Romeo Part
“หลงรักนายแล้วรึเปล่านะ?”
ตึกตัก..... ตึกตัก.....
ชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลนอนนิ่งตั้งใจฟังถ้อยคำนั้น ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นนั้นใกล้มากจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่เป่ารินรดใบหน้า โรมีโอยังคงนอนหลับตานิ่ง เสียงหัวใจที่เต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนกลัวว่าคนด้านบนนั้นจะได้ยินเสียงรัวราวกลองศึก แต่แล้วถ้อยคำต่อมาของไมเคิลก็ทำให้ใจเขาดิ่งวูบลงไปในทันที
“หึ จะเป็นไปได้ยังไง.......” สิ้นถ้อยคำชายหนุ่มก็ผละถอยห่างไป และการถอยห่างนี้คล้ายกับว่าดึงกระชากหัวใจของโรมีโอให้หลุดลอยตามไปด้วย หลังจากนั้นไม่นานสัมผัสที่คุ้นเคยก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อไมเคิลจับเขาแต่งตัวหลังจากเช็ดตัวให้เสร็จสรรพและผละไปนอนอีกฝั่งหนึ่งของเตียง หลับตาลงพักผ่อนในที่สุด
โรมีโอทิ้งจังหวะให้ไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งมั่นใจว่าไมเคิลหลับลงแล้วจริงๆ จึงพลิกกายนอนตะแคงข้าง ขยับเข้าไปหาน้องน้อยที่นอนคั่นกลาง แต่เพราะความสูงของขนาดตัวและตำแหน่งหมอนที่จัดวาง ทำให้โรมีโอได้เห็นใบหน้าด้านข้างของไมเคิลอย่างชัดเจน
ดวงตาสีฟ้างดงามบัดนี้กลับหมองหม่นและมีม่านหมอกปกคลุมไว้ ไม่สดใสเป็นประกายเจิดจ้าเช่นเก่าก่อน โรมีโอลอบผ่อนลมหายใจช้าๆ ความร้อนผะผ่าวเริ่มก่อเกิดที่ดวง ตา จนไม่อาจทนมองหน้าของอีกฝ่ายที่อยู่กันคนละฟากฝั่งได้อีกต่อไป โรมีโอหลับตาลงช้าๆ ปิดกั้นไม่ให้หยาดน้ำสีใสไหลออกจากดวงตา แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ผล.....
หยาดน้ำหยดหนึ่งร่วงหล่นลงบนหมอน โรมีโอลบร่องรอยน้ำตาด้วยการขยับเข้าหาน้องน้อย แขนข้างหนึ่งยกขึ้นโอบกอดคนตัวเล็กอย่างแนบเนียน คล้ายว่าทำอยู่เป็นประจำ ซุกใบหน้าลงกับกลุ่มผมนุ่มแล้วปิดเปลือกตา พยายามกดข่มความรู้สึกให้ลึกลงไปสุดใจ แต่แล้วความอบอุ่นบางอย่างก็พาดผ่านเข้าที่รอบเอวของเขาก่อนจะแน่นิ่งไปในที่สุด
ดูคล้ายกับว่าไมเคิลจะโอบกอดน้องน้อยและพาดผ่านมาถึงเขา การกระทำนั้นทำให้โรมีโอรู้สึกรวดร้าวอยู่ในอก แม้จะรู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นเช่นนี้มาตลอดระยะเวลาหลายปี แต่เขาก็ยังอดรู้สึกปวดหน่วงภายในจิตใจไม่ได้ ดังนั้นแล้วชายหนุ่มจึงขยับตัวออกโดยการพลิกกายหันไปอีกทาง นอนหันหลังให้กับไมเคิลและเอวา ส่งเสียงครางในลำคอคล้ายกับการรำคาญสิ่งรบกวนการหลับพักผ่อนของตน แต่แล้วฝ่ามือนั้นก็ยังตามมาเอื้อมคว้า โอบดึงกระชับเอวของเขาให้ขยับเข้าไปใกล้ ดังนั้นแล้วโรมีโอจึงเลยตามเลย เลิกสนใจคนที่นอนโอบกอดตนจากทางด้านหลัง แล้วจมลงสู่ห่วงนิทราไปในที่สุด
ใครบางคนลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดมิด เหลือบตามองไปทางคนที่มีเรือนผมสีน้ำตาลเข้มนอนหันหลังให้ด้วยแววตาล้ำลึกยากเกินคาดเดา.........
เมื่อนาฬิกาบ่งบอกเวลาตี 4 ของวัน ดวงตาเรียวงามสีฟ้าเป็นประกายลืมตาตื่นขึ้นไร้ร่องรอยความง่วงงุน ส่งมือเอื้อมคว้าไปกดปิดเสียงนาฬิกาปลุกก่อนที่มันจะได้ทำหน้าที่ แล้วจึงหันไปมองบุคคลทั้งสองที่นอนอยู่ข้างกัน โรมีโอเห็นว่าเอวานั้นพลิกตัวไปหาไมเคิลและถูกอีกฝ่ายโอบกอดเอาไว้แน่นหนา ฝ่ามือนั้นก็พาดผ่านมาถึงเอวสอบของตน
โรมีโอขยับตัวออกเล็กน้อยแล้วก้าวเท้าลงจากเตียงแผ่วเบาไร้เสียง ใช้แสงจันทร์สอดส่องทิศทางที่จะมุ่งไปท่ามกลางความมืดมิด โดยไม่คิดจะเปิดโคมไฟหัวเตียง หรือไฟดวงใหญ่กลางห้องแต่อย่างใด เขาชินชาเสียแล้วกับการทำหน้าที่เลขาคนสนิท
ตื่นก่อนนอนหลัง เจ้านายไม่พักเขาก็ไม่มีสิทธิ์หนีหาย ดังนั้นแล้วในทุกๆ เช้าโรมีโอมักจะตื่นก่อนเจ้าของห้องอยู่เสมอ หากเป็นที่ห้องอัศวินห้องนอนเก่าของตน ก็จะมีแก้วทรงสวยพร้อมไวน์ชั้นเลิศ เครื่องดนตรีที่เล่นคลอเบาๆ ยามตื่นนอน เพื่อกระตุ้นให้สดชื่นและมีเรี่ยวแรงรับวันใหม่ที่มีงานหนักหนาเอาการไม่ต่างไปจากวันอื่นๆ ดังนั้นแล้วในทุกๆ เช้าเขาจะยืนทอดอารมณ์ ผ่อนคลายตนเองไปกับเสียงดนตรี ไวน์รสเลิศ และเฝ้ารอคอยแสงแรกของวัน
เพียงแต่วันนี้เขาไม่ได้อยู่ที่ห้องของตน แต่อยู่ที่ห้องของอดีตเจ้านาย หน้าที่ในการตระเตรียมสิ่งของต่างๆ ไม่ใช่หน้าที่ของตนอีกต่อไป แต่ถึงกระนั้นโรมีโอก็ยังคงก้าวขาอย่างต่อเนื่อง มุ่งตรงไปที่ห้องครัว เพื่อตรวจสอบรายการอาหารที่จะถูกนำขึ้นโต๊ะในวันนี้
และเพียงแค่เขาปรากฏกาย เหล่าแม่ครัวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีก็ร้องทักอย่างดีอกดีใจ เข้ามาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันครู่ใหญ่ถึงจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน โรมีโอตรวจสอบรายการอาหารและสั่งของเพิ่มเติมอีก 2 – 3 อย่าง เพื่อให้อาหารนั้นมีหลากหลาย เหมาะสำหรับน้องน้อยที่อยู่ในวัยกำลังโต และยังเผื่อแผ่ไปถึงใครอีกคนที่โหมงานหนักและร่างกายต้องการสารอาหารที่ครบถ้วน
โรมีโอเหลือบมองเวลาแล้วยืนชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ไม่แน่ใจว่าตนจะผละไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปทำงานหรือจะเข้าไปเตรียมน้ำและเสื้อผ้าให้อดีตเจ้านายดี แต่หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววิชายหนุ่มก็ตัดสินใจได้โดยไม่ต้องคิดให้มากความ แม้ว่าหน้าที่และจุดยืนของตนจะเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังอยากที่จะทำ.....
อยากจะถนอมช่วงเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันเช่นนี้ให้ยาวออกไปอีกแม้เพียงเล็กน้อย เพราะเมื่อไหร่ที่คนๆ นั้นขึ้นครองราชย์ เขาก็คงไม่อาจอยู่ใกล้คอยรับใช้เช่นเก่าก่อนได้อีกแล้ว ดังนั้นแล้วโรมีโอจึงหมุนกายเดินขึ้นไปที่ด้านบน มุ่งตรงไปที่ห้องคิง เปิดประตูเข้าไปแผ่วเบาและเงียบเชียบ
เมื่อเดินผ่านเตียงนอนก็เห็นว่าเอวานอนซุกอกคนเป็นพี่อย่างไว้วางใจ นอนหลับปุ๋ยน่ารักน่าเอ็นดู จนโรมีโอเผยรอยยิ้มอ่อนบางให้เห็น เมื่อเงยหน้าขึ้นมองใครอีกคน ก็พบว่าคนๆ นั้นนอนกอดน้องน้อยเอาไว้แนบแน่น สองมือโอบรั้งให้ร่างบางขยับเข้าชิดติดกาย แม้จะกอดเอาไว้หลวมๆ ก็ใช่ว่าจะหลุดออกจากอ้อมกอดนั้นโดยง่าย
โรมีโอยืนมองภาพตรงหน้าอยู่อีกครู่หนึ่ง แล้วจึงขยับเดินมุ่งตรงไปที่ห้องน้ำ จัดการเตรียมน้ำอุ่นใส่อ่าง ผสมสบู่ที่มีกลิ่นหอมและหยดอโรม่าเพิ่มลงไปอีกเล็กน้อย ก่อนจะขยับไปจัดเตรียมชุดคลุมอาบน้ำและผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ให้
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นสถานที่ต่อไปคือห้องแต่งตัว โชคดีที่ห้องนี้อยู่ติดกับห้องน้ำและแยกออกมาเป็นเอกเทศ ทำให้เขาสามารถเปิดไฟและเลือกสรรชุดที่จะจัดเตรียมไว้ให้อดีตเจ้านายสวมใส่ในวันนี้ แม้ชุดของไมเคิลที่มีสีทึมทึบมืดมน แต่สีเหล่านั้นล้วนมีเฉดสีของมัน ครั้นพอสายตาเรียวงามกวาดสายตามองก็ต้องถอนหายใจ พลางส่ายหน้าไปมา
ไม่รู้ว่าหัวหน้าแม่บ้านอบรมเมดสาวเหล่านั้นมาอย่างไร พวกเธอถึงได้ทำงานสะเพร่านัก การจับคู่ถุงเท้าถุงมือที่สลับคู่กันเพราะแยกเฉดสีไม่ออกมีอยู่มากและกระจายอยู่ทั่วห้อง ครั้นสายตาเหลือบไปมองชั้นเก็บเนคไทก็ต้องถอนหายใจอีกหน เพราะสักแต่ว่าเก็บ แต่ไม่มีการไล่เรียงเฉดสี ทำให้ภาพความสวยงามเมื่อเขาเป็นคนดูแลกลับกลายเป็นภาพที่เละเทะไม่น่าดู เขาเชื่อว่าไมเคิลก็สังเกตเห็นแต่คงไม่พูด แต่เดิมอดีตเจ้านายคนนี้เป็นคนพูดน้อยและไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยหยุมหยิมเช่นนี้ หยิบอะไรได้ก็ใส่อันนั้นไม่มีปริปากบ่น แต่มันจะสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้แก่คนมอง แม้ว่าส่วนใหญ่นั้นจะแยกเฉดสีไม่ออกก็ตาม แต่สำหรับเขาที่เป็นคนดูแลอีกฝ่ายมาเป็นสิบๆ ปี นี่เป็นเรื่องที่เขายอมไม่ได้
ดังนั้นแล้วชายหนุ่มจึงเริ่มต้นลงมือรื้นค้นเสื้อผ้าและจัดเองใหม่ทั้งหมด โรมีโอนำข้าวของมาวางกองบนโซฟาโดยแยกประเภทก่อน เช่นเมื่อเก็บเสื้อ ก็เริ่มแยกเสื้อก่อน โดยการไล่แบบเสื้อและเฉดสีแยกกันอย่างชัดเจน แล้วค่อยๆ เก็บคืนที่เข้าตู้อย่างเป็นระเบียบ เมื่อมาถึงกางเกงก็ทำแบบเดียวกัน และทำแบบเดิมซ้ำๆ ทั้งถุงมือ ถุงเท้า เครื่องประดับ หรือแม้แต่ชั้นใน
“ทำอะไร........” น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นที่หน้าประตูห้องทำให้โรมีโอชะงัก เมื่อเงยหน้ามองก็ได้พบกับอดีตเจ้านายที่สวมใส่เสื้อคลุมอาบน้ำขนสัตว์สีดำสนิทยืนกอดอกพิงกำแพงมองจ้องตนเองไม่ละสายตา ทำให้โรมีโอพลันได้สติขึ้นมาทันที ก้มมองดูเวลาถึงได้รู้ว่าเขาทำการจัดระเบียบอยู่ในห้องเสื้อผ้านี้มากกว่า 2 ชั่วโมง และเลยเวลาในการปลุกไมเคิลและเอวาไปเสียแล้ว ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายยืนอยู่ตรงหน้า ก็เอ่ยปากตอบกลับไป
“ตรวจเสื้อผ้าครับ” ไมเคิลขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งตามเดิม
“ไม่มีของคนอื่น......” ทำตอบนั้นทำให้โรมีโอถึงกับงุนงง กะพริบตาปริบๆ ด้วยความไม่เข้าใจ ว่าอีกฝ่ายต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่ ทำให้ไมเคิลขยับสาวเท้าเข้ามาใกล้ โน้มตัวลงต่ำจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจ เอื้อมมือไปหยิบคว้าชั้นใส่สีดำสนิทที่วางอยู่ด้านข้าง ย้ำชัดอีกครั้งด้วยดวงตาแน่วแน่
“ไม่มีของใครทั้งนั้น......” โรมีโอกะพริบตาปริบ พลันหัวสมองก็กระจ่างแจ้ง ก้มหน้าลงต่ำหัวเราะในลำคอ พลางส่ายศีรษะไปมา
“ผมไม่ได้บอกว่าจะตรวจเสื้อผ้าของคนอื่นนี่ครับ” โรมีโอโคลงศีรษะไปมา ในขณะที่มือก็สอดเข้าใต้ผืนผ้า ลูบไล้ผิวเนื้อแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม ขยับเลื่อนสูงขึ้นอีกนิด เอื้อมคว้าจับเข้าที่ตัวตนซึ่งนอนสงบนิ่งของไมเคิลที่อยู่ตรงหน้า ลูบไล้ไปมาแผ่วเบา
“นายบอกตรวจเสื้อผ้า.....” ไมเคิลยังคงนิ่งเฉย ไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาให้เห็น ทำให้โรมีโอเลิกคิ้วมองก่อนจะตอบกลับไป
“ผมแค่จะจัดให้ใหม่เฉยๆ ครับ เสื้อผ้าของคุณสลับสี ปนกันมั่วไปหมด......” สิ้นคำ ก็แลบลิ้นแตะสัมผัสส่วนปลายที่เริ่มแข็งขืน เพียงแค่สัมผัสแผ่วเบาตัวตนนั้นพลันแข็งแกร่งก้าวร้าวดุดัน สิ่งนั้นกระตุกหงึกทักทายเมื่อได้รับการดูแลทะนุถนอมอย่างนุ่มนวล
“อืม.....” ไมเคิลครางรับในลำคอ ไม่แน่ใจว่าเป็นการตอบรับถ้อยคำหรือเป็นเพราะริมฝีปากที่เข้าครอบครองแท่งร้อนเข้าไปจนลึกสุดโคน ความนุ่มหยุ่นชุ่มชื้นโอบล้อม เกิดแรงดูดผะแผ่วชวนให้ใจสะท้านไหว ฝ่ามือใหญ่ขยับไปจับศีรษะของคนที่มีเรือนผมสีน้ำตาลเข้ม กดให้ริมฝีปากสอดเข้าลึกมากยิ่งขึ้นไปอีก จนได้ยินเสียงครางอึกอักในลำคอ ดังนั้นแล้วไมเคิลจึงจำใจปล่อยศีรษะนั้นให้ขยับออกไปอย่างเชื่องช้า
โรมีโอไอค่อกแค่ก น้ำสีใสไหลเยิ้มที่มุมปาก ไมเคิลยกมือขึ้นใช้ปลายนิ้วลูบไล้ริมฝีปากนั้นแผ่วเบา ก่อนจะกดสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปภายในโพรงปากนุ่มอุ่นร้อน ปลายนิ้วนั้นหยอกล้อกับลิ้นเล็กไปมา พัวพันกันภายในริมฝีปาก จนดวงตาสีฟ้าสดใสเริ่มเหม่อลอยคล้ายไม่ได้สติ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้ม เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา แต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านั้น ฉับพลันประตูก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างของคนตัวเล็กที่กอดผ้าห่มลากเดินตามมาด้วย
“พี่จ๋า.....” เอวาร้องเรียกพลางขยี้ตาไปมา ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนพลันได้สติ ไมเคิลจัดชุดให้เข้าที่เข้าทางอย่างไม่เร่งรีบ เมื่อเขาหมุนตัวกลับไปหาน้องน้อย เอวาก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพอดี เด็กน้อยซุกใบหน้าลงกับอกคนเป็นพี่ ถูไถไปมาเอ่ยปากพึมพำ
“ช้าจัง....” ไมเคิลโอบกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน พรมจูบไปทั่วใบหน้าและเส้นผม
“ขอโทษค่ะ” ไมเคิลพูดพร้อมกับโยกกายไปมาคล้ายกับการกล่อมนอน เอวาพยักหน้าหงึกๆ ตอบรับในลำคอ ก่อนจะผล็อยหลับไปอีกหน
“เตรียมชุดให้หน่อย ฉันจะพาตัวเล็กไปอาบน้ำ” สิ้นคำไมเคิลก็ตวัดแขน รวบคนตัวเล็กขึ้นจากพื้นท่าเจ้าหญิง ชายผ้าห่มลากพื้นไปเล็กน้อย แล้วจึงก้าวเท้าออกจากห้องเสื้อผ้าไป โรมีโอพยักหน้ารับ เร่งรีบเก็บข้าวของให้เข้าที่ จัดเสื้อผ้าเอาไว้ให้อดีตเจ้านายแล้วจึงเดินไปที่ห้องนอนของเอวา มุ่งตรงเข้าห้องเสื้อผ้า และพบว่าเป็นเช่นเดียวกับกับห้องของไมเคิล ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา พลางคิดในใจว่าต้องเรียกเมดสาวเหล่านั้นมาอบรมเสียหน่อยแล้ว คิดไปพลางจัดเสื้อผ้าให้เข้าชุดกัน แล้วจึงนำไปแขวนไว้ที่หน้าตู้ห้องของไมเคิลเคียงคู่กัน
เมื่อกลับเข้ามาอีกครั้งก็เห็นว่าไมเคิลกำลังสระผมให้คนตัวเล็กที่กำลังนั่งเล่นฟองสบู่อย่างสนุกสนานจนเกิดเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ โรมีโอถอดเสื้อคลุมของตนออกพร้อมกับพับแขนเสื้อขึ้นสูง เดินมุ่งตรงเข้าห้องน้ำ ตามไปด้วยอีกคน ขัดถูกเนื้อตัวของน้องน้อยอย่างเอาใจใส่ ในขณะที่เอวาก็ชักชวนพูดคุยไปเรื่อยเปื่อย
“บ้านเราขาดพี่โรมจ๋าไม่ได้จริงๆ นะ” โรมีโอเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ ถามกลับไปพร้อมๆ กับการขัดถูกเนื้อตัวของเด็กน้อยไปมา
“ทำไมละคะ?”
“ก็เมื่อกี้พี่จ๋าบอกว่าจะอาบน้ำให้หนู แต่ขอแต่งตัวก่อน หนูก็เลยนอนรอจนหลับไปอีกรอบ พี่จ๋าก็ยังไม่ออกมา พอหนูถามว่าทำไมถึงช้าจัง พี่จ๋าบอกว่าหาชุดไม่เจอ เพราะพี่โรมจ๋ากำลังจัดของให้อยู่ หนูก็ถามอีกว่าทำไมต้องจัดใหม่ พี่จ๋าบอกว่าสีมันปนกัน สลับข้าง ถ้าหากบ้านเราไม่มีพี่โรมจ๋าอยู่ด้วยมันต้องเละกว่านี้แน่ๆ เลย” เอวาพูดพร้อมทำหน้าขึงขังส่งให้ จนคนมองเผลอหลุดหัวเราะออกมา
“ฮึฮึ ไม่เละหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่จะอบรมเมดสาวเหล่านั้นใหม่ แค่นี้ก็ไม่เละแล้ว” เอวาขยับมาจับกุมมือของโรมีโอเอาไว้แน่น ทำให้ฝ่ามือเรียวที่กำลังขยับถูไถร่างกายของเด็กน้อยหยุดชะงัก
“พี่โรมจ๋าไม่อยากกลับมาอยู่ที่นี่หรอ......” เอวาพูดพร้อมกับช้อนสายตาขึ้นมอง แววตานั้นออดอ้อนจนคนมองใจสั่นสะท้านไหว โรมีโอมองคนในอ่างน้ำด้วยความเอ็นดู ในขณะที่ไมเคิลขยับมือนวดตามเนื้อตัวของน้องน้อยแผ่วเบา ไม่ได้เอ่ยคำใดออกไป
“พี่ต้องกลับไปดูแลบ้านของพ่อกับแม่ค่ะ พี่คงอยู่ที่นี่ไม่ได้ อีกอย่าง...... พี่ไม่ได้ทำหน้าที่ผู้ช่วยไมเคิลอีกแล้ว ดังนั้นพี่คงอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกค่ะ”
“ทำไมจะอยู่ไม่ได้......” ไมเคิลเปรยขึ้นเสียงราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ดวงตาสองสีนั้นยังคงมองไปตามเนื้อตัวของน้องน้อย บีบนวดเอาใจไม่ขาด ในขณะที่ถ้อยคำนั้นทำให้โรมีโอถึงกับชะงัก ส่วนเอวานั้นก็หันมองไมเคิลดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ
“ฉันไม่เคยไล่นาย........” สิ้นคำนั้น ความอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั่วจิตใจของโรมีโอ แต่หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววิ โรมีโอก็เอ่ยบอกเสียงอ่อน
“ถึงคุณจะให้ผมอยู่ได้ แต่ผมก็ยังคงต้องไปดูแลบ้าน ดูแลกิจการของครอบครัว.......” ไมเคิลเหลือบตาขึ้นมอง เอ่ยเสียงเย็น
“มีเมดไว้ทำไมถ้าไม่ใช้? ...... มีบอร์ดบริหารไว้ทำไมถ้าทำงานไม่ได้เรื่อง......” ไมเคิลพูดพร้อมกับลุกขึ้นจากขอบอ่าง ดึงให้เอวาลุกขึ้นตามอย่างนุ่มนวล โรมีโอจึงรีบฉวยคว้าผ้าเช็ดตัวมาเช็ดให้น้องน้อย ในขณะที่ไมเคิลถือเสื้อคลุมอาบน้ำคลุมร่างของเอวาและจัดการผูกเชือกให้ ส่วนโรมีโอนั้นเปลี่ยนผ้าผืนใหม่และผละออกไปเช็ดผมให้กับคนตัวเล็ก
“นายต้องกลับมาอยู่ที่นี่.......” ไมเคิลพูดขึ้นก่อนที่จะเดินออกจากห้องน้ำ โรมีโอขมวดคิ้วครุ่นคิด เอ่ยถามกลับไปอย่างไม่แน่ใจ
“นี่เป็นคำสั่งใช่ไหมครับ?”
“ใช่.....”
“เพราะตัวเล็กอยากให้ผมอยู่ที่นี่?” ไมเคิลหยุดอยู่ที่หน้าประตู มือจับคว้าลูกบิดค้างเอาไว้ เกิดความเงียบรายล้อมชั่วอึดใจ ก่อนที่ชายผู้มีรอยสักมังกรคำรามจะเอ่ยกลับมา
“ไม่จำเป็นต้องรู้........ นายแค่ ‘ต้อง’ อยู่ที่นี่.......” พูดจบ อีกฝ่ายก็เปิดประตูออกจากห้องไป มุ่งตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้ออีกครั้ง ต่างจากเอวาที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม โรมีโอเลิกคิ้วมองเมื่อน้องน้อยเงยหน้าขึ้นสบตา เอวาขยับกายเข้ามาใกล้ เขย่งขาขึ้น ยกมือป้องปากกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“พี่จ๋าอยากให้พี่โรมจ๋าอยู่ที่นี่ล่ะ!” เอวาพยักหน้าหงึกๆ สนับสนุนคำพูดตนเอง ก่อนจะร้องรับคำเมื่อไมเคิลเรียกให้ไปแต่งตัว โรมีโอยังคงยืนอยู่กับที่ แม้ในคราแรกเขาก็ตีความไปในแนวทางนั้น แต่เพราะอีกฝ่ายไม่พูดตรงๆ จึงเกิดความลังเลใจ และถามกลับไปว่านี่คือสิ่งที่ชายคนนั้นทำเพื่อเอาใจเอวาใช่หรือไม่ ครั้นได้คำตอบกลับมาก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก แต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กเองก็คงคิดไม่ต่างกัน โรมีโอหัวเราะให้กับตัวเอง รู้สึกอารมณ์ดีพร้อมยิ้มรับสำหรับวันใหม่ แล้วจึงเดินออกจากห้องน้ำ ไปอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมลงไปรับประทานอาหารเช้าของวัน
โรมีโอลงมาที่ห้องรับประทานอาหาร ระหว่างรอเจ้าบ้านทั้งสองคน เขาก็เรียกเหล่าเมดสาวมารวมตัว ทำการฝึกอบรมเสียใหม่ใน ยื่นแถบสีส่งให้ ออกคำสั่งให้นำไปถ่ายสำเนาและจดจำให้ขึ้นใจ มอบหมายให้คุณหัวหน้าแม่บ้านเป็นคนตรวจสอบและทดสอบด้วยตนเอง ถึงจะยอมให้เข้าไปทำงานในห้องของไมเคิลและเอวา
นอกจากนี้แล้วยังเอ่ยถึงเมนูอาหารในแต่ละวันที่ต้องจัดเตรียมให้พร้อมทั้งอาหารคาวหวานสารอาหารต้องครบถ้วน เพราะแต่ก่อนเขาเป็นผู้ที่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านนี้ เมื่อตนย้ายออกไปอยู่ที่บ้านเดิมของบิดามารดา ไม่ได้กลับมาอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลวัลโด้เพียงไม่นานก็พบว่าหลายสิ่งหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไป การดูแลบ้านช่องขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้เขารู้สึกขัดอกขัดใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเรียกเหล่าเมดสาวมาอบรม
ที่หางตาของโรมีโอเห็นว่าไมเคิลและเอวาเดินเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหารจึงออกคำสั่งให้เหล่าเมดสาวแยกย้าย ชายหนุ่มเดินไปที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของน้องน้อยแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้อย่างเอาใจใส่ โน้มตัวลงกดจูบที่ข้างแก้มใส แล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งของโต๊ะ นั่งลงตรงที่ประจำของตนในอดีต
เมื่อสมาชิกมาพร้อมหน้าก็ลงมือรับประทานอาหารในทันที โรมีโอตักอาหารใส่จานให้กับน้องน้อย ในขณะที่ไมเคิลยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ บรรยากาศมื้ออาหารยามเช้าเป็นไปอย่างเรียบง่าย จนกระทั่งไมเคิลวางแก้วกาแฟลงแล้วเอ่ยปากบอกกับอดีตผู้ช่วยคนสนิทเสียงนิ่ง
“กลับวันนี้......” มีดของโรมีโอชะงัก เงยหน้าขึ้นมองผู้พูดด้วยความแปลกใจ ก่อนจะส่ายศีรษะไปมาเชิงปฏิเสธ
“ไม่ครับ” ไมเคิลเหลือบตาขึ้นมองในทันที ในดวงตานั้นมีความขุ่นมัวปรากฏ เอ่ยถามเสียงนิ่งต่างจากแววตาดุดันที่เขม็งมองจ้องมา
“ทำไม.....”
“ผมมีหลายสิ่งต้องจัดการครับ”
“เมื่อไหร่.....” เอวาลอบส่งสายตายิ้มๆ ให้กับโรมีโอ เชิงบ่งบอกให้รู้ว่าตนคิดไม่ผิด
“ประมาณ 1 เดือนครับ” ไมเคิลคิ้วขมวดเข้าหากันชั่วครู่อย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก เอ่ยด้วยเสียงติดสะบัดปลายนิดๆ
“1 อาทิตย์.....” พูดจบก็ลุกขึ้นจากโต๊ะรับประทานอาหาร มุ่งตรงไปที่ประตูบ้านในทันที โรมีโอโคลงศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ แล้วลุกขึ้นตามอีกฝ่ายไป ซึ่งเอวาก็ลุกตามมาด้วยเช่นกัน
“ตัวเล็กไปกับพี่นะคะ” โรมีโอหันมาเอ่ยบอกกับน้องน้อย หากแต่เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู กลับเห็นใครบางคนยืนประจันหน้ากับไมเคิลอยู่ บารอนหันมาส่งยิ้มให้กับเอวา ในขณะที่คนตัวเล็กก็รีบวิ่งเข้าไปหา ซุกตัวในอ้อมกอดของบารอนพร้อมกับถูไถใบหน้าไปมาอย่างออดอ้อน ไมเคิลถึงกับคิ้วกระตุกเมื่อเห็นท่าทีนั้นของคนทั้งคู่
“ตัวเล็กไปกับพี่นะคะ” ถ้อยคำเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน หากแต่คนพูดคือบารอนที่กำลังก้มหน้าลงถูไถปลายจมูกกันไปมาอย่างน่ารักน่าชัง
“อื้อ!” เอวาตอบรับเสียงใสพร้อมกับการพยักหน้ารับ ในตอนนี้เองที่โรมีโอรู้สึกขุ่นมัวภายในจิตใจ ถ้อยคำเหมือนกับแต่น้องน้อยกลับตอบรับใครอีกคนมากกว่า
“ไปกับพี่/ไปกับพี่นะคะ” ทั้งไมเคิลและโรมีโอจับแขนน้องน้อยกันคนละข้าง เอ่ยประโยคเดียวกัน สิ้นคำนั้นก็เงยหน้ามองกันอย่างไม่ยินยอม เอวากลอกตาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความบราคอนของพี่ชายทั้งสองคน บารอนขยับเข้าไปใกล้ สวมกอดน้องน้อยแล้วอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนร้องบอกทิ้งท้าย ก่อนที่จะก้าวเท้าเดินจากไป
“หมดเวลาของคุณพี่ชาย ตอนนี้เอวาเป็นของฉัน” บารอนขยิบตาพร้อมกับอุ้มคนตัวเล็กไปวางอยู่บนรถ ปิดประตูให้แล้วจึงออกรถจากไปช้าๆ โดยมีไมเคิลและโรมีโอมองตามหลังไม่ละสายตา เมื่อน้องน้อยโดนขโมยตัวไปทำให้ไมเคิลขัดใจจนแสดงออกทางสีหน้า ใบหน้าหล่อเหลานั้นแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง หมุนกายหันหลัง เดินมุ่งตรงไปที่รถของตน ในขณะที่โรมีโอเองก็เช่นกัน ชายหนุ่มกลับไปที่รถและมุ่งตรงไปที่ทำงานซึ่งตนเองกำลังนั่งอยู่ในตำแหน่งซีอีโอของบริษัท เมื่อมองดูงานตรงหน้าก็ต้องถอนหายใจ พลางคิดว่าจะถ่ายทอดงานให้กับใครดี ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะเบาๆ พร้อมกับใครบางคนที่เดินเข้ามา
“บอสบอกให้ผมมารับช่วงต่องานของบอสครับ” เรนเดลพูดพร้อมกับยืนตัวตรงต่อหน้าของโรมีโอ ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ส่งยิ้มให้อย่างขอบคุณอยู่ในที เพราะเขากำลังคิดถึงใครสักคนที่ไว้ใจได้ พร้อมทั้งยังมีความสามารถในการดูแลและปกครอง หากจะให้เป็นใครสักคนในบอร์ดบริหารก็เกรงว่าจะคิดคดโกงในภายหลัง หากแต่เป็นทีมงานของตน เขาก็ไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นแล้วโรมีโอจึงเริ่มต้นถ่ายทอดงานทั้งหมดที่มีอยู่ในมือในฐานะคนของตระกูลวอลเลอร์ให้กับเรนเดลอย่างรวดเร็ว
“พักสักหน่อยไหมครับ” โรมีโอยกมือขึ้นนวดขมับหลับตาลงเพื่อพักสายตา ในขณะที่เรนเดลวางแก้วกาแฟลงตรงหน้าของชายหนุ่ม โรมีโอส่ายศีรษะช้าๆ รับแก้วกาแฟมาจิบเล็กน้อยก่อนจะวางลงตามเดิม ตอนนี้โรมีโอกำลังโอนย้ายงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในตระกูลวอลเลอร์ให้กับเรนเดล ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์หลังนี้ สิ่งที่เรนเดลต้องคอยดูแลไม่ให้ขาดตกบกพร่อง นอกจากนี้ยังมีงานของตระกูลอีกเล็กๆ น้อยๆ ที่โรมีโอไม่จำเป็นต้องเป็นคนดูแลเองเพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่มีความสามารถ และเป็นมันสมองของทีมอยู่แล้ว ดังนั้นการโอนย้ายงานจึงเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้น เพราะการที่โรมีโอฟื้นฟูกิจการของตระกูลวัลโด้ตั้งแต่เมื่อ 3 ปี ก่อน ทำให้ทั้งสองต้องทำงานอย่างหนักจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพื่อให้ทันกำหนดหนึ่งสัปดาห์ตามที่ไมเคิลสั่งไว้ตอนนี้เป็นเวลากว่า 5 วันแล้วที่โรมีโอโหมงานหนัก เพราะต้องคอยสอนให้เรนเดลทำงานแทนตน เมื่อถึงเวลาพักของเรนเดล โรมีโอกลับนั่งเตรียมเอกสารแผนงานที่อีกฝ่ายต้องทำในวันถัดไป ทำให้ตอนนี้โรมีโอไม่ได้พบหน้าของเอวาหรือไมเคิลมาพักใหญ่ เพราะต้องเร่งสะสางงานการที่ค้างคา“บอสโหมหนักมากเกินไปแล้วนะคร
Michael Partจุดหมายปลายทางของรถยนต์คันหรูนั้นคือบริษัทที่อยู่ในเครือของตระกูลวัลโด้ เอวาตรงขึ้นไปที่ห้องทำงานของไมเคิลโดยไม่ลังเล ตลอดสองข้างทางพนักงานทั้งหลายต่างเอ่ยปากทักทายผู้เป็นนายทั้ง 3 คน ไมเคิลพยักหน้ารับน้อยๆ ในขณะที่โรมีโอส่งยิ้มบางเบาให้กับคนคุ้นเคยเมื่อคนทั้งสามมาถึงห้องทำงานของไมเคิล เอวาก็กระโดดขึ้นโซฟานอนเขี่ยโทรศัพท์ในทันที ไมเคิลเดินไปทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ของตน ในขณะที่โรมีโอยืนหยุดอยู่กับที่ ด้วยความไม่แน่ใจว่าตนต้องทำอะไร ไม่แน่ใจว่าไมเคิลจะให้ตนช่วยทำงานหรือไม่ ในขณะที่ยืนตัดสินใจอยู่นั้น ไมเคิลก็เอ่ยปากเสียงเรียบ“ตัวเล็กคะ” เอวาเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือ มองคนเป็นพี่ตาแป๋ว เอียงคอเล็กน้อยอย่างน่ารักน่าชัง ไมเคิลยกยิ้มบางเบาให้กับท่าทางนั้นแล้วจึงเอ่ยต่อ“หลังจากนี้พี่จะให้โรมีโอสอนงานให้ตัวเล็กนะคะ”“หืออออ” เอวาครางในลำคอ กะพริบตาปริบๆ ในขณะที่โรมีโอทำเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่เพียงไม่นานก็ทำหน้าคล้ายกับเข้าใจอะไรในบางสิ่ง ซึ่งนั่นทำให้ไมเคิลพอใจที่อดีตผู้ช่วยมีความคิดฉับไวและรวดเร็วเช่นเคย ไม่ทิ้งลายอดีตผู้ช่วยคนสนิทไปเลยแม้แต่น้อย“ในวันประกาศแต่งตั้งองค์รั
Romeo Part"แต่งงานกับฉัน""ห๊ะ?! " ผมได้ยืนอึ้งอยู่กับที่หลังสิ้นประโยคของคนตรงหน้า ดวงตาคมกล้ามองสบมาด้วยความแน่วแน่เพราะผมได้แต่ยืนนิ่งไม่ได้ตอบอะไรกลับไป สุดท้ายแล้วคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ก็ผุดลุกขึ้นในที่สุด มือข้างหนึ่งของไมเคิลยื่นออกมาด้านหน้า จับคว้ามือซ้ายของผมเอาไว้ สวมใส่แหวนวงหนึ่งเข้าที่นิ้วนาง ก่อนจะจับยกมือของผมจรดริมฝีปากด้วยใบหน้าเรียบเฉย ต่างจากผมที่ยืนกะพริบตาปริบด้วยความอึ้งปะปนกับความงุนงงเป็นรอบที่สอง"ดะ เดี๋ยว-" ยังไม่ทันจบประโยคดี ผมก็ถูกไมเคิลฉุดรั้งให้เดินออกไปด้านหน้าด้วยกัน จนกระทั่งไปหยุดอยู่ตรงที่องค์ราชินีทรงยืนประทับอยู่ โรมีโอทรุดตัวลงคุกเข่าทำความเคารพองค์ราชินี พระนางขยับกายเข้ามาใกล้พร้อมกับช่วยฉุดประคองให้ลุกขึ้นยืน พาไปหยุดอยู่ที่ด้านข้างไมเคิลที่ยืนมองมานิ่งๆความสับสนมึนงงปรากฏขึ้นภายในดวงตาสีฟ้ากระจ่างใสของโรมีโอ จนทำให้พระนางแย้มสรวลเล็กน้อยอย่างขบขัน ก่อนส่งมือของโรมีโอให้ไมเคิลได้จับกุม ไมเคิลรับมือของโรมีโอมากุมกระชับเอาไว้แน่น แล้วจึงหันหน้าไปหาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานในวันนี้ เอ่ยปากด้วยเสียงราบเรียบทว่าเฉียบขาด"ต่อแต่นี้ไป..... โรมีโอ วอลเ
ไมเคิลและโรมีโอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในเวลาราว 5 โมงเย็นของวัน เนื่องจากพวกเขาทั้งคู่ต้องเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงฉลองที่จะเกิดขึ้นในเวลา 1 ทุ่มตรงในคราแรกที่ตื่นขึ้น โรมีโอเป็นคนที่ตื่นก่อนคนข้างกาย เพราะเสียงเคาะประตูห้องทำให้เขาตั้งใจจะลุกไปเปิดประตูแต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากใครบางคนกอดรัดเอวสอบของเอาไว้แน่นและมันมาพร้อมกันคิ้วคู่คมที่ขมวดเข้าหากันอย่างขัดอกขัดใจ แต่ถึงอย่างนั้นโรมีโอก็ค่อยๆ แกะอ้อมแขนนั้นออกจากตัวได้ในที่สุดเมื่อเปิดประตูออกไป ก็เห็นเมดสาวเอ่ยบอกด้วยท่าทีสำรวม แต่สองแก้มแดงปลั่งด้วยความเขินอาย หญิงสาวเข้ามาแจ้งเรื่องกำหนดเวลาของงานเลี้ยงในช่วงค่ำคืนที่จะมาถึงนี้โรมีโอพยักหน้ารับ ตั้งใจจะหันมาปลุกคนหลับให้ตื่นขึ้น แต่เมื่อหันกลับมาก็พบกับไมเคิลที่นั่งชันขาข้างหนึ่งมองตรงมาอยู่ก่อนแล้ว อีกฝ่ายไร้ซึ่งแววง่วงงุน แต่กลับมีดวงตาคมดุมองจ้องเมดสาวไม่ละสายตา จนโรมีโอได้แต่งุนงงเมื่อเห็นว่าไมเคิลตื่นแล้ว โรมีโอจึงตั้งใจจะออกจากห้อง เพื่อกลับไปอาบน้ำแต่งตัว แต่กลับไม่เป็นอย่างที่เขาตั้งใจ เมื่อเมดสาวมากมายพากันกรูเข้ามาหา เชื้อเชิญให้โรมีโอมุ่งตรงไปที่ห้องน้ำ และช่วยปลดเสื้อ
ในที่สุดโรมีโอก็ได้ออกจากห้องเสียที หลังจากที่เสียเวลาไปอีกเกือบ 40 นาที เพราะคนที่อาสาช่วยเขาแต่งตัวเอาแต่จับตรงนั้นตรงนี้ไม่หยุด จนเกือบจะได้ถอดชุดทิ้งไปอีกรอบ ถ้าหากองค์ราชินีไม่เปิดประตูเข้ามาตอนครบเวลาเสียก่อนหลังจากนั้นเมดสาวหลากหลายคนก็รุมล้อมเขาเต็มไปหมด ใบหน้าถูกจับหันไปทางนั้นทางนี้ ในขณะที่มีอะไรต่อมิอะไรไม่รู้ถูกสวมใส่บนร่างกาย จนเมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วถึงได้มองตัวเองภายในกระจกชัดๆชุดที่โรมีโอสวมใส่ในขณะนี้คือชุดสีขาวขลิบทองทั้งตัว เครื่องอิสริยาภรณ์ถูกติดตามร่างกายจนหนักอึ้ง และสิ่งที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะเป็นสายสะพายที่ถูกพาดอยู่บนบ่าด้วยสีแดงกำมะหยี่หรูหราสมกับตำแหน่งมารดาของแผ่นดินคนถัดไป เรือนผมสีน้ำตาลเข้มถูกจับถักเปียหลวมๆ ธรรมดา แต่เครื่องประดับที่ใช้ไม่ธรรมดาตาม เมื่อบนศีรษะของเขานั้นเต็มไปด้วยเพชรพลอยที่ร้อยเรียงปักลดหลั่นกันลงมาไมเคิลที่กำลังถูกเมดสาวรุมล้อมอยู่เช่นกันได้แต่ยืนมองโรมีโอนิ่งๆ ไม่ละสายตาราวกับถูกมนต์สะกด โรมีโอไม่ได้สวยงามน่ามองเฉกเช่นหญิงสาว ไม่ได้น่ารักอ่อนหวานเหมือนกับเอวา แต่เต็มไปด้วยเสน่หาที่มากล้น สะกดตรึงทุกสายตา ไม่ว่าจะชายหญิงคนช
ตอนนี้เวลาผ่านมามากกว่า 5 วันแล้ว หลังจากงานประกาศแต่งตั้งองค์รัชทายาทและเปิดตัวพระชายา ตอนนี้โรมีโอยังคงนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยช้ำและรอยแดงระเรื่อห้อเลือด บริเวณสะโพกปวดหนึบจนชาไร้ความรู้สึก ขยับตัวแต่ละครั้งสะท้านไปทั่วกาย ที่เอวสอบและบั้นท้ายทั้งสองข้างเป็นรอยแดงปื้นของนิ้วมือเด่นชัด นอกจากนี้แล้วยังมีช่องทางด้านหลังที่บวมช้ำแดงก่ำบ่งบอกถึงการถูกใช้งานและเคี่ยวกรำอย่างหนักหน่วงตลอด 5 วันที่ผ่านมา โรมีโอยังคงนอนคว่ำหน้าพลางคิดไปถึงค่ำคืนอันเป็นจุดเริ่มต้นของบทรักที่แสนร้อนแรง ทำเอาเขาหมดสภาพไปโดยปริยายไมเคิลไม่ได้พาเขากลับเข้างานเลี้ยง แต่กลับพาเขามุ่งตรงไปอีกทางแทน ทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมองพร้อมเอ่ยถามสลับกับมองดูทางไปพลาง“ไปไหนครับ?” ไมเคิลหลุบตาลงต่ำมองคนในอ้อมกอดเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองตรง ก้าวเท้าเดินไปพลาง“ห้อง.....”“แต่แขกยัง-”“ไม่สน......”“.......” โรมีโอถึงกับหมดคำจะพูด ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมพยักหน้ารับ“ก็ดีครับ ผมอยากพักเหมือนกัน” ทันทีที่พูดจบไมเคิลก็ขมวดคิ้วมอง ก่อนจะเอ่ยเสียงติดดุนิดๆ“ใครให้นอน...... เข้าหอ......”
ตอนนี้ผมกำลังกะพริบตาปริบยืนมองภาพตรงหน้าสลับกับหันมองคนข้างกาย......“ไมค์......คุณแน่ใจนะว่าเป็นที่นี่?”“อืม....” ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่หาดทรายสีขาวนวลตา รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ดึงดูดให้ลงไปแหวกว่ายแต่คือ......ตอนนี้มันหน้าหนาวไงครับ.......อากาศเย็นๆ แบบนี้มันควรจะตั้งแคมป์ผิงไฟในป่าใหญ่ไม่ใช่หรอ!!!ผมโคลงศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ หลังจากผ่านวันสุดท้ายของปีในตอนนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาราวหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งไมเคิลเป็นคนวางแผนในการจัดทริปฮันนีมูนระหว่างเรามีแพลนกำหนดยิงยาวเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือน เพราะผมไม่มีที่ไหนที่อยากไปเป็นพิเศษโดยปกติแล้วการจัดการงานการต่างๆ อย่างการจองตั๋วจองบ้านพักกำหนดแผนการเดินทางอะไรพวกนี้จะเป็นหน้าที่ของผมเพราะเป็นเลขาส่วนตัวให้ไมเคิลมาครึ่งชีวิต ดังนั้นจึงจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีกว่า แต่เพราะผมไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไมเคิลเลยอาสารับหน้าที่ส่วนนี้ไปทำเอง ดังนั้นแล้วผมจึงให้สิทธิ์ขาดในการตัดสินใจกับไมเคิลได้เต็มที่ผมเอ่ยถามในตอนเขากำลังหาข้อมูลว่าเราจะไปที่ไหนกัน เขาก็ตอบกลับมาสั้นๆ แค่ว่า เซอร์ไพรส์และปล่อยให้เขาจัดการเอง ผลเป็นยังไงน่ะหรอครับ? ก็คือกา
“ขอนะ......”“ดะ เดี๋ยว” โรมีโอร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นดันแผ่นอกแข็งแกร่งเอาไว้พลางหันหน้าหลบไปอีกทาง อ้อมแอ้มบอกไม่เต็มเสียง“ตัวเล็กยัง-”“ไม่อยู่แล้ว.....” ไมเคิลบอกพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งดึงรั้งกางเกงว่ายน้ำของโรมีโอลงต่ำ มือข้างหนึ่งบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่ม ในขณะที่มืออีกข้างก็บีบเคล้นไปตามเนื้อตัว โรมีโอหันไปมองตามทิศทางที่เอวาเคยยืนอยู่ เมื่อหันไปก็พบว่าบารอนจับเอวาอุ้มพาดบ่า เดินมุ่งตรงเข้าบ้านไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมา เสียงโวยวายแว่วมาเป็นระยะ“อ๊ะ!! ไมค์!” โรมีโอสะดุ้งสุดตัวเมื่อช่องทางด้านหลังถูกล่วงล้ำโดยนิ้วมือเรียวยาวของไมเคิล ชายหนุ่มทำการสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนแล้วขยับเข้าออกในทันทีเพื่อเรียกร้องความสนใจ โรมีโอรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนพยุงตัวไม่อยู่ ศีรษะของโรมีโอซุกลงที่บ่ากว้างของไมเคิล ลมหายใจร้านผ่าวเป่ารินรดที่ซอกคอของไมเคิลแผ่วเบา ยิ่งเป็นการโหมกระหน่ำทำให้ไมเคิลมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น“โรม.....” ไมเคิลกัดฟันกรอด ปลายนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปภายในเริ่มขยับเข้าออก พร้อมๆ กับการดึงรั้งให้กางเกงว่ายน้ำของโรมีโอให้ต่ำลงอีกครั้ง และครั้งนี้มันลงต่ำจ
‘ลุงงงงงงงงงง’ มิลาด้ากลอกตามองอย่างเบื่อหน่าย พลิกกายหนีไอ้ลูกเสือตัวเล็กที่ชอบล้อมหน้าล้อมหลังไม่หยุดมิลาด้าไปเจอเจ้าลูกเสือตัวนี้เพราะได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังสนั่นจากทางด้านหลังของป่า พอไปถึงก็เห็นแม่เสือตัวหนึ่งที่นอนไร้ลมหายใจ อยู่ข้างนอกรั้ว โดยมีชายคนหนึ่งเอาปืนจ่อเอาไว้ ส่วนเจ้าลูกเสือนั้นเข้ามาในกรงด้วยกันกับมันอย่างงงๆ ซึ่งมันได้มารู้ภายหลังว่าแม่ของเจ้าตัวเล็กนี่ขุดหลุมเพื่อใช้หลบหนี แต่เพราะมันหลุมเล็กเกินไป เจ้าลูกเสือจึงรอดมาได้แค่ตัวเดียว ส่วนแม่ของมันถูกยิงตายและนอนปิดทางเข้าออกไว้แทนกรรรรรรรรรรมันขู่คำรามเสียงดังทำให้มนุษย์คนนั้นรีบวิ่งหนีไป มันมองหน้าลูกเสือตัวเล็กเพียงชั่วครู่ พอได้ยินเสียงเจ้านายร้องเรียกก็พุ่งทะยานกลับไปหาทันที ไม่สนใจเจ้าจิ๋วอีกใครจะไปรู้ว่าเจ้าจิ๋วนี่วิ่งตามมาแถมยังทำร้ายเจ้านายของเขาจนได้เลือดอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายเขาสั่งไว้ เจ้าจิ๋วคงไม่ได้มาวิ่งเล่นรอบตัวเขาแบบนี้เป็นแน่ เพราะเขาจะกัดหัวมันทิ้งด้วยตัวเอง!‘ลุงงงงงง หนูหิวนมมมมม’ เจ้าลูกเสือร้องแง้วๆๆ น่ารำคาญ ปีนป่ายตัวของมิลาด้าไม่หยุด จนเจ้าเสือหนุ่มรำคาญ ใช้เท้าหลังดีดเจ้าจิ๋วจ
“ไมค์”“...”“องค์ชายชาลส์ส่งจดหมายมาขอเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี”“ไม่...” โรมีโอกลอกตาใส่คนรัก แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน พร้อมเอ่ยปากบอก“ไมค์ คุณเป็นองค์รัชทายาทนะ ในอนาคตข้างหน้าก็คือคนที่มีหน้าที่ปกครองประเทศอาณาราช หากคุณไม่คิดสร้างสัมพันธ์กับละแวกเพื่อนบ้านใกล้เคียงบ้าง หากเกิดอะไรขึ้นมาเราจะขอความช่วยเหลือลำบากนะ” โรมีโอพูดด้วยความเป็นเหตุเป็นผล ไมเคิลเหลือบตามองเพียงชั่วครู่แล้วเอ่ยต่อ“ไม่...” ไมเคิลไม่ค่อยชอบองค์ชายคนนี้เท่าไหร่นัก ตั้งแต่ครั้งที่พบกันในสมัยเด็กแล้ว องค์ชายผู้นั้นค่อนข้างไม่น่าคบหาสักเท่าไหร่...“ไม่ครับ ถ้าคุณไม่อยากพบเขา ผมจะพบเขาเอง” ว่าจบก็ลุกขึ้นยืน เดินไปเขียนจดหมายตอบกลับที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ไมเคิลคิวกระตุกเข้าหากัน มองจ้องโรมีโอนิ่ง ๆ แล้วจึงสะบัดหน้าไปอีกทางหนึ่งเดือนผ่านไป...ตอนนี้องค์ราชินี ไมเคิล โรมีโอ และเอวาพร้อมด้วยบารอน กำลังมายืนอยู่ที่หน้าประตูของพระราชวัง หลังจากที่โรมีโอเขียนจดหมายตอบกลับไป อีกฝ่ายก็ตอบรับกลับมาอย่างรวดเร็ว และแจ้งกำหนดการเดินทางในทันทีโรมีโอจึงจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับแขกผู้มาเยือนอย่างไม่ขาดตกบกพร
“โรมไปไหน...” ไมเคิลถามพร้อมกับยื่นส่งเสื้อสูทของตนเองให้กับเมดสาวรับไปเก็บ พร้อม ๆ กับการดึงเนคไทออกจากลำคอแกร่งไปพลางก้าวเดินไปพลาง“คุณโรมยังไม่กลับค่ะ” เมดสาวตอบกลับและเดินตามหลังไปเงียบ ๆ ไมเคิลขมวดคิ้วหมุนด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วโบกมือไล่ไปหนึ่งที เพียงเท่านั้นเป็นอันเข้าใจ เมดสาวผละตัวไปจัดการข้าวของส่วนตัวของไมเคิลแล้วจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนจะล่าถอยไปอย่างเงียบเชียบตอนนี้ทั้งไมเคิลและโรมีโอแต่งงานกันได้มากกว่า 3 ปี แล้ว การอยู่กินใช้ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ค่อยแตกต่างจากเมื่อก่อนเท่าไหร่นัก ทั้งคู่ยังคงอยู่บ้านหลังเดียวกัน เพียงแต่ไป ๆ มา ๆ ระหว่างคฤหาสน์ตระวัลโด้ และตระกูลวอลเลอร์ ส่วนน้องน้อยของเขานั้นหลังจากที่ได้สวมแหวนหมั้นไป ก็แทนจะย้ายไปกินนอนอยู่ที่ตระกูลบาลักซ์แบบเต็มตัว อาจจะมีการแวะมาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้งไมเคิลก้าวเดินไปที่ทิศทางหนึ่งซึ่งเป็นด้านหลังคฤหาสน์ อันมีเจ้าเสือขาวตัวใหญ่พักอาศัยอยู่ในป่าจำลอง ในขณะที่ก้าวเท้าชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่าบ้านหลังให้ความรู้สึกเงียบเหงาและอ้างว้างแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาต่างมีงาน มีหน
คำเตือน มีเนื้อหาที่ขัดต่อศีลธรรมRomeo Partหลังจากที่บาลักซ์เข้ามาทำการสู่ขอเอวาด้วยตนเองและผลสรุปออกมาที่ทั้งสองคนต่างหมั้นหมายเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงจะจัดงานแต่งในอีก 4 ปีข้างหน้า หลังเสร็จสิ้นการพูดคุย และน้องน้อยของเขาเดินตามหลังว่าที่คู่หมั้นตามต้อยๆ ไปแล้วนั้น โรมีโอก็ถูกสามีของตนอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด มุ่งตรงพาไปที่ห้องโพธิ์แดง และรังแกเขาอย่างหนักหน่วง เพื่อเป็นการชดเชยให้กับการร่วมรักตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เขาถึงกับต้องนอนหยอดข้าวต้มกันเลยทีเดียวตอนนี้ไมเคิลและโรมีโอกำลังนั่งอยู่คู่กัน โดยตรงหน้ามีเอวากับบารอนกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ ถัดไปด้านข้างมีองค์ราชินีที่ทรงประทับ ทอดพระเนตรมองจ้องด้วยรอยยิ้มบางเบา ส่วนอีกฝั่งนั้นเป็นบาลักซ์ที่กำลังจ้องมองมาเช่นกันด้านข้างนั้นมีพานอันใหญ่ ข้างในเต็มไปด้วยแก้วแหวนเงินทองและเพชรพลอยในวันนี้คืองานหมั้นของคนทั้งคู่......บารอนสวมใส่ชุดสูทสีขาวคล้ายกับชุดเจ้าบ่าวส่วนเอวานั้นสวมใส่ชุดสีงาช้างเข้าคู่กันอย่างลงตัวกึก กึก กึกโรมีโอหันมองตามทิศทางของเสียงที่ตนได้ยิน เมื่อดวงตาสีฟ้าสดใสหันมองคนข้างกายก็ได้พบกับที่มาของเสียงนั้น“ฮึฮึ” โรม
Ava Partตอนนี้ทั้งเอวาและบารอนกลับมาจากการเที่ยวทะเลกันแล้ว เนื่องจากไมเคิลวางแผนฮันนีมูนกับโรมีโอและน้องน้อยของบ้านที่ผ่านมาได้ยิน จึงเข้าไปออดอ้อนขอพี่ชายตามมาเที่ยวด้วย จนบารอนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากห้ามปราม แต่ถึงกระนั้นไมเคิลก็ใจดีกับน้องน้อยเสมอ ตกปากรับคำในทันทีโดยไม่ต้องถามภรรยาที่กำลังนอนหลับพักผ่อนแม้แต่น้อยดังนั้นแล้วทำให้ท้ายที่สุดเอวาและบารอนก็ตามไปเที่ยวด้วยในทริปฮันนีมูนของพวกพี่ชาย แต่เด็กน้อยก็รู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร ดังนั้นจึงขอตามมาเพียงแค่สามวันสองคืน หลังจากนั้นจะเป็นไมเคิลที่ทำหน้าที่พาภรรยาออกเที่ยวรอบโลกตลอดหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ตามแผนที่วางไว้ตอนนี้เอวาและบารอนกำลังเดินกลับเข้ามาพักผ่อนในบ้านหลังใหญ่ของชายหนุ่ม เพราะพวกพี่ชายไม่อยู่บ้านตลอดหนึ่งเดือน ทำให้คนตัวเล็กอดที่จะรู้สึกเหงาหงอยไม่ได้ แม้ว่าแต่เดิมทั้งสองคนจะชอบไม่อยู่บ้านบ่อยๆ จนเคยชินก็ตามที เห็นทีก็คงจะมีเพียงช่วงนี้ที่มีเรื่องหลายๆ อย่างต้องจัดการ จึงทำให้บุคคลทั้งสองอยู่ติดบ้านและเอวาก็ชื่นชอบให้มันเป็นเช่นนั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้น้องน้อยต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ไมเคิลจึงออกปากอนุญาตให้มาอยู่อาศัยกับบารอ
Baron Part“หึหึ” เสียงทุ้มขี้เล่นของใครบางคนดังขึ้น ปลายนิ้วมือไล้เกลี่ยไปตามกรอบหน้าและเส้นผมที่ปรกตาของเด็กน้อยในอ้อมแขนออกให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะจมูกเล็กเชิดรั้นอย่างเอ็นดู คนตัวเล็กยู่หน้าเล็กน้อย ก่อนจนมุดหนี ซุกหน้าลงกับอกอุ่นของอีกฝ่าย แล้วหลับลงอย่างสบายอารมณ์อีกหนบารอนเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า สองแขนรวบเอาคนตัวเล็กมาอยู่ในอ้อมกอด ภายในหัวสมองหวนคิดไปถึงเมื่อครั้งที่เขาได้เจอกับเด็กน้อยที่เขาเคยมองว่าเป็นตัวเกะกะในครั้งแรก........ในเย็นวันหนึ่งเขากลับบ้านมาพร้อมกับไมเคิล ด้วยความที่ทั้งคู่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน และบารอนเป็นคนที่มีเพื่อนมากเพราะความขี้เล่น ส่วนไมเคิลนั้นปั้นหน้านิ่งไม่รู้สึกยินดียินร้าย มีเพียงใบหน้าที่เรียบเฉย ข้างกายมีผู้ช่วยคนสนิทคอยตามดูแลอยู่ไม่ห่าง นายเดินไปไหนผู้ช่วยคนนั้นก็เดินตามไปด้วย ซึ่งบารอนมารู้ทีหลังว่าชื่อโรมีโอ และเพราะความเรียบนิ่งนี้เองที่ทำให้เขาอยากจะเห็นตอนไมเคิลทำสีหน้าท่าทางแบบอื่นดูบ้าง จึงเข้าไปตีสนิทด้วยไม่ว่าเขาจะพยายามทำอย่างไร ไมเคิลก็จะเพียงปรายตามองเล็กน้อยเท่านั้นหรือไม่ก็อาจจะเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้เขาเจ็บช้ำจนต้องกุ
Michale Part“เริ่มได้.......” ไมเคิลพูดขณะที่กวาดสายตาไปทั่วห้องอัศวิน วันนี้ไมเคิลมีแผนที่จะขนย้ายข้าวของ ของโรมีโอไปไว้ในห้องคิง คงจะดูแปลกไปสักหน่อย หากให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยานอนพักผ่อนในห้องอัศวินที่ถูกตั้งไว้สำหรับบอดี้การ์ดคนสนิทหรือมือขวาของเจ้าของบ้านความจริงโรมีโอนั้นต้องได้นอนที่ห้องควีนเพื่อคู่กัน แต่น้องน้อยอยู่อาศัยในห้องนั้นตั้งแต่เจ้าตัวจำความได้ และไมเคิลก็ไม่อยากแย่งห้องของน้องน้อยมา ดังนั้นแล้วจึงตัดสินใจให้โรมีโอย้ายข้าวของมานอนด้วยกันในห้องคิง เมื่อคิดดูแล้วก็ถือว่าเหมาะสมในตอนนี้โรมีโอกำลังนอนหลับพักผ่อนในห้องโพธิ์แดงหลังจากกลับมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กันที่ตระกูลวัลโด้ ซึ่งไมเคิลไม่อยากจะเข้าไปกวนการหลับใหลของภรรยา ดังนั้นเขาจึงเป็นควบคุมการจัดเก็บและขนย้ายด้วยตนเอง ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงหลังกับกำแพงห้อง มองดูเหล่าบอดี้การ์ดและเมดสาวพากันขนย้ายข้าวของด้วยความรวดเร็วและเงียบเชียบทำให้ชายหนุ่มพึงพอใจเป็นอย่างมากไมเคิลยืนมองนิ่งๆ อยู่ชั่วครู่ แล้วจึงเดินไปนั่งลงบนเตียงของโรมีโอ ยกฝ่ามือลูบไล้บนหมอนนุ่มแผ่วเบา อดที่จะยกมันขึ้นมาดมกลิ่นไม่ได้แชมพูส่วนตัวที่เป็นกลิ่นเด
“ขอนะ......”“ดะ เดี๋ยว” โรมีโอร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นดันแผ่นอกแข็งแกร่งเอาไว้พลางหันหน้าหลบไปอีกทาง อ้อมแอ้มบอกไม่เต็มเสียง“ตัวเล็กยัง-”“ไม่อยู่แล้ว.....” ไมเคิลบอกพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งดึงรั้งกางเกงว่ายน้ำของโรมีโอลงต่ำ มือข้างหนึ่งบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่ม ในขณะที่มืออีกข้างก็บีบเคล้นไปตามเนื้อตัว โรมีโอหันไปมองตามทิศทางที่เอวาเคยยืนอยู่ เมื่อหันไปก็พบว่าบารอนจับเอวาอุ้มพาดบ่า เดินมุ่งตรงเข้าบ้านไปเสียแล้ว ทั้งๆ ที่คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมา เสียงโวยวายแว่วมาเป็นระยะ“อ๊ะ!! ไมค์!” โรมีโอสะดุ้งสุดตัวเมื่อช่องทางด้านหลังถูกล่วงล้ำโดยนิ้วมือเรียวยาวของไมเคิล ชายหนุ่มทำการสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนแล้วขยับเข้าออกในทันทีเพื่อเรียกร้องความสนใจ โรมีโอรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนพยุงตัวไม่อยู่ ศีรษะของโรมีโอซุกลงที่บ่ากว้างของไมเคิล ลมหายใจร้านผ่าวเป่ารินรดที่ซอกคอของไมเคิลแผ่วเบา ยิ่งเป็นการโหมกระหน่ำทำให้ไมเคิลมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น“โรม.....” ไมเคิลกัดฟันกรอด ปลายนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปภายในเริ่มขยับเข้าออก พร้อมๆ กับการดึงรั้งให้กางเกงว่ายน้ำของโรมีโอให้ต่ำลงอีกครั้ง และครั้งนี้มันลงต่ำจ
ตอนนี้ผมกำลังกะพริบตาปริบยืนมองภาพตรงหน้าสลับกับหันมองคนข้างกาย......“ไมค์......คุณแน่ใจนะว่าเป็นที่นี่?”“อืม....” ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่หาดทรายสีขาวนวลตา รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ดึงดูดให้ลงไปแหวกว่ายแต่คือ......ตอนนี้มันหน้าหนาวไงครับ.......อากาศเย็นๆ แบบนี้มันควรจะตั้งแคมป์ผิงไฟในป่าใหญ่ไม่ใช่หรอ!!!ผมโคลงศีรษะไปมาอย่างอ่อนใจ หลังจากผ่านวันสุดท้ายของปีในตอนนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาราวหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งไมเคิลเป็นคนวางแผนในการจัดทริปฮันนีมูนระหว่างเรามีแพลนกำหนดยิงยาวเดือนกุมภาพันธ์ทั้งเดือน เพราะผมไม่มีที่ไหนที่อยากไปเป็นพิเศษโดยปกติแล้วการจัดการงานการต่างๆ อย่างการจองตั๋วจองบ้านพักกำหนดแผนการเดินทางอะไรพวกนี้จะเป็นหน้าที่ของผมเพราะเป็นเลขาส่วนตัวให้ไมเคิลมาครึ่งชีวิต ดังนั้นจึงจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีกว่า แต่เพราะผมไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไมเคิลเลยอาสารับหน้าที่ส่วนนี้ไปทำเอง ดังนั้นแล้วผมจึงให้สิทธิ์ขาดในการตัดสินใจกับไมเคิลได้เต็มที่ผมเอ่ยถามในตอนเขากำลังหาข้อมูลว่าเราจะไปที่ไหนกัน เขาก็ตอบกลับมาสั้นๆ แค่ว่า เซอร์ไพรส์และปล่อยให้เขาจัดการเอง ผลเป็นยังไงน่ะหรอครับ? ก็คือกา