ตระกูลลอเปอร์
“คุณพ่อเรียกผมเข้ามามีอะไรหรือเปล่าครับ”
เบนจามินรีบเข้ามาที่บ้านใหญ่ของตระกูลอย่างเร่งด่วน เพราะทางนี้ติดต่อไปหาโจชัวว่ามีเรื่องด่วนจะคุยกับเขา
“เรื่องหนูนิริน”
“ถ้าจะเรียกผมมาคุยเรื่องนี้ผมขอไม่คุยนะครับ”
เบนจามินได้ยินชื่อนี้เขาถึงกับเซ็ง อยากจะหันหน้ากลับเสียตอนที่พึ่งมา
“แกจะยืดเยื้อเวลาไปจนถึงเมื่อไรฉันปล่อยให้แกใช้ชีวิตตามใจมามากแล้วนะ ทางเพื่อนฉันเค้าก็ถามมาแล้ว”
นิรินเป็นลูกสาวของนราทรเพื่อนสนิทของบรูค เขาเคยสัญญากันเมื่อหลายปีก่อนว่าถ้าหากมีลูกจะให้หมั้นกัน แล้วตอนนี้ลูกของพวกเขาทั้งสองก็โตจนมีครอบครัวได้แล้ว แต่ทางเบนจามินยังไม่ยอมแต่งงานเสียที ทางด้านนราทรก็เร่งรัดมาแล้วทำให้บรูคต้องมาเร่งรัดลูกชายของเขาอีกที
“ผมไม่เอาผู้หญิงแบบนั้นมาทำเมียหรอกครับ”
เบนจามินยืนยันว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมแต่งกับนิรินเด็ดขาด
“หนูนิรินเป็นยังไง เธอเหมาะสมกับแกแทบจะทุกอย่างเป็นผู้ดีมีสกุลขนาดนั้นแกยังต้องการอะไรอีก”
บรูคเห็นว่านิรินนั้นเหมาะสมกับลูกชายของเขาทุกอย่าง ดีกว่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปแล้วลูกชายเขาไปคว้าแม่พริตตี้ที่ไหนไม่รู้มาทำเมีย
“ยัยนั่นเสแสร้งเก่งจะตายไป”
เบนจามินแทบจะรู้ใส้รู้พุงของนิรินแทบทุกอย่างตั้งแต่ที่เรียนอยู่เมืองนอกด้วยกันแล้ว เขาไม่เคยแม้แต่อยากจะแตะตัวผู้หญิงคนนี้ด้วยซ้ำ
“แต่งๆไปอยู่ๆไปก็รักกันเอง”
บรูคคิดว่าสัญญายังไงก็ต้องเป็นสัญญา เพราะเขาไม่อยากผิดคำพูดกับเพื่อนคิดเอาเองว่าหากแต่งกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง
“คุณพ่อคิดแบบนี้ไงครับครอบครัวมันถึงได้เป็นแบบนี้”
“นี่แก”
เบนจามินหันขวับจ้องหน้าพ่อของเขาเขม็งพึ่งรู้ความคิดของพ่อเขาเป็นแบบนี้ก็วันนี้นี่เอง ถึงว่าตอนที่เขายังเด็กๆครอบครัวมันถึงไม่เป็นครอบครัว ทำให้เขาต้องอยู่กับย่าเพราะพ่อไม่เคยรักแม่ของเขาเลยสักนิด อยู่ด้วยกันเพราะผลประโยชน์เท่านั้น เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็หันหลังเดินออกจากบ้านไปทันที ทำเอาคนเป็นพ่อโมโหจนมือไม้สั่นที่มีลูกชายคนเดียวก็ไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย
คลับหรู
นิรินสาวสวยไฮโซนั่งดื่มอยู่ที่โซนวีไอพีของคลับหรู เธอนัดนักข่าวคนสนิทที่เธอเรียกใช้งานเป็นประจำมาคุยเรื่องที่เธออยากจะให้ทำข่าว
“เขียนแบบนี้เลยใช่ไหมครับ”
นักข่าวเห็นหัวข้อที่หญิงสาวจะให้เขาทำแล้วรู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ เพราะเขาเองก็เกรงกลัวชื่อเสียงเรียงนามความโหดของชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน
“แบบนี้แหละให้มันรู้กันไปว่าจะยอมไม่ยอม”
นิรินไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น เธอคิดว่าเธอนั้นอยู่เหนือกว่าใครๆ
หญิงสาวยังรู้อีกว่าตอนนี้ชายหนุ่มที่เป็นคู่หมั้นของเธอไม่ได้กินทิ้งกินขว้างผู้หญิงแบบเมื่อก่อนแล้ว แต่ดูท่าคนที่อยู่ด้วยในปัจจุบันชายหนุ่มจะจริงจัง เธอจึงให้พ่อของเธอเร่งรัดให้มีงานแต่งให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด ก่อนที่เธอจะเสียหน้าเสียคู่หมั้นไปให้กับใครเพราะถ้าหากเป็นแบบนั้นเธอไม่ยอมเป็นแน่ เธอถือคติว่าถ้าเธอไม่ได้ใครก็ไม่ไม่ต้องได้
2 วันต่อมา
“ฉันไปละนะ...เธอจะไปไหนก็ให้ฮาเปอร์พาไปก็แล้วกัน”
“ค่ะ”
ต้นรักสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดมาสองสามวันแล้วแต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรกวนใจเขาออกไป แค่พยายามทำตัวให้ไม่ขัดใจชายหนุ่มก็เท่านั้น หลังจากหญิงสาวผูกเนคไทให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเขาก็ออกไปทำงานทันที
“ข่าวใหม่สดๆร้อนๆค่าทายาทสองนักธุรกิจไฮโซกำลังจะลั่นระฆังวิวาห์กันเร็วๆนี้ค่า สองคนนี้ใครๆก็ว่าสมกันดั่งกิ่งทองใบหยกหลังจากที่หมั้นกันมานานแล้ว/ได้ข่าวว่าตอนที่เรียนอยู่เมืองนอกก็เรียนอยู่ด้วยกันแสดงว่าสองคนนี้ก็รักกันมานานมากถึงเวลาที่จะได้แต่งกันเสียที”
“หา!!..”
ต้นรักถึงกับนั่งนิ่งกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อได้เห็นภาพในทีวีพร้อมทั้งเสียงอ่านข่าวที่ดังฟังชัดจนทำให้เธอเจ็บหน่วงหัวใจ
พร้อมทั้งรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆมาคิดว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไร ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียใจหนักขึ้นไปอีก ตอนนี้หัวใจของเธอฝากไว้ที่ชายหนุ่มไปหมดแล้ว ให้เขาไปโดยที่ลืมคิดไปว่าเธอมันก็แค่ผู้หญิงในปกครองคนนึงของเขา
สวนสาธารณะ
“รัก”
ต้นหลิวรับสายจากน้องสาวของเธอหญิงสาวก็รีบมาหาทันที
“หลิว”
ต้นรักเห็นคนเป็นพี่สาวก็รีบโผเข้ากอดทันที
“เรื่องข่าวนั่นใช่ไหม”
“อึก...ฮือๆๆ”
ต้นหลิวพอจะรู้ว่าอาการของน้องสาวของเธอที่เป็นแบบนี้มันเป็นเพราะอะไร เธอเองก็หนักใจกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกันเพราะสถานะของน้องสาวเธอที่ต้องอยู่กับชายหนุ่มก็เพียงเพราะเป็นผู้หญิงคนนึงของเบนจามินก็เท่านั้น แต่เธอดูออกว่าน้องสาวเธอยกหัวใจให้เบนจามินไปหมดแล้ว
ต้นหลิวอยู่เป็นเพื่อนต้นรักพักใหญ่จนน้องสาวเธอสบายใจขึ้นจึงพากันไปหาอะไรทานโดยมีฮาเปอร์ตามไปด้วยติดๆตามคำสั่งของเบนจามิน ฮาเปอร์จะต้องดูแลหญิงสาวอย่าให้คลาดสายตาเหตุการณ์ทั้งหมดจึงอยู่ในสายตาของฮาเปอร์ตลอด
ห้างสรรพสินค้า
“ทานเยอะๆเลยนะรัก”
“อืม”
ต้นหลิวนั่งทานข้าวเป็นเพื่อนน้องสาวของเธอเห็นว่าน้องเธอนั้นทานอะไรไม่ค่อยลงเธอจึงคอยตักโน่นตักนี่ใส่จานให้น้องของเธออยู่เรื่อยๆ พร้อมทั้งส่งรอยยิ้มให้กำลังใจกันอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเธอพร้อมอยู่เคียงข้างน้องเธอเสมอ
เสียงทรศัพท์มือถือ...
“คะพี่พิ้ง...โอเคค่ะเดี๋ยวหลิวจะรีบไป”
ต้นหลิวต้องขมวดคิ้วเสียอารมณ์ทั้งที่เธออยากจะอยู่เป็นเพื่อนต้นรัก แต่กลับต้องมามีงานด่วนต้องรีบไปดูเสียอย่างรวดเร็ว
“รัก คืองานเค้าเข้ามาด่วน”
“หลิวไปเถอะ รีบไหมเดี๋ยวให้ฮาเปอร์ไปส่งก็ได้”
ต้นรักเข้าใจเธอไม่ได้ท้วงอะไรเมื่อพี่สาวเธอจะไปทำงานพร้อมทั้งยังจะให้ฮาเปอร์ไปส่งพี่สาวของเธอจะได้ไม่ต้องไปเรียกรถให้เสียเวลา
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเค้าไปเอง”
ต้นหลิวคิดว่าถึงไม่มีเธออยู่ก็ยังมีฮาเปอร์อยู่เป็นเพื่อนต้นรัก แม้จะทำได้แค่ยืนแข็งทื่อเป็นท่อนไม้เฝ้าน้องเธออยู่ก็เถอะ
“ให้ฮาเปอร์ไปส่งเถอะนะ”
“อืม...ก็ได้”
ต้นหลิวเองไม่อยากจะขัดใจอะไรน้องสาวเธอตอนนี้เหมือนกัน ยอมให้ฮาเปอร์ไปส่งเธอก็ได้ถ้ามันทำให้น้องเธอสบายใจ
10 นาทีต่อมา
“ไง แม่ผู้หญิงชั่วคราว”
ต้นรักนั่งทานอาหารไปเพลินๆเพื่อรอฮาเปอร์กลับมาจู่ๆก็มีผู้หญิงที่เธอเห็นในทีวีเมื่อเช้ามานั่งตรงข้ามเธอพร้อมพูดจาไม่ให้เกียรติเธออย่างไม่เกรงใจสายตาคนอื่น
“คุณ”
“อย่าคิดว่าเบนเค้าจะยกย่องแก รู้ว่าเค้าจะแต่งงานก็ควรจะออกห่างเค้าได้แล้ว ก่อนที่เค้าจะเฉดหัวแกทิ้งเอง”
นิรินไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่อยากเจอตอนที่ช้อปปิ้งอยู่ที่นี่คนอย่างเธอไม่ยอมให้คนที่ด้อยกว่าเธอได้ดีไปกว่าเธอเด็ดขาด เธอรู้ว่าผู้หญิงของบนจามินไม่ได้มีอะไรดีกว่าเธอไปเลยสักนิดทั้งฐานะและการศึกษา
“มีอะไรกันเหรอครับ”
ตะวันที่กำลังจะเดินมาทักทายหญิงสาวที่เขารู้จักและเคยตามจีบตอนสมัยเรียน เมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้จึงต้องรีบทำตัวเป็นสุภาพบุรุษช่วยเหลือหญิงสาวที่เขาตามจีบก่อน
“พี่ซัน”
ต้นรักเงยหน้ามามองชายหนุ่มด้วยน้ำตา ตอนนี้เธออายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
“ไปกับพี่”
ตะวันพาหญิงสาวเดินออกจากร้านพร้อมวางเงินค่าอาหารเอาไว้ ดูจากอาหารแล้วเขาว่าเงินที่เขาวางน่าจะสามเท่าของค่าอาหารด้วยซ้ำ จากนั้นจึงพาหญิงสาวไปหาที่เงียบๆสงบอารมณ์ก่อน
ตะวันชายหนุ่มรู้จักกับต้นรักและต้นหลิวมาตั้งแต่สมัยเรียนแถมยังตามจีบสองสาวพี่น้องนี้อีกด้วย ถือคติว่าได้คนไหนก็เอาคนนั้นหรือได้ทั้งสองเลยก็ดี แต่ทั้งต้นรักและต้นหลิวเคารพเป็นแค่รุ่นพี่ไม่ได้คิดอยากจะคบกับชายหนุ่ม ถึงชายหนุ่มเป็นคนหน้าตาดีเรียนเก่งบ้านมีฐานะ แต่ว่ากะล่อนจนเป็นที่เลื่องลือ สองสาวไม่คิดจะเล่นด้วยเพราะรู้ว่าที่ตะวันตามจีบพวกเธอไม่ลดละก็เพื่อที่จะอยากจะเอาชนะ
จนเรียนจบมาต้นรักก็ได้มาทำงานในบริษัทของตะวันเขาก็ยังหาทางจีบเธอให้ได้ไม่เลิก แต่ต้นรักก็ไม่เคยใจอ่อนจนมาไม่ได้เจอกันก็ช่วงที่แม่ของต้นรักป่วยแล้วหญิงสาวไม่ได้ไปทำงาน
บริษัท
เบนจามินเห็นข่าวก็ค่อนข้างหัวเสีย รู้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของใคร เขาไม่เข้าใจว่านิรินจะมาอยากได้อะไรเขานักหนาทั้งที่ผู้ชายในสต็อกของเธอก็ออกจะเยอะจะตายไป
เสียงโทรศัพท์มือถือ...
“โทรมาก็ดี ฝีมือเธอใช่ไหม รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอทำแบบนี้เพื่ออะไร”
เบนจามินเห็นเป็นเบอร์ของใครโทรเข้ามาก็รีบกดรับพร้อมพ่นคำต่อว่าอย่างเหลืออดกับหญิงสาวทันที
“อย่าพึ่งอารมณ์เสีย ดูคลิปที่ฉันส่งไปถ้าไม่เชื่อก็มาดูเองให้เห็นกับตาฉันอยู่ห้างใกล้ๆ”
นิรินเก็บภาพที่ชายหนุ่มประคองผู้หญิงของเบนจามินไว้ทุกฉากพร้อมส่งให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้ว แต่เห็นเขาไม่เปิดอ่านเธอจึงต้องโทรบอก
เบนจามินวางสายได้ก็รีบดูคลิปที่หญิงสาวส่งมาให้ ตอนนี้เขาบีบโทรสัพท์มือถือจนมันแทบแหลกคามือ จากนั้นจึงเดินหัวเสียจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว
20 นาทีต่อมา“ดีขึ้นหรือยัง”“ค่ะ”“เราไปรู้จักกับคู่หมั้นคุณนิรินอย่างที่เธอกล่าวหาจริงหรือเปล่า”ตะวันเห็นว่าต้นรักเริ่มเงียบลงแล้วแต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่เล็กน้อย ด้วยความอยากรู้ว่าหญิงสาวเป็นผู้หญิงของเบนจามินตามที่นิรินมาหาเรื่องเธอหรือเปล่าจึงถามขึ้น“ฮึก...ฮือๆๆๆ”ต้นรักได้ยินแบบนั้นก็เหมือนกับมีดกรีดไปที่หัวใจของเธอที่เดิมจึงร้องออกมาอีกครั้งสะอื้นจนตัวโยน“โอเคๆพี่จะไม่ถาม”ตะวันฉวยโอกาสนี้กอดปลอบหญิงสาวอย่างแนบชิดเขาจะอาศัยจังหวะในช่วงที่หัวใจเธออ่อนแอนี่แหละเข้าหาหญิงสาว“ทำอะไร”ปั้กกก“โอ้ย...”เบนจามินเดินตามหาหญิงสาวตามจุดที่นิรินส่งข้อความมาบอก เมื่อเห็นภาพที่ชายแปลกหน้ากำลังกอดกุมหญิงสาวอยู่จึงเลือดขึ้นหน้า เดินดุ่มๆเข้าไปรั้งชายหนุ่มมาต่อยระบายอารมณ์“คุณเบนหยุดนะคะ”ต้นรักเห็นเบนจามินเงื้อหมัดจะชกตะวันอีกเธอจึงร้องห้ามเอาไว้ด้วยน้ำตา“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ห้ามใครแตะต้อง”เบนจามินยอมปล่อยตะวันพร้อมหันไปมองต้นรักด้วยสายตาขุ่นเคืองที่มาพลอดรักกับชายอื่นลับหลังเขา“อีกหน่อยถ้าคุณแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ”คำว่าผู้หญิงของเขาเธอไม่อยากได้ยินที่สุดเลยอดพูดประชดเรื
บ้านนราทร20.00 น.“แกไปสร้างเรื่องอะไรอีกล่ะ แค่ฉันต้องเร่งบรูคให้ลูกชายเค้ามาแต่งงานกับแกก็เกรงใจเค้าจะแย่อยู่แล้ว เพราะฉันรู้ว่าเบนจามินไม่สนใจแกเลยสักนิด ทำตัวให้มันสมกับเป็นลูกฉันหน่อย”นราทรนั่งอยู่บนรถเข็นเพราะเขาเดินไม่ได้มาสักพักเมื่อเห็นลูกสาวคนเดียวของเขาเดินออกมาจากห้องได้ก็ถือโอกาสต่อว่าเรื่องข่าวที่เขาพึ่งรู้มาเสียหน่อย เพราะเขารู้สึกว่าลูกสาวของเขานับวันๆยิ่งแต่จะควบคุมไม่อยู่“นิจะทำอะไรมันก็เรื่องของนิ นิว่าคุณพ่อเอาเวลาไปรักษาตัวแล้วก็รอฟังข่าวดีจากนิดีกว่านะคะ”นิรินไม่ได้สนใจคำของพ่อเธอเลยสักนิด ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะออกไปเที่ยวหาความสุขนอกบ้านแล้ว เมื่อพูดจาหักหารน้ำใจคนเป็นพ่อเสร็จก็ออกไปจากบ้านอย่างหน้าตาเฉย“ฉันเตือนแกแล้วนะ”นราทรตะโกนให้หลังคนเป็นลูกสาวเขารู้ว่าคนอย่างเบนจามินไม่ยอมให้ลูกสาวของเขาข่มอยู่ฝ่ายเดียวแน่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาไม่น่ารับปากกับเพื่อนของเขาแบบนั้นเลย“ปล่อยคุณหนูไปก่อนเถอะค่ะคุณทร”ป้าจิตแม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยของทุกอย่างบ้านนี้รู้ดีว่าคนอย่างนิรินเป็นอย่างไร ด้วยความที่ไม่มีแม่ตั้งแต่เล็กๆแถมพ่อก็ยังเอาแต่ทำงานเลี้ยงนิรินมาด้วย
“ก็ฉันพูดเรื่องจริง ฉันจะแต่งงานกับเธอจริงๆนะ เธอไม่ดีใจหรือไง แล้วเรื่องของเราที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันเป็นอดีตไปอย่ารื้อมาเล่าให้แม่เธอฟังแล้วไม่สบายใจเลย มันดีต่อแม่เธอแล้วก็พี่สาวเธอด้วย”เบนจามินไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมีทีท่าที่ดีใจสักนิดเมื่อเขาบอกกับแม่ของเธอว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ กลับทำสีหน้าตกใจและดูท่าจะงอนเขาอีกด้วยซ้ำ“เรื่องนั้นไม่พูดถึงมันฉันก็ว่าดีค่ะ...แต่เรื่องแต่งงานนี่สิคะทำไมไม่ถามฉันก่อนแล้วทางบ้านคุณจะว่ายังไง”ต้นรักคอนข้างเห็นด้วยกับเหตุผลขอชายหนุ่มที่ไม่เล่าเรื่องอดีตให้แม่ของเธอฟังแต่ยังไงเรื่องแต่งงานเธอคิดว่าชายหนุ่มควรจะเกริ่นบอกเธอก่อนก็ยังดี ตอนนี้แม่เธอก็รู้เรื่องไปแล้วด้วย หากวันนึงมันเป็นไปไม่ได้แล้วแม่เธอจะรู้สึกยังไง“ยังไงฉันเชื่อว่าครอบครัวฉันต้องชอบเธอแน่นอนเธอไม่ต้องกังวล”เบนจามินคิดว่าถ้าหากคนในครอบครัวของเขาได้รู้จักต้นรักจริงๆจะต้องรักเธอเหมือนที่เขารักเป็นแน่เขาเชื่อแบบนั้น“แล้วคุณเบนแน่ใจเหรอคะว่าอยากมีครอบครัว...ถ้าแต่งงานแล้วคุณเกิดเบื่อฉันขึ้นมาถึงวันนั้นฉันคงจะเสียใจมาก...”ต้นรักอยากถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขาอยากจะมีครอบครัวจริงหรือเปล
“หมอคะ คุณเบนเป็นยังไงบ้าง”ต้นรักเห็นหมอหนุ่มก็รีบถามอาการของเบนจามินทันทีเพราะเธอรอฟังมาทั้งคืนแล้ว“ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วครับ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้ฟื้นเท่านั้นแหละครับ”คาวีถือว่าเบนจามินใจสู้มากทำให้การรักษาผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็แค่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดก็เท่านั้น“รู้แบบนี้ก็สบายใจได้แล้วนะรัก”ต้นหลิวหันไปบอกกับคนเป็นน้องสาวเธอเองก็โล่งอกเหมือนกันที่ได้รู้แบบนี้น้องเธอจะได้เลิกร้องให้เสียที“ผมขอตัวก่อนนะครับ”คาวีรู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้นานคงไม่ดีเป็นแน่ เพราะรู้ว่าต้นหลิวคงไม่อยากจะเจอหน้าเขาสักเท่าไหร่ หลังจากวันนั้นที่เธอรู้ความจริงว่าเขาเป็นใครเธอก็เอาแต่หลบหน้าตลอด แม้แต่ตอนที่เขาเข้าไปตรวจอนงค์แล้วเจอต้นหลิว หญิงสาวก็จะขอตัวออกไปข้างนอกตลอดเลยไม่เคยได้พูดคุยกันเหมือนอย่างเคยเขาเองไม่ได้คิดจะไปยุ่งอะไรกับเธอหากต้นหลิวสบายใจที่จะเป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากกวนใจเธอ แต่ยังไงเรื่องที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเธอนั้นเขาก็ยังช่วยเหลือเธออยู่ตลอดเวลา“แกเห็นไหมว่าที่ลูกสะใภ้แกแสบแค่ไหน”เอมม่ากลับมาเพราะหลานชายคนเดียวของเธอบอกว่ามีข่าวดีจะบอก แต่เมื่อมาถึงกลับได้ฟังข
บริษัท“เดินเชิดหน้าสั่งงานคนโน้นคนนี้นึกว่ามีความสามารถ สุดท้ายก็เด็กเส้น”บอลลูนสาวสวยประจำออฟฟิศที่ดีแต่แต่งหน้าหาลูกค้าไปวันๆ รู้สึกเขม่นต้นหลิวตั้งแต่เข้ามาทำงานแล้ว ที่ดูมีผลงานดีจนเกินหน้าเกินตาเธอแถมเรื่องที่เธอพึ่งจะไปรู้มาก็ทำให้คุยกันกับพวกคนในออฟฟิศสนุกปากอีกด้วย“คือด่าฉันว่างั้น”“อืม...”“ฉันสัมภาษณ์งานเข้ามา ไม่ใช่เอะอะก็จะได้มาทำงานเลยรู้เอาไว้ด้วย”ต้นหลิวชักเหลืออดกับคนพวกนี้เสียแล้ว เธอรู้ว่าพวกของบอลลูนไม่ชอบหน้าเธอ แต่เธอเองก็พยายามใจเย็นมาหลายครั้งแต่ครั้งนี้มันสุดแล้วจริงๆ“ถ้าหมอคาวีไม่รู้จักกับคุณเอมอร เธอก็ไม่ได้เสนอหน้าอยู่ที่นี่หรอกนะ”บอลลูนยังกระแนะกระแหนต้นหลิวอย่างลอยหน้าลอยตาด้วยความสะใจ“หมอคาวีเกี่ยวอะไรด้วย”คำพูดของบอลลูนทำให้ต้นหลิวสงสัยหนักว่าเขาเกี่ยวอะไรด้วย“ทั้งงานที่เธอได้ก็เพราะคุณหมอ เงินเดือนที่สูงลิ่วของเธออีกไปทำอีท่าไหนมาได้ล่ะ”บอลลูนบอกเรื่องทั้งหมดที่เธอได้รู้มาให้หญิงสาวได้ยินเสียงดังฟังชัด และกะว่าจะให้คนที่อยู่ในออฟฟิศนี้ได้ยินไปด้วยจะได้รู้ว่าหญิงสาวเข้ามาทำงานที่นี่โดยใช้เส้น“......”ต้นหลิวรู้สึกเสียหน้าอย่างมากเมื่อรู้ว่าคา
โรงพยาบาล“คุณต้นรักครับ”“อ้าวคุณโจชัว วันนี้ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”ต้นรักค่อนข้างแปลกใจที่โจชัวมาอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่ที่บริษัท“คุณบรูคให้ผมมาดูแลคุณเพราะตอนนี้ไม่ทราบว่าคุณนิรินจะทำอะไรอีกครับ”โจชัวได้รับคำสั่งจากบรูคให้มาคอยดูแลต้นรักอยู่ที่โรงพยาบาลระหว่างที่หญิงสาวเฝ้าเบนจามินกับแม่ของเธออยู่ เพราะรู้ว่านิรินไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่จากคำบอกเล่าของนราทร“อ่อ ค่ะ แต่ต้นหลิวล่ะคะ”ต้นรักเข้าใจที่โจชัวพูดแต่เธอก็ฉุกคิดได้ว่านิรินยังไม่รู้ว่าเธอมีคู่แฝด ถ้าหากนิรินจ้องจะทำอะไรเธอต้นหลิวก็ต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย“จริงสิ ฮาเปอร์นายไปคอยดูคุณต้นหลิวด่วน”“โอเค ฉันจะรีบไป”โจชัวลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทจึงรีบให้ฮาเปอร์ไปดูแลต้นหลิวอีกคนอย่างเร่งด่วนทางด้านต้นหลิว“แกฉันของเข้าไปห้องน้ำก่อนนะสงสัยส้มตำทำพิษอะ”“อืม รีบไปรีบมา”พริกแกงรู้สึกปวดท้องกะทันหันเลยจะไปเข้าห้องน้ำที่ฝั่งตรงข้ามร้านค้าสักเดี๋ยว เป็นเพราะเธอทานเผ็ดเกินไปจึงมีอาการเป็นเช่นนี้10 นาทีต่อมา“อยู่ไหนกันนะ”ฮาเปอร์ตามสัญญาณมือถือของต้นหลิวมาจอดรถที่ข้างถนนแล้วเดินตามสัญญาณมาเรื่อยๆกับลูกน้องของเขาอีกสองสามคนจนมาถึง
โรงพยาบาล“หลิวเป็นยังไงบ้างคะ”ต้นรักรู้ข่าวว่าพี่สาวเธอโดนยิงก็แทบช็อค ไม่เข้าใจว่าทำไมคนรอบข้างของเธอต้องพากันนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด“หมอกำลังผ่าตัดเอากระสุนออกอยู่ครับ”ฮาเปอร์รีบบอกหญิงสาวที่รีบเดินมาถามข่าวกับเขาอย่างรวดเร็วแอบหวั่นใจอยู่ว่าเรื่องแบบนี้คงกระทบหกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอยู่ไม่น้อยเมื่อต้องรับรู้ว่าคนรอบข้างล้วนมีแต่เรื่องเจ็บตัวกันไปหมด“โถ่...”“รัก!!”ต้นรักถึงกับยืนไม่อยู่ แล้วสติเธอก็ดับวูบไปดีที่พริกแกงนั้นรับเอาไว้ทัน“หนูต้นรักเป็นยังไงบ้าง”เอมม่ารู้สึกปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหลือเกินยังไงเธอก็เชื่อไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นว่าเรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือของนิรินแน่นอน“คือ คุณต้นรักพึ่งจะตั้งครรภ์อ่อนๆร่างกายเธออ่อนเพลียมากช่วงนี้ญาติก็อย่าให้คนไข้มีอะไรมากระทบจิตใจมากนักนะคะ”หมอสาวตรวจดูอาการของต้นรักแล้วก็พอจะรู้สาเหตุของอาการที่เธอเป็นลมบ่อยๆ ทั้งยังต้องให้เธอนั้นระวังอย่าให้อะไรมากระทบกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอีกด้วย“อะ..เอ่อ..ค่ะหมอ”พริกแกงถึงกับสะอึกกับคำกล่าวของหมอสาวคนในห้องทุกคนต่างก็อึ้งไปตามๆกัน ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาในตอนนี้“นี่เจ้าตัวก็น่าจะไ
“อ๋อ น่ารักเหมือนกันนะถ้าย่าได้เห็นตาเบนใส่เสือแบบนี้คงแปลกตาน่าดู”เอมม่าเห็นเสื้อไหมพรมในมือของต้นรักก็อดชมไม่ได้ หญิงสาวมีฝีมือจริงๆแถมยังนึกภาพไม่ออกอีกด้วยหากหลานชายเธอใส่เสื้อแบบนี้จะเป็นแบบไหน“ค่ะ คุณเบนเคยใส่ลายหมีพูห์ด้วยนะคะ”ต้นรักอยากจะให้เอมม่าเห็นแบบที่เธอเคยเห็นเหลือเกินตอนที่เบนจามินนั้นใส่เสื้อไหมพรมลายหมีพูห์ที่เธอทำให้ตัวแรก“ตาเบนเนี่ยเหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เอมม่าอดหัวเราะไม่ได้เมื่อรู้ว่าหลานชายเธอเคยใส่เสื้อแบบนี้แล้ว“ค่ะคุณย่า”ต้นรักอดขำตามเอมม่าไม่ได้ เพราะตอนนั้นที่เบนจามินใส่ก็ดูไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน แต่เขาก็ยอมใส่เพราะว่าเธอเป็นคนทำให้สองวันต่อมา16.00 น.“โอเคแล้วใช่ไหมหลิว หรือจะอยู่ที่อีกคืน”ต้นรักสอบถามอาการของพี่สาวเธอว่าดีขึ้นแล้วหรือไม่ ใจจริงเธออยากจะให้พี่สาวนอนดูอาการที่นี่ก่อนสักคืนสองคืนด้วยซ้ำ ติดตรงที่ต้นหลิวคะยั้นคะยอจะกลับบ้านนี่แหละ“โอ้ย เค้าไม่อยู่แล้วล่ะรัก เบื่อการนอนที่นี่จะตายอยู่แล้ว จะได้กลับไปอยู่กับแม่ด้วย”ต้นหลิวนึกถึงเรื่องที่จะต้องนอนโรงพยาบาลอีกคืนก็ถึงกับมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะเธออยากกลับไปนอนที่บ้านเต็มทนแล้ว อีกอย่างก็อย