Share

ตอนที่12 สัญญา

โรงพยาบาล

“คุณเบน”

คาวีเห็นเบนจามินมาที่โรงพยาบาลพอดีเลยเดินเข้าไปหา คาดว่าเขาน่าจะมากับต้นรัก

“หมอ”

“ผมขอคุยด้วยหน่อย”

“อืม ว่ามาเลย”

เบนจามินมีสีหน้าสงสัยว่าหมอหนุ่มมีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา

“เรื่องที่คุณยื่นมือมาดูแลทั้งต้นรักและต้นหลิวในเวลานี้ผมว่าคุณดูแลต้นรักคนเดียวจะดีกว่า ส่วนต้นหลิวผมขอดูแลเธอเอง”

คาวีไม่ค่อยไว้ใจในการที่เบนจามินจะยื่นมือมาดูแลต้นหลิวเท่าไหร่ กิตติศัพท์เรื่องผู้หญิงของชายหนุ่มเขารู้ดี

“เอาเป็นว่าผมเข้าใจ และผมก็รู้ด้วยว่าคุณคิดอะไรอยู่ ผมจะบอกกับคุณว่าเจตนาของผมบริสุทธิ์”

เบนจามินหันไปมองหน้าคาวีเขารู้ว่าหมอหนุ่มคิดอะไรอยู่ถึงได้ออกตัวขนาดนี้ และเขาก็ขอยืนยันตรงนี้อย่างลูกผู้ชายว่าเขาไม่ไดคิดจะรวบสองอย่างที่คาวีคิด เขาแค่อยากดูแลครอบครัวของต้นรักก็เท่านั้น

“คุณเข้าใจก็ดีแล้ว ยังไงเรื่องต้นหลิวถือว่าผมขอ”

คาวีจะยอมเชื่อในสิ่งที่เบนจามินพูด แต่ยังไงต้นหลิวนั้นเขาก็ยังยืนยันว่าเขาจะเป็นคนจัดการดูแลเธอเอง

“ต้นหลิวยังไม่รู้ใช่ไหมว่าคุณเป็นใคร ผู้หญิงเค้าชอบความจริงใจผมขอบอกไว้ก่อน”

เบนจามินพอจะรู้ว่าคาวียังไม่เปิดเผยว่าตัวเองเป็นใครกับต้นหลิวเป็นแน่ เพราะไม่อย่างนั้นต้นรักก็ต้องรู้เรื่องนี้แล้ว พร้อมทั้งเตือนชายหนุ่มด้วยความหวังดีในเรื่องที่เขายังปิดบังอยู่ด้วย

“ไว้มีโอกาสผมจะบอกเธอเอง ขอตัวก่อน”

คาวีคิดว่ายังไงเขาก็ต้องบอกเรื่องนี้กับต้นหลิวอยู่แล้วแต่มันยังไม่ใช่เวลานี้เท่านั้น แค่เบนจามินรับปากเรื่องที่เขาขอก็พอใจแล้ว

ก๊อกๆๆ

“คุณ”

ต้นหลิวมาถึงโรงพยาบาลก็ตรงไปที่ห้อทำงานของคาวีเพื่อที่จะมาขอบคุณเขาที่ทำให้เธอได้ทำงานในที่ดีๆ แถมเงินเดือนยังสูงอีกด้วย

“ว่าไง มาหาผมถึงในห้อง”

คาวีแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่รู้อยู่ในใจว่าหญิงสาวยิ้มหน้าบานมาหาเขาเรื่องอะไร

“ฉันมาบอกคุณว่าฉันได้งานแล้ว ขอบคุณนะ”

ต้นหลิวเข้าไปนั่งที่หน้าของชายหนุ่มเธอกุมมืออีกฝ่ายพร้อมขอบคุณเขาอย่างจริงใจ วันนี้ดูจะเป็นวันที่เธอนั้นอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

“ดีใจกับคุณด้วย”

คาวีรู้สึกดีใจยิ้มกว้างตามหญิงสาวไปด้วยเห็นเธอมีความสุขเขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย

“แล้วเพื่อนคุณที่อยู่บริษัทนั้นชื่ออะไรเหรอ ฉันจะได้ไปขอบคุณเค้าถูก”

ต้นหลิวจำได้ว่าในบริษัทนั้นมีเพื่อนของชายหนุ่มอยู่ด้วยเธอเองก็อยากจะไปขอบคุณเขา แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนชายหนุ่มนั้นชื่ออะไร

“อะ เอ่อ อ๋อ เพื่อนผมลาออกไปแล้ว”

คาวีลืมไปเสียสนิทว่าเขาบอกกับเธอว่ามีเพื่อนอยู่ที่นั่นจึงใช้ไหวพริบโกหกเธอไปว่าเพื่อนของเขาลาออกไปแล้ว หญิงสาวจะได้ไม่ต้องไปเสาะหาอีก

“อ้าวเหรอ อดขอบคุณเลย”

“งั้นเย็นนี้ให้ผมเลี้ยงข้าวคุณนะ ฉลองที่คุณได้งานไง”

คาวียังหาเรื่องจะเลี้ยงข้าวหญิงสาวอยู่ไม่เว้นแต่ละวันเพื่อที่จะช่วยเธอประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหารการกินอีกด้วย

“เอะอะก็จะเลี้ยงข้าวฉัน คิดอะไรกับฉันป่ะเนี่ย”

“หืม...”

ต้นหลิวอดหยอกชายหนุ่มเล่นไม่ได้ที่เขาใจดีชอบเอ่ยปากจะเลี้ยงข้าวเธออยู่ตลอด คำพูดของเธอนั้นไม่ได้คิดอะไรแต่ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับตัวชา

“ฉันล้อเล่นน่าทำหน้าเหวอไปได้ เอาเป็นว่าเย็นนี้ฉันให้คุณเลี้ยงข้าวฉันก็ได้ ถ้าฉันทำงานได้เงินเมื่อไรฉันจะเลี้ยงคุณคืนก็แล้วกัน”

“แบบนั้นก็ได้”

เมื่อได้ยินว่าหญิงสาวล้อเขาเล่นคาวีก็พลอยได้หายใจได้ทั่วท้องหน่อย

“เดี๋ยวฉันขอตัวไปหาต้นรักก่อนนะ เห็นว่าจะกลับแล้ว”

“โอเค”

ต้นหลิวเห็นว่าใกล้เวลาที่ต้นรักบอกว่าจะกลับแล้วจึงขอตัวไปหาน้องเธอก่อน เพราะว่าเธอเองก็มีเรื่องจะคุยกับเบนจามินด้วย

ก๊อกๆๆ

“เค้าดีใจด้วยนะหลิว”

ต้นรักเห็นว่าใครเข้าห้องมาก็รีบโผเข้าไปกอดดีใจกับพี่สาวของเธอด้วยที่ได้งานเสียที

“เค้าดีใจที่สุดเลยที่ได้งานซะที แล้วนี่จะกลับแล้วใช่ไหม”

ต้นหลิวเองก็กอดกับน้องสาวเธอแน่นด้วยความดีใจเหมือนกัน ต่อจากนี้เธอก็จะได้ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่งเสียที

เบนจามินที่มองดูอยู่ก็ต้องจ้องสองพี่น้องคู่แฝดนี้ไม่ละสายตาทั้ งยังคิดว่าหากเขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ทีแรกคงจะแยกไม่ออกแน่ว่าคนไหนต้นรักคนไหนต้นหลิว เพราะทั้งสองเหมือนกันมาก

“อืม พอดีคุณเบนจะกลับแล้ว”

“คุณเบนคะ ขอบคุณนะคะที่คุณดีกับพวกเรา ฉันหวังว่าคุณจะทำให้ต้นรักมีความสุขนะคะ”

ต้นหลิวหันหน้ามาหาเบนจามินที่ยืนจ้องพวกเธออยู่เธออยากจะพูดคำนี้ต่อหน้าเขามานานแล้ว

“หลิว”

ต้นรักจับมือต้นหลิว เพราะเธอรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นแฝงไปด้วยความห่วงใยในตัวของเธออย่างเต็มเปี่ยม

“ผมสัญญา”

เบนจามินพูดคำสั้นๆด้วยสายตาที่จริงจังให้หญิงสาวได้ฟัง แต่คำนี้เขาไม่เคยพูดพร่ำเพรื่อ จากนั้นจึงพาต้นรักกลับกันทันทีเพราะนี่มันก็ใกล้จะเย็นแล้ว

ร้านอาหาร

“พาฉันมาที่หรูขนาดนี้เงินเดือนฉันออกคงจะไม่มีปัญญาพาคุณมาที่นี่หรอกนะ”

ต้นหลิวเห็นคาวีพาเธอมาร้านอาหารหรูที่เธอเองก็ไม่เคยเข้า เมื่อดูราคาอาหารเธอถึงกับไม่อยากจะสั่งอะไรแม้แต่อย่างเดียว

“เอาที่คุณสะดวกผมได้หมด”

คาวีไม่ได้ต้องการให้หญิงสาวต้องเลี้ยงอาหารดีๆกับเขาคืน แค่เขาได้นั่งทานข้าวพร้อมกับเธอแค่นี้ก็พอแล้ว

“นี่คุณ แม่ฉันจะเป็นปกติเมื่อไร”

เมื่ออาหารว่างที่ชายหนุ่มสั่งมาวางที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว ต้นหลิวจึงพูดคุยถึงอาการของแม่เธอ

“ผมให้ไม่เกินสองอาทิตย์เดี๋ยวแม่คุณก็ฟื้น”

“จริงเหรอ?”

ต้นหลิวหูผึ่งดีใจจนเนื้อเต้นที่แม่เธอจะฟื้นเสียที ถ้าต้นรักรู้คงดีใจมากๆแน่

“อืม ถ้าแม่คุณยังตอบสนองการรักษาดีแบบนี้ก็น่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”

คาวีคาดการณ์ไว้ว่าหากแม่ของหญิงสาวตอบสนองต่อการรักษาดีแบบนี้ต่อเนื่องคงไม่มีอะไรผิดคาดที่เขาคิดว่าแม่ของหญิงสาวนั้นจะฟื้นตัวได้ในเร็ววัน

“อืม”

“เป็นอะไรเมื่อกี้ยังดีใจอยู่เลย”

คาวีถึงกับงงเมื่อจู่ๆหน้าหญิงสาวมีสีหน้าห่อเหี่ยวลง เมื่อครู่ยังมีสีหน้าที่ดีใจอยู่เลย

“ก็ดีใจนั่นแหละ แต่ว่าถ้าหากแม่ฉันฟื้นแล้วฉันยังไม่รู้เลยว่าจะบอกเรื่องต้นรักกับแม่ยังไง”

ต้นหลิวคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างที่แม่เธอป่วยอยู่ก็รู้สึกห่อเหี่ยวหัวใจขึ้นมาทันที เพราะยังไม่รู้ว่าถ้าหากแม่เธอรู้เรื่องราวจะเป็นยังไง

“ผมว่าคุณเบนคงมีคำพูดดีๆเรื่องเค้ากับคุณต้นรักให้แม่คุณได้สบายใจอยู่แล้วน่า”

คาวีเองเมื่อคิดตามหญิงสาวแล้วก็หวั่นใจอยู่เหมือนกันว่าแม่ของหญิงสาวจะรับเรื่องที่เกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน แต่เขาคิดว่าเบนจามินคงจะคลี่คลายเรื่องนี้ได้เอง

“คุณคิดอย่างนั้นเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ”

ต้นรักคิดว่าถ้าหากเป็นดังเช่นที่ชายหนุ่มพูดก็คงจะดี

“นี่คุณ ฉันสังเกตคุณมานานแล้ว คุณไม่มีแฟนหรือไง”

ต้นหลิวว่าจะถามชายหนุ่มอยู่หลายครั้งแล้วว่าเขานั้นไม่มีคนรู้ใจหรือยังไงถึงได้เที่ยวไปทานข้าวกับเธอได้บ่อยๆ เธอต้องถามเอาไว้ก่อน เผื่อถ้าหากวันดีคืนดีแฟนชายหนุ่มเกิดเห็นขึ้นมาเธอจะซวย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status