Share

ตอนที่22 งอน

โรงพยาบาล

“หลิวเป็นยังไงบ้างคะ”

ต้นรักรู้ข่าวว่าพี่สาวเธอโดนยิงก็แทบช็อค ไม่เข้าใจว่าทำไมคนรอบข้างของเธอต้องพากันนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด

“หมอกำลังผ่าตัดเอากระสุนออกอยู่ครับ”

ฮาเปอร์รีบบอกหญิงสาวที่รีบเดินมาถามข่าวกับเขาอย่างรวดเร็วแอบหวั่นใจอยู่ว่าเรื่องแบบนี้คงกระทบหกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอยู่ไม่น้อยเมื่อต้องรับรู้ว่าคนรอบข้างล้วนมีแต่เรื่องเจ็บตัวกันไปหมด

“โถ่...”

“รัก!!”

ต้นรักถึงกับยืนไม่อยู่ แล้วสติเธอก็ดับวูบไปดีที่พริกแกงนั้นรับเอาไว้ทัน

“หนูต้นรักเป็นยังไงบ้าง”

เอมม่ารู้สึกปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหลือเกินยังไงเธอก็เชื่อไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นว่าเรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือของนิรินแน่นอน

“คือ คุณต้นรักพึ่งจะตั้งครรภ์อ่อนๆร่างกายเธออ่อนเพลียมากช่วงนี้ญาติก็อย่าให้คนไข้มีอะไรมากระทบจิตใจมากนักนะคะ”

หมอสาวตรวจดูอาการของต้นรักแล้วก็พอจะรู้สาเหตุของอาการที่เธอเป็นลมบ่อยๆ ทั้งยังต้องให้เธอนั้นระวังอย่าให้อะไรมากระทบกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอีกด้วย

“อะ..เอ่อ..ค่ะหมอ”

พริกแกงถึงกับสะอึกกับคำกล่าวของหมอสาวคนในห้องทุกคนต่างก็อึ้งไปตามๆกัน ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาในตอนนี้

“นี่เจ้าตัวก็น่าจะไม่รู้ตัวใช่ไหม”

เอมม่าหันไปพูดกับพริกแกงอย่างอ่อนใจ เธอไม่รู้ว่าหญิงสาวตื่นมาจะรู้สึกอย่างไรเลยเมื่อรู้ว่าตัวเองพึ่งตั้งท้องทั้งที่คนเป็นพ่อของลูกนอนป่วยไม่รู้จะฟื้นตอนไหน แถมพี่สาวก็ยังบาดเจ็บอีก

“คงจะเป็นอย่างนั้นค่ะ”

พริกแกงคิดว่าต้นรักก็น่าจะไม่ได้สังเกตตัวเอง ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้ตัวเองร่างกายอ่อนแอขนาดนี้

สองวันต่อมา

อนงค์กลับมาอยู่บ้านได้วันสองวันแล้วโดยมีพยาบาลพิเศษที่บรูคจ้างให้มาดูแลตลอดเวลาอย่างใกล้ชิดตามความต้องการของลูกชายเขาตั้งแต่แรก พร้อมหมอที่ทำกายภาพบำบัดให้เธอก็มาตรวจที่บ้านอยู่บ่อยๆ ทำให้อนงค์อยู่ที่บ้านได้อย่างสบาย ไม่ต้องเข้าออกที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ

เมื่อตอนที่รู้ข่าวต้นหลิวเธอก็ตกใจอยู่เหมือนกันแต่เมื่อรู้ว่าลูกสาวของเธอถึงมือหมอและปลอดภัยแล้วก็คลายกังวลแค่ไม่ถึงแก่ชีวิตเธอก็พอใจแล้วถือว่าฟาดเคราะห์ไป

“วันนี้จะไปโรงพยาบาลอีกเหรอลูก”

อนงค์เห็นต้นรักแต่งตัวตั้งแต่เช้าจะมีที่ไหนที่ลูกสาวเธอจะไปได้อีกนอกจากโรงพยาบาล

“จะแม่”

“ทานข้าวเช้ากับนมก่อนนะลูก”

“แม่ก็ทานข้าวเยอะๆนะจ๊ะ”

อนงค์รู้ว่าลูกสาวเธอกำลังท้องอ่อนๆเลยอยากจะให้บำรุงเยอะๆ เธอไม่คิดจะต่อว่าลูกสาวเธอสักนิดว่าท้องก่อนแต่ง แค่ลูกสาวเธอมีความสุขกับผู้ชายที่ลูกเธอรักก็เพียงพอแล้ว เธอมีชีวิตอยู่จนผ่านความเป็นความตายมาขาดนี้ จึงไม่อยากจะยึดติดอะไรมากนัก

สองอาทิตย์ต่อมา

“หลิว”

ตอนนี้ต้นหลิวอาการดีขึ้นมากหลังจากที่ได้รับการผ่าตัดเอากระสุนออก ต้นรักมาเยี่ยมพี่สาวของเธอแทบทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ติดว่าแม่เธอท้วงไม่ให้เดินทางมากเธอก็จะไม่ได้มา

“รัก”

ต้นหลิวยิ้มอ่อนให้คนเป็นน้องสาว เธอรู้เรื่องที่น้องเธอกำลังจะมีหลานให้เธออุ้มแล้วก็ดีใจกับน้องสาวของเธอด้วย ตอนนี้ก็เหลือแต่ให้คนที่กำลังจะเป็นพ่อคนอย่างเบนจามินฟื้นมาฟังข่าวดีก็เท่านั้น

ส่วนนิรินก็โดนตำรวจจับดำเนินคดีตามกฎหมายเรียบร้อยแม้แต่พ่อของนิรินเองก็ไม่คิดจะช่วย เพราะอยากให้ลูกสาวของเขานั้นได้รับโทษที่ตัวเองทำผิด

“แม่เป็นยังไงบ้างรัก”

“ตอนนี้ก็เดินได้เยอะขึ้น แล้วก็ทานข้าวได้เยอะขึ้นด้วย”

“รู้แบบนี้ก็สบายใจ”

ต้นหลิวรู้ว่าคนเป็นแม่กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว เธอก็อยากรู้ว่าแม่ของเธออยู่บ้านแล้วโอเคเหมือนที่อยู่โรงพยาบาลหรือเปล่า เมื่อรู้ว่าแม่เธอดีขึ้นจากปากน้องสาวก็เบาใจ อีกหน่อยเธอคงจะออกจากโรงพยาบาลไปช่วยดูแลแม่ได้แล้ว

แกร๊กก

“คุณหมอสวัสดีค่ะ”

ต้นรักหันไปตามเสียงประตูที่เปิดเข้ามาเห็นว่าเป็นหมอคาวีก็เลยทักทายตามปกติที่เจอกันทุกครั้ง เธอแอบเห็นว่าดูหมอคาวีจะใส่ใจพี่สาวเธอเป็นพิเศษ แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับพี่สาวของเธอเรื่องนี้เสียที

“สวัสดีครับคุณต้นรัก เดี๋ยวหมอขอตรวจคนไข้ของหมอก่อนนะครับ”

“ค่ะ”

คาวีพูดกับต้นรักพร้อมมองไปที่หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงด้วยรอยยิ้มแต่แม่สาวเจ้าไม่ยักจะหันมาสบตากับเขาแม้แต่น้อย เขาแอบน้อยใจเล็กน้อยที่เขาห่วงเธอแทบตาย แต่เธอไม่เคยสนใจในความห่วงใยของเขาแม้แต่นิดเดียว

 “วันนี้ทานอาหารได้ตามปกติใช่ไหม”

คาวีถามต้นหลิวตามวิธีการตรวจของหมอแต่แอบแฝงไปด้วยความห่วงใยหญิงสาวเต็มเปี่ยม

“ค่ะ”

ต้นหลิวไม่มองหน้าหมอหนุ่มแม้แต่หางตา แถมยังตอบคำถามอีกฝ่ายห้วนๆด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก

พฤติกรรมของทั้งสองคนอยู่ในสายตาของต้นรักทั้งหมด เธอรู้สึกว่าพี่สาวของเธอกับหมอคาวีต้องมีปัญหาอะไรกันสักอย่างแน่นอน

“หลิวมีปัญหาอะไรกับคุณหมอหรือเปล่า”

หลังจากที่หมอหนุ่มและพยาบาลออกไปจากห้องพี่สาวเธอหมดแล้วต้นรักจึงถามเรื่องที่เธอคาใจกับพี่สาวเธอทันที

“ก็เปล่านี่”

ต้นหลิวเลี่ยงที่จะตอบต้นรัก เพราะเธอไม่อยากจะพูดถึงมันอีก

“อย่าคิดว่าเค้าไม่รู้ บอกมาเดี่ยวนี้เลย”

ต้นรักยังคะยั้นคะยอให้พี่สาวเธอตอบให้ได้

“คือ...”

ต้นหลิวรู้ว่าอาการของเธอยังไงมันก็ปิดต้นรักไม่ได้อยู่ดี จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เธอรู้สึกไม่ดีให้คนเป็นน้องสาวได้ฟัง

“นี่หลิวโกรธคุณหมอเพราะเค้าช่วยหลิวเหรอ”  

ต้นรักฟังที่ต้นหลิวเล่าเรื่องที่เคืองหมอหนุ่มให้ฟังก็พอจะเข้าใจว่าพี่สาวเธอคงจะรู้สึกเสียศักดิ์ศรีที่หมอคาวีช่วยโดยที่ไม่บอก แถมยังโดนคนที่ทำงานพูดถึงในทางที่ไม่ดีเพราะความช่วยเหลือจากหมอหนุ่ม แต่เธอเองก็เห็นว่าพี่สาวเธอถึงจะรู้สึกเสียศักดิ์ศรีแต่ก็ไม่น่าทำทีท่าไม่อยากจะมองหน้าหมอหนุ่มขนาดนั้น เพราะยังไงคาวีก็ทำไปเพราะความหวังดี

“ไม่ใช่แค่ช่วยแล้วไม่บอก เป็นใครยังไม่บอกอีกด้วย”

“เค้าว่าที่คุณหมอไม่ได้บอกว่าเค้าเป็นเจ้าของโรงพยาบาลก็เพราะคุณหมอคาวีเองก็ไม่ได้มีเหตุจำเป็นที่จะต้องมาบอกเรานี่ว่าเค้าเป็นเจ้าของโรงพยาบาล แล้วหลิวจะงอนคุณหมอเรื่องนี้ก็ไม่ถูก”

“ใครบอกเค้างอนหมอ ไม่ได้งอนซะหน่อย แค่ไม่ชอบให้เค้ามายุ่งกับหลิวมาช่วยหลิวแบบนี้”

ต้นหลิวยังไม่ยอมรับกับต้นรักว่าเธอน้อยใจหมอหนุ่ม

“แต่เค้าว่าคุณหมอเค้าก็ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีกับหลิวนะ”

ต้นรักยังพยายามทำให้พี่สาวของเธอเข้าใจในเจตนารมณ์ที่แท้จริงของหมอหนุ่มให้ได้ แต่ดูท่าพี่สาวเธอจะไม่อยากเข้าใจมันน่ะสิ

“เค้ารู้ ก็บอกแล้วไงว่าแค่ไม่ชอบวิธีที่หมอคาวีช่วย แล้วก็ไม่อยากให้หมอมายุ่งอะไรกับเค้ามากด้วย”

“เค้าว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ เค้าคิดว่าหมอคงจะอยากยุ่งกับหลิวอยู่เรื่อยๆเลยล่ะ”

“ทำไมล่ะ”

“เรื่องนี้เค้าคิดว่าหลิวคงจะต้องถามคุณหมอเอาเองแล้วหละ”

เรื่องนี้ต้นรักก็คงจะตอบไม่ได้ดีเหมือนหมอหนุ่มตอบเองเธอเลยโบ้ยคำถามนี้ให้พี่สาวเธอไปถามหมอคาวีเองก็แล้วกัน

สองชั่วโมงต่อมา

หลังจากต้นรักอยู่พูดคุยกับต้นหลิวได้พักใหญ่เธอก็มานั่งเฝ้าที่ข้างๆเตียงของเบนจามินเช่นเดิม โดยนั่งถักไหมพรมไปเรื่อยๆ คิดไว้ว่าถ้าชายหนุ่มตื่นเธอจะได้เอาให้เขา และเธอก็ถักเสื้อไว้สำหรับใส่เป็นครอบครัวเอาไว้ด้วย

“ทำอะไรอยู่เหรอหนูต้นรัก”

“ถักเสื้อให้คุณเบนค่ะคุณย่า”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status