Share

บทที่ 2

แต่ด้วยนิสัยส่วนตัว คาเมรอนเป็นคนที่มีบุคลิก ดุ น่ากลัว น่าเกรงขาม เย็นชา บางครั้งเอาแต่ใจตัวเองและหยิ่งจองหองถือตัวเอามากๆ ไม่ยอมให้ใครเข้าถึงตัวได้ง่ายๆ คนที่คาเมรอนจะเรียกเข้าห้องทำงานเพื่อไปคุยงานด้วยนั้น จะมีแต่ระดับผู้จัดการขึ้นไปเท่านั้น ส่วนพนักงานตัวเล็กๆ นั้นรอรับคำสั่งจากผู้จัดการอีกต่อหนึ่ง แต่เพราะคาเมรอนเป็นคนที่มีเสน่ห์ ยิ่งเก็บตัวเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนทั่วไปอยากจะรู้จักและอยากเข้าถึงตัวมากยิ่งขึ้น 

ยิ่งได้รู้จากปากต่อปากว่าคาเมรอนหล่อเหลาระดับพระเอกฮอลลีวู้ด ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ราวกับนายแบบด้วยส่วนสูง 189 เซนติเมตร ก็ยิ่งทำให้นักข่าวอยากขอสัมภาษณ์ อยากเห็นหน้า เพราะคาเมรอนคือความลงตัวของสามเชื้อชาติ นั่นคือ ไทย – จีน - อเมริกัน เพราะเจ้าสัวหัสนัยน์เป็นลูกครึ่งไทย - จีน ส่วนมารดานั้นเป็นชาวอเมริกันแท้ๆ แต่มาอยู่เมืองไทยนานนับสามสิบปีทำให้พูดไทยได้คล่องปร๋อ 

คาเมรอนเป็นทายาทเพียงคนเดียวและมีองค์ประกอบบนใบหน้าครบจนน่าอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณที่ขาวเหมือนคนจีน ใบหน้าเกลี้ยงเกลา หล่อเหลาแบบหนุ่มอเมริกัน คิ้วหนาเข้ม ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลอ่อน แต่เปลือกตาเล็กแบบคนจีน จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากรูปกระจับอมชมพูเล็กน้อย 

ทว่าเวลานี้ความหล่อเหลาหรือความเพอร์เฟคนั้นมันถูกบดบังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะเขากำลังเตรียมรับมือกับกองทัพสื่อมวลมันไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบเลย และนับจากนี้ไปเขาจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวทันทีที่ก้าวเข้าไปเหยียบโรงแรม และเช่นเดียวกัน ในเวลาต่อมาไม่ถึงสิบห้านาที รถตู้สีขาวคันหรูก็แล่นมาจอดเทียบหน้าทางขึ้นโรงแรม โดยมีเหล่าบอร์ดี้การ์ดส่วนหนึ่งรอรับอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับกองทัพสื่อมวลชนที่รออยู่ตรงบันไดทางขึ้น เมื่อรถจอดสนิทบอร์ดี้การ์ดคนหนึ่งเดินไปเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่

“เชิญครับท่าน” บอร์ดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเปิดทางให้หัสนัยน์ลงก่อนเพราะนั่งติดประตูพอดี จากนั้นจึงตามด้วยคาเมรอนและเคียร่าตามลำดับ 

ช่วงเวลานี้เอง แสงแฟรชจากกล้องถ่ายรูปของสื่อมวลชนที่นับจำนวนไม่ได้ก็สาดมาที่ทั้งสามคนพร้อมกันเสียงกดชัตเตอร์กระหน่ำรัว หวังจะเก็บภาพที่ดีที่สุดเอาไว้ ใครอยู่ใกล้ทางขึ้นมากที่สุด คือคนที่ได้ภาพชัดที่สุดไปครอง แต่คาเมรอนไม่ยอมให้ภาพออกไปได้โดยง่าย เขาให้บอร์ดี้การ์ดเกือบยี่สิบคนขวางเอาไว้ ประกบหน้าหลังบิดามารดา เพื่อไม่ให้นักข่าวเบียดเข้ามาอย่างน่าเกลียด ขณะที่นักข่าวพยายามยกกล้องขึ้นถ่ายและซูมไปที่ใบหน้าของคาเมรอนเป็นหลัก งานนี้แสงแฟรชทำให้เขาแทบตาลายเลยทีเดียว แต่ดีหน่อยที่บอร์ดี้การ์ดทำหน้าที่ได้ดีมากจนนักข่าวเข้าถึงตัวไม่ได้เลย

ขณะเดียวกัน เสียงของนักข่าวดังเข้าไปในงานเป็นสัญญาณให้แขกทุกคนตื่นตัวว่าเจ้าภาพทั้งสามได้เดินทางมาถึงแล้ว พิธีกรในงานซึ่งอยู่บนเวทีจึงประกาศให้แขกทุกคนหลีกทาง เพื่อให้เจ้านายทั้งสามเดินผ่านได้อย่างสะดวก วินาทีนี้ทุกคนพยายามชะเง้อคอมองคาเมรอนเป็นหลัก กระทั่งทั้งสามได้เดินไปถึงหน้าเวทีและถูกเชิญให้นั่งโซฟาวีไอพีเรียบร้อย แต่ก็ไม่วายที่จะมีบอร์ดี้การ์ดนั่งอยู่ด้านหลังเพื่อเป็นกำแพงอีกหนึ่งชั้น ใครอยากจะเห็นก็คงเห็นแต่เพียงแผ่นหลังกว้างๆ และเสี้ยวหน้าเวลาที่หันซ้ายขวาเท่านั้น 

“อะไรจะกันท่านักข่าวได้เก่งขนาดนั้น ให้การ์ดซ้อมอารักษ์ขาตั้งแต่เมื่อไหร่”

หัสนัยน์อดแซวบุตรชายไม่ได้

  “ป๋าน่าจะรู้ว่าการ์ดของป๋าเก่ง” คาเมรอนตอบน้ำเสียงเรียบพลางมองไปบนเวที ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นพิธีกรก็ขึ้นไปบนเวทีเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะกล่าวเปิดงาน พร้อมทั้งเชิญให้ประธานขึ้นไปกล่าวเปิดอีกต่อหนึ่ง โดยที่คาเมรอนขอให้หัสนัยน์เป็นคนขึ้นไปเปิด เพราะงานนี้เขายังไม่พร้อมที่จะขึ้นไป หัสนัยน์จึงใช้เวลากล่าวเพียงเล็กน้อยสิบนาทีเท่านั้นเพื่อทุกอย่างจะได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ 

ต่อมาพิธีกรจึงได้เริ่มแนะนำกรรมการ ซึ่งเป็นเซเลบริตี้ผู้มีชื่อเสียงในวงการไฮโซ และเคียร่ามารดาของคาเมรอนร่วมเป็นกรรมการ รวมแล้วสี่ท่าน จากนั้นจึงเข้าสู่การเดินแบบทันที โดยเหล่านางแบบทั้งหลายนั้นสวมใส่คอลเล็คชั่นที่ผู้เข้าประกวดออกแบบตามกติกา นั่นคือคอลเลคลั่นฤดูใบไม้ผลิ และบรรยายถึงความหมายของเครื่องประดับไปในตัว คาเมรอนตื่นตากับเหล่านางแบบไม่น้อยเพราะทุกคนสวยเซ็กซี่ ขยี้ใจมาก แถมแต่ละนางยังแอบส่งสายตาแพรวพราวมาให้กับเขาอีกต่างหาก 

ทว่าช่วงเวลาเดียวกันนี้ คาเมรอนไม่รู้เลยว่าความหล่อเหลา ระดับนายแบบของเขาที่มีแต่คนอยากเห็นหน้านั้น ถูกแอบมองจากหลังเวที สาวน้อยแสนธรรมดาหนึ่งในผู้เข้าประกวดพยายามใช้สายตามองจากระยะไกล เพราะอยากรู้ว่าคาเมรอนหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วเธอก็เห็นแต่ไม่ชัดเจน ทว่ารู้ได้ทันทีว่าเขาหล่อและโดดเด่นมากๆ แถมยังทำให้เธอหวั่นไหวร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า 

“บ้าจริง” เวียงพิงค์สบถเบาๆ ด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินกลับสู่หลังเวที เพื่อเตรียมที่จะขึ้นไปพร้อมกับนางแบบในรอบสุดท้าย

“มีอะไรเหรอยัยเตี้ย” เมษาถามด้วยความแปลกใจ

“เปล่าๆ พิ้งค์แค่ ตื่นเต้นน่ะ คนเยอะมาก” เวียงพิงค์ตอบด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

“ไม่ต้องตื่นเต้นนะ พิ้งค์เก่งอยู่แล้ว พิ้งค์สวยและโดดเด่นพอๆ กับเครื่องเพชรเลยจะกลัวอะไร” 

“ขอบใจนะเมย์ เพราะเมย์เชื่อใจพิ้งค์นะ พิ้งค์ถึงได้กล้ามาประกวดแบบนี้” 

“ก็เมย์รู้ว่าพิ้งค์เก่งไง และเชื่อว่าต้องชนะแน่ๆ เห็นไหมคอลเล็คชั่นของคนอื่นสู้พิ้งค์ไม่ได้เลย เว่อร์แบบคิดเยอะเกินไปก็มี” คราวนี้เมษากระซิบเบาๆ เพราะกลัวว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นจะได้ยิน

“ขอบใจจ้ะ เดี๋ยวพิ้งค์เตรียมตัวขึ้นเวทีแล้วนะ” 

“ไปเลย สู้ๆ จ้ะ” จากนั้นเวียงพิงค์จึงเดินไปรออยู่ที่บันไดทางขึ้นรอให้ทีมงานส่งสัญญาณ หลังจากที่นางแบบเดินลงมาจากเวทีหมดแล้ว 

“ลำดับต่อไปจะเป็นแนะนำตัวผู้เข้าประกวด พร้อมกับนางแบบนะครับ คนแรก” เสียงของพิธีกรบนเวทีเริ่มประกาศอีกครั้ง คราวนี้คนที่ตื่นเต้นเห็นทีคงจะไม่ใช่เวียงพิงค์คนเดียว แต่กลับเป็นคาเมรอนที่รอการปรากฏตัวของผู้เข้าแข่งขันที่เขาหมายตาเอาไว้เป็นพิเศษตั้งแต่รอบคัดเลือก 

ต่อมานางแบบคนแรกเดินออกมาพร้อมกับผู้เข้าแข่งกันหมายเลขหนึ่ง ควงแขนกันมาในคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิจากนั้นพิธีกรจึงได้แนะนำตัวและทุกคนเริ่มทยอยกันออกมาจนเกือบหมด ขณะที่คาเมรอนพยายามมองหา คนที่เขาหมายตาก็ไม่ออกมาเสียที

 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status