“โอเค แล้วรอยที่หน้าคุณล่ะอันนี้คุณแก้ตัวกับน้องคุณเองก็แล้วกัน”
คาวีรู้ว่าเขาควรทำอะไรไม่ทำอะไรเพียงแต่รอยที่หน้าหญิงสาวให้เธอหาคำตอบให้น้องของเธอเองก็แล้วกัน เพราะมันเห่อแดงไปทั่วแก้มเสียขนาดนั้น
“ไหนผมขอดูหน่อย”
เมื่อจอดรถได้คาวีก็หันมาจับหน้าหญิงสาวแล้วจ้องดูรอยใกล้ๆเขาจะดูว่ามันช้ำแค่ไหนจะได้ให้ยาทาถูก
“....”
ต้นหลิวถึงกับเบิกตาโพรงหายใจติดขัดที่จู่ๆหมอหนุ่มก็ยื่นหน้ามาเสียใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน เธอเคยอยู่ใกล้ผู้ชายขนาดนี้เสียที่ไหนกัน
“เดี๋ยวผมหายาให้ทาก็แล้วกันนะ”
“เอ่อ อืม ขอบคุณ เลิกดูได้แล้ว”
ต้นหลิวรู้สึกว่าใจเธอเต้นผิดจังหวะ พร้อมผละตัวออกจากหมอหนุ่มและเปิดประตูรถเดินดุ่มๆเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างไม่คิดจะรอเจ้าของรถ
“อะไรกัน จะรอหน่อยก็ไม่ได้”
คาวีส่ายหัวให้กับพฤติกรรมที่เดาใจยากของหญิงสาว จากนั้นจึงลงจากรถและเดินตามเธอไปติดๆ
“รักเค้ามาแล้ว ซื้อแซลมอนโรลของโปรดมาให้ด้วยนะ”
ต้นหลิวเข้าห้องมาได้ก็รีบชูกล่องของโปรดให้น้องเธอดูทันที
“มันแพงจะตายหลิว ซื้อมาทำไม”
ต้นรักรู้ว่าสถานการณ์การเงินที่บ้านเธอตอนนี้เป็นยังไง แล้วอีกอย่างพี่เธอก็ไม่มีงานทำยังจะซื้อของแพงๆให้เธอได้ทานอีก
“ไม่เป็นไรเลย เค้าซื้อได้รักทานให้หมดเลยนะเค้าอิ่มมาแล้ว”
ต้นหลิวอยากให้คนเป็นน้องได้ทานของโปรด เงินที่เธอมีก็ซื้อได้แค่ชุดเดียว เธอเสียสละให้น้องเธอได้ทานของอร่อย เธอเองทนหิวได้ไม่เป็นไร เพราะน้องเธอเสียสละมากกว่าเธอเสียอีก
“อ้าวคุณหมอสวัสดีค่ะ”
“ครับ สบายดีนะครับคุณต้นรัก”
ต้นรักเห็นคาวียืนอยู่หลังพี่สาวของเธอจึงรีบทักทาย คาวียืนฟังสองพี่น้องคุยกันพลางมองไปที่ต้นหลิวเ ขารู้ดีว่าเธอยังไม่ได้ทานอะไรแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เพียงแค่ทักทายต้นรักตอบก็เท่านั้น
“สบายดีค่ะ แม่อาการดีขึ้นมาก ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ”
ตอนนี้แม่ของเธออาการดีขึ้นมาก ต้นรักรู้สึกขอบคุณคาวีจริงๆที่ใช้เวลาไม่นานในการรักษาอาการของแม่เธอก็ดีขึ้นมาก ความดันไม่ต่ำเหมือนแต่ก่อนแล้ว
“ยินดีครับ ต้องขอบคุณเบนจามินมากกว่าที่เค้าต้องการให้คุณแม่คุณได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด”
คาวีเองก็รักษาอาการของคนไข้เขาอย่างเต็มที่อยู่แล้วรวมถึงอุปกรณ์การรักษาบางอย่างที่โรงพยาบาลไม่มีเบนจามินก็เป็นคนจัดหามาให้ทุกอย่าง เขายังทึ่งในน้ำใจของเบนจามินแต่หากถึงแม้เบนจามินไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเขาเองก็ต้องช่วยอยู่แล้วมันคือหน้าที่ของหมอ
“เออ...แล้วตาบอดี้การ์ดหน้าหล่อคนนั้นไปไหนซะล่ะ”
ต้นหลิวกลับมาก็ไม่เห็นฮาเปอร์นั่งอยู่หน้าห้องแล้วจึงถามหากับน้องเธอ
“อ๋อไปทานข้าวน่ะ แล้ว... หน้าหลิวไปโดนอะไรมา”
ต้นรักเป็นคนบอกให้ฮาเปอร์ไปหาอะไรทานเมื่อครู่ก่อนหน้าที่พี่สาวเธอจะกลับมานี่เอง พลันสายตาเห็นสิ่งผิดปกติบนหน้าพี่สาวที่มันแดงผิดปกติจึงรีบยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆเพื่อดูให้ชัด
“อ๋อ...ซุ่มซ่ามนิดหน่อยน่ะ”
ต้นหลิวรีบหันหน้าหลบน้องสาวของเธอทันที เธอไม่อยากให้ต้นรักสังเกตใกล้มากกลัวจะเห็นรอยนิ้วมือเสียก่อน หากเป็นเช่นนั้นเดี๋ยวเธอจะได้ตอบคำถามยาว
“อืม...งั้นคุณไปทายาก่อนดีกว่า ตามผมมา”
“ค่ะ”
คาวีรีบบอกให้ต้นหลิวตามเขาไปหายาทา อีกอย่างเขาก็อยากหาอะไรให้เธอทานด้วย
“อิ่มแล้วงั้นเหรอ ผมยังไม่เห็นคุณทานอะไรเลยนะ”
คาวีพาหญิงสาวมาที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขาพร้อมหันไปถามหญิงสาวถึงเรื่องที่เธอยังไม่ได้ทานอาหารกลางวัน
“ก็อิ่มไง”
ต้นหลิวยังปากแข็งทั้งๆที่ท้องเธอมันหิวจนแสบไส้ไปหมดแล้ว เธอกะว่าหากตอนเย็นกลับบ้านแล้วเธอก็จะไปพึ่งบะหมี่ซองที่อยู่ในบ้านสักสองห่อก็พออยู่ได้แล้ว
“ทานซะ”
คาวีหยิบกล่องอาหารในตู้เย็นใส่ไมโครเวฟแล้วยื่นให้หญิงสาว
“หึ”
ต้นหลิวส่ายหัวพัลวัน เธอยังยืนยันปั้นหน้านิ่งว่าไม่หิวเฉกเช่นตอนแรกที่ตอบกับชายหนุ่ม เพราะไม่อยากถูกมองว่าน่าสงสาร
“ไม่งั้นผมจะบอกคุณต้นรักว่าคุณยังไม่ได้ทานอะไร”
คาวีพ่นคำขู่ออกมาให้หญิงสาวยอมทานเสียดีๆ เพราะเขารู้ว่าทานอาหารผิดเวลามันไม่ดีต่อสุขภาพ อีกอย่างปัญหาของหญิงสาวตอนนี้ก็คงจะเป็นเรื่องเงิน
“ก็ได้”
ต้นหลิวต้องยอมทานอาหารกล่องนั้นแต่โดยดีเพราะคำขู่ของชายหนุ่ม
“คุณทานไปก็แล้วกันนะเดี๋ยวผมทำงานก่อนแล้วนี่ก็ยาทา”
“ขอบคุณค่ะ”
ต้นหลิวตักอาหารในกล่องเข้าปากไปพลางมองรอบๆห้องนี้ไป เธออยากรู้ว่าหมอที่โรงพยาบาลนี้เขามีห้องส่วนตัวแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่า เพราะมันดูวีไอพีมาก
พลางคิดถึงคำพูดของผู้หญิงที่เธอมีเรื่องด้วยในช่วงเที่ยงก็ยิ่งสงสัยกับคำว่าหมอหนุ่มไฮโซ แต่ก็ยังเก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจไม่ได้ถามอะไรชายหนุ่มออกไป
ช่วงเย็นของวัน
“ต้นหลิวล่ะครับ”
คาวีเลิกงานแล้วเขากะจะมาหาต้นหลิวเสียหน่อยแต่เมื่อเข้ามาในห้องไม่เจอหญิงสาวเห็นแต่คนเป็นน้องสาวนั่งอยู่จึงถามหาคนที่ต้องการเจอ
“อ๋อ หลิวกลับบ้านค่ะ ฉันพึ่งให้ฮาเปอร์ไปส่งเพิ่งออกกันไปเมื่อกี้เองค่ะ”
ต้นรักเห็นว่าหมอหนุ่มคงจะมีธุระกับพี่สาวเธอจึงบอกว่าต้นหลิวนั้นพึ่งจะออกไปเมื่อครู่
“อ๋อ...งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
คาวีได้ยินดังนั้นก็ขอตัวไปตามต้นหลิวทันที วันนี้เขารู้ว่าเธอจะกลับบ้านเลยอยากจะไปดูความเป็นอยู่ของเธอสักหน่อย เผื่อว่าเขาจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง เมื่อกลางวันก็ไม่มีอะไรทานแล้วตอนเย็นไม่รู้ว่าเธอจะทานอะไรเขานึกห่วงเธออยู่เหมือนกัน ส่วนต้นรักนั้นเขารู้ว่าเธอมีคนที่คอยดูแลอยู่แล้วคงไม่น่าห่วงเท่าไร
“เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง”
คาวีรีบเดินไปหาฮาเปอร์บอกกับอีกฝ่ายว่าเขานั้นจะเป็นคนไปส่งต้นหลิวเอง
“ครับคุณคาวี”
ฮาเปอร์รู้จักคาวีดีว่าเขาเป็นใคร หากอีกฝ่ายจะไปส่งหญิงสาวเขาคงขัดไม่ได้
“ไปกับผม”
“ไปไหน ฉันจะกลับบ้าน”
คาวีไปเดินไปดึงมือหญิงสาวให้ลงจากรถแล้วไปกับเขา ต้นหลิวไม่เข้าใจว่าคาวีจะพาเธอไปไหนอีก ตอนนี้เธออยากจะกลับบ้านแล้ว
“เดี๋ยวผมไปส่ง จะไปทานข้าวด้วย”
“คุณจะไปทานข้าวคุณก็ไปสิ่ ฉันจะกลับบ้าน”
“จะพาไปเลี้ยงข้าว ไปไหม”
คาวีเดินจูงมือหญิงสาวมาที่รถของเขาทั้งที่หญิงสาวไม่ได้เต็มใจและค่อนข้างงงกับการกระทำของเขา
“ไม่ไป จะกลับบ้าน”
“งั้นซื้อไปทานที่บ้าน”
“อะไรของคุณเนี่ย”
ต้นหลิวไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะมายุ่งอะไรกับเธอนักหนา ตอนนี้ก็จับเธอยัดใส่รถเรียบร้อยแล้วด้วย เธอเลยต้องยอมไปกับเขาแต่โดยดี
“บ้านคุณน่ารักดีนะ”หลังจากที่คาวีและต้นหลิวมาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ต้นหลิวก็จัดการกับอาหารที่พึ่งซื้อมาใส่จานเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นได้รีบทานจะได้รีบกลับ“อืม ช่วงนี้บ้านไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ คุณก็อย่าถือแล้วกัน”เนื่องจากต้นหลิวไม่ค่อยได้มีเวลาทำงานบ้านเท่าไรที่นี่บ้านจึงดูไม่ค่อยเรียบร้อยต้องชิงบอกกับชายหนุ่มเอาไว้เสียก่อน เพราะเดี๋ยวเธอจะโดนเขากล่าวหาว่าไม่เป็นกุลสตรีอีก“นี่คุณถ้าคุณขาดเหลืออะไรคุณบอกผมได้เลย ผมยินดีช่วย”คาวีดูไปแล้วมันก็ไม่ได้ไม่เรียบร้อยเช่นที่หญิงสาวพูด ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ เพียงแต่มีเพียงแค่ฝุ่นเล็กน้อย อันนี้เขาเจ้าใจได้ว่าเธอไม่ค่อยได้กลับมาดูแลบ้าน เพราะหลังๆมานี้เธอเฝ้าแม่อยู่แต่โรงพยาบาล เขารู้ว่าเธอลำบากแต่ก็ไม่ยอมปริปากบอกใครแม้แต่น้องสาวของเธอเอง เขาจึงคิดอยากจะช่วย“จะปล่อยเงินกู้ให้ฉันหรือไง”ต้นหลิวที่กำลังสนใจกับอาหารในจานอยู่ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อดูสีหน้าของคาวีว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น เมื่อมองดูแล้วก็รู้ว่าท่าจะจริง แต่เธอเองก็คงจะรับน้ำใจนี้ไว้ไม่ได้เพราะเธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร เธอยังมีสองไม้สองมือครบเหมือนคนอื่นเธอจะต้องหา
คฤหาสน์อินทวรนันท์“คุณแม่ครับ”กว่าจะขับรถกลับจากบ้านของต้นหลิวฝ่ารถติดมาถึงบ้านของเขาก็ใช้เวลานานพอสมควร ชายหนุ่มเห็นคุณแม่ของเขานั่งอยู่ด้านล่างพอดีเลยคิดว่าจะปรึกษาคนเป็นแม่เรื่องหญิงสาวเสียหน่อย“กลับมาซะดึกเชียว ไปไหนมาเหรอลูก”อมีนาไม่ค่อยเห็นลูกชายของเธอกลับบ้านดึกมาพักใหญ่ตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทย จึงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงปกติของคนเป็นแม่“ไปทานข้าวบ้านเพื่อนมาครับ”“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย”อมีนาแอบแซวลูกชายเรื่องทานข้าวบ้านเพื่อน เธอรู้ว่าลูกชายเธอไม่ค่อยมีเพื่อนที่เมืองไทยเท่าไหร่ เพราะไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ“ผู้หญิงครับ”คาวีไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรคุณแม่ของเขาอยู่แล้ว“.....”อมีนาเห็นลูกชายของเธอตอบอย่างมั่นใจก็แอบส่งสายตาเชิงสงสัยให้“เพื่อนจริงๆครับคุณแม่”คาวีดูออกว่าสายตาของแม่เขาที่มองมาแบบนั้นมันคืออะไร จึงรีบยืนยันกับแม่ของเขาให้มั่นใจว่าเป็นเพื่อนจริงๆ เพราะตอนนี้สถานะของเขากับต้นหลิวมันยังอยู่แค่เท่านี้“ผมมีเรื่องจะถามคุณแม่หน่อยครับ”“อะไรเหรอลูก”“คือพอดีเพื่อนผมเค้าเดือดร้อนเรื่องเงินแบบว่าพึ่งตกงานค่าใช้จ่ายเยอะแต่ไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากผม แบบนี้ต
“คุณรู้ได้ไงว่าฉันจบด้านนี้มา”ต้นหลิวจำได้ว่าเธอไม่เคยบอกกับชายหนุ่มนี่นาว่าเธอจบอะไรมาแปลกใจว่าเขารู้ได้อย่างไร“คุณต้นรักบอก คุณรีบไปสมัครเลย เค้ากำลังต้องการคน”เมื่อวานคาวีคุยรายละเอียดกับต้นรักเรียบร้อยหมดแล้วจึงได้รู้ว่าต้นหลิวนั้นจบอะไรมาและมีความสามารถทางด้านใดบ้าง“อ่อ...ขอบมากคุณนะคะ”ต้นหลิวพยักหน้าเข้าใจ ตอนนี้เธอก็มีหวังว่าจะมีงานทำเร็วๆนี้แล้วจึงหันไปส่งยิ้มขอบคุณชายหนุ่ม“อืม...ผมขอตัวก่อน”“ค่ะ”คาวีรู้สึกใจเต้นกับรอยยิ้มนี้อีกแล้ว สองพี่น้องคู่นี้เวลาที่ยิ้มอย่างจริงใจมันจะน่ามองเป็นพิเศษ พลางคิดในใจเรื่อยเปื่อยว่าหากหญิงสาวยิ้มให้เขาแบบนี้บ่อยๆก็คงจะดี“แม่จ๋า...ขอให้หนูได้งานนี้นะจ๊ะ”หลังจากที่หมอหนุ่มออกไปแล้วหญิงสาวก็เข้าไปกอดคนเป็นแม่ที่นอนอยู่บนเตียง ขอให้แม่ของเธออวยพรให้เธอโชคดีเรื่องงาน เพราะบริษัทที่ชายหนุ่มยื่นใบสมัครให้เธอค่อนข้างเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง หากได้ทำงานที่นี่คงจะได้เงินดีไม่ใช่น้อยคฤหาสน์อินทวรนันท์“เป็นยังไงบ้างลูก เพื่อนเราน่ะ”อมีนาเห็นลูกชายกลับมาถึงบ้านก็ถามไถ่ถึงเรื่องที่ลูกชายเธอมาปรึกษาสองวันติดๆ“เธอดีใจอยู่ไม่น้อยเลยครับคุณแม่”ค
โรงพยาบาล“คุณเบน”คาวีเห็นเบนจามินมาที่โรงพยาบาลพอดีเลยเดินเข้าไปหา คาดว่าเขาน่าจะมากับต้นรัก“หมอ”“ผมขอคุยด้วยหน่อย”“อืม ว่ามาเลย”เบนจามินมีสีหน้าสงสัยว่าหมอหนุ่มมีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา“เรื่องที่คุณยื่นมือมาดูแลทั้งต้นรักและต้นหลิวในเวลานี้ผมว่าคุณดูแลต้นรักคนเดียวจะดีกว่า ส่วนต้นหลิวผมขอดูแลเธอเอง”คาวีไม่ค่อยไว้ใจในการที่เบนจามินจะยื่นมือมาดูแลต้นหลิวเท่าไหร่ กิตติศัพท์เรื่องผู้หญิงของชายหนุ่มเขารู้ดี“เอาเป็นว่าผมเข้าใจ และผมก็รู้ด้วยว่าคุณคิดอะไรอยู่ ผมจะบอกกับคุณว่าเจตนาของผมบริสุทธิ์”เบนจามินหันไปมองหน้าคาวีเขารู้ว่าหมอหนุ่มคิดอะไรอยู่ถึงได้ออกตัวขนาดนี้ และเขาก็ขอยืนยันตรงนี้อย่างลูกผู้ชายว่าเขาไม่ไดคิดจะรวบสองอย่างที่คาวีคิด เขาแค่อยากดูแลครอบครัวของต้นรักก็เท่านั้น“คุณเข้าใจก็ดีแล้ว ยังไงเรื่องต้นหลิวถือว่าผมขอ”คาวีจะยอมเชื่อในสิ่งที่เบนจามินพูด แต่ยังไงต้นหลิวนั้นเขาก็ยังยืนยันว่าเขาจะเป็นคนจัดการดูแลเธอเอง“ต้นหลิวยังไม่รู้ใช่ไหมว่าคุณเป็นใคร ผู้หญิงเค้าชอบความจริงใจผมขอบอกไว้ก่อน”เบนจามินพอจะรู้ว่าคาวียังไม่เปิดเผยว่าตัวเองเป็นใครกับต้นหลิวเป็นแน่ เพราะไม่อย่างนั
“ถามทำไม”คาวีไม่คิดว่าหญิงสาวจะถามเขาเรื่องนี้ คิดว่าเธอจะคิดได้เองเสียอีกว่าเขามีหรือไม่มี“ก็ฉันเห็นคุณเลิกงานก็กลับบ้าน บางทีก็มาทานข้าวกับฉัน”“ก็ไม่มีน่ะสิ”“คุณไม่ลองมีบ้างล่ะ จะได้มีคนมานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนคุณแทนฉันไง”ต้นหลิวเห็นว่าถ้าหากชายหนุ่มมีแฟนอาจจะไม่ต้องลากเธอมาทานข้าวเป็นเพื่อนแบบนี้ก็ได้ เพราะอีกหน่อยเธอก็คงจะไม่ค่อยมีเวลามานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนของเขามากนัก“ก็บอกว่าไม่มี ไม่อยากมี”คาวีรู้สึกขัดใจที่หญิงสาวพยายามพูดยัดเยียดให้เขามีแฟนอยู่นั่น ทำอย่างกับว่าคนรู้ใจมันจะหาง่ายๆอย่างนั้น“อะไรของเค้ามาทำเสียงแข็งใส่อีก ไม่มีก็ไม่มีสิ”ต้นหลิวบ่นอู้อี้ที่ถูกชายหนุ่มก็เสียงแข็งใส่ จากนั้นเธอจึงตั้งตารออาหาร ไม่อยากพูดคุยกับอีกฝ่ายให้มากคำ เพราะเดาอารมณ์หมอหนุ่มไม่ถูกเพนท์เฮ้าส์หรู“นี่มันอะไรกันคะ”“ก็เธอบอกว่าอยากได้ขนม”ต้นรักเข้าห้องมาก็เห็นกองขนมขบเคี้ยวกับพวกช็อคโกแลตเต็มห้องไปหมดจึงหันมาถามชายหนุ่มแปลกใจว่าเขาจะซื้อมาทำไมเยอะแยะ เมื่อได้รับคำตอบจากเขาเธอถึงกับต้องส่ายหัว วันหลังหากเขาถามอะไรเธออีกเธอคงต้องอธิบายรายละเอียดว่าเธออยากได้อะไรปริมาณเท่าไรเสียแล้ว21.
“ก็คุณเบนบอกว่าทำแบบไหนก็ได้ ฉันเห็นว่ามันก็น่ารักดี คุณเบนไม่เอาก็ได้นะคะ”ต้นรักสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยจากที่ยิ้มร่าอยู่ตอนแรก เพราะเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่ดูจะไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นเสื้อที่เธอทำให้ก็เขาบอกเธอตอนแรกว่าเอาแบบไหนก็ได้ เธอเห็นว่าที่เธอทำมันก็น่ารักดี“ไม่...ฉันจะใส่”เบนจามินคิดว่าเขาผิดเองที่ไปบอกเธอว่าทำแบบไหนก็ได้ตั้งแต่แรก แต่ไม่เป็นไรยังไงเธอทำมาแล้วเขาก็ต้องใส่อยู่ดี พร้อมถอดเสื้อที่เขาใส่นั้นออกและสวมเสื้อไหมพรมที่หญิงสาวทำให้ทันที“อิ อิ น่ารักดีนะคะ”ต้นรักเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในเสื้อผ้าแบบนี้แล้วดูน่ารักไปอีกแบบ“อืม”เบนจามินไม่ค่อยได้ใส่เสื้อผ้าอะไรแบบนี้ จึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เขาสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกหลายรอบ ในเมื่อเป็นฝีมือของต้นรัก ยังไงเขาก็ต้องทำใจชอบให้ได้โรงแรม“เพอร์เฟคมากหลิว”“ค่ะพี่พิ้งค์”พิ้งกี้อดชมในฝีมือของต้นหลิวไม่ได้ที่ ออกแบบงานได้แปลกตาและสวยงามมากจริงๆ“ทางนี้คงจะเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราไปช่วยพี่ดูพวกนางแบบนายแบบทางนี้”“ค่ะ”พิ้งกี้เห็นว่าทางด้านหน้างานเรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ดูความเรียบร้อยของพวกนายแบบนางแบบให้พร้อมก็ไ
ตระกูลลอเปอร์“คุณพ่อเรียกผมเข้ามามีอะไรหรือเปล่าครับ”เบนจามินรีบเข้ามาที่บ้านใหญ่ของตระกูลอย่างเร่งด่วน เพราะทางนี้ติดต่อไปหาโจชัวว่ามีเรื่องด่วนจะคุยกับเขา“เรื่องหนูนิริน”“ถ้าจะเรียกผมมาคุยเรื่องนี้ผมขอไม่คุยนะครับ”เบนจามินได้ยินชื่อนี้เขาถึงกับเซ็ง อยากจะหันหน้ากลับเสียตอนที่พึ่งมา“แกจะยืดเยื้อเวลาไปจนถึงเมื่อไรฉันปล่อยให้แกใช้ชีวิตตามใจมามากแล้วนะ ทางเพื่อนฉันเค้าก็ถามมาแล้ว”นิรินเป็นลูกสาวของนราทรเพื่อนสนิทของบรูค เขาเคยสัญญากันเมื่อหลายปีก่อนว่าถ้าหากมีลูกจะให้หมั้นกัน แล้วตอนนี้ลูกของพวกเขาทั้งสองก็โตจนมีครอบครัวได้แล้ว แต่ทางเบนจามินยังไม่ยอมแต่งงานเสียที ทางด้านนราทรก็เร่งรัดมาแล้วทำให้บรูคต้องมาเร่งรัดลูกชายของเขาอีกที“ผมไม่เอาผู้หญิงแบบนั้นมาทำเมียหรอกครับ”เบนจามินยืนยันว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมแต่งกับนิรินเด็ดขาด“หนูนิรินเป็นยังไง เธอเหมาะสมกับแกแทบจะทุกอย่างเป็นผู้ดีมีสกุลขนาดนั้นแกยังต้องการอะไรอีก”บรูคเห็นว่านิรินนั้นเหมาะสมกับลูกชายของเขาทุกอย่าง ดีกว่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปแล้วลูกชายเขาไปคว้าแม่พริตตี้ที่ไหนไม่รู้มาทำเมีย“ยัยนั่นเสแสร้งเก่งจะตายไป”เบนจามินแทบจะรู
20 นาทีต่อมา“ดีขึ้นหรือยัง”“ค่ะ”“เราไปรู้จักกับคู่หมั้นคุณนิรินอย่างที่เธอกล่าวหาจริงหรือเปล่า”ตะวันเห็นว่าต้นรักเริ่มเงียบลงแล้วแต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่เล็กน้อย ด้วยความอยากรู้ว่าหญิงสาวเป็นผู้หญิงของเบนจามินตามที่นิรินมาหาเรื่องเธอหรือเปล่าจึงถามขึ้น“ฮึก...ฮือๆๆๆ”ต้นรักได้ยินแบบนั้นก็เหมือนกับมีดกรีดไปที่หัวใจของเธอที่เดิมจึงร้องออกมาอีกครั้งสะอื้นจนตัวโยน“โอเคๆพี่จะไม่ถาม”ตะวันฉวยโอกาสนี้กอดปลอบหญิงสาวอย่างแนบชิดเขาจะอาศัยจังหวะในช่วงที่หัวใจเธออ่อนแอนี่แหละเข้าหาหญิงสาว“ทำอะไร”ปั้กกก“โอ้ย...”เบนจามินเดินตามหาหญิงสาวตามจุดที่นิรินส่งข้อความมาบอก เมื่อเห็นภาพที่ชายแปลกหน้ากำลังกอดกุมหญิงสาวอยู่จึงเลือดขึ้นหน้า เดินดุ่มๆเข้าไปรั้งชายหนุ่มมาต่อยระบายอารมณ์“คุณเบนหยุดนะคะ”ต้นรักเห็นเบนจามินเงื้อหมัดจะชกตะวันอีกเธอจึงร้องห้ามเอาไว้ด้วยน้ำตา“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ห้ามใครแตะต้อง”เบนจามินยอมปล่อยตะวันพร้อมหันไปมองต้นรักด้วยสายตาขุ่นเคืองที่มาพลอดรักกับชายอื่นลับหลังเขา“อีกหน่อยถ้าคุณแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ”คำว่าผู้หญิงของเขาเธอไม่อยากได้ยินที่สุดเลยอดพูดประชดเรื