แชร์

โซ่เสน่หากามเทพ
โซ่เสน่หากามเทพ
ผู้แต่ง: มณีมายา/แอล/รมตี

บทที่ 1

ผู้แต่ง: มณีมายา/แอล/รมตี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56

ภายในโรงแรมหรู ระดับห้าดาวแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ คลาคล่ำไปด้วยสื่อมวลชนคับคั่ง เหล่าคนดังไฮโซและนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทยที่ต่างตบเท้ากันมาร่วมงานประกวดการออกแบบเครื่องประดับ เพื่อเฟ้นหาดีไซเนอร์มาประดับวงการพร้อมทั้งเซ็นสัญญาร่วมงานกับบริษัทเพชรยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยอย่างบริษัท Grey&M Jewelry จำกัด(มหาชน) 

โดยการจัดงานครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดของประธานบริษัทคนใหม่อย่าง คาเมรอน เกรย์ มหัทธนวงศ์สกุล ผู้บริหารหนุ่มวัยสามสิบเอ็ดปี ที่เพิ่งจะมารับตำแหน่งได้ไม่นาน ด้วยความที่เป็นคนตั้งใจทำงาน เก่ง ไฟแรง จึงอยากได้ดีไซเนอร์เป็นคนรุ่นใหม่ และไฟแรงพอๆ กันมาร่วมงานด้วย เพื่อจะได้มีไอเดียร์แปลกๆ ไม่ซ้ำใครในการตีตลาดอัญมณีเมืองไทย สู่ระดับเอเชีย ไปจนถึงระดับโลก และการประกวดก็ได้ค้นพบเพชรเม็ดงามสิบคนสุดท้าย เพื่อที่จะขึ้นโชว์ผลงานจริงในค่ำคืนนี้ โดยการสวมใส่ของนางแบบแถวหน้าของเมืองไทย 

เวียงพิงค์ ขวัญคำ สาวน้อยเมืองเชียงใหม่ หนึ่งในผู้เข้าร่วมการแข่งขันและเข้ารอบสิบคนสุดท้าย จากการคัดเลือกกว่าหนึ่งร้อยคนผ่านผลงานการวาดภาพในรอบแรก หญิงสาวอายุยี่สิบเอ็ดปีและเพิ่งจะคว้าปริญญาหมาดๆ ทางด้านการออกแบบอัญมณีโดยเฉพาะ และหวังว่าเรียนจบจะได้ทำงานในบริษัทอัญมณีที่ไหนสักแห่ง แต่แล้วอยู่ๆ โอกาสทองก็มาถึง เมื่อมีการจัดการประกวดเฟ้นหาดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ของบริษัท Grey&M Jewelry แต่เธอไม่กล้าสมัครเพราะดูจะเกินเอื้อม แต่สุดท้ายได้รับแรงผลักดันมาจากเพื่อนรักให้สมัครแข่งขัน และก้าวแรกก็เป็นผลสำเร็จนั่นคือเข้ารอบสุดท้าย เพื่อสร้างชิ้นงานและโชว์ในค่ำคืนนี้ แต่เธอไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังความสำเร็จได้มาเพราะอะไร

แต่เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ออกงานใหญ่ระดับเฟิร์สคลาส ทำให้เวียงพิงค์ออกอาการประหม่าไม่น้อย อีกทั้งเรื่องการแต่งตัวที่ไม่เคยแต่งมาก่อน คือการใส่ชุดราตรี แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะชุดที่สวมใส่มาในค่ำคืนนี้ยังหยิบยืมจากเพื่อนรัก เพราะเธอไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อชุดใหม่ แต่ชุดที่สวมใส่ก็เป็นชุดน่ารัก คือราตรีเกาะอกสีฟ้าความยาวประมาณหัวเข่ากับรองเท้าส้นสูงอวดขาขาวๆ แม้จะไม่เคยแต่งแต่มันคือความจำเป็นเพราะถือเป็นการให้เกียรติงานและอาชีพในอนาคตของตัวเอง 

“ไม่เห็นต้องประหม่าขนาดนั้นเลยยัยเตี้ย” เมษาซึ่งเป็นเพื่อนรักของเวียงพิงค์ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระซิบขณะที่กำลังนั่งรออยู่ในห้องแต่งตัว เพื่อให้ประธานมาเปิดงานเสียก่อน

“ใครจะไม่ประหม่าล่ะ เมย์ลองมาเป็นพิ้งค์ไหมล่ะ ไม่เคยออกงานแบบนี้มาก่อนเลย” เวียงพิงค์ตอบอย่างเครียดๆ

“ใครจะเคยล่ะ แต่มันเป็นการประกวดสู้ๆ สิ ดูผู้แข่งขันคนอื่นไม่เห็นตื่นเต้นอย่างพิ้งค์เลย” เมษาพยายามปลอบใจพร้อมกับบุ้ยหน้าไปทางผู้แข่งขันคนอื่นๆ ซึ่งอยู่ในห้องเดียวกัน 

“เค้าตื่นเต้นแต่ไม่แสดงออกเท่านั้นเอง อีกอย่างงานยักษ์ขนาดนี้ โห๋! สั่นหมดแล้ว” เวียงพิงค์ค่อนข้างตื่นกลัวเพราะไม่เคยมาสัมผัสกับงานใหญ่ๆ แบบนี้ และควบคุมความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่

“แต่ที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กันเลยคือจะได้เห็นหน้าประธานบริษัทคนใหม่ พร้อมๆกับสื่อมวลชนและคนทั้งประเทศ” เมษาบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นระริกระรี้เพราะได้ยินข่าวลือหนาหูว่าประธานบริษัทรูปหล่อมาก

“ทำไมต้องตื่นเต้นด้วยล่ะ แค่ประธานบริษัทคนใหม่” เวียงพิงค์แสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่อยากรู้เช่นกัน

“ตกข่าวหรือยังไง ท่านประธานบริษัทน่ะอายุสามสิบเอ็ดปีนะจ๊ะ ทายาทคนเดียวของเจ้าสัวหัสนัยน์ ฉะนั้นเขาคือหนุ่มลูกเสี้ยว ไทย - อเมริกัน - จีน ได้ยินข่าวลือหลุดจากพนักงานในบริษัทว่า หล่อมากอย่างกับพระเอกฮอลลีวู้ด หุ่นอย่างกับนายแบบ” น้ำเสียงของเมษาดูจะชื่นชมประธานบริษัทคนนี้เสียเหลือเกินราวกับเคยเห็นหน้ามาก่อน 

“แหม บรรยายราวกับเคยเห็นตัวจริงมาแล้วอย่างนั้นแหละ” เวียงพิงค์อดแซวไม่ได้

“ก็ลูกครึ่งซะขนาดนั้น ต้องหล่ออยู่แล้วล่ะ ถ้าได้ทำงานในบริษัทจริงๆ ล่ะก็ ฝากพิ้งค์อ่อยท่านประธานให้เมย์หน่อยนะ” ประโยคสุดท้ายเมษาถึงกับต้องยื่นหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆ เนื่องจากกลัวว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นจะหมั่นไส้

“บ้า! ให้พิ้งค์อ่อยให้เมย์เนี่ยนะ ไม่เอาหรอก หางตาของเขาไม่รู้ว่าจะหันมาแลพิ้งค์หรือเปล่า” 

“เฮ้ย! ยัยเตี้ย นี่ไม่รู้ตัวเองเลยใช่ไหมว่าตัวเองสวย น่ารัก ขาวจั๊วะ น่าเจี้ยะไปทั้งตัวเนี่ย หนุ่มๆ ในมหาวิทยาลัยยังพากันรุมจีบเลย แต่เล่นตัวไม่ยอมเอาใคร” เมษาชมเวียงพิงค์พร้อมกับตำหนิเล็กน้อย

“พิ้งค์ไม่ได้อยู่ในสถานะให้ใครจีบนี่นา พิ้งค์มาเรียน เรียนให้จบแล้วหางานทำ

ส่งเงินกลับไปให้แม่และน้าที่เชียงใหม่ เท่านี้ที่พิ้งค์ต้องการ ไม่ใช่อ่อยผู้ชาย” เวียงพิงค์ว่ากลับยิ้มๆ เหมือนหยอกเย้าไม่ได้คิดอะไรมากนัก

“พูดจาน่าหมั่นไส้เดี๋ยวหยิกสักที ตอนนี้กำลังจะได้ทำงานแล้ว ต้องหาคนดูแลเผื่อเอาไว้ เพื่อจะได้ปกป้องตัวเองไง ถ้าได้คนรวยๆ ล่ะดีเลย ฮ่าๆ” เมษาหัวเราะชอบใจ ไม่ต่างอะไรกับเพ้อเลย 

 “นิสัยไม่ดี พิ้งค์ไม่พูดกับเมย์แล้ว รอฟังเสียงพิธีกรเปิดงานดีกว่า สงสัยป่านนี้ประธานใกล้จะมาถึงงานแล้วมั้ง”

“ย่ะ” เมษารับคำพร้อมกับตัดบทการสนทนาลงเพื่อให้เวียงพิงค์ได้ทำสมาธิ จะได้ไม่ตื่นเต้นจนเกินไป ระหว่างนั้นก็พากันรอฟังเสียงว่าพิธีกรจะกล่าวเปิดงานเมื่อไหร่ 

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ห้องแกรนบอลรูมเริ่มมีแขกทยอยเข้ามาในงาน ทุกคนต่างรอเวลาที่จะให้ประธานมาเปิดงาน ตามหมายกำหนดการที่วางเอาไว้ ทว่ามันยังไม่ถึงเวลา ประธานจึงยังมาไม่ถึง ทำให้ทุกคนเอาแต่ชะเง้อคอ มองไปตรงบริเวณทางเข้างานอยู่ตลอด และแต่ละคนพยายามคุยกันในกลุ่มว่าประธานบริษัทคนใหม่จะหน้าตาเป็นอย่างไร 

ทั้งนี้เพราะชายหนุ่มไม่เคยออกสื่อ ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไหนตั้งแต่รับตำแหน่ง และน้อยนักที่จะมีคนเคยเห็นหน้า นอกจากเห็นหน้าประธานบริษัทคนก่อนคือเจ้าสัวหัสนัยน์ ฉะนั้นภายในงานจึงมีการซุบซิบเรื่องหน้าตาของประธานคนใหม่ ที่มีเพียงคนในบริษัทระดับผู้บริหารเท่านั้นที่เคยเห็น ระหว่างนั้นฝ่ายที่ถูกนินทามากที่สุดก็อยู่ในช่วงของการเดินทางซึ่งใกล้จะถึงโรงแรมเต็มทีแล้วเช่นกัน 

“รบกวนป๋าขึ้นไปเปิดงานด้วยได้ไหมครับ ตามแผนที่เราวางเอาไว้” คาเมรอน 

ประธานบริษัทคนล่าสุด เอ่ยกับบิดาด้วยน้ำเสียงเรียบ เพราะเขาไม่ต้องการออกสื่อนัก

“แผนมันปรับเปลี่ยนได้ แกเป็นประธานบริษัทแล้วนะ จะกลัวอะไรรู้จักออกสื่อเสียบ้าง คนจะได้รู้จักทำตัวลึกลับไปได้” หัสนัยน์เอ่ยด้วยน้ำเสียง

“ผมไม่ชอบ ป๋าก็รู้นี่ครับ แล้วอีกอย่างผมเพิ่งจะมาทำงานได้เดือนกว่าๆ นะครับ ผมไม่ชอบที่นักข่าวจุ้นจ้านเรื่องส่วนตัวแทนที่จะเป็นเรื่องงาน ถามนั่นโน่นนี่น่ารำคาญ” คาเมรอนบ่นน้ำเสียงเรียบและขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดใจ

“ไม่ชอบก็ต้องทำใจ เพราะงานนี้มันเป็นงานของลูก ลูกเป็นคนจัดขึ้นมาเองไม่ใช่เหรอ แล้วจะให้ป๋าออกหน้ารับแทนทุกครั้งมันไม่ได้ อย่าทำตัวให้คนอื่นเข้าถึงยากนัก” เคียร่า มารดาคนสวยเอ่ยแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงหวาน 

“ตำหนิผมเพราะว่าผมเข้าถึงตัวยากเหรอครับ แค่นี้เองมันจะเป็นปัญหาอะไรล่ะครับคุณแม่” คาเมรอนบอกอย่างไม่แยแส เพราะมันเป็นนิสัย เขาไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องให้ใครเห็นหน้า แต่ผลงานยอดเยี่ยมก็น่าจะเพียงพอ

“แม่แค่บอกว่ามันถึงเวลาแล้วก็เท่านั้นเอง ไม่เห็นต้องคิดมากเลย ทำใจเถอะเพราะวันนี้ก็เท่ากับว่าเป็นวันเปิดตัวลูกนะคาเมล” 

“ครับผม จะพยายามทำใจ แต่ถ้าทำให้หงุดหงิดอย่าหาว่าผมเหวี่ยงสื่อก็แล้วกันครับ” 

“ระดับเจ้าของงานใครจะกล้าว่าเล่า” หัสนัยน์แทรกขึ้นยิ้มๆ พลางเอื้อมมือไปตบที่หัวไหล่ของบุตรชายเบาๆ ด้วยความเอ็นดู 

คาเมรอน เกรย์ มหัทธนวงศ์สกุล หรือคาเมลที่บิดาและมารดาเรียกสั้นๆ เขาเป็นชายหนุ่มวัยสามสิบเอ็ดปี จบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์ จากประเทศอังกฤษ ทว่าเมื่อเรียนจบแล้วไม่ยอมกลับเมืองไทยเป็นปี กระทั่งหัสนัยน์อยากจะเกษียณตัวเองพร้อมกับภรรยาคู่ชีวิตจากงานที่เหน็ดเหนื่อยมานาน จึงต้องตามคาเมรอนกลับเมืองไทย เพื่อรับตำแหน่งประธานบริษัทคนใหม่นั่นเอง และคาเมรอนก็ทำงานได้เป็นอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง

 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 2

    แต่ด้วยนิสัยส่วนตัว คาเมรอนเป็นคนที่มีบุคลิก ดุ น่ากลัว น่าเกรงขาม เย็นชา บางครั้งเอาแต่ใจตัวเองและหยิ่งจองหองถือตัวเอามากๆ ไม่ยอมให้ใครเข้าถึงตัวได้ง่ายๆ คนที่คาเมรอนจะเรียกเข้าห้องทำงานเพื่อไปคุยงานด้วยนั้น จะมีแต่ระดับผู้จัดการขึ้นไปเท่านั้น ส่วนพนักงานตัวเล็กๆ นั้นรอรับคำสั่งจากผู้จัดการอีกต่อหนึ่ง แต่เพราะคาเมรอนเป็นคนที่มีเสน่ห์ ยิ่งเก็บตัวเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนทั่วไปอยากจะรู้จักและอยากเข้าถึงตัวมากยิ่งขึ้น ยิ่งได้รู้จากปากต่อปากว่าคาเมรอนหล่อเหลาระดับพระเอกฮอลลีวู้ด ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ราวกับนายแบบด้วยส่วนสูง 189 เซนติเมตร ก็ยิ่งทำให้นักข่าวอยากขอสัมภาษณ์ อยากเห็นหน้า เพราะคาเมรอนคือความลงตัวของสามเชื้อชาติ นั่นคือ ไทย – จีน - อเมริกัน เพราะเจ้าสัวหัสนัยน์เป็นลูกครึ่งไทย - จีน ส่วนมารดานั้นเป็นชาวอเมริกันแท้ๆ แต่มาอยู่เมืองไทยนานนับสามสิบปีทำให้พูดไทยได้คล่องปร๋อ คาเมรอนเป็นทายาทเพียงคนเดียวและมีองค์ประกอบบนใบหน้าครบจนน่าอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณที่ขาวเหมือนคนจีน ใบหน้าเกลี้ยงเกลา หล่อเหลาแบบหนุ่มอเมริกัน คิ้วหนาเข้ม ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลอ่อน แต่เปลือกตาเล็กแบบคนจีน จมูกโด่งเป็นสั

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 3

    “ลำดับที่สิบผู้เข้าประกวดคนสุดท้าย นางสาวเวียงพิงค์ ขวัญคำ กับชื่อชุดฤดูผลิรัก” พิธีกรประกาศชื่อเวียงพิงค์เป็นคนสุดท้าย หญิงสาวจึงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วจึงเดินขึ้นเวทีพร้อมกับนางแบบรูปร่างสูงเพรียว ผิวสีน้ำผึ้ง แต่ไม่สามารถบดบังรัศมีความสวย ขาว น่ารักของเธอได้เลย แม้จะตัวเล็กแต่เวียงพิงค์เด่นราวกับดารา เพราะเธอสวยเหมือนดาราอยู่แล้ว จากนั้นเสียงเซ็งแซ่พูดคุยกันเรื่องหน้าตาของเวียงพิงค์ก็ฮอตพอๆ กับการวิจารณ์ความสวยของคอลเล็คชั่นที่เธอออกแบบ พร้อมกับเสียงปรบมือเกรียวกราว เวียงพิงค์ส่งยิ้มหวานโปรยให้กับแขกในงานอย่างอ่อนโยนและเขินอายในที แต่นาทีนี้เองที่เธอได้เห็นคาเมรอนเต็มๆ ใกล้ๆ และต้องรีบหุบยิ้มเพราะไม่อยากให้ใครมองว่าอ่อยประธานบริษัท แม้ในหัวใจจะเต้นตูมตามแทบจะทะลุออกมานอกอก แต่จังหวะเดียวกันนั้นคาเมรอนก็มองมาที่เวียงพิงค์ด้วยดวงตาคมกริบวาวโรจน์ สลับกับมองเครื่องประดับและนางแบบ แต่นางแบบเองก็น่าสนใจไม่น้อย และเช่นเดียวกันเมื่อกรรมการได้เห็นเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายเรียบร้อยทุกคนก็ก้มหน้าให้คะแนน เมื่อโชว์เครื่องประดับเสร็จเวียงพิงค์กลับเข้าหลังเวทีพร้อมกับนางแบบเพื่อพักผ่อนและรอฟั

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 4

    ทว่าหลังจากเสร็จสิ้นการประกวด คาเมรอนไม่ได้กลับบ้าน แต่กลับขึ้นไปพักในโรงแรมเพราะมีกิจกรรมหลังจากนี้ที่เร่าร้อนกว่า เขาหมายตาเอาไว้แล้วว่าคืนนี้ใครถูกใจมากที่สุด ไม่ใช่ว่าเขาจะซื้อคอลเลคชั่นของผู้เข้าประกวดเท่านั้น แต่ผู้สวมใส่คอลเลคชั่นก็ไม่พลาดที่จะซื้อตัวมาสังเวยตัณหา เพราะผู้ชายที่เคยนอนกับผู้หญิงทุกคืนอย่างเขามันขาดไม่ได้ ยิ่งได้เห็นนางแบบแต่ละคนเซ็กซี่ ขยี้ใจ มันก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์บางอย่างที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายในใจให้ลุกโชนออกมาบนเตียงนอนนุ่มภายในพักสุดหรู ในความมืดสลัวนั้น มีเพียงแสงสว่างจากภายนอก สาดผ่านกระจกบานใหญ่แบบเลื่อนๆ เข้ามาถึงห้องนอนที่เปิดผ้าม่านเอาไว้ จึงทำให้มองเห็นสองร่างเปลือยไร้เสื้อผ้าของคาเมรอนและนางแบบสาวลูกครึ่ง กำลังนั่งโอบกอดคลอเคลียแนบแน่น พร้อมกับเสียงครางงึมงำในลำคออย่างพอใจ เรือนกายแสนเย้ายวนของเทย่านางแบบสุดเซ็กซี่ ซึ่งเดินแบบให้กับเครื่องเพชรของเวียงพิงค์ กำลังขยับโยกกายเร่าร้อนราวกับพายุ บดเบียดสะโพกกลมกลึงกับกายแกร่งแห่งชายชาตรีแนบแน่น ขณะที่เขาปล่อยให้เธอนั่งอยู่บนตัก พร้อมกับขยับรับจังหวะของหญิงสาวอย่างรุนแรง สองแขนแข็งแกร่งโอบกอดเธอไว้ พลางเล

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 5

    “เทย่าก็แค่...” เธอกำลังจะเถียงต่อทว่าเขาแทรกขึ้นเสียก่อน“ผมจ่ายเงินคุณ คุณสิต้องเมคเลิฟให้ผมถึงจะถูก หรือว่าไม่เอา หืม”“เอาค่ะ เอาเงินแล้วเอาคุณด้วย” พูดจาตรงไปตรงมาเสียเหลือเกิน เขาคิด“คืนนี้ยกให้ แต่ห้ามขอมาก เพราะเราตกลงกันแล้ว” เขาบอกเสียงเรียบอีกครั้ง“เท่านี้ก็ปลื้มจะแย่ที่เทย่าเป็นคนที่คุณเลือก” เธอยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเขา และขบที่ติ่งหูเบาๆ ก่อนจะขยับขึ้นไปนั่งคร่อมเขาบนสะโพกอีกครั้ง พลางมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาแพรวพราวใต้เงาสลัว แต่เขามองเห็นชัดเจนว่าเธอกำลังมีความต้องการ จากนั้นเธอก็ขยับตัวลงไปแทรกกายอยู่ระหว่างขาของเขาพลางเอื้อมมือลงไปลูบไล้กายแกร่งที่เพิ่งจะหลับไหลหวังจะกระตุ้นให้มันตื่นตัวอีกครั้งคาเมรอนมองหญิงสาวด้วยแววตาวาวโรจน์และหรี่ลงอย่างเจ้าเล่ห์ ขณะที่มือเรียวสวยกำลังกอบกุมกายชายเอาไว้แน่น ก่อนจะขยับรูดขึ้นลงอย่างช้าๆ ดวงตาแสนเย้ายวนตวัดมองเขาอย่างมีชั้นเชิง เพื่อสังเกตอาการตอบรับ แต่เมื่อเห็นว่าเขายังนิ่งอยู่เธอจึงเร่งความเร็วเพิ่มมากขึ้น กระทั่งความปรารถนา

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 6

    “โอ้ว อ่า...” เขาไม่ได้ฟังว่าเธอพูดอะไร แต่กลับขยับเร่งตัวเองอย่างรวดเร็ว ทว่าเทย่าก็กรีดร้องลั่นเมื่อกายแกร่งทะยานพาเธอมาถึงจุดหมาย สองมือกุมขยับทรวงอกตัวเองอย่างผ่อนคลายและล่องลอย ขณะที่คาเมรอนยังรุกเร้าโรมรันไม่ยอมหยุด จนกระทั่งเขากดสะโพกให้แนบแน่นกับบั้นท้ายกลมกลึง พร้อมกับกายแกร่งกระตุกหนักๆ และปลดปล่อยลาวาอุ่นๆ ไหลอยู่ภายในปราการณ์เช่นเดิม ร่างของเทย่าฟุบลงกับที่นอนและซบใบหน้าลงกับหมอน แต่เขาคุกเข่ามองร่างบางที่ไร้เรี่ยวแรง พร้อมกับรอให้ตัวเองผ่อนคลายก่อนจะเอื้อมมือลูบไล้แผ่นหลังและสะโพกสวยเพื่อเมคเลิฟเบาๆ แต่ถ้าจะให้ลงไปคลอเคลียเขากลับไม่มีอารมณ์แบบนั้น“อืม คาเมล ฉันไม่เคยเจอใครที่เร่าร้อนเท่าคุณมาก่อน” หญิงสาวปากชมเปราะด้วยน้ำเสียงพร่าแผ่วเบาแต่นั่นมันบอกให้เขารู้ว่าเธอผ่านมานักต่อนัก“หึ ลืมไม่ลงเลยหรือเปล่า” คาเมรอนหัวเราะเบาๆ กับความหมายที่ว่าเร่าร้อนกว่าใครๆ ก่อนจะจัดการกับปราการณ์ที่ห่อหุ้มกายแกร่งเอาไว้แล้วโยนทิ้งถังขยะเช่นเดิม“ใครจะลืมคุณลง ฉันชอบคุณนะคะ” ชอบอย่างนั้นหรือ ชอบคืออะไร หรือว่าเธออยากจะจริงจ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 7

    “เอาน่าสู้ๆ อย่าลืมนะฝากอ่อยประธานบริษัทคนใหม่ให้เมย์ด้วย ฮ่าๆ” เมษายังเล่นมุขไม่เลิก ทั้งที่รู้ว่าเวียงพิงค์เป็นคนขี้อายพอสมควร“มันง่ายอย่างนั้นก็ดีสิ จะได้อ่อยเอาไว้เอง แต่หางตาเขาจะแลเราหรือเปล่า”“ฮั่นแน่แสดงว่าสนใจ อยากอ่อยเองใช่ไหมล่ะ ถ้าเขาโสดก็น่าสนใจนะ”“เลอะเทอะแล้วเมย์น่ะ เราเป็นใครเขาเป็นใคร คนระดับนั้นไม่มาคลุกคลี่กับพนักงานตัวเล็กๆ หรอกที่สำคัญผู้หญิงของเขา พิ้งค์ว่าต้องระดับดารานางแบบโน่น”“ไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าตาบ้างเหรอ เตี้ยๆ อย่างนี้อาจจะตรงสเปค” เมษาแซวยิ้มๆ“ไม่จ้ะ เลิกคิดไปได้เลย เพ้อฝันมาก” เวียงพิงค์ปฏิเสธทันควัน“แหมอย่างน้อยคนเราก็มีสิทธิ์เพ้อฝันเพื่อความสุขของตัวเองเหมือนกันแหละน่า”“จ้า แม่คนเพ้อฝัน ตั้งใจขับรถไปเลย เดี๋ยวพิ้งค์จะไปทำงานสาย” เวียงพิงค์บอกและยิ้มบางๆ จากนั้นเมษาจึงได้ตั้งใจขับรถต่อไปจนกระทั่งถึงบริษัทอัญมณียักษ์ใหญ่ของเมืองไทย บริษัทดูใหญ่โต หรูหรา สูงหลายสิบชั้น ทางขึ้นคล้ายกับโรงแรมมี

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 8

    อให้ความคิดเห็นกันอยู่ตลอดเกือบจะทุกเวลา ฉะนั้นทั้งสองฝ่ายอยู่ในชั้นเดียวกัน แบ่งโซนให้อยู่กันอย่างชัดเจน ซึ่งก็ไม่ต่างกับออฟฟิตทั่วไปสักเท่าไหร่ เมื่อการมาเยือนของรสสุคันธ์ พร้อมกับพนักงานคนใหม่ พนักงานคนอื่นๆ จึงพากันหันมามองเป็นตาเดียว และแน่นอนว่าทุกคนรู้ว่าเวียงพิงค์เป็นใคร เพราะได้ไปร่วมงานประกวดพร้อมกันหมด เสียงซุบซิบนินทาจึงเกิดขึ้น แต่เป็นแง่ดี นั่นคือความสวยน่ารักของเวียงพิงค์นั่นเอง“สาวๆ ผู้จัดการทั้งสองอยู่ในห้องใช่ไหม” รสสุคนธ์เอ่ยถามกับพนักงานที่กำลังจับกลุ่มกันคุยงานพอดี“ผู้จัดการอยู่ในห้องค่ะ” พนักงานสาวคนหนึ่งตอบ“โอเคขอบใจจ้ะ ปะพิ้งค์ไปหาผู้จัดการของพิ้งค์กัน” พูดจบรสสุคนธ์จึงเดินนำหน้าอีกครั้งกระทั่งถึงห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายออกแบบก่อน เพราะเวียงพิงค์ต้องเป็นดีไซเนอร์ฝ่ายนี้นั่นเองก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! รสสุคนธ์เคาะประตูอย่างมีมารยาทและรอกระทั่งได้รับอนุญาต“เชิญค่ะ” น้ำเสียงของผู้จัดการดูเหมือนผู้ชาย แต่คล้ายไปทางผู้หญิง คิดว่าคงเข้าใจไม่ผิดแน่ เวียงพิงค์หวาดหวั่นอยู่ไม่น้อ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 9

    “เหรอคะ พูดถึงท่าน แล้วท่านดุหรือเปล่าคะ ดูเหมือนที่พิ้งค์เห็นจากระยะไกลการ์ดท่านเยอะมาก”“ดุ แต่ก็ใจดีเหมือนกัน เพียงแต่ท่านไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่น่ะ ไม่ต้องคิดมาก ท่านไม่เรียกพนักงานพบหรอก เวลางานมีปัญหาหรือบกพร่องท่านเรียกหัวหน้านี่แหละไป”“ความน่ากลัวก็มาตกอยู่กับหัวหน้าใช่ไหมคะ”“ฮ่าๆ ไม่หรอกจ้ะ ไม่น่ากลัวขนาดนั้นเสียหน่อย เอาล่ะไปดูโต๊ะทำงานกัน” พิรัชหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทำให้เวียงพิงค์รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยทีเดียว“ได้ค่ะ” เมื่อเวียงพิงค์รับคำแล้วจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้พิรัชก่อน ตามลำดับหัวหน้ากับลูกน้อง แล้วเธอจึงออกไปทีหลัง พิรัชเดินนำมาถึงโต๊ะทำงานที่เป็นของเวียงพิงค์ ซึ่งโต๊ะทำงานของเธอก็มีฉากกั้นเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือ มีโต๊ะทำงานโต๊ะเดียวเท่านั้น คิดว่าคงจัดไว้สำหรับดีไซเนอร์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ จากนั้นพิรัชจึงได้พาเวียงพิงค์ไปแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมงานและฝ่ายการตลาดตามลำดับต

บทล่าสุด

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 26

    คาเมรอนยังคงปรนเปรอเธอด้วยการลากลิ้นอุ่นๆ โลมไล้ไปทั่วทั้งหน้าท้องจนถึงท้องน้อย และจับที่ชุดของเธอเอาไว้ค่อยๆ รูดลงจากเอวอย่างช้าๆ เพื่อลุ้นว่าความงามตรงหน้าจะน่าหลงใหลเพียงใด“คุณ... พอเถอะค่ะ พิ้งค์กลัว” เวียงพิงค์ยังมีสติมากพอที่จะห้ามปราม ทว่าเขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินก่อนจะรั้งชุดลงมาจึงถึงต้นขา ทำให้เนินเนื้ออวบนุ่มโผล่เผยยั่วตาพร้อมกับมีไหมพรมสีดำอ่อนๆ ปกคลุมเพียงเล็กน้อย ราวกับสาวแรกรุ่น เขาใจเต้นระทึกกับความงามที่ยังปิดสนิทแน่นราวกับไม่เคยมีผีเสื้อตัวใดลองลิ้มชิมความหวาน และเขาหมายจะเป็นตัวแรกและตัวเดียวเสียเต็มประดาเวียงพิงค์ได้แต่หลับตาพริ้มหนีความน่าอับอายในครั้งนี้ พร้อมกับกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้เช่นเดิม เมื่อเขารั้งชุดลงไปกองที่ปลายเท้าทั้งหมด ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาลูบไล้เนินสวาทเบาๆ“พระเจ้า คุณสวยมาก” เขาออกปากชมด้วยความลืมตัว จากนั้นจึงส่งผ่านลิ้นอุ่นออกมาแตะเบาๆ ที่กลีบกุหลาบนั้น ความร้อนจากลิ้นสากทำให้หญิงสาวสะดุ้งและเสียวซ่าน เมื่อเขาสอดแทรกลิ้นอุ่นลึกล้ำจนถึงเกสรเล็กๆ ที่กระ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 25

    ขณะที่เวียงพิงค์ไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน จากมือที่น้อยพยายามผลักไสและทุบตี กลับกลายเป็นวางแหมะบนแผงอกกว้างพร้อมกับจับสาบเสื้อสูทของเขาเอาไว้ ส่วนมือหนาของเขาก็เริ่มสะเปะสะปะซุกซนตั้งแต่ต้นคอ ไล่ลงมาถึงหัวไหล่ ลูบไล้ช้าๆ กระทั่งถึงต้นแขนก่อนจะรั้งเธอเข้ามากอดแนบและยังคงจูบเร่าร้อนเช่นเดิม แล้วเอื้อมมือข้างขวาลงไปลูบไล้สะโพกเต่งตึง เวียงพิงค์ได้สติรีบบิดตัวหนี แต่ไม่พ้นเมื่อเขาถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของด้วยการบีบเค้นและขยำเบาๆ “อืม” เวียงพิงค์ครางอู้อี้อยู่ในลำคอเมื่อถูกรุกราน แต่มือหนากลับทำให้เธอตกใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการลูบลงไปจนถึงเรียวขา แล้วอยู่ๆ เขาก็สอดแทรกฝ่ามือร้อนๆ เข้าไปใต้ชายกระโปร่ง“อืม!” เธอพยายามทัดทานและบิดหนี กระทั่งฝ่ามือร้อนๆ เริ่มลูบไล้สะโพกกลมกลึงผ่านกางเกงชั้นใน และตกใจยิ่งกว่าเมื่อเขาเคลื่อนฝ่ามือมาทางด้านหน้าจนได้พบกับสิ่งที่เธอหวงแหน และเขาอยากได้พร้อมกับตีราคาให้เรียบร้อย ซึ่งพบว่ามันน่าหลงใหลมากเพราะได้สัมผัสกับความอวบนุ่มภายใต้กางเกงชั้นในตัวสวย“พระเจ้า” เขาถอน

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 24

    “พิ้งค์ก็ไม่ได้ขึ้นมาให้คุณดูถูก และทำตัวน่ารักไม่เป็นด้วย อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าพิ้งค์ปฏิเสธมันจะเป็นยังไง” ดูเหมือนเธอจะมั่นใจเสียเหลือเกินว่าจะปฏิเสธเขาได้ เขาคิดและยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ เพราะความรู้สึกที่ยังเป็นต่ออยู่“คิดว่าผมจะไล่คุณออกอย่างนั้นเหรอ เปล่าเสียหน่อยมันไม่ง่ายขนาดนั้น กว่าผมจะใช้เวลาเอาคุณมาอยู่ที่นี่รู้ใช่ไหมว่ามันนาน” เอามาอยู่ที่นี่หมายความว่ายังไงกัน แต่เธอจะไม่ถามเพราะอยากจะออกไปจากห้องนี้เสียเต็มประดา“เอาสิ ปฏิเสธ แล้ววันพรุ่งนี้ ผมจะเรียกคุณขึ้นไปหาบนห้องทำงานแทน คิดว่าคนอื่นก็คงจะอยากรู้เพราะผมไม่เคยเรียกใครโดยเฉพาะพนักงานระดับล่าง” จองหอง ทะนงตัวและคิดว่าเธอจะยอมสินะ“คุณต้องการ... ต้องการแค่... คุณดูถูกผู้หญิง ดูถูกพิ้งค์”“ไม่ถูกหรอกมั้ง ฟังข้อเสนอแล้วมันจะแพงขึ้นมาทันที” เขาพูดพลางเดินเข้าไปใกล้ๆ ช้าๆ“ถอยไปนะคะพิ้งค์จะกลับ” พูดจบเธอก็เอี้ยวตัวจากไปทันที แต่... เขาแทรกขึ้นเสียก่อน

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 23

    “ทำไมต้องทำขนาดนั้น ครอบครัวมีปัญหาเหรอ”“ค่ะ แม่ไม่ค่อยสบายทำงานไม่ได้ พิ้งค์เลยต้องหาเลี้ยงแล้วส่งเงินกลับไปให้ท่าน”“ได้ยินมาว่าทำเฉพาะงาน... กลางคืน” ดูเหมือนว่าเขาจะเน้นคำว่ากลางคืนเสียจริง“ก็กลางวันพิ้งค์เรียน และงานกลางคืนมันก็รายได้ดี” เธอตอบตามความซื่อ“เคยทำงานกลางคืนที่รายได้ดีที่สุดหรือเปล่า” เขาถามอย่างมีเลศนัย ดวงตาวาวโรจน์แต่ใบหน้าเรียบตึง ทว่าคำถามของเขากลับทำให้เวียงพิงค์มองกลับด้วยความสงสัย และคิดว่าเขากำลังดูถูกเธอแน่ๆ“หมายความว่ายังไงคะ พิ้งค์ไม่เข้าใจ”“คุณเข้าใจ คุณไม่ได้โง่ แล้วเคยหรือเปล่า”“ท่าน พิ้งค์ไม่ใช่ พิ้งค์ไม่เคยทำงานแบบนั้น”“ฮ่าๆ ผมอ่านประวัติคุณหมดแล้ว” เขาหัวเราะอย่างนั้นหรือ ให้ตายสิเยาะเย้ยเธอหรือเปล่าเนี่ย“อ่านหมดแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าพิ้งค์จะทำ ทำไมคะถ้าประวัติด่างพร้อยท

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 22

    “ผมรออยู่” คาเมรอนบอกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบเช่นเดิม เพราะเวียงพิงค์ยังยืนนิ่งและไม่ยอมหันกลับมาเลย แต่เมื่อได้ยินคำสั่งครั้งที่สอง เธอจึงค่อยๆ เอี้ยวตัวกลับมาอย่างช้าๆ พลางก้มหน้าเล็กน้อยเพราะไม่กล้าสบตา แต่ดวงตาคมกริบกลับจับจ้องใบหน้าสวยหวานน่ารักอย่างไม่วางตา ก่อนจะหรี่ลงเล็กน้อยและมองใบหน้าหวานรูปไข่ ไล่ลงมาที่จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากกระจับบางๆ แต่เอิบอิ่ม สีชมพูระเรื่อด้วย ลิปกลอส แต่มันน่ามองตรงที่เธอกำลังกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความประหม่า ยอมรับว่าอิริยาบทแบบนี้ทำให้เขาหัวใจเต้นแรงมาก “ทักทายกันหน่อยดีไหม ก่อนจะเริ่มเรื่อง” คาเมรอนเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เวียงพิงค์จึงตวัดหางตามองเขาเพียงเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นไหว้“สวัสดีค่ะท่าน ฉันชื่อเวียงพิงค์ค่ะ” เวียงพิงค์กล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงสั่นและก้มหน้าเช่นเดิม“จะนั่งหรือจะยืนค้ำหัว” คาเมรอนถามแกมตำหนิเล็กน้อย เวียงพิงค์จึงได้เงยหน้าขึ้นมองเขาตรงๆ เพราะเข้าใจว่ากำลังถูกตำหนิ“เอ่อ ขอโทษค่ะ” เวียงพิงค์ก้มหน้าเอ่ยอีกครั้ง แล้วจึงเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับเขาด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมอย่างที่สุด พร้อมกับรอคำตำหนิจากเจ้านายหนุ่มที่นั่งนิ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 21

    ส่วนทางด้านทีมของพิรัชนั้น บางคนก็ยังอยู่แต่บางคนขอกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อพักผ่อน ทว่าเวียงพิงค์ยังอยู่ในงานกับพิรัชและอมิตาเช่นเดิม ซึ่งระหว่างที่พิรัชกำลังหาของกินตามซุ้มต่างๆ อยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น ทำให้รีบวางทุกอย่างแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากเสื้อสูททันที พอเห็นเบอร์โทรศัพท์โชว์หราเท่านั้นแหละ อยากเป็นลมมันเสียตรงนี้เลย “คุณพระคุณเจ้า อกอีรัชจะแตก” พิรัชอุทานออกมาเบาๆ พลางยกมือขึ้นทาบหน้าอกด้วยความตกใจไม่กล้ารับสาย แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจเพราะคิดในแง่ดีว่ามันอาจจะไม่เลวร้ายก็เป็นได้“สวัสดีค่ะ เอ้ย! สวัสดีครับท่าน” พิรัชลืมตัวด้วยการลงท้ายแบบผิดๆ แต่ปลายสายก็ไม่ได้ว่าอะไร“คุณรัช ผมบอกแล้วใช่ไหมว่า...” เสียงปลายสายบ่งบอกว่าไม่พอใจและพร้อมที่จะเรียกลูกน้องของพิรัชคนใดคนหนึ่งขึ้นไปหาก็ได้“เอ่อท่านครับ คือเอ่อ... เรื่องนี้รัชรับผิดชอบเองนะครับ คือรัชเทรนน้องไม่ดีพอ เลยทำให้น้องตื่นเต้นบนเวที จำสคริปไม่ได้” พิรัชรีบเสนอตัวแทนทันที แถมยังรู้อีกต่างหากว่าคาเมรอนจะพูดเรื่องอะไร “คุณรัช จุดไหนที่มีปัญหาผมก็ปรับจุดนั้น คนก็เหมือนกัน แล้วไม่ต้องออกหน้ารับแทน คุณได้รับผล

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 20

    “เอ่อ ฤดูฝนใกล้เข้ามา และตัวแทนของน้ำค้างคือเพชรรูปหยดน้ำเกาะบนกิ่งไม้” เธอจำได้และเริ่มพูดต่อขณะที่นางแบบเดินลงไปหน้าเวทีให้แขกได้ชม ถือว่าเป็นชุดที่เรียบหรูและดูดีอีกหนึ่งชุด และสามารถใส่ออกงานได้อย่างสบายจากนั้นนางแบบก็เดินกลับขึ้นบนเวที“เอ่อ ขอบคุณมากค่ะ” เวียงพิงค์ตัดบทเพราะพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว จากนั้นจึงเดินกลับเข้าหลังเวทีไปเลย ทุกคนไม่โอเคกับความประหม่าของเธอ แต่เพราะความน่ารักและยังเป็นน้องใหม่อยู่ จึงให้อภัยได้ ยกเว้นก็แต่คาเมรอนที่ไม่ให้อภัยในความผิดพลาดครั้งนี้ เขาแทบจะส่ายหน้าด้วยความผิดหวังและโมโหอยู่ในใจ ขณะเดียวกันนางแบบก็เดินโชว์อีกรอบ“พิ้งค์เป็นอะไรมากหรือเปล่า ตื่นเต้นมากไหม ฮืม” พิรัชรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงและตกใจมาก“พี่รัช พิ้งค์ขอโทษค่ะ พิ้งค์สั่นไปหมดเลย เหมือนถูกจับผิด พูดผิดพูดถูกหมดแล้ว จำสคริปไม่ได้ค่ะ” เวียงพิงค์น้ำเสียงสั่นเครือราวกับจะร้องไห้“ไม่เป็นไร นี่มันครั้งแรกไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดหรอก แต่ดูสั่นๆ ยังไงชอบกล”&n

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 19

    “ดูท่าทางพวกเราจะหม่องไปเลยถ้าอยู่ในงาน” อมิตาแทรกขึ้น จากนั้นพิรัชจึงหันกลับไปมองทุกคนก่อนจะถาม“สาวๆ หิวกันไหม หาอะไรกินรองท้องก่อนดีหรือเปล่า ถ้าท่านประธานมาเปิดงานแล้วจะหมดโอกาสกินนะ” พิรัชบอกด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรค่ะพี่รัช เสร็จงานแล้วพวกเราค่อยกินดีกว่า ตื่นเต้นไม่กล้าออกไป” อมิตาให้ความเห็นซึ่งทุกคนก็เห็นดีด้วย จากนั้นจึงได้รอเวลาเปิดงาน“สวัสดีครับ แขกท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน กระผมวาคิม อมรเวช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท Grey&M Jewelry จำกัด (มหาชน) รับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการบนเวทีในค่ำคืนนี้ ขอต้อนรับแขกทุกท่านเข้าสู่ความหรูเลิศอลังการ ดาวล้านดวง กับอัญมณีที่เลอค่าที่สุดในโลก เพชร! และรออีกเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น คุณคาเมรอน เกรย์ มหัทธนวงศ์สกุล ประธานบริษัท จะเดินทางมาเปิดงานด้วยตัวเองนะครับ แต่ตอนนี้เชิญแขกทุกท่านพักผ่อนอิริยาบถตามสบายนะครับ ขอให้มีความสุขกับค่ำคืนแสนวิเศษนี้ ขอบคุณครับ” จบคำกล่าวต้อนรับของผู้จัดการฝ่ายการตลาด สาวๆ ดีไซน์เนอร

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 18

    “เรียบร้อย หันไปดูตัวเองในกระจกสิว่าสวยแค่ไหน” พิรัชบอกอย่างชื่นชมขณะที่เพื่อนๆ ก็ต่างพากันมามุงดูเวียงพิงค์กันยกใหญ่“พี่รัชแต่งหน้าทำผมสวยมากเลยอ่ะ แต่งให้น้องบ้างเร็วๆ” ดีไซน์เนอร์คนหนึ่งขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแกมบังคับเล็กน้อย“แต่งเองเป็นอยู่แล้ว ก็แต่งเองสิยะ” พิรัชแสดงอาการแจ๋นๆ ออกมาทันที เพราะนอกเวลางานก็เป็นกันเองกับลูกน้องเสมอ“ไม่เอาอ่ะพี่รัชแต่งสวยนะคะ พรีส!” ดีไซน์เนอร์คนเดิมขอร้อง เวียงพิงค์จึงได้แต่ยิ้มหวานและหันกลับไปมองที่กระจกเงา แล้วต้องอึ้งเมื่อเห็นความสวยน่ารักของตัวเองอีกครั้ง ไม่อยากจะสำคัญตัวเองแต่ว่ามันใช่ เพราะเธอไม่ใช่คนขี้เหร่เลยแม้แต่นิดเดียว“โห๋! ว้าว! พี่รัชแต่งซะ พิ้งค์ ไม่ใช่พิ้งค์เลยค่ะ”“ไม่ใช่พิ้งค์ แต่เป็นนางซิน นี่ขนาดแต่งบางๆ นะถ้าได้ขึ้นไปเดินแบบแล้วล่ะก็ ใครๆ ก็ต้องเหลียวหลังเหมือนกัน” พิรัชไม่ถ่อมตัวเลยเพราะรู้ดีว่าฝีมือการแต่งหน้ายอดเยี่ยม“ไม่ค่อยย

DMCA.com Protection Status