็นมาก็ดูอารมณ์จะดีขึ้นไม่เศร้าเรื่องที่แพ้สงคราม ทั้งยังกินอิ่มนอนหลับดีเขาจึงพอจะหมดห่วงไปได้ตรีศูลที่วันนี้ตื่นแต่เช้ามาอุ่นอาหารจะให้เจ้าศรทว่าก็นึกขึ้นได้ เนื่องด้วยตอนนี้โรงเรียนถูกเปลี่ยนเป็นฐานที่มั่นไปแล้ว นักเรียนจึงต้องพักการเรียนกะทันหันจนกว่าสถานการณ์จะซาลงไปจนสามารถดำเนินงานของสถานที่ได้เป็นปกติรวมไปถึงตารางงานของเดือนนี้ต้องถูกเลื่อนออกไปเพราะความไม่สงบ เขาจึงถือโอกาสให้เด็ก ๆ ในคณะได้พักผ่อน เว้นแต่เจ้านพและเจ้าสิงห์ที่วันนี้มาหาเนื่องจากปีหน้าศิษย์เอกของเขาคิดจะไปเรียนต่อระดับอุดมศึกษาหลังจากชะลอมาหนึ่งปีเพื่อรักษาแผลใจที่เสียพี่ไปจึงมาขอให้เข้าช่วยเก็บท่าโขนให้ ส่วนสิงห์ก็ถือตัวโอ้อวดใหญ่ว่าให้เรียกเขาว่าเป็นรุ่นพี่เพราะเข้าเรียนก่อน อย่างน้อย ๆ สีสันบนเรือนนี้ก็ยังไม่จางไป"โอ๊ย! เจ็บ ๆ อาจารย์พอก่อน!"นพตะโกนลั่นเรือนเมื่อหน้าขาทั้งสองถูกดันให้ชิดกำแพงเสียจนจะเป็นเส้นตรงอยู่แล้ว"ทนไว้ ถ้าเขาให้สอบจะได้ทำได้"นพที่พึ่งมาหัดฉีกขาครั้งแรกร้องโอดโอย แค่ท่าถีบเหลี่ยมก็ปวดหลังจะตายอยู่แล้วยังจะต้องมาปว
หลังผ่านสงครามร่วมหลายชั่วโมงเหล่าชาวบ้านพากันปันอาหารข้าวของเครื่องใช้บางส่วนเท่าที่จะให้ได้แก่ผู้ประสบภัยที่ต้องหนีระหกระเหินออกจากเขตสู้รบมารวมถึงเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บ โรงเรียนมัธยมเพียงหนึ่งเดียวถูกเปลี่ยนเป็นฐานที่มั่นของทหารญี่ปุ่น และโรงพยาบาลสนามชั่วคราวบรรยากาศทั้งวันนั้นเต็มไปด้วยความอึมครึม เม็ดฝนทยอยโปรยปรายลงมาอ่อน ๆ พื้นดินพื้นหญ้าชื้นแฉะส่งกลิ่นหอมโชยขึ้นมาปลุกโฉมงามที่หลับใหลอยู่บนฟูกนอนผืนบาง ดวงตาเรียวสวยค่อย ๆ เปิดขึ้นพร้อมกับความรู้สึกปวดตุบในศีรษะตรีศูลยันตัวเองขึ้นนั่งมองไปรอบ ๆ แล้วจึงเห็นว่าตอนนี้ตนเองอยู่บนอาคารเรียน พร้อมกับผู้คนอีกนับสิบที่นอนเรียงรายบาดเจ็บป่วยไข้กันอยู่ กลุ่มแพทย์พยาบาลเดินกันขวักไขว่เป็นพร้อมปลอกแขนสีขาวปักสายเครื่องหมายหน่วยพยาบาลสีแดงเด่น"อาจารย์! ฟื้นแล้วเหรอ!?"เสียงของเจ้าเด็กนพดังมาจากโถงทางเดิน เจ้าตัวเดินเข้ามาพร้อมสิงห์ที่หิ้วปิ่นโตกับจานผลไม้ปอก"นี่กี่โมงแล้ว"คนแก่กว่าถามด้วยความสงสัยเพราะท้องฟ้าด้านนอกก็บอกเวลาแทบไม่ได้ ทั้งยังไม่มีนาฬิกาแขวนในห้อง"จะห้า
1. นิยายเรื่องนี้อ้างอิงจากเหตุการณ์จริงในช่วงปีพ.ศ.2484(ค.ศ.1941) และภาพยนตร์เรื่อง'ยุวชนทหาร เปิดเทอมไปรบ' ซึ่งอาจมีเนื้อหาคล้ายคลึง แต่อยากให้ทราบเอาไว้ว่า ทุกตัวละคร และบางสถานการณ์ที่เอ่ยถึงกล่าวถึงเป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งไม่มีเจตนาดูหมิ่นไม่ว่าจะในเชิงส่วนบุคคลหรือสถาบันเลยแม้แต่น้อย ผู้เขียนหาข้อมูล และเกลาเนื้อหาขึ้นด้วยความเคารพในประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง2. บางส่วนของนิยายอาจมีเนื้อหาเกินความเป็นจริงเพื่ออรรถรสในการอ่าน3. นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับนักอ่านที่ชื่นชอบ/สนใจ คู่ที่มีอายุ (วัยทำงาน) และ เคะหนวด4. บางส่วนในนิยายอาจมีเนื้อหาที่เป็นข้อถกเถียงระหว่างสองความคิดในแง่การเมือง/สถาบันศาสนา5. บางส่วนในนิยายมีการกล่าวถึงองค์กรทางศาสนา, ความรุนแรง, สภาวะทางจิต, สารเสพติด, การล่วงละเมิดทางเพศในรูปแบบต่าง ๆโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .จำนวนตอน
ความคิดเห็น