Share

ตอนที่14 ตัวตนที่แท้จริง

“ก็คุณเบนบอกว่าทำแบบไหนก็ได้ ฉันเห็นว่ามันก็น่ารักดี คุณเบนไม่เอาก็ได้นะคะ”

ต้นรักสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยจากที่ยิ้มร่าอยู่ตอนแรก เพราะเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่ดูจะไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นเสื้อที่เธอทำให้ก็เขาบอกเธอตอนแรกว่าเอาแบบไหนก็ได้ เธอเห็นว่าที่เธอทำมันก็น่ารักดี

“ไม่...ฉันจะใส่”

เบนจามินคิดว่าเขาผิดเองที่ไปบอกเธอว่าทำแบบไหนก็ได้ตั้งแต่แรก แต่ไม่เป็นไรยังไงเธอทำมาแล้วเขาก็ต้องใส่อยู่ดี พร้อมถอดเสื้อที่เขาใส่นั้นออกและสวมเสื้อไหมพรมที่หญิงสาวทำให้ทันที

“อิ อิ น่ารักดีนะคะ”

ต้นรักเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในเสื้อผ้าแบบนี้แล้วดูน่ารักไปอีกแบบ

“อืม”

เบนจามินไม่ค่อยได้ใส่เสื้อผ้าอะไรแบบนี้ จึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เขาสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกหลายรอบ ในเมื่อเป็นฝีมือของต้นรัก ยังไงเขาก็ต้องทำใจชอบให้ได้

โรงแรม

“เพอร์เฟคมากหลิว”

“ค่ะพี่พิ้งค์”

พิ้งกี้อดชมในฝีมือของต้นหลิวไม่ได้ที่ ออกแบบงานได้แปลกตาและสวยงามมากจริงๆ

“ทางนี้คงจะเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราไปช่วยพี่ดูพวกนางแบบนายแบบทางนี้”

“ค่ะ”

พิ้งกี้เห็นว่าทางด้านหน้างานเรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ดูความเรียบร้อยของพวกนายแบบนางแบบให้พร้อมก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้ว

ห้องแต่งตัว

“หืม...”

วันนี้คาวีได้รับหน้าที่เป็นนายแบบจำเป็น ภาวนาในใจว่าวันนี้ขอให้เขาอย่าได้เจอกับต้นหลิวจังๆเลย แต่เห็นจะไม่เป็นผลเพราะเขาเห็นหญิงสาวเดินตรงดิ่งมาหาเขาแล้ว

“คุณ มาทำอะไรที่นี่?”

ต้นหลิวเดินเข้าห้องมาพร้อมกับพิ้งกี้สายตาของเธอไปสะดุดกับใครบางคนเลยตรงดิ่งมาหาเขา พร้อมกับถามด้วยความสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่นี่

“คือ ผมมาเป็นนายแบบ”

คาวีตอบหญิงสาวให้หายสงสัย เพราะวันนี้เขามาทำหน้าที่เป็นนายแบบเดินแบบเครื่องเพชรให้คุณแม่ของเขาที่มีบริษัทของหญิงสาวเป็นคนรับจัดอีเว้น

“โห มีรับงานพิเศษด้วย เออ...แม่ฉันฟื้นแล้ว ขอบคุณมากที่ทำให้ฝันฉันเป็นจริง”

ต้นหลิวปรบมือให้ชายหนุ่มเพราะเห็นว่ากลางวันทำหน้าที่เป็นหมอ กลางคืนก็ยังรับงานเป็นนายแบบอีก พร้อมทั้งยื่นมือไปกุมมือชายหนุ่มอย่างดีใจ ขอบคุณคนตรงหน้าที่ช่วยรักษาแม่เธอจนฟื้นขึ้นมาได้แล้ว

“อืม อย่างที่เคยบอก ผมเป็นหมอก็ต้องรักษาคนไข้ให้สุดความสามารถอยู่แล้ว”

คาวีรู้สึกประหม่าในการกระทำของหญิงสาวพอสมควร แต่ก็ยังพยายามเก็บอาการเอาไว้

“ตาวีทำอะไรอยู่ลูก งานจะเริ่มแล้ว”

อมีนาเดินมาดูความเรียบร้อยเช่นกัน เห็นว่านายแบบนางแบบเค้าเตรียมตัวใส่เครื่องเพชรเรียบร้อยแล้วแต่ลูกชายของเธอยังมัวคุยอยู่เลย

“นี่คุณแม่ผม”

คาวีถือโอกาสแนะนำให้หญิงสาวได้รู้จักกับแม่ของเขา ชายหนุ่มรู้ว่าเธอคงจะไม่รู้ว่าแม่เขาเป็นใคร เพราะเธอไม่ได้ดิวงานเองโดยตรงเธอทำแค่เบื้องหลังเท่านั้น

“สวัสดีค่ะคุณน้า คุณแม่คุณยังสวยมากเลยเนอะ”

ต้นหลิวรีบสวัสดีหญิงวัยกลางคนที่ชายหนุ่มแนะนำให้รู้จักว่าเป็นแม่ของเขา เธอทึ่งในความสวยของผู้หญิงตรงหน้ามากที่ท่าทางจะดูแลตัวเองดีมาก มีลูกชายโตจนป่านนี้แล้วยังดูสาวอยู่เลยจึงอดเอ่ยปากชมไม่ได้

“อืม”

คาวีพยักหน้าตอบหญิงสาว ไม่รู้ว่าจะตะลึงอะไรในความสวยของแม่เขานักหนา

“สู้ๆนะคุณ ฉันจะเป็นกำลังใจให้ด้านหน้า ขอตัวไปดูงานก่อนหนูขอตัวนะคะคุณน้า”

“จะ”

ตอนนี้ต้นหลิวเห็นว่าเธอจะต้องไปดูความเรียบร้อยแล้วจึงขอตัวทั้งสองออกไปทำงานของเธอ ทิ้งท้ายบอกกับชายหนุ่มว่าเธอจะไปเป็นกำลังใจอยู่ด้านหน้า

“นี่เพื่อนลูกใช่ไหม เธอน่ารักดีนะ”

“ครับคุณแม่”

อมีนาเห็นหญิงสาวเดินออกไปแล้วจึงหันมาคุยกับลูกชายของเธอ ทั้งคิดว่าคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนที่ลูกชายเธอช่วยเหลือเป็นแน่ ดูจากอาการลูกชายเธอแล้วก็คงจะไม่ใช่เพื่อนธรรมดาอย่างที่เธอคิดตั้งแต่คราแรก

ด้านหน้างาน

เมื่อถึงเวลาเปิดงานเหล่านางแบบนายแบบก็เดินขึ้นเวทีเรียงคิวกันมาอย่างไม่ขาดสาย นักข่าวต่างก็ตั้งกล้องถ่ายกันอย่างขะมักเขม้นเพื่อนเก็บภาพบรรยากาศให้ได้มากที่สุด

ต้นหลิวเองก็คอยดูความเรียบร้อยไปด้วยและก็คอยอยู่ว่าเมื่อไรคาวีจะเดินออกมาเสียที

“คุณ”

เมื่อเห็นคาวีเดินเปิดตัวมาเป็นคนสุดท้ายต้นหลิวที่ยืนอยู่ด้านหน้าก็โบกไม้โบกมือเป็นกำลังใจให้ชายหนุ่มอยู่ตลอดเวลา

“และเครื่องเพชรที่น้ำงามที่สุดของวันนี้ก็อยู่กับนายแบบคนนี้ค่ะ ดูที่นาฬิกาของเค้านะคะ เรือนนี้ประดับด้วยเพชรเม็ดงามน้ำดีที่สุด78เม็ดฝังอยู่ที่รอบๆ ได้รับเกียรติจากคุณคาวี อินทวรนันท์ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงอมีนา อินทวรนันท์ เจ้าของเครื่องเพชรทั้งหลายในวันนี้ค่า”

หลังจากที่พิธีกรประกาศนักข่าวต่างก็รุมรัวกดชัตเตอร์ ที่นานๆทีลูกชายไฮโซของคุณหญิงอมีนาจะออกงานเสียที

“เอ่อ...”

คาวีถึงกับหน้าเสียที่ไม่คิดว่าพิธีกรจะประกาศเปิดตัวเขาแบบนี้เหมือนกัน พลันก็หันสายตามองไปที่ต้นหลิว ตอนนี้เธอไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมแล้ว

ทางด้านต้นหลิวก็ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เธอพึ่งรู้วันนี้เองว่าหมอหนุ่มที่เธอคิดว่าเขาเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปแถมยังทำตัวสนิทสนมกับเขาเป็นถึงทายาทเจ้าของแบรนด์เครื่องเพชร ถ้าเธอจำไม่ผิดพิ้งกี้เคยเล่าให้เธอฟังว่าสามีของเจ้าของแบรนด์นี้เป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่แม่ของเธอรักษาอยู่ แสดงว่าชายหนุ่มก็เป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาล ยิ่งคิดหญิงสาวยิ่งอึ้งกันเข้าไปใหญ่

เช้าวันต่อมา

“แม่จ๋าหลิวมาแล้ว”

ต้นหลิวเข้ามาในห้องของแม่เธอพร้อมกระซิบที่ข้างหูของแม่เธอเบาๆ ภาพตรงหน้าที่แม่ของเธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาทำเอาหญิงสาวน้ำตาคลอด้วยความดีใจ

ทั้งต้นรักและต้นหลิวต่างก็เข้ามากอดแม่ของเธอด้วยน้ำตาแห่งความปิติ อนงค์ยกมือทั้งสองลูบหัวลูกสาวของเธอทั้งสองโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้การกระทำพูดแทนความรู้สึกเพราะตอนนี้เธอก็ไม่ได้มีแรงที่จะพูดมากมายนัก

“สวัสดีครับ”

เมื่อได้เวลาคาวีก็เข้ามาตรวจคนไข้ของเขาตามปกติ รู้อยู่แล้วว่ายังไงเช้านี้เขาก็ต้องเจอต้นหลิวแน่นอน

“ค่ะคุณหมอ”

ต้นรักหันไปยิ้มให้หมอหนุ่มตามปกติ ผิดกับต้นหลิวที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าคนที่พึ่งเข้ามาด้วยซ้ำ

“เราออกไปข้างนอกกันก่อน ให้หมอเค้าตรวจแม่ไปดีกว่า”

“ก็ได้”

ต้นหลิวรู้สึกว่าไม่อยากจะยืนอึดอัดอยู่ในห้องนี้เธอชวนต้นรักออกไปด้านนอกจะดีกว่า ต้นรักเองเห็นว่าพี่สาวเธอมีทีท่าแปลกๆจึงตามใจพี่สาวของเธอออกมา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status