Share

ตอนที่11 คิดถึงเธอจัง

“คุณรู้ได้ไงว่าฉันจบด้านนี้มา”

ต้นหลิวจำได้ว่าเธอไม่เคยบอกกับชายหนุ่มนี่นาว่าเธอจบอะไรมาแปลกใจว่าเขารู้ได้อย่างไร

“คุณต้นรักบอก คุณรีบไปสมัครเลย เค้ากำลังต้องการคน”

เมื่อวานคาวีคุยรายละเอียดกับต้นรักเรียบร้อยหมดแล้วจึงได้รู้ว่าต้นหลิวนั้นจบอะไรมาและมีความสามารถทางด้านใดบ้าง

“อ่อ...ขอบมากคุณนะคะ”

ต้นหลิวพยักหน้าเข้าใจ ตอนนี้เธอก็มีหวังว่าจะมีงานทำเร็วๆนี้แล้วจึงหันไปส่งยิ้มขอบคุณชายหนุ่ม

“อืม...ผมขอตัวก่อน”

“ค่ะ”

คาวีรู้สึกใจเต้นกับรอยยิ้มนี้อีกแล้ว สองพี่น้องคู่นี้เวลาที่ยิ้มอย่างจริงใจมันจะน่ามองเป็นพิเศษ พลางคิดในใจเรื่อยเปื่อยว่าหากหญิงสาวยิ้มให้เขาแบบนี้บ่อยๆก็คงจะดี

“แม่จ๋า...ขอให้หนูได้งานนี้นะจ๊ะ”

หลังจากที่หมอหนุ่มออกไปแล้วหญิงสาวก็เข้าไปกอดคนเป็นแม่ที่นอนอยู่บนเตียง ขอให้แม่ของเธออวยพรให้เธอโชคดีเรื่องงาน เพราะบริษัทที่ชายหนุ่มยื่นใบสมัครให้เธอค่อนข้างเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง หากได้ทำงานที่นี่คงจะได้เงินดีไม่ใช่น้อย

คฤหาสน์อินทวรนันท์

“เป็นยังไงบ้างลูก เพื่อนเราน่ะ”

อมีนาเห็นลูกชายกลับมาถึงบ้านก็ถามไถ่ถึงเรื่องที่ลูกชายเธอมาปรึกษาสองวันติดๆ

“เธอดีใจอยู่ไม่น้อยเลยครับคุณแม่”

คาวีคิดว่าหญิงสาวคงจะชอบงานที่เขาให้เธอไปสมัครอยู่มากถึงได้ยิ้มกว้างขอบคุณเขาขนาดนั้น

“ดีแล้วล่ะจะ อ่อ...ตาวีอีกสองอาทิตย์แม่จะจัดเดินแบบเครื่องเพชรในงานการกุศลจะรอดูฝีมือเพื่อนลูกนะจ๊ะ”

อมีนาเห็นว่าเพื่อนที่ลูกชายเธอกำลังกังวลเรื่องให้ความช่วยเหลือรับความหวังดีของลูกเธอก็ดีแล้ว ถ้าหากเพื่อนของลูกชายเธอคนนี้ได้สมัครงานแล้วเธอคงจะได้เห็นฝีมืออยู่ไม่กี่วันนี้เป็นแน่

“หวังว่างานนี้คงจะไม่มีผมไปด้วยนะครับ”

คาวีชายหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบงานสังคมเท่าไหร่พูดดักคอแม่ของเขาไว้ก่อนว่าคงจะไม่มีเขาในงานนี้

“ไม่ได้จะ...น้าอรเค้าจองตัวลูกเป็นนายแบบแล้ว แลกกับการรับเพื่อนลูกเข้าทำงาน”

อมีนาถึงกับต้องตอบปฏิเสธลูกชายเธอทันที ก่อนที่จะค่อยๆ ปลีกตัวเดินหนีเหมือนเคยๆ เพราะทางเอมอรเพื่อนของเธอมีข้อแม้ว่าหากรับเพื่อนของคาวีเข้าทำงานในงานการกุศลครั้งที่จะมาถึงต้องมีลูกชายเธออยู่ด้วย

“อะไรนะครับ”

คาวีถึงกับแอบเซ็งที่งานนี้เขาคงจะปฏิเสธอะไรไม่ได้อีกแล้ว

“ตามที่แม่บอกจะ” หันมากลับหลังมาบอกเสียงดัง

“โอเคครับ แต่วันนั้นผมจะไปงานโดยฐานะนายแบบนะครับ”

ในเมื่อชายหนุ่มปฏิเสธที่จะไปงานนี้ไม่ได้ ในวันนั้นเขาก็ขอไปแค่ฐานะนายแบบเท่านั้น

ทางด้านต้นรัก

20.00 น.

“สดชื่นจัง”

หลังจากที่เก็บกวาดทำงานบ้านมาแทบทั้งวันหญิงสาวก็อาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายเสียพักใหญ่ พร้อมพันผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น พลางมองไปที่เตียงนอนของเธอด้วยรอยยิ้ม รู้สึกคิดถึงที่นอนนี้มาก ยิ่งนึกถึงตอนที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแม่กับพี่สาวแล้วยิ่งมีความสุข เธอคิดว่าไม่นานภาพเหล่านั้นจะกลับคืนมาในเร็ววันนี้เป็นแน่

ว้ายย”

จากที่ยืนคิดอะไรเพลินๆจู่ๆตัวหญิงสาวก็ลอยขึ้นจึงร้องด้วยความตกใจและรีบเกาะสิ่งที่ยกเธอขึ้นไว้ด้วยสัญชาติญาณความเอาตัวรอด

ฟอด...

“คิดถึงเธอจัง”

เบนจามินกลับมาถึงสนามบินก็ตรงดิ่งมาที่บ้านหญิงสาวตามพิกัดที่ฮาเปอร์บอก เขากะจะมาเซอร์ไพรซ์เธอโดยที่ไม่บอกล่วงหน้าเมื่ออุ้มหญิงสาวขึ้นได้ก็กอดหอมเธออย่างคิดถึง ไม่กี่วันที่เขาทำงานอยู่ที่ไหนไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่คิดถึงเธอไม่รู้ว่าหญิงสาวทำอะไรให้เขานั้นหลงนักหนา เพราะเขาไม่คิดจะแตะหญิงอื่นแม้แต่นิดเดียวตั้งแต่มีเธอเข้ามา

“คุณเบน...มาที่นี่ได้ไงคะ แล้วกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

ต้นรักรู้สึกโล่งใจที่คนที่เข้าห้องเธอมาไม่ใช่โจรผู้ร้ายที่ไหนเธอไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาที่ไม่บอกเธอก่อน แถมยังตามมาที่บ้านของเธออีก

“พึ่งลงเครื่องมาฉันก็มาหาเธอเลย มาให้ฉันชื่นใจเสียดีๆ”

เบนจามินวางหญิงสาวลงที่เตียงนุ่มพร้อมกอดก่ายตัวเธอเอาไว้ กลิ่นหอมอ่อนๆจากที่หญิงสาวพึ่งอาบน้ำเสร็จมันหอมยั่วยวนเขายิ่งนักอดไม่ได้ที่จะหอมซ้ายหอมขวาให้ชื่นหัวใจ

“คุณเบนคะ ฉันขอใส่เสื้อผ้าก่อนค่ะ”

ต้นรักรีบผลักชายหนุ่มออกให้ห่างเพราะตอนนี้ผ้าขนหนูที่มันพันตัวเธอเอาไว้เริ่มหลุดจนเกือบจะเผยให้เห็นของสงวนเธอของเธอแล้ว

“จะใส่ทำไมเดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี”

เบนจามินหรือจะยอมปล่อยให้หญิงสาวลุกไปใส่เสื้อผ้า ในเมื่ออารมณ์ของเขามันเริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาตั้งแต่อุ้มเธอเมื่อครู่แล้ว

“คุณเบน...อื้อ”

ชายหนุ่มดึงผ้าที่พันตัวหญิงสาวออก เขาใช้สองมือหนาเลื่อนไปบีบคลึงเต้างามของหญิงสาว ริมฝีปากหนาลงไปบดเบียดริมฝีปากบางอย่างหิวโหย เขามอบบทรักอันนุ่มนวลให้หญิงสาวจนครึ่งค่อนคืน ทั้งสองกอดก่ายกันและกันด้วยความเหนื่อยจนรุ่งเช้าของอีกวัน

เช้าวันต่อมา

“คุณเบนคะ ปล่อยฉันได้แล้วค่ะ”

ต้นรักรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอพยายามใช้มือแกะขาและแขนของชายหนุ่มที่มันพาดอยู่บนตัวเธอออกไป แต่ดูเหมือนจะแกะยากเสียเหลือเกิน เธอจึงคิดว่าควรเปลี่ยนมาเป็นปลุกเขาก่อนจะดีกว่า

“อืม...ยังง่วงอยู่เลย เธอจะรีบฉันไปไหน”

เบนจามินรู้สึกตัวตั้งแต่ที่หญิงสาวแกะขาแกะมือของเขาออกแล้ว แต่เขายังรู้สึกอยากนอนตอนอีกสักเดี๋ยวอยู่เลย ไม่เข้าใจว่าหญิงสาวจะรีบไปไหนแต่เช้า

“วันนี้ฉันขอไปเฝ้าแม่นะคะ เพราะว่าวันนี้ต้นหลิวไปสมัครงานค่ะ”

ต้นรักอยากไปอยู่เฝ้าแม่เธอในตอนที่ต้นหลิวไม่อยู่ ถึงจะรู้ว่ามีพยาบาลคอยดูอยู่ก็เถอะ เธอหวังว่าสักวันเธอจะได้อยู่ในช่วงเวลาที่แม่เธอฟื้น เธอไม่อยากจะพลาดโอกาสนั้น อยากจะให้แม้เธอเห็นหน้าคนเป็นลูก ไม่เป็นเธอก็พี่สาวเธอก็ได้ในตอนที่ตื่นขึ้นมา

“จุ๊บฉันก่อนแล้วจะลุก”

เบนจามินยังคงอ้อนหญิงสาวอยู่บนเตียง

จุ๊บ

ต้นรักจำต้องทำตามที่ชายหนุ่มบอก เพราะอยากจะให้เขาปล่อยเธอเร็วๆ จะได้รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเสียที

“ดีมากเด็กดี เดี๋ยวฉันจะไปกับเธอด้วย”

“ค่ะ...แล้วคุณเบนไม่ทำงานเหรอคะ”

“วันนี้ฉันว่างอยู่กับเธอได้ทั้งวัน”

วันนี้เบนจามินทำตัวให้ว่าง เพราะว่าเขานั้นอยากจะใช้เวลาอยู่กับหญิงสาวหลังจากที่กลับมาจากอิตาลี

บริษัทขนาดใหญ่ย่านใจกลางเมือง

“เชิญด้านนี้ค่ะ”

“ค่ะ”

ต้นหลิวถือใบสมัครงานกับประวัติส่วนตัวของเธอมาตั้งแต่เช้า เธอไม่เห็นจะมีใครมาสมัครเหมือนกับเธอสักคน ตอนนี้ก็นั่งอยู่คนเดียวจนมีเลขาสาวสวยมาเรียกเข้าห้องสัมภาษณ์เธอจึงเดินตามหญิงสาวไปอย่างตื่นเต้น ภาวนาในใจว่าขอให้เธอได้งานเสียทีจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย

“คุณต้นหลิว”

“สวัสดีค่ะ”

เอมอรเข้ามาสัมภาษณ์คนที่หลานชายเธอฝากเข้างานด้วยตัวเอง อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะเก่งเหมาะสมกับที่หลานชายเธอมั่นใจขนาดไหน

เป็นเวลาพักใหญ่ที่เอมอรนั่งคุยกับต้นหลิว เธอค่อนข้างพอใจในตัวต้นหลิวมากกับประวัติและทัศนคติในการทำงาน

“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้มาเริ่มงานได้เลย เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปทำความรู้จักกับหัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานของเธอเลยแล้วกัน”

“ค่ะ...ขอบคุณมากค่ะที่รับฉันเข้าทำงาน ฉันจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ค่ะ”

ต้นหลิวแทบจะกระโดดดีใจเสียตรงนี้ แต่เธอก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ บทจะได้งานง่ายๆมันก็ง่ายเสียเหลือเกิน

“พิ้งกี้ นี่ต้นหลิวผู้ช่วยคนใหม่ของเธอ จะมาทำงานพรุ่งนี้ ตอนนี้ก็บอกรายละเอียดคร่าวๆให้ต้นหลิวฟังก่อนก็แล้วกัน ฉันฝากด้วย”

เอมอรเดินพาหญิงสาวมาแนะนำตัวกับทุกคนด้วยตัวเอง

“ค่ะคุณเอมอร”

พิ้งกี้หัวหน้าที่ควบคุมดูแลงานทุกอย่างในการรับงานอีเว้นยิ้มรับคนเป็นเจ้านายและหญิงสาวที่มาใหม่อย่างเป็นมิตร คิดว่าหญิงสาวคนนี้ต้องมีอะไรดีแน่ๆที่เจ้าของบริษัทเข้ามาเพื่อสัมภาษณ์เองและแนะนำตัวให้ทุกคนได้รู้จักแบบนี้

“สวัสดีค่ะทุกคน ฉันต้นหลิวค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

ต้นหลิวยิ้มทักทายสวัสดีทุกคนอย่างเป็นมิตรหญิงสาวปฏิญาณตนไว้แล้วว่าเธอจะต้องปรับปรุงตัวใหม่ในที่ทำงานอะไรที่ปล่อยได้ก็ปล่อย จากประสบการณ์ที่ผ่านมาการเป็นคนที่ตรงไปตรงมาและไม่ยอมคนของเธอมันเกิดผลเสียอะไรบ้าง

“มาเดี๋ยวพี่จะบอกว่าเราต้องทำอะไรบ้าง มีเรามาช่วยก็ดีเลยงานพี่เยอะมากเลยตอนนี้”

หลังจากที่เอมอรฝากฝังหญิงสาวให้กับพิ้งกี้เธอก็พาหญิงสาวมาเรียนรู้งานคร่าวๆก่อนจะลงมือจริงว่าเธอจะต้องทำอะไรบ้าง อีกอย่างก็เบาใจว่าต่อจากนี้เธอเองก็จะงานน้อยลงเพราะมีคนมาแบ่งเบาภาระ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status