คลับหรู
“แกลืมมือถือใช่ไหม”
พริกแกงเห็นต้นหลิวเดินมาที่จุดนัดพบก็รีบดึงมือเพื่อนเธอเข้ามาที่มุมมืดของร้านทันที พริกแกงเข้านอกออกในที่นี่บ่อยเธอจึงรู้แทบทุกซอกทุกมุม
“แกรู้ได้ไง”
ต้นหลิวแปลกใจเล็กน้อยที่เพื่อนเธอรู้ว่าเธอลืมมือถือ ตัวเธอเองยังรู้ตัวเมื่อถึงที่นี่แล้วเลย
“ก็ฉันโทรหาแกแล้วยัยต้นรักรับน่ะสิ แถมบอกจะรีบเอามือถือมาให้แกอีก”
“อ้าวอย่างนั้นก็ซวยน่ะสิ ยัยต้นรักก็ต้องสงสัยแน่เลย”
ต้นหลิวเริ่มมีสีหน้าตระหนก หากต้นรักรู้ว่าเธอไม่ได้มาทำงานที่นี่อย่างที่บอก เรื่องนี้เธอจะต้องทะเลาะกับต้นรักใหญ่โตแน่
“งั้นแกก็ต้องรีบเลยก่อนที่ยัยต้นรักจะมา ฉันมองไว้ให้แกแล้วว่าเหยื่ออยู่ตรงไหน น่าจะมีเงินเพราะดื่มแต่ของแพงๆ”
พริกแกงเห็นทีจะต้องให้ต้นหลิวนั้นรีบลงมืออย่างรวดเร็วก่อนที่ต้นรักนั้นจะมาที่นี่ เธอลอบมองเหยื่อไว้หลายคนเห็นจะเป็นพ่อฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้นที่นั่งอยู่คนเดียวน่าจะเข้าถึงง่ายที่สุด
“ฝรั่งคนนั้นอะนะ”
ต้นหลิวมองไปตามที่เพื่อนของเธอชี้เธอเห็นว่าเขานั้นนั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่งตัวก็ธรรมดาคงจะเป็นการง่ายต่อการที่เธอจะปลดทรัพย์
“ใช่แก ฉันเห็นนั่งเซ่ออยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว ดื่มหนักด้วยคงจะไม่ค่อยระวังตัว”
พริกแกงคิดไปเองว่าฝรั่งคนนี้น่าจะไม่ค่อยระวังตัวเท่าไรเพราะดื่มหนักแล้วจากที่เธอคอยสังเกต
“ขอให้เซ่อจริงอย่างที่แกว่าก็แล้วกัน ฉันไปล่ะนะ”
ต้นหลิวอมยิ้มกรุ้มกริ่ม มองเหยื่อด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ หวังว่างานนี้มันจะผ่านไปด้วยดี เธอจะได้มีเงินไปจ่ายค่ารักษาแม่ของเธอ
“เดี๋ยวฉันจะรออยู่ทางนี้ ถ้ามีอะไรแกก็วิ่งมาทางฉันก็แล้วกันข้างหลังเป็นลานจอดรถ”
“โอเค”
ทั้งสองนัดแนะทางหนีทีไล่กันอย่างดิบอย่างดีก่อนที่ต้นหลิวจะเดินเข้าไปจัดการตามแผน
เบนจามินนั่งดื่มในร้านของเพื่อนเขาอย่างสบายอารมณ์ ถึงจะดื่มไปมากแต่คนคอแข็งอย่างเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะเมาเลยสักนิด ยังมีสติอยู่เสมอ
พลันสายตาชายหนุ่มมองไปเห็นหญิงสาวที่ทำท่าจะเดินมาทางเขา แถมยังส่งยิ้มมาให้เขาอย่างหยาดเยิ้ม เขาเลยยิ้มตอบอัตโนมัติโดยที่ไม่รู้ตัว
“เฮ้อ...สู้”
ต้นหลิวกล้าๆกลัวๆเพราะนี่เป็นงานแรกของเธอที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ เมื่อเห็นเหยื่อตกหลุมพรางแล้วเธอก็ทำทีเดินไปใกล้ๆดึงมือให้เขามาเต้นด้วย
เบนจามินเองก็ไม่ได้ขัดเมื่อแม่สาวคนสวยจะชวนเขาไปสนุกด้วย ถึงเธอจะไม่ได้สูงยาวเขาดีแบบพริตตี้ในร้าน แต่ร่างเล็กๆของเธอก็ยั่วยวนใจของเขาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งใบหน้าสวยหวานที่ยิ้มให้ตลอดนั่นอีก ทำให้เบนจามินเริ่มหลงไหลคล้อยตามความต้องการของหญิงสาวไปได้ง่าย
ต้นหลิวกระหยิ่มอยู่ในใจที่ชายหนุ่มไม่ได้มีทีท่าปฏิเสธ เธอค่อยๆพาเขาเดินมายังกลุ่มคนที่ค่อนข้างเยอะและแออัด พร้อมเข้าประชิดตัวชายหนุ่มให้มากที่สุด พลันสายตาสังเกตเห็นแล้วว่ากระเป๋าเงินของเขาอยู่ตรงไหน จากนั้นก็ใช้ความมือไวหยิบอกมาอย่างง่ายดาย พร้อมหายเข้ากลีบเมฆปล่อยให้ชายหนุ่มยืนงงอยู่คนเดียว เธออาศัยความตัวเล็กของเธอฝ่ามุมมืดเข้ามายังจุดที่นัดกับเพื่อนเธอเอาไว้ทันที
“เป็นไงบ้างแก”
พริกแกงที่ยืนรอรับหญิงสาวที่ลานจอดรถเห็นเพื่อนเธอวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาจึงถามว่างานสำเร็จหรือไม่
“นี่ไง...ง่ายกว่าที่คิดเหมือนกันนะ”
ต้นหลิวโชว์กระเป๋าหนังใบหรูให้เพื่อนเธอดู ไม่คิดว่าเธอจะทำได้ง่ายขนาดนี้แต่ก็แอบสงสารผู้ชายคนนั้นอยู่เหมือนกัน
“หนอย...ยัยตัวแสบเล่นผิดคนซะแล้ว”
เบนจามินละสายตาครู่เดียวหญิงสาวก็หายไปแล้ว การกระทำของเธอทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย พลันใช้ความตัวสูงของเขามองหาจนทั่วก็ไม่มี นึกเอะใจจึงรีบสำรวจตัวเองก็ปรากฏว่าเป็นอย่างที่คิด เขาโดนแม่สาวหน้าหวานขโมยกระเป๋าเงินไปเรียบร้อยแล้ว คิดไปคิดมาไม่น่าหลงเสน่ห์เธอตั้งแต่คราแรกเลย นั่งดื่มคนเดียวอยู่ดีๆก็ดีอยู่แล้ว
กระเป๋าเงินเขาไม่เสียดายสักนิด เพราะในนั้นมีแต่บัตรเครดิตที่อายัดเอาก็ได้ เขานึกเจ็บใจมากกว่า คิดในใจว่าอย่าให้เขาจับเธอได้จะลงโทษซะให้เข็ด พร้อมเดินออกจากร้านอย่างไม่สบอารมณ์โดยไม่มีใครทัดทานที่ไม่ได้จ่ายเงิน เพราะคนในร้านรู้ดีว่าเขาเป็นใคร
ทางด้านต้นรัก
“เดี๋ยวผมจอดให้คุณลงด้านหน้าแล้วขับรถไปรับคุณกลับที่ลานจอดด้านหลังนะครับ”
คาวีขับรถพาหญิงสาวมาส่งที่หน้าคลับด้วยความเป็นห่วงเขาคิดว่าควรจะรอรับเธอกลับเลยจะดีกว่า
“คุณหมอกลับเลยก็ได้ค่ะ ฉันกลับเองได้ค่ะ”
ต้นรักค่อนข้างเกรงใจหมอหนุ่มอยู่มาก แค่มาส่งเธอก็พอแล้ว เรื่องกลับเธอกลับเองได้เพราะที่นี่มันไม่ได้ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก
“ไม่เป็นไรครับผมเป็นห่วง กลัวว่าคุณจะเป็นอันตราย”
คาวียังยืนยันคำเดิมว่าเขาจะรอ
“งั้นขอบคุณนะคะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปรีบมาค่ะ”
ด้วยความที่ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง ต้นรักจึงจำใจให้ชายหนุ่มรอแล้วเธอจะได้รีบเข้าไปด้านใน
เบนจามินเดินออกมาด้านหน้าเพื่อที่จะเตรียมตัวกลับ เรื่องหัวขโมยเดี๋ยวเขาสั่งให้ลูกน้องของเขาจัดการ คงจะใช้เวลาไม่นาน
“อยู่นี่นี่เองแม่ตัวดี”
เมื่อเดินมาถึงที่จอดรถวีไอพีด้านหน้าคลับเขาก็อมยิ้มกริ่ม เพราะเห็นแม่สาวตัวดีที่ขโมยของของเขาไป จึงรีบเดินไปกระชากแขนหญิงสาวเอาไว้ ไม่คิดว่าเธอยังจะอยู่ให้เขาจับได้แบบนี้ แต่ก็ดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาให้ลูกน้องตามหา
“เดี๋ยวค่ะ คุณจะพาฉันไปไหนคะ ปล่อยฉันนะ”
ต้นรักถึงกับหน้าเสียตื่นตระหนก อยู่ดีๆมีฝรั่งตาน้ำข้าวเข้ามากระชากแขนเธอให้ตามเขาไปดื้อๆ
“แม่หัวขโมย ฉันไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆหรอก”
เบนจามินนึกหมั่นไส้หญิงสาวที่ทำหน้าซื่อได้อย่างแนบเนียน ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ตอนอยู่ในร้านยังส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้เขาอยู่เลย
“ขโมยอะไรคะ คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ”
ต้นรักยิ่งไม่เข้าใจในคำที่ชายหนุ่มพูดเข้าไปใหญ่ เธอพึ่งจะมาที่นี่ จะไปขโมยของของเขาได้อย่างไรกัน ทั้งพยายามแกะมือของเขาออกจากแขนเธอ แต่ก็ไม่ได้เป็นผลสำเร็จเพราะว่าตัวของเขาใหญ่กว่าเธอตั้งหลายเท่า ดูจากขนาดมือของเขาก็น่าจะสามารถหักคอเธอได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
“เปลี่ยนชุดเร็วดีนี่ สงสัยจะทำเป็นอาชีพทำมากี่ครั้งแล้วล่ะ หากินสุจริตมันยากนักหรือไง” เบนจามินพูดเย้ยหยันหญิงสาวที่ตีหน้าซื่อเสียงแข็ง
“อะไรของคุณ นี่ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อยไง”
เบนจามินลากหญิงสาวมายังรถสปอร์ตคันหรูของเขาพร้อมเปิดประตูด้านคนขับ เหวี่ยงหญิงสาวเข้าไปนั่งข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและออกตัวไปทันที
ต้นรักกลัวจนน้ำตาร่วง ตัวเธอสั่นเป็นลูกนกที่จู่ๆมีคนบ้าที่ไหนมากล่าวหาเธอเป็นหัวขโมย ทั้งยังจะพาเธอไปที่ไหนก็ไม่รู้ด้วย ความเร็วที่ชายหนุ่มใช้ในการขับรถทำให้หญิงสาวต้องนั่งหลับตาปี๋ตัวเกร็งไปตลอดทาง อีกทั้งเธอยังร้องให้สะอื้นไม่หยุด เพราะไม่รู้ว่าจะหนีจากชายหนุ่มคนนี้ไปอย่างไร
ทางด้านต้นหลิว“นี่แกทำไมมันซวยงี้วะ”พริกแกงหน้าจ๋อยที่เมื่อเปิดกระเป๋าที่ต้นหลิวใช้วิชามือเบาได้มาดูแล้วมันไม่มีเงินสักนิด มีแต่บัตรเครดิต“แกเป็นคนเลือกเหยื่อไม่ใช่หรือไง ไหนล่ะเงินเยอะมีแต่บัตรแบบนี้ฉันจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่ารักษาแม่ฉันล่ะ”ต้นหลิวเองก็เซ็งกันไปตามๆกัน เมื่อนึกถึงค่ารักษาของแม่เธอก็ถึงกับคอตก“แกลองดูที่บัตรสิเผื่อมีรหัส”พริกแกงยังแอบหวังเล็กๆว่ายังไงวันนี้เพื่อนเธอก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้างและน่า“แกนี่ก็คิดได้เนอะ ไอ้ฝรั่งนั่นมันคงจะโง่เขียนรหัสไว้หรอกนะ”ต้นหลิวอยากจะเขกหัวเพื่อนเธอจริงๆ ที่พูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้“คุณต้นรัก”คาวีนั่งรออยู่ในรถครู่หนึ่งก็เห็นหญิงสาวเดินออกมาแต่ไม่ยักจะมาหาเขาที่รถ ทั้งที่รถของเขาก็จอดอยู่ตรงหน้าของเธอ จึงเปิดประตูรถแล้วลงไปเรียกหญิงสาว“คุณเรียกฉันว่าอะไรนะคะ”พริกแกงกับต้นหลิวถึงกับชะงักการเดินเมื่อได้ยินใครบางคนเรียกชื่อต้นรัก ต้นหลิวหันมาถามชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอด้วยความแปลกใจ เธอไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าเธอรู้จักต้นรักได้อย่างไรแล้วเขาเป็นใคร“คุณต้นรักไงครับ เอามือถือไปให้พี่สาวคุณเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”คาวีถึงกับทำ
โรงพยาบาลต้นหลิวมานั่งรอฟังข่าวกับคาวีที่โรงพยาบาล ส่วนพริกแกงนั้นต้นหลิวให้เพื่อนเธอกลับไปก่อนเพราะดึกมากแล้ว“เป็นยังไงบ้างคุณ”ต้นหลิวเห็นคาวีคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานเมื่อเห็นเขาวางสายเธอก็รีบเข้าไปถามเรื่องถามราวทันทีว่าตอนนี้น้องสาวของเธอเป็นยังไงบ้าง“ข่าวดีก็คือ เค้าจะไม่เอาเรื่องคุณ”“จริงเหรอ??”“แต่เค้าจะไม่ปล่อยน้องคุณ”“ทำแบบนี้ไม่ได้คุณติดต่อเค้าไปใหม่ได้ไหมว่าฉันยอมรับผิดทุกอย่าง แต่ให้เขาปล่อยน้องฉันเถอะนะ เค้าจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะแจ้งตำรวจที่เค้าจับน้องฉันไปเหมือนกัน”ต้นหลิวถึงกับเข่าทรุดผู้ชายคนนั้นจะทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย ไม่ได้ยังไงเธอก็ไม่ยอมให้เขากักตัวน้องสาวเธอไว้แบบนี้แน่“ตำรวจทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก เรื่องนี้คุณผิดเต็มๆ เห็นหรือยังการทำอะไรไม่คิดมันจะเป็นยังไง”คาวีก็หมดหนทางที่จะช่วยจริงๆ เบนจามินนั้นมีอิทธิพลแค่ไหนเขารู้ดี พร้อมหันไปคาดโทษหญิงสาวให้เธอได้คิดว่าผลของการทำอะไรสิ้นคิดมันก่อให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง“ฮึก ฮือๆๆ แล้วจะให้ฉันทำยังไง”ต้นหลิวจากที่เป็นคนที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เจอแบบนี้เธอเองก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ดันไป
ชั่วโมงต่อมา“ให้มันเบามือหน่อยนะคะพี่เบน”น้ำใส หมอสาวที่ประจำอยู่ที่คลินิกของบ้านตัวเอง เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเบนจามิน สนิทกันเหมือนพี่เหมือนน้องแท้ๆเพราะเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากได้ตรวจดูอาการหญิงสาวเธอถึงกับต้องหน้าหงิกหน้างอใส่คนเป็นพี่ชายที่ดูจะรุนแรงเกินเหตุเกินเรื่องไป แต่เธอก็แปลกใจเล็กน้อยที่ดูพี่ชายเธอดูจะห่วงผู้หญิงที่นอนหลับอยู่บนเตียงเป็นพิเศษ เท่าที่เธอเคยรู้มาพี่ชายเธอไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่“อืม...รู้แล้วน่า”เบนจามินทำหน้าเซ็ง เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงเป็นหนักขนาดนี้เสียหน่อย แค่ควบคุมตัวเองไม่ได้ก็เท่านั้นเอง“นี่ยาค่ะ เธอตื่นก็ให้เธอทานด้วย น้ำเช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอแล้ว”น้ำใสยื่นซองยาให้คนเป็นพี่ชายจากนั้นจึงเตรียมตัวกลับทันที เพราะใกล้จะได้เวลาที่เธอจะต้องไปตรวจที่คลินิกแล้วโรงพยาบาล“นี่คุณ จะไปหาน้องฉันเมื่อไหร่”หลังจากที่หมอหนุ่มตรวจอาการของแม่เธอเสร็จต้นหลิวก็ถือโอกาสนี้ถามชายหนุ่มทันทีว่าเขานั้นจะไปหาผู้ชายคนเมื่อคืนเพื่อเจรจาเรื่องน้องเธอตอนไหน“ผมต้องออกเวรก่อน คงจะเป็นช่วงเย็น”“ฉันไปด้วยได้ไหม”ต้นหลิวอยากจะไป
วันต่อมา“เป็นยังไงบ้าง”เบนจามินเห็นหญิงสาวขยับตัวขึ้นในช่วงสายของวันจึงใช้หลังมือนั้นวัดอุณหภูมิที่หน้าผากของเธอดูว่าไข้ลดแล้วหรือยัง เพราะเมื่อคืนเธอตัวร้อนทั้งคืนจนเขาต้องปลุกให้เธอลุกขึ้นมาทานยาเบนจามินนึกโมโหที่หญิงสาวผละหน้าหนีจากมือของเขาอย่างท้าทาย ซ้ำยังไม่ยอมตอบยอมคุยกับเขาว่าตัวเธอนั้นอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้แบบนี้ปล่อยให้นอนป่วยโดยไม่ดูแลเสียก็ดี“ฉันจะบอกอะไรเธอให้ เธอควรจะทำตัวดีๆกับฉันเอาไว้แล้วเธออยากได้อะไรก็จะได้ทานข้าวแล้วทานยาซะ”จากนั้นจึงลุกขึ้นหันหลังให้หญิงสาวและประกาศก้องให้เธอได้ยินสิ่งที่เขาต้องการจะให้เธอได้รู้ เป็นการบอกนัยๆว่าเธอไม่ควรที่จะปฏิเสธเขาหลังจากชายหนุ่มเดินหันหลังออกจากห้องไปแล้วน้ำตาหญิงสาวก็ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่ขาดสาย คิดว่าหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาเรื่องร้ายๆมันจะเป็นแค่ฝันเสียอีกเธอร้องออกมาจนน้ำตาแห้งเหือดพร้อมบอกกับตัวเองให้ทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้ แล้วทำใจอยู่กับมันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เย็นของวัน“เอกสารที่ต้องเซ็นครับคุณเบน”เมื่อเจ้านายหนุ่มไม่ยอมเข้าบริษัทก็ต้องเป็นธุระของโจชัวที่จะต้องยกแฟ้มเอกสารทั้งหมดมาให้เจ้านายของเข
“ถ้าวันไหนรักไม่โอเคเค้าบอกเลยว่าเค้าจะช่วยรักทุกวิถีทาง แม้ต้องแลกด้วยชีวิตเค้าก็ยอม”ต้นหลิวก็ยังยืนยันให้น้องสาวของเธอได้มั่นใจว่าเธอพร้อมเป็นที่พึ่งของน้องสาวเธอได้ตลอดเวลา“ไม่หรอกหลิว เค้าโอเคจริงๆ”ต้นรักกุมมือคนเป็นพี่สาวแน่น ยืนยันคำเดิมว่าเธอโอเคเพราะเธอได้ตัดสินใจไปแล้ว“แล้วถ้าแม่ฟื้นมาเราจะบอกกับแม่ยังไง”ต้นหลิวยังคงกังวลใจอีกเรื่องหากแม่เธอฟื้นมาแล้วรู้เรื่องราวทุกอย่างวันนั้นมันจะเป็นอย่างไร เธอรู้ว่าแม่ต้องผิดหวังในตัวเธอมากแน่ๆ“อืม ให้มันถึงวันนั้นก่อนก็แล้วกัน”ต้นรักเองก็ยังคิดไม่ออกว่าถึงวันนั้นแล้วมันจะเป็นอย่างไรแต่ยังไงความจริงมันก็คือความจริงที่แม่ของเธอจะต้องรับรู้อยู่ดี“จะเที่ยงแล้วเค้าจะออกไปซื้อข้าว รักจะเอาอะไรไหม”ต้นหลิวเห็นว่านี่มันก็ใกล้เที่ยงแล้วเธอยังไม่ได้หาข้าวไว้ทานเลย หญิงสาวจึงต้องออกไปหาซื้ออะไรแถวห้างใกล้ๆนี้เสียหน่อย เพราะวันนี้น้องสาวเธอกลับมาทานข้าวกับเธอทั้งทีก็คงต้องหาอาหารญี่ปุ่นของโปรดให้น้องเธอทานบ้าง“อะไรก็ได้หลิวไปเถอะ เดี๋ยวเค้าอยู่เฝ้าแม่เอง”ต้นรักอยากอยู่เฝ้าแม่เธอมากกว่า หากพี่สาวเธอจะซื้ออะไรมาก็ทานได้ทั้งนั้น“อืม...แล้วเค
“โอเค แล้วรอยที่หน้าคุณล่ะอันนี้คุณแก้ตัวกับน้องคุณเองก็แล้วกัน”คาวีรู้ว่าเขาควรทำอะไรไม่ทำอะไรเพียงแต่รอยที่หน้าหญิงสาวให้เธอหาคำตอบให้น้องของเธอเองก็แล้วกัน เพราะมันเห่อแดงไปทั่วแก้มเสียขนาดนั้น“ไหนผมขอดูหน่อย”เมื่อจอดรถได้คาวีก็หันมาจับหน้าหญิงสาวแล้วจ้องดูรอยใกล้ๆเขาจะดูว่ามันช้ำแค่ไหนจะได้ให้ยาทาถูก“....”ต้นหลิวถึงกับเบิกตาโพรงหายใจติดขัดที่จู่ๆหมอหนุ่มก็ยื่นหน้ามาเสียใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน เธอเคยอยู่ใกล้ผู้ชายขนาดนี้เสียที่ไหนกัน“เดี๋ยวผมหายาให้ทาก็แล้วกันนะ”“เอ่อ อืม ขอบคุณ เลิกดูได้แล้ว”ต้นหลิวรู้สึกว่าใจเธอเต้นผิดจังหวะ พร้อมผละตัวออกจากหมอหนุ่มและเปิดประตูรถเดินดุ่มๆเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างไม่คิดจะรอเจ้าของรถ“อะไรกัน จะรอหน่อยก็ไม่ได้”คาวีส่ายหัวให้กับพฤติกรรมที่เดาใจยากของหญิงสาว จากนั้นจึงลงจากรถและเดินตามเธอไปติดๆ“รักเค้ามาแล้ว ซื้อแซลมอนโรลของโปรดมาให้ด้วยนะ”ต้นหลิวเข้าห้องมาได้ก็รีบชูกล่องของโปรดให้น้องเธอดูทันที“มันแพงจะตายหลิว ซื้อมาทำไม”ต้นรักรู้ว่าสถานการณ์การเงินที่บ้านเธอตอนนี้เป็นยังไง แล้วอีกอย่างพี่เธอก็ไม่มีงานทำยังจะซื้อของแพงๆให้เธอได้ทานอีก“ไม่เป
“บ้านคุณน่ารักดีนะ”หลังจากที่คาวีและต้นหลิวมาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ต้นหลิวก็จัดการกับอาหารที่พึ่งซื้อมาใส่จานเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นได้รีบทานจะได้รีบกลับ“อืม ช่วงนี้บ้านไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ คุณก็อย่าถือแล้วกัน”เนื่องจากต้นหลิวไม่ค่อยได้มีเวลาทำงานบ้านเท่าไรที่นี่บ้านจึงดูไม่ค่อยเรียบร้อยต้องชิงบอกกับชายหนุ่มเอาไว้เสียก่อน เพราะเดี๋ยวเธอจะโดนเขากล่าวหาว่าไม่เป็นกุลสตรีอีก“นี่คุณถ้าคุณขาดเหลืออะไรคุณบอกผมได้เลย ผมยินดีช่วย”คาวีดูไปแล้วมันก็ไม่ได้ไม่เรียบร้อยเช่นที่หญิงสาวพูด ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ เพียงแต่มีเพียงแค่ฝุ่นเล็กน้อย อันนี้เขาเจ้าใจได้ว่าเธอไม่ค่อยได้กลับมาดูแลบ้าน เพราะหลังๆมานี้เธอเฝ้าแม่อยู่แต่โรงพยาบาล เขารู้ว่าเธอลำบากแต่ก็ไม่ยอมปริปากบอกใครแม้แต่น้องสาวของเธอเอง เขาจึงคิดอยากจะช่วย“จะปล่อยเงินกู้ให้ฉันหรือไง”ต้นหลิวที่กำลังสนใจกับอาหารในจานอยู่ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อดูสีหน้าของคาวีว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น เมื่อมองดูแล้วก็รู้ว่าท่าจะจริง แต่เธอเองก็คงจะรับน้ำใจนี้ไว้ไม่ได้เพราะเธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร เธอยังมีสองไม้สองมือครบเหมือนคนอื่นเธอจะต้องหา
คฤหาสน์อินทวรนันท์“คุณแม่ครับ”กว่าจะขับรถกลับจากบ้านของต้นหลิวฝ่ารถติดมาถึงบ้านของเขาก็ใช้เวลานานพอสมควร ชายหนุ่มเห็นคุณแม่ของเขานั่งอยู่ด้านล่างพอดีเลยคิดว่าจะปรึกษาคนเป็นแม่เรื่องหญิงสาวเสียหน่อย“กลับมาซะดึกเชียว ไปไหนมาเหรอลูก”อมีนาไม่ค่อยเห็นลูกชายของเธอกลับบ้านดึกมาพักใหญ่ตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทย จึงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงปกติของคนเป็นแม่“ไปทานข้าวบ้านเพื่อนมาครับ”“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย”อมีนาแอบแซวลูกชายเรื่องทานข้าวบ้านเพื่อน เธอรู้ว่าลูกชายเธอไม่ค่อยมีเพื่อนที่เมืองไทยเท่าไหร่ เพราะไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ“ผู้หญิงครับ”คาวีไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรคุณแม่ของเขาอยู่แล้ว“.....”อมีนาเห็นลูกชายของเธอตอบอย่างมั่นใจก็แอบส่งสายตาเชิงสงสัยให้“เพื่อนจริงๆครับคุณแม่”คาวีดูออกว่าสายตาของแม่เขาที่มองมาแบบนั้นมันคืออะไร จึงรีบยืนยันกับแม่ของเขาให้มั่นใจว่าเป็นเพื่อนจริงๆ เพราะตอนนี้สถานะของเขากับต้นหลิวมันยังอยู่แค่เท่านี้“ผมมีเรื่องจะถามคุณแม่หน่อยครับ”“อะไรเหรอลูก”“คือพอดีเพื่อนผมเค้าเดือดร้อนเรื่องเงินแบบว่าพึ่งตกงานค่าใช้จ่ายเยอะแต่ไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากผม แบบนี้ต