“เข้าใจละ”
ต้นรักพยักหน้าพลางเข้าใจและหายห่วงที่แม่เธอจะได้มีเพื่อนคุยนอกจากพยาบาลที่คอยดูแลอยู่
“ผมอยากได้คำตอบ”
คาวีเห็นว่าจังหวะนี้แหละที่เขาจะได้ขอคำตอบที่เคยถามหญิงสาวเอาไว้เสียที เพราะเขารอมันไม่ไหวแล้ว
“คำตอบอะไร”
ต้นหลิวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคาวีหมายถึงเรื่องอะไร
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้”
คาวีรู้ว่าต้นหลิวรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เธอทำไขสือไปเท่านั้นเอง
“ก็คุณบอกว่าให้ฉันคิดก่อนนี่”
ต้นหลิวยังคิดที่จะบ่ายเบี่ยงในการตอบคำถาม
“มันนานแล้วนี่คุณ”
คาวีเห็นว่าที่เขาต้องถามเพราะว่าคำตอบที่เขารอคอยเขารอมันมานานแล้ว ถ้าเขาไม่ท้วงเธอมีหรือจะได้คำตอบ
“ถ้าคุณช่วยให้คุณเบนกลับมาเหมือนเดิมเมื่อไหร่ วันนั้นฉันจะ...ตกลง”
อันที่จริงต้นหลิวเองก็คิดเรื่องนี้มาแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยิ่งมองว่าเธอกับเขามันต่างกันก็ยิ่งทำให้เธอตอบตกลงกับเขาไม่ได้ แต่วันนี้เธอไม่สนแล้ว เธอคิดอย่างเดียวว่าถ้าตอนนี้หมอหนุ่มรักษาเบนจามินให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็วได้ เธอก็จะตกลงคำขอของเขา เพราะเธออยากเห็นน้องเธอมีความสุขกับชีวิตครอบครัวเสียที
“จริงนะคุณ”
คาวีดึงมือเรียวมากุมเอาไว้ด้วยความดีใจ
“อืม...ปล่อยก่อน”
ต้นหลิวมองซ้ายมองขวาอย่างระแวง เพราะรู้สึกว่ามีแต่คนจับจ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว ด้วยพฤติกรรมของชายหนุ่มที่ดูจะประเจิดประเจ้อเกินไป
วันต่อมา
เพนท์เฮ้าส์
“ต้นรัก...ต้นรัก...”
เบนจามินตื่นมาในตอนเช้า เขานั่งรอหญิงสาวอยู่ที่โซฟาพร้อมเช็กข่าวจากโน๊ตบุ๊คราคาแพงอยู่นานสองนานก็ไม่เห็นว่าต้นรักนั้นจะมาเรียกเขาทานอาหารเช้าเสียที จึงเดินไปตะโกนเรียกหญิงสาวในครัวเพื่อดูว่าทำไมวันนี้เธอทำอาหารช้ากว่าวันอื่น
“เอ่อ คุณต้นรักไม่อยู่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะครับคุณเบน”
โจชัวเข้ามาหาเจ้านายของเขาด้วยสีหน้าฉงน
“อ่อ ฉันลืมไป”
เบนจามินลืมไปเสียสนิทว่าหญิงสาวกลับบ้านไป เป็นความเคยชินไปเสียแล้วว่าตอนเช้าเขาจะต้องทานอาหารที่หญิงสาวทำสดใหม่ให้ทุกวัน แต่วันนี้ไม่มีเธออยู่เลยแปลกไป
ทางด้านต้นรัก
“เป็นยังไงบ้างลูกอาการแพ้ยังหนักอยู่เหมือนเดิมใช่ไหม”
อนงค์ค่อยๆเดินมาดูคนเป็นลูกสาวเพราะเห็นว่าต้นรักนั้นยังมีอาการอาเจียนอยู่เมื่อได้กลิ่นอาหารคาว
“ค่ะแม่”
“งั้นลองทานน้ำผลไม้รวมนี่ดูนะ”
อนงค์วานให้พยาบาลที่ดูแลเธอปั่นน้ำผลไม้รวมให้ต้นรักลองทาน เพราะเธอเองตอนแพ้ท้องก็ทานได้แต่น้ำผลไม้รวม
“ค่ะ”
“ตอนที่แม่แพ้ท้องเราก็อาการเป็นแบบนี้เหมือนกัน ดีที่พ่อของเราพยายามหานั่นหานี่มาให้แม่ทานอยู่หลายอย่าง จนมาจบอยู่ที่น้ำผลไม้รวมนี่แหละ”
“หืม อร่อยมากเลยค่ะ”
ต้นรักดื่มน้ำผลไม้ในแก้วก็รู้สึกชื่นใจขึ้นหน่อยที่มีอะไรลงท้องบ้าง แถมเธอยังไม่อาเจียนออกเหมือนตอนทานอาหารอย่างอื่นด้วย เธอได้เมนูที่เธอจะทานในทุกๆวันแล้ว ไม่อย่างนั้นลูกเธอในท้องคงไม่ได้รับสารอาหารอะไรในระหว่างที่เธอแพ้ท้องอยู่แน่
“แล้วทำไมกลับมากะทันหันแบบนี้ล่ะลูก หรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
อนงค์เห็นว่าต้นรักกลับมากะทันหันก็คิดว่าลูกเธอคงจะมีปัญหาจึงถามขึ้น เผื่อว่าถ้าหากลูกเธอเล่าให้เธอฟังจะได้เป็นการระบายออกมาบ้าง
“รักก็คิดถึงแม่ไงจ๊ะ”
ต้นรักไม่ได้คิดจะเอาปัญหากลับมาบ้านเลยสักนิด ที่เธอกลับมาเพราะว่าอยากจะกลับมาดูแลแม่เธอบ้างเท่านั้น
ส่วนเบนจามินเธอยอมรับว่าเมื่อวานเธอมีอาการเคืองเขาอยู่บ้าง แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรให้มันหดหู่หัวใจ เพราะรู้ว่าชายหนุ่มก็มีนิสัยแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแต่มาหยุดเมื่อพักหลังๆ และก็ไม่แปลกที่เขาจะมีนิสัยเดิมเพระจำในช่วงที่ทำตัวดีกับเธอไม่ได้นั่นเอง
สามวันต่อมา
20.00 น.
“คุณเบนจะไปไหนครับ”
โจชัวเห็นคนเป็นเจ้านายแต่งตัวเสียหล่อในเวลานี้จึงต้องเอ่ยปากถามว่าเขานั้นจะออกไปไหน
“เบื่อๆ จะออกไปเที่ยวสักหน่อย”
สองสามวันมานี้เบนจามินรู้สึกเบื่อเป็นที่สุด เพราะไม่มีต้นรักคอยอยู่ข้างๆ คอยวอแวเขาตลอดเหมือนตอนที่กลับมาคราแรกเลยเซ็งๆ กะจะออกไปหาความสุขข้างนอกเสียหน่อย และก็แอบรู้สึกน้อยใจลึกๆ ที่หญิงสาวไม่ติดต่อมาหาเขาบ้าง เล่นเงียบไปดื้อๆ ทำเหมือนคนไม่เคยอยู่ด้วยกัน
คลับหรู
“คุณเบนครับมาทางนี้หน่อยครับ”
โจชัวเห็นเบนจามินเริ่มที่จะดื่มเยอะขึ้นแถมยังมีสาวๆมานั่งรายล้อม เมื่อเห็นท่าไม่ดีเขาจึงต้องดึงเจ้านายของเขาออกมาก่อน เพราะกลัวว่าคืนนี้เจ้านายของเขาจะหิ้วสาวเข้าห้อง เขาในฐานะคนดูแลใกล้ชิดจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นไม่ได้
“อะไรของแกวะ”
เบนจามินหน้ามุ่ยที่ถูกลูกน้องคนสนิทหิ้วออกมาทั้งที่กำลังสนุกอยู่ท่ามกลางสาวๆ
“คุณต้นรักเธอกลับมาแล้วครับ เธอบอกว่าถ้าคุณไม่กลับเธอก็จะไม่ยอมนอนครับ คุณเบนกลับเถอะครับ คุณเบนก็รู้ว่าคุณต้นรักสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
โจชัวโชว์หน้าจอที่ฮาเปอร์เฟสไทม์มาหาเขาให้เบนจามินดูว่าต้นรักนั้นกำลังนั่งรอเจ้านายของเขากลับอย่างใจจดใจจ่อ
“เฮ้อ...เออๆกลับก็ได้”
เบนจามินไม่รู้ว่าทำไมหญิงสาวจึงกลับมาอย่างไม่บอกไม่กล่าว ด้วยความเป็นห่วงสุขภาพของต้นรักอยู่ลึกๆจึงยอมกลับแต่โดยดี
เพนท์เฮ้าส์หรู
“ฮาเปอร์ เมื่อไรคุณเบนจะกลับ ฉันจะเข้าไปนอนแล้วนะ”
ต้นรักกลับมาที่เพนท์เฮ้าส์เพราะฮาเปอร์เป็นคนไปรับเธอโดยบอกกับเธอว่าเบนจามินอยากให้เธอกลับ แถมยังให้เธอนั่งรอกว่าเขาจะกลับมาอีก ตอนนี้เธอเองก็เริ่มง่วงแล้วด้วย ชะเง้อแล้วชะเง้ออีก แต่ก็ไม่ยักจะเห็นเบนจามินกลับมาเสียที
“อีกเดี๋ยวก็กลับแล้วครับ”
ฮาปอร์ตอบหญิงสาวไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน เขาก็พึ่งได้รับข้อความจากโจชัวว่าเจ้านายของเขากำลังจะกลับมาแล้วฮาปอร์จึงโล่งใจได้หน่อย
22.00 น.
“คุณเบน นี่ดื่มมาเหรอคะ”
ต้นรักได้กลิ่นแอลกอฮอล์เธอถึงกับต้องเอามือบีบจมูกเอาไว้ และถอยหลังยืนให้ห่างจากชายหนุ่มให้มากที่สุด เพราะกลิ่นฉุนๆมันทำให้เธอคลื่นไส้ขึ้นมา
“นี่ จะกลับมาทำไมไม่บอกกันก่อน ฉันกลับมาแล้วเธอก็ไปนอนได้แล้ว”
มาถึงเบนจามินก็รีบไล่ต้นรักไปนอน หวังว่าเธอเห็นหน้าเขาแล้วจะได้ไปนอนหลับอย่างสบายใจเสียที
“คะ?”
ต้นรักมองหน้าชายหนุ่มด้วยสายตาฉงน งงในคำถามของเขาไม่พอ ยังงงที่เขาเดินหนีเธอเข้าห้องทั้งที่ให้เธออยู่รอตั้งนาน
“คุณเบนเป็นคนให้ฉันกลับมาไม่ใช่เหรอคะ?”
ต้นรักหันหน้าไปถามโจชัวแบบงงๆว่าเธอเข้าใจอะไรผิดหรือว่าเบนจามินเข้าใจผิดกันแน่
“อ..เอ่อ...คุณเบนคงจะเบลอๆครับ..คุณต้นรักไปพักผ่อนเถอะครับ”
โจชัวเองก็ไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้ยังไงดีว่ามันเป็นแผนของพวกเขา จึงอ้างว่าเจ้านายของเขาอาจจะเมาจนเบลอ หญิงสาวจะได้ไม่ถือสาหาความอะไร
“ค่ะ”
ต้นรักพยักหน้ารับแล้วจึงเดินเข้าห้องนอนของเธอ เพราะตอนนี้ง่วงจนอยากนอนเต็มแก่แล้ว
สองอาทิตย์ต่อมา20.00 น.คาวีพยายามหาทางช่วยให้เบนจามินกลับมาจำทุกอย่างได้ทุกวิถีทาง คราแรกเบนจามินก็ไม่ค่อยจะยอมให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แต่เมื่อได้รับคำสั่งจากคุณย่าของเขาเบนจามินก็ต้องทำตามเพราะไม่อยากจะขัดใจคนเป็นย่า ส่วนต้นรักนั้นก็แพ้ท้องหนักจนต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของเธอ ด้วยไม่อยากให้ชายหนุ่มสงสัย“เสื้อตัวนี้...”เบนจามินเข้าไปนั่งในห้องของต้นรัก เขาเห็นบางอย่างอยู่บนหัวเตียงของเธอจึงเข้าไปหยิบขึ้นมาดู มันเป็นเสื้อไหมพรมที่ยังถักไม่เสร็จที่เสร็จ แล้วก็เห็นจะมีเสื้อที่ตัวขนาดเท่าๆกันอีกหนึ่งตัวและตัวเล็กอีกหนึ่งตัวที่สีเหมือนกัน ทำให้ภาพบางภาพปรากฏขึ้นในหัวของเขาเป็นภาพที่เขากำลังลองใส่เสื้อไหมพรมหมีพูห์และมีต้นรักยืนยิ้มอยู่ข้างๆ และภาพต่างๆก็ค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวอย่างชัดเจน ต่างจากเมื่อตอนแรกที่คาวีพยายามรักษาเขามาก ตอนนั้นทุกอย่างมันยังคงเลือนลางไม่ประติดประต่อ แต่ตอนนี้มันค่อนข้างที่จะทำให้เขาคิดอะไรขึ้นมาได้ความรู้สึกเก่าๆที่มันกลับมาทำให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะทำอะไรเช้าวันต่อมา“คุณเบน”ต้นรักค่อนข้างแปลกใจเบนจามินก็มาโผล่ที่บ้านของเธอแต่เช้า“เห็นหน้าฉันทำไมต้องทำ
“จะเสียใจได้ยังไง ดีใจมากต่างหาก แบบนี้ต้องบอกข่าวดีกับทุกคน”ด้วยความตื่นเต้นชายหนุ่มจึงรนรานควานหามือถือจะบอกข่าวดีแบบนี้กับทุกคนได้รับรู้“เอ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะคุณเบน”ต้นรักหน้าเจื่อนก่อนจะบอกให้เบนจามินไม่ต้องบอกคนอื่น เพราะคนอื่นนั้นรู้หมดแล้ว“อย่าบอกนะว่าพวกเค้ารู้กันหมดแล้ว”“ค่ะ”“ยกเว้นฉันเนี่ยนะ...”เบนจามินเห็นสีหน้าต้นรักก็รู้ว่าเขาคงจะรู้ข่าวนี้เป็นคนสุดท้าย“โกรธฉันเหรอคะ? ฉันแค่อยากบอกกับคุณตอนที่คุณจำความรู้สึกระหว่างเราได้เท่านั้น ไม่อยากให้คุณคิดว่าฉันใช้ลูกมาเป็นบ่วงรั้งคุณ”ต้นรักพยายามอธิบายถึงเรื่องที่เธอไม่ได้บอกเรื่องลูกกับชายหนุ่ม เธอเองก็มีเหตุผลของเธอ และหวังว่าเขาจะเข้าใจ“เฮ้อ ใครจะโกรธเธอลง ฉันแค่นอยเฉยๆที่ได้รู้ทีหลังคนอื่นก็เท่านั้นเอง”เบนจามินแค่อยากได้รู้เรื่องลูกของเขาเป็นคนแรกเท่านั้น แต่เมื่อรู้ว่าหญิงสาวมีเหตุผลของเธอเขาเองก็ไม่ได้อยากคิดอะไรให้มันมากมายนัก แค่ได้รู้ว่ามีเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมาเป็นโซ่ทองคล้องใจเขาและเธอก็พอแล้วสองเดือนต่อมางานแต่งของต้นรักและต้นหลิวจัดขึ้นพร้อมกันอย่างยิ่งใหญ่ มีสื่อให้ความสนใจมากมายเพราะสองทายาทตระกูลดังต่
เพนท์เฮ้าส์หรู18.30 น.“คุณเบนจะไปไหนครับ”โจชัวเห็นเจ้านายเขาเตรียมตัวจะออกไปอย่างไม่บอกไม่กล่าวจึงต้องรีบเดินไปถาม มิเช่นนั้นหากเขาปล่อยให้เจ้านายของเขาไปไหนโดยที่เขาไม่รู้แล้วเกิดอันตรายอะไรกับเจ้านายคงไม่เป็นผลดีแน่“นายไม่ต้องตามวันนี้ฉันอยากผ่อนคลายคนเดียว”วันนี้เบนจามินอยากจะไปพักผ่อนตามประสาหนุ่มโสดสุดฮอตด้วยตัวคนเดียว เมื่อมีลูกน้องหรือคนสนิทแห่กันไปด้วยทีไรพวกสาวๆไม่อยากจะมาใกล้เขาทุกที เว้นเสียแต่ผู้หญิงที่อยากจะบริการเขาเพราะอยากได้ทิปหนักๆ แต่พวกนี้เขาเองก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไร“เอ่อ...ครับ”โจชัวเห็นดังนั้นจึงรีบถอยให้เจ้านายหนุ่มของเขาออกไปแต่โดยดี เพราะเห็นท่าเจ้านายตนมาแบบนี้แล้วเขาคงจะขัดอะไรไม่ได้ที่ผ่อนคลายของเจ้านายนั้นเขาพอจะรู้อยู่ว่าจะไปที่ไหนเบนจามินเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลลอเปอร์เป็นลูกครึ่งไทยอิตาลีถูกเลี้ยงโดยคุณย่าของเขามาตั้งแต่เด็กๆ เป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจเพราะถูกตามใจอยู่บ่อยๆ หากแต่ชายหนุ่มเป็นคนที่เก่งในสายงานแทบจะทุกอย่างแถมยังเข้ามาบริหารงานแทนพ่อของเขาแทบจะทุกอย่างได้ดีอีกด้วย ประวัติเสียแทบจะไม่มีนอกเสียจากเรื่องผู้หญิงที่ทำให้ต้องเขม่นกับคู่ค้า
คลับหรู“แกลืมมือถือใช่ไหม”พริกแกงเห็นต้นหลิวเดินมาที่จุดนัดพบก็รีบดึงมือเพื่อนเธอเข้ามาที่มุมมืดของร้านทันที พริกแกงเข้านอกออกในที่นี่บ่อยเธอจึงรู้แทบทุกซอกทุกมุม“แกรู้ได้ไง”ต้นหลิวแปลกใจเล็กน้อยที่เพื่อนเธอรู้ว่าเธอลืมมือถือ ตัวเธอเองยังรู้ตัวเมื่อถึงที่นี่แล้วเลย“ก็ฉันโทรหาแกแล้วยัยต้นรักรับน่ะสิ แถมบอกจะรีบเอามือถือมาให้แกอีก”“อ้าวอย่างนั้นก็ซวยน่ะสิ ยัยต้นรักก็ต้องสงสัยแน่เลย”ต้นหลิวเริ่มมีสีหน้าตระหนก หากต้นรักรู้ว่าเธอไม่ได้มาทำงานที่นี่อย่างที่บอก เรื่องนี้เธอจะต้องทะเลาะกับต้นรักใหญ่โตแน่“งั้นแกก็ต้องรีบเลยก่อนที่ยัยต้นรักจะมา ฉันมองไว้ให้แกแล้วว่าเหยื่ออยู่ตรงไหน น่าจะมีเงินเพราะดื่มแต่ของแพงๆ”พริกแกงเห็นทีจะต้องให้ต้นหลิวนั้นรีบลงมืออย่างรวดเร็วก่อนที่ต้นรักนั้นจะมาที่นี่ เธอลอบมองเหยื่อไว้หลายคนเห็นจะเป็นพ่อฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้นที่นั่งอยู่คนเดียวน่าจะเข้าถึงง่ายที่สุด“ฝรั่งคนนั้นอะนะ”ต้นหลิวมองไปตามที่เพื่อนของเธอชี้เธอเห็นว่าเขานั้นนั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่งตัวก็ธรรมดาคงจะเป็นการง่ายต่อการที่เธอจะปลดทรัพย์“ใช่แก ฉันเห็นนั่งเซ่ออยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว ดื่มหนักด้วยคง
ทางด้านต้นหลิว“นี่แกทำไมมันซวยงี้วะ”พริกแกงหน้าจ๋อยที่เมื่อเปิดกระเป๋าที่ต้นหลิวใช้วิชามือเบาได้มาดูแล้วมันไม่มีเงินสักนิด มีแต่บัตรเครดิต“แกเป็นคนเลือกเหยื่อไม่ใช่หรือไง ไหนล่ะเงินเยอะมีแต่บัตรแบบนี้ฉันจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่ารักษาแม่ฉันล่ะ”ต้นหลิวเองก็เซ็งกันไปตามๆกัน เมื่อนึกถึงค่ารักษาของแม่เธอก็ถึงกับคอตก“แกลองดูที่บัตรสิเผื่อมีรหัส”พริกแกงยังแอบหวังเล็กๆว่ายังไงวันนี้เพื่อนเธอก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้างและน่า“แกนี่ก็คิดได้เนอะ ไอ้ฝรั่งนั่นมันคงจะโง่เขียนรหัสไว้หรอกนะ”ต้นหลิวอยากจะเขกหัวเพื่อนเธอจริงๆ ที่พูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้“คุณต้นรัก”คาวีนั่งรออยู่ในรถครู่หนึ่งก็เห็นหญิงสาวเดินออกมาแต่ไม่ยักจะมาหาเขาที่รถ ทั้งที่รถของเขาก็จอดอยู่ตรงหน้าของเธอ จึงเปิดประตูรถแล้วลงไปเรียกหญิงสาว“คุณเรียกฉันว่าอะไรนะคะ”พริกแกงกับต้นหลิวถึงกับชะงักการเดินเมื่อได้ยินใครบางคนเรียกชื่อต้นรัก ต้นหลิวหันมาถามชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอด้วยความแปลกใจ เธอไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าเธอรู้จักต้นรักได้อย่างไรแล้วเขาเป็นใคร“คุณต้นรักไงครับ เอามือถือไปให้พี่สาวคุณเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”คาวีถึงกับทำ
โรงพยาบาลต้นหลิวมานั่งรอฟังข่าวกับคาวีที่โรงพยาบาล ส่วนพริกแกงนั้นต้นหลิวให้เพื่อนเธอกลับไปก่อนเพราะดึกมากแล้ว“เป็นยังไงบ้างคุณ”ต้นหลิวเห็นคาวีคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานเมื่อเห็นเขาวางสายเธอก็รีบเข้าไปถามเรื่องถามราวทันทีว่าตอนนี้น้องสาวของเธอเป็นยังไงบ้าง“ข่าวดีก็คือ เค้าจะไม่เอาเรื่องคุณ”“จริงเหรอ??”“แต่เค้าจะไม่ปล่อยน้องคุณ”“ทำแบบนี้ไม่ได้คุณติดต่อเค้าไปใหม่ได้ไหมว่าฉันยอมรับผิดทุกอย่าง แต่ให้เขาปล่อยน้องฉันเถอะนะ เค้าจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะแจ้งตำรวจที่เค้าจับน้องฉันไปเหมือนกัน”ต้นหลิวถึงกับเข่าทรุดผู้ชายคนนั้นจะทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย ไม่ได้ยังไงเธอก็ไม่ยอมให้เขากักตัวน้องสาวเธอไว้แบบนี้แน่“ตำรวจทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก เรื่องนี้คุณผิดเต็มๆ เห็นหรือยังการทำอะไรไม่คิดมันจะเป็นยังไง”คาวีก็หมดหนทางที่จะช่วยจริงๆ เบนจามินนั้นมีอิทธิพลแค่ไหนเขารู้ดี พร้อมหันไปคาดโทษหญิงสาวให้เธอได้คิดว่าผลของการทำอะไรสิ้นคิดมันก่อให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง“ฮึก ฮือๆๆ แล้วจะให้ฉันทำยังไง”ต้นหลิวจากที่เป็นคนที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เจอแบบนี้เธอเองก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ดันไป
ชั่วโมงต่อมา“ให้มันเบามือหน่อยนะคะพี่เบน”น้ำใส หมอสาวที่ประจำอยู่ที่คลินิกของบ้านตัวเอง เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเบนจามิน สนิทกันเหมือนพี่เหมือนน้องแท้ๆเพราะเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากได้ตรวจดูอาการหญิงสาวเธอถึงกับต้องหน้าหงิกหน้างอใส่คนเป็นพี่ชายที่ดูจะรุนแรงเกินเหตุเกินเรื่องไป แต่เธอก็แปลกใจเล็กน้อยที่ดูพี่ชายเธอดูจะห่วงผู้หญิงที่นอนหลับอยู่บนเตียงเป็นพิเศษ เท่าที่เธอเคยรู้มาพี่ชายเธอไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่“อืม...รู้แล้วน่า”เบนจามินทำหน้าเซ็ง เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงเป็นหนักขนาดนี้เสียหน่อย แค่ควบคุมตัวเองไม่ได้ก็เท่านั้นเอง“นี่ยาค่ะ เธอตื่นก็ให้เธอทานด้วย น้ำเช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอแล้ว”น้ำใสยื่นซองยาให้คนเป็นพี่ชายจากนั้นจึงเตรียมตัวกลับทันที เพราะใกล้จะได้เวลาที่เธอจะต้องไปตรวจที่คลินิกแล้วโรงพยาบาล“นี่คุณ จะไปหาน้องฉันเมื่อไหร่”หลังจากที่หมอหนุ่มตรวจอาการของแม่เธอเสร็จต้นหลิวก็ถือโอกาสนี้ถามชายหนุ่มทันทีว่าเขานั้นจะไปหาผู้ชายคนเมื่อคืนเพื่อเจรจาเรื่องน้องเธอตอนไหน“ผมต้องออกเวรก่อน คงจะเป็นช่วงเย็น”“ฉันไปด้วยได้ไหม”ต้นหลิวอยากจะไป
วันต่อมา“เป็นยังไงบ้าง”เบนจามินเห็นหญิงสาวขยับตัวขึ้นในช่วงสายของวันจึงใช้หลังมือนั้นวัดอุณหภูมิที่หน้าผากของเธอดูว่าไข้ลดแล้วหรือยัง เพราะเมื่อคืนเธอตัวร้อนทั้งคืนจนเขาต้องปลุกให้เธอลุกขึ้นมาทานยาเบนจามินนึกโมโหที่หญิงสาวผละหน้าหนีจากมือของเขาอย่างท้าทาย ซ้ำยังไม่ยอมตอบยอมคุยกับเขาว่าตัวเธอนั้นอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้แบบนี้ปล่อยให้นอนป่วยโดยไม่ดูแลเสียก็ดี“ฉันจะบอกอะไรเธอให้ เธอควรจะทำตัวดีๆกับฉันเอาไว้แล้วเธออยากได้อะไรก็จะได้ทานข้าวแล้วทานยาซะ”จากนั้นจึงลุกขึ้นหันหลังให้หญิงสาวและประกาศก้องให้เธอได้ยินสิ่งที่เขาต้องการจะให้เธอได้รู้ เป็นการบอกนัยๆว่าเธอไม่ควรที่จะปฏิเสธเขาหลังจากชายหนุ่มเดินหันหลังออกจากห้องไปแล้วน้ำตาหญิงสาวก็ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่ขาดสาย คิดว่าหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาเรื่องร้ายๆมันจะเป็นแค่ฝันเสียอีกเธอร้องออกมาจนน้ำตาแห้งเหือดพร้อมบอกกับตัวเองให้ทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้ แล้วทำใจอยู่กับมันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เย็นของวัน“เอกสารที่ต้องเซ็นครับคุณเบน”เมื่อเจ้านายหนุ่มไม่ยอมเข้าบริษัทก็ต้องเป็นธุระของโจชัวที่จะต้องยกแฟ้มเอกสารทั้งหมดมาให้เจ้านายของเข