“ก็คุณเบนบอกว่าทำแบบไหนก็ได้ ฉันเห็นว่ามันก็น่ารักดี คุณเบนไม่เอาก็ได้นะคะ”
ต้นรักสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยจากที่ยิ้มร่าอยู่ตอนแรก เพราะเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่ดูจะไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นเสื้อที่เธอทำให้ก็เขาบอกเธอตอนแรกว่าเอาแบบไหนก็ได้ เธอเห็นว่าที่เธอทำมันก็น่ารักดี
“ไม่...ฉันจะใส่”
เบนจามินคิดว่าเขาผิดเองที่ไปบอกเธอว่าทำแบบไหนก็ได้ตั้งแต่แรก แต่ไม่เป็นไรยังไงเธอทำมาแล้วเขาก็ต้องใส่อยู่ดี พร้อมถอดเสื้อที่เขาใส่นั้นออกและสวมเสื้อไหมพรมที่หญิงสาวทำให้ทันที
“อิ อิ น่ารักดีนะคะ”
ต้นรักเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในเสื้อผ้าแบบนี้แล้วดูน่ารักไปอีกแบบ
“อืม”
เบนจามินไม่ค่อยได้ใส่เสื้อผ้าอะไรแบบนี้ จึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เขาสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกหลายรอบ ในเมื่อเป็นฝีมือของต้นรัก ยังไงเขาก็ต้องทำใจชอบให้ได้
โรงแรม
“เพอร์เฟคมากหลิว”
“ค่ะพี่พิ้งค์”
พิ้งกี้อดชมในฝีมือของต้นหลิวไม่ได้ที่ ออกแบบงานได้แปลกตาและสวยงามมากจริงๆ
“ทางนี้คงจะเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราไปช่วยพี่ดูพวกนางแบบนายแบบทางนี้”
“ค่ะ”
พิ้งกี้เห็นว่าทางด้านหน้างานเรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ดูความเรียบร้อยของพวกนายแบบนางแบบให้พร้อมก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้ว
ห้องแต่งตัว
“หืม...”
วันนี้คาวีได้รับหน้าที่เป็นนายแบบจำเป็น ภาวนาในใจว่าวันนี้ขอให้เขาอย่าได้เจอกับต้นหลิวจังๆเลย แต่เห็นจะไม่เป็นผลเพราะเขาเห็นหญิงสาวเดินตรงดิ่งมาหาเขาแล้ว
“คุณ มาทำอะไรที่นี่?”
ต้นหลิวเดินเข้าห้องมาพร้อมกับพิ้งกี้สายตาของเธอไปสะดุดกับใครบางคนเลยตรงดิ่งมาหาเขา พร้อมกับถามด้วยความสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่นี่
“คือ ผมมาเป็นนายแบบ”
คาวีตอบหญิงสาวให้หายสงสัย เพราะวันนี้เขามาทำหน้าที่เป็นนายแบบเดินแบบเครื่องเพชรให้คุณแม่ของเขาที่มีบริษัทของหญิงสาวเป็นคนรับจัดอีเว้น
“โห มีรับงานพิเศษด้วย เออ...แม่ฉันฟื้นแล้ว ขอบคุณมากที่ทำให้ฝันฉันเป็นจริง”
ต้นหลิวปรบมือให้ชายหนุ่มเพราะเห็นว่ากลางวันทำหน้าที่เป็นหมอ กลางคืนก็ยังรับงานเป็นนายแบบอีก พร้อมทั้งยื่นมือไปกุมมือชายหนุ่มอย่างดีใจ ขอบคุณคนตรงหน้าที่ช่วยรักษาแม่เธอจนฟื้นขึ้นมาได้แล้ว
“อืม อย่างที่เคยบอก ผมเป็นหมอก็ต้องรักษาคนไข้ให้สุดความสามารถอยู่แล้ว”
คาวีรู้สึกประหม่าในการกระทำของหญิงสาวพอสมควร แต่ก็ยังพยายามเก็บอาการเอาไว้
“ตาวีทำอะไรอยู่ลูก งานจะเริ่มแล้ว”
อมีนาเดินมาดูความเรียบร้อยเช่นกัน เห็นว่านายแบบนางแบบเค้าเตรียมตัวใส่เครื่องเพชรเรียบร้อยแล้วแต่ลูกชายของเธอยังมัวคุยอยู่เลย
“นี่คุณแม่ผม”
คาวีถือโอกาสแนะนำให้หญิงสาวได้รู้จักกับแม่ของเขา ชายหนุ่มรู้ว่าเธอคงจะไม่รู้ว่าแม่เขาเป็นใคร เพราะเธอไม่ได้ดิวงานเองโดยตรงเธอทำแค่เบื้องหลังเท่านั้น
“สวัสดีค่ะคุณน้า คุณแม่คุณยังสวยมากเลยเนอะ”
ต้นหลิวรีบสวัสดีหญิงวัยกลางคนที่ชายหนุ่มแนะนำให้รู้จักว่าเป็นแม่ของเขา เธอทึ่งในความสวยของผู้หญิงตรงหน้ามากที่ท่าทางจะดูแลตัวเองดีมาก มีลูกชายโตจนป่านนี้แล้วยังดูสาวอยู่เลยจึงอดเอ่ยปากชมไม่ได้
“อืม”
คาวีพยักหน้าตอบหญิงสาว ไม่รู้ว่าจะตะลึงอะไรในความสวยของแม่เขานักหนา
“สู้ๆนะคุณ ฉันจะเป็นกำลังใจให้ด้านหน้า ขอตัวไปดูงานก่อนหนูขอตัวนะคะคุณน้า”
“จะ”
ตอนนี้ต้นหลิวเห็นว่าเธอจะต้องไปดูความเรียบร้อยแล้วจึงขอตัวทั้งสองออกไปทำงานของเธอ ทิ้งท้ายบอกกับชายหนุ่มว่าเธอจะไปเป็นกำลังใจอยู่ด้านหน้า
“นี่เพื่อนลูกใช่ไหม เธอน่ารักดีนะ”
“ครับคุณแม่”
อมีนาเห็นหญิงสาวเดินออกไปแล้วจึงหันมาคุยกับลูกชายของเธอ ทั้งคิดว่าคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนที่ลูกชายเธอช่วยเหลือเป็นแน่ ดูจากอาการลูกชายเธอแล้วก็คงจะไม่ใช่เพื่อนธรรมดาอย่างที่เธอคิดตั้งแต่คราแรก
ด้านหน้างาน
เมื่อถึงเวลาเปิดงานเหล่านางแบบนายแบบก็เดินขึ้นเวทีเรียงคิวกันมาอย่างไม่ขาดสาย นักข่าวต่างก็ตั้งกล้องถ่ายกันอย่างขะมักเขม้นเพื่อนเก็บภาพบรรยากาศให้ได้มากที่สุด
ต้นหลิวเองก็คอยดูความเรียบร้อยไปด้วยและก็คอยอยู่ว่าเมื่อไรคาวีจะเดินออกมาเสียที
“คุณ”
เมื่อเห็นคาวีเดินเปิดตัวมาเป็นคนสุดท้ายต้นหลิวที่ยืนอยู่ด้านหน้าก็โบกไม้โบกมือเป็นกำลังใจให้ชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลา
“และเครื่องเพชรที่น้ำงามที่สุดของวันนี้ก็อยู่กับนายแบบคนนี้ค่ะ ดูที่นาฬิกาของเค้านะคะ เรือนนี้ประดับด้วยเพชรเม็ดงามน้ำดีที่สุด78เม็ดฝังอยู่ที่รอบๆ ได้รับเกียรติจากคุณคาวี อินทวรนันท์ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงอมีนา อินทวรนันท์ เจ้าของเครื่องเพชรทั้งหลายในวันนี้ค่า”
หลังจากที่พิธีกรประกาศนักข่าวต่างก็รุมรัวกดชัตเตอร์ ที่นานๆทีลูกชายไฮโซของคุณหญิงอมีนาจะออกงานเสียที
“เอ่อ...”
คาวีถึงกับหน้าเสียที่ไม่คิดว่าพิธีกรจะประกาศเปิดตัวเขาแบบนี้เหมือนกัน พลันก็หันสายตามองไปที่ต้นหลิว ตอนนี้เธอไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมแล้ว
ทางด้านต้นหลิวก็ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เธอพึ่งรู้วันนี้เองว่าหมอหนุ่มที่เธอคิดว่าเขาเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปแถมยังทำตัวสนิทสนมกับเขาเป็นถึงทายาทเจ้าของแบรนด์เครื่องเพชร ถ้าเธอจำไม่ผิดพิ้งกี้เคยเล่าให้เธอฟังว่าสามีของเจ้าของแบรนด์นี้เป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่แม่ของเธอรักษาอยู่ แสดงว่าชายหนุ่มก็เป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาล ยิ่งคิดหญิงสาวยิ่งอึ้งกันเข้าไปใหญ่
เช้าวันต่อมา
“แม่จ๋าหลิวมาแล้ว”
ต้นหลิวเข้ามาในห้องของแม่เธอพร้อมกระซิบที่ข้างหูของแม่เธอเบาๆ ภาพตรงหน้าที่แม่ของเธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาทำเอาหญิงสาวน้ำตาคลอด้วยความดีใจ
ทั้งต้นรักและต้นหลิวต่างก็เข้ามากอดแม่ของเธอด้วยน้ำตาแห่งความปิติ อนงค์ยกมือทั้งสองลูบหัวลูกสาวของเธอทั้งสองโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้การกระทำพูดแทนความรู้สึกเพราะตอนนี้เธอก็ไม่ได้มีแรงที่จะพูดมากมายนัก
“สวัสดีครับ”
เมื่อได้เวลาคาวีก็เข้ามาตรวจคนไข้ของเขาตามปกติ รู้อยู่แล้วว่ายังไงเช้านี้เขาก็ต้องเจอต้นหลิวแน่นอน
“ค่ะคุณหมอ”
ต้นรักหันไปยิ้มให้หมอหนุ่มตามปกติ ผิดกับต้นหลิวที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าคนที่พึ่งเข้ามาด้วยซ้ำ
“เราออกไปข้างนอกกันก่อน ให้หมอเค้าตรวจแม่ไปดีกว่า”
“ก็ได้”
ต้นหลิวรู้สึกว่าไม่อยากจะยืนอึดอัดอยู่ในห้องนี้เธอชวนต้นรักออกไปด้านนอกจะดีกว่า ต้นรักเองเห็นว่าพี่สาวเธอมีทีท่าแปลกๆจึงตามใจพี่สาวของเธอออกมา
ตระกูลลอเปอร์“คุณพ่อเรียกผมเข้ามามีอะไรหรือเปล่าครับ”เบนจามินรีบเข้ามาที่บ้านใหญ่ของตระกูลอย่างเร่งด่วน เพราะทางนี้ติดต่อไปหาโจชัวว่ามีเรื่องด่วนจะคุยกับเขา“เรื่องหนูนิริน”“ถ้าจะเรียกผมมาคุยเรื่องนี้ผมขอไม่คุยนะครับ”เบนจามินได้ยินชื่อนี้เขาถึงกับเซ็ง อยากจะหันหน้ากลับเสียตอนที่พึ่งมา“แกจะยืดเยื้อเวลาไปจนถึงเมื่อไรฉันปล่อยให้แกใช้ชีวิตตามใจมามากแล้วนะ ทางเพื่อนฉันเค้าก็ถามมาแล้ว”นิรินเป็นลูกสาวของนราทรเพื่อนสนิทของบรูค เขาเคยสัญญากันเมื่อหลายปีก่อนว่าถ้าหากมีลูกจะให้หมั้นกัน แล้วตอนนี้ลูกของพวกเขาทั้งสองก็โตจนมีครอบครัวได้แล้ว แต่ทางเบนจามินยังไม่ยอมแต่งงานเสียที ทางด้านนราทรก็เร่งรัดมาแล้วทำให้บรูคต้องมาเร่งรัดลูกชายของเขาอีกที“ผมไม่เอาผู้หญิงแบบนั้นมาทำเมียหรอกครับ”เบนจามินยืนยันว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมแต่งกับนิรินเด็ดขาด“หนูนิรินเป็นยังไง เธอเหมาะสมกับแกแทบจะทุกอย่างเป็นผู้ดีมีสกุลขนาดนั้นแกยังต้องการอะไรอีก”บรูคเห็นว่านิรินนั้นเหมาะสมกับลูกชายของเขาทุกอย่าง ดีกว่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปแล้วลูกชายเขาไปคว้าแม่พริตตี้ที่ไหนไม่รู้มาทำเมีย“ยัยนั่นเสแสร้งเก่งจะตายไป”เบนจามินแทบจะรู
20 นาทีต่อมา“ดีขึ้นหรือยัง”“ค่ะ”“เราไปรู้จักกับคู่หมั้นคุณนิรินอย่างที่เธอกล่าวหาจริงหรือเปล่า”ตะวันเห็นว่าต้นรักเริ่มเงียบลงแล้วแต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่เล็กน้อย ด้วยความอยากรู้ว่าหญิงสาวเป็นผู้หญิงของเบนจามินตามที่นิรินมาหาเรื่องเธอหรือเปล่าจึงถามขึ้น“ฮึก...ฮือๆๆๆ”ต้นรักได้ยินแบบนั้นก็เหมือนกับมีดกรีดไปที่หัวใจของเธอที่เดิมจึงร้องออกมาอีกครั้งสะอื้นจนตัวโยน“โอเคๆพี่จะไม่ถาม”ตะวันฉวยโอกาสนี้กอดปลอบหญิงสาวอย่างแนบชิดเขาจะอาศัยจังหวะในช่วงที่หัวใจเธออ่อนแอนี่แหละเข้าหาหญิงสาว“ทำอะไร”ปั้กกก“โอ้ย...”เบนจามินเดินตามหาหญิงสาวตามจุดที่นิรินส่งข้อความมาบอก เมื่อเห็นภาพที่ชายแปลกหน้ากำลังกอดกุมหญิงสาวอยู่จึงเลือดขึ้นหน้า เดินดุ่มๆเข้าไปรั้งชายหนุ่มมาต่อยระบายอารมณ์“คุณเบนหยุดนะคะ”ต้นรักเห็นเบนจามินเงื้อหมัดจะชกตะวันอีกเธอจึงร้องห้ามเอาไว้ด้วยน้ำตา“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ห้ามใครแตะต้อง”เบนจามินยอมปล่อยตะวันพร้อมหันไปมองต้นรักด้วยสายตาขุ่นเคืองที่มาพลอดรักกับชายอื่นลับหลังเขา“อีกหน่อยถ้าคุณแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ”คำว่าผู้หญิงของเขาเธอไม่อยากได้ยินที่สุดเลยอดพูดประชดเรื
บ้านนราทร20.00 น.“แกไปสร้างเรื่องอะไรอีกล่ะ แค่ฉันต้องเร่งบรูคให้ลูกชายเค้ามาแต่งงานกับแกก็เกรงใจเค้าจะแย่อยู่แล้ว เพราะฉันรู้ว่าเบนจามินไม่สนใจแกเลยสักนิด ทำตัวให้มันสมกับเป็นลูกฉันหน่อย”นราทรนั่งอยู่บนรถเข็นเพราะเขาเดินไม่ได้มาสักพักเมื่อเห็นลูกสาวคนเดียวของเขาเดินออกมาจากห้องได้ก็ถือโอกาสต่อว่าเรื่องข่าวที่เขาพึ่งรู้มาเสียหน่อย เพราะเขารู้สึกว่าลูกสาวของเขานับวันๆยิ่งแต่จะควบคุมไม่อยู่“นิจะทำอะไรมันก็เรื่องของนิ นิว่าคุณพ่อเอาเวลาไปรักษาตัวแล้วก็รอฟังข่าวดีจากนิดีกว่านะคะ”นิรินไม่ได้สนใจคำของพ่อเธอเลยสักนิด ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะออกไปเที่ยวหาความสุขนอกบ้านแล้ว เมื่อพูดจาหักหารน้ำใจคนเป็นพ่อเสร็จก็ออกไปจากบ้านอย่างหน้าตาเฉย“ฉันเตือนแกแล้วนะ”นราทรตะโกนให้หลังคนเป็นลูกสาวเขารู้ว่าคนอย่างเบนจามินไม่ยอมให้ลูกสาวของเขาข่มอยู่ฝ่ายเดียวแน่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาไม่น่ารับปากกับเพื่อนของเขาแบบนั้นเลย“ปล่อยคุณหนูไปก่อนเถอะค่ะคุณทร”ป้าจิตแม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยของทุกอย่างบ้านนี้รู้ดีว่าคนอย่างนิรินเป็นอย่างไร ด้วยความที่ไม่มีแม่ตั้งแต่เล็กๆแถมพ่อก็ยังเอาแต่ทำงานเลี้ยงนิรินมาด้วย
“ก็ฉันพูดเรื่องจริง ฉันจะแต่งงานกับเธอจริงๆนะ เธอไม่ดีใจหรือไง แล้วเรื่องของเราที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันเป็นอดีตไปอย่ารื้อมาเล่าให้แม่เธอฟังแล้วไม่สบายใจเลย มันดีต่อแม่เธอแล้วก็พี่สาวเธอด้วย”เบนจามินไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมีทีท่าที่ดีใจสักนิดเมื่อเขาบอกกับแม่ของเธอว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ กลับทำสีหน้าตกใจและดูท่าจะงอนเขาอีกด้วยซ้ำ“เรื่องนั้นไม่พูดถึงมันฉันก็ว่าดีค่ะ...แต่เรื่องแต่งงานนี่สิคะทำไมไม่ถามฉันก่อนแล้วทางบ้านคุณจะว่ายังไง”ต้นรักคอนข้างเห็นด้วยกับเหตุผลขอชายหนุ่มที่ไม่เล่าเรื่องอดีตให้แม่ของเธอฟังแต่ยังไงเรื่องแต่งงานเธอคิดว่าชายหนุ่มควรจะเกริ่นบอกเธอก่อนก็ยังดี ตอนนี้แม่เธอก็รู้เรื่องไปแล้วด้วย หากวันนึงมันเป็นไปไม่ได้แล้วแม่เธอจะรู้สึกยังไง“ยังไงฉันเชื่อว่าครอบครัวฉันต้องชอบเธอแน่นอนเธอไม่ต้องกังวล”เบนจามินคิดว่าถ้าหากคนในครอบครัวของเขาได้รู้จักต้นรักจริงๆจะต้องรักเธอเหมือนที่เขารักเป็นแน่เขาเชื่อแบบนั้น“แล้วคุณเบนแน่ใจเหรอคะว่าอยากมีครอบครัว...ถ้าแต่งงานแล้วคุณเกิดเบื่อฉันขึ้นมาถึงวันนั้นฉันคงจะเสียใจมาก...”ต้นรักอยากถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขาอยากจะมีครอบครัวจริงหรือเปล
“หมอคะ คุณเบนเป็นยังไงบ้าง”ต้นรักเห็นหมอหนุ่มก็รีบถามอาการของเบนจามินทันทีเพราะเธอรอฟังมาทั้งคืนแล้ว“ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วครับ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้ฟื้นเท่านั้นแหละครับ”คาวีถือว่าเบนจามินใจสู้มากทำให้การรักษาผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็แค่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดก็เท่านั้น“รู้แบบนี้ก็สบายใจได้แล้วนะรัก”ต้นหลิวหันไปบอกกับคนเป็นน้องสาวเธอเองก็โล่งอกเหมือนกันที่ได้รู้แบบนี้น้องเธอจะได้เลิกร้องให้เสียที“ผมขอตัวก่อนนะครับ”คาวีรู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้นานคงไม่ดีเป็นแน่ เพราะรู้ว่าต้นหลิวคงไม่อยากจะเจอหน้าเขาสักเท่าไหร่ หลังจากวันนั้นที่เธอรู้ความจริงว่าเขาเป็นใครเธอก็เอาแต่หลบหน้าตลอด แม้แต่ตอนที่เขาเข้าไปตรวจอนงค์แล้วเจอต้นหลิว หญิงสาวก็จะขอตัวออกไปข้างนอกตลอดเลยไม่เคยได้พูดคุยกันเหมือนอย่างเคยเขาเองไม่ได้คิดจะไปยุ่งอะไรกับเธอหากต้นหลิวสบายใจที่จะเป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากกวนใจเธอ แต่ยังไงเรื่องที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเธอนั้นเขาก็ยังช่วยเหลือเธออยู่ตลอดเวลา“แกเห็นไหมว่าที่ลูกสะใภ้แกแสบแค่ไหน”เอมม่ากลับมาเพราะหลานชายคนเดียวของเธอบอกว่ามีข่าวดีจะบอก แต่เมื่อมาถึงกลับได้ฟังข
บริษัท“เดินเชิดหน้าสั่งงานคนโน้นคนนี้นึกว่ามีความสามารถ สุดท้ายก็เด็กเส้น”บอลลูนสาวสวยประจำออฟฟิศที่ดีแต่แต่งหน้าหาลูกค้าไปวันๆ รู้สึกเขม่นต้นหลิวตั้งแต่เข้ามาทำงานแล้ว ที่ดูมีผลงานดีจนเกินหน้าเกินตาเธอแถมเรื่องที่เธอพึ่งจะไปรู้มาก็ทำให้คุยกันกับพวกคนในออฟฟิศสนุกปากอีกด้วย“คือด่าฉันว่างั้น”“อืม...”“ฉันสัมภาษณ์งานเข้ามา ไม่ใช่เอะอะก็จะได้มาทำงานเลยรู้เอาไว้ด้วย”ต้นหลิวชักเหลืออดกับคนพวกนี้เสียแล้ว เธอรู้ว่าพวกของบอลลูนไม่ชอบหน้าเธอ แต่เธอเองก็พยายามใจเย็นมาหลายครั้งแต่ครั้งนี้มันสุดแล้วจริงๆ“ถ้าหมอคาวีไม่รู้จักกับคุณเอมอร เธอก็ไม่ได้เสนอหน้าอยู่ที่นี่หรอกนะ”บอลลูนยังกระแนะกระแหนต้นหลิวอย่างลอยหน้าลอยตาด้วยความสะใจ“หมอคาวีเกี่ยวอะไรด้วย”คำพูดของบอลลูนทำให้ต้นหลิวสงสัยหนักว่าเขาเกี่ยวอะไรด้วย“ทั้งงานที่เธอได้ก็เพราะคุณหมอ เงินเดือนที่สูงลิ่วของเธออีกไปทำอีท่าไหนมาได้ล่ะ”บอลลูนบอกเรื่องทั้งหมดที่เธอได้รู้มาให้หญิงสาวได้ยินเสียงดังฟังชัด และกะว่าจะให้คนที่อยู่ในออฟฟิศนี้ได้ยินไปด้วยจะได้รู้ว่าหญิงสาวเข้ามาทำงานที่นี่โดยใช้เส้น“......”ต้นหลิวรู้สึกเสียหน้าอย่างมากเมื่อรู้ว่าคา
โรงพยาบาล“คุณต้นรักครับ”“อ้าวคุณโจชัว วันนี้ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”ต้นรักค่อนข้างแปลกใจที่โจชัวมาอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่ที่บริษัท“คุณบรูคให้ผมมาดูแลคุณเพราะตอนนี้ไม่ทราบว่าคุณนิรินจะทำอะไรอีกครับ”โจชัวได้รับคำสั่งจากบรูคให้มาคอยดูแลต้นรักอยู่ที่โรงพยาบาลระหว่างที่หญิงสาวเฝ้าเบนจามินกับแม่ของเธออยู่ เพราะรู้ว่านิรินไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่จากคำบอกเล่าของนราทร“อ่อ ค่ะ แต่ต้นหลิวล่ะคะ”ต้นรักเข้าใจที่โจชัวพูดแต่เธอก็ฉุกคิดได้ว่านิรินยังไม่รู้ว่าเธอมีคู่แฝด ถ้าหากนิรินจ้องจะทำอะไรเธอต้นหลิวก็ต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย“จริงสิ ฮาเปอร์นายไปคอยดูคุณต้นหลิวด่วน”“โอเค ฉันจะรีบไป”โจชัวลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทจึงรีบให้ฮาเปอร์ไปดูแลต้นหลิวอีกคนอย่างเร่งด่วนทางด้านต้นหลิว“แกฉันของเข้าไปห้องน้ำก่อนนะสงสัยส้มตำทำพิษอะ”“อืม รีบไปรีบมา”พริกแกงรู้สึกปวดท้องกะทันหันเลยจะไปเข้าห้องน้ำที่ฝั่งตรงข้ามร้านค้าสักเดี๋ยว เป็นเพราะเธอทานเผ็ดเกินไปจึงมีอาการเป็นเช่นนี้10 นาทีต่อมา“อยู่ไหนกันนะ”ฮาเปอร์ตามสัญญาณมือถือของต้นหลิวมาจอดรถที่ข้างถนนแล้วเดินตามสัญญาณมาเรื่อยๆกับลูกน้องของเขาอีกสองสามคนจนมาถึง
โรงพยาบาล“หลิวเป็นยังไงบ้างคะ”ต้นรักรู้ข่าวว่าพี่สาวเธอโดนยิงก็แทบช็อค ไม่เข้าใจว่าทำไมคนรอบข้างของเธอต้องพากันนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด“หมอกำลังผ่าตัดเอากระสุนออกอยู่ครับ”ฮาเปอร์รีบบอกหญิงสาวที่รีบเดินมาถามข่าวกับเขาอย่างรวดเร็วแอบหวั่นใจอยู่ว่าเรื่องแบบนี้คงกระทบหกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอยู่ไม่น้อยเมื่อต้องรับรู้ว่าคนรอบข้างล้วนมีแต่เรื่องเจ็บตัวกันไปหมด“โถ่...”“รัก!!”ต้นรักถึงกับยืนไม่อยู่ แล้วสติเธอก็ดับวูบไปดีที่พริกแกงนั้นรับเอาไว้ทัน“หนูต้นรักเป็นยังไงบ้าง”เอมม่ารู้สึกปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหลือเกินยังไงเธอก็เชื่อไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นว่าเรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือของนิรินแน่นอน“คือ คุณต้นรักพึ่งจะตั้งครรภ์อ่อนๆร่างกายเธออ่อนเพลียมากช่วงนี้ญาติก็อย่าให้คนไข้มีอะไรมากระทบจิตใจมากนักนะคะ”หมอสาวตรวจดูอาการของต้นรักแล้วก็พอจะรู้สาเหตุของอาการที่เธอเป็นลมบ่อยๆ ทั้งยังต้องให้เธอนั้นระวังอย่าให้อะไรมากระทบกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอีกด้วย“อะ..เอ่อ..ค่ะหมอ”พริกแกงถึงกับสะอึกกับคำกล่าวของหมอสาวคนในห้องทุกคนต่างก็อึ้งไปตามๆกัน ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาในตอนนี้“นี่เจ้าตัวก็น่าจะไ