Share

ตอนที่19 คนรักเก่า

“หมอคะ คุณเบนเป็นยังไงบ้าง”

ต้นรักเห็นหมอหนุ่มก็รีบถามอาการของเบนจามินทันทีเพราะเธอรอฟังมาทั้งคืนแล้ว

“ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วครับ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้ฟื้นเท่านั้นแหละครับ”

คาวีถือว่าเบนจามินใจสู้มากทำให้การรักษาผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็แค่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดก็เท่านั้น

“รู้แบบนี้ก็สบายใจได้แล้วนะรัก”

ต้นหลิวหันไปบอกกับคนเป็นน้องสาวเธอเองก็โล่งอกเหมือนกันที่ได้รู้แบบนี้น้องเธอจะได้เลิกร้องให้เสียที

“ผมขอตัวก่อนนะครับ”

คาวีรู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้นานคงไม่ดีเป็นแน่ เพราะรู้ว่าต้นหลิวคงไม่อยากจะเจอหน้าเขาสักเท่าไหร่ หลังจากวันนั้นที่เธอรู้ความจริงว่าเขาเป็นใครเธอก็เอาแต่หลบหน้าตลอด แม้แต่ตอนที่เขาเข้าไปตรวจอนงค์แล้วเจอต้นหลิว หญิงสาวก็จะขอตัวออกไปข้างนอกตลอดเลยไม่เคยได้พูดคุยกันเหมือนอย่างเคย

เขาเองไม่ได้คิดจะไปยุ่งอะไรกับเธอหากต้นหลิวสบายใจที่จะเป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากกวนใจเธอ แต่ยังไงเรื่องที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเธอนั้นเขาก็ยังช่วยเหลือเธออยู่ตลอดเวลา

“แกเห็นไหมว่าที่ลูกสะใภ้แกแสบแค่ไหน”

เอมม่ากลับมาเพราะหลานชายคนเดียวของเธอบอกว่ามีข่าวดีจะบอก แต่เมื่อมาถึงกลับได้ฟังข่าวร้ายเสียอย่างนั้น

“ผมรู้ทุกอย่าง คุณแม่จะมาย้ำผมทำไม”

บรูคเองก็รู้ทุกอย่างแล้วว่าเขาตัดสินใจอะไรผิดแต่ก็ไม่อยากให้ใครมาย้ำอยู่ดี เพราะแค่นี้เขาก็ปวดหัวใจมากพออยู่แล้ว

“ฉันบอกแกแล้วว่าชีวิตหลานฉันให้เค้าเลือกทางของเค้าเองแกก็ไม่ฟัง...ฉันรู้ว่าอดีตฉันเคยบังคับแกแต่ก็เห็นแล้วว่ามันไม่ได้มีผลดีอะไรเลย ตอนนี้แกก็ไม่จำเป็นจะต้องบังคับลูกแกเหมือนที่ฉันบังคับแกก็ได้”

เอมม่าเองเคยใช้วิธีบังคับคลุมถุงชนกับบรูคมาแล้วเธอเห็นผลของมันแล้วว่ามันส่งผลอย่างไรบ้าง ครอบครัวที่ไม่มีความอบอุ่นทำให้หลานของเธอต้องมาอยู่กับเธอเพราะปัญหาครอบครัว..เธอเคยเตือนลูกชายเธอแล้วว่าอย่าใช้วิธีเดียวกับเธอแต่ก็ไม่ฟัง เธอเองก็รู้สึกผิดที่เป็นคนเผด็จการและยังเลี้ยงลูกของเธอให้มีนิสัยเผด็จการอีกด้วย

“ผมบอกว่าผมรู้ครับคุณแม่ เรื่องถอนหมั้นเดี๋ยวผมจะเป็นคนคุยกับเพื่อนผมเอง”

บรูคนั่งกุมขมับเขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นได้ไม่คิดว่าพิษของการที่เขาสร้างสัญญาบ้าบอนั่นขึ้นมาจะทำให้ลูกเขาเกือบตาย

“แล้วเรื่องคดีแกจะเอายังไง”

เอมม่ารู้ว่าคนผิดเป็นคนสนิทของลูกชายเธอ แต่เธอเองก็ไม่ได้คิดจะยอมความอะไรง่ายๆ เพราะหลานเธอเจ็บปางตายทั้งคนเธอจะไม่ยอมให้คนผิดนั่งอยู่สบายๆแน่นอน

“ผมขอคุยกับนราทรอีกทีครับ”

บรูคอยากจะพุดคุยกับเพื่อนของเขาก่อนถึงจะตัดสินใจอะไรลงไป เพราะยังเห็นแก่ความเป็นเพื่อน

“ฉันว่าจะมาคุยกับแกพอดีบรูค...ฉันขอโทษฉันเลี้ยงลูกไม่ดีเอง เรื่องทุกอย่างแกจัดการตามกฎหมายได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ฉันก็อยากดัดนิสัยลูกสาวฉันเหมือนกัน”

นราทรนั่งรถเข็นเข้ามาในบ้านเขารู้ว่าลูกเขาทำผิดและก็รู้อีกด้วยว่าเพื่อนของเขากำลังลำบากใจอยู่ เขาจึงมาพูดเพื่อให้เพื่อนของเขาคลายความกังวลว่าให้จัดการทุกอย่างได้เลยโดยที่ไม่ต้องเกรงใจเขา

“เรื่องหมั้น”

“ฉันรู้แกไม่ต้องพูดฉันก็เข้าใจ”

นราทรมองหน้าเพื่อนของเขาก็พอจะรู้ว่าคิดอะไรเขาลูกสาวของเขาทำกับครอบครัวของเพื่อนเขาขนาดนี้ ดีแค่ไหนแล้วที่คนในบ้านนี้ยังคุยดีกับเขาอยู่

วันต่อมา

โรงพยาบาล

ต้นรักคอยเฝ้าเบนจามินอยู่ไม่ห่าง ถึงเธอจะรู้ว่าเขาปลอดภัยแล้วแต่สภาพที่มีสายระโยงระยางแถมผ้าพันแผลยังเต็มตัวทำให้เธออดที่จะร้องให้สงสารเขาไม่ได้

แกร็กกก

“นี่คุณบรูคคุณพ่อของคุณเบนแล้วนี่ก็คุณเอมม่าคุณย่าของคุณเบนครับ”

โจชัวแนะนำทั้งบรูคและเอมม่าให้กับต้นรักได้รู้จัก

“สวัสดีค่ะ”

ต้นรักรีบปาดน้ำตาลวกๆพร้อมยกมือสวัสดีทั้งสองทั้งที่ยังมีอาการสะอื้นเล็กๆอยู่

“ไหว้พระเถอะจะ...หนูต้นรักสินะหมอมาตรวจตาเบนหรือยัง”

เอมม่าพอจะได้ยินเรื่องราวของต้นรักจาฮาเปอร์และโจชัวอยู่บ้าง และก็พอจะรู้ว่าคนที่หลานของเธอเลือกเป็นยังไง ไม่อย่างนั้นคงจะไม่พาไปอยู่เพนท์เฮ้าส์ถาวรขนาดนั้น

“มาแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าคุณเบนจะอาการดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ”

ต้นรักตอบหญิงตรงหน้าอย่างที่หมอคาวีได้บอกกับเธอมา

“แล้วหนูร้องให้ทำไม”

เอมม่าเห็นว่าอาการของหลานชายของเธอดีขึ้นเรื่อยๆก็ไม่เข้าใจว่าเธอนั้นจะร้องให้เพราะเรื่องอะไร

“หนูสงสารคุณเบนค่ะ”

ต้นรักไม่ได้อยากให้น้ำตามันไหลมาเลยสักนิด แต่เมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มเธอก็อดที่จะปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาไม่ได้

“โถแม่คุณ” 

เอมม่าเข้าไปกอดปลอบพร้อมลูบหัวหญิงสาวพลางคิดว่านี่แหละคงจะเป็นอาการของคนที่ห่วงใยกันมากๆ หากหลานชายของเธอได้รู้ว่ามีคนที่รักอยู่ใกล้ๆตลอดเวลาที่บาดเจ็บคงจะดีใจน่าดู

“ได้ข่าวว่าแม่หนูก็รักษาตัวอยู่ที่นี่ใช่ไหม”

เอมม่ารู้ว่าแม่ของหญิงสาวก็พักรักษาตัวอยู่ที่นี่เหมือนกันเลยอยากจะไปเยี่ยมพูดคุยด้วยสักหน่อย

“ค่ะ...อีกไม่กี่วันก็ออกไปพักที่บ้านได้แล้วค่ะ”

“งั้นพาฉันไปเยี่ยมแม่หนูหน่อยสิ”

“ค่ะคุณท่าน”

“คุณย่าจะ”

เอมม่าไม่ค่อยชอบให้ใครเรียกเธอแบบนี้สักเท่าไร เพราะมันดูห่างเหินชอบกลยิ่งเป็นว่าที่หลานสะใภ้ด้วยแล้วเรียกแบบเดียวกับหลานชายเธอเห็นจะถูกต้อง

“ค่ะคุณย่า”

ต้นรักเชื่อแล้วว่าคุณย่าเบนจามินใจดีอย่างที่เขาบอกพร้อมเดินนำทุกคนไปที่ห้องแม่ของเธอ

แกร็กกกก

“นาง!!”

บรูคเดินตามต้นรักกับคุณแม่ของเขามายังห้องพักผู้ป่วยวีไอพี เมื่อเดินเข้ามาภาพของคนที่นอนอยู่ที่เตียงทำเขาหยุดการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ หญิงสาวที่เขาเคยรักแต่หนีจากเขาไปนานแสนนานตอนนี้เธออยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว

“คุณบรูค”

อนงค์เองก็ตกใจไม่ต่างกับบรูคเช่นกัน แต่เห็นคนที่ดูจะสงสัยที่สุดคงจะเป็นต้นรักที่มองหน้าทั้งคู่สลับกนไปมาอย่างอยากรู้คำตอบ

“ฉันคิดว่าจะไม่ได้เจอเธอแล้วเสียอีก”

“ค่ะ”

เมื่อบรูคตั้งสติได้ก็รีบเดินปรี่เข้าไปหาอนงค์ทันที หลายปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอเธอ นับจากวันที่เธอนั้นหนีเขาไปเพราะแม่ของเขาบังคับให้แต่งงานกับคนที่เหมาะสม

“หนูต้นรักออกมากับย่าเถอะ”

เอมม่าจำได้ว่าแม่ของหญิงสาวเป็นคนรักเก่าของลูกชายเธอไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ เมื่อความผิดพลาดในอดีตของเธอมันส่งผลมายังปัจจุบันตอนนี้เธอก็ขอให้ปัจจุบันเป็นปัจจุบันที่ดีก็แล้วกัน เธอปล่อยให้สองคนนั้นได้พูดคุยกันตามลำพังจะดีกว่า

“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณย่า”

ต้นรักยังคงมีท่าทีที่สงสัยไม่หาย

“เรื่องมันนานมาแล้วหละหนูต้นรัก คือว่า...”

เอมม่าตัดสินใจเล่าเรื่องราวความผิดพลาดทั้งหมดที่เธอได้ทำลงไปเมื่อนานมาแล้ว ด้วยเหตุที่เธอรักเกียรติและศักดิ์ศรีของเธอมากเกินไปเลยไม่ยอมรับลูกสะใภ้ที่ไม่มีหน้ามีตาทางสังคม ทำให้อนงค์ต้องหนีจากบรูคลูกชายของเธอไป จนบรูคตัดสินใจแต่งงานกับคนที่เธอเลือกให้ด้วยความประชดประชัน ชีวิตคู่มันจึงไม่มีความสุขเสมอมา

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”

ต้นรักได้ยินสิ่งที่เอมม่าเล่าให้ฟังเธอก็นึกสงสารคนเป็นแม่ของเธอ ถ้าเป็นเธอคงจะเจ็บปวดน่าดูที่ต้องหนีจากคนที่รักไปแบบนั้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status