Share

ตอนที่23 ความทรงจำขาดหาย

“อ๋อ น่ารักเหมือนกันนะถ้าย่าได้เห็นตาเบนใส่เสือแบบนี้คงแปลกตาน่าดู”

เอมม่าเห็นเสื้อไหมพรมในมือของต้นรักก็อดชมไม่ได้ หญิงสาวมีฝีมือจริงๆแถมยังนึกภาพไม่ออกอีกด้วยหากหลานชายเธอใส่เสื้อแบบนี้จะเป็นแบบไหน

“ค่ะ คุณเบนเคยใส่ลายหมีพูห์ด้วยนะคะ”

ต้นรักอยากจะให้เอมม่าเห็นแบบที่เธอเคยเห็นเหลือเกินตอนที่เบนจามินนั้นใส่เสื้อไหมพรมลายหมีพูห์ที่เธอทำให้ตัวแรก

“ตาเบนเนี่ยเหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

เอมม่าอดหัวเราะไม่ได้เมื่อรู้ว่าหลานชายเธอเคยใส่เสื้อแบบนี้แล้ว

“ค่ะคุณย่า”

ต้นรักอดขำตามเอมม่าไม่ได้ เพราะตอนนั้นที่เบนจามินใส่ก็ดูไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน แต่เขาก็ยอมใส่เพราะว่าเธอเป็นคนทำให้

สองวันต่อมา

16.00 น.

“โอเคแล้วใช่ไหมหลิว หรือจะอยู่ที่อีกคืน”

ต้นรักสอบถามอาการของพี่สาวเธอว่าดีขึ้นแล้วหรือไม่ ใจจริงเธออยากจะให้พี่สาวนอนดูอาการที่นี่ก่อนสักคืนสองคืนด้วยซ้ำ ติดตรงที่ต้นหลิวคะยั้นคะยอจะกลับบ้านนี่แหละ

“โอ้ย เค้าไม่อยู่แล้วล่ะรัก เบื่อการนอนที่นี่จะตายอยู่แล้ว จะได้กลับไปอยู่กับแม่ด้วย”

ต้นหลิวนึกถึงเรื่องที่จะต้องนอนโรงพยาบาลอีกคืนก็ถึงกับมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะเธออยากกลับไปนอนที่บ้านเต็มทนแล้ว อีกอย่างก็อยากกลับไปอยู่กับแม่ของเธอด้วย

“จะกลับแล้วใช่ไหม เดี๋ยวผมไปส่ง”

คาวีเห็นต้นหลิวเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงอาสาไปส่งที่บ้าน เพราะวันนี้เขาว่างจากการดูแลเคสคนไข้แล้ว

“ไม่ต้อง ฉันให้ฮาเปอร์ไปส่งดีกว่า”

ต้นหลิวเห็นฮาเปอร์เดินเข้ามาพอดีจึงแสร้งบอกอีกฝ่ายว่าเธอนั้นจะให้ฮาเปอร์ไปส่ง

“....”

ต้นรักขยิบตาเป็นการส่งสัญญาณให้ฮาปอร์รู้กันว่าให้เขาปฏิเสธพี่สาวเธอ

“เอ่อ พอดีผมมีงานต่อน่ะครับ”

ฮาเปอร์เห็นดังนั้นก็รีบเอ่ยปฏิเสธต้นหลิวทันที

“ให้ผมไปส่งเถอะผมว่าง จะไปหาคุณแม่คุณด้วย”

“ลูกเจ้าของโรงพยาบาลนี่เนอะ จะว่างเมื่อไหร่ก็ได้”

ต้นหลิวจำต้องจำใจไปกับหมอหนุ่มแต่โดยดี ในเมื่อเขาพูดถึงเรื่องแม่มาขนาดนี้ แต่ก็ยังมิวายพูดจาค่อนขอดอีกฝ่ายอยู่ดี

“หลิว!!”

ต้อนรักส่ายหัวให้คนเป็นพี่ ไม่รู้เมื่อไรจะกลับมาคุยดีกับหมอคาวีเสียที

“เมื่อไหร่คุณจะยอมคุยกับผมดีๆซะที”

เมื่อต้นหลิวขึ้นมานั่งบนรถได้คาวีก็เปิดประเด็นถามเรื่องที่เขาอึดอัดใจอยู่ทันที เขาจะปล่อยให้เป็นแบบนี้นานไปไม่ได้แล้ว ด้วยกระวนกระวายใจที่เธอเป็นแบบนี้เหมือนกัน

“แล้วเมื่อไรคุณจะเลิกยุ่งกับฉันล่ะ”

ต้นหลิวไม่เพียงแค่ไม่ตอบคำถามของหมอหนุ่ม แต่ยังถามเขากลับด้วยท่าทีที่ดูจะรำคาญกลับ

“นี่คุณไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้ว่าผมรู้สึกดีกับคุณ”

คาวีอดทนที่จะปกปิดความรู้สึกของเขาต่อไปไม่ได้แล้ว เขาทำดีกับเธอสารพัดไม่รู้ว่าเธอไม่นึกเอะใจบ้างหรืออย่างไรว่าเขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร

“……..”

ต้นหลิวได้ยินเช่นนั้นก็นั่งนิ่ง อึ้งจนพูดอะไรต่อไม่ถูกเมื่อชายหนุ่มสารภาพความในใจกับเธอตรงๆแบบนี้

“ผมอยากจะขอโอกาสดูแลคุณได้ไหม คุณรู้ไหมตอนคุณเจ็บแล้วผมไม่สามารถปกป้องอะไรคุณได้ผมรู้สึกแย่แค่ไหน”

“คือ...”

ต้นหลิวมีสีหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย ไม่คิดว่าคนที่อยู่สูงกว่าเธอขนาดนั้นจะมาสนใจคนอย่างเธอ ดูแล้วเธอไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักนิด

“ผมขอโอกาสดูแลคุณ แต่คุณยังไม่ต้องให้คำตอบผมตอนนี้ ขอให้คุณคิดให้ดีก่อนแล้วผมจะรอคำตอบ แต่ตอนนี้ขอร้องอย่าเฉยชากับผมอีก”

คาวีไม่ปล่อยให้หญิงสาวได้เอ่ยตกลงหรือปฏิเสธอะไรออกมา เขาอยากให้เธอคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะตอบรับคำของของเขา พูดจบก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านของหญิงสาวทันที ระหว่างทางมีแต่ความเงียบทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันแม้แต่คำเดียว ได้แต่ลอบมองกันไปมาเล็กน้อยเท่านั้น

อาทิตย์ต่อมา

อุ๊บ..แหวะ.”

“ไหวไหมรัก”

ต้นรักเริ่มที่จะอาการแพ้ท้องหนักขึ้นอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้ทานอะไรก็ออกมาหมด ยังดีที่ตอนนี้เธอมีต้นหลิวดูแลอยู่แทบไม่ห่าง

“เฮ้อ...”

เมื่ออาเจียนจนหมดไส้หมดพุงแล้วต้นรักก็มานั่งถอนหายใจเหนื่อยอ่อน ที่อาการแพ้ท้องของเธอมันทำให้เธอทานอะไรไม่ได้เลย

โรงพยาบาล

“ทำไมออกมานั่งข้างนอกกันล่ะคะคุณย่า”

ต้นรักกับต้นหลิวมาที่โรงพยาบาลก็เห็นว่าทั้งเอมม่าโจชัวและฮาเปอร์ต่างก็ยืนอยู่หน้าห้องของเบนจามินทั้งหมด เลยค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมทุกคนไม่อยู่ในห้อง

“ตาเบนรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วตอนนี้หมอคาวีกำลังตรวจอยู่ด้านใน”

เอมม่าตอบต้นรักด้วยรอยยิ้มของความดีใจ ตอนนี้ก็เหลือแค่รอหมอตรวจหลานชายเธอให้เสร็จก็เข้าไปได้แล้ว

“จริงเหรอคะ”

ต้นรักดีใจจนน้ำตาคลอ เธอรู้สึกดีใจที่วันที่เธอเฝ้ารอมันมาถึงแล้ว

“ขอเชิญทุกคนเข้ามาด้านในหน่อยครับ”

คาวีมีสีหน้ากังวลพอสมควรหลังจากตรวจเบนจามินอย่างละเอียดแล้วมีบางอย่างที่มันผิดปกติไปเขาต้องแจ้งให้ทุกคนได้รู้

“ตาเบน”

“คุณย่า”

เบนจามินเรียกคนเป็นย่าเสียงอ่อนเพราะยังไม่ค่อยมีแรง

“คุณจำคุณต้นรักกับคุณต้นหลิวได้ไหมครับ”

คาวีลองถามเบนจามินให้แน่ใจอีกทีว่าเขานั้นไม่ได้เข้าใจอะไรผิดพลาด

“.....”

เบนจามินมองไปยังหญิงสาวทั้งสองด้วยสายตาที่ว่างเปล่าและมีสีหน้าที่สงสัย เขาจำเธอทั้งสองไม่ได้ ไม่รู้ด้วยว่าพวกเธอทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขา

“คุณ แบบนี้มันคืออะไร รีบพูดมาเร็ว”

ต้นหลิวมองหน้าน้องสาวของเธอก็รู้ว่าน้องสาวเธอใจเสียไปแล้ว จึงรีบถามอาการของเบนจามินจากคาวีทันที

“คือ ผมคิดว่าความทรงจำของคุณเบนร่วมหนึ่งปีที่ผ่านมาน่าจะหายไปชั่วคราว”

จากการสอบถามเมื่อครู่ รวมถึงสิ่งที่เขาได้ตรวจเบนจามินก่อนหน้านี้ทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเขาวินิจฉัยถูก

“แล้วแบบนี้คุณเบนจะจำได้เมื่อไหร่”

ต้นหลิวยังถามถึงเรื่องเวลาที่เบนจามินจะกลับมาจำได้อีกครั้งใช้เวลานานแค่ไหน ไม่อย่างนั้นน้องเธอคงเครียดแย่แน่

“ตอนนี้ผมยังให้คำตอบไม่ได้”

เรื่องนี้คาวีจะต้องร่วมมือกับหมอท่านอื่นในการรักษาเบนจามินอีกที เพราะเขายังไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้

“ตาเบน นี่หนูต้นรักคนรักของเราไงลูก กำลังจะแต่งงานกันด้วยนะ”

เอมม่ายังพยายามอธิบายให้หลานชายเธอฟังอีกแรงว่าต้นรักนั้นเป็นอะไรกับเจ้าตัว เผื่อจะฉุกคิดอะไรมาได้บ้าง

“ผมเนี่ยนะครับมีคนรัก อืม โอ้ย ผมปวดหัว”

เบนจามินขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิงเขาไม่อยากจะเชื่อคำที่คุณย่าของเขาพูดเรื่องที่เขาคิดจะแต่งงานยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว

“ผมขอให้คุณเบนพักก่อนนะครับ”

คาวียังไม่อยากให้เบนจามินใช้ความคิดอะไรมาก เมื่อตอนที่ตรวจก็ใช้เวลามากพอแล้ว ตอนนี้เขาอยากจะให้เบนจามินได้พักผ่อนเสียก่อน

“หลิว ฮึก ฮือๆๆ”

ออกมาจากห้องของเบนจามินได้ต้นรักก็ปล่อยโฮกับคนเป็นพี่สาวอย่างสุดจะกลั้น เธอรอให้เบนจามินฟื้นมาฟังข่าวดีของเธอ แต่เธอกลับได้รับข่าวร้ายกลับเสียอย่างนั้น ถ้าหากเขาจำช่วงเวลาที่อยู่กับเธอไม่ได้ เธอกลัวเหลือเกินว่าเขาจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม แล้วเธอกับลูกของเธอล่ะจะเป็นยังไง

“โถ่เอ้ย...”

ต้นหลิวมีสีหน้าที่เป็นกังวลอย่างมากรู้ สึกสงสารน้องสาวเธอจับใจ ถึงจะคอยกอดปลอบเพื่อให้น้องเธอคลายความเศร้าลงแต่ดูแล้วมันจะไม่ดีขึ้นเท่าไร

“ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะหนูต้นรัก ย่าเชื่อว่ายังไงตาเบนก็ต้องกลับมาจำได้แน่ๆ”

เอมม่าเองก็สงสารต้นรักไม่ต่างจากคนอื่นๆ เธอก็เชื่อว่าไม่นานความจำของหลานชายเธอก็น่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เธอเชื่อในฝีมือของหมอที่นี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแล้ว

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status