Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2024-10-24 10:16:51

แต่ด้วยนิสัยส่วนตัว คาเมรอนเป็นคนที่มีบุคลิก ดุ น่ากลัว น่าเกรงขาม เย็นชา บางครั้งเอาแต่ใจตัวเองและหยิ่งจองหองถือตัวเอามากๆ ไม่ยอมให้ใครเข้าถึงตัวได้ง่ายๆ คนที่คาเมรอนจะเรียกเข้าห้องทำงานเพื่อไปคุยงานด้วยนั้น จะมีแต่ระดับผู้จัดการขึ้นไปเท่านั้น ส่วนพนักงานตัวเล็กๆ นั้นรอรับคำสั่งจากผู้จัดการอีกต่อหนึ่ง แต่เพราะคาเมรอนเป็นคนที่มีเสน่ห์ ยิ่งเก็บตัวเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนทั่วไปอยากจะรู้จักและอยากเข้าถึงตัวมากยิ่งขึ้น 

ยิ่งได้รู้จากปากต่อปากว่าคาเมรอนหล่อเหลาระดับพระเอกฮอลลีวู้ด ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ราวกับนายแบบด้วยส่วนสูง 189 เซนติเมตร ก็ยิ่งทำให้นักข่าวอยากขอสัมภาษณ์ อยากเห็นหน้า เพราะคาเมรอนคือความลงตัวของสามเชื้อชาติ นั่นคือ ไทย – จีน - อเมริกัน เพราะเจ้าสัวหัสนัยน์เป็นลูกครึ่งไทย - จีน ส่วนมารดานั้นเป็นชาวอเมริกันแท้ๆ แต่มาอยู่เมืองไทยนานนับสามสิบปีทำให้พูดไทยได้คล่องปร๋อ 

คาเมรอนเป็นทายาทเพียงคนเดียวและมีองค์ประกอบบนใบหน้าครบจนน่าอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณที่ขาวเหมือนคนจีน ใบหน้าเกลี้ยงเกลา หล่อเหลาแบบหนุ่มอเมริกัน คิ้วหนาเข้ม ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลอ่อน แต่เปลือกตาเล็กแบบคนจีน จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากรูปกระจับอมชมพูเล็กน้อย 

ทว่าเวลานี้ความหล่อเหลาหรือความเพอร์เฟคนั้นมันถูกบดบังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะเขากำลังเตรียมรับมือกับกองทัพสื่อมวลมันไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบเลย และนับจากนี้ไปเขาจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวทันทีที่ก้าวเข้าไปเหยียบโรงแรม และเช่นเดียวกัน ในเวลาต่อมาไม่ถึงสิบห้านาที รถตู้สีขาวคันหรูก็แล่นมาจอดเทียบหน้าทางขึ้นโรงแรม โดยมีเหล่าบอร์ดี้การ์ดส่วนหนึ่งรอรับอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับกองทัพสื่อมวลชนที่รออยู่ตรงบันไดทางขึ้น เมื่อรถจอดสนิทบอร์ดี้การ์ดคนหนึ่งเดินไปเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่

“เชิญครับท่าน” บอร์ดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเปิดทางให้หัสนัยน์ลงก่อนเพราะนั่งติดประตูพอดี จากนั้นจึงตามด้วยคาเมรอนและเคียร่าตามลำดับ 

ช่วงเวลานี้เอง แสงแฟรชจากกล้องถ่ายรูปของสื่อมวลชนที่นับจำนวนไม่ได้ก็สาดมาที่ทั้งสามคนพร้อมกันเสียงกดชัตเตอร์กระหน่ำรัว หวังจะเก็บภาพที่ดีที่สุดเอาไว้ ใครอยู่ใกล้ทางขึ้นมากที่สุด คือคนที่ได้ภาพชัดที่สุดไปครอง แต่คาเมรอนไม่ยอมให้ภาพออกไปได้โดยง่าย เขาให้บอร์ดี้การ์ดเกือบยี่สิบคนขวางเอาไว้ ประกบหน้าหลังบิดามารดา เพื่อไม่ให้นักข่าวเบียดเข้ามาอย่างน่าเกลียด ขณะที่นักข่าวพยายามยกกล้องขึ้นถ่ายและซูมไปที่ใบหน้าของคาเมรอนเป็นหลัก งานนี้แสงแฟรชทำให้เขาแทบตาลายเลยทีเดียว แต่ดีหน่อยที่บอร์ดี้การ์ดทำหน้าที่ได้ดีมากจนนักข่าวเข้าถึงตัวไม่ได้เลย

ขณะเดียวกัน เสียงของนักข่าวดังเข้าไปในงานเป็นสัญญาณให้แขกทุกคนตื่นตัวว่าเจ้าภาพทั้งสามได้เดินทางมาถึงแล้ว พิธีกรในงานซึ่งอยู่บนเวทีจึงประกาศให้แขกทุกคนหลีกทาง เพื่อให้เจ้านายทั้งสามเดินผ่านได้อย่างสะดวก วินาทีนี้ทุกคนพยายามชะเง้อคอมองคาเมรอนเป็นหลัก กระทั่งทั้งสามได้เดินไปถึงหน้าเวทีและถูกเชิญให้นั่งโซฟาวีไอพีเรียบร้อย แต่ก็ไม่วายที่จะมีบอร์ดี้การ์ดนั่งอยู่ด้านหลังเพื่อเป็นกำแพงอีกหนึ่งชั้น ใครอยากจะเห็นก็คงเห็นแต่เพียงแผ่นหลังกว้างๆ และเสี้ยวหน้าเวลาที่หันซ้ายขวาเท่านั้น 

“อะไรจะกันท่านักข่าวได้เก่งขนาดนั้น ให้การ์ดซ้อมอารักษ์ขาตั้งแต่เมื่อไหร่”

หัสนัยน์อดแซวบุตรชายไม่ได้

  “ป๋าน่าจะรู้ว่าการ์ดของป๋าเก่ง” คาเมรอนตอบน้ำเสียงเรียบพลางมองไปบนเวที ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นพิธีกรก็ขึ้นไปบนเวทีเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะกล่าวเปิดงาน พร้อมทั้งเชิญให้ประธานขึ้นไปกล่าวเปิดอีกต่อหนึ่ง โดยที่คาเมรอนขอให้หัสนัยน์เป็นคนขึ้นไปเปิด เพราะงานนี้เขายังไม่พร้อมที่จะขึ้นไป หัสนัยน์จึงใช้เวลากล่าวเพียงเล็กน้อยสิบนาทีเท่านั้นเพื่อทุกอย่างจะได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ 

ต่อมาพิธีกรจึงได้เริ่มแนะนำกรรมการ ซึ่งเป็นเซเลบริตี้ผู้มีชื่อเสียงในวงการไฮโซ และเคียร่ามารดาของคาเมรอนร่วมเป็นกรรมการ รวมแล้วสี่ท่าน จากนั้นจึงเข้าสู่การเดินแบบทันที โดยเหล่านางแบบทั้งหลายนั้นสวมใส่คอลเล็คชั่นที่ผู้เข้าประกวดออกแบบตามกติกา นั่นคือคอลเลคลั่นฤดูใบไม้ผลิ และบรรยายถึงความหมายของเครื่องประดับไปในตัว คาเมรอนตื่นตากับเหล่านางแบบไม่น้อยเพราะทุกคนสวยเซ็กซี่ ขยี้ใจมาก แถมแต่ละนางยังแอบส่งสายตาแพรวพราวมาให้กับเขาอีกต่างหาก 

ทว่าช่วงเวลาเดียวกันนี้ คาเมรอนไม่รู้เลยว่าความหล่อเหลา ระดับนายแบบของเขาที่มีแต่คนอยากเห็นหน้านั้น ถูกแอบมองจากหลังเวที สาวน้อยแสนธรรมดาหนึ่งในผู้เข้าประกวดพยายามใช้สายตามองจากระยะไกล เพราะอยากรู้ว่าคาเมรอนหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วเธอก็เห็นแต่ไม่ชัดเจน ทว่ารู้ได้ทันทีว่าเขาหล่อและโดดเด่นมากๆ แถมยังทำให้เธอหวั่นไหวร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า 

“บ้าจริง” เวียงพิงค์สบถเบาๆ ด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินกลับสู่หลังเวที เพื่อเตรียมที่จะขึ้นไปพร้อมกับนางแบบในรอบสุดท้าย

“มีอะไรเหรอยัยเตี้ย” เมษาถามด้วยความแปลกใจ

“เปล่าๆ พิ้งค์แค่ ตื่นเต้นน่ะ คนเยอะมาก” เวียงพิงค์ตอบด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

“ไม่ต้องตื่นเต้นนะ พิ้งค์เก่งอยู่แล้ว พิ้งค์สวยและโดดเด่นพอๆ กับเครื่องเพชรเลยจะกลัวอะไร” 

“ขอบใจนะเมย์ เพราะเมย์เชื่อใจพิ้งค์นะ พิ้งค์ถึงได้กล้ามาประกวดแบบนี้” 

“ก็เมย์รู้ว่าพิ้งค์เก่งไง และเชื่อว่าต้องชนะแน่ๆ เห็นไหมคอลเล็คชั่นของคนอื่นสู้พิ้งค์ไม่ได้เลย เว่อร์แบบคิดเยอะเกินไปก็มี” คราวนี้เมษากระซิบเบาๆ เพราะกลัวว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นจะได้ยิน

“ขอบใจจ้ะ เดี๋ยวพิ้งค์เตรียมตัวขึ้นเวทีแล้วนะ” 

“ไปเลย สู้ๆ จ้ะ” จากนั้นเวียงพิงค์จึงเดินไปรออยู่ที่บันไดทางขึ้นรอให้ทีมงานส่งสัญญาณ หลังจากที่นางแบบเดินลงมาจากเวทีหมดแล้ว 

“ลำดับต่อไปจะเป็นแนะนำตัวผู้เข้าประกวด พร้อมกับนางแบบนะครับ คนแรก” เสียงของพิธีกรบนเวทีเริ่มประกาศอีกครั้ง คราวนี้คนที่ตื่นเต้นเห็นทีคงจะไม่ใช่เวียงพิงค์คนเดียว แต่กลับเป็นคาเมรอนที่รอการปรากฏตัวของผู้เข้าแข่งขันที่เขาหมายตาเอาไว้เป็นพิเศษตั้งแต่รอบคัดเลือก 

ต่อมานางแบบคนแรกเดินออกมาพร้อมกับผู้เข้าแข่งกันหมายเลขหนึ่ง ควงแขนกันมาในคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิจากนั้นพิธีกรจึงได้แนะนำตัวและทุกคนเริ่มทยอยกันออกมาจนเกือบหมด ขณะที่คาเมรอนพยายามมองหา คนที่เขาหมายตาก็ไม่ออกมาเสียที

 

Related chapters

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 3

    “ลำดับที่สิบผู้เข้าประกวดคนสุดท้าย นางสาวเวียงพิงค์ ขวัญคำ กับชื่อชุดฤดูผลิรัก” พิธีกรประกาศชื่อเวียงพิงค์เป็นคนสุดท้าย หญิงสาวจึงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วจึงเดินขึ้นเวทีพร้อมกับนางแบบรูปร่างสูงเพรียว ผิวสีน้ำผึ้ง แต่ไม่สามารถบดบังรัศมีความสวย ขาว น่ารักของเธอได้เลย แม้จะตัวเล็กแต่เวียงพิงค์เด่นราวกับดารา เพราะเธอสวยเหมือนดาราอยู่แล้ว จากนั้นเสียงเซ็งแซ่พูดคุยกันเรื่องหน้าตาของเวียงพิงค์ก็ฮอตพอๆ กับการวิจารณ์ความสวยของคอลเล็คชั่นที่เธอออกแบบ พร้อมกับเสียงปรบมือเกรียวกราว เวียงพิงค์ส่งยิ้มหวานโปรยให้กับแขกในงานอย่างอ่อนโยนและเขินอายในที แต่นาทีนี้เองที่เธอได้เห็นคาเมรอนเต็มๆ ใกล้ๆ และต้องรีบหุบยิ้มเพราะไม่อยากให้ใครมองว่าอ่อยประธานบริษัท แม้ในหัวใจจะเต้นตูมตามแทบจะทะลุออกมานอกอก แต่จังหวะเดียวกันนั้นคาเมรอนก็มองมาที่เวียงพิงค์ด้วยดวงตาคมกริบวาวโรจน์ สลับกับมองเครื่องประดับและนางแบบ แต่นางแบบเองก็น่าสนใจไม่น้อย และเช่นเดียวกันเมื่อกรรมการได้เห็นเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายเรียบร้อยทุกคนก็ก้มหน้าให้คะแนน เมื่อโชว์เครื่องประดับเสร็จเวียงพิงค์กลับเข้าหลังเวทีพร้อมกับนางแบบเพื่อพักผ่อนและรอฟั

    Last Updated : 2024-10-24
  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 4

    ทว่าหลังจากเสร็จสิ้นการประกวด คาเมรอนไม่ได้กลับบ้าน แต่กลับขึ้นไปพักในโรงแรมเพราะมีกิจกรรมหลังจากนี้ที่เร่าร้อนกว่า เขาหมายตาเอาไว้แล้วว่าคืนนี้ใครถูกใจมากที่สุด ไม่ใช่ว่าเขาจะซื้อคอลเลคชั่นของผู้เข้าประกวดเท่านั้น แต่ผู้สวมใส่คอลเลคชั่นก็ไม่พลาดที่จะซื้อตัวมาสังเวยตัณหา เพราะผู้ชายที่เคยนอนกับผู้หญิงทุกคืนอย่างเขามันขาดไม่ได้ ยิ่งได้เห็นนางแบบแต่ละคนเซ็กซี่ ขยี้ใจ มันก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์บางอย่างที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายในใจให้ลุกโชนออกมาบนเตียงนอนนุ่มภายในพักสุดหรู ในความมืดสลัวนั้น มีเพียงแสงสว่างจากภายนอก สาดผ่านกระจกบานใหญ่แบบเลื่อนๆ เข้ามาถึงห้องนอนที่เปิดผ้าม่านเอาไว้ จึงทำให้มองเห็นสองร่างเปลือยไร้เสื้อผ้าของคาเมรอนและนางแบบสาวลูกครึ่ง กำลังนั่งโอบกอดคลอเคลียแนบแน่น พร้อมกับเสียงครางงึมงำในลำคออย่างพอใจ เรือนกายแสนเย้ายวนของเทย่านางแบบสุดเซ็กซี่ ซึ่งเดินแบบให้กับเครื่องเพชรของเวียงพิงค์ กำลังขยับโยกกายเร่าร้อนราวกับพายุ บดเบียดสะโพกกลมกลึงกับกายแกร่งแห่งชายชาตรีแนบแน่น ขณะที่เขาปล่อยให้เธอนั่งอยู่บนตัก พร้อมกับขยับรับจังหวะของหญิงสาวอย่างรุนแรง สองแขนแข็งแกร่งโอบกอดเธอไว้ พลางเล

    Last Updated : 2024-10-24
  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 5

    “เทย่าก็แค่...” เธอกำลังจะเถียงต่อทว่าเขาแทรกขึ้นเสียก่อน“ผมจ่ายเงินคุณ คุณสิต้องเมคเลิฟให้ผมถึงจะถูก หรือว่าไม่เอา หืม”“เอาค่ะ เอาเงินแล้วเอาคุณด้วย” พูดจาตรงไปตรงมาเสียเหลือเกิน เขาคิด“คืนนี้ยกให้ แต่ห้ามขอมาก เพราะเราตกลงกันแล้ว” เขาบอกเสียงเรียบอีกครั้ง“เท่านี้ก็ปลื้มจะแย่ที่เทย่าเป็นคนที่คุณเลือก” เธอยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเขา และขบที่ติ่งหูเบาๆ ก่อนจะขยับขึ้นไปนั่งคร่อมเขาบนสะโพกอีกครั้ง พลางมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาแพรวพราวใต้เงาสลัว แต่เขามองเห็นชัดเจนว่าเธอกำลังมีความต้องการ จากนั้นเธอก็ขยับตัวลงไปแทรกกายอยู่ระหว่างขาของเขาพลางเอื้อมมือลงไปลูบไล้กายแกร่งที่เพิ่งจะหลับไหลหวังจะกระตุ้นให้มันตื่นตัวอีกครั้งคาเมรอนมองหญิงสาวด้วยแววตาวาวโรจน์และหรี่ลงอย่างเจ้าเล่ห์ ขณะที่มือเรียวสวยกำลังกอบกุมกายชายเอาไว้แน่น ก่อนจะขยับรูดขึ้นลงอย่างช้าๆ ดวงตาแสนเย้ายวนตวัดมองเขาอย่างมีชั้นเชิง เพื่อสังเกตอาการตอบรับ แต่เมื่อเห็นว่าเขายังนิ่งอยู่เธอจึงเร่งความเร็วเพิ่มมากขึ้น กระทั่งความปรารถนา

    Last Updated : 2024-10-24
  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 6

    “โอ้ว อ่า...” เขาไม่ได้ฟังว่าเธอพูดอะไร แต่กลับขยับเร่งตัวเองอย่างรวดเร็ว ทว่าเทย่าก็กรีดร้องลั่นเมื่อกายแกร่งทะยานพาเธอมาถึงจุดหมาย สองมือกุมขยับทรวงอกตัวเองอย่างผ่อนคลายและล่องลอย ขณะที่คาเมรอนยังรุกเร้าโรมรันไม่ยอมหยุด จนกระทั่งเขากดสะโพกให้แนบแน่นกับบั้นท้ายกลมกลึง พร้อมกับกายแกร่งกระตุกหนักๆ และปลดปล่อยลาวาอุ่นๆ ไหลอยู่ภายในปราการณ์เช่นเดิม ร่างของเทย่าฟุบลงกับที่นอนและซบใบหน้าลงกับหมอน แต่เขาคุกเข่ามองร่างบางที่ไร้เรี่ยวแรง พร้อมกับรอให้ตัวเองผ่อนคลายก่อนจะเอื้อมมือลูบไล้แผ่นหลังและสะโพกสวยเพื่อเมคเลิฟเบาๆ แต่ถ้าจะให้ลงไปคลอเคลียเขากลับไม่มีอารมณ์แบบนั้น“อืม คาเมล ฉันไม่เคยเจอใครที่เร่าร้อนเท่าคุณมาก่อน” หญิงสาวปากชมเปราะด้วยน้ำเสียงพร่าแผ่วเบาแต่นั่นมันบอกให้เขารู้ว่าเธอผ่านมานักต่อนัก“หึ ลืมไม่ลงเลยหรือเปล่า” คาเมรอนหัวเราะเบาๆ กับความหมายที่ว่าเร่าร้อนกว่าใครๆ ก่อนจะจัดการกับปราการณ์ที่ห่อหุ้มกายแกร่งเอาไว้แล้วโยนทิ้งถังขยะเช่นเดิม“ใครจะลืมคุณลง ฉันชอบคุณนะคะ” ชอบอย่างนั้นหรือ ชอบคืออะไร หรือว่าเธออยากจะจริงจ

    Last Updated : 2024-10-25
  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 7

    “เอาน่าสู้ๆ อย่าลืมนะฝากอ่อยประธานบริษัทคนใหม่ให้เมย์ด้วย ฮ่าๆ” เมษายังเล่นมุขไม่เลิก ทั้งที่รู้ว่าเวียงพิงค์เป็นคนขี้อายพอสมควร“มันง่ายอย่างนั้นก็ดีสิ จะได้อ่อยเอาไว้เอง แต่หางตาเขาจะแลเราหรือเปล่า”“ฮั่นแน่แสดงว่าสนใจ อยากอ่อยเองใช่ไหมล่ะ ถ้าเขาโสดก็น่าสนใจนะ”“เลอะเทอะแล้วเมย์น่ะ เราเป็นใครเขาเป็นใคร คนระดับนั้นไม่มาคลุกคลี่กับพนักงานตัวเล็กๆ หรอกที่สำคัญผู้หญิงของเขา พิ้งค์ว่าต้องระดับดารานางแบบโน่น”“ไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าตาบ้างเหรอ เตี้ยๆ อย่างนี้อาจจะตรงสเปค” เมษาแซวยิ้มๆ“ไม่จ้ะ เลิกคิดไปได้เลย เพ้อฝันมาก” เวียงพิงค์ปฏิเสธทันควัน“แหมอย่างน้อยคนเราก็มีสิทธิ์เพ้อฝันเพื่อความสุขของตัวเองเหมือนกันแหละน่า”“จ้า แม่คนเพ้อฝัน ตั้งใจขับรถไปเลย เดี๋ยวพิ้งค์จะไปทำงานสาย” เวียงพิงค์บอกและยิ้มบางๆ จากนั้นเมษาจึงได้ตั้งใจขับรถต่อไปจนกระทั่งถึงบริษัทอัญมณียักษ์ใหญ่ของเมืองไทย บริษัทดูใหญ่โต หรูหรา สูงหลายสิบชั้น ทางขึ้นคล้ายกับโรงแรมมี

    Last Updated : 2024-10-26
  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 8

    อให้ความคิดเห็นกันอยู่ตลอดเกือบจะทุกเวลา ฉะนั้นทั้งสองฝ่ายอยู่ในชั้นเดียวกัน แบ่งโซนให้อยู่กันอย่างชัดเจน ซึ่งก็ไม่ต่างกับออฟฟิตทั่วไปสักเท่าไหร่ เมื่อการมาเยือนของรสสุคันธ์ พร้อมกับพนักงานคนใหม่ พนักงานคนอื่นๆ จึงพากันหันมามองเป็นตาเดียว และแน่นอนว่าทุกคนรู้ว่าเวียงพิงค์เป็นใคร เพราะได้ไปร่วมงานประกวดพร้อมกันหมด เสียงซุบซิบนินทาจึงเกิดขึ้น แต่เป็นแง่ดี นั่นคือความสวยน่ารักของเวียงพิงค์นั่นเอง“สาวๆ ผู้จัดการทั้งสองอยู่ในห้องใช่ไหม” รสสุคนธ์เอ่ยถามกับพนักงานที่กำลังจับกลุ่มกันคุยงานพอดี“ผู้จัดการอยู่ในห้องค่ะ” พนักงานสาวคนหนึ่งตอบ“โอเคขอบใจจ้ะ ปะพิ้งค์ไปหาผู้จัดการของพิ้งค์กัน” พูดจบรสสุคนธ์จึงเดินนำหน้าอีกครั้งกระทั่งถึงห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายออกแบบก่อน เพราะเวียงพิงค์ต้องเป็นดีไซเนอร์ฝ่ายนี้นั่นเองก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! รสสุคนธ์เคาะประตูอย่างมีมารยาทและรอกระทั่งได้รับอนุญาต“เชิญค่ะ” น้ำเสียงของผู้จัดการดูเหมือนผู้ชาย แต่คล้ายไปทางผู้หญิง คิดว่าคงเข้าใจไม่ผิดแน่ เวียงพิงค์หวาดหวั่นอยู่ไม่น้อ

    Last Updated : 2024-10-27
  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 9

    “เหรอคะ พูดถึงท่าน แล้วท่านดุหรือเปล่าคะ ดูเหมือนที่พิ้งค์เห็นจากระยะไกลการ์ดท่านเยอะมาก”“ดุ แต่ก็ใจดีเหมือนกัน เพียงแต่ท่านไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่น่ะ ไม่ต้องคิดมาก ท่านไม่เรียกพนักงานพบหรอก เวลางานมีปัญหาหรือบกพร่องท่านเรียกหัวหน้านี่แหละไป”“ความน่ากลัวก็มาตกอยู่กับหัวหน้าใช่ไหมคะ”“ฮ่าๆ ไม่หรอกจ้ะ ไม่น่ากลัวขนาดนั้นเสียหน่อย เอาล่ะไปดูโต๊ะทำงานกัน” พิรัชหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทำให้เวียงพิงค์รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยทีเดียว“ได้ค่ะ” เมื่อเวียงพิงค์รับคำแล้วจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้พิรัชก่อน ตามลำดับหัวหน้ากับลูกน้อง แล้วเธอจึงออกไปทีหลัง พิรัชเดินนำมาถึงโต๊ะทำงานที่เป็นของเวียงพิงค์ ซึ่งโต๊ะทำงานของเธอก็มีฉากกั้นเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือ มีโต๊ะทำงานโต๊ะเดียวเท่านั้น คิดว่าคงจัดไว้สำหรับดีไซเนอร์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ จากนั้นพิรัชจึงได้พาเวียงพิงค์ไปแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมงานและฝ่ายการตลาดตามลำดับต

    Last Updated : 2024-10-27
  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 10

    ขณะเดียวกันเมื่อเวียงพิงค์เรียนจบ ก็รับจ๊อบทำงานกลางคืนรอการสมัครงาน จากนั้นก็ทยอยส่งเงินไปให้มารดา ถึงจะไม่มากแต่เธอก็ส่งเงินกลับบ้านทุกเดือน นี่คือประวัติที่เวียงพิงค์กรอกเอาไว้ และเท่าที่คาเมรอนอ่านคร่าวๆ ก็รู้ว่าตอนเรียนหนังสือเวียงพิงค์ทำงานทุกอย่างที่สุจริต เพื่อให้ได้เงินส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ“ทำงานทุกอย่างเลยเหรอ” คาเมรอนเอ่ยลอยๆ พลางยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ราวกับมีแผนการอยู่ในใจ แน่นอนว่าผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพื่อเงินนั้นเขาชอบอยู่แล้ว หากมีโอกาสที่ได้ทำงานแลกเงิน ไม่ว่างานแบบไหนก็รับทำอยู่แล้วกระมัง แม้แต่งานอย่างว่า เขาคิดอย่างเหยียดหยัน รู้สึกไม่พอใจเมื่อคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเวียงพิงค์ต้องเป็นผู้หญิงแบบนั้นแน่ๆ เหมือนแม่นางแบบที่เขาสอยมานอนกก“อีกไม่นานเราจะได้รู้จักกันเวียงพิงค์” เวลานี้สำหรับคาเมรอนแล้วเวียงพิงค์เป็นผู้หญิงที่เขาอยากจะใช้เวลาดูเธอให้นานกว่าคนอื่น เพราะความรู้สึกหลายๆ อย่างที่ตอบตัวเองไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่าอยากจะได้เธอ แต่ไม่อยากแสดงตัวให้ไก่ตื่น เพราะอย่างนี้เองเขาถึงซุ่มเงียบอยู่เช่นนี้และ ได้แ

    Last Updated : 2024-10-28

Latest chapter

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 26

    คาเมรอนยังคงปรนเปรอเธอด้วยการลากลิ้นอุ่นๆ โลมไล้ไปทั่วทั้งหน้าท้องจนถึงท้องน้อย และจับที่ชุดของเธอเอาไว้ค่อยๆ รูดลงจากเอวอย่างช้าๆ เพื่อลุ้นว่าความงามตรงหน้าจะน่าหลงใหลเพียงใด“คุณ... พอเถอะค่ะ พิ้งค์กลัว” เวียงพิงค์ยังมีสติมากพอที่จะห้ามปราม ทว่าเขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินก่อนจะรั้งชุดลงมาจึงถึงต้นขา ทำให้เนินเนื้ออวบนุ่มโผล่เผยยั่วตาพร้อมกับมีไหมพรมสีดำอ่อนๆ ปกคลุมเพียงเล็กน้อย ราวกับสาวแรกรุ่น เขาใจเต้นระทึกกับความงามที่ยังปิดสนิทแน่นราวกับไม่เคยมีผีเสื้อตัวใดลองลิ้มชิมความหวาน และเขาหมายจะเป็นตัวแรกและตัวเดียวเสียเต็มประดาเวียงพิงค์ได้แต่หลับตาพริ้มหนีความน่าอับอายในครั้งนี้ พร้อมกับกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้เช่นเดิม เมื่อเขารั้งชุดลงไปกองที่ปลายเท้าทั้งหมด ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาลูบไล้เนินสวาทเบาๆ“พระเจ้า คุณสวยมาก” เขาออกปากชมด้วยความลืมตัว จากนั้นจึงส่งผ่านลิ้นอุ่นออกมาแตะเบาๆ ที่กลีบกุหลาบนั้น ความร้อนจากลิ้นสากทำให้หญิงสาวสะดุ้งและเสียวซ่าน เมื่อเขาสอดแทรกลิ้นอุ่นลึกล้ำจนถึงเกสรเล็กๆ ที่กระ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 25

    ขณะที่เวียงพิงค์ไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน จากมือที่น้อยพยายามผลักไสและทุบตี กลับกลายเป็นวางแหมะบนแผงอกกว้างพร้อมกับจับสาบเสื้อสูทของเขาเอาไว้ ส่วนมือหนาของเขาก็เริ่มสะเปะสะปะซุกซนตั้งแต่ต้นคอ ไล่ลงมาถึงหัวไหล่ ลูบไล้ช้าๆ กระทั่งถึงต้นแขนก่อนจะรั้งเธอเข้ามากอดแนบและยังคงจูบเร่าร้อนเช่นเดิม แล้วเอื้อมมือข้างขวาลงไปลูบไล้สะโพกเต่งตึง เวียงพิงค์ได้สติรีบบิดตัวหนี แต่ไม่พ้นเมื่อเขาถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของด้วยการบีบเค้นและขยำเบาๆ “อืม” เวียงพิงค์ครางอู้อี้อยู่ในลำคอเมื่อถูกรุกราน แต่มือหนากลับทำให้เธอตกใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการลูบลงไปจนถึงเรียวขา แล้วอยู่ๆ เขาก็สอดแทรกฝ่ามือร้อนๆ เข้าไปใต้ชายกระโปร่ง“อืม!” เธอพยายามทัดทานและบิดหนี กระทั่งฝ่ามือร้อนๆ เริ่มลูบไล้สะโพกกลมกลึงผ่านกางเกงชั้นใน และตกใจยิ่งกว่าเมื่อเขาเคลื่อนฝ่ามือมาทางด้านหน้าจนได้พบกับสิ่งที่เธอหวงแหน และเขาอยากได้พร้อมกับตีราคาให้เรียบร้อย ซึ่งพบว่ามันน่าหลงใหลมากเพราะได้สัมผัสกับความอวบนุ่มภายใต้กางเกงชั้นในตัวสวย“พระเจ้า” เขาถอน

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 24

    “พิ้งค์ก็ไม่ได้ขึ้นมาให้คุณดูถูก และทำตัวน่ารักไม่เป็นด้วย อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าพิ้งค์ปฏิเสธมันจะเป็นยังไง” ดูเหมือนเธอจะมั่นใจเสียเหลือเกินว่าจะปฏิเสธเขาได้ เขาคิดและยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ เพราะความรู้สึกที่ยังเป็นต่ออยู่“คิดว่าผมจะไล่คุณออกอย่างนั้นเหรอ เปล่าเสียหน่อยมันไม่ง่ายขนาดนั้น กว่าผมจะใช้เวลาเอาคุณมาอยู่ที่นี่รู้ใช่ไหมว่ามันนาน” เอามาอยู่ที่นี่หมายความว่ายังไงกัน แต่เธอจะไม่ถามเพราะอยากจะออกไปจากห้องนี้เสียเต็มประดา“เอาสิ ปฏิเสธ แล้ววันพรุ่งนี้ ผมจะเรียกคุณขึ้นไปหาบนห้องทำงานแทน คิดว่าคนอื่นก็คงจะอยากรู้เพราะผมไม่เคยเรียกใครโดยเฉพาะพนักงานระดับล่าง” จองหอง ทะนงตัวและคิดว่าเธอจะยอมสินะ“คุณต้องการ... ต้องการแค่... คุณดูถูกผู้หญิง ดูถูกพิ้งค์”“ไม่ถูกหรอกมั้ง ฟังข้อเสนอแล้วมันจะแพงขึ้นมาทันที” เขาพูดพลางเดินเข้าไปใกล้ๆ ช้าๆ“ถอยไปนะคะพิ้งค์จะกลับ” พูดจบเธอก็เอี้ยวตัวจากไปทันที แต่... เขาแทรกขึ้นเสียก่อน

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 23

    “ทำไมต้องทำขนาดนั้น ครอบครัวมีปัญหาเหรอ”“ค่ะ แม่ไม่ค่อยสบายทำงานไม่ได้ พิ้งค์เลยต้องหาเลี้ยงแล้วส่งเงินกลับไปให้ท่าน”“ได้ยินมาว่าทำเฉพาะงาน... กลางคืน” ดูเหมือนว่าเขาจะเน้นคำว่ากลางคืนเสียจริง“ก็กลางวันพิ้งค์เรียน และงานกลางคืนมันก็รายได้ดี” เธอตอบตามความซื่อ“เคยทำงานกลางคืนที่รายได้ดีที่สุดหรือเปล่า” เขาถามอย่างมีเลศนัย ดวงตาวาวโรจน์แต่ใบหน้าเรียบตึง ทว่าคำถามของเขากลับทำให้เวียงพิงค์มองกลับด้วยความสงสัย และคิดว่าเขากำลังดูถูกเธอแน่ๆ“หมายความว่ายังไงคะ พิ้งค์ไม่เข้าใจ”“คุณเข้าใจ คุณไม่ได้โง่ แล้วเคยหรือเปล่า”“ท่าน พิ้งค์ไม่ใช่ พิ้งค์ไม่เคยทำงานแบบนั้น”“ฮ่าๆ ผมอ่านประวัติคุณหมดแล้ว” เขาหัวเราะอย่างนั้นหรือ ให้ตายสิเยาะเย้ยเธอหรือเปล่าเนี่ย“อ่านหมดแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าพิ้งค์จะทำ ทำไมคะถ้าประวัติด่างพร้อยท

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 22

    “ผมรออยู่” คาเมรอนบอกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบเช่นเดิม เพราะเวียงพิงค์ยังยืนนิ่งและไม่ยอมหันกลับมาเลย แต่เมื่อได้ยินคำสั่งครั้งที่สอง เธอจึงค่อยๆ เอี้ยวตัวกลับมาอย่างช้าๆ พลางก้มหน้าเล็กน้อยเพราะไม่กล้าสบตา แต่ดวงตาคมกริบกลับจับจ้องใบหน้าสวยหวานน่ารักอย่างไม่วางตา ก่อนจะหรี่ลงเล็กน้อยและมองใบหน้าหวานรูปไข่ ไล่ลงมาที่จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากกระจับบางๆ แต่เอิบอิ่ม สีชมพูระเรื่อด้วย ลิปกลอส แต่มันน่ามองตรงที่เธอกำลังกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความประหม่า ยอมรับว่าอิริยาบทแบบนี้ทำให้เขาหัวใจเต้นแรงมาก “ทักทายกันหน่อยดีไหม ก่อนจะเริ่มเรื่อง” คาเมรอนเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เวียงพิงค์จึงตวัดหางตามองเขาเพียงเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นไหว้“สวัสดีค่ะท่าน ฉันชื่อเวียงพิงค์ค่ะ” เวียงพิงค์กล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงสั่นและก้มหน้าเช่นเดิม“จะนั่งหรือจะยืนค้ำหัว” คาเมรอนถามแกมตำหนิเล็กน้อย เวียงพิงค์จึงได้เงยหน้าขึ้นมองเขาตรงๆ เพราะเข้าใจว่ากำลังถูกตำหนิ“เอ่อ ขอโทษค่ะ” เวียงพิงค์ก้มหน้าเอ่ยอีกครั้ง แล้วจึงเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับเขาด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมอย่างที่สุด พร้อมกับรอคำตำหนิจากเจ้านายหนุ่มที่นั่งนิ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 21

    ส่วนทางด้านทีมของพิรัชนั้น บางคนก็ยังอยู่แต่บางคนขอกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อพักผ่อน ทว่าเวียงพิงค์ยังอยู่ในงานกับพิรัชและอมิตาเช่นเดิม ซึ่งระหว่างที่พิรัชกำลังหาของกินตามซุ้มต่างๆ อยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น ทำให้รีบวางทุกอย่างแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากเสื้อสูททันที พอเห็นเบอร์โทรศัพท์โชว์หราเท่านั้นแหละ อยากเป็นลมมันเสียตรงนี้เลย “คุณพระคุณเจ้า อกอีรัชจะแตก” พิรัชอุทานออกมาเบาๆ พลางยกมือขึ้นทาบหน้าอกด้วยความตกใจไม่กล้ารับสาย แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจเพราะคิดในแง่ดีว่ามันอาจจะไม่เลวร้ายก็เป็นได้“สวัสดีค่ะ เอ้ย! สวัสดีครับท่าน” พิรัชลืมตัวด้วยการลงท้ายแบบผิดๆ แต่ปลายสายก็ไม่ได้ว่าอะไร“คุณรัช ผมบอกแล้วใช่ไหมว่า...” เสียงปลายสายบ่งบอกว่าไม่พอใจและพร้อมที่จะเรียกลูกน้องของพิรัชคนใดคนหนึ่งขึ้นไปหาก็ได้“เอ่อท่านครับ คือเอ่อ... เรื่องนี้รัชรับผิดชอบเองนะครับ คือรัชเทรนน้องไม่ดีพอ เลยทำให้น้องตื่นเต้นบนเวที จำสคริปไม่ได้” พิรัชรีบเสนอตัวแทนทันที แถมยังรู้อีกต่างหากว่าคาเมรอนจะพูดเรื่องอะไร “คุณรัช จุดไหนที่มีปัญหาผมก็ปรับจุดนั้น คนก็เหมือนกัน แล้วไม่ต้องออกหน้ารับแทน คุณได้รับผล

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 20

    “เอ่อ ฤดูฝนใกล้เข้ามา และตัวแทนของน้ำค้างคือเพชรรูปหยดน้ำเกาะบนกิ่งไม้” เธอจำได้และเริ่มพูดต่อขณะที่นางแบบเดินลงไปหน้าเวทีให้แขกได้ชม ถือว่าเป็นชุดที่เรียบหรูและดูดีอีกหนึ่งชุด และสามารถใส่ออกงานได้อย่างสบายจากนั้นนางแบบก็เดินกลับขึ้นบนเวที“เอ่อ ขอบคุณมากค่ะ” เวียงพิงค์ตัดบทเพราะพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว จากนั้นจึงเดินกลับเข้าหลังเวทีไปเลย ทุกคนไม่โอเคกับความประหม่าของเธอ แต่เพราะความน่ารักและยังเป็นน้องใหม่อยู่ จึงให้อภัยได้ ยกเว้นก็แต่คาเมรอนที่ไม่ให้อภัยในความผิดพลาดครั้งนี้ เขาแทบจะส่ายหน้าด้วยความผิดหวังและโมโหอยู่ในใจ ขณะเดียวกันนางแบบก็เดินโชว์อีกรอบ“พิ้งค์เป็นอะไรมากหรือเปล่า ตื่นเต้นมากไหม ฮืม” พิรัชรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงและตกใจมาก“พี่รัช พิ้งค์ขอโทษค่ะ พิ้งค์สั่นไปหมดเลย เหมือนถูกจับผิด พูดผิดพูดถูกหมดแล้ว จำสคริปไม่ได้ค่ะ” เวียงพิงค์น้ำเสียงสั่นเครือราวกับจะร้องไห้“ไม่เป็นไร นี่มันครั้งแรกไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดหรอก แต่ดูสั่นๆ ยังไงชอบกล”&n

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 19

    “ดูท่าทางพวกเราจะหม่องไปเลยถ้าอยู่ในงาน” อมิตาแทรกขึ้น จากนั้นพิรัชจึงหันกลับไปมองทุกคนก่อนจะถาม“สาวๆ หิวกันไหม หาอะไรกินรองท้องก่อนดีหรือเปล่า ถ้าท่านประธานมาเปิดงานแล้วจะหมดโอกาสกินนะ” พิรัชบอกด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรค่ะพี่รัช เสร็จงานแล้วพวกเราค่อยกินดีกว่า ตื่นเต้นไม่กล้าออกไป” อมิตาให้ความเห็นซึ่งทุกคนก็เห็นดีด้วย จากนั้นจึงได้รอเวลาเปิดงาน“สวัสดีครับ แขกท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน กระผมวาคิม อมรเวช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท Grey&M Jewelry จำกัด (มหาชน) รับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการบนเวทีในค่ำคืนนี้ ขอต้อนรับแขกทุกท่านเข้าสู่ความหรูเลิศอลังการ ดาวล้านดวง กับอัญมณีที่เลอค่าที่สุดในโลก เพชร! และรออีกเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น คุณคาเมรอน เกรย์ มหัทธนวงศ์สกุล ประธานบริษัท จะเดินทางมาเปิดงานด้วยตัวเองนะครับ แต่ตอนนี้เชิญแขกทุกท่านพักผ่อนอิริยาบถตามสบายนะครับ ขอให้มีความสุขกับค่ำคืนแสนวิเศษนี้ ขอบคุณครับ” จบคำกล่าวต้อนรับของผู้จัดการฝ่ายการตลาด สาวๆ ดีไซน์เนอร

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 18

    “เรียบร้อย หันไปดูตัวเองในกระจกสิว่าสวยแค่ไหน” พิรัชบอกอย่างชื่นชมขณะที่เพื่อนๆ ก็ต่างพากันมามุงดูเวียงพิงค์กันยกใหญ่“พี่รัชแต่งหน้าทำผมสวยมากเลยอ่ะ แต่งให้น้องบ้างเร็วๆ” ดีไซน์เนอร์คนหนึ่งขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแกมบังคับเล็กน้อย“แต่งเองเป็นอยู่แล้ว ก็แต่งเองสิยะ” พิรัชแสดงอาการแจ๋นๆ ออกมาทันที เพราะนอกเวลางานก็เป็นกันเองกับลูกน้องเสมอ“ไม่เอาอ่ะพี่รัชแต่งสวยนะคะ พรีส!” ดีไซน์เนอร์คนเดิมขอร้อง เวียงพิงค์จึงได้แต่ยิ้มหวานและหันกลับไปมองที่กระจกเงา แล้วต้องอึ้งเมื่อเห็นความสวยน่ารักของตัวเองอีกครั้ง ไม่อยากจะสำคัญตัวเองแต่ว่ามันใช่ เพราะเธอไม่ใช่คนขี้เหร่เลยแม้แต่นิดเดียว“โห๋! ว้าว! พี่รัชแต่งซะ พิ้งค์ ไม่ใช่พิ้งค์เลยค่ะ”“ไม่ใช่พิ้งค์ แต่เป็นนางซิน นี่ขนาดแต่งบางๆ นะถ้าได้ขึ้นไปเดินแบบแล้วล่ะก็ ใครๆ ก็ต้องเหลียวหลังเหมือนกัน” พิรัชไม่ถ่อมตัวเลยเพราะรู้ดีว่าฝีมือการแต่งหน้ายอดเยี่ยม“ไม่ค่อยย

DMCA.com Protection Status