Share

บทที่ 3

“ลำดับที่สิบผู้เข้าประกวดคนสุดท้าย นางสาวเวียงพิงค์ ขวัญคำ กับชื่อชุดฤดูผลิรัก” พิธีกรประกาศชื่อเวียงพิงค์เป็นคนสุดท้าย หญิงสาวจึงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วจึงเดินขึ้นเวทีพร้อมกับนางแบบรูปร่างสูงเพรียว ผิวสีน้ำผึ้ง แต่ไม่สามารถบดบังรัศมีความสวย ขาว น่ารักของเธอได้เลย แม้จะตัวเล็กแต่เวียงพิงค์เด่นราวกับดารา เพราะเธอสวยเหมือนดาราอยู่แล้ว จากนั้นเสียงเซ็งแซ่พูดคุยกันเรื่องหน้าตาของเวียงพิงค์ก็ฮอตพอๆ กับการวิจารณ์ความสวยของคอลเล็คชั่นที่เธอออกแบบ พร้อมกับเสียงปรบมือเกรียวกราว 

เวียงพิงค์ส่งยิ้มหวานโปรยให้กับแขกในงานอย่างอ่อนโยนและเขินอายในที แต่นาทีนี้เองที่เธอได้เห็นคาเมรอนเต็มๆ ใกล้ๆ และต้องรีบหุบยิ้มเพราะไม่อยากให้ใครมองว่าอ่อยประธานบริษัท แม้ในหัวใจจะเต้นตูมตามแทบจะทะลุออกมานอกอก แต่จังหวะเดียวกันนั้นคาเมรอนก็มองมาที่เวียงพิงค์ด้วยดวงตาคมกริบวาวโรจน์ สลับกับมองเครื่องประดับและนางแบบ แต่นางแบบเองก็น่าสนใจไม่น้อย และเช่นเดียวกันเมื่อกรรมการได้เห็นเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายเรียบร้อยทุกคนก็ก้มหน้าให้คะแนน เมื่อโชว์เครื่องประดับเสร็จเวียงพิงค์กลับเข้าหลังเวทีพร้อมกับนางแบบเพื่อพักผ่อนและรอฟังผล 

  ฝ่ายกรรมการทำงานด้วยความขะมักเขม้นและหนักใจ เพราะทุกชุดล้วนแล้วแต่น่าสนใจด้วยกันทั้งสิ้น แต่มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่โดดเด่นและคว้าที่หนึ่งไปครอง เคียร่าซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการลุกเดินมาหาคาเมรอนตรงโซฟา พร้อมกับเอ่ยถามความคิดเห็นบุตรชายว่าชอบชุดไหนมากที่สุด

“ความจริงแล้วสิทธิ์ขาดอยู่ที่ลูกว่าจะให้เครื่องประดับชุดไหนชนะนะคาเมล” เคียร่าถามยิ้มๆ

“ผมทราบครับ แล้วผลออกมาใกล้เคียงกันหรือเปล่า” คาเมรอนตอบเสียงเรียบ

“ก็ใกล้เคียงกันมาก มีชุดเดียวที่โดดเด่นออกมา แต่อยากรู้ใจลูกว่าจะตรงกับที่พวกแม่คิดเอาไว้หรือเปล่า” 

“มีอยู่ชุดหนึ่ง ที่ผมบอกคุณแม่ตั้งแต่แรกว่าชอบมากที่สุด เรียบง่ายไม่ต้องคิดเยอะ”

“ชุดนั้นเหรอ คิดเหมือนกันเลย แม่ว่าสวย ดูดี เรียบๆ แต่หรูดูเป็นธรรมชาติมากๆ เอ๊ะหรือว่าชอบคนดีไซด์ด้วย” 

“เอ่อ... เปล่าครับ... คือก็... อาจจะมีบ้าง แต่ผมชอบนางแบบมากกว่า” คาเมรอนตอบเลี่ยงๆ ราวกับไม่สนใจสักเท่าไหร่

“โรคเจ้าชู้รักษาไม่หาย แม่ไปละจะเอาผลคะแนนไปรวม” 

“ครับผม” คาเมรอนตื่นเต้นไม่น้อยที่ผลคะแนนจะออกมาเป็นเอกฉันท์ เนื่องจากว่าทุกคนชอบไปในทิศทางเดียวกันหมด เมื่อรวบรวมคะแนนได้แล้ว ตอนนี้เป็นวินาทีที่ผู้เข้าแข่งขันต้องถูกเรียกตัวขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งพร้อมกับนางแบบที่สวมใส่เครื่องประดับของตัวเอง

“ขอเสียงปรบมือให้กับผู้เข้าประกวดทั้งสิบคนอีกครั้งหนึ่งครับ” พิธีกรกล่าวอีกครั้ง เมื่อทุกคนมาพร้อมกันบนเวทีและยืนเรียงแถวหน้ากระดาน จากนั้นเสียงปรบมือจึงดังสนั่นห้องแกรนด์บอลรูม

“วินาทีต่อจากนี้ไปคงเป็นความตื่นเต้นของดีไซเนอร์มือพระกาฬทั้งสิบคน ไม่เว้นแม้กระทั่งผม ซึ่งก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะครับ แต่ก่อนอื่นผมจะแจ้งรายละเอียดของรางวัลทั้งหมดเสียก่อนนะครับ สำหรับชนะเลิศอันดับหนึ่งรับเงินสดห้าแสนบาทพร้อมกับเซ็นสัญญาเป็นดีไซเนอร์ของบริษัท Grey&M Jewelry เป็นเวลาสี่ปี เพียงคนเดียวเท่านั้น รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง รับเงินสดสามแสนบาทและรองชนะเลิศอันดับที่สามรับเงินสดไปหนึ่งแสนบาท แน่นอนครับหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้เซ็นสัญญา ผมอยากให้นางแบบเดินโชว์ตัวอีกครั้งหนึ่งนะครับ ลงไปให้กรรมการและแขกของเราเห็นใกล้ๆ” เมื่อพิธีกรพูดจบนางแบบจึงเดินเรียงแถวโชว์เครื่องประดับทีละคน เพื่อให้กรรมการและคนในงานเห็นอีกรอบ 

ขณะเดียวกันคาเมรอนไม่ได้จับจ้องที่เครื่องประดับอีกแล้ว เพราะเขาหมายมุ่งไปที่เจ้าของคอลเล็คชั่นต่างหาก ทำเอาคนที่ถูกมองถึงกับต้องเมินหน้าหนีไปทางอื่น เพราะสายตาของคาเมรอนที่มองมานั่นราวกับจะกลืนกิน แม้จะมองจากระยะไกลแต่ก็รู้สึกได้ ไม่ต่างอะไรกับถูกลวนลามทางสายตาชอบกล

“เอาล่ะครับ วินาทีสำคัญมาถึงแล้วนะครับ รายชื่อผู้ชนะเลิศและรองทั้งสองอยู่ในมือผมแล้ว หวังว่าจะตรงใจท่านผู้ชมนะครับ ผมขอประกาศรองอันดับสองก่อน รางวัลรองชนะเลิศอันดับสองได้แก่...” พิธีกรในงานเริ่มประกาศอันดับสามทุกคนก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พร้อมกับเสียงเพลงกระหึ่มหัวใจ

“ได้แก่นายจักราวุธ เหลืองอร่ามครับผม” เมื่อขานชื่อเสร็จเจ้าของชื่อก้มศีรษะลงพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ขณะที่เสียงปรบมือดังกึกก้อง แม้จะไม่ได้ที่หนึ่งแต่เขาก็ดีใจ จากนั้นจึงได้เคียรร่ามอบรางวัลให้

“ลำดับต่อไปนะครับผม รองชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง ได้แก่...” พอพิธีกรพูดจบเสียงดนตรีก็ดังขึ้นอีกครั้งเพื่อบีบคั้นหัวใจและทันทีที่เสียงดนตรีจบพิธีกรก็ประกาศชื่อ

“ได้แก่นางสาวนริศรา ประเสริฐสกุล” เมื่อพิธีกรหนุ่มประกาศชื่อออกไปแล้ว เจ้าของชื่อจึงยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ทว่าเวียงพิงค์กลับมีอาการเหมือนคนจะเป็นลม เพราะสองคนที่ได้อันดับรองนั้นดีไซน์ออกมาสวยพอๆ กันเมื่ออันดับสองรับรางวัลเสร็จก็ถึงวินาทีที่บีบคั้นหัวใจมากที่สุด 

“ต่อไปเป็นรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง เจ้าของเงินสดห้าแสนพร้อมกับเซ็นสัญญาเข้าทำงานในบริษัทอัญมณียักษ์ใหญ่ของเมืองไทย น่าตื่นเต้นแทนผู้เข้าประกวดจริงๆ เลยครับ และรางวัลชนะเลิศอันดับที่หนึ่งได้แก่...” เป็นอีกครั้งที่เสียงดนตรีจะบีบคั้นหัวใจของผู้เข้าประกวดอีกแปดคน แต่ละคนก็แทบจะเป็นลมเลยทีเดียว

“ได้แก่! นางสาวเวียงพิงค์ ขวัญคำ เจ้าของชุดฤดูผลิรัก!!! ครับผม” เมื่อสิ้นสุดการประกาศเวียงพิงค์ถึงกับอึ้งและช็อก ทั้งดีใจและตื้นตันจนทำอะไรไม่ถูกขณะที่เสียงปรบมือดังลั่นอีกครั้ง แทบจะไม่ค้านสายตาคนดูเลยเพราะทุกคนมองว่าฤดูผลิรักสวย และเรียบหรูมาก ไม่เยอะและไม่น้อยจนเกินไป แต่เวียงพิงค์ก็ยังช็อกอยู่ จนสุดท้ายผู้เข้าประกวดคนอื่นเข้ามาแสดงความยินดีเธอจึงได้สติกลับมาและยกมือไหว้พร้อมกับน้ำตาหลอเบ้าด้วยความตื่นตัน

“ขออนุญาตเรียนเชิญอดีตประธานบริษัท Grey&M เจ้าสัวหัสนัยน์ขึ้นมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศด้วยครับท่าน” ความจริงแล้วคนที่ต้องขึ้นมองคือคาเมรอน แต่เพราะเขาวางแผนกับบิดาไว้ตั้งแต่แรกว่าไม่อยากเปิดตัวในตอนนี้ จึงให้บิดาเป็นคนจัดการทั้งหมด หัสนัยน์จึงลุกขึ้นยืนและหันมาค้อมศีรษะให้กับทุกคนในงาน ก่อนจะเดินขึ้นเวที พร้อมกับมอบป้ายเงินรางวัลห้าแสนบาทให้กับเวียงพิงค์ และมอบโล่รางวัลให้ทั้งสามคน จากนั้นผู้เข้าแข่งขันที่เหลือก็ยังได้รางวัลปลอบใจซึ่งเป็นค่าสมองค่าความคิด คนละหนึ่งหมื่นบาทและใบประกาศ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเคยเข้าร่วมการแข่งขันและเป็นหนึ่งในสิบคนมาก่อน 

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นทุกคนกลับลงสู่หลังเวที เมษาซึ่งรอแสดงความยินดีกับเวียงพิงค์ก็วิ่งเข้ามาสวมกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจระคนด้วยน้ำตาที่ปริ่มพร้อมจะไหลเอ่อ

“สำเร็จแล้วนะยัยเตี้ย” เมษาบอกด้วยความดีใจพร้อมกับน้ำเสียงสั่นเครือ

“จ้ะเมย์ ขอบคุณมาก พิ้งค์ขอบคุณเมย์มากที่บังคับให้พิ้งค์มาประกวด” เวียงพิงค์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“เพราะตัวพิ้งค์เองต่างหาก เก่งอยู่แล้ว เมย์แค่บังคับมาเฉยๆ” พูดจบเมษาจึงดันตัวเองออกมาเล็กน้อย

“เอาน่ายังไงก็เพราะเมย์ และพิ้งค์ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันนี้” 

“ก็มีแล้วไง หืม ดีใจด้วยจ้ะไม่ร้องไห้นะ อย่าลืมโทรไปบอกข่าวดีให้แม่และน้ารู้ล่ะป่านนี้คงลุ้นแย่แล้ว” 

  “จ้ะ ไม่ลืมแน่ๆ” เวียงพิงค์รับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ จังหวะเดียวกันทีมงานคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเวียงพิงค์พอดี

“คุณเวียงพิงค์คะ ดิฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัท Grey&M พรุ่งนี้รบกวนเข้าไปเซ็นสัญญาโดยเร็วเลยนะคะ งานรอเพียบเลยค่ะ” ผู้จัดการสาวบอกด้วยความตื่นเต้นและยิ้มอย่างเป็นมิตร

“เซ็น! พรุ่งนี้เลยเหรอคะ” เวียงพิงค์ถามอย่างตกใจ

“เร็วไปไหมคะ เตรียมตัวทันไหม” ผู้จัดการสาวถามกลับยิ้มๆ

“ทัน... ทันค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” ถึงจะไม่ทันก็ต้องตอบว่าทันอยู่แล้วโดยธรรมชาติเพราะอยากทำงาน

“ท่านประธานอยากให้ทำงานเลยค่ะ พอดีมีคอลเลคชั่นใหม่เข้ามา ท่านอยากให้ผู้ที่ได้รางวัล ซึ่งคือคุณเป็นผู้ออกแบบน่ะค่ะ”

“น่าตื่นเต้นจัง น่ากลัวด้วยค่ะ” เวียงพิงค์บอกอย่างซื่อๆ 

“ฮ่าๆ ไม่ต้องกลัวนะคะ ฝีมือคุณยอดเยี่ยมมากพรุ่งนี้เจอกันแปดโมงครึ่งนะคะ”

“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สวัสดีค่ะ” เวียงพิงค์บอกอย่างขอบคุณพลางยกมือไหว้ ซึ่งผู้จัดการสาวก็ยกมือไหว้รับเช่นกัน จากนั้นจึงเดินจากไปอย่างมีความสุข เมื่ออยู่กันตามลำพังเพื่อนรักทั้งสองจึงสวมกอดกันอีกครั้ง

“โชคดีที่สุดในโลกเลยยัยเตี้ย ฮืม” 

ต่อมาภายในงาน ก็ทำพิธีปิดอย่างสวยงามสมหน้าสมตาบริษัทยักษ์ใหญ่ ผู้เข้าประกวดทั้งอิ่มเอมใจ มีความสุข บ้างก็ผิดหวังกลับบ้าน ทว่าคาเมรอนไม่ได้ทำให้อีกเจ็ดคนที่เหลือซึ่งไม่ได้รับรางวัลต้องกลับบ้านมือเปล่า อย่างที่บอกทุกคนได้รับเงินสดคนละหนึ่งหมื่นบาท และคาเมรอนขอซื้อผลงานทุกชุดเพื่อผลิตออกมาจำหน่าย ทุกคนจะได้รู้ว่าผลงานทั้งหมดที่ผ่านกระบวนการคิดมาเป็นอย่างดีนั้นมันมีค่าทุกชุด เพียงแต่การประกวดต้องมีหนึ่งเดียวเท่านั้นและมันจำเป็นที่จะต้องเลือกเวียงพิงค์

 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status