มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทเพชรยักษ์ใหญ่แห่งเมืองไทย “คาเมรอน เกรย์ มหัทธนวงศ์สกุล” หล่อเหลาทุกระเบียดนิ้ว เร่าร้อนทุกองศา แต่เย็นชา ดุดันจนหน้ากลัว และเข้าถึงตัวได้ยากที่สุด แต่ยิ่งยากทุกคนก็ยิ่งอยากเข้าใกล้ แต่มันคือเบื้องหน้า เพราะเบื้องหลังใครจะรู้ว่าเขาคือชายหนุ่มที่ไม่เคยพอเรื่องเซ็กส์ เพราะความที่เป็นคนเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องได้ อยากปลดปล่อยใครก็ห้ามขัด จึงทำทุกวิถีทางเพื่อคว้าตัวผู้หญิงสักคนมาบำเรอตัณหา “เวียงพิงค์” คือตัวเลือกผู้โชคดีที่สุดและโชคร้ายที่สุด หญิงสาวเป็นเพียงพนักงานต่ำต้อยในบริษัทของเขา สาวน้อยที่โชคชะตาพลิกผันด้วยเงิน หนึ่งล้านบาท กับหน้าที่นางบำเรอหนึ่งอาทิตย์ แลกกับความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเธอและบทรักสุดเร่าร้อนของเขา เมื่อเสร็จงาน ห้ามปากโป้ง ห้ามแบลคเมลและห้ามเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ ในตัวเขาเป็นอันขาด แต่ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะมันกลับสร้างความทรงจำ เขาลืมไม่ลง แต่เธอแทบไม่อยากจดจำ ทางเดียวที่จะไปให้พ้นคือ หนี ไปพร้อมกับของขวัญล้ำค่าที่เขาสร้างขึ้นมา
ดูเพิ่มเติมแต่ถึงแม้ว่าจะทำห้องให้ดูอบอุ่นน่าอยู่เพียงใด ความเหงาก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องอยู่ดี ทั้งเหงาและคิดถึงบ้าน คิดถึงมารดาและน้าสาวที่อยู่ด้วยกันสองคน เธอเองก็กลับบ้านปีละครั้ง ทว่าตั้งแต่เรียนจบยังไม่มีโอกาสได้กลับ นอกจากโทรศัพท์ไปแจ้งข่าวดีเรื่องที่เธอประกวดชนะเลิศพร้อมเงินรางวัล จากนั้นจึงได้ส่งเงินไปให้ เท่านี้มันก็ทำให้เธอมีความสุขมากแล้วการทำงานก้าวแรกมันไม่ได้ทำให้เวียงพิงค์หนักใจ เท่ากับตอนนี้ที่กำลังจะเตรียมตัว เพื่องานที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เป็นอีกครั้งที่จะต้องขึ้นพรีเซนต์ผลงานด้วยตัวเองโดยไม่ใช้พิธีกร เธอไม่ได้กลัวต่อการทำงานอยู่แล้ว แต่กลัวอย่างอื่น คือการได้เห็นหน้าผู้ชายในฝัน ที่เธอแอบเก็บซ่อนชายหนุ่มเอาไว้ในหัวใจตลอดระยะเวลาที่ทำงาน“ทำไมต้องตื่นเต้น เขาไม่ได้สนใจเราเสียหน่อย” เธอว่าให้ตัวเองอย่างหงุดหงิดใจก่อนจะเหลือบมองชุดราตรีที่ซื้อมาพร้อมกับรองเท้า แล้วจึงลุกขึ้นไปหยิบชุดราตรีแขวนเอาไว้ในตู้เสื้อผ้า“แปลงร่างเป็นนางซินอย่างนั้นเหรอ เจ้าชายที่ไหนจะสนใจ ยัยเตี้ย” เธอว่าให้ตัวเองพล
“อุ้ย! ไม่เอาหรอก เดี๋ยวพิ้งค์จัดการเองนั่นแหละ ไม่ต้องยุ่งเลย รออยู่ตรงนี้จะไปใส่ออกมาให้ดู” พูดจบเวียงพิงค์ก็รับชุดและรองเท้าจากเมษาทันทีก่อนจะเดินเข้าไปในห้องลองชุด เมษาได้แต่ยิ้มตามอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะถ้าไม่ขู่ว่าจะจ่ายให้ไม่มีทางรับแน่ๆเวียงพิงค์เข้าไปในห้องลองชุดเพียงห้านาทีเท่านั้นเธอก็เปิดประตูออกมา พร้อมกับชุดใหม่สีชมพูเกาะอก สั้นเหนือหัวเข่าจริงๆ ส่วนรองเท้าก็เข้ากับชุดและเท้าขาวๆ เลือกเก่งไม่เบาเลย เมษาคิดชมตัวเอง ขณะที่มองเพื่อนรักแบบทึ่งๆ และอึ้งในความสวยน่ารัก“พิ้งค์ใส่มันโอเคไหมอ่ะเมย์” เวียงพิงค์ถามด้วยความไม่มั่นใจ“มันโอเคมากพิ้งค์ โอเคกว่าชุดก่อน ที่เมย์ให้ยืมเสียอีก”“จริงเหรอ พิ้งค์ว่ามันโป๊ไหมอ่ะ กลัวเกาะอกจะหลุดด้วย”“ไม่โป๊เลยต่างหาก เรียบๆ แต่ดูดี ขับผิวมากๆ คอว่างๆ โล่งๆ เอาไว้ใส่เครื่องประดับ เอาชุดนี้แหละ ไปถอดแล้วจ่ายเงินเลย” ดูเหมือนว่าเมษาจะเป็นคนจัดแจงทุกอย่างให้เวียงพิงค์ แม้จะไม่อยากรับก็ต้องรับเพราะมันคือความหวังดี หากไม่มีเมษา เวียงพิงค์ก็ไม่รู
“ตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยจ้ะ แต่ก็ไม่แน่ถ้ามีใครทำอะไรไม่เหมาะมากๆ เข้าท่านอาจจะเรียกเข้าพบเป็นการส่วนตัว”“งั้นพิ้งค์จะพยายามเป็นเด็กดีอยู่ในกฎระเบียบดีกว่าค่ะ ไม่งั้นแย่แน่เลย ฟังเท่านี้ยังน่ากลัว” เธออยากจะบอกเหลือเกินว่าท่านประธานอาจจะมีดีแค่ความหล่อ นอกนั้นไม่น่าเข้าใกล้เลย“ดีแล้วจ้ะ” อมิตาบอกยิ้มๆ อีกครั้ง แต่ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นั่นๆ เสียงของผู้จัดการก็ดังขึ้น“อะแฮ่ม!” พิรัชกระแอมเพื่อให้สองสาวได้รู้ตัว และทันทีที่ได้ยินเสียงทั้งคู่ก็สะดุ้งพร้อมกับหยุดคุยกัน“อุ้ย! เอ่อพี่รัช มาเมื่อไหร่คะ ตาไม่เห็นได้ยินเลย” อมิตาแสร้งถามและยิ้มแห้งๆ เพราะกลัวความผิด“มาทันได้ยินเราสองคนกำลังนินทาเจ้านาย” พิรัชบอกเสียงปกติแต่แกล้งทำตาขึงขัง“พิ้งค์ขอโทษค่ะ พอดีพิ้งค์กำลังสอบถามเรื่องงานก็เลย...”“ก็เลยถามยาวถึงคนให้งานด้วย พี่ไม่ว่าหรอกนะ เพราะได้ยินที่พิ้งค์ถาม รู้
ขณะเดียวกันเมื่อเวียงพิงค์เรียนจบ ก็รับจ๊อบทำงานกลางคืนรอการสมัครงาน จากนั้นก็ทยอยส่งเงินไปให้มารดา ถึงจะไม่มากแต่เธอก็ส่งเงินกลับบ้านทุกเดือน นี่คือประวัติที่เวียงพิงค์กรอกเอาไว้ และเท่าที่คาเมรอนอ่านคร่าวๆ ก็รู้ว่าตอนเรียนหนังสือเวียงพิงค์ทำงานทุกอย่างที่สุจริต เพื่อให้ได้เงินส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ“ทำงานทุกอย่างเลยเหรอ” คาเมรอนเอ่ยลอยๆ พลางยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ราวกับมีแผนการอยู่ในใจ แน่นอนว่าผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพื่อเงินนั้นเขาชอบอยู่แล้ว หากมีโอกาสที่ได้ทำงานแลกเงิน ไม่ว่างานแบบไหนก็รับทำอยู่แล้วกระมัง แม้แต่งานอย่างว่า เขาคิดอย่างเหยียดหยัน รู้สึกไม่พอใจเมื่อคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเวียงพิงค์ต้องเป็นผู้หญิงแบบนั้นแน่ๆ เหมือนแม่นางแบบที่เขาสอยมานอนกก“อีกไม่นานเราจะได้รู้จักกันเวียงพิงค์” เวลานี้สำหรับคาเมรอนแล้วเวียงพิงค์เป็นผู้หญิงที่เขาอยากจะใช้เวลาดูเธอให้นานกว่าคนอื่น เพราะความรู้สึกหลายๆ อย่างที่ตอบตัวเองไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่าอยากจะได้เธอ แต่ไม่อยากแสดงตัวให้ไก่ตื่น เพราะอย่างนี้เองเขาถึงซุ่มเงียบอยู่เช่นนี้และ ได้แ
“เหรอคะ พูดถึงท่าน แล้วท่านดุหรือเปล่าคะ ดูเหมือนที่พิ้งค์เห็นจากระยะไกลการ์ดท่านเยอะมาก”“ดุ แต่ก็ใจดีเหมือนกัน เพียงแต่ท่านไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่น่ะ ไม่ต้องคิดมาก ท่านไม่เรียกพนักงานพบหรอก เวลางานมีปัญหาหรือบกพร่องท่านเรียกหัวหน้านี่แหละไป”“ความน่ากลัวก็มาตกอยู่กับหัวหน้าใช่ไหมคะ”“ฮ่าๆ ไม่หรอกจ้ะ ไม่น่ากลัวขนาดนั้นเสียหน่อย เอาล่ะไปดูโต๊ะทำงานกัน” พิรัชหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทำให้เวียงพิงค์รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยทีเดียว“ได้ค่ะ” เมื่อเวียงพิงค์รับคำแล้วจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้พิรัชก่อน ตามลำดับหัวหน้ากับลูกน้อง แล้วเธอจึงออกไปทีหลัง พิรัชเดินนำมาถึงโต๊ะทำงานที่เป็นของเวียงพิงค์ ซึ่งโต๊ะทำงานของเธอก็มีฉากกั้นเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือ มีโต๊ะทำงานโต๊ะเดียวเท่านั้น คิดว่าคงจัดไว้สำหรับดีไซเนอร์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ จากนั้นพิรัชจึงได้พาเวียงพิงค์ไปแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมงานและฝ่ายการตลาดตามลำดับต
อให้ความคิดเห็นกันอยู่ตลอดเกือบจะทุกเวลา ฉะนั้นทั้งสองฝ่ายอยู่ในชั้นเดียวกัน แบ่งโซนให้อยู่กันอย่างชัดเจน ซึ่งก็ไม่ต่างกับออฟฟิตทั่วไปสักเท่าไหร่ เมื่อการมาเยือนของรสสุคันธ์ พร้อมกับพนักงานคนใหม่ พนักงานคนอื่นๆ จึงพากันหันมามองเป็นตาเดียว และแน่นอนว่าทุกคนรู้ว่าเวียงพิงค์เป็นใคร เพราะได้ไปร่วมงานประกวดพร้อมกันหมด เสียงซุบซิบนินทาจึงเกิดขึ้น แต่เป็นแง่ดี นั่นคือความสวยน่ารักของเวียงพิงค์นั่นเอง“สาวๆ ผู้จัดการทั้งสองอยู่ในห้องใช่ไหม” รสสุคนธ์เอ่ยถามกับพนักงานที่กำลังจับกลุ่มกันคุยงานพอดี“ผู้จัดการอยู่ในห้องค่ะ” พนักงานสาวคนหนึ่งตอบ“โอเคขอบใจจ้ะ ปะพิ้งค์ไปหาผู้จัดการของพิ้งค์กัน” พูดจบรสสุคนธ์จึงเดินนำหน้าอีกครั้งกระทั่งถึงห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายออกแบบก่อน เพราะเวียงพิงค์ต้องเป็นดีไซเนอร์ฝ่ายนี้นั่นเองก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! รสสุคนธ์เคาะประตูอย่างมีมารยาทและรอกระทั่งได้รับอนุญาต“เชิญค่ะ” น้ำเสียงของผู้จัดการดูเหมือนผู้ชาย แต่คล้ายไปทางผู้หญิง คิดว่าคงเข้าใจไม่ผิดแน่ เวียงพิงค์หวาดหวั่นอยู่ไม่น้อ
“เอาน่าสู้ๆ อย่าลืมนะฝากอ่อยประธานบริษัทคนใหม่ให้เมย์ด้วย ฮ่าๆ” เมษายังเล่นมุขไม่เลิก ทั้งที่รู้ว่าเวียงพิงค์เป็นคนขี้อายพอสมควร“มันง่ายอย่างนั้นก็ดีสิ จะได้อ่อยเอาไว้เอง แต่หางตาเขาจะแลเราหรือเปล่า”“ฮั่นแน่แสดงว่าสนใจ อยากอ่อยเองใช่ไหมล่ะ ถ้าเขาโสดก็น่าสนใจนะ”“เลอะเทอะแล้วเมย์น่ะ เราเป็นใครเขาเป็นใคร คนระดับนั้นไม่มาคลุกคลี่กับพนักงานตัวเล็กๆ หรอกที่สำคัญผู้หญิงของเขา พิ้งค์ว่าต้องระดับดารานางแบบโน่น”“ไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าตาบ้างเหรอ เตี้ยๆ อย่างนี้อาจจะตรงสเปค” เมษาแซวยิ้มๆ“ไม่จ้ะ เลิกคิดไปได้เลย เพ้อฝันมาก” เวียงพิงค์ปฏิเสธทันควัน“แหมอย่างน้อยคนเราก็มีสิทธิ์เพ้อฝันเพื่อความสุขของตัวเองเหมือนกันแหละน่า”“จ้า แม่คนเพ้อฝัน ตั้งใจขับรถไปเลย เดี๋ยวพิ้งค์จะไปทำงานสาย” เวียงพิงค์บอกและยิ้มบางๆ จากนั้นเมษาจึงได้ตั้งใจขับรถต่อไปจนกระทั่งถึงบริษัทอัญมณียักษ์ใหญ่ของเมืองไทย บริษัทดูใหญ่โต หรูหรา สูงหลายสิบชั้น ทางขึ้นคล้ายกับโรงแรมมี
“โอ้ว อ่า...” เขาไม่ได้ฟังว่าเธอพูดอะไร แต่กลับขยับเร่งตัวเองอย่างรวดเร็ว ทว่าเทย่าก็กรีดร้องลั่นเมื่อกายแกร่งทะยานพาเธอมาถึงจุดหมาย สองมือกุมขยับทรวงอกตัวเองอย่างผ่อนคลายและล่องลอย ขณะที่คาเมรอนยังรุกเร้าโรมรันไม่ยอมหยุด จนกระทั่งเขากดสะโพกให้แนบแน่นกับบั้นท้ายกลมกลึง พร้อมกับกายแกร่งกระตุกหนักๆ และปลดปล่อยลาวาอุ่นๆ ไหลอยู่ภายในปราการณ์เช่นเดิม ร่างของเทย่าฟุบลงกับที่นอนและซบใบหน้าลงกับหมอน แต่เขาคุกเข่ามองร่างบางที่ไร้เรี่ยวแรง พร้อมกับรอให้ตัวเองผ่อนคลายก่อนจะเอื้อมมือลูบไล้แผ่นหลังและสะโพกสวยเพื่อเมคเลิฟเบาๆ แต่ถ้าจะให้ลงไปคลอเคลียเขากลับไม่มีอารมณ์แบบนั้น“อืม คาเมล ฉันไม่เคยเจอใครที่เร่าร้อนเท่าคุณมาก่อน” หญิงสาวปากชมเปราะด้วยน้ำเสียงพร่าแผ่วเบาแต่นั่นมันบอกให้เขารู้ว่าเธอผ่านมานักต่อนัก“หึ ลืมไม่ลงเลยหรือเปล่า” คาเมรอนหัวเราะเบาๆ กับความหมายที่ว่าเร่าร้อนกว่าใครๆ ก่อนจะจัดการกับปราการณ์ที่ห่อหุ้มกายแกร่งเอาไว้แล้วโยนทิ้งถังขยะเช่นเดิม“ใครจะลืมคุณลง ฉันชอบคุณนะคะ” ชอบอย่างนั้นหรือ ชอบคืออะไร หรือว่าเธออยากจะจริงจ
“เทย่าก็แค่...” เธอกำลังจะเถียงต่อทว่าเขาแทรกขึ้นเสียก่อน“ผมจ่ายเงินคุณ คุณสิต้องเมคเลิฟให้ผมถึงจะถูก หรือว่าไม่เอา หืม”“เอาค่ะ เอาเงินแล้วเอาคุณด้วย” พูดจาตรงไปตรงมาเสียเหลือเกิน เขาคิด“คืนนี้ยกให้ แต่ห้ามขอมาก เพราะเราตกลงกันแล้ว” เขาบอกเสียงเรียบอีกครั้ง“เท่านี้ก็ปลื้มจะแย่ที่เทย่าเป็นคนที่คุณเลือก” เธอยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเขา และขบที่ติ่งหูเบาๆ ก่อนจะขยับขึ้นไปนั่งคร่อมเขาบนสะโพกอีกครั้ง พลางมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาแพรวพราวใต้เงาสลัว แต่เขามองเห็นชัดเจนว่าเธอกำลังมีความต้องการ จากนั้นเธอก็ขยับตัวลงไปแทรกกายอยู่ระหว่างขาของเขาพลางเอื้อมมือลงไปลูบไล้กายแกร่งที่เพิ่งจะหลับไหลหวังจะกระตุ้นให้มันตื่นตัวอีกครั้งคาเมรอนมองหญิงสาวด้วยแววตาวาวโรจน์และหรี่ลงอย่างเจ้าเล่ห์ ขณะที่มือเรียวสวยกำลังกอบกุมกายชายเอาไว้แน่น ก่อนจะขยับรูดขึ้นลงอย่างช้าๆ ดวงตาแสนเย้ายวนตวัดมองเขาอย่างมีชั้นเชิง เพื่อสังเกตอาการตอบรับ แต่เมื่อเห็นว่าเขายังนิ่งอยู่เธอจึงเร่งความเร็วเพิ่มมากขึ้น กระทั่งความปรารถนา
ความคิดเห็น