คฤหาสน์อินทวรนันท์
“คุณแม่ครับ”
กว่าจะขับรถกลับจากบ้านของต้นหลิวฝ่ารถติดมาถึงบ้านของเขาก็ใช้เวลานานพอสมควร ชายหนุ่มเห็นคุณแม่ของเขานั่งอยู่ด้านล่างพอดีเลยคิดว่าจะปรึกษาคนเป็นแม่เรื่องหญิงสาวเสียหน่อย
“กลับมาซะดึกเชียว ไปไหนมาเหรอลูก”
อมีนาไม่ค่อยเห็นลูกชายของเธอกลับบ้านดึกมาพักใหญ่ตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทย จึงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงปกติของคนเป็นแม่
“ไปทานข้าวบ้านเพื่อนมาครับ”
“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย”
อมีนาแอบแซวลูกชายเรื่องทานข้าวบ้านเพื่อน เธอรู้ว่าลูกชายเธอไม่ค่อยมีเพื่อนที่เมืองไทยเท่าไหร่ เพราะไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ
“ผู้หญิงครับ”
คาวีไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรคุณแม่ของเขาอยู่แล้ว
“.....”
อมีนาเห็นลูกชายของเธอตอบอย่างมั่นใจก็แอบส่งสายตาเชิงสงสัยให้
“เพื่อนจริงๆครับคุณแม่”
คาวีดูออกว่าสายตาของแม่เขาที่มองมาแบบนั้นมันคืออะไร จึงรีบยืนยันกับแม่ของเขาให้มั่นใจว่าเป็นเพื่อนจริงๆ เพราะตอนนี้สถานะของเขากับต้นหลิวมันยังอยู่แค่เท่านี้
“ผมมีเรื่องจะถามคุณแม่หน่อยครับ”
“อะไรเหรอลูก”
“คือพอดีเพื่อนผมเค้าเดือดร้อนเรื่องเงินแบบว่าพึ่งตกงานค่าใช้จ่ายเยอะแต่ไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากผม แบบนี้ต้องทำยังไงครับ”
“อืม...แม่ว่าถ้าหากเค้าไม่ยอมให้เราช่วยเรื่องเงินให้เราช่วยเรื่องอื่นดีไหม เช่นหางานให้เค้าอะไรแบบนี้ เพื่อนเราจบอะไรมาถ้าแม่พอจะช่วยได้ก็จะช่วย”
“จริงเหรอครับคุณแม่ อืม...เดี๋ยวผมไปหาข้อมูลก่อนนะครับว่าเธอจบอะไรมา ขอบคุณนะครับคุณแม่ ขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อนนะครับตอนนี้อยากพักมาก”
“จ้า”
อมีนารู้สึกว่าลูกชายแปลกๆตั้งแต่บอกเธอว่าไปทานข้าวบ้านเพื่อนแล้ว และที่มั่นใจว่าเพื่อนของลูกชายไม่ใช่เพื่อนธรรมดาเห็นจะเป็นเพราะลูกชายเธอคิดจะช่วยเหลืออยู่แล้วยังไม่รู้ว่าเพื่อนจบอะไรมาแบบนี้เธอต้องจับตามองเพื่อนของลูกชายเธอคนนี้เป็นพิเศษซะแล้วสิ
เช้าวันต่อมา
“รัก หลับสบายไหม”
ต้นหลิวกับพริกแกงมาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้พริกแกงอยากจะมาหาต้นรักด้วย หลังจากไม่ได้เจอกันจากวันที่เกิดเรื่อง
“โอเค...พริกแกงมาด้วยเหรอ”
ต้นรักยิ้มทักทายเพื่อนสาวที่มาพร้อมกับพี่สาวของเธอ
“ใครอ่ะแก”
พริกแกงหันไปตามเสียงคนเปิดประตูเธอเห็นผู้ชายหน้าฝรั่งตัวสูงขาวในชุดสีดำก็ถึงกับเบิกตาโพลง หันไปถามต้นหลิวว่าคนที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องเป็นใคร เพราะเธอรู้สึกถูกชะตาด้วยเสียแล้ว
“คนของคุณเบน ตามมาดูแลต้นรัก”
ต้นหลิวเห็นอาการเพื่อก็ดูออกว่าพริกแกงคิดอะไรอยู่
“หูย...งานดี”
พริกแกงแสดงออกจนอีกฝ่ายรู้ตัวและใครๆในห้องนี้ก็อมยิ้มให้กับพฤติกรรมของเธอ แต่ก็ไม่ได้มีใครเอ่ยอะไรออกมา
“นี่อาหารที่คุณต้นรักสั่งครับ”
ฮาเปอร์วางถุงกล่องอาหารที่ต้นรักสั่งให้ไปซื้อมาบนโต๊ะอาหารภายในห้อง
“ขอบคุณค่ะ คุณฮาเปอร์ทานด้วยกันสิคะ”
“เอ่อ...ครับ”
ต้นรักปฏิบัติกับฮาเปอร์เหมือนเพื่อนคนนึง ซึ่งชายหนุ่มก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้เพราะเป็นคำสั่งของเจ้านายว่าให้ตามใจหญิงสาว
“เอาเงินจากไหนมาซื้ออาหารเยอะแยะแบบนี้”
ต้นหลิวเห็นว่าอาหารที่ซื้อมามันค่อนข้างเยอะน้องสาวเธอก็ไม่ได้ทำงานแล้วเอาเงินมาจากไหนซื้อของพวกนี้
“ก็คุณเบนเค้าให้ฉันใช้เลยมีเงินซื้อ อะนี่หลิวเอาไว้ใช้นะคุณเบนฝากบอกว่าถ้าหลิวอยากได้เงินให้ขอได้เลย”
ต้นรักบอกคนเป็นพี่สาวตามความจริงว่าเบนจามินเป็นคนให้เงินเธอใช้และยื่นซองเงินที่ไม่หนามากให้พี่สาวของเธอพร้อมบอกสิ่งที่เบนจามินฝากบอกมา
“อืม...ฝากขอบคุณคุณเบนนะแต่หลิวไม่ได้มีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินรักเก็บไว้เถอะ”
ต้นหลิวซึ้งในน้ำใจของชายหนุ่ม แต่เธอคงจะรับเงินของเขาไว้ไม่ได้ แค่รู้ว่าเขาดีกับน้องสาวของเธอก็พอแล้ว
“คุณเบนของต้นรักก็ดีเหมือนกันเนอะ เลี้ยงแกคนเดียวไม่พอจะเลี้ยงพี่สาวแกด้วยอีก...อ้าวคุณหมอ”
พริกแกงรู้สึกชื่นชมเบนจามินเสียเหลือเกินที่ดูจะดีกับครอบครัวเพื่อนเธอมาก อย่างน้อยชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้ร้ายอย่างที่เธอคิดตอนแรก พลันสายตาเหลือบไปเห็นหมอหนุ่มเดินเข้ามาจึงทักขึ้น
“เอ่อ...ผมมากวนหรือเปล่าครับ”
คาวีเข้ามาโดยที่ไม่ได้เคาะประตูในมือของเขาถือกล่องอาหารเอาไว้เต็มทั้งสองมือหมายว่าจะซื้อมาฝากหญิงสาว แต่เข้ามาก็ได้เห็นทุกคนทานอาหารกันอยู่และยังได้ยินประโยคที่ทำให้เขาตะหงิดใจเล็กๆเรื่องที่เบนจามินดูแลทั้งครอบครัวของต้นรักด้วย
“ไม่หรอกค่ะ คุณหมอมีอะไรหรือเปล่าคะ”
ต้นรักยังส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้หมอหนุ่มอีกเช่นเคยพร้อมถามถึงธุระที่หมอหนุ่มเข้าห้องแม่เธอมาแต่เช้า
“อ๋อ...ไม่มีครับเชิญพวกคุณตามสบายเดี๋ยวยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ”
คาวีรีบตอบปฏิเสธพร้อมขอตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ วอาหารในมือของเขาคงจะต้องเก็บไว้ทานเองเสียแล้ว ต้นหลิวมองการกระทำของหมอหนุ่มอย่างสงสัย ทั้งยังนึกถึงอาหารในมือของเขาด้วยว่าซื้อมาทำไมเยอะแยะ
“ฮาเปอร์คุณทานเยอะๆเลยนะ ฉันแบ่งให้”
พริกแกงดูจะสนใจชายหนุ่มมากเป็นพิเศษ เห็นอาหารในกล่องของชายหนุ่มน้อยไปกลัวว่าคนตัวใหญ่อย่างเขาจะไม่อิ่มเลยรีบตักอาหารในกล่องของเธอให้ชายหนุ่มอย่างยินดี
“ขอบคุณครับ”
ฮาเปอร์ไม่ปฏิเสธหญิงสาวให้เป็นการเสียมารยาทอยู่แล้วเขายิ้มรับไมตรีจากหญิงสาวอย่างยินดี
“เหมือนพรหมลิขิตเลยเนอะ ฮาเปอร์กับพริกแกง ชื่อคล้องกันจังเลยเนอะพวกแกว่ามะ”
พริกแกงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จ้องชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มจนฮาเปอร์ต้องคอยหลบสายตาอยู่บ่อยครั้ง
“หืม...มันคล้องกันตรงไหน?”
ต้นหลิวส่ายหัวน้อยๆ พลางมองเพื่อนด้วยสายตาระอา ที่เพื่อนเธอเจอผู้ชายหล่อทีไรเป็นต้องเสียอาการทุกที
“.....”
ฮาเปอร์จำต้องกลั้นขำกับคำพูดของพริกแกง เขาเองก็เคยถูกผู้หญิงจู่โจมจีบก่อนซึ่งๆหน้าแบบนี้เป็นครั้งแรก เพราะปกติแล้วเขาจะชินกับผู้หญิงในคลับอะไรพวกนี้มากกว่า ที่ใช้เงินซื้อแล้วก็จบๆไป
2วันต่อมา
“คุณ”
คาวีเข้ามาหาต้นหลิวแต่เช้าเพราะวันนี้เขารู้ว่าเธอเฝ้าแม่เพียงคนเดียว ส่วนต้นรักนั้นกลับไปที่พักบ้าน ที่รู้ก็เพราะต้นรักเป็นคนบอกเขาเองเมื่อวาน
“คะ?”
ต้นหลิวเห็นว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่คาวีจะมาตรวจแม่ของเธอ จึงมีสีหน้าสงสัยว่าเขาอาจจะมีธุระอะไรกับเธอ
“คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”
“ใช่ ที่ฉันสมัครเอาไว้ก็ไม่เห็นจะเรียกสัมภาษณ์ซะที”
ต้นหลิวไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มจะมาถามเธอเรื่องนี้ทำไม
“พอดีเพื่อนผมเค้าทำงานอยู่ที่บริษัทจัดอีเว้น เค้าต้องการกราฟฟิกส์พอดีคุณไปสมัครดูสิ...นี่ใบสมัคร”
คาวีรีบยื่นใบสมัครของบริษัทเพื่อนของแม่เขาให้หญิงสาวทันที
“คุณรู้ได้ไงว่าฉันจบด้านนี้มา”ต้นหลิวจำได้ว่าเธอไม่เคยบอกกับชายหนุ่มนี่นาว่าเธอจบอะไรมาแปลกใจว่าเขารู้ได้อย่างไร“คุณต้นรักบอก คุณรีบไปสมัครเลย เค้ากำลังต้องการคน”เมื่อวานคาวีคุยรายละเอียดกับต้นรักเรียบร้อยหมดแล้วจึงได้รู้ว่าต้นหลิวนั้นจบอะไรมาและมีความสามารถทางด้านใดบ้าง“อ่อ...ขอบมากคุณนะคะ”ต้นหลิวพยักหน้าเข้าใจ ตอนนี้เธอก็มีหวังว่าจะมีงานทำเร็วๆนี้แล้วจึงหันไปส่งยิ้มขอบคุณชายหนุ่ม“อืม...ผมขอตัวก่อน”“ค่ะ”คาวีรู้สึกใจเต้นกับรอยยิ้มนี้อีกแล้ว สองพี่น้องคู่นี้เวลาที่ยิ้มอย่างจริงใจมันจะน่ามองเป็นพิเศษ พลางคิดในใจเรื่อยเปื่อยว่าหากหญิงสาวยิ้มให้เขาแบบนี้บ่อยๆก็คงจะดี“แม่จ๋า...ขอให้หนูได้งานนี้นะจ๊ะ”หลังจากที่หมอหนุ่มออกไปแล้วหญิงสาวก็เข้าไปกอดคนเป็นแม่ที่นอนอยู่บนเตียง ขอให้แม่ของเธออวยพรให้เธอโชคดีเรื่องงาน เพราะบริษัทที่ชายหนุ่มยื่นใบสมัครให้เธอค่อนข้างเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง หากได้ทำงานที่นี่คงจะได้เงินดีไม่ใช่น้อยคฤหาสน์อินทวรนันท์“เป็นยังไงบ้างลูก เพื่อนเราน่ะ”อมีนาเห็นลูกชายกลับมาถึงบ้านก็ถามไถ่ถึงเรื่องที่ลูกชายเธอมาปรึกษาสองวันติดๆ“เธอดีใจอยู่ไม่น้อยเลยครับคุณแม่”ค
โรงพยาบาล“คุณเบน”คาวีเห็นเบนจามินมาที่โรงพยาบาลพอดีเลยเดินเข้าไปหา คาดว่าเขาน่าจะมากับต้นรัก“หมอ”“ผมขอคุยด้วยหน่อย”“อืม ว่ามาเลย”เบนจามินมีสีหน้าสงสัยว่าหมอหนุ่มมีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา“เรื่องที่คุณยื่นมือมาดูแลทั้งต้นรักและต้นหลิวในเวลานี้ผมว่าคุณดูแลต้นรักคนเดียวจะดีกว่า ส่วนต้นหลิวผมขอดูแลเธอเอง”คาวีไม่ค่อยไว้ใจในการที่เบนจามินจะยื่นมือมาดูแลต้นหลิวเท่าไหร่ กิตติศัพท์เรื่องผู้หญิงของชายหนุ่มเขารู้ดี“เอาเป็นว่าผมเข้าใจ และผมก็รู้ด้วยว่าคุณคิดอะไรอยู่ ผมจะบอกกับคุณว่าเจตนาของผมบริสุทธิ์”เบนจามินหันไปมองหน้าคาวีเขารู้ว่าหมอหนุ่มคิดอะไรอยู่ถึงได้ออกตัวขนาดนี้ และเขาก็ขอยืนยันตรงนี้อย่างลูกผู้ชายว่าเขาไม่ไดคิดจะรวบสองอย่างที่คาวีคิด เขาแค่อยากดูแลครอบครัวของต้นรักก็เท่านั้น“คุณเข้าใจก็ดีแล้ว ยังไงเรื่องต้นหลิวถือว่าผมขอ”คาวีจะยอมเชื่อในสิ่งที่เบนจามินพูด แต่ยังไงต้นหลิวนั้นเขาก็ยังยืนยันว่าเขาจะเป็นคนจัดการดูแลเธอเอง“ต้นหลิวยังไม่รู้ใช่ไหมว่าคุณเป็นใคร ผู้หญิงเค้าชอบความจริงใจผมขอบอกไว้ก่อน”เบนจามินพอจะรู้ว่าคาวียังไม่เปิดเผยว่าตัวเองเป็นใครกับต้นหลิวเป็นแน่ เพราะไม่อย่างนั
“ถามทำไม”คาวีไม่คิดว่าหญิงสาวจะถามเขาเรื่องนี้ คิดว่าเธอจะคิดได้เองเสียอีกว่าเขามีหรือไม่มี“ก็ฉันเห็นคุณเลิกงานก็กลับบ้าน บางทีก็มาทานข้าวกับฉัน”“ก็ไม่มีน่ะสิ”“คุณไม่ลองมีบ้างล่ะ จะได้มีคนมานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนคุณแทนฉันไง”ต้นหลิวเห็นว่าถ้าหากชายหนุ่มมีแฟนอาจจะไม่ต้องลากเธอมาทานข้าวเป็นเพื่อนแบบนี้ก็ได้ เพราะอีกหน่อยเธอก็คงจะไม่ค่อยมีเวลามานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนของเขามากนัก“ก็บอกว่าไม่มี ไม่อยากมี”คาวีรู้สึกขัดใจที่หญิงสาวพยายามพูดยัดเยียดให้เขามีแฟนอยู่นั่น ทำอย่างกับว่าคนรู้ใจมันจะหาง่ายๆอย่างนั้น“อะไรของเค้ามาทำเสียงแข็งใส่อีก ไม่มีก็ไม่มีสิ”ต้นหลิวบ่นอู้อี้ที่ถูกชายหนุ่มก็เสียงแข็งใส่ จากนั้นเธอจึงตั้งตารออาหาร ไม่อยากพูดคุยกับอีกฝ่ายให้มากคำ เพราะเดาอารมณ์หมอหนุ่มไม่ถูกเพนท์เฮ้าส์หรู“นี่มันอะไรกันคะ”“ก็เธอบอกว่าอยากได้ขนม”ต้นรักเข้าห้องมาก็เห็นกองขนมขบเคี้ยวกับพวกช็อคโกแลตเต็มห้องไปหมดจึงหันมาถามชายหนุ่มแปลกใจว่าเขาจะซื้อมาทำไมเยอะแยะ เมื่อได้รับคำตอบจากเขาเธอถึงกับต้องส่ายหัว วันหลังหากเขาถามอะไรเธออีกเธอคงต้องอธิบายรายละเอียดว่าเธออยากได้อะไรปริมาณเท่าไรเสียแล้ว21.
“ก็คุณเบนบอกว่าทำแบบไหนก็ได้ ฉันเห็นว่ามันก็น่ารักดี คุณเบนไม่เอาก็ได้นะคะ”ต้นรักสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยจากที่ยิ้มร่าอยู่ตอนแรก เพราะเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่ดูจะไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นเสื้อที่เธอทำให้ก็เขาบอกเธอตอนแรกว่าเอาแบบไหนก็ได้ เธอเห็นว่าที่เธอทำมันก็น่ารักดี“ไม่...ฉันจะใส่”เบนจามินคิดว่าเขาผิดเองที่ไปบอกเธอว่าทำแบบไหนก็ได้ตั้งแต่แรก แต่ไม่เป็นไรยังไงเธอทำมาแล้วเขาก็ต้องใส่อยู่ดี พร้อมถอดเสื้อที่เขาใส่นั้นออกและสวมเสื้อไหมพรมที่หญิงสาวทำให้ทันที“อิ อิ น่ารักดีนะคะ”ต้นรักเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในเสื้อผ้าแบบนี้แล้วดูน่ารักไปอีกแบบ“อืม”เบนจามินไม่ค่อยได้ใส่เสื้อผ้าอะไรแบบนี้ จึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เขาสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกหลายรอบ ในเมื่อเป็นฝีมือของต้นรัก ยังไงเขาก็ต้องทำใจชอบให้ได้โรงแรม“เพอร์เฟคมากหลิว”“ค่ะพี่พิ้งค์”พิ้งกี้อดชมในฝีมือของต้นหลิวไม่ได้ที่ ออกแบบงานได้แปลกตาและสวยงามมากจริงๆ“ทางนี้คงจะเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราไปช่วยพี่ดูพวกนางแบบนายแบบทางนี้”“ค่ะ”พิ้งกี้เห็นว่าทางด้านหน้างานเรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ดูความเรียบร้อยของพวกนายแบบนางแบบให้พร้อมก็ไ
ตระกูลลอเปอร์“คุณพ่อเรียกผมเข้ามามีอะไรหรือเปล่าครับ”เบนจามินรีบเข้ามาที่บ้านใหญ่ของตระกูลอย่างเร่งด่วน เพราะทางนี้ติดต่อไปหาโจชัวว่ามีเรื่องด่วนจะคุยกับเขา“เรื่องหนูนิริน”“ถ้าจะเรียกผมมาคุยเรื่องนี้ผมขอไม่คุยนะครับ”เบนจามินได้ยินชื่อนี้เขาถึงกับเซ็ง อยากจะหันหน้ากลับเสียตอนที่พึ่งมา“แกจะยืดเยื้อเวลาไปจนถึงเมื่อไรฉันปล่อยให้แกใช้ชีวิตตามใจมามากแล้วนะ ทางเพื่อนฉันเค้าก็ถามมาแล้ว”นิรินเป็นลูกสาวของนราทรเพื่อนสนิทของบรูค เขาเคยสัญญากันเมื่อหลายปีก่อนว่าถ้าหากมีลูกจะให้หมั้นกัน แล้วตอนนี้ลูกของพวกเขาทั้งสองก็โตจนมีครอบครัวได้แล้ว แต่ทางเบนจามินยังไม่ยอมแต่งงานเสียที ทางด้านนราทรก็เร่งรัดมาแล้วทำให้บรูคต้องมาเร่งรัดลูกชายของเขาอีกที“ผมไม่เอาผู้หญิงแบบนั้นมาทำเมียหรอกครับ”เบนจามินยืนยันว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมแต่งกับนิรินเด็ดขาด“หนูนิรินเป็นยังไง เธอเหมาะสมกับแกแทบจะทุกอย่างเป็นผู้ดีมีสกุลขนาดนั้นแกยังต้องการอะไรอีก”บรูคเห็นว่านิรินนั้นเหมาะสมกับลูกชายของเขาทุกอย่าง ดีกว่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปแล้วลูกชายเขาไปคว้าแม่พริตตี้ที่ไหนไม่รู้มาทำเมีย“ยัยนั่นเสแสร้งเก่งจะตายไป”เบนจามินแทบจะรู
20 นาทีต่อมา“ดีขึ้นหรือยัง”“ค่ะ”“เราไปรู้จักกับคู่หมั้นคุณนิรินอย่างที่เธอกล่าวหาจริงหรือเปล่า”ตะวันเห็นว่าต้นรักเริ่มเงียบลงแล้วแต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่เล็กน้อย ด้วยความอยากรู้ว่าหญิงสาวเป็นผู้หญิงของเบนจามินตามที่นิรินมาหาเรื่องเธอหรือเปล่าจึงถามขึ้น“ฮึก...ฮือๆๆๆ”ต้นรักได้ยินแบบนั้นก็เหมือนกับมีดกรีดไปที่หัวใจของเธอที่เดิมจึงร้องออกมาอีกครั้งสะอื้นจนตัวโยน“โอเคๆพี่จะไม่ถาม”ตะวันฉวยโอกาสนี้กอดปลอบหญิงสาวอย่างแนบชิดเขาจะอาศัยจังหวะในช่วงที่หัวใจเธออ่อนแอนี่แหละเข้าหาหญิงสาว“ทำอะไร”ปั้กกก“โอ้ย...”เบนจามินเดินตามหาหญิงสาวตามจุดที่นิรินส่งข้อความมาบอก เมื่อเห็นภาพที่ชายแปลกหน้ากำลังกอดกุมหญิงสาวอยู่จึงเลือดขึ้นหน้า เดินดุ่มๆเข้าไปรั้งชายหนุ่มมาต่อยระบายอารมณ์“คุณเบนหยุดนะคะ”ต้นรักเห็นเบนจามินเงื้อหมัดจะชกตะวันอีกเธอจึงร้องห้ามเอาไว้ด้วยน้ำตา“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ห้ามใครแตะต้อง”เบนจามินยอมปล่อยตะวันพร้อมหันไปมองต้นรักด้วยสายตาขุ่นเคืองที่มาพลอดรักกับชายอื่นลับหลังเขา“อีกหน่อยถ้าคุณแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ”คำว่าผู้หญิงของเขาเธอไม่อยากได้ยินที่สุดเลยอดพูดประชดเรื
บ้านนราทร20.00 น.“แกไปสร้างเรื่องอะไรอีกล่ะ แค่ฉันต้องเร่งบรูคให้ลูกชายเค้ามาแต่งงานกับแกก็เกรงใจเค้าจะแย่อยู่แล้ว เพราะฉันรู้ว่าเบนจามินไม่สนใจแกเลยสักนิด ทำตัวให้มันสมกับเป็นลูกฉันหน่อย”นราทรนั่งอยู่บนรถเข็นเพราะเขาเดินไม่ได้มาสักพักเมื่อเห็นลูกสาวคนเดียวของเขาเดินออกมาจากห้องได้ก็ถือโอกาสต่อว่าเรื่องข่าวที่เขาพึ่งรู้มาเสียหน่อย เพราะเขารู้สึกว่าลูกสาวของเขานับวันๆยิ่งแต่จะควบคุมไม่อยู่“นิจะทำอะไรมันก็เรื่องของนิ นิว่าคุณพ่อเอาเวลาไปรักษาตัวแล้วก็รอฟังข่าวดีจากนิดีกว่านะคะ”นิรินไม่ได้สนใจคำของพ่อเธอเลยสักนิด ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะออกไปเที่ยวหาความสุขนอกบ้านแล้ว เมื่อพูดจาหักหารน้ำใจคนเป็นพ่อเสร็จก็ออกไปจากบ้านอย่างหน้าตาเฉย“ฉันเตือนแกแล้วนะ”นราทรตะโกนให้หลังคนเป็นลูกสาวเขารู้ว่าคนอย่างเบนจามินไม่ยอมให้ลูกสาวของเขาข่มอยู่ฝ่ายเดียวแน่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาไม่น่ารับปากกับเพื่อนของเขาแบบนั้นเลย“ปล่อยคุณหนูไปก่อนเถอะค่ะคุณทร”ป้าจิตแม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยของทุกอย่างบ้านนี้รู้ดีว่าคนอย่างนิรินเป็นอย่างไร ด้วยความที่ไม่มีแม่ตั้งแต่เล็กๆแถมพ่อก็ยังเอาแต่ทำงานเลี้ยงนิรินมาด้วย
“ก็ฉันพูดเรื่องจริง ฉันจะแต่งงานกับเธอจริงๆนะ เธอไม่ดีใจหรือไง แล้วเรื่องของเราที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันเป็นอดีตไปอย่ารื้อมาเล่าให้แม่เธอฟังแล้วไม่สบายใจเลย มันดีต่อแม่เธอแล้วก็พี่สาวเธอด้วย”เบนจามินไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมีทีท่าที่ดีใจสักนิดเมื่อเขาบอกกับแม่ของเธอว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ กลับทำสีหน้าตกใจและดูท่าจะงอนเขาอีกด้วยซ้ำ“เรื่องนั้นไม่พูดถึงมันฉันก็ว่าดีค่ะ...แต่เรื่องแต่งงานนี่สิคะทำไมไม่ถามฉันก่อนแล้วทางบ้านคุณจะว่ายังไง”ต้นรักคอนข้างเห็นด้วยกับเหตุผลขอชายหนุ่มที่ไม่เล่าเรื่องอดีตให้แม่ของเธอฟังแต่ยังไงเรื่องแต่งงานเธอคิดว่าชายหนุ่มควรจะเกริ่นบอกเธอก่อนก็ยังดี ตอนนี้แม่เธอก็รู้เรื่องไปแล้วด้วย หากวันนึงมันเป็นไปไม่ได้แล้วแม่เธอจะรู้สึกยังไง“ยังไงฉันเชื่อว่าครอบครัวฉันต้องชอบเธอแน่นอนเธอไม่ต้องกังวล”เบนจามินคิดว่าถ้าหากคนในครอบครัวของเขาได้รู้จักต้นรักจริงๆจะต้องรักเธอเหมือนที่เขารักเป็นแน่เขาเชื่อแบบนั้น“แล้วคุณเบนแน่ใจเหรอคะว่าอยากมีครอบครัว...ถ้าแต่งงานแล้วคุณเกิดเบื่อฉันขึ้นมาถึงวันนั้นฉันคงจะเสียใจมาก...”ต้นรักอยากถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขาอยากจะมีครอบครัวจริงหรือเปล