โรงพยาบาล
ต้นหลิวมานั่งรอฟังข่าวกับคาวีที่โรงพยาบาล ส่วนพริกแกงนั้นต้นหลิวให้เพื่อนเธอกลับไปก่อนเพราะดึกมากแล้ว
“เป็นยังไงบ้างคุณ”
ต้นหลิวเห็นคาวีคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานเมื่อเห็นเขาวางสายเธอก็รีบเข้าไปถามเรื่องถามราวทันทีว่าตอนนี้น้องสาวของเธอเป็นยังไงบ้าง
“ข่าวดีก็คือ เค้าจะไม่เอาเรื่องคุณ”
“จริงเหรอ??”
“แต่เค้าจะไม่ปล่อยน้องคุณ”
“ทำแบบนี้ไม่ได้คุณติดต่อเค้าไปใหม่ได้ไหมว่าฉันยอมรับผิดทุกอย่าง แต่ให้เขาปล่อยน้องฉันเถอะนะ เค้าจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะแจ้งตำรวจที่เค้าจับน้องฉันไปเหมือนกัน”
ต้นหลิวถึงกับเข่าทรุดผู้ชายคนนั้นจะทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย ไม่ได้ยังไงเธอก็ไม่ยอมให้เขากักตัวน้องสาวเธอไว้แบบนี้แน่
“ตำรวจทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก เรื่องนี้คุณผิดเต็มๆ เห็นหรือยังการทำอะไรไม่คิดมันจะเป็นยังไง”
คาวีก็หมดหนทางที่จะช่วยจริงๆ เบนจามินนั้นมีอิทธิพลแค่ไหนเขารู้ดี พร้อมหันไปคาดโทษหญิงสาวให้เธอได้คิดว่าผลของการทำอะไรสิ้นคิดมันก่อให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง
“ฮึก ฮือๆๆ แล้วจะให้ฉันทำยังไง”
ต้นหลิวจากที่เป็นคนที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เจอแบบนี้เธอเองก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ดันไปเหยียบหางเสือเข้าเสียเต็มที่ ตอนนี้เธอจึงทำได้แต่ร้องให้สะอึกสะอื้นปล่อยโฮออกมาอย่างไม่คิดอายใคร
“เอาน่า...เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปคุยกับเค้าด้วยตัวผมเอง”
คาวีถอนหายใจ เขาเองก็ไม่น่าปากไวซ้ำเติมเธอเสียตอนนี้เลยเชียว เขาคิดไว้แล้วว่ายังไงพรุ่งนี้เขาก็จะไปคุยกับเบนจามินตัวต่อตัวอยู่ดี เพราะเขาเองก็ไม่ชอบให้เบนจามินทำตัวอยู่เหนือคนอื่นแบบนี้เช่นกัน
เพนท์เฮ้าส์
“พี่สาวเธอเป็นคนขโมยของฉันไป”
เบนจามินเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่นั่งทำหน้าละห้อยอยู่หลังจากคุยกับคาวีเสร็จ
“ฮะ คุณจะเอาเรื่องพี่ฉันไหม? อย่าเอาเรื่องพวกเราเลยนะฉันรู้ว่าทีพี่ฉันทำไปเพราะเหตุจำเป็น”
ต้นรักคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เธอพยายามขอร้องให้อีกฝ่ายไม่เอาเรื่องพี่สาวเธอ ไม่อย่างนั้นคงจะต้องเสียประวัติและเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาล
“ฉันรู้...ฉันจะไม่เอาเรื่องพี่สาวเธอก็ได้ ถ้าหากเธอยอมอยู่กับฉัน”
เบนจามินยิ้มมุมปาก เขารู้เหตุผลทุกอย่างแล้ว เพราะคาวีเป็นคนอธิบายให้เขาฟัง เขามีข้อเสนอให้กับหญิงสาวนิดหน่อยแลกกับการไม่เอาเรื่องพี่สาวของเธอ
“คุณจะบ้าหรือไง ให้ฉันมาอยู่กับคุณ เราไม่เคยรู้จักกันเลยด้วยซ้ำ แล้วฉันจะมาอยู่กับคุณในฐานะอะไร”
ต้นรักไม่คิดว่าคนตรงหน้าเธอจะพูดจากับเธอแบบนี้ เขาเห็นเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันที่จู่ๆจะมาอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าอย่างหน้าตาเฉย อีกอย่างเธอคิดว่าเขาคงจะให้เธอมาอยู่ในสถานะไหนก็พอจะดูออกจากพฤติกรรมของเขาที่แสดงออกกับเธอ
“ถ้าเธอไม่ยอม ฉันจะเอาเรื่องพี่สาวเธอให้ถึงที่สุด ให้หมดอนาคตกันไปเลย ดูซิถ้าแม่เธอรู้ว่าพี่สาวเธอทำตัวแย่ๆจะรู้สึกยังไง”
เบนจามินยังคงพ่นคำขู่ใส่หญิงสาวอันที่จริงแล้วเขาสามารถทำให้มันเป็นจริงได้ในพริบตาเดียวเท่านั้นในการดับอนาคตพี่สาวของหญิงสาวหากเธอไม่ยอม
“.......”
ต้นรักหมดคำจะพูดเธอน้ำตาคลอเบ้ามาอีกระลอก ไม่คิดว่าจะเธอจะเจอคนจิตใจดำด้านเช่นนี้มาก่อน
“ถ้าเธอยอมเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันก็จะไม่เอาเรื่องพี่สาวเธอ ส่วนแม่เธอฉันก็จะช่วยรักษาให้หายด้วย พี่เธอจะได้ไม่ไปขโมยของใครอีก แบบนี้เธอมีแต่ได้กับได้นะ คิดเอาว่าอยากจะให้อนาคตพี่สาวเธอพังหรือเปล่าฉันให้เวลาเธอคิด5วิ..1..2.3..4”
เบนจามินเองก็ไม่ใช่คนที่ใจร้ายอะไร หากหญิงสาวยอมเขาแต่โดยดีแถมยังเสนอออกค่ารักษาแม่เธอให้จนกว่าจะหายอีกด้วยเผื่อหญิงสาวจะนำไปเป็นข้อพิจารณาในการคิดที่จะอยู่กับเขาหรือไม่หากเธอไม่เขาก็ต้องทำตัวเป็นคนใจร้าย
“อึก อือ ฮือ ฮือ...ก็ได้ ก็ได้ ฉันยอมทุกอย่าง”
ต้นรักโดนบีบไปเสียทุกทางทั้งอนาคตพี่สาวชีวิตของแม่อยู่ในกำมือของเธอหมดแล้ว ตอนนี้ทำให้เธอต้องเอ่ยปากยอมทั้งน้ำตาสะอึกสะอื้นจนแทบจะขาดใจ
“ดี...ให้มันว่าง่ายแบบนี้สิถึงจะน่าเลี้ยง”
เบนจามินอมยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ตอนนี้เขาเองเป็นฝ่ายชนะอีกแล้ว พร้อมลงไปนั่งบนโซฟากอดกุมหญิงสาวเอาไว้แนบแน่น ให้รู้ว่าตอนนี้ชีวิตของเธอเป็นของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามขัดขืนก็ตาม แต่แรงเธอหรือจะมาสู้แรงของเขา
“นี่คุณจะอุ้มฉันไปไหน”
ต้นรักร้องต้าน เพระจู่ๆชายหนุ่มก็อุ้มเธอตัวลอยขึ้นด้วยท่าเจ้าสาว
“เธอตกลงเป็นของฉัน แล้วฉันก็จะพาเธอไปหาอะไรสนุกๆทำไง”
ในเมื่อเธอตกลงเป็นของเขาแล้ว เบนจามินจึงได้กอดก่ายหญิงสาวแนบชิด ผู้ชายเต็มตัวอย่างเขามีหรือจะปล่อยให้เธอรอดเงื้อมมือของเขาคืนนี้ไปได้
“นี่คุณ ไม่นะไม่ใช่ตอนนี้”
ต้นรักถึงกับใจตกลงไปอยู่ตาตุ่ม เธอพอจะรู้ว่าที่เขาพูดมันหมายความว่าอย่างไร เธอตกลงเขาแล้วก็ใช่ว่าเธอจะพร้อมกับเรื่องแบบนี้ตอนนี้เสียเมื่อไรกัน
“อย่าทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลย เด็กสาวสวยที่จบมหาลัยแล้วอย่างเธอจะบอกว่าไม่เคยฉันเชื่อยาก”
เบนจามอนเห็นสีหน้าหญิงสาวแสดงทำเหมือนตกใจไม่เคยกับเรื่องแบบนี้ อย่ามาหลอกเขาเสียให้ยาก เขาไม่เชื่อเธอแม้แต่น้อยยังคงอุ้มหญิงสาวเดินดุ่มๆเข้าห้องของเขาไป จากนั้นก็พากันทิ้งตัวลงไปที่เตียงนุ่ม
“นี่คุณไม่นะ ฉันยังไม่พร้อม ปล่อย...”
ต้นรักร้องห้ามชายหนุ่มอย่างสุดเสียงแต่เหมือนจะต้านทานอะไรชายหนุ่มไม่ได้แม้แต่นิดเดียว เขายังคงซุกไซร้อยู่บนเนื้อตัวเธออย่างป่าเถื่อนและหิวกระหาย ไม่นานหญิงสาวก็ตกเป็นของเขาอย่างต่อต้านไม่ได้
“ฉันเจ็บ พอแล้ว ฮือ ฮือ...”
“เงียบ”
หญิงสาวดิ้นพล่านเพราะรสสวาทที่ชายหนุ่มมอบให้มันป่าเถื่อนกับเธอเกินทน ชายหนุ่มรู้อยู่แก่ใจว่าเขาเป็นคนแรกของเธอแต่ก็หยุดยั้งอารมณ์ดิบเถื่อนให้แผ่วเบาลงไม่ได้ เป็นเพราะร่างอรชรที่ดูจะเล็กแต่บางสิ่งมันเต็มไม้เต็มมือเรียกอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี
หญิงสาวหัวสั่นหัวครอนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อชายหนุ่มโหมกระหน่ำบทรักมาบนตัวเธอ ตัวของเขาหรือใหญ่ปานยักษ์เมื่อเทียบกับตัวของหญิงสาว แต่ไม่ได้คิดเลยว่าร่างเล็กจะรับไหวหรือไม่ ยังกระทำการเอาใจตนเองอยู่เรื่อยไปจนกว่าจะพอใจ
เช้าวันต่อมา
08.00 น.
“นี่เสื้อผ้าครับคุณเบน ส่วนหมอน้ำอีกสักพักคงถึงครับ”
โจชัวสั่งให้คนไปหาซื้อของที่เจ้านายของเขาโทรมาสั่งตั้งแต่เมื่อคืน พอเช้าตรู่เขาก็รีบเอาของมาให้ทันที ส่วนหมอน้ำใสลูกพี่ลูกน้องของเจ้านายหนุ่มของเขากำลังตามมา
“อืม...”
“คุณเบนจะให้ผมพาเธอไปส่งตอนไหนครับ”
โจชัวรู้ว่าเมื่อคืนเจ้านายหนุ่มของเขาอยู่กับผู้หญิง แต่เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เจ้านายของเขาพาผู้หญิงมาถึงที่นี่ ปกติแล้วได้ที่ไหนก็อยู่ที่นั่น เสร็จกิจแล้วก็กลับไม่ค้างกับใครทั้งนั้น ขนาดนางแบบดาราดังยังไม่เคยพามาที่นี่เลย เขาชักอยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนที่เจ้านายเขาพามาที่นี่แล้วล่ะสิ
“ไม่ต้อง เธอจะอยู่ที่นี่”
“ฮะ...”
การกระทำกับคำพูดของเจ้านายของเขาทำโจชัวมีสีหน้างุนงงเข้าไปใหญ่ นี่ถึงขนาดจะให้อยู่ด้วยกันที่นี่คงไม่ใช่เพียงคู่นอนแล้ว
“ยืนงงอะไรเล่ามีอะไรทำก็ไปทำสิ วันนี้แกเข้าบริษัทแทนฉันไปก่อนนะโจชัว”
เบนจามินยังไม่เห็นโจชัวจะออกไปเสียทีแถมยังทำหน้างง เขาจึงต้องขึ้นเสียงดุกันหน่อย เพราะเขารู้ว่าลูกน้องคนสนิทคนนี้กำลังสงสัย และตัวเขาเองก็ยังไม่พร้อมจะตอบอะไรตอนนี้
“ทำไมครับ”
โจชัวอยากรู้เหตุผลที่เจ้านายของเขาไม่ยอมเข้าบริษัทหากใครถามเขาเองก็จะได้ตอบถูก
“เอ้า...ไอ้นี่ก็ฉันสั่ง”
เบนจามินลุกยืนขึ้นถลึงตาและเสียงแข็งส่าโจชัวอีกรอบ
“โอเคครับคุณเบน”
โจชัวเห็นเช่นนั้นจึงต้องรีบพาตัวเองออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว หากถามให้มากเรื่องก็คงจะได้ตายอยู่ตรงนี้เป็นแน่
ชั่วโมงต่อมา“ให้มันเบามือหน่อยนะคะพี่เบน”น้ำใส หมอสาวที่ประจำอยู่ที่คลินิกของบ้านตัวเอง เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเบนจามิน สนิทกันเหมือนพี่เหมือนน้องแท้ๆเพราะเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากได้ตรวจดูอาการหญิงสาวเธอถึงกับต้องหน้าหงิกหน้างอใส่คนเป็นพี่ชายที่ดูจะรุนแรงเกินเหตุเกินเรื่องไป แต่เธอก็แปลกใจเล็กน้อยที่ดูพี่ชายเธอดูจะห่วงผู้หญิงที่นอนหลับอยู่บนเตียงเป็นพิเศษ เท่าที่เธอเคยรู้มาพี่ชายเธอไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่“อืม...รู้แล้วน่า”เบนจามินทำหน้าเซ็ง เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงเป็นหนักขนาดนี้เสียหน่อย แค่ควบคุมตัวเองไม่ได้ก็เท่านั้นเอง“นี่ยาค่ะ เธอตื่นก็ให้เธอทานด้วย น้ำเช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอแล้ว”น้ำใสยื่นซองยาให้คนเป็นพี่ชายจากนั้นจึงเตรียมตัวกลับทันที เพราะใกล้จะได้เวลาที่เธอจะต้องไปตรวจที่คลินิกแล้วโรงพยาบาล“นี่คุณ จะไปหาน้องฉันเมื่อไหร่”หลังจากที่หมอหนุ่มตรวจอาการของแม่เธอเสร็จต้นหลิวก็ถือโอกาสนี้ถามชายหนุ่มทันทีว่าเขานั้นจะไปหาผู้ชายคนเมื่อคืนเพื่อเจรจาเรื่องน้องเธอตอนไหน“ผมต้องออกเวรก่อน คงจะเป็นช่วงเย็น”“ฉันไปด้วยได้ไหม”ต้นหลิวอยากจะไป
วันต่อมา“เป็นยังไงบ้าง”เบนจามินเห็นหญิงสาวขยับตัวขึ้นในช่วงสายของวันจึงใช้หลังมือนั้นวัดอุณหภูมิที่หน้าผากของเธอดูว่าไข้ลดแล้วหรือยัง เพราะเมื่อคืนเธอตัวร้อนทั้งคืนจนเขาต้องปลุกให้เธอลุกขึ้นมาทานยาเบนจามินนึกโมโหที่หญิงสาวผละหน้าหนีจากมือของเขาอย่างท้าทาย ซ้ำยังไม่ยอมตอบยอมคุยกับเขาว่าตัวเธอนั้นอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้แบบนี้ปล่อยให้นอนป่วยโดยไม่ดูแลเสียก็ดี“ฉันจะบอกอะไรเธอให้ เธอควรจะทำตัวดีๆกับฉันเอาไว้แล้วเธออยากได้อะไรก็จะได้ทานข้าวแล้วทานยาซะ”จากนั้นจึงลุกขึ้นหันหลังให้หญิงสาวและประกาศก้องให้เธอได้ยินสิ่งที่เขาต้องการจะให้เธอได้รู้ เป็นการบอกนัยๆว่าเธอไม่ควรที่จะปฏิเสธเขาหลังจากชายหนุ่มเดินหันหลังออกจากห้องไปแล้วน้ำตาหญิงสาวก็ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่ขาดสาย คิดว่าหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาเรื่องร้ายๆมันจะเป็นแค่ฝันเสียอีกเธอร้องออกมาจนน้ำตาแห้งเหือดพร้อมบอกกับตัวเองให้ทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้ แล้วทำใจอยู่กับมันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เย็นของวัน“เอกสารที่ต้องเซ็นครับคุณเบน”เมื่อเจ้านายหนุ่มไม่ยอมเข้าบริษัทก็ต้องเป็นธุระของโจชัวที่จะต้องยกแฟ้มเอกสารทั้งหมดมาให้เจ้านายของเข
“ถ้าวันไหนรักไม่โอเคเค้าบอกเลยว่าเค้าจะช่วยรักทุกวิถีทาง แม้ต้องแลกด้วยชีวิตเค้าก็ยอม”ต้นหลิวก็ยังยืนยันให้น้องสาวของเธอได้มั่นใจว่าเธอพร้อมเป็นที่พึ่งของน้องสาวเธอได้ตลอดเวลา“ไม่หรอกหลิว เค้าโอเคจริงๆ”ต้นรักกุมมือคนเป็นพี่สาวแน่น ยืนยันคำเดิมว่าเธอโอเคเพราะเธอได้ตัดสินใจไปแล้ว“แล้วถ้าแม่ฟื้นมาเราจะบอกกับแม่ยังไง”ต้นหลิวยังคงกังวลใจอีกเรื่องหากแม่เธอฟื้นมาแล้วรู้เรื่องราวทุกอย่างวันนั้นมันจะเป็นอย่างไร เธอรู้ว่าแม่ต้องผิดหวังในตัวเธอมากแน่ๆ“อืม ให้มันถึงวันนั้นก่อนก็แล้วกัน”ต้นรักเองก็ยังคิดไม่ออกว่าถึงวันนั้นแล้วมันจะเป็นอย่างไรแต่ยังไงความจริงมันก็คือความจริงที่แม่ของเธอจะต้องรับรู้อยู่ดี“จะเที่ยงแล้วเค้าจะออกไปซื้อข้าว รักจะเอาอะไรไหม”ต้นหลิวเห็นว่านี่มันก็ใกล้เที่ยงแล้วเธอยังไม่ได้หาข้าวไว้ทานเลย หญิงสาวจึงต้องออกไปหาซื้ออะไรแถวห้างใกล้ๆนี้เสียหน่อย เพราะวันนี้น้องสาวเธอกลับมาทานข้าวกับเธอทั้งทีก็คงต้องหาอาหารญี่ปุ่นของโปรดให้น้องเธอทานบ้าง“อะไรก็ได้หลิวไปเถอะ เดี๋ยวเค้าอยู่เฝ้าแม่เอง”ต้นรักอยากอยู่เฝ้าแม่เธอมากกว่า หากพี่สาวเธอจะซื้ออะไรมาก็ทานได้ทั้งนั้น“อืม...แล้วเค
“โอเค แล้วรอยที่หน้าคุณล่ะอันนี้คุณแก้ตัวกับน้องคุณเองก็แล้วกัน”คาวีรู้ว่าเขาควรทำอะไรไม่ทำอะไรเพียงแต่รอยที่หน้าหญิงสาวให้เธอหาคำตอบให้น้องของเธอเองก็แล้วกัน เพราะมันเห่อแดงไปทั่วแก้มเสียขนาดนั้น“ไหนผมขอดูหน่อย”เมื่อจอดรถได้คาวีก็หันมาจับหน้าหญิงสาวแล้วจ้องดูรอยใกล้ๆเขาจะดูว่ามันช้ำแค่ไหนจะได้ให้ยาทาถูก“....”ต้นหลิวถึงกับเบิกตาโพรงหายใจติดขัดที่จู่ๆหมอหนุ่มก็ยื่นหน้ามาเสียใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน เธอเคยอยู่ใกล้ผู้ชายขนาดนี้เสียที่ไหนกัน“เดี๋ยวผมหายาให้ทาก็แล้วกันนะ”“เอ่อ อืม ขอบคุณ เลิกดูได้แล้ว”ต้นหลิวรู้สึกว่าใจเธอเต้นผิดจังหวะ พร้อมผละตัวออกจากหมอหนุ่มและเปิดประตูรถเดินดุ่มๆเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างไม่คิดจะรอเจ้าของรถ“อะไรกัน จะรอหน่อยก็ไม่ได้”คาวีส่ายหัวให้กับพฤติกรรมที่เดาใจยากของหญิงสาว จากนั้นจึงลงจากรถและเดินตามเธอไปติดๆ“รักเค้ามาแล้ว ซื้อแซลมอนโรลของโปรดมาให้ด้วยนะ”ต้นหลิวเข้าห้องมาได้ก็รีบชูกล่องของโปรดให้น้องเธอดูทันที“มันแพงจะตายหลิว ซื้อมาทำไม”ต้นรักรู้ว่าสถานการณ์การเงินที่บ้านเธอตอนนี้เป็นยังไง แล้วอีกอย่างพี่เธอก็ไม่มีงานทำยังจะซื้อของแพงๆให้เธอได้ทานอีก“ไม่เป
“บ้านคุณน่ารักดีนะ”หลังจากที่คาวีและต้นหลิวมาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ต้นหลิวก็จัดการกับอาหารที่พึ่งซื้อมาใส่จานเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นได้รีบทานจะได้รีบกลับ“อืม ช่วงนี้บ้านไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ คุณก็อย่าถือแล้วกัน”เนื่องจากต้นหลิวไม่ค่อยได้มีเวลาทำงานบ้านเท่าไรที่นี่บ้านจึงดูไม่ค่อยเรียบร้อยต้องชิงบอกกับชายหนุ่มเอาไว้เสียก่อน เพราะเดี๋ยวเธอจะโดนเขากล่าวหาว่าไม่เป็นกุลสตรีอีก“นี่คุณถ้าคุณขาดเหลืออะไรคุณบอกผมได้เลย ผมยินดีช่วย”คาวีดูไปแล้วมันก็ไม่ได้ไม่เรียบร้อยเช่นที่หญิงสาวพูด ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ เพียงแต่มีเพียงแค่ฝุ่นเล็กน้อย อันนี้เขาเจ้าใจได้ว่าเธอไม่ค่อยได้กลับมาดูแลบ้าน เพราะหลังๆมานี้เธอเฝ้าแม่อยู่แต่โรงพยาบาล เขารู้ว่าเธอลำบากแต่ก็ไม่ยอมปริปากบอกใครแม้แต่น้องสาวของเธอเอง เขาจึงคิดอยากจะช่วย“จะปล่อยเงินกู้ให้ฉันหรือไง”ต้นหลิวที่กำลังสนใจกับอาหารในจานอยู่ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อดูสีหน้าของคาวีว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น เมื่อมองดูแล้วก็รู้ว่าท่าจะจริง แต่เธอเองก็คงจะรับน้ำใจนี้ไว้ไม่ได้เพราะเธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร เธอยังมีสองไม้สองมือครบเหมือนคนอื่นเธอจะต้องหา
คฤหาสน์อินทวรนันท์“คุณแม่ครับ”กว่าจะขับรถกลับจากบ้านของต้นหลิวฝ่ารถติดมาถึงบ้านของเขาก็ใช้เวลานานพอสมควร ชายหนุ่มเห็นคุณแม่ของเขานั่งอยู่ด้านล่างพอดีเลยคิดว่าจะปรึกษาคนเป็นแม่เรื่องหญิงสาวเสียหน่อย“กลับมาซะดึกเชียว ไปไหนมาเหรอลูก”อมีนาไม่ค่อยเห็นลูกชายของเธอกลับบ้านดึกมาพักใหญ่ตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทย จึงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงปกติของคนเป็นแม่“ไปทานข้าวบ้านเพื่อนมาครับ”“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย”อมีนาแอบแซวลูกชายเรื่องทานข้าวบ้านเพื่อน เธอรู้ว่าลูกชายเธอไม่ค่อยมีเพื่อนที่เมืองไทยเท่าไหร่ เพราะไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ“ผู้หญิงครับ”คาวีไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรคุณแม่ของเขาอยู่แล้ว“.....”อมีนาเห็นลูกชายของเธอตอบอย่างมั่นใจก็แอบส่งสายตาเชิงสงสัยให้“เพื่อนจริงๆครับคุณแม่”คาวีดูออกว่าสายตาของแม่เขาที่มองมาแบบนั้นมันคืออะไร จึงรีบยืนยันกับแม่ของเขาให้มั่นใจว่าเป็นเพื่อนจริงๆ เพราะตอนนี้สถานะของเขากับต้นหลิวมันยังอยู่แค่เท่านี้“ผมมีเรื่องจะถามคุณแม่หน่อยครับ”“อะไรเหรอลูก”“คือพอดีเพื่อนผมเค้าเดือดร้อนเรื่องเงินแบบว่าพึ่งตกงานค่าใช้จ่ายเยอะแต่ไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากผม แบบนี้ต
“คุณรู้ได้ไงว่าฉันจบด้านนี้มา”ต้นหลิวจำได้ว่าเธอไม่เคยบอกกับชายหนุ่มนี่นาว่าเธอจบอะไรมาแปลกใจว่าเขารู้ได้อย่างไร“คุณต้นรักบอก คุณรีบไปสมัครเลย เค้ากำลังต้องการคน”เมื่อวานคาวีคุยรายละเอียดกับต้นรักเรียบร้อยหมดแล้วจึงได้รู้ว่าต้นหลิวนั้นจบอะไรมาและมีความสามารถทางด้านใดบ้าง“อ่อ...ขอบมากคุณนะคะ”ต้นหลิวพยักหน้าเข้าใจ ตอนนี้เธอก็มีหวังว่าจะมีงานทำเร็วๆนี้แล้วจึงหันไปส่งยิ้มขอบคุณชายหนุ่ม“อืม...ผมขอตัวก่อน”“ค่ะ”คาวีรู้สึกใจเต้นกับรอยยิ้มนี้อีกแล้ว สองพี่น้องคู่นี้เวลาที่ยิ้มอย่างจริงใจมันจะน่ามองเป็นพิเศษ พลางคิดในใจเรื่อยเปื่อยว่าหากหญิงสาวยิ้มให้เขาแบบนี้บ่อยๆก็คงจะดี“แม่จ๋า...ขอให้หนูได้งานนี้นะจ๊ะ”หลังจากที่หมอหนุ่มออกไปแล้วหญิงสาวก็เข้าไปกอดคนเป็นแม่ที่นอนอยู่บนเตียง ขอให้แม่ของเธออวยพรให้เธอโชคดีเรื่องงาน เพราะบริษัทที่ชายหนุ่มยื่นใบสมัครให้เธอค่อนข้างเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง หากได้ทำงานที่นี่คงจะได้เงินดีไม่ใช่น้อยคฤหาสน์อินทวรนันท์“เป็นยังไงบ้างลูก เพื่อนเราน่ะ”อมีนาเห็นลูกชายกลับมาถึงบ้านก็ถามไถ่ถึงเรื่องที่ลูกชายเธอมาปรึกษาสองวันติดๆ“เธอดีใจอยู่ไม่น้อยเลยครับคุณแม่”ค
โรงพยาบาล“คุณเบน”คาวีเห็นเบนจามินมาที่โรงพยาบาลพอดีเลยเดินเข้าไปหา คาดว่าเขาน่าจะมากับต้นรัก“หมอ”“ผมขอคุยด้วยหน่อย”“อืม ว่ามาเลย”เบนจามินมีสีหน้าสงสัยว่าหมอหนุ่มมีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา“เรื่องที่คุณยื่นมือมาดูแลทั้งต้นรักและต้นหลิวในเวลานี้ผมว่าคุณดูแลต้นรักคนเดียวจะดีกว่า ส่วนต้นหลิวผมขอดูแลเธอเอง”คาวีไม่ค่อยไว้ใจในการที่เบนจามินจะยื่นมือมาดูแลต้นหลิวเท่าไหร่ กิตติศัพท์เรื่องผู้หญิงของชายหนุ่มเขารู้ดี“เอาเป็นว่าผมเข้าใจ และผมก็รู้ด้วยว่าคุณคิดอะไรอยู่ ผมจะบอกกับคุณว่าเจตนาของผมบริสุทธิ์”เบนจามินหันไปมองหน้าคาวีเขารู้ว่าหมอหนุ่มคิดอะไรอยู่ถึงได้ออกตัวขนาดนี้ และเขาก็ขอยืนยันตรงนี้อย่างลูกผู้ชายว่าเขาไม่ไดคิดจะรวบสองอย่างที่คาวีคิด เขาแค่อยากดูแลครอบครัวของต้นรักก็เท่านั้น“คุณเข้าใจก็ดีแล้ว ยังไงเรื่องต้นหลิวถือว่าผมขอ”คาวีจะยอมเชื่อในสิ่งที่เบนจามินพูด แต่ยังไงต้นหลิวนั้นเขาก็ยังยืนยันว่าเขาจะเป็นคนจัดการดูแลเธอเอง“ต้นหลิวยังไม่รู้ใช่ไหมว่าคุณเป็นใคร ผู้หญิงเค้าชอบความจริงใจผมขอบอกไว้ก่อน”เบนจามินพอจะรู้ว่าคาวียังไม่เปิดเผยว่าตัวเองเป็นใครกับต้นหลิวเป็นแน่ เพราะไม่อย่างนั