Share

ตอนที่26 กำลังมีเจ้าตัวเล็ก

สองอาทิตย์ต่อมา

20.00 น.

คาวีพยายามหาทางช่วยให้เบนจามินกลับมาจำทุกอย่างได้ทุกวิถีทาง คราแรกเบนจามินก็ไม่ค่อยจะยอมให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แต่เมื่อได้รับคำสั่งจากคุณย่าของเขาเบนจามินก็ต้องทำตามเพราะไม่อยากจะขัดใจคนเป็นย่า ส่วนต้นรักนั้นก็แพ้ท้องหนักจนต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของเธอ ด้วยไม่อยากให้ชายหนุ่มสงสัย

“เสื้อตัวนี้...”

เบนจามินเข้าไปนั่งในห้องของต้นรัก เขาเห็นบางอย่างอยู่บนหัวเตียงของเธอจึงเข้าไปหยิบขึ้นมาดู มันเป็นเสื้อไหมพรมที่ยังถักไม่เสร็จที่เสร็จ แล้วก็เห็นจะมีเสื้อที่ตัวขนาดเท่าๆกันอีกหนึ่งตัวและตัวเล็กอีกหนึ่งตัวที่สีเหมือนกัน ทำให้ภาพบางภาพปรากฏขึ้นในหัวของเขา

เป็นภาพที่เขากำลังลองใส่เสื้อไหมพรมหมีพูห์และมีต้นรักยืนยิ้มอยู่ข้างๆ และภาพต่างๆก็ค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวอย่างชัดเจน ต่างจากเมื่อตอนแรกที่คาวีพยายามรักษาเขามาก ตอนนั้นทุกอย่างมันยังคงเลือนลางไม่ประติดประต่อ แต่ตอนนี้มันค่อนข้างที่จะทำให้เขาคิดอะไรขึ้นมาได้ความรู้สึกเก่าๆที่มันกลับมาทำให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะทำอะไร

เช้าวันต่อมา

“คุณเบน”

ต้นรักค่อนข้างแปลกใจเบนจามินก็มาโผล่ที่บ้านของเธอแต่เช้า

“เห็นหน้าฉันทำไมต้องทำหน้าแปลกใจขนาดนั้นด้วย”

เบนจามินไม่รู้ว่ามันดูแปลกตรงไหนถ้าเขาจะมาที่นี่

“เปล่าค่ะ...คุณเบนมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”

ต้นรักคิดว่าหากเบนจามินมาถึงที่นี่ได้ก็ต้องมีเรื่องสำคัญแน่นอน

“ฉันจะมาหาเมียฉันต้องมีธุระด้วยหรือไง”

เบนจามินยังตอบหญิงสาวด้วยคำที่กวนประสาทคนตัวเล็ก

“......”

ต้นรักเองยิ่งมีสีหน้าฉงนไปใหญ่ แปลกใจหนักกับสรรพนามที่เขาใช้เรียกเธอมันดูไม่ค่อยปกติในขณะที่เขายังจำอะไรไม่ได้อยู่แบบนี้

“ฉันจะพาเธอไปลองชุดแต่งงาน”

เบนจามินลุกขึ้นเดินขึ้นมาประชิดตัวหญิงสาวพร้อมโอบกอดเธอเอาไว้ เขารีบบอกถึงธุระที่เขานั้นต้องเข้ามาหาเธอถึงที่นี่

“คุณเบน นี่คุณ”

ต้นเริ่มพูดไม่ออก ตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงมากเพราะตื่นเต้นท่าทางของชายหนุ่ม พอจะมองออกว่าเขาจะต้องจำเรื่องราวระหว่างเขาและเธอได้แล้วแน่ๆ

“อืม อย่างที่เธออยากให้เป็นนั่นแหละ”

เบนจามินมองหน้าต้นรักทั้งฉีกยิ้มร่า เขาดีใจที่เห็นต้นรักยิ้มได้กว้างมีความสุขออกมาจากหัวใจจริงๆเสียที

“....”

ต้นรักสวมเข้ากอดเบนจามินแน่นขึ้นกว่าเดิม เธอดีใจจริงๆที่วันที่ตั้งหน้าตั้งตารออย่างมีความหวังมันก็เป็นไปตามดังหวังเสียที

“ยัยเด็กขี้แย ฉันขอโทษนะที่ลืมเรื่องของเรา”

เบนจามินลูบหัวต้นรักอย่างถนอมพร้อมจูบไปที่กลางกระหม่อม เขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะในช่วงที่เขาจำความรู้สึกไม่ได้เขาค่อนข้างหมางเมินเธอเหลือเกิน ผิดกับเธอที่คอยอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา

“ฉันไม่เคยโกรธคุณเลยค่ะ”

ต้นรักส่ายหัวพัลวัน เธอไม่เคยคิดโกรธเขาแม้แต่นิดเดียว มันไม่ใช่เรื่องที่ชายหนุ่มตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเธอ แต่มันเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย แค่เขามีชีวิตรอดเจอเธออีกครั้งเธอก็ดีใจแล้ว

ทางด้านต้นหลิว

สวนสาธารณะ

“โทรตามฉันมาทำไมที่นี่”

วันนี้เป็นวันหยุดของต้นหลิว เธอมาที่สวนสาธารณะแต่เช้าเพราะได้รับสายจากคาวีตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ให้มาเจอกันที่นี่

“มาแล้วเหรอคุณ นั่งก่อนสิ”

“มีอะไร”

ต้นหลิวนั่งลงได้ก็เปิดประเด็นถามอีกฝ่ายทันทีว่าเรียกเธอมาเพราะเรื่องอะไร

“คุณเบนกลับมาเป็นปกติแล้วนะ”

“จริงเหรอ อย่างนี้ต้องบอกต้นรัก”

ต้นหลิวได้ยินเช่นนั้นก็ควานหามือถือจะหยิบขึ้นมาเพื่อโทรหาคนเป็นน้องสาวเพื่อบอกข่าวดีทันที

“ไม่ต้องคุณ ป่านนี้คุณต้นรักคงรู้แล้วหละ”

คาวีจับมือของหญิงสาวเอาไว้ก่อนที่เธอจะโทรหาต้นรัก เพราะป่านนี้ต้นรักนั้นคงจะรู้เรื่องแล้ว เพราะเขารู้ว่าเบนจามินก็มาหาต้นรักในตอนเช้าเหมือนกัน คงจะคลาดกับต้นหลิวตอนออกมา

“ทีนี้น้องฉันก็จะได้แต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวซะทีสินะ”

ต้นหลิวดีใจแทบอยากจะร้องให้ที่น้องเธอจะได้มีความสุขเสียที จากนี้ก็ไม่ต้องปิดเรื่องที่มีเจ้าตัวเล็กกับเบนจามินอีกต่อไปแล้ว

“ที่ผมนัดเจอคุณมาวันนี้เพราะผมจะขอทวงสัญญา เราแต่งงานกันนะ”

“เอ่อ ที่สัญญามันแค่คุณขอเป็นคนดูแลฉันไม่ใช่เหรอ”

ต้นหลิวถึงกับหน้าตาตื่น เท่าที่เธอจำได้คาวีแค่ขอเป็นคนดูแลเธอเท่านั้น

“ก็ถ้าจะดูแลตลอดก็ต้องแต่งงานอยู่ด้วยกันไง ไม่รู้ล่ะคุณห้ามผิดสัญญา”

คาวีต้องอธิบายความหมายในสิ่งที่เขาพูดให้หญิงสาวได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ทั้งจ้องหน้าเธอเขม็งกำชับว่าห้ามผิดสัญญากับเขา

“อ้าว คือ แล้วคุณแม่คุณเค้าจะว่ายังไงมาแต่งงานกับฉันน่ะ ฉันไม่ได้มีอะไรเทียบคุณได้สักนิด แถมยังรู้จักกันได้ไม่นานด้วย”

ต้นหลิวยังพยายามหาเรื่องอื่นมาพูดให้ชายหนุ่มเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันเพราะว่าเธอเองก็รู้ตัวดีว่าเธอไม่ได้เหมาะสมกับเขาเลยสักนิด

“คุณแม่ผมโอเค ท่านให้แหวนมาหมั้นคุณไว้ก่อนด้วย”

“ฮะ...”

คาวีคุยเรื่องนี้กับแม่ของเขานานแล้ว เรื่องราวของหญิงสาวส่วนมากที่แม่เขารู้ก็น่าจะมาจากเอมอรที่ชมอยู่ตลอดเวลาว่าต้นหลิวทำงานเก่งขยันและเป็นคนดี แม่ของเขาเลยไม่มีปัญหาที่จะรับต้นหลิวเป็นลูกสะใภ้ ส่วนเรื่องฐานะบ้านของเขาไม่ได้คิดอะไรเรื่องนี้อยู่แล้ว

ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้หญิงสาวตกใจนาน เขาจับมือของเธอมาสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายทันที

“เรื่องรู้จักกันได้ไม่นานผมไม่ซีเรียส เพราะผมคิดว่าผมรู้จักคุณมากพอ คุณจะไปคิดอะไรมากดูอย่างคุณต้นรักกับคุณเบนสิยังรักกันมากเลย พวกเขาก็รู้จักกันได้ไม่นานเลยด้วย”

“เอิ่ม คือเรื่องนี้ฉันต้องบอกแม่ฉันก่อน”

ต้นหลิวยังค่อนข้างตกใจกับการกระทำที่ดูจะรวบรัดเธออยู่มาก

“ไม่ต้อง แม่ผมคุยไว้เรียบร้อยแล้ว”

“อ้าว...แล้วไปคุยกันตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลยล่ะ”

การที่เขาจะแต่งงานกับเธอว่าตกใจแล้ว การที่ผู้ใหญ่สองฝ่ายนั้นคุยกันแล้วเธอยิ่งตกใจยิ่งกว่า เธอไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนี้ เธอกำลังจะกลายเป็นเจ้าสาวจริงๆ แล้วเหรอเนี่ย

เพนท์เฮ้าส์หรู

“เหนื่อยไหม”

เบนจามินเห็นอาการต้นรักเพลียๆตั้งแต่ช่วงที่ลองชุดแต่งงานกันแล้วเขาจึงรีบพาเธอกลับมาก่อน

“นิดหน่อยค่ะ”

อันที่จริงต้นรักรู้สึกเพลียมากแต่ไม่อยากจะให้เบนจามินเป็นกังวลเธอเลยฝืนว่าตัวเองไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไร

“ตกลงเธอเป็นอะไรกันแน่ ดูเหนื่อยง่ายแถมยังทานอะไรไม่ค่อยได้อีกด้วย”

เบนจามินเห็นว่ามันไม่น่าจะนิดหน่อยเหมือนกับที่ต้นรักบอก เขาดูออกว่าเธอค่อนข้างเพลียแถมอาการที่ทานอะไรไม่ได้ของเธอเขารู้ว่ามันยังเป็นอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่กับเขามาร่วมครึ่งเดือนก็เถอะ

“คือฉัน กำลังมีเจ้าตัวเล็กค่ะ”

ต้นรักเห็นว่าเรื่องนี้เธอเองก็ควรจะบอกเขาเสียทีว่าไอ้อาการที่เธอเป็นอยู่นี้มันเกิดจากอะไร

“ทะ ท้อง”

เบนจามินถึงกับตัวชาวาบเมื่อได้ยินเสียงที่หญิงสาวกระซิบข้างๆหู เขาอึ้งไปชั่วขณะและเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอเบ้า

“คุณเบนร้องทำไมคะ เสียใจเหรอคะ”

ต้นรักมีสีหน้าไม่เข้าใจกับอารมณ์ชายหนุ่มอยู่พอควร เธอไม่รู้ว่าเขาดีใจหรือเสียใจที่ได้รู้เรื่องนี้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status