Share

ตอนที่10 แค่เพื่อน

คฤหาสน์อินทวรนันท์

“คุณแม่ครับ”

กว่าจะขับรถกลับจากบ้านของต้นหลิวฝ่ารถติดมาถึงบ้านของเขาก็ใช้เวลานานพอสมควร ชายหนุ่มเห็นคุณแม่ของเขานั่งอยู่ด้านล่างพอดีเลยคิดว่าจะปรึกษาคนเป็นแม่เรื่องหญิงสาวเสียหน่อย

“กลับมาซะดึกเชียว ไปไหนมาเหรอลูก”

อมีนาไม่ค่อยเห็นลูกชายของเธอกลับบ้านดึกมาพักใหญ่ตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทย จึงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงปกติของคนเป็นแม่

“ไปทานข้าวบ้านเพื่อนมาครับ”

“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย”

อมีนาแอบแซวลูกชายเรื่องทานข้าวบ้านเพื่อน เธอรู้ว่าลูกชายเธอไม่ค่อยมีเพื่อนที่เมืองไทยเท่าไหร่ เพราะไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ

“ผู้หญิงครับ”

คาวีไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรคุณแม่ของเขาอยู่แล้ว

“.....”

อมีนาเห็นลูกชายของเธอตอบอย่างมั่นใจก็แอบส่งสายตาเชิงสงสัยให้

“เพื่อนจริงๆครับคุณแม่”

คาวีดูออกว่าสายตาของแม่เขาที่มองมาแบบนั้นมันคืออะไร จึงรีบยืนยันกับแม่ของเขาให้มั่นใจว่าเป็นเพื่อนจริงๆ เพราะตอนนี้สถานะของเขากับต้นหลิวมันยังอยู่แค่เท่านี้

“ผมมีเรื่องจะถามคุณแม่หน่อยครับ”

“อะไรเหรอลูก”

“คือพอดีเพื่อนผมเค้าเดือดร้อนเรื่องเงินแบบว่าพึ่งตกงานค่าใช้จ่ายเยอะแต่ไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากผม แบบนี้ต้องทำยังไงครับ”

“อืม...แม่ว่าถ้าหากเค้าไม่ยอมให้เราช่วยเรื่องเงินให้เราช่วยเรื่องอื่นดีไหม เช่นหางานให้เค้าอะไรแบบนี้ เพื่อนเราจบอะไรมาถ้าแม่พอจะช่วยได้ก็จะช่วย”

“จริงเหรอครับคุณแม่ อืม...เดี๋ยวผมไปหาข้อมูลก่อนนะครับว่าเธอจบอะไรมา ขอบคุณนะครับคุณแม่ ขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อนนะครับตอนนี้อยากพักมาก”

“จ้า”

อมีนารู้สึกว่าลูกชายแปลกๆตั้งแต่บอกเธอว่าไปทานข้าวบ้านเพื่อนแล้ว และที่มั่นใจว่าเพื่อนของลูกชายไม่ใช่เพื่อนธรรมดาเห็นจะเป็นเพราะลูกชายเธอคิดจะช่วยเหลืออยู่แล้วยังไม่รู้ว่าเพื่อนจบอะไรมาแบบนี้เธอต้องจับตามองเพื่อนของลูกชายเธอคนนี้เป็นพิเศษซะแล้วสิ

เช้าวันต่อมา

“รัก หลับสบายไหม”

ต้นหลิวกับพริกแกงมาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้พริกแกงอยากจะมาหาต้นรักด้วย หลังจากไม่ได้เจอกันจากวันที่เกิดเรื่อง

“โอเค...พริกแกงมาด้วยเหรอ”

ต้นรักยิ้มทักทายเพื่อนสาวที่มาพร้อมกับพี่สาวของเธอ

“ใครอ่ะแก”

พริกแกงหันไปตามเสียงคนเปิดประตูเธอเห็นผู้ชายหน้าฝรั่งตัวสูงขาวในชุดสีดำก็ถึงกับเบิกตาโพลง หันไปถามต้นหลิวว่าคนที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องเป็นใคร เพราะเธอรู้สึกถูกชะตาด้วยเสียแล้ว

“คนของคุณเบน ตามมาดูแลต้นรัก”

ต้นหลิวเห็นอาการเพื่อก็ดูออกว่าพริกแกงคิดอะไรอยู่

“หูย...งานดี”

พริกแกงแสดงออกจนอีกฝ่ายรู้ตัวและใครๆในห้องนี้ก็อมยิ้มให้กับพฤติกรรมของเธอ แต่ก็ไม่ได้มีใครเอ่ยอะไรออกมา

“นี่อาหารที่คุณต้นรักสั่งครับ”

ฮาเปอร์วางถุงกล่องอาหารที่ต้นรักสั่งให้ไปซื้อมาบนโต๊ะอาหารภายในห้อง

“ขอบคุณค่ะ คุณฮาเปอร์ทานด้วยกันสิคะ”

“เอ่อ...ครับ”

ต้นรักปฏิบัติกับฮาเปอร์เหมือนเพื่อนคนนึง ซึ่งชายหนุ่มก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้เพราะเป็นคำสั่งของเจ้านายว่าให้ตามใจหญิงสาว

“เอาเงินจากไหนมาซื้ออาหารเยอะแยะแบบนี้”

ต้นหลิวเห็นว่าอาหารที่ซื้อมามันค่อนข้างเยอะน้องสาวเธอก็ไม่ได้ทำงานแล้วเอาเงินมาจากไหนซื้อของพวกนี้

“ก็คุณเบนเค้าให้ฉันใช้เลยมีเงินซื้อ อะนี่หลิวเอาไว้ใช้นะคุณเบนฝากบอกว่าถ้าหลิวอยากได้เงินให้ขอได้เลย”

ต้นรักบอกคนเป็นพี่สาวตามความจริงว่าเบนจามินเป็นคนให้เงินเธอใช้และยื่นซองเงินที่ไม่หนามากให้พี่สาวของเธอพร้อมบอกสิ่งที่เบนจามินฝากบอกมา

“อืม...ฝากขอบคุณคุณเบนนะแต่หลิวไม่ได้มีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินรักเก็บไว้เถอะ”

ต้นหลิวซึ้งในน้ำใจของชายหนุ่ม แต่เธอคงจะรับเงินของเขาไว้ไม่ได้ แค่รู้ว่าเขาดีกับน้องสาวของเธอก็พอแล้ว

“คุณเบนของต้นรักก็ดีเหมือนกันเนอะ เลี้ยงแกคนเดียวไม่พอจะเลี้ยงพี่สาวแกด้วยอีก...อ้าวคุณหมอ”

พริกแกงรู้สึกชื่นชมเบนจามินเสียเหลือเกินที่ดูจะดีกับครอบครัวเพื่อนเธอมาก อย่างน้อยชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้ร้ายอย่างที่เธอคิดตอนแรก พลันสายตาเหลือบไปเห็นหมอหนุ่มเดินเข้ามาจึงทักขึ้น

“เอ่อ...ผมมากวนหรือเปล่าครับ”

คาวีเข้ามาโดยที่ไม่ได้เคาะประตูในมือของเขาถือกล่องอาหารเอาไว้เต็มทั้งสองมือหมายว่าจะซื้อมาฝากหญิงสาว แต่เข้ามาก็ได้เห็นทุกคนทานอาหารกันอยู่และยังได้ยินประโยคที่ทำให้เขาตะหงิดใจเล็กๆเรื่องที่เบนจามินดูแลทั้งครอบครัวของต้นรักด้วย

“ไม่หรอกค่ะ คุณหมอมีอะไรหรือเปล่าคะ”

ต้นรักยังส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้หมอหนุ่มอีกเช่นเคยพร้อมถามถึงธุระที่หมอหนุ่มเข้าห้องแม่เธอมาแต่เช้า

“อ๋อ...ไม่มีครับเชิญพวกคุณตามสบายเดี๋ยวยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ”

คาวีรีบตอบปฏิเสธพร้อมขอตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ วอาหารในมือของเขาคงจะต้องเก็บไว้ทานเองเสียแล้ว ต้นหลิวมองการกระทำของหมอหนุ่มอย่างสงสัย ทั้งยังนึกถึงอาหารในมือของเขาด้วยว่าซื้อมาทำไมเยอะแยะ

“ฮาเปอร์คุณทานเยอะๆเลยนะ ฉันแบ่งให้”

พริกแกงดูจะสนใจชายหนุ่มมากเป็นพิเศษ เห็นอาหารในกล่องของชายหนุ่มน้อยไปกลัวว่าคนตัวใหญ่อย่างเขาจะไม่อิ่มเลยรีบตักอาหารในกล่องของเธอให้ชายหนุ่มอย่างยินดี

“ขอบคุณครับ”

ฮาเปอร์ไม่ปฏิเสธหญิงสาวให้เป็นการเสียมารยาทอยู่แล้วเขายิ้มรับไมตรีจากหญิงสาวอย่างยินดี

“เหมือนพรหมลิขิตเลยเนอะ ฮาเปอร์กับพริกแกง ชื่อคล้องกันจังเลยเนอะพวกแกว่ามะ”

พริกแกงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จ้องชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มจนฮาเปอร์ต้องคอยหลบสายตาอยู่บ่อยครั้ง

“หืม...มันคล้องกันตรงไหน?”

ต้นหลิวส่ายหัวน้อยๆ พลางมองเพื่อนด้วยสายตาระอา ที่เพื่อนเธอเจอผู้ชายหล่อทีไรเป็นต้องเสียอาการทุกที

“.....”

ฮาเปอร์จำต้องกลั้นขำกับคำพูดของพริกแกง เขาเองก็เคยถูกผู้หญิงจู่โจมจีบก่อนซึ่งๆหน้าแบบนี้เป็นครั้งแรก เพราะปกติแล้วเขาจะชินกับผู้หญิงในคลับอะไรพวกนี้มากกว่า ที่ใช้เงินซื้อแล้วก็จบๆไป

2วันต่อมา

“คุณ”

คาวีเข้ามาหาต้นหลิวแต่เช้าเพราะวันนี้เขารู้ว่าเธอเฝ้าแม่เพียงคนเดียว ส่วนต้นรักนั้นกลับไปที่พักบ้าน ที่รู้ก็เพราะต้นรักเป็นคนบอกเขาเองเมื่อวาน

“คะ?”

ต้นหลิวเห็นว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่คาวีจะมาตรวจแม่ของเธอ จึงมีสีหน้าสงสัยว่าเขาอาจจะมีธุระอะไรกับเธอ

“คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”

“ใช่ ที่ฉันสมัครเอาไว้ก็ไม่เห็นจะเรียกสัมภาษณ์ซะที”

ต้นหลิวไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มจะมาถามเธอเรื่องนี้ทำไม

“พอดีเพื่อนผมเค้าทำงานอยู่ที่บริษัทจัดอีเว้น เค้าต้องการกราฟฟิกส์พอดีคุณไปสมัครดูสิ...นี่ใบสมัคร”

คาวีรีบยื่นใบสมัครของบริษัทเพื่อนของแม่เขาให้หญิงสาวทันที

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status