ทางด้านต้นหลิว
“นี่แกทำไมมันซวยงี้วะ”
พริกแกงหน้าจ๋อยที่เมื่อเปิดกระเป๋าที่ต้นหลิวใช้วิชามือเบาได้มาดูแล้วมันไม่มีเงินสักนิด มีแต่บัตรเครดิต
“แกเป็นคนเลือกเหยื่อไม่ใช่หรือไง ไหนล่ะเงินเยอะมีแต่บัตรแบบนี้ฉันจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่ารักษาแม่ฉันล่ะ”
ต้นหลิวเองก็เซ็งกันไปตามๆกัน เมื่อนึกถึงค่ารักษาของแม่เธอก็ถึงกับคอตก
“แกลองดูที่บัตรสิเผื่อมีรหัส”
พริกแกงยังแอบหวังเล็กๆว่ายังไงวันนี้เพื่อนเธอก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้างและน่า
“แกนี่ก็คิดได้เนอะ ไอ้ฝรั่งนั่นมันคงจะโง่เขียนรหัสไว้หรอกนะ”
ต้นหลิวอยากจะเขกหัวเพื่อนเธอจริงๆ ที่พูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้
“คุณต้นรัก”
คาวีนั่งรออยู่ในรถครู่หนึ่งก็เห็นหญิงสาวเดินออกมาแต่ไม่ยักจะมาหาเขาที่รถ ทั้งที่รถของเขาก็จอดอยู่ตรงหน้าของเธอ จึงเปิดประตูรถแล้วลงไปเรียกหญิงสาว
“คุณเรียกฉันว่าอะไรนะคะ”
พริกแกงกับต้นหลิวถึงกับชะงักการเดินเมื่อได้ยินใครบางคนเรียกชื่อต้นรัก ต้นหลิวหันมาถามชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอด้วยความแปลกใจ เธอไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าเธอรู้จักต้นรักได้อย่างไรแล้วเขาเป็นใคร
“คุณต้นรักไงครับ เอามือถือไปให้พี่สาวคุณเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”
คาวีถึงกับทำหน้างงที่จู่ๆหญิงสาวก็ทำเหมือนไม่รู้จักเขาเสียอย่างนั้น พร้อมถามถึงธุระที่หญิงสาวมาที่นี่อีกด้วย
“หืม...”
ต้นหลิวหันไปมองหน้ากับพริกแกงด้วยความหวั่นใจ หากต้นรักมากับผู้ชายคนนี้แล้วหากต้นรักเข้าไปด้านในแล้วเจอฝรั่งคนนั้นจะทำอย่างไร
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
คาวีรู้แล้วว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติจึงถามทั้งสองสาวด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล ทั้งคิดในใจว่านี่อาจจะไม่ใช่ต้นรัก แต่เป็นพี่สาวของเธอ แล้วตอนนี้ต้นรักอยู่ที่ไหนกัน
เมื่อถามไถ่ความจากสองสาวก็ได้คำตอบที่น่าปวดหัวกลับมาอคาวียังไม่ได้กล่าวโทษอะไรใครอตอนนี้แต่เขาต้องการให้หญิงสาวทั้งสองตามหาต้นรักให้กลับมาให้ได้ก่อนอเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง
“นี่พวกคุณทำอะไรลงไปรู้ตัวหรือเปล่า”
คาวีไม่คิดเลยว่าหญิงสาวนั้นจะใช้วิธีแบบนี้หาเงิน ถ้าเจ้าทุกข์ไปแจ้งความจับเธอคงหมดโอกาสหาเงินไปอีกนาน แถมเสียประวัติอีกด้วย
“ก็ฉันอยากได้เงินไปจ่ายค่ารักษาแม่ฉันนี่นา”
ต้นหลิวรู้ว่าวิธีที่เธอทำมันผิด แต่การหาเงินได้ไวๆเธอก็คิดได้แบบนี้ หญิงสาวนั่งคอตกที่หาน้องเธอเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ แถมผู้ชายคนที่เธอขโมยของมาก็หายไปด้วย
“เดี๋ยวผมจะไปขอคนที่ร้านดูกล้อง”
คาวีเห็นว่าคงเป็นหนทางสุดท้ายที่เขาจะรู้ว่าต้นรักอยู่ที่ไหนคือขอดูกล้องวงจรของคลับนี้ เขาเองก็พอจะมีเส้นสายที่สามารถเข้าถึงคลับนี้ได้อย่างง่ายดายอยู่บ้าง
“พวกเราไปด้วย”
ทั้งพริกแกงและต้นหลิวไม่อยากนั่งรอแบบไม่รู้อะไร หากชายหนุ่มจะไปขอดูกล้องพวกเธอก็จะไปด้วย ตอนนี้พวกเธอไม่กลัวโดนดำเนินคดีอะไรแล้ว ขอแค่รู้ว่าต้นรักอยู่ที่ไหนก็พอ
“มันจับตัวต้นรักไปจริงๆด้วย”
พริกแกงแทบจะร้องให้ออกมาเมื่อเห็นภาพในกล้องวงจรปิดว่าเกิดอะไรขั้นกับต้นรัก
“จะทำยังไงกันต่อดี”
ต้นหลิวหันไปถามหมอหนุ่มตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะช่วยน้องเธอยังไง แล้วผู้ชายคนนั้นจะจับตัวน้องสาวเธอไปไหนก็ไม่รู้
“ผมรู้ว่าคนๆนี้คือใคร จะบอกอะไรให้ว่าคุณเล่นผิดคนแล้ว แต่เอาเป็นว่าผมจะช่วยก็แล้วกัน”
คาวีถึงกับกุมขมับ เขารู้ดีว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครไม่คิดว่าหญิงสาวจะซวยไปขโมยของผิดคนแบบนี้ แต่ยังไงเขาก็ต้องช่วย
คาวีพอจะรู้จักกับเบนจามินอยู่บ้าง ด้วยเมื่อก่อนพ่อของเขาเข้าไปรักษาคุณย่าของเบนจามินอยู่บ่อยๆ
เพนท์เฮ้าส์หรู
ต้นรักฉุกคิดในหัวว่าเหตุใดผู้ชายคนนี้จึงมั่นใจเหลือเกินว่าเธอเป็นขโมย ไม่แน่พี่สาวเธออาจจะทำอะไรแบบไม่คิดก็ได้หากเป็นเช่นนั้นถ้าชายหนุ่มจะส่งเธอที่สถานีตำรวจเธอเองก็พร้อมจะยอมรับผิดทุกอย่าง
“คุณพาฉันมาที่ไหน”
“เพนท์เฮ้าส์”
“นี่คุณปล่อยฉันได้แล้วนะ ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นขโมยคุณก็ส่งฉันให้ตำรวจสิ”
ต้นรักเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะชายหนุ่มดันลากเธอมายังเพนท์เฮ้าส์ของเขาแทนที่จะเป็นสถานีตำรวจ หากเขาคิดว่าเธอเป็นขโมย
“ไม่มีทาง ฉันอยากจะลงโทษเธอเองมากกว่า”
ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะทำอย่างนั้นเพราะเขาได้ลงโทษเธอเองมันจะสนุกกว่า จะได้สั่งสอนให้เข็ดหลาบและจะไม่ได้ไปทำแบบนี้กับใครอีก หน้าตาก็น่ารักแต่นิสัยเสียแบบนี้เขาไม่ใจดีกับเธอแน่นอน
“กระเป๋าเงินฉันอยู่ไหน”
เมื่อฉุดกระชากลากถูหญิงสาวมาถึงในห้องได้ก็สะบัดร่างบางเสียจนกระเด็นไปเกาะอยู่ที่โซฟา และถามหากระเป๋าเงินของเขาทันที
“กระเป๋าอะไร”
ต้นรักไม่รู้ว่ากระเป๋าที่ชายหนุ่มถามหามันคือกระเป๋าอะไร เธอไม่ได้เอาของเขาไปจึงไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาคืนให้
“ยังจะทำเป็นหน้าซื่ออีกเอามานี่”
ตุ้บบบบ
“นี่เธอ”
เบนจามินกระชากกระเป๋าสะพายหญิงสาวจนของหล่นกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น แต่เมื่อมองแล้วมันก็ไม่มีกระเป๋าเงินของเขาอยู่ในนั้น แต่ที่สะดุดตาก็คือมือถือที่กระเด็นหล่นหน้าจอที่มันเปิดขึ้นมามันเป็นรูปหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนกันยืนกอดกันยิ้มอยู่ ทำให้เขาคิดว่านี่อาจจะเป็นฝาแฝดของเธอ หากเป็นเช่นนั้นการที่เธอปฏิเสธทำท่าไม่รู้นั้นเธออาจจะไม่รู้จริงๆก็เป็นได้
เสียงโทรศัพท์...
“นั่งอยู่ที่นี่อย่าคิดหนี”
เบนจามินยังไม่ทันได้ถามหญิงสาวให้หายคาใจเรื่องที่เธอมีฝาแฝดก็มีสายจากคาวีเข้ามาเสียก่อน ชายหนุ่มคิดว่าหากคาวีโทรมาตอนนี้คงจะมีธุระสำคัญจึงต้องกดรับเสียก่อน พร้อมหันไปสั่งหญิงสาวเสียงเข้มก่อนจะเดินออกไปคุยโทรศัพท์
ชายหนุ่มเจรจากับคาวีอยู่นานสองนานจนได้รู้ว่าคนที่เขาพามานั้นเธอเป็นแฝดกับคนที่ขโมยกระเป๋าเงินของเขาไป แต่มีหรือตัวเธออยู่ในมือของเขาแล้วเขาจะปล่อยไปง่ายๆ ขอใช้งานให้เบื่อก่อนก็แล้วกันถึงจะไม่ใช่คนผิดตัวจริง แต่ก็ผิดเองที่เธอดันหน้าเหมือนหัวขโมยแล้วเขาก็พึงใจเธอคนนี้ เพราะเธอดูหัวอ่อนไม่เป็นประสาดีคงจะควบคุมได้ง่าย
โรงพยาบาลต้นหลิวมานั่งรอฟังข่าวกับคาวีที่โรงพยาบาล ส่วนพริกแกงนั้นต้นหลิวให้เพื่อนเธอกลับไปก่อนเพราะดึกมากแล้ว“เป็นยังไงบ้างคุณ”ต้นหลิวเห็นคาวีคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานเมื่อเห็นเขาวางสายเธอก็รีบเข้าไปถามเรื่องถามราวทันทีว่าตอนนี้น้องสาวของเธอเป็นยังไงบ้าง“ข่าวดีก็คือ เค้าจะไม่เอาเรื่องคุณ”“จริงเหรอ??”“แต่เค้าจะไม่ปล่อยน้องคุณ”“ทำแบบนี้ไม่ได้คุณติดต่อเค้าไปใหม่ได้ไหมว่าฉันยอมรับผิดทุกอย่าง แต่ให้เขาปล่อยน้องฉันเถอะนะ เค้าจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะแจ้งตำรวจที่เค้าจับน้องฉันไปเหมือนกัน”ต้นหลิวถึงกับเข่าทรุดผู้ชายคนนั้นจะทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย ไม่ได้ยังไงเธอก็ไม่ยอมให้เขากักตัวน้องสาวเธอไว้แบบนี้แน่“ตำรวจทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก เรื่องนี้คุณผิดเต็มๆ เห็นหรือยังการทำอะไรไม่คิดมันจะเป็นยังไง”คาวีก็หมดหนทางที่จะช่วยจริงๆ เบนจามินนั้นมีอิทธิพลแค่ไหนเขารู้ดี พร้อมหันไปคาดโทษหญิงสาวให้เธอได้คิดว่าผลของการทำอะไรสิ้นคิดมันก่อให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง“ฮึก ฮือๆๆ แล้วจะให้ฉันทำยังไง”ต้นหลิวจากที่เป็นคนที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เจอแบบนี้เธอเองก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ดันไป
ชั่วโมงต่อมา“ให้มันเบามือหน่อยนะคะพี่เบน”น้ำใส หมอสาวที่ประจำอยู่ที่คลินิกของบ้านตัวเอง เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเบนจามิน สนิทกันเหมือนพี่เหมือนน้องแท้ๆเพราะเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากได้ตรวจดูอาการหญิงสาวเธอถึงกับต้องหน้าหงิกหน้างอใส่คนเป็นพี่ชายที่ดูจะรุนแรงเกินเหตุเกินเรื่องไป แต่เธอก็แปลกใจเล็กน้อยที่ดูพี่ชายเธอดูจะห่วงผู้หญิงที่นอนหลับอยู่บนเตียงเป็นพิเศษ เท่าที่เธอเคยรู้มาพี่ชายเธอไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่“อืม...รู้แล้วน่า”เบนจามินทำหน้าเซ็ง เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงเป็นหนักขนาดนี้เสียหน่อย แค่ควบคุมตัวเองไม่ได้ก็เท่านั้นเอง“นี่ยาค่ะ เธอตื่นก็ให้เธอทานด้วย น้ำเช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอแล้ว”น้ำใสยื่นซองยาให้คนเป็นพี่ชายจากนั้นจึงเตรียมตัวกลับทันที เพราะใกล้จะได้เวลาที่เธอจะต้องไปตรวจที่คลินิกแล้วโรงพยาบาล“นี่คุณ จะไปหาน้องฉันเมื่อไหร่”หลังจากที่หมอหนุ่มตรวจอาการของแม่เธอเสร็จต้นหลิวก็ถือโอกาสนี้ถามชายหนุ่มทันทีว่าเขานั้นจะไปหาผู้ชายคนเมื่อคืนเพื่อเจรจาเรื่องน้องเธอตอนไหน“ผมต้องออกเวรก่อน คงจะเป็นช่วงเย็น”“ฉันไปด้วยได้ไหม”ต้นหลิวอยากจะไป
วันต่อมา“เป็นยังไงบ้าง”เบนจามินเห็นหญิงสาวขยับตัวขึ้นในช่วงสายของวันจึงใช้หลังมือนั้นวัดอุณหภูมิที่หน้าผากของเธอดูว่าไข้ลดแล้วหรือยัง เพราะเมื่อคืนเธอตัวร้อนทั้งคืนจนเขาต้องปลุกให้เธอลุกขึ้นมาทานยาเบนจามินนึกโมโหที่หญิงสาวผละหน้าหนีจากมือของเขาอย่างท้าทาย ซ้ำยังไม่ยอมตอบยอมคุยกับเขาว่าตัวเธอนั้นอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้แบบนี้ปล่อยให้นอนป่วยโดยไม่ดูแลเสียก็ดี“ฉันจะบอกอะไรเธอให้ เธอควรจะทำตัวดีๆกับฉันเอาไว้แล้วเธออยากได้อะไรก็จะได้ทานข้าวแล้วทานยาซะ”จากนั้นจึงลุกขึ้นหันหลังให้หญิงสาวและประกาศก้องให้เธอได้ยินสิ่งที่เขาต้องการจะให้เธอได้รู้ เป็นการบอกนัยๆว่าเธอไม่ควรที่จะปฏิเสธเขาหลังจากชายหนุ่มเดินหันหลังออกจากห้องไปแล้วน้ำตาหญิงสาวก็ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่ขาดสาย คิดว่าหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาเรื่องร้ายๆมันจะเป็นแค่ฝันเสียอีกเธอร้องออกมาจนน้ำตาแห้งเหือดพร้อมบอกกับตัวเองให้ทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้ แล้วทำใจอยู่กับมันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เย็นของวัน“เอกสารที่ต้องเซ็นครับคุณเบน”เมื่อเจ้านายหนุ่มไม่ยอมเข้าบริษัทก็ต้องเป็นธุระของโจชัวที่จะต้องยกแฟ้มเอกสารทั้งหมดมาให้เจ้านายของเข
“ถ้าวันไหนรักไม่โอเคเค้าบอกเลยว่าเค้าจะช่วยรักทุกวิถีทาง แม้ต้องแลกด้วยชีวิตเค้าก็ยอม”ต้นหลิวก็ยังยืนยันให้น้องสาวของเธอได้มั่นใจว่าเธอพร้อมเป็นที่พึ่งของน้องสาวเธอได้ตลอดเวลา“ไม่หรอกหลิว เค้าโอเคจริงๆ”ต้นรักกุมมือคนเป็นพี่สาวแน่น ยืนยันคำเดิมว่าเธอโอเคเพราะเธอได้ตัดสินใจไปแล้ว“แล้วถ้าแม่ฟื้นมาเราจะบอกกับแม่ยังไง”ต้นหลิวยังคงกังวลใจอีกเรื่องหากแม่เธอฟื้นมาแล้วรู้เรื่องราวทุกอย่างวันนั้นมันจะเป็นอย่างไร เธอรู้ว่าแม่ต้องผิดหวังในตัวเธอมากแน่ๆ“อืม ให้มันถึงวันนั้นก่อนก็แล้วกัน”ต้นรักเองก็ยังคิดไม่ออกว่าถึงวันนั้นแล้วมันจะเป็นอย่างไรแต่ยังไงความจริงมันก็คือความจริงที่แม่ของเธอจะต้องรับรู้อยู่ดี“จะเที่ยงแล้วเค้าจะออกไปซื้อข้าว รักจะเอาอะไรไหม”ต้นหลิวเห็นว่านี่มันก็ใกล้เที่ยงแล้วเธอยังไม่ได้หาข้าวไว้ทานเลย หญิงสาวจึงต้องออกไปหาซื้ออะไรแถวห้างใกล้ๆนี้เสียหน่อย เพราะวันนี้น้องสาวเธอกลับมาทานข้าวกับเธอทั้งทีก็คงต้องหาอาหารญี่ปุ่นของโปรดให้น้องเธอทานบ้าง“อะไรก็ได้หลิวไปเถอะ เดี๋ยวเค้าอยู่เฝ้าแม่เอง”ต้นรักอยากอยู่เฝ้าแม่เธอมากกว่า หากพี่สาวเธอจะซื้ออะไรมาก็ทานได้ทั้งนั้น“อืม...แล้วเค
“โอเค แล้วรอยที่หน้าคุณล่ะอันนี้คุณแก้ตัวกับน้องคุณเองก็แล้วกัน”คาวีรู้ว่าเขาควรทำอะไรไม่ทำอะไรเพียงแต่รอยที่หน้าหญิงสาวให้เธอหาคำตอบให้น้องของเธอเองก็แล้วกัน เพราะมันเห่อแดงไปทั่วแก้มเสียขนาดนั้น“ไหนผมขอดูหน่อย”เมื่อจอดรถได้คาวีก็หันมาจับหน้าหญิงสาวแล้วจ้องดูรอยใกล้ๆเขาจะดูว่ามันช้ำแค่ไหนจะได้ให้ยาทาถูก“....”ต้นหลิวถึงกับเบิกตาโพรงหายใจติดขัดที่จู่ๆหมอหนุ่มก็ยื่นหน้ามาเสียใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน เธอเคยอยู่ใกล้ผู้ชายขนาดนี้เสียที่ไหนกัน“เดี๋ยวผมหายาให้ทาก็แล้วกันนะ”“เอ่อ อืม ขอบคุณ เลิกดูได้แล้ว”ต้นหลิวรู้สึกว่าใจเธอเต้นผิดจังหวะ พร้อมผละตัวออกจากหมอหนุ่มและเปิดประตูรถเดินดุ่มๆเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างไม่คิดจะรอเจ้าของรถ“อะไรกัน จะรอหน่อยก็ไม่ได้”คาวีส่ายหัวให้กับพฤติกรรมที่เดาใจยากของหญิงสาว จากนั้นจึงลงจากรถและเดินตามเธอไปติดๆ“รักเค้ามาแล้ว ซื้อแซลมอนโรลของโปรดมาให้ด้วยนะ”ต้นหลิวเข้าห้องมาได้ก็รีบชูกล่องของโปรดให้น้องเธอดูทันที“มันแพงจะตายหลิว ซื้อมาทำไม”ต้นรักรู้ว่าสถานการณ์การเงินที่บ้านเธอตอนนี้เป็นยังไง แล้วอีกอย่างพี่เธอก็ไม่มีงานทำยังจะซื้อของแพงๆให้เธอได้ทานอีก“ไม่เป
“บ้านคุณน่ารักดีนะ”หลังจากที่คาวีและต้นหลิวมาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ต้นหลิวก็จัดการกับอาหารที่พึ่งซื้อมาใส่จานเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นได้รีบทานจะได้รีบกลับ“อืม ช่วงนี้บ้านไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ คุณก็อย่าถือแล้วกัน”เนื่องจากต้นหลิวไม่ค่อยได้มีเวลาทำงานบ้านเท่าไรที่นี่บ้านจึงดูไม่ค่อยเรียบร้อยต้องชิงบอกกับชายหนุ่มเอาไว้เสียก่อน เพราะเดี๋ยวเธอจะโดนเขากล่าวหาว่าไม่เป็นกุลสตรีอีก“นี่คุณถ้าคุณขาดเหลืออะไรคุณบอกผมได้เลย ผมยินดีช่วย”คาวีดูไปแล้วมันก็ไม่ได้ไม่เรียบร้อยเช่นที่หญิงสาวพูด ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ เพียงแต่มีเพียงแค่ฝุ่นเล็กน้อย อันนี้เขาเจ้าใจได้ว่าเธอไม่ค่อยได้กลับมาดูแลบ้าน เพราะหลังๆมานี้เธอเฝ้าแม่อยู่แต่โรงพยาบาล เขารู้ว่าเธอลำบากแต่ก็ไม่ยอมปริปากบอกใครแม้แต่น้องสาวของเธอเอง เขาจึงคิดอยากจะช่วย“จะปล่อยเงินกู้ให้ฉันหรือไง”ต้นหลิวที่กำลังสนใจกับอาหารในจานอยู่ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อดูสีหน้าของคาวีว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น เมื่อมองดูแล้วก็รู้ว่าท่าจะจริง แต่เธอเองก็คงจะรับน้ำใจนี้ไว้ไม่ได้เพราะเธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร เธอยังมีสองไม้สองมือครบเหมือนคนอื่นเธอจะต้องหา
คฤหาสน์อินทวรนันท์“คุณแม่ครับ”กว่าจะขับรถกลับจากบ้านของต้นหลิวฝ่ารถติดมาถึงบ้านของเขาก็ใช้เวลานานพอสมควร ชายหนุ่มเห็นคุณแม่ของเขานั่งอยู่ด้านล่างพอดีเลยคิดว่าจะปรึกษาคนเป็นแม่เรื่องหญิงสาวเสียหน่อย“กลับมาซะดึกเชียว ไปไหนมาเหรอลูก”อมีนาไม่ค่อยเห็นลูกชายของเธอกลับบ้านดึกมาพักใหญ่ตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทย จึงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงปกติของคนเป็นแม่“ไปทานข้าวบ้านเพื่อนมาครับ”“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย”อมีนาแอบแซวลูกชายเรื่องทานข้าวบ้านเพื่อน เธอรู้ว่าลูกชายเธอไม่ค่อยมีเพื่อนที่เมืองไทยเท่าไหร่ เพราะไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ“ผู้หญิงครับ”คาวีไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรคุณแม่ของเขาอยู่แล้ว“.....”อมีนาเห็นลูกชายของเธอตอบอย่างมั่นใจก็แอบส่งสายตาเชิงสงสัยให้“เพื่อนจริงๆครับคุณแม่”คาวีดูออกว่าสายตาของแม่เขาที่มองมาแบบนั้นมันคืออะไร จึงรีบยืนยันกับแม่ของเขาให้มั่นใจว่าเป็นเพื่อนจริงๆ เพราะตอนนี้สถานะของเขากับต้นหลิวมันยังอยู่แค่เท่านี้“ผมมีเรื่องจะถามคุณแม่หน่อยครับ”“อะไรเหรอลูก”“คือพอดีเพื่อนผมเค้าเดือดร้อนเรื่องเงินแบบว่าพึ่งตกงานค่าใช้จ่ายเยอะแต่ไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากผม แบบนี้ต
“คุณรู้ได้ไงว่าฉันจบด้านนี้มา”ต้นหลิวจำได้ว่าเธอไม่เคยบอกกับชายหนุ่มนี่นาว่าเธอจบอะไรมาแปลกใจว่าเขารู้ได้อย่างไร“คุณต้นรักบอก คุณรีบไปสมัครเลย เค้ากำลังต้องการคน”เมื่อวานคาวีคุยรายละเอียดกับต้นรักเรียบร้อยหมดแล้วจึงได้รู้ว่าต้นหลิวนั้นจบอะไรมาและมีความสามารถทางด้านใดบ้าง“อ่อ...ขอบมากคุณนะคะ”ต้นหลิวพยักหน้าเข้าใจ ตอนนี้เธอก็มีหวังว่าจะมีงานทำเร็วๆนี้แล้วจึงหันไปส่งยิ้มขอบคุณชายหนุ่ม“อืม...ผมขอตัวก่อน”“ค่ะ”คาวีรู้สึกใจเต้นกับรอยยิ้มนี้อีกแล้ว สองพี่น้องคู่นี้เวลาที่ยิ้มอย่างจริงใจมันจะน่ามองเป็นพิเศษ พลางคิดในใจเรื่อยเปื่อยว่าหากหญิงสาวยิ้มให้เขาแบบนี้บ่อยๆก็คงจะดี“แม่จ๋า...ขอให้หนูได้งานนี้นะจ๊ะ”หลังจากที่หมอหนุ่มออกไปแล้วหญิงสาวก็เข้าไปกอดคนเป็นแม่ที่นอนอยู่บนเตียง ขอให้แม่ของเธออวยพรให้เธอโชคดีเรื่องงาน เพราะบริษัทที่ชายหนุ่มยื่นใบสมัครให้เธอค่อนข้างเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง หากได้ทำงานที่นี่คงจะได้เงินดีไม่ใช่น้อยคฤหาสน์อินทวรนันท์“เป็นยังไงบ้างลูก เพื่อนเราน่ะ”อมีนาเห็นลูกชายกลับมาถึงบ้านก็ถามไถ่ถึงเรื่องที่ลูกชายเธอมาปรึกษาสองวันติดๆ“เธอดีใจอยู่ไม่น้อยเลยครับคุณแม่”ค