แชร์

บทที่ 6

ผู้แต่ง: มณีมายา/แอล/รมตี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56

“โอ้ว อ่า...” เขาไม่ได้ฟังว่าเธอพูดอะไร แต่กลับขยับเร่งตัวเองอย่างรวดเร็ว ทว่าเทย่าก็กรีดร้องลั่นเมื่อกายแกร่งทะยานพาเธอมาถึงจุดหมาย สองมือกุมขยับทรวงอกตัวเองอย่างผ่อนคลายและล่องลอย ขณะที่คาเมรอนยังรุกเร้าโรมรันไม่ยอมหยุด จนกระทั่งเขากดสะโพกให้แนบแน่นกับบั้นท้ายกลมกลึง พร้อมกับกายแกร่งกระตุกหนักๆ และปลดปล่อยลาวาอุ่นๆ ไหลอยู่ภายในปราการณ์เช่นเดิม ร่างของเทย่าฟุบลงกับที่นอนและซบใบหน้าลงกับหมอน แต่เขาคุกเข่ามองร่างบางที่ไร้เรี่ยวแรง พร้อมกับรอให้ตัวเองผ่อนคลายก่อนจะเอื้อมมือลูบไล้แผ่นหลังและสะโพกสวยเพื่อเมคเลิฟเบาๆ แต่ถ้าจะให้ลงไปคลอเคลียเขากลับไม่มีอารมณ์แบบนั้น

“อืม คาเมล ฉันไม่เคยเจอใครที่เร่าร้อนเท่าคุณมาก่อน” หญิงสาวปากชมเปราะด้วยน้ำเสียงพร่าแผ่วเบาแต่นั่นมันบอกให้เขารู้ว่าเธอผ่านมานักต่อนัก

“หึ ลืมไม่ลงเลยหรือเปล่า” คาเมรอนหัวเราะเบาๆ กับความหมายที่ว่าเร่าร้อนกว่าใครๆ ก่อนจะจัดการกับปราการณ์ที่ห่อหุ้มกายแกร่งเอาไว้แล้วโยนทิ้งถังขยะเช่นเดิม

“ใครจะลืมคุณลง ฉันชอบคุณนะคะ” ชอบอย่างนั้นหรือ ชอบคืออะไร หรือว่าเธออยากจะจริงจังกับเขา

“ผมรู้” เขาตอบด้วยความมั่นใจเลยทีเดียว เพราะไม่มีใครไม่ชอบเขาหรอก และเมื่อพูดจบเขาก็ขยับลงมานอนเคียงข้างกับเธอ แต่กลับนอนหันหลังให้เธออีกครั้ง 

“กอดกันหน่อยได้ไหมคะ คาเมล” เธอไม่ใช่คนพิเศษสำหรับเขาเสียหน่อยทำไมต้องกอดเอาใจด้วย เขาคิดแต่แสร้งหลับตาราวกับอ่อนเพลียเสียเหลือเกิน

“ผมเหนื่อย ง่วงมากครับ” เขาตอบน้ำเสียงเรียบขึ้นมาก เทย่าจึงต้องเป็นฝ่ายขยับเข้าไปสวมกอดเขาทางด้านหลังแทน จากนั้นจึงได้ตวัดผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอาไว้ แต่ชั่วครู่เท่านั้นเธอก็ได้ยินเสียงหายใจที่ดังสม่ำเสมอเหมือนคนหลับลึกและตามมาด้วยเสียงกรนเบาๆ 

“คาเมล อย่าบอกนะว่าหลับแล้ว อะไรจะหลับเร็วปานนั้น สงสัยเหนื่อยจริงๆ ก็ตั้งหลายรอบนี่เนอะ” เธอบ่นให้เขานิดหน่อย แต่เมื่อนึกถึงบทรักที่ผ่านมาตลอดทั้งคืนมันก็ทำให้เธอแทบคลั่ง จึงอ่อนเพลียหมดแรงเป็นธรรมดา

“ฝันดีนะคะ ทูนหัวของเทย่า” ทูนหัวเลยหรือ ให้ตายสิเธอหมายจะจริงจังกับเขาแน่ๆ เขาคิดพลางลืมตาขึ้นอย่างหนักใจ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ แต่แล้วอยู่ๆ ภาพของหญิงสาวร่างบาง สวย ขาว น่ารัก น่าทะนุถนอม เจ้าของรางวัลชนะเลิศในค่ำคืนที่ผ่านมานั้น ก็ปรากฏขึ้นมากลางใจอย่างห้ามไม่ได้ พรุ่งนี้แล้วสินะที่เธอไปเซ็นสัญญาทำงาน 

เวลานี้คาเมรอนพยายามนึกแผนการอยู่ในใจ ว่าทำอย่างไรจึงจะได้ครอบครองความสวยน่ารักแบบนั้น จะบริสุทธิ์ไร้เดียงสาหรือเปล่า หรือไม่ต่างกับแม่เสือสาวอย่างเทย่า ผู้หญิงสมัยนี้ก็แทบจะหาความบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่ได้ ถึงจะมีแต่ก็หากยากเหลือเกิน และตั้งแต่เขาเป็นหนุ่มนักรัก ครั้งแรกในชีวิตของการเป็นวัยรุ่นจวบจนถึงวัยผู้ใหญ่ ยังไม่เคยเจอสาวบริสุทธิ์สักครั้ง แต่หากหญิงสาวคนนั้นจะไม่เป็นอย่างที่คิดมันจะแปลกอะไร ดีเสียอีกหากได้ครอบครองก็ไม่จำเป็นต้องสอนวิชาและสามารถสนองอารมณ์เขาได้ทุกลีลา

เช้าวันใหม่ คาเมรอนรีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เพื่อจะได้กลับบ้านโดยเร็ว เสร็จแล้วจึงได้มายืนมองหญิงสาวแสนสวยสุดเซ็กซี่ นอนเปลือยกายซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลอ่อนทรงเสน่ห์คู่เมื่อคืนนั้น กลับแปรเปลี่ยนเป็นความเฉยชา ใบหน้าหล่อเหลาเรียบตึงไร้ความรู้สึก ชั่วครู่เขาหันไปหยิบกระเป๋าเอกสารใบเล็กๆ แล้วเปิดเอาสมุดเช็กออกมา พร้อมกับบรรจงเขียนตัวเลขลงไปมากพอสมควร มากกว่าการเดินแบบครั้งหนึ่งเสียด้วยซ้ำ

หนึ่งแสนบาทกับบทรักคืนเดียวแต่เร่าร้อนและยอมรับว่าลืมยาก แต่หากคิดที่จะกลับมาทบทวนกันใหม่อีกครั้ง ก็ดูจะยากอีกเหมือนกัน เพราะคาเมรอนไม่ชอบอะไรซ้ำๆ กินครั้งเดียวก็เบื่อ จากนั้นก็แสวงหาของหวานถ้วยใหม่กินไปเรื่อยๆ ไม่เคยอิ่มเอมและไม่หยุดอยู่ที่ใคร แต่ใครที่กินยากหน่อยก็ไม่ยากอะไร ถ้าจะใช้เงินเป็นตัวล่อ คนสมัยนี้แพ้เงินอยู่แล้ว 

เขาคิดพลางกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วจึงนำเช็กไปวางไว้ข้างหัวเตียง ซึ่งมีโทรศัพท์มือถือของเธอวางอยู่ เขาจึงใช้โทรศัพท์ทับเอาไว้ป้องกันการปลิวหนี เมื่อจ่ายค่าตัวเสร็จแล้วคาเมรอนจึงหยิบทุกอย่างแล้วรีบออกไปจากห้องทันที เพราะไม่อยากให้เทย่าตื่นขึ้นมาออดอ้อนหรืออ้อยอิ่งขอให้เขาอยู่ต่อ เพราะเช้าวันนี้เขามีธุระที่บริษัท แน่นอนว่าเขารอเวลานี้มานานเป็นเดือนเลยทีเดียว

 เวลาต่อมา คาเมรอนต้องรีบนั่งรถกลับบ้านโดยมีบอร์ดี้การ์ดเป็นคนขับให้ แล้วแต่งตัวเสียใหม่เพื่อจะเข้าบริษัทโดยเร็ว แปดโมงครึ่งพอดีคาเมรอนมาถึงบริษัทพร้อมกับบอร์ดี้การ์ดตามประกบเช่นเคย และเหมือนกับทุกครั้ง คือเขามักจะสวมแว่นตาดำเสียก่อน เพราะไม่อยากให้ใครเห็นแววตาที่ดุกร้าวของเขา ไม่อยากให้กลัวไปมากกว่านี้

ขณะเดียวกัน ว่าที่พนักงานน้องใหม่ของบริษัท Grey&M Jewelry อย่างเวียงพิงค์ กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการเดินทาง โดยมีเมษาขับรถมาส่ง เพื่อจะได้พาเวียงพิงค์มาให้ทันตามเวลาที่กำหนดวันแรก วันนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เรียนจบที่เวียงพิงค์เพิ่งจะมีโอกาสได้สวมชุดไปทำงานในทันที โดยไม่ต้องสมัคร แต่ชุดที่สวมใส่ก็ยังเป็นของเมษาอยู่ดีเพราะเวียงพิงค์เตรียมชุดไม่ทัน ส่วนชุดที่ใส่นั้นเป็นแบบเดรสสีฟ้า ผ้าชีฟอง แขนตุ๊กตา ยาวกระทั่งหุ้มข้อมือ ขับกับผิวขาวๆ ได้เป็นอย่างดี 

ส่วนผมยาวๆ เวียงพิงค์ปล่อยสยายแต่แบ่งผมตรงกลางศีรษะเป็นสองด้านแล้วม้วนเป็นช่อ เกี้ยวไปไว้ทางด้านหลัง จากนั้นจึงเหน็บกิ้ฟให้เรียบร้อย ใบหน้าสวยหวานแทบจะไม่ได้แต่งอะไรเลยนอกจากทาแป้งบางๆ และปัดแก้มด้วยสีชมพูระเรื่อเพียงเล็กน้อย เพราะขาวนวลสดใสอยู่แล้ว และเติมริมฝีปากให้เอิบอิ่มด้วยลิปสติกสีชมพูเท่านั้น 

“นี่ยัยเตี้ย ยิ้มหน่อยสิ จะเคร่งเครียดอะไรนักหนา” เมษาเอ่ยขึ้นขณะขับรถ

“ก็พิ้งค์ตื่นเต้นนี่นา” เวียงพิงค์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงหวานแผ่วเบา ราวกับคนไม่มั่นใจในตัวเอง

“เลิกตื่นเต้นได้แล้ว ไม่ได้ไปสัมภาษณ์งานนะ แต่ไปเซ็นสัญญาแล้วเข้าทำงานเลย” 

“พิ้งค์ก็ยังตื่นเต้นอยู่ดีนั่นแหละ” เธอตื่นเต้นเพราะอยู่ๆ ก็นึกถึงใบหน้าประธานบริษัทรูปหล่อคนนั้นต่างหาก แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้หวั่นไหว ใบหน้าแทบจะร้อนผ่าวทุกครั้งที่นึกถึง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 7

    “เอาน่าสู้ๆ อย่าลืมนะฝากอ่อยประธานบริษัทคนใหม่ให้เมย์ด้วย ฮ่าๆ” เมษายังเล่นมุขไม่เลิก ทั้งที่รู้ว่าเวียงพิงค์เป็นคนขี้อายพอสมควร“มันง่ายอย่างนั้นก็ดีสิ จะได้อ่อยเอาไว้เอง แต่หางตาเขาจะแลเราหรือเปล่า”“ฮั่นแน่แสดงว่าสนใจ อยากอ่อยเองใช่ไหมล่ะ ถ้าเขาโสดก็น่าสนใจนะ”“เลอะเทอะแล้วเมย์น่ะ เราเป็นใครเขาเป็นใคร คนระดับนั้นไม่มาคลุกคลี่กับพนักงานตัวเล็กๆ หรอกที่สำคัญผู้หญิงของเขา พิ้งค์ว่าต้องระดับดารานางแบบโน่น”“ไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าตาบ้างเหรอ เตี้ยๆ อย่างนี้อาจจะตรงสเปค” เมษาแซวยิ้มๆ“ไม่จ้ะ เลิกคิดไปได้เลย เพ้อฝันมาก” เวียงพิงค์ปฏิเสธทันควัน“แหมอย่างน้อยคนเราก็มีสิทธิ์เพ้อฝันเพื่อความสุขของตัวเองเหมือนกันแหละน่า”“จ้า แม่คนเพ้อฝัน ตั้งใจขับรถไปเลย เดี๋ยวพิ้งค์จะไปทำงานสาย” เวียงพิงค์บอกและยิ้มบางๆ จากนั้นเมษาจึงได้ตั้งใจขับรถต่อไปจนกระทั่งถึงบริษัทอัญมณียักษ์ใหญ่ของเมืองไทย บริษัทดูใหญ่โต หรูหรา สูงหลายสิบชั้น ทางขึ้นคล้ายกับโรงแรมมี

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 8

    อให้ความคิดเห็นกันอยู่ตลอดเกือบจะทุกเวลา ฉะนั้นทั้งสองฝ่ายอยู่ในชั้นเดียวกัน แบ่งโซนให้อยู่กันอย่างชัดเจน ซึ่งก็ไม่ต่างกับออฟฟิตทั่วไปสักเท่าไหร่ เมื่อการมาเยือนของรสสุคันธ์ พร้อมกับพนักงานคนใหม่ พนักงานคนอื่นๆ จึงพากันหันมามองเป็นตาเดียว และแน่นอนว่าทุกคนรู้ว่าเวียงพิงค์เป็นใคร เพราะได้ไปร่วมงานประกวดพร้อมกันหมด เสียงซุบซิบนินทาจึงเกิดขึ้น แต่เป็นแง่ดี นั่นคือความสวยน่ารักของเวียงพิงค์นั่นเอง“สาวๆ ผู้จัดการทั้งสองอยู่ในห้องใช่ไหม” รสสุคนธ์เอ่ยถามกับพนักงานที่กำลังจับกลุ่มกันคุยงานพอดี“ผู้จัดการอยู่ในห้องค่ะ” พนักงานสาวคนหนึ่งตอบ“โอเคขอบใจจ้ะ ปะพิ้งค์ไปหาผู้จัดการของพิ้งค์กัน” พูดจบรสสุคนธ์จึงเดินนำหน้าอีกครั้งกระทั่งถึงห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายออกแบบก่อน เพราะเวียงพิงค์ต้องเป็นดีไซเนอร์ฝ่ายนี้นั่นเองก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! รสสุคนธ์เคาะประตูอย่างมีมารยาทและรอกระทั่งได้รับอนุญาต“เชิญค่ะ” น้ำเสียงของผู้จัดการดูเหมือนผู้ชาย แต่คล้ายไปทางผู้หญิง คิดว่าคงเข้าใจไม่ผิดแน่ เวียงพิงค์หวาดหวั่นอยู่ไม่น้อ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 9

    “เหรอคะ พูดถึงท่าน แล้วท่านดุหรือเปล่าคะ ดูเหมือนที่พิ้งค์เห็นจากระยะไกลการ์ดท่านเยอะมาก”“ดุ แต่ก็ใจดีเหมือนกัน เพียงแต่ท่านไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่น่ะ ไม่ต้องคิดมาก ท่านไม่เรียกพนักงานพบหรอก เวลางานมีปัญหาหรือบกพร่องท่านเรียกหัวหน้านี่แหละไป”“ความน่ากลัวก็มาตกอยู่กับหัวหน้าใช่ไหมคะ”“ฮ่าๆ ไม่หรอกจ้ะ ไม่น่ากลัวขนาดนั้นเสียหน่อย เอาล่ะไปดูโต๊ะทำงานกัน” พิรัชหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทำให้เวียงพิงค์รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยทีเดียว“ได้ค่ะ” เมื่อเวียงพิงค์รับคำแล้วจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้พิรัชก่อน ตามลำดับหัวหน้ากับลูกน้อง แล้วเธอจึงออกไปทีหลัง พิรัชเดินนำมาถึงโต๊ะทำงานที่เป็นของเวียงพิงค์ ซึ่งโต๊ะทำงานของเธอก็มีฉากกั้นเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือ มีโต๊ะทำงานโต๊ะเดียวเท่านั้น คิดว่าคงจัดไว้สำหรับดีไซเนอร์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ จากนั้นพิรัชจึงได้พาเวียงพิงค์ไปแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมงานและฝ่ายการตลาดตามลำดับต

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 10

    ขณะเดียวกันเมื่อเวียงพิงค์เรียนจบ ก็รับจ๊อบทำงานกลางคืนรอการสมัครงาน จากนั้นก็ทยอยส่งเงินไปให้มารดา ถึงจะไม่มากแต่เธอก็ส่งเงินกลับบ้านทุกเดือน นี่คือประวัติที่เวียงพิงค์กรอกเอาไว้ และเท่าที่คาเมรอนอ่านคร่าวๆ ก็รู้ว่าตอนเรียนหนังสือเวียงพิงค์ทำงานทุกอย่างที่สุจริต เพื่อให้ได้เงินส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ“ทำงานทุกอย่างเลยเหรอ” คาเมรอนเอ่ยลอยๆ พลางยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ราวกับมีแผนการอยู่ในใจ แน่นอนว่าผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพื่อเงินนั้นเขาชอบอยู่แล้ว หากมีโอกาสที่ได้ทำงานแลกเงิน ไม่ว่างานแบบไหนก็รับทำอยู่แล้วกระมัง แม้แต่งานอย่างว่า เขาคิดอย่างเหยียดหยัน รู้สึกไม่พอใจเมื่อคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเวียงพิงค์ต้องเป็นผู้หญิงแบบนั้นแน่ๆ เหมือนแม่นางแบบที่เขาสอยมานอนกก“อีกไม่นานเราจะได้รู้จักกันเวียงพิงค์” เวลานี้สำหรับคาเมรอนแล้วเวียงพิงค์เป็นผู้หญิงที่เขาอยากจะใช้เวลาดูเธอให้นานกว่าคนอื่น เพราะความรู้สึกหลายๆ อย่างที่ตอบตัวเองไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่าอยากจะได้เธอ แต่ไม่อยากแสดงตัวให้ไก่ตื่น เพราะอย่างนี้เองเขาถึงซุ่มเงียบอยู่เช่นนี้และ ได้แ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 11

    “ตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยจ้ะ แต่ก็ไม่แน่ถ้ามีใครทำอะไรไม่เหมาะมากๆ เข้าท่านอาจจะเรียกเข้าพบเป็นการส่วนตัว”“งั้นพิ้งค์จะพยายามเป็นเด็กดีอยู่ในกฎระเบียบดีกว่าค่ะ ไม่งั้นแย่แน่เลย ฟังเท่านี้ยังน่ากลัว” เธออยากจะบอกเหลือเกินว่าท่านประธานอาจจะมีดีแค่ความหล่อ นอกนั้นไม่น่าเข้าใกล้เลย“ดีแล้วจ้ะ” อมิตาบอกยิ้มๆ อีกครั้ง แต่ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นั่นๆ เสียงของผู้จัดการก็ดังขึ้น“อะแฮ่ม!” พิรัชกระแอมเพื่อให้สองสาวได้รู้ตัว และทันทีที่ได้ยินเสียงทั้งคู่ก็สะดุ้งพร้อมกับหยุดคุยกัน“อุ้ย! เอ่อพี่รัช มาเมื่อไหร่คะ ตาไม่เห็นได้ยินเลย” อมิตาแสร้งถามและยิ้มแห้งๆ เพราะกลัวความผิด“มาทันได้ยินเราสองคนกำลังนินทาเจ้านาย” พิรัชบอกเสียงปกติแต่แกล้งทำตาขึงขัง“พิ้งค์ขอโทษค่ะ พอดีพิ้งค์กำลังสอบถามเรื่องงานก็เลย...”“ก็เลยถามยาวถึงคนให้งานด้วย พี่ไม่ว่าหรอกนะ เพราะได้ยินที่พิ้งค์ถาม รู้

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 12

    “อุ้ย! ไม่เอาหรอก เดี๋ยวพิ้งค์จัดการเองนั่นแหละ ไม่ต้องยุ่งเลย รออยู่ตรงนี้จะไปใส่ออกมาให้ดู” พูดจบเวียงพิงค์ก็รับชุดและรองเท้าจากเมษาทันทีก่อนจะเดินเข้าไปในห้องลองชุด เมษาได้แต่ยิ้มตามอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะถ้าไม่ขู่ว่าจะจ่ายให้ไม่มีทางรับแน่ๆเวียงพิงค์เข้าไปในห้องลองชุดเพียงห้านาทีเท่านั้นเธอก็เปิดประตูออกมา พร้อมกับชุดใหม่สีชมพูเกาะอก สั้นเหนือหัวเข่าจริงๆ ส่วนรองเท้าก็เข้ากับชุดและเท้าขาวๆ เลือกเก่งไม่เบาเลย เมษาคิดชมตัวเอง ขณะที่มองเพื่อนรักแบบทึ่งๆ และอึ้งในความสวยน่ารัก“พิ้งค์ใส่มันโอเคไหมอ่ะเมย์” เวียงพิงค์ถามด้วยความไม่มั่นใจ“มันโอเคมากพิ้งค์ โอเคกว่าชุดก่อน ที่เมย์ให้ยืมเสียอีก”“จริงเหรอ พิ้งค์ว่ามันโป๊ไหมอ่ะ กลัวเกาะอกจะหลุดด้วย”“ไม่โป๊เลยต่างหาก เรียบๆ แต่ดูดี ขับผิวมากๆ คอว่างๆ โล่งๆ เอาไว้ใส่เครื่องประดับ เอาชุดนี้แหละ ไปถอดแล้วจ่ายเงินเลย” ดูเหมือนว่าเมษาจะเป็นคนจัดแจงทุกอย่างให้เวียงพิงค์ แม้จะไม่อยากรับก็ต้องรับเพราะมันคือความหวังดี หากไม่มีเมษา เวียงพิงค์ก็ไม่รู

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 13

    แต่ถึงแม้ว่าจะทำห้องให้ดูอบอุ่นน่าอยู่เพียงใด ความเหงาก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องอยู่ดี ทั้งเหงาและคิดถึงบ้าน คิดถึงมารดาและน้าสาวที่อยู่ด้วยกันสองคน เธอเองก็กลับบ้านปีละครั้ง ทว่าตั้งแต่เรียนจบยังไม่มีโอกาสได้กลับ นอกจากโทรศัพท์ไปแจ้งข่าวดีเรื่องที่เธอประกวดชนะเลิศพร้อมเงินรางวัล จากนั้นจึงได้ส่งเงินไปให้ เท่านี้มันก็ทำให้เธอมีความสุขมากแล้วการทำงานก้าวแรกมันไม่ได้ทำให้เวียงพิงค์หนักใจ เท่ากับตอนนี้ที่กำลังจะเตรียมตัว เพื่องานที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เป็นอีกครั้งที่จะต้องขึ้นพรีเซนต์ผลงานด้วยตัวเองโดยไม่ใช้พิธีกร เธอไม่ได้กลัวต่อการทำงานอยู่แล้ว แต่กลัวอย่างอื่น คือการได้เห็นหน้าผู้ชายในฝัน ที่เธอแอบเก็บซ่อนชายหนุ่มเอาไว้ในหัวใจตลอดระยะเวลาที่ทำงาน“ทำไมต้องตื่นเต้น เขาไม่ได้สนใจเราเสียหน่อย” เธอว่าให้ตัวเองอย่างหงุดหงิดใจก่อนจะเหลือบมองชุดราตรีที่ซื้อมาพร้อมกับรองเท้า แล้วจึงลุกขึ้นไปหยิบชุดราตรีแขวนเอาไว้ในตู้เสื้อผ้า“แปลงร่างเป็นนางซินอย่างนั้นเหรอ เจ้าชายที่ไหนจะสนใจ ยัยเตี้ย” เธอว่าให้ตัวเองพล

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 14

    ทั้งหมดเตรียมความพร้อมเกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหล่าดีไซน์เนอร์ทุกคนกำลังดูนางแบบซ้อมเดิน และต้องซ้อมคิวเพื่อขึ้นพรีเซนต์ผลงานแต่ละชิ้น ฝึกอ่านสคริปของตัวเองเพื่อความแม่นยำ งานจะได้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดให้สมกับเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอัญมณี เพียงแต่ครั้งนี้มีน้องใหม่อย่างเวียงพิงค์ร่วมแสดงฝีมือด้วย“เฮ้อ!” เวียงพิงค์ถอนหายใจออกมาหนักๆ ขณะที่ดวงตาคู่หวานกำลังจ้องมองขึ้นไปบนเวทีเพื่อดูนางแบบแต่ละคนเดิน“เป็นอะไรจ๊ะพิ้งค์” อมิตาถามด้วยความเป็นห่วง“พิ้งค์ตื่นเต้นค่ะพี่ตา สั่นและมือเย็นไปหมดแล้ว”“เอาน่าเมื่อก่อนพี่ก็เป็นอย่างพิ้งค์นี่แหละ ไม่ต้องกลัวไม่มีใครเก่งตั้งแต่ครั้งแรกหรอก ต้องตื่นเต้นกันทุกคนอยู่แล้ว”“ตาพูดถูก ไม่มีใครเก่งตั้งแต่ครั้งแรก ฉะนั้นไม่ต้องตื่นเต้นงานของเรามันดีอยู่แล้ว หน้าที่ของเราคือพรีเซ็นต์เท่านั้นเอง” พิรัชแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ขอบคุณค่ะพี่รัช แล้วนี่เจ้าหน้าที่เรามาครบกันหมดหรือยัง

บทล่าสุด

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 24

    “พิ้งค์ก็ไม่ได้ขึ้นมาให้คุณดูถูก และทำตัวน่ารักไม่เป็นด้วย อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าพิ้งค์ปฏิเสธมันจะเป็นยังไง” ดูเหมือนเธอจะมั่นใจเสียเหลือเกินว่าจะปฏิเสธเขาได้ เขาคิดและยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ เพราะความรู้สึกที่ยังเป็นต่ออยู่“คิดว่าผมจะไล่คุณออกอย่างนั้นเหรอ เปล่าเสียหน่อยมันไม่ง่ายขนาดนั้น กว่าผมจะใช้เวลาเอาคุณมาอยู่ที่นี่รู้ใช่ไหมว่ามันนาน” เอามาอยู่ที่นี่หมายความว่ายังไงกัน แต่เธอจะไม่ถามเพราะอยากจะออกไปจากห้องนี้เสียเต็มประดา“เอาสิ ปฏิเสธ แล้ววันพรุ่งนี้ ผมจะเรียกคุณขึ้นไปหาบนห้องทำงานแทน คิดว่าคนอื่นก็คงจะอยากรู้เพราะผมไม่เคยเรียกใครโดยเฉพาะพนักงานระดับล่าง” จองหอง ทะนงตัวและคิดว่าเธอจะยอมสินะ“คุณต้องการ... ต้องการแค่... คุณดูถูกผู้หญิง ดูถูกพิ้งค์”“ไม่ถูกหรอกมั้ง ฟังข้อเสนอแล้วมันจะแพงขึ้นมาทันที” เขาพูดพลางเดินเข้าไปใกล้ๆ ช้าๆ“ถอยไปนะคะพิ้งค์จะกลับ” พูดจบเธอก็เอี้ยวตัวจากไปทันที แต่... เขาแทรกขึ้นเสียก่อน

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 23

    “ทำไมต้องทำขนาดนั้น ครอบครัวมีปัญหาเหรอ”“ค่ะ แม่ไม่ค่อยสบายทำงานไม่ได้ พิ้งค์เลยต้องหาเลี้ยงแล้วส่งเงินกลับไปให้ท่าน”“ได้ยินมาว่าทำเฉพาะงาน... กลางคืน” ดูเหมือนว่าเขาจะเน้นคำว่ากลางคืนเสียจริง“ก็กลางวันพิ้งค์เรียน และงานกลางคืนมันก็รายได้ดี” เธอตอบตามความซื่อ“เคยทำงานกลางคืนที่รายได้ดีที่สุดหรือเปล่า” เขาถามอย่างมีเลศนัย ดวงตาวาวโรจน์แต่ใบหน้าเรียบตึง ทว่าคำถามของเขากลับทำให้เวียงพิงค์มองกลับด้วยความสงสัย และคิดว่าเขากำลังดูถูกเธอแน่ๆ“หมายความว่ายังไงคะ พิ้งค์ไม่เข้าใจ”“คุณเข้าใจ คุณไม่ได้โง่ แล้วเคยหรือเปล่า”“ท่าน พิ้งค์ไม่ใช่ พิ้งค์ไม่เคยทำงานแบบนั้น”“ฮ่าๆ ผมอ่านประวัติคุณหมดแล้ว” เขาหัวเราะอย่างนั้นหรือ ให้ตายสิเยาะเย้ยเธอหรือเปล่าเนี่ย“อ่านหมดแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าพิ้งค์จะทำ ทำไมคะถ้าประวัติด่างพร้อยท

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 22

    “ผมรออยู่” คาเมรอนบอกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเรียบเช่นเดิม เพราะเวียงพิงค์ยังยืนนิ่งและไม่ยอมหันกลับมาเลย แต่เมื่อได้ยินคำสั่งครั้งที่สอง เธอจึงค่อยๆ เอี้ยวตัวกลับมาอย่างช้าๆ พลางก้มหน้าเล็กน้อยเพราะไม่กล้าสบตา แต่ดวงตาคมกริบกลับจับจ้องใบหน้าสวยหวานน่ารักอย่างไม่วางตา ก่อนจะหรี่ลงเล็กน้อยและมองใบหน้าหวานรูปไข่ ไล่ลงมาที่จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากกระจับบางๆ แต่เอิบอิ่ม สีชมพูระเรื่อด้วย ลิปกลอส แต่มันน่ามองตรงที่เธอกำลังกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความประหม่า ยอมรับว่าอิริยาบทแบบนี้ทำให้เขาหัวใจเต้นแรงมาก “ทักทายกันหน่อยดีไหม ก่อนจะเริ่มเรื่อง” คาเมรอนเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เวียงพิงค์จึงตวัดหางตามองเขาเพียงเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นไหว้“สวัสดีค่ะท่าน ฉันชื่อเวียงพิงค์ค่ะ” เวียงพิงค์กล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงสั่นและก้มหน้าเช่นเดิม“จะนั่งหรือจะยืนค้ำหัว” คาเมรอนถามแกมตำหนิเล็กน้อย เวียงพิงค์จึงได้เงยหน้าขึ้นมองเขาตรงๆ เพราะเข้าใจว่ากำลังถูกตำหนิ“เอ่อ ขอโทษค่ะ” เวียงพิงค์ก้มหน้าเอ่ยอีกครั้ง แล้วจึงเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับเขาด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมอย่างที่สุด พร้อมกับรอคำตำหนิจากเจ้านายหนุ่มที่นั่งนิ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 21

    ส่วนทางด้านทีมของพิรัชนั้น บางคนก็ยังอยู่แต่บางคนขอกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อพักผ่อน ทว่าเวียงพิงค์ยังอยู่ในงานกับพิรัชและอมิตาเช่นเดิม ซึ่งระหว่างที่พิรัชกำลังหาของกินตามซุ้มต่างๆ อยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น ทำให้รีบวางทุกอย่างแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากเสื้อสูททันที พอเห็นเบอร์โทรศัพท์โชว์หราเท่านั้นแหละ อยากเป็นลมมันเสียตรงนี้เลย “คุณพระคุณเจ้า อกอีรัชจะแตก” พิรัชอุทานออกมาเบาๆ พลางยกมือขึ้นทาบหน้าอกด้วยความตกใจไม่กล้ารับสาย แต่สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจเพราะคิดในแง่ดีว่ามันอาจจะไม่เลวร้ายก็เป็นได้“สวัสดีค่ะ เอ้ย! สวัสดีครับท่าน” พิรัชลืมตัวด้วยการลงท้ายแบบผิดๆ แต่ปลายสายก็ไม่ได้ว่าอะไร“คุณรัช ผมบอกแล้วใช่ไหมว่า...” เสียงปลายสายบ่งบอกว่าไม่พอใจและพร้อมที่จะเรียกลูกน้องของพิรัชคนใดคนหนึ่งขึ้นไปหาก็ได้“เอ่อท่านครับ คือเอ่อ... เรื่องนี้รัชรับผิดชอบเองนะครับ คือรัชเทรนน้องไม่ดีพอ เลยทำให้น้องตื่นเต้นบนเวที จำสคริปไม่ได้” พิรัชรีบเสนอตัวแทนทันที แถมยังรู้อีกต่างหากว่าคาเมรอนจะพูดเรื่องอะไร “คุณรัช จุดไหนที่มีปัญหาผมก็ปรับจุดนั้น คนก็เหมือนกัน แล้วไม่ต้องออกหน้ารับแทน คุณได้รับผล

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 20

    “เอ่อ ฤดูฝนใกล้เข้ามา และตัวแทนของน้ำค้างคือเพชรรูปหยดน้ำเกาะบนกิ่งไม้” เธอจำได้และเริ่มพูดต่อขณะที่นางแบบเดินลงไปหน้าเวทีให้แขกได้ชม ถือว่าเป็นชุดที่เรียบหรูและดูดีอีกหนึ่งชุด และสามารถใส่ออกงานได้อย่างสบายจากนั้นนางแบบก็เดินกลับขึ้นบนเวที“เอ่อ ขอบคุณมากค่ะ” เวียงพิงค์ตัดบทเพราะพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว จากนั้นจึงเดินกลับเข้าหลังเวทีไปเลย ทุกคนไม่โอเคกับความประหม่าของเธอ แต่เพราะความน่ารักและยังเป็นน้องใหม่อยู่ จึงให้อภัยได้ ยกเว้นก็แต่คาเมรอนที่ไม่ให้อภัยในความผิดพลาดครั้งนี้ เขาแทบจะส่ายหน้าด้วยความผิดหวังและโมโหอยู่ในใจ ขณะเดียวกันนางแบบก็เดินโชว์อีกรอบ“พิ้งค์เป็นอะไรมากหรือเปล่า ตื่นเต้นมากไหม ฮืม” พิรัชรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงและตกใจมาก“พี่รัช พิ้งค์ขอโทษค่ะ พิ้งค์สั่นไปหมดเลย เหมือนถูกจับผิด พูดผิดพูดถูกหมดแล้ว จำสคริปไม่ได้ค่ะ” เวียงพิงค์น้ำเสียงสั่นเครือราวกับจะร้องไห้“ไม่เป็นไร นี่มันครั้งแรกไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดหรอก แต่ดูสั่นๆ ยังไงชอบกล”&n

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 19

    “ดูท่าทางพวกเราจะหม่องไปเลยถ้าอยู่ในงาน” อมิตาแทรกขึ้น จากนั้นพิรัชจึงหันกลับไปมองทุกคนก่อนจะถาม“สาวๆ หิวกันไหม หาอะไรกินรองท้องก่อนดีหรือเปล่า ถ้าท่านประธานมาเปิดงานแล้วจะหมดโอกาสกินนะ” พิรัชบอกด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรค่ะพี่รัช เสร็จงานแล้วพวกเราค่อยกินดีกว่า ตื่นเต้นไม่กล้าออกไป” อมิตาให้ความเห็นซึ่งทุกคนก็เห็นดีด้วย จากนั้นจึงได้รอเวลาเปิดงาน“สวัสดีครับ แขกท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน กระผมวาคิม อมรเวช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท Grey&M Jewelry จำกัด (มหาชน) รับหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการบนเวทีในค่ำคืนนี้ ขอต้อนรับแขกทุกท่านเข้าสู่ความหรูเลิศอลังการ ดาวล้านดวง กับอัญมณีที่เลอค่าที่สุดในโลก เพชร! และรออีกเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น คุณคาเมรอน เกรย์ มหัทธนวงศ์สกุล ประธานบริษัท จะเดินทางมาเปิดงานด้วยตัวเองนะครับ แต่ตอนนี้เชิญแขกทุกท่านพักผ่อนอิริยาบถตามสบายนะครับ ขอให้มีความสุขกับค่ำคืนแสนวิเศษนี้ ขอบคุณครับ” จบคำกล่าวต้อนรับของผู้จัดการฝ่ายการตลาด สาวๆ ดีไซน์เนอร

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 18

    “เรียบร้อย หันไปดูตัวเองในกระจกสิว่าสวยแค่ไหน” พิรัชบอกอย่างชื่นชมขณะที่เพื่อนๆ ก็ต่างพากันมามุงดูเวียงพิงค์กันยกใหญ่“พี่รัชแต่งหน้าทำผมสวยมากเลยอ่ะ แต่งให้น้องบ้างเร็วๆ” ดีไซน์เนอร์คนหนึ่งขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแกมบังคับเล็กน้อย“แต่งเองเป็นอยู่แล้ว ก็แต่งเองสิยะ” พิรัชแสดงอาการแจ๋นๆ ออกมาทันที เพราะนอกเวลางานก็เป็นกันเองกับลูกน้องเสมอ“ไม่เอาอ่ะพี่รัชแต่งสวยนะคะ พรีส!” ดีไซน์เนอร์คนเดิมขอร้อง เวียงพิงค์จึงได้แต่ยิ้มหวานและหันกลับไปมองที่กระจกเงา แล้วต้องอึ้งเมื่อเห็นความสวยน่ารักของตัวเองอีกครั้ง ไม่อยากจะสำคัญตัวเองแต่ว่ามันใช่ เพราะเธอไม่ใช่คนขี้เหร่เลยแม้แต่นิดเดียว“โห๋! ว้าว! พี่รัชแต่งซะ พิ้งค์ ไม่ใช่พิ้งค์เลยค่ะ”“ไม่ใช่พิ้งค์ แต่เป็นนางซิน นี่ขนาดแต่งบางๆ นะถ้าได้ขึ้นไปเดินแบบแล้วล่ะก็ ใครๆ ก็ต้องเหลียวหลังเหมือนกัน” พิรัชไม่ถ่อมตัวเลยเพราะรู้ดีว่าฝีมือการแต่งหน้ายอดเยี่ยม“ไม่ค่อยย

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 17

    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! พิรัชเคาะประตูอย่างมีมารยาท และยืนรอให้คนอยู่ในห้องเปิดประตู ซึ่งก็ไม่นานนักประตูก็เปิดเข้าไปโดยที่อมิตาเป็นคนเปิด“อ้าวพี่รัช ไปเร็วมาเร็ว” อมิตาถามก่อนจะเปิดทางให้พิรัชเข้ามาแล้วจึงปิดประตูลงอีกครั้ง“เร็วเหรอ พี่ว่าพี่ไปนานนะ เป็นยังไงบ้างสาวๆ หิวกันไหม แล้วนี่เริ่มทยอยอาบน้ำแต่งตัวกันหรือยัง” พิรัชถามทุกคนด้วยความเป็นห่วงแต่สายตาดันกวาดมองไปทั่วทั้งห้องเพื่อหาคนตัวเล็กน่าทะนุถนอมนั่น“พิ้งค์อาบน้ำเหรอ” พิรัชถามอมิตาทันทีเพราะเวลานี้ให้ความสนิทกับเวียงพิงค์มากที่สุด เนื่องจากยังใหม่อยู่“พิ้งค์อาบน้ำค่ะ พี่รัชมีอะไรหรือเปล่าคะ ขึ้นไปพบเจ้านายมาน่ะ ห้องนอนเจ้านายใหญ่โตหรูหราไหม”“อย่าให้พูดถึง อย่างกับห้องพักเจ้าชายแน่ะ น่าอยู่มาก” พิรัชบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น“แล้วท่านประธานเรียกไปทำไมเหรอคะพี่รัช” อมิตาถามด้วยความอยากรู้“ก็ ท่านอยากให้เราตั้งใจทำให้ดีที่สุดน่ะ แล้วตอนนี้อยากจะกินอะไรดื่มอะไรก็โทรสั่งห้องอาหารให้ขึ้นมาส่งได้เลยนะ ท่านจัดการเรื่องทั้งหมดเอง วันนี้เราก็สบายเหมือนเจ้าหญิงเจ้าชายเลย” พิรัชบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง ทำเอาทุกคนเฮลั่นกันเลย“เย้!” เสียงเฮดั

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 16

    “เอ่อไม่เลยครับ ทุกคนแฮปปี้มากครับท่าน ขอบคุณครับ” “น้องใหม่เป็นยังไงบ้าง ความประพฤติดีหรือเปล่าและปรับตัวได้หรือยัง” น่าแปลกที่คาเมรอนถามถึงพนักงานหน้าใหม่ตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้สำคัญอะไร ซึ่งคาเมรอนไม่เคยถามถึงใครมาก่อน“ก็ ทำงานดีครับ อย่างที่ท่านทราบคือเธออัจฉริยะด้านนี้ มอบหมายงานให้ก็ทำออกมาได้ดีและเต็มที่ ส่วนเรื่องความประพฤติไม่ต้องห่วงครับ น่ารักมาก” พิรัชออกปากชมเปราะและยิ้มบางๆ“คะแนนเต็มสิบให้เท่าไหร่” คาเมรอนถามพลางมองออกไปนอกกระจกเช่นเดิม“ให้สิบเลยครับท่าน น่ารักมากๆ ดูซื่อๆ แต่เรื่องงานเธอมั่นใจในตัวเองมาก” “แล้วงานนี้ไว้ใจได้มากแค่ไหน ว่าจะไม่พลาด ผมหมายถึงคนเก่งๆ มักจะใจฝ่อเวลาที่ต้องอยู่ต่อหน้าคนเยอะ ประหม่าหรือเปล่า” “ก็มีบ้างครับท่าน แต่คิดว่าเธอน่าจะทำได้” “คิดว่าอย่างนั้นหรือ ทำไมไม่ทำให้ผมมั่นใจล่ะคุณรัช ถ้าไม่มั่นใจก็เตรียมหาคนอื่นเสียบแทนได้เลย เพราะถ้าขึ้นไปเก้ๆ กังๆ บนเวทีซึ่งเป็นหน้าเป็นตาบริษัทล่ะก็ ผมเรียกพบแน่ๆ ไม่ว่าใครก็ตาม” คาเมรอนบอกด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นจนน่าหวาดหวั่น“คือ รัชมั่นใจว่าเธอทำได้แน่นอนครับ แต่ว่ามือใหม่ก็ต้องสั่นเป็นธรรมดา” “ทำยังไงถ

DMCA.com Protection Status