โรงพยาบาล
“คุณต้นรักครับ”
“อ้าวคุณโจชัว วันนี้ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”
ต้นรักค่อนข้างแปลกใจที่โจชัวมาอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่ที่บริษัท
“คุณบรูคให้ผมมาดูแลคุณเพราะตอนนี้ไม่ทราบว่าคุณนิรินจะทำอะไรอีกครับ”
โจชัวได้รับคำสั่งจากบรูคให้มาคอยดูแลต้นรักอยู่ที่โรงพยาบาลระหว่างที่หญิงสาวเฝ้าเบนจามินกับแม่ของเธออยู่ เพราะรู้ว่านิรินไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่จากคำบอกเล่าของนราทร
“อ่อ ค่ะ แต่ต้นหลิวล่ะคะ”
ต้นรักเข้าใจที่โจชัวพูดแต่เธอก็ฉุกคิดได้ว่านิรินยังไม่รู้ว่าเธอมีคู่แฝด ถ้าหากนิรินจ้องจะทำอะไรเธอต้นหลิวก็ต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย
“จริงสิ ฮาเปอร์นายไปคอยดูคุณต้นหลิวด่วน”
“โอเค ฉันจะรีบไป”
โจชัวลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทจึงรีบให้ฮาเปอร์ไปดูแลต้นหลิวอีกคนอย่างเร่งด่วน
ทางด้านต้นหลิว
“แกฉันของเข้าไปห้องน้ำก่อนนะสงสัยส้มตำทำพิษอะ”
“อืม รีบไปรีบมา”
พริกแกงรู้สึกปวดท้องกะทันหันเลยจะไปเข้าห้องน้ำที่ฝั่งตรงข้ามร้านค้าสักเดี๋ยว เป็นเพราะเธอทานเผ็ดเกินไปจึงมีอาการเป็นเช่นนี้
10 นาทีต่อมา
“อยู่ไหนกันนะ”
ฮาเปอร์ตามสัญญาณมือถือของต้นหลิวมาจอดรถที่ข้างถนนแล้วเดินตามสัญญาณมาเรื่อยๆกับลูกน้องของเขาอีกสองสามคนจนมาถึงร้านส้มตำริมฟุตบาทแห่งหนึ่งแต่ก็ไม่ยักจะเห็นมีคนอยู่ มีแต่ข้าวของกระจัดกระจายเต็มไปหมดทำให้ฮาเปอร์นั้นมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเลยทีเดียว
“โอ้ย...ช่วยด้วย”
“ป้าครับเกิดอะไรขึ้นครับ”
ฮาเปอร์สังเกตเห็นว่ามีหญิงชราคลานออกมาจากโต๊ะที่มันกระจัดกระจายจึงรีบไปช่วยและถามถึงเรื่องราวว่าทำไมร้านจึงเป็นแบบนี้
“มีพวกโจรมันมาทำร้ายแม่หนูที่นั่งอยู่ร้านป้าแล้วก็พังร้านป้าซะเละเลยพวกนี้มันเลวจริงๆ”
“โทรศัพท์ที่เราตามสัญญาณมานี่ครับ”
ลูกน้องของฮาเปอร์เห็นว่าสัญญาณที่เดินตามหาอยู่แถวนี้จนไปหยุดอยู่ที่กระเป๋าที่ตกอยู่เมื่อหยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นมือถือของคนที่พวกเขาตามสัญญาณมาจึงรีบบอกฮาเปอร์และคิดว่าพวกเขามาช้าไปนิดเดียวเอง
“พวกมันไปทางไหนครับป้า”
ฮาเปอร์รีบถามหญิงชราที่ยังมีสติอยู่ว่าคนพวกนั้นจับตัวหญิงสาวไปทางไหน
“ทางนั้น”
“เดี๋ยว...นี่มันอะไรกัน?”
พริกแกงที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเห็นว่าเหตุการณ์ตรงหน้ามันดูจะไม่ปกติเลยรีบวิ่งข้ามฝั่งมาอย่างรวดเร็ว
“....”
ฮาเปอร์หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนที่คุ้นหู
“คุณต้นหลิวโดนจับตัวไป”
ฮาเปอร์ไม่มีเวลาอธิบายอะไรกับพริกแกงทั้งนั้น ตอนนี้เขาต้องรีบตามคนที่จับตัวต้นหลิวไปให้เร็วที่สุด
“อะไรนะ ฉันไปด้วย”
พริกแกงได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งตามฮาเปอร์ขึ้นรถตู้ไปทันทีเพราะความเป็นห่วงต้นหลิวโดยที่ไม่ได้สนอันตรายใดๆทั้งนั้น
“แล้วแบบนี้จะตามเธอยังไงครับ มือถือเธออยู่กับเรา”
ลูกน้องของฮาเปอร์หันมาปรึกษาเรื่องที่จะตามคนที่จับตัวต้นหลิวไป เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรให้จับสัญญาณตามหาได้แล้ว
“คันนั้นไงน่าสงสัยสุด”
ฮาเปอร์คิดว่าทางนี้มันเป็นทางตรงคงตามได้ไม่ยาก พลันสายตาก็ไปสะดุดกับรถกระบะสี่ประตูคันหนึ่งซึ่งดูผิดปกติแถมหลังรถยังมีผู้ชายนั่งกันอยู่อีกสองคน เขาเลยค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นคันนั้นที่จะต้องมีต้นหลิวอยู่ด้านใน
“ครับ”
ลูกน้องฮาเปอร์เห็นเขามั่นใจเช่นนั้นจึงเหยียบคันเร่งหมายจะให้ทันรถกระบะอีกคันอย่างรวดเร็ว
“มันหนีครับ”
“ฉันว่าแล้ว...ดูจังหวะปลอดคนแล้วยิงสะกัด”
ฮาเปอร์แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นเมื่อคันข้างหน้าหนีรถของเขาไปแบบนั้นจึงสั่งให้ลูกน้องเตรียมลงมือช่วยเหลือต้นหลิวทันที
“โอ้ย...พวกแกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
ต้นหลิวค่อนข้างระบมทั้งตัวเพราะโดนฉุดกระชากลากขึ้นรถมาอย่างไม่เต็มใจ
“อยากแหกปากอะไรก็แหกไป เดี๋ยวก็ไม่ได้แหกปากแล้ว”
“แกพูดแบบนี้หมายความว่าไง”
ต้นหลิวไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้มาจับตัวเธอเพื่ออะไรทั้งๆที่เธอเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร
“หึ่”
“มีรถตามหลังมาว่ะฉันว่ามันผิดปกติ”
“อืม อยากตามก็ตามมาให้ทันสิวะ”
ชายฉกรรจ์ที่จับต้นหลิวมาสังเกตได้ว่ากำลังถูกตามจึงรีบเหยียบคันเร่งหนีอย่างรวดเร็ว
เอี๊ยดดดดดด
ปัง...ปัง....ปัง...
“อ๊าย...”
จู่ๆชายฉกรรจ์ก็เบรกกะทันหันเพราะถูกรถอีกคันพุงขึ้นมาปาดหน้าอย่างกระชั้นชิดพร้อมมีเสียงปืนดังขึ้นอย่างไม่หยุดต้นหลิวกลัวจนทำอะไรไม่ถูกเกิดมาเธอเคยมีเรื่องมีราวมาหลายครั้งก็จริง แต่เธอเองก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่มันหนักแบบนี้เหมือนกัน
“เอายังไงดีพี่”
“งั้นก็จัดการมันตรงนี้แหละไม่ต้องหาที่ปลอดคนแล้วจะได้รีบกลับไปเอาเงิน”
กลุ่มชายฉกรรจ์ที่จับตัวต้นหลิวมาเห็นท่าไม่ดีคิดว่าควรจะจัดการกับหญิงสาวเสียตรงนี้จะดีกว่าทำตามแผนเดิมที่พาไปที่ปลอดคน เพราะเห็นว่าคนที่มาช่วยหญิงสาวค่อนข้างมีฝีมือจึงรีบจบงานแล้วไปเอาเงินก่อนดีกว่าสู้กันแล้วมาตายเสียตรงนี้
“พวกแกจะทำอะไรฉัน??”
พลั้กก
ต้นหลิวได้ยินเช่นนั้นก็รู้ว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรจึงใช้ปากกัดไปที่แขนของคนร้ายและรวบรวมแรงทั้งหมดผลักผู้ชายที่กุมตัวเธอไว้อย่างสุดแรงแล้วเปิดประตูวิ่งหนีออกไป
“โอ้ย... หืม นังนี่”
ปัง...
ด้วยความโมโหที่หญิงสาวตัวแสบจึงจ่อกระบอกปืนไปที่หลังของหญิงสาวที่วิ่งหนีทันที
“โอ้ย...”
ต้นหลิวถึงกับล้มฟุบลงกองกับพื้นเพราะถูกยิงเข้ากลางหลังอย่างจังจนหญิงสาวหมดสติโดยทันที
“ไปโว้ยพวกเรา”
เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์เห็นว่างานของเขาเสร็จสิ้นแล้วจึงถอยหลังกลับทางเดิมเพราะทางด้านหน้ามีรถอีกคันที่มาช่วยหญิงสาวจอดขวางอยู่
“คุณต้นหลิว”
ฮาเปอร์เห็นต้นหลิวลงไปกองกับพื้นก็รีบวิ่งไปดูอย่างรวดเร็ว
“หลิวว!!!”
พริกแกงถึงกับรนรานทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นต้นหลิวนอนจมกองเลือดอยู่
โรงพยาบาล“หลิวเป็นยังไงบ้างคะ”ต้นรักรู้ข่าวว่าพี่สาวเธอโดนยิงก็แทบช็อค ไม่เข้าใจว่าทำไมคนรอบข้างของเธอต้องพากันนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด“หมอกำลังผ่าตัดเอากระสุนออกอยู่ครับ”ฮาเปอร์รีบบอกหญิงสาวที่รีบเดินมาถามข่าวกับเขาอย่างรวดเร็วแอบหวั่นใจอยู่ว่าเรื่องแบบนี้คงกระทบหกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอยู่ไม่น้อยเมื่อต้องรับรู้ว่าคนรอบข้างล้วนมีแต่เรื่องเจ็บตัวกันไปหมด“โถ่...”“รัก!!”ต้นรักถึงกับยืนไม่อยู่ แล้วสติเธอก็ดับวูบไปดีที่พริกแกงนั้นรับเอาไว้ทัน“หนูต้นรักเป็นยังไงบ้าง”เอมม่ารู้สึกปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหลือเกินยังไงเธอก็เชื่อไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นว่าเรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือของนิรินแน่นอน“คือ คุณต้นรักพึ่งจะตั้งครรภ์อ่อนๆร่างกายเธออ่อนเพลียมากช่วงนี้ญาติก็อย่าให้คนไข้มีอะไรมากระทบจิตใจมากนักนะคะ”หมอสาวตรวจดูอาการของต้นรักแล้วก็พอจะรู้สาเหตุของอาการที่เธอเป็นลมบ่อยๆ ทั้งยังต้องให้เธอนั้นระวังอย่าให้อะไรมากระทบกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอีกด้วย“อะ..เอ่อ..ค่ะหมอ”พริกแกงถึงกับสะอึกกับคำกล่าวของหมอสาวคนในห้องทุกคนต่างก็อึ้งไปตามๆกัน ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาในตอนนี้“นี่เจ้าตัวก็น่าจะไ
“อ๋อ น่ารักเหมือนกันนะถ้าย่าได้เห็นตาเบนใส่เสือแบบนี้คงแปลกตาน่าดู”เอมม่าเห็นเสื้อไหมพรมในมือของต้นรักก็อดชมไม่ได้ หญิงสาวมีฝีมือจริงๆแถมยังนึกภาพไม่ออกอีกด้วยหากหลานชายเธอใส่เสื้อแบบนี้จะเป็นแบบไหน“ค่ะ คุณเบนเคยใส่ลายหมีพูห์ด้วยนะคะ”ต้นรักอยากจะให้เอมม่าเห็นแบบที่เธอเคยเห็นเหลือเกินตอนที่เบนจามินนั้นใส่เสื้อไหมพรมลายหมีพูห์ที่เธอทำให้ตัวแรก“ตาเบนเนี่ยเหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เอมม่าอดหัวเราะไม่ได้เมื่อรู้ว่าหลานชายเธอเคยใส่เสื้อแบบนี้แล้ว“ค่ะคุณย่า”ต้นรักอดขำตามเอมม่าไม่ได้ เพราะตอนนั้นที่เบนจามินใส่ก็ดูไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน แต่เขาก็ยอมใส่เพราะว่าเธอเป็นคนทำให้สองวันต่อมา16.00 น.“โอเคแล้วใช่ไหมหลิว หรือจะอยู่ที่อีกคืน”ต้นรักสอบถามอาการของพี่สาวเธอว่าดีขึ้นแล้วหรือไม่ ใจจริงเธออยากจะให้พี่สาวนอนดูอาการที่นี่ก่อนสักคืนสองคืนด้วยซ้ำ ติดตรงที่ต้นหลิวคะยั้นคะยอจะกลับบ้านนี่แหละ“โอ้ย เค้าไม่อยู่แล้วล่ะรัก เบื่อการนอนที่นี่จะตายอยู่แล้ว จะได้กลับไปอยู่กับแม่ด้วย”ต้นหลิวนึกถึงเรื่องที่จะต้องนอนโรงพยาบาลอีกคืนก็ถึงกับมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะเธออยากกลับไปนอนที่บ้านเต็มทนแล้ว อีกอย่างก็อย
อาทิตย์ต่อมาเพนท์เฮ้าส์หรู“อาหารเช้าเรียบร้อยแล้วค่ะคุณเบน”เบนจามินกลับมาพักที่เพนท์เฮ้าส์ได้วันสองวันแล้ว แต่ก็ยังคงมีทีมแพทย์แวะเวียนมาดูอาการของเขาอยู่ไม่ห่าง ต้นรักยังคงตามติดเบนจามินคอยดูแลเขาอยู่ตลอด หวังทุกวินาทีว่าเขาจะจำเธอได้ เรื่องลูกในท้องเธอยังไม่คิดที่จะบอกเขาตอนนี้ เพราะเธออยากให้เขาจำความรู้สึกที่เคยรู้สึกกับเธอได้เสียก่อนจึงค่อยบอกเรื่องนี้กับเขา“นี่ฉันกำลังจะแต่งงานกับเธอจริงๆเหรอ”เบนจามินจำต้องให้ต้นรักมาอยู่กับเขาตามคำขอของคุณย่าของเขา ชายหนุ่มนึกสงสัยตัวเองอยู่ว่าตอนก่อนหน้านั้นเขาคิดอะไรอยู่ถึงอยากจะแต่งงาน แถมหญิงสาวยังดูจืดชืดไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยควงอีกด้วย“ค่ะ...”“อืม...”ต้นรักรีบพยักหน้าตอบชายหนุ่มอย่างมีความหวัง ว่าที่เขาถามเธอเรื่องนี้มาเขาอาจจะจำอะไรได้ก็ได้ แต่เบนจามินไม่ได้พูดอะไรต่อแถมยังทำหน้าเซ็ง ทำให้เธอรู้ว่าที่เขาถามเธอเขาไม่ได้คิดอะไรได้ คงแค่ไม่แน่ใจเท่านั้นว่าเขากับเธอจะแต่งงานกันจริงๆ“คุณเบนทานเยอะๆเลยนะคะ เสร็จแล้วจะได้ทานยาค่ะ”ถึงชายหนุ่มจะกลับมาเอาแต่ใจหรือหงุดหงิดใส่เธอแบบเดิมเธอก็ยอม ขอแค่ได้ดูแลอยู่ข้างๆเขาแบบนี้ก็พอ“ฉันรู้
“เข้าใจละ”ต้นรักพยักหน้าพลางเข้าใจและหายห่วงที่แม่เธอจะได้มีเพื่อนคุยนอกจากพยาบาลที่คอยดูแลอยู่“ผมอยากได้คำตอบ”คาวีเห็นว่าจังหวะนี้แหละที่เขาจะได้ขอคำตอบที่เคยถามหญิงสาวเอาไว้เสียที เพราะเขารอมันไม่ไหวแล้ว“คำตอบอะไร”ต้นหลิวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคาวีหมายถึงเรื่องอะไร“อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้”คาวีรู้ว่าต้นหลิวรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เธอทำไขสือไปเท่านั้นเอง“ก็คุณบอกว่าให้ฉันคิดก่อนนี่”ต้นหลิวยังคิดที่จะบ่ายเบี่ยงในการตอบคำถาม“มันนานแล้วนี่คุณ”คาวีเห็นว่าที่เขาต้องถามเพราะว่าคำตอบที่เขารอคอยเขารอมันมานานแล้ว ถ้าเขาไม่ท้วงเธอมีหรือจะได้คำตอบ“ถ้าคุณช่วยให้คุณเบนกลับมาเหมือนเดิมเมื่อไหร่ วันนั้นฉันจะ...ตกลง”อันที่จริงต้นหลิวเองก็คิดเรื่องนี้มาแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยิ่งมองว่าเธอกับเขามันต่างกันก็ยิ่งทำให้เธอตอบตกลงกับเขาไม่ได้ แต่วันนี้เธอไม่สนแล้ว เธอคิดอย่างเดียวว่าถ้าตอนนี้หมอหนุ่มรักษาเบนจามินให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็วได้ เธอก็จะตกลงคำขอของเขา เพราะเธออยากเห็นน้องเธอมีความสุขกับชีวิตครอบครัวเสียที“จริงนะคุณ”คาวีดึงมือเรียวมากุมเอาไว้ด้วยความดีใจ“อื
สองอาทิตย์ต่อมา20.00 น.คาวีพยายามหาทางช่วยให้เบนจามินกลับมาจำทุกอย่างได้ทุกวิถีทาง คราแรกเบนจามินก็ไม่ค่อยจะยอมให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แต่เมื่อได้รับคำสั่งจากคุณย่าของเขาเบนจามินก็ต้องทำตามเพราะไม่อยากจะขัดใจคนเป็นย่า ส่วนต้นรักนั้นก็แพ้ท้องหนักจนต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของเธอ ด้วยไม่อยากให้ชายหนุ่มสงสัย“เสื้อตัวนี้...”เบนจามินเข้าไปนั่งในห้องของต้นรัก เขาเห็นบางอย่างอยู่บนหัวเตียงของเธอจึงเข้าไปหยิบขึ้นมาดู มันเป็นเสื้อไหมพรมที่ยังถักไม่เสร็จที่เสร็จ แล้วก็เห็นจะมีเสื้อที่ตัวขนาดเท่าๆกันอีกหนึ่งตัวและตัวเล็กอีกหนึ่งตัวที่สีเหมือนกัน ทำให้ภาพบางภาพปรากฏขึ้นในหัวของเขาเป็นภาพที่เขากำลังลองใส่เสื้อไหมพรมหมีพูห์และมีต้นรักยืนยิ้มอยู่ข้างๆ และภาพต่างๆก็ค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวอย่างชัดเจน ต่างจากเมื่อตอนแรกที่คาวีพยายามรักษาเขามาก ตอนนั้นทุกอย่างมันยังคงเลือนลางไม่ประติดประต่อ แต่ตอนนี้มันค่อนข้างที่จะทำให้เขาคิดอะไรขึ้นมาได้ความรู้สึกเก่าๆที่มันกลับมาทำให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะทำอะไรเช้าวันต่อมา“คุณเบน”ต้นรักค่อนข้างแปลกใจเบนจามินก็มาโผล่ที่บ้านของเธอแต่เช้า“เห็นหน้าฉันทำไมต้องทำ
“จะเสียใจได้ยังไง ดีใจมากต่างหาก แบบนี้ต้องบอกข่าวดีกับทุกคน”ด้วยความตื่นเต้นชายหนุ่มจึงรนรานควานหามือถือจะบอกข่าวดีแบบนี้กับทุกคนได้รับรู้“เอ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะคุณเบน”ต้นรักหน้าเจื่อนก่อนจะบอกให้เบนจามินไม่ต้องบอกคนอื่น เพราะคนอื่นนั้นรู้หมดแล้ว“อย่าบอกนะว่าพวกเค้ารู้กันหมดแล้ว”“ค่ะ”“ยกเว้นฉันเนี่ยนะ...”เบนจามินเห็นสีหน้าต้นรักก็รู้ว่าเขาคงจะรู้ข่าวนี้เป็นคนสุดท้าย“โกรธฉันเหรอคะ? ฉันแค่อยากบอกกับคุณตอนที่คุณจำความรู้สึกระหว่างเราได้เท่านั้น ไม่อยากให้คุณคิดว่าฉันใช้ลูกมาเป็นบ่วงรั้งคุณ”ต้นรักพยายามอธิบายถึงเรื่องที่เธอไม่ได้บอกเรื่องลูกกับชายหนุ่ม เธอเองก็มีเหตุผลของเธอ และหวังว่าเขาจะเข้าใจ“เฮ้อ ใครจะโกรธเธอลง ฉันแค่นอยเฉยๆที่ได้รู้ทีหลังคนอื่นก็เท่านั้นเอง”เบนจามินแค่อยากได้รู้เรื่องลูกของเขาเป็นคนแรกเท่านั้น แต่เมื่อรู้ว่าหญิงสาวมีเหตุผลของเธอเขาเองก็ไม่ได้อยากคิดอะไรให้มันมากมายนัก แค่ได้รู้ว่ามีเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมาเป็นโซ่ทองคล้องใจเขาและเธอก็พอแล้วสองเดือนต่อมางานแต่งของต้นรักและต้นหลิวจัดขึ้นพร้อมกันอย่างยิ่งใหญ่ มีสื่อให้ความสนใจมากมายเพราะสองทายาทตระกูลดังต่
เพนท์เฮ้าส์หรู18.30 น.“คุณเบนจะไปไหนครับ”โจชัวเห็นเจ้านายเขาเตรียมตัวจะออกไปอย่างไม่บอกไม่กล่าวจึงต้องรีบเดินไปถาม มิเช่นนั้นหากเขาปล่อยให้เจ้านายของเขาไปไหนโดยที่เขาไม่รู้แล้วเกิดอันตรายอะไรกับเจ้านายคงไม่เป็นผลดีแน่“นายไม่ต้องตามวันนี้ฉันอยากผ่อนคลายคนเดียว”วันนี้เบนจามินอยากจะไปพักผ่อนตามประสาหนุ่มโสดสุดฮอตด้วยตัวคนเดียว เมื่อมีลูกน้องหรือคนสนิทแห่กันไปด้วยทีไรพวกสาวๆไม่อยากจะมาใกล้เขาทุกที เว้นเสียแต่ผู้หญิงที่อยากจะบริการเขาเพราะอยากได้ทิปหนักๆ แต่พวกนี้เขาเองก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไร“เอ่อ...ครับ”โจชัวเห็นดังนั้นจึงรีบถอยให้เจ้านายหนุ่มของเขาออกไปแต่โดยดี เพราะเห็นท่าเจ้านายตนมาแบบนี้แล้วเขาคงจะขัดอะไรไม่ได้ที่ผ่อนคลายของเจ้านายนั้นเขาพอจะรู้อยู่ว่าจะไปที่ไหนเบนจามินเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลลอเปอร์เป็นลูกครึ่งไทยอิตาลีถูกเลี้ยงโดยคุณย่าของเขามาตั้งแต่เด็กๆ เป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจเพราะถูกตามใจอยู่บ่อยๆ หากแต่ชายหนุ่มเป็นคนที่เก่งในสายงานแทบจะทุกอย่างแถมยังเข้ามาบริหารงานแทนพ่อของเขาแทบจะทุกอย่างได้ดีอีกด้วย ประวัติเสียแทบจะไม่มีนอกเสียจากเรื่องผู้หญิงที่ทำให้ต้องเขม่นกับคู่ค้า
คลับหรู“แกลืมมือถือใช่ไหม”พริกแกงเห็นต้นหลิวเดินมาที่จุดนัดพบก็รีบดึงมือเพื่อนเธอเข้ามาที่มุมมืดของร้านทันที พริกแกงเข้านอกออกในที่นี่บ่อยเธอจึงรู้แทบทุกซอกทุกมุม“แกรู้ได้ไง”ต้นหลิวแปลกใจเล็กน้อยที่เพื่อนเธอรู้ว่าเธอลืมมือถือ ตัวเธอเองยังรู้ตัวเมื่อถึงที่นี่แล้วเลย“ก็ฉันโทรหาแกแล้วยัยต้นรักรับน่ะสิ แถมบอกจะรีบเอามือถือมาให้แกอีก”“อ้าวอย่างนั้นก็ซวยน่ะสิ ยัยต้นรักก็ต้องสงสัยแน่เลย”ต้นหลิวเริ่มมีสีหน้าตระหนก หากต้นรักรู้ว่าเธอไม่ได้มาทำงานที่นี่อย่างที่บอก เรื่องนี้เธอจะต้องทะเลาะกับต้นรักใหญ่โตแน่“งั้นแกก็ต้องรีบเลยก่อนที่ยัยต้นรักจะมา ฉันมองไว้ให้แกแล้วว่าเหยื่ออยู่ตรงไหน น่าจะมีเงินเพราะดื่มแต่ของแพงๆ”พริกแกงเห็นทีจะต้องให้ต้นหลิวนั้นรีบลงมืออย่างรวดเร็วก่อนที่ต้นรักนั้นจะมาที่นี่ เธอลอบมองเหยื่อไว้หลายคนเห็นจะเป็นพ่อฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้นที่นั่งอยู่คนเดียวน่าจะเข้าถึงง่ายที่สุด“ฝรั่งคนนั้นอะนะ”ต้นหลิวมองไปตามที่เพื่อนของเธอชี้เธอเห็นว่าเขานั้นนั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่งตัวก็ธรรมดาคงจะเป็นการง่ายต่อการที่เธอจะปลดทรัพย์“ใช่แก ฉันเห็นนั่งเซ่ออยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว ดื่มหนักด้วยคง