20 นาทีต่อมา
“ดีขึ้นหรือยัง”
“ค่ะ”
“เราไปรู้จักกับคู่หมั้นคุณนิรินอย่างที่เธอกล่าวหาจริงหรือเปล่า”
ตะวันเห็นว่าต้นรักเริ่มเงียบลงแล้วแต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่เล็กน้อย ด้วยความอยากรู้ว่าหญิงสาวเป็นผู้หญิงของเบนจามินตามที่นิรินมาหาเรื่องเธอหรือเปล่าจึงถามขึ้น
“ฮึก...ฮือๆๆๆ”
ต้นรักได้ยินแบบนั้นก็เหมือนกับมีดกรีดไปที่หัวใจของเธอที่เดิมจึงร้องออกมาอีกครั้งสะอื้นจนตัวโยน
“โอเคๆพี่จะไม่ถาม”
ตะวันฉวยโอกาสนี้กอดปลอบหญิงสาวอย่างแนบชิดเขาจะอาศัยจังหวะในช่วงที่หัวใจเธออ่อนแอนี่แหละเข้าหาหญิงสาว
“ทำอะไร”
ปั้กกก
“โอ้ย...”
เบนจามินเดินตามหาหญิงสาวตามจุดที่นิรินส่งข้อความมาบอก เมื่อเห็นภาพที่ชายแปลกหน้ากำลังกอดกุมหญิงสาวอยู่จึงเลือดขึ้นหน้า เดินดุ่มๆเข้าไปรั้งชายหนุ่มมาต่อยระบายอารมณ์
“คุณเบนหยุดนะคะ”
ต้นรักเห็นเบนจามินเงื้อหมัดจะชกตะวันอีกเธอจึงร้องห้ามเอาไว้ด้วยน้ำตา
“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ห้ามใครแตะต้อง”
เบนจามินยอมปล่อยตะวันพร้อมหันไปมองต้นรักด้วยสายตาขุ่นเคืองที่มาพลอดรักกับชายอื่นลับหลังเขา
“อีกหน่อยถ้าคุณแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ”
คำว่าผู้หญิงของเขาเธอไม่อยากได้ยินที่สุดเลยอดพูดประชดเรื่องที่เธอพึ่งรู้มาไม่ได้ จากนั้นจึงรีบวิ่งหนีไป
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง มาคุยกันให้รู้เรื่องอย่าหนีนะ”
เบนจามินเห็นตะวันจะตามหญิงสาวไปเขาจึงรั้งเอาไว้ก่อนพร้อมส่งสายตาให้โจชัวตามหญิงสาวไป อีกทั้งยังตะโกนไล่หลังเสียงแข็งใส่หญิงสาวอย่างไม่อายสายตาคนในห้าง
“ผู้หญิงเค้าไม่สนก็อย่ามายุ่งกับเธอจะดีกว่า”
ตะวันอดพูดเย้ยหยันเบนจามินไม่ได้ที่เห็นต้นรักวิ่งหนีไปแบบนั้น
“แกไม่รู้อะไรอย่ามาเสือก นั่นเมียฉัน”
เบนจามินดูก็รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าคิดจะทำอะไรกับต้นรัก
“ไปบอกว่าที่เมียแกเถอะว่าอย่ามารังควานคนอื่น แล้วแกก็มีจะแต่งงานอยู่แล้วจะมายุ่งกับเธออีกทำไม”
ตะวันไม่เข้าใจว่าเบนจามินจะแต่งงานอยู่แล้วยังมิวายปล่อยวางเรื่องผู้หญิงเขาจึงต้องสั่งสอนเสียหน่อย
“ใครทำอะไรต้นรัก”
เบนจามินสงสัยคำว่ารังควาน เขาจึงนึกถึงต้นรักเป็นอันดับแรก
“ก็ไปถามว่าที่เมียแกสิว่าทำอะไรต้นรักถึงได้ร้องให้ฟูมฟายแบบนี้ ปล่อยฉันได้แล้ว”
ตะวันไม่ตอบให้เบนจามินหายสงสัยพร้อมสะบัดมือชายหนุ่มที่รั้งเขาเอาไว้ออกและเดินออกไปจากตรงนี้ทันที เพราะไม่อยากให้คนอื่นจับจ้องมาทางเขามากนัก
“ว้าย...”
ต้นรักชะงักการวิ่งเพราะโจชัวมาขวางหน้าเธอเอาไว้
“คุณต้นรักไปกับผมครับ”
โจชัวยืนสะกัดหญิงสาวพร้อมบอกให้เธอขึ้นรถ
“ไม่”
ต้นรักส่ายหัวพัลวันเพราะเธอไม่อยากกลับไปอยู่กับเบนจามินอีก
“คุณก็รู้ว่าคุณขัดคำสั่งคุณเบนไม่ได้”
โจชัวไม่อยากให้เรื่องมันเลวร้ายไปกว่านี้เพราะถ้าหากต้นรักไม่ยอมไปกับเขาดีๆ อาจจะทำให้เจ้านายของเขาโมโหหนักกว่านี้ได้
เพนท์เฮ้าส์หรู
“ต้นรัก มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
เมื่อมาถึงเพนท์เฮ้าส์ต้นรักก็รีบวิ่งหนีเขาเข้าห้องทันที ทำเอาเบนจามินหัวเสียเข้าไปใหญ่ ตอนนั่งรถมาด้วยกันหญิงสาวก็เอาแต่สะอึกสะอื้นไม่ยอมพูดยอมจากับเขาสักคำ มาถึงที่นี่ก็ยังไม่คุยอีก
“ให้เธออยู่คนเดียวไปก่อนจะดีกว่าครับคุณเบน”
โจชัวเห็นว่าเจ้านายของเขากำลังหัวเสียจึงให้ทั้งสองอยู่ห่างกันก่อนจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นอะไรๆคงจะแย่ไปกว่านี้
“ฉันควรจะทำยังไงวะ”
เบนจามินรู้สึกว่าเรื่องจุกจิกพวกนี้มันช่างกวนใจของเขาเสียจริงจนต้องหันหน้าไปปรึกษาคนสนิทอย่างโจชัว เผื่อความคิดของลูกน้องของเขาจะทำให้เขาหาทางออกได้บ้าง
“คุณต้นรักคงจะรู้เรื่องข่าวนั่นถึงเป็นแบบนี้ บวกกับฝีมือคุณนิรินด้วยนั่นแหละครับ คุณเบนก็แค่คุยกับเธอให้เข้าใจและให้ชัดเจนว่าคุณเบนคิดกับเธอแบบไหน”
โจชัวรู้ว่าเจ้านายของเขาและหญิงสาวรู้สึกอย่างไรต่อกันด้วยความที่สังเกตมานานเขารู้ว่าเจ้านายของเขาไม่ได้คิดจะเล่นๆกับต้นรัก เพียงแค่ไม่เคยพูดอะไรให้มันชัดเจนเท่านั้นเอง
“อืม...ฉันจะลองดู”
เบนจามินคิดว่าเขาจะต้องอธิบายเรื่องของเขากับนิรินให้ต้นรักได้เข้าใจว่าเขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับนิริน แถมยังไม่เคยคิดจะแตะต้องหญิงสาวด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องที่เขาคิดกับเธอแบบไหนเขาคิดว่าการกระทำของเขามันก็บ่งบอกแล้ว แต่ถ้าหากเขาพูดความรู้สึกของเขาออกมามันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเขาก็พร้อมจะพูด
“ผมว่าเรื่องคุณต้นรักรอให้เธออารมณ์ดีก่อนแล้วคุณเบนค่อยเข้าไปคุยกับเธอ แต่เรื่องที่จะต้องจัดการตอนนี้เลยก็คือคุณนิรินครับ”
โจชัวเห็นว่าตอนนี้เจ้านายของเขาควรที่จะโฟกัสกับปัญหาที่ควรแก้อย่างเร่งด่วนก่อนควรจะตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมไม่เช่นนั้นมันอาจจะลามมาเผาเจ้านายของเขาได้
“ฉันล่ะเบื่อชื่อยัยนี่เต็มทน คุณพ่อก็ไม่รู้ว่าจะอยากได้เธอเป็นสะใภ้อะไรนักหนา”
ชื่อของหญิงสาวเบนจามินไม่อยากจะได้ยินเลยสักนิด ยิ่งนึกถึงเวลาที่เธอเสแสร้งเขายิ่งหงุดหงิดหัวใจ
“ผมว่าเรื่องนี้คุณท่านช่วยได้”
“จริงสิ...คุณย่า”
เบนจามินลืมคิดไปเสียสนิท เมื่อได้ยินคำที่โจชัวพูดเขาก็คิดอะไรออกว่าใครที่จะเป็นคนต่อลองกับพ่อของเขาได้เห็นจะมีแต่คุณย่าของเขาคนเดียวเท่านั้น
เย็นของวัน
แกร็กกก
“......”
ต้นรักร้องให้จนหลับไปพักใหญ่เธอรู้สึกว่าด้านนอกห้องค่อนข้างเงียบจึงถือโอกาสเดินออกมาหมายจะกลับบ้านไปพักใจกับคนเป็นพี่สาว
“จะไปไหน”
เบนจามินไม่ได้ไปไหนไกล เขาแค่นอนอยู่ที่โซฟาหน้าห้องของเขารอให้หญิงสาวออกมาก็เท่านั้น
“เฮอะ!!!”
ต้นรักตกใจชะงักตัวโยน เมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็ลุกขึ้นมายืนต่อหน้าเธออย่างไม่ทันตั้งตัว
“จะหนีฉันไปไหน เธอก็รู้นี่ว่าถ้าฉันคงจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ”
“......”
เบนจามินรวบตัวต้นรักมากอดแล้วถอยหลังไปนั่งที่โซฟา เขาไม่ยอมปล่อยให้หญิงสาวหนีเขาไปง่ายๆอยู่แล้ว
“ฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับนิริน”
ชายหนุ่มยังเห็นสีหน้าของหญิงสาวที่ยังเป็นกังวลอยู่เขารู้ว่าต้องพูดอย่างไรให้เธอผ่อนคลายได้ หลังจากได้รับคำแนะนำมาจากลูกน้องคนสนิท
“แต่...”
ต้นรักเห็นว่าคำพูดของชายหนุ่มมันช่างย้อนแย้งกับข่าวที่เธอได้ยินมาจึงเริ่มอ่อนลง
“มันก็แค่สัญญาระหว่างเพื่อนของพ่อฉันกับพ่อของนิริน ส่วนข่าวนั่นฉันไม่รู้เรื่องเลยสักนิด แล้วฉันก็ไม่สนใจด้วย ขอให้เธอรู้เอาไว้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงชั่วคราวของฉัน”
“คุณเบนหมายความว่ายังไงคะ”
“คนที่ฉันอยากอยู่ด้วยคือเธอ ฉันจะพาเธอไปพบครอบครัวฉัน”
“คุณเบน”
ต้นรักน้ำตาไหลออกมาอีกรอบ ครั้งนี้เธอไม่ได้เสียใจแต่เธอปลื้มใจต่างหากที่ได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของคนที่เธอรัก
“ฉันรู้ที่มีอาการแบบนี้เพราะเรื่องข่าว...แบบนี้แสดงว่าเธอเองก็ใจตรงกับฉันจริงไหม”
“....”
ต้นรักยังก้มหน้างุดปาดน้ำตาลวกๆ ทั้งยังไม่ตอบคำถามของคนที่ถามได้แต่เพียงอมยิ้มเท่านั้น
“ไม่ต้องตอบฉันก็รู้”
เบนจามินกระชับกอดหญิงสา วเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าต้นรักนั้นน่าจะเข้าใจอะไรดีแล้ว
บ้านนราทร20.00 น.“แกไปสร้างเรื่องอะไรอีกล่ะ แค่ฉันต้องเร่งบรูคให้ลูกชายเค้ามาแต่งงานกับแกก็เกรงใจเค้าจะแย่อยู่แล้ว เพราะฉันรู้ว่าเบนจามินไม่สนใจแกเลยสักนิด ทำตัวให้มันสมกับเป็นลูกฉันหน่อย”นราทรนั่งอยู่บนรถเข็นเพราะเขาเดินไม่ได้มาสักพักเมื่อเห็นลูกสาวคนเดียวของเขาเดินออกมาจากห้องได้ก็ถือโอกาสต่อว่าเรื่องข่าวที่เขาพึ่งรู้มาเสียหน่อย เพราะเขารู้สึกว่าลูกสาวของเขานับวันๆยิ่งแต่จะควบคุมไม่อยู่“นิจะทำอะไรมันก็เรื่องของนิ นิว่าคุณพ่อเอาเวลาไปรักษาตัวแล้วก็รอฟังข่าวดีจากนิดีกว่านะคะ”นิรินไม่ได้สนใจคำของพ่อเธอเลยสักนิด ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะออกไปเที่ยวหาความสุขนอกบ้านแล้ว เมื่อพูดจาหักหารน้ำใจคนเป็นพ่อเสร็จก็ออกไปจากบ้านอย่างหน้าตาเฉย“ฉันเตือนแกแล้วนะ”นราทรตะโกนให้หลังคนเป็นลูกสาวเขารู้ว่าคนอย่างเบนจามินไม่ยอมให้ลูกสาวของเขาข่มอยู่ฝ่ายเดียวแน่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาไม่น่ารับปากกับเพื่อนของเขาแบบนั้นเลย“ปล่อยคุณหนูไปก่อนเถอะค่ะคุณทร”ป้าจิตแม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยของทุกอย่างบ้านนี้รู้ดีว่าคนอย่างนิรินเป็นอย่างไร ด้วยความที่ไม่มีแม่ตั้งแต่เล็กๆแถมพ่อก็ยังเอาแต่ทำงานเลี้ยงนิรินมาด้วย
“ก็ฉันพูดเรื่องจริง ฉันจะแต่งงานกับเธอจริงๆนะ เธอไม่ดีใจหรือไง แล้วเรื่องของเราที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันเป็นอดีตไปอย่ารื้อมาเล่าให้แม่เธอฟังแล้วไม่สบายใจเลย มันดีต่อแม่เธอแล้วก็พี่สาวเธอด้วย”เบนจามินไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมีทีท่าที่ดีใจสักนิดเมื่อเขาบอกกับแม่ของเธอว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ กลับทำสีหน้าตกใจและดูท่าจะงอนเขาอีกด้วยซ้ำ“เรื่องนั้นไม่พูดถึงมันฉันก็ว่าดีค่ะ...แต่เรื่องแต่งงานนี่สิคะทำไมไม่ถามฉันก่อนแล้วทางบ้านคุณจะว่ายังไง”ต้นรักคอนข้างเห็นด้วยกับเหตุผลขอชายหนุ่มที่ไม่เล่าเรื่องอดีตให้แม่ของเธอฟังแต่ยังไงเรื่องแต่งงานเธอคิดว่าชายหนุ่มควรจะเกริ่นบอกเธอก่อนก็ยังดี ตอนนี้แม่เธอก็รู้เรื่องไปแล้วด้วย หากวันนึงมันเป็นไปไม่ได้แล้วแม่เธอจะรู้สึกยังไง“ยังไงฉันเชื่อว่าครอบครัวฉันต้องชอบเธอแน่นอนเธอไม่ต้องกังวล”เบนจามินคิดว่าถ้าหากคนในครอบครัวของเขาได้รู้จักต้นรักจริงๆจะต้องรักเธอเหมือนที่เขารักเป็นแน่เขาเชื่อแบบนั้น“แล้วคุณเบนแน่ใจเหรอคะว่าอยากมีครอบครัว...ถ้าแต่งงานแล้วคุณเกิดเบื่อฉันขึ้นมาถึงวันนั้นฉันคงจะเสียใจมาก...”ต้นรักอยากถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขาอยากจะมีครอบครัวจริงหรือเปล
“หมอคะ คุณเบนเป็นยังไงบ้าง”ต้นรักเห็นหมอหนุ่มก็รีบถามอาการของเบนจามินทันทีเพราะเธอรอฟังมาทั้งคืนแล้ว“ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วครับ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้ฟื้นเท่านั้นแหละครับ”คาวีถือว่าเบนจามินใจสู้มากทำให้การรักษาผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็แค่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดก็เท่านั้น“รู้แบบนี้ก็สบายใจได้แล้วนะรัก”ต้นหลิวหันไปบอกกับคนเป็นน้องสาวเธอเองก็โล่งอกเหมือนกันที่ได้รู้แบบนี้น้องเธอจะได้เลิกร้องให้เสียที“ผมขอตัวก่อนนะครับ”คาวีรู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้นานคงไม่ดีเป็นแน่ เพราะรู้ว่าต้นหลิวคงไม่อยากจะเจอหน้าเขาสักเท่าไหร่ หลังจากวันนั้นที่เธอรู้ความจริงว่าเขาเป็นใครเธอก็เอาแต่หลบหน้าตลอด แม้แต่ตอนที่เขาเข้าไปตรวจอนงค์แล้วเจอต้นหลิว หญิงสาวก็จะขอตัวออกไปข้างนอกตลอดเลยไม่เคยได้พูดคุยกันเหมือนอย่างเคยเขาเองไม่ได้คิดจะไปยุ่งอะไรกับเธอหากต้นหลิวสบายใจที่จะเป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากกวนใจเธอ แต่ยังไงเรื่องที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเธอนั้นเขาก็ยังช่วยเหลือเธออยู่ตลอดเวลา“แกเห็นไหมว่าที่ลูกสะใภ้แกแสบแค่ไหน”เอมม่ากลับมาเพราะหลานชายคนเดียวของเธอบอกว่ามีข่าวดีจะบอก แต่เมื่อมาถึงกลับได้ฟังข
บริษัท“เดินเชิดหน้าสั่งงานคนโน้นคนนี้นึกว่ามีความสามารถ สุดท้ายก็เด็กเส้น”บอลลูนสาวสวยประจำออฟฟิศที่ดีแต่แต่งหน้าหาลูกค้าไปวันๆ รู้สึกเขม่นต้นหลิวตั้งแต่เข้ามาทำงานแล้ว ที่ดูมีผลงานดีจนเกินหน้าเกินตาเธอแถมเรื่องที่เธอพึ่งจะไปรู้มาก็ทำให้คุยกันกับพวกคนในออฟฟิศสนุกปากอีกด้วย“คือด่าฉันว่างั้น”“อืม...”“ฉันสัมภาษณ์งานเข้ามา ไม่ใช่เอะอะก็จะได้มาทำงานเลยรู้เอาไว้ด้วย”ต้นหลิวชักเหลืออดกับคนพวกนี้เสียแล้ว เธอรู้ว่าพวกของบอลลูนไม่ชอบหน้าเธอ แต่เธอเองก็พยายามใจเย็นมาหลายครั้งแต่ครั้งนี้มันสุดแล้วจริงๆ“ถ้าหมอคาวีไม่รู้จักกับคุณเอมอร เธอก็ไม่ได้เสนอหน้าอยู่ที่นี่หรอกนะ”บอลลูนยังกระแนะกระแหนต้นหลิวอย่างลอยหน้าลอยตาด้วยความสะใจ“หมอคาวีเกี่ยวอะไรด้วย”คำพูดของบอลลูนทำให้ต้นหลิวสงสัยหนักว่าเขาเกี่ยวอะไรด้วย“ทั้งงานที่เธอได้ก็เพราะคุณหมอ เงินเดือนที่สูงลิ่วของเธออีกไปทำอีท่าไหนมาได้ล่ะ”บอลลูนบอกเรื่องทั้งหมดที่เธอได้รู้มาให้หญิงสาวได้ยินเสียงดังฟังชัด และกะว่าจะให้คนที่อยู่ในออฟฟิศนี้ได้ยินไปด้วยจะได้รู้ว่าหญิงสาวเข้ามาทำงานที่นี่โดยใช้เส้น“......”ต้นหลิวรู้สึกเสียหน้าอย่างมากเมื่อรู้ว่าคา
โรงพยาบาล“คุณต้นรักครับ”“อ้าวคุณโจชัว วันนี้ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”ต้นรักค่อนข้างแปลกใจที่โจชัวมาอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่ที่บริษัท“คุณบรูคให้ผมมาดูแลคุณเพราะตอนนี้ไม่ทราบว่าคุณนิรินจะทำอะไรอีกครับ”โจชัวได้รับคำสั่งจากบรูคให้มาคอยดูแลต้นรักอยู่ที่โรงพยาบาลระหว่างที่หญิงสาวเฝ้าเบนจามินกับแม่ของเธออยู่ เพราะรู้ว่านิรินไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่จากคำบอกเล่าของนราทร“อ่อ ค่ะ แต่ต้นหลิวล่ะคะ”ต้นรักเข้าใจที่โจชัวพูดแต่เธอก็ฉุกคิดได้ว่านิรินยังไม่รู้ว่าเธอมีคู่แฝด ถ้าหากนิรินจ้องจะทำอะไรเธอต้นหลิวก็ต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย“จริงสิ ฮาเปอร์นายไปคอยดูคุณต้นหลิวด่วน”“โอเค ฉันจะรีบไป”โจชัวลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทจึงรีบให้ฮาเปอร์ไปดูแลต้นหลิวอีกคนอย่างเร่งด่วนทางด้านต้นหลิว“แกฉันของเข้าไปห้องน้ำก่อนนะสงสัยส้มตำทำพิษอะ”“อืม รีบไปรีบมา”พริกแกงรู้สึกปวดท้องกะทันหันเลยจะไปเข้าห้องน้ำที่ฝั่งตรงข้ามร้านค้าสักเดี๋ยว เป็นเพราะเธอทานเผ็ดเกินไปจึงมีอาการเป็นเช่นนี้10 นาทีต่อมา“อยู่ไหนกันนะ”ฮาเปอร์ตามสัญญาณมือถือของต้นหลิวมาจอดรถที่ข้างถนนแล้วเดินตามสัญญาณมาเรื่อยๆกับลูกน้องของเขาอีกสองสามคนจนมาถึง
โรงพยาบาล“หลิวเป็นยังไงบ้างคะ”ต้นรักรู้ข่าวว่าพี่สาวเธอโดนยิงก็แทบช็อค ไม่เข้าใจว่าทำไมคนรอบข้างของเธอต้องพากันนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด“หมอกำลังผ่าตัดเอากระสุนออกอยู่ครับ”ฮาเปอร์รีบบอกหญิงสาวที่รีบเดินมาถามข่าวกับเขาอย่างรวดเร็วแอบหวั่นใจอยู่ว่าเรื่องแบบนี้คงกระทบหกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอยู่ไม่น้อยเมื่อต้องรับรู้ว่าคนรอบข้างล้วนมีแต่เรื่องเจ็บตัวกันไปหมด“โถ่...”“รัก!!”ต้นรักถึงกับยืนไม่อยู่ แล้วสติเธอก็ดับวูบไปดีที่พริกแกงนั้นรับเอาไว้ทัน“หนูต้นรักเป็นยังไงบ้าง”เอมม่ารู้สึกปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหลือเกินยังไงเธอก็เชื่อไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นว่าเรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือของนิรินแน่นอน“คือ คุณต้นรักพึ่งจะตั้งครรภ์อ่อนๆร่างกายเธออ่อนเพลียมากช่วงนี้ญาติก็อย่าให้คนไข้มีอะไรมากระทบจิตใจมากนักนะคะ”หมอสาวตรวจดูอาการของต้นรักแล้วก็พอจะรู้สาเหตุของอาการที่เธอเป็นลมบ่อยๆ ทั้งยังต้องให้เธอนั้นระวังอย่าให้อะไรมากระทบกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอีกด้วย“อะ..เอ่อ..ค่ะหมอ”พริกแกงถึงกับสะอึกกับคำกล่าวของหมอสาวคนในห้องทุกคนต่างก็อึ้งไปตามๆกัน ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาในตอนนี้“นี่เจ้าตัวก็น่าจะไ
“อ๋อ น่ารักเหมือนกันนะถ้าย่าได้เห็นตาเบนใส่เสือแบบนี้คงแปลกตาน่าดู”เอมม่าเห็นเสื้อไหมพรมในมือของต้นรักก็อดชมไม่ได้ หญิงสาวมีฝีมือจริงๆแถมยังนึกภาพไม่ออกอีกด้วยหากหลานชายเธอใส่เสื้อแบบนี้จะเป็นแบบไหน“ค่ะ คุณเบนเคยใส่ลายหมีพูห์ด้วยนะคะ”ต้นรักอยากจะให้เอมม่าเห็นแบบที่เธอเคยเห็นเหลือเกินตอนที่เบนจามินนั้นใส่เสื้อไหมพรมลายหมีพูห์ที่เธอทำให้ตัวแรก“ตาเบนเนี่ยเหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เอมม่าอดหัวเราะไม่ได้เมื่อรู้ว่าหลานชายเธอเคยใส่เสื้อแบบนี้แล้ว“ค่ะคุณย่า”ต้นรักอดขำตามเอมม่าไม่ได้ เพราะตอนนั้นที่เบนจามินใส่ก็ดูไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน แต่เขาก็ยอมใส่เพราะว่าเธอเป็นคนทำให้สองวันต่อมา16.00 น.“โอเคแล้วใช่ไหมหลิว หรือจะอยู่ที่อีกคืน”ต้นรักสอบถามอาการของพี่สาวเธอว่าดีขึ้นแล้วหรือไม่ ใจจริงเธออยากจะให้พี่สาวนอนดูอาการที่นี่ก่อนสักคืนสองคืนด้วยซ้ำ ติดตรงที่ต้นหลิวคะยั้นคะยอจะกลับบ้านนี่แหละ“โอ้ย เค้าไม่อยู่แล้วล่ะรัก เบื่อการนอนที่นี่จะตายอยู่แล้ว จะได้กลับไปอยู่กับแม่ด้วย”ต้นหลิวนึกถึงเรื่องที่จะต้องนอนโรงพยาบาลอีกคืนก็ถึงกับมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะเธออยากกลับไปนอนที่บ้านเต็มทนแล้ว อีกอย่างก็อย
อาทิตย์ต่อมาเพนท์เฮ้าส์หรู“อาหารเช้าเรียบร้อยแล้วค่ะคุณเบน”เบนจามินกลับมาพักที่เพนท์เฮ้าส์ได้วันสองวันแล้ว แต่ก็ยังคงมีทีมแพทย์แวะเวียนมาดูอาการของเขาอยู่ไม่ห่าง ต้นรักยังคงตามติดเบนจามินคอยดูแลเขาอยู่ตลอด หวังทุกวินาทีว่าเขาจะจำเธอได้ เรื่องลูกในท้องเธอยังไม่คิดที่จะบอกเขาตอนนี้ เพราะเธออยากให้เขาจำความรู้สึกที่เคยรู้สึกกับเธอได้เสียก่อนจึงค่อยบอกเรื่องนี้กับเขา“นี่ฉันกำลังจะแต่งงานกับเธอจริงๆเหรอ”เบนจามินจำต้องให้ต้นรักมาอยู่กับเขาตามคำขอของคุณย่าของเขา ชายหนุ่มนึกสงสัยตัวเองอยู่ว่าตอนก่อนหน้านั้นเขาคิดอะไรอยู่ถึงอยากจะแต่งงาน แถมหญิงสาวยังดูจืดชืดไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยควงอีกด้วย“ค่ะ...”“อืม...”ต้นรักรีบพยักหน้าตอบชายหนุ่มอย่างมีความหวัง ว่าที่เขาถามเธอเรื่องนี้มาเขาอาจจะจำอะไรได้ก็ได้ แต่เบนจามินไม่ได้พูดอะไรต่อแถมยังทำหน้าเซ็ง ทำให้เธอรู้ว่าที่เขาถามเธอเขาไม่ได้คิดอะไรได้ คงแค่ไม่แน่ใจเท่านั้นว่าเขากับเธอจะแต่งงานกันจริงๆ“คุณเบนทานเยอะๆเลยนะคะ เสร็จแล้วจะได้ทานยาค่ะ”ถึงชายหนุ่มจะกลับมาเอาแต่ใจหรือหงุดหงิดใส่เธอแบบเดิมเธอก็ยอม ขอแค่ได้ดูแลอยู่ข้างๆเขาแบบนี้ก็พอ“ฉันรู้