“ก็ฉันพูดเรื่องจริง ฉันจะแต่งงานกับเธอจริงๆนะ เธอไม่ดีใจหรือไง แล้วเรื่องของเราที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันเป็นอดีตไปอย่ารื้อมาเล่าให้แม่เธอฟังแล้วไม่สบายใจเลย มันดีต่อแม่เธอแล้วก็พี่สาวเธอด้วย”
เบนจามินไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมีทีท่าที่ดีใจสักนิดเมื่อเขาบอกกับแม่ของเธอว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ กลับทำสีหน้าตกใจและดูท่าจะงอนเขาอีกด้วยซ้ำ
“เรื่องนั้นไม่พูดถึงมันฉันก็ว่าดีค่ะ...แต่เรื่องแต่งงานนี่สิคะทำไมไม่ถามฉันก่อนแล้วทางบ้านคุณจะว่ายังไง”
ต้นรักคอนข้างเห็นด้วยกับเหตุผลขอชายหนุ่มที่ไม่เล่าเรื่องอดีตให้แม่ของเธอฟังแต่ยังไงเรื่องแต่งงานเธอคิดว่าชายหนุ่มควรจะเกริ่นบอกเธอก่อนก็ยังดี ตอนนี้แม่เธอก็รู้เรื่องไปแล้วด้วย หากวันนึงมันเป็นไปไม่ได้แล้วแม่เธอจะรู้สึกยังไง
“ยังไงฉันเชื่อว่าครอบครัวฉันต้องชอบเธอแน่นอนเธอไม่ต้องกังวล”
เบนจามินคิดว่าถ้าหากคนในครอบครัวของเขาได้รู้จักต้นรักจริงๆจะต้องรักเธอเหมือนที่เขารักเป็นแน่เขาเชื่อแบบนั้น
“แล้วคุณเบนแน่ใจเหรอคะว่าอยากมีครอบครัว...ถ้าแต่งงานแล้วคุณเกิดเบื่อฉันขึ้นมาถึงวันนั้นฉันคงจะเสียใจมาก...”
ต้นรักอยากถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขาอยากจะมีครอบครัวจริงหรือเปล่า เธอแอบคิดอยู่ในใจลึกๆหากวันหนึ่งที่เขาเบื่อเธอขึ้นมาวันนั้นเธอจะมีสภาพเป็นอย่างไร
“ไม่มีวันนั้นหรอก ฉันเลือกแล้วก็คือเลือกแล้ว และก็ไม่ต้องกังวลว่าฉันจะไปยุ่งกับใคร เพราะฉันจะไม่ทำแบบนั้นถ้ามีครอบครัวแล้ว”
เบนจามินรู้ตัวดีว่าเขาทำอะไรอยู่ ถ้าเขาเลือกที่จะมีครอบครัวเขาก็ต้องทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี นิสัยที่ไม่ดีของเขาในตอนที่ยังไม่ได้เจอหญิงสาวเขาจะทิ้งมันไปให้หมด
“ไม่กี่วันคุณย่าฉันก็มาเมืองไทยแล้ว ฉันบอกกับท่านว่าจะพาเธอไปเจอเตรียมตัวไว้นะ ฉันว่าคุณย่าต้องชอบเธอมากแน่ๆ”
“ค่ะ...”
“เรากลับกันเถอะ”
เบนจามินมีธุระต้องเข้าไปที่บริษัทในช่วงเย็นจึงต้องรีบพาหญิงสาวกลับ
ทางด้านนิริน
เสียงโทรศัพท์มือถือ...
“หาจังหวะแล้วจัดการมันได้ทันที”
นิรินนั่งคุยโทรศัพท์สั่งงานใครบางคนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตอนนี้เธอคับแค้นใจมากที่รู้ว่าข่าวทั้งหมดเป็นฝีมือของเบนจามิน และเธอก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆด้วย เมื่อเธอไม่มีทางได้เบนจามินเธอเองก็จะทำให้ใครไม่ต้องได้เขาเหมือนกัน
“เดี๋ยวจอดที่ร้านสะดวกซื้อตรงหน้านี้ด้วยนะคะ พอดีของใช้ในครัวหมดฉันขอไปซื้อแปปเดียวค่ะ”
เมื่อเบนจามินขับรถพาต้นรักออกมาจากโรงพยาบาลพักใหญ่แล้วหญิงสาวพึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าของในครัวนั้นมีบางอย่างที่มันหมดจึงขอให้ชายหนุ่มจอดที่ร้านสะดวกซื้อที่กำลังจะถึง
“ฉันรอในรถนะ”
“ค่ะ”
เบนจามินเห็นว่าหญิงสาวน่าจะไปไม่นานเขาจึงขอรอในรถจะดีกว่าเพราะเข้าไปก็จะไปเกะกะเธอเปล่าๆ ของใช้ในครัวเขาก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเหมือนผู้หญิงเสียด้วย
“หืม...”
เบนจามินมองไปอีกฝั่งของถนนเขาเห็นมีลูกแมวตัวเล็กกำลังจะเดินข้าม เขากลัวว่ามันอาจจะเกิดอันตรายหากปล่อยให้มันข้ามไปตัวเดียวแบบนั้น จึงลงจากรถหมายที่จะข้ามไปอีกฝั่ง แต่จู่ๆก็มีรถขับมาด้วยความเร็วชนร่างของชายหนุ่มเข้าอย่างจัง
ปัง ว๊าย...
ช่วยด้วยคนโดนรถชน
ผู้คนแถวนั้นต่างแตกตื่นกันวุ่นไปหมดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่โดนรถชนเข้าอย่างจังกระเด็นไปไกลและนอนแน่นิ่งอยู่กับที่พลเมืองดีต่างพากันเข้าไปดูและเรียกรถกู้ภัยกันเจ้าละหวั่น
ต้นรักเองออกมาจากร้านสะดวกซื้อก็สังเกตเห็นคนกำลังมุงดูอะไรบางอย่างและกำลังแตกตื่นเธอจึงเดินกลับไปที่รถของชายหนุ่มหมายจะถามสาเหตุจากเขาแต่ก็ไม่เห็นเขาอยู่บนรถ จึงไปมุงดูคนในที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นว่าเป็นใครนอนจมกองเลือดอยู่ถึงกับขาอ่อนนั่งลงไปกองกับพื้น
“คุณเบน!!”
โรงพยาบาล
ใช้เวลาไม่นานรถกู้ภัยก็พาร่างที่ไม่ได้สติของเบนจามินมาส่งที่โรงพยาบาล
“ช่วยคุณเบนให้ได้นะคะคุณหมอ”
ต้นรักเจอกับคาวีเธอก็ร้องห่มร้องให้พูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่องเพราะตอนนี้เธอแทบสติหลุดไปแล้วเมื่อเห็นชายหนุ่มในสภาพแบบนั้น
“ผมจะทำให้เต็มที่ครับคุณต้นรักใจเย็นๆก่อนนะครับ เดี๋ยวผมต้องขอตัวก่อน”
คาวีเองจำเป็นต้องให้ต้นรักนั่งพักและให้เธอใจเย็นๆก่อนส่วนเขาก็ต้องรีบไปดูเบนจามินให้เร็วที่สุด
“ฮือๆๆๆ...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย”
ต้นรักร้องให้โฮหน้าห้องฉุกเฉินอย่างไม่อายใคร เธอไม่คิดว่าเรื่องร้ายๆแบบนี้จะเกิดกับชายหนุ่มในเวลานี้
“คุณต้นรัก”
ฮาเปอร์และโจชัวรู้ข่าวก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันทีด้วยความเป็นห่วงเจ้านายหนุ่ม เมื่อเห็นสภาพของหญิงสาวพวกเขาก็พอจะรู้ว่าอาการของเจ้านายของเขานั้นคงจะหนักเอาการ
“ไปเรียกพยาบาลเร็ว”
ฮาเปอร์รีบไปประคองต้นรักที่กำลังจะล้มตัวลง พร้อมบอกกับโจชัวให้เรียกพยาบาลเพื่อมาปฐมพยาบาลหญิงสาว
สองชั่วโมงต่อมา
“ลูกอาเป็นยังไงบ้างคาวี”
บรูครู้ข่าวจากโจชัวก็รีบร้อนมาที่โรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ เมื่อมาถึงเจอกับคาวีพอดีจึงรีบเข้าไปถามไถ่อาการเพราะอยากจะรู้ว่าลูกชายคนเดียวของเขาอาการเป็นอย่างไรบ้าง
“ตอนนี้คุณเบนสมองได้รับการกระทบกระเทือนหนักครับ ผมกับทีมแพทย์กำลังเร่งมือช่วยอยู่ครับ ยังไงคุณอาอย่าพึ่งกังวลไปก่อนเพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน”
คาวีไม่อยากพูดอะไรมากในตอนนี้เพราะกลัวว่าคนตรงหน้าที่เป็นกังวลอยู่แล้วจะเป็นกังวลหนักเข้าไปอีก เขาเองในตอนนี้ก็ค่อนข้างเครียดกับแผลบาดเจ็บของเบนจามินเช่นกัน
“อาจะรอฟังข่าวดีนะคาวี”
“ครับ”
บรูคบีบมือคาวีอย่างมีความหวัง เขาเชื่อในมือของหมอโรงพยาบาลนี้ยังไงลูกชายของเขาก็ต้องไม่เป็นอะไร
22.00 น.
“ได้เรื่องแล้วครับคุณบรูค”
ฮาปอร์และโจชัวใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็จัดการกับคนที่มันทำร้ายเบนจามินได้และสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ยังเป็นสิ่งที่พวกเขาเองก็ทำใจให้ยอมรับไม่ได้ด้วย
“ว่ามา”
“ทุกอย่างคุณนิรินเป็นคนบงการครับ”
“อืม แล้วฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”
บรูคได้ยินเช่นนั้นเขาถึงกับต้องถอนหายใจยาวๆให้กับเรื่องนี้ เขาขอเป็นคนที่จัดการทุกอย่างในเรื่องนี้เองว่าจะเอายังไงต่อไป ถ้าหากทำกันถึงขนาดนี้อะไรที่เคยสัญญากันไว้เขาคงจะต้องยกเลิก
เช้าวันต่อมา
“ทานข้าวหน่อยนะรัก”
ต้นหลิวนั่งปลอบต้นรักอยู่ที่โรงพยาบาลเธอเห็นน้องสาวเธอเป็นแบบนี้ก็ไม่ค่อยสบายใจ ข้าวปลาก็ไม่ยอมทานเอาแต่ร้องให้น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย
“ค...เค้าไม่...หิวหรอก...หลิว”
ต้นรักพูดไปสะอื้นไปเธอไม่มีอารมณ์ทานอะไรทั้งนั้น
“ไม่ได้ถ้าแม่รู้ว่ารักเป็นแบบนี้แม่จะไม่สบายใจนะ”
“ก...ก็ได้”
ต้นหลิวต้องเอาชื่อแม่เข้ามาอ้างไม่อย่างนั้นน้องเธอก็คงจะไม่ยอมทานอะไรแน่นอนให้เธอบังคับตายก็เถอะถึงจะทานข้าวไปสะอื้นไปก็ยังดีกว่าไม่ทานอะไรเลย
“คุณต้นรัก”
คาวีกำลังเดินตามหาต้นรักอยู่พอดีพลันสายตาเห็นต้นหลิวอยู่เป็นเพื่อนต้นรักเขาก็สบายใจ
“หมอคะ คุณเบนเป็นยังไงบ้าง”ต้นรักเห็นหมอหนุ่มก็รีบถามอาการของเบนจามินทันทีเพราะเธอรอฟังมาทั้งคืนแล้ว“ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วครับ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้ฟื้นเท่านั้นแหละครับ”คาวีถือว่าเบนจามินใจสู้มากทำให้การรักษาผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็แค่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดก็เท่านั้น“รู้แบบนี้ก็สบายใจได้แล้วนะรัก”ต้นหลิวหันไปบอกกับคนเป็นน้องสาวเธอเองก็โล่งอกเหมือนกันที่ได้รู้แบบนี้น้องเธอจะได้เลิกร้องให้เสียที“ผมขอตัวก่อนนะครับ”คาวีรู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้นานคงไม่ดีเป็นแน่ เพราะรู้ว่าต้นหลิวคงไม่อยากจะเจอหน้าเขาสักเท่าไหร่ หลังจากวันนั้นที่เธอรู้ความจริงว่าเขาเป็นใครเธอก็เอาแต่หลบหน้าตลอด แม้แต่ตอนที่เขาเข้าไปตรวจอนงค์แล้วเจอต้นหลิว หญิงสาวก็จะขอตัวออกไปข้างนอกตลอดเลยไม่เคยได้พูดคุยกันเหมือนอย่างเคยเขาเองไม่ได้คิดจะไปยุ่งอะไรกับเธอหากต้นหลิวสบายใจที่จะเป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากกวนใจเธอ แต่ยังไงเรื่องที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเธอนั้นเขาก็ยังช่วยเหลือเธออยู่ตลอดเวลา“แกเห็นไหมว่าที่ลูกสะใภ้แกแสบแค่ไหน”เอมม่ากลับมาเพราะหลานชายคนเดียวของเธอบอกว่ามีข่าวดีจะบอก แต่เมื่อมาถึงกลับได้ฟังข
บริษัท“เดินเชิดหน้าสั่งงานคนโน้นคนนี้นึกว่ามีความสามารถ สุดท้ายก็เด็กเส้น”บอลลูนสาวสวยประจำออฟฟิศที่ดีแต่แต่งหน้าหาลูกค้าไปวันๆ รู้สึกเขม่นต้นหลิวตั้งแต่เข้ามาทำงานแล้ว ที่ดูมีผลงานดีจนเกินหน้าเกินตาเธอแถมเรื่องที่เธอพึ่งจะไปรู้มาก็ทำให้คุยกันกับพวกคนในออฟฟิศสนุกปากอีกด้วย“คือด่าฉันว่างั้น”“อืม...”“ฉันสัมภาษณ์งานเข้ามา ไม่ใช่เอะอะก็จะได้มาทำงานเลยรู้เอาไว้ด้วย”ต้นหลิวชักเหลืออดกับคนพวกนี้เสียแล้ว เธอรู้ว่าพวกของบอลลูนไม่ชอบหน้าเธอ แต่เธอเองก็พยายามใจเย็นมาหลายครั้งแต่ครั้งนี้มันสุดแล้วจริงๆ“ถ้าหมอคาวีไม่รู้จักกับคุณเอมอร เธอก็ไม่ได้เสนอหน้าอยู่ที่นี่หรอกนะ”บอลลูนยังกระแนะกระแหนต้นหลิวอย่างลอยหน้าลอยตาด้วยความสะใจ“หมอคาวีเกี่ยวอะไรด้วย”คำพูดของบอลลูนทำให้ต้นหลิวสงสัยหนักว่าเขาเกี่ยวอะไรด้วย“ทั้งงานที่เธอได้ก็เพราะคุณหมอ เงินเดือนที่สูงลิ่วของเธออีกไปทำอีท่าไหนมาได้ล่ะ”บอลลูนบอกเรื่องทั้งหมดที่เธอได้รู้มาให้หญิงสาวได้ยินเสียงดังฟังชัด และกะว่าจะให้คนที่อยู่ในออฟฟิศนี้ได้ยินไปด้วยจะได้รู้ว่าหญิงสาวเข้ามาทำงานที่นี่โดยใช้เส้น“......”ต้นหลิวรู้สึกเสียหน้าอย่างมากเมื่อรู้ว่าคา
โรงพยาบาล“คุณต้นรักครับ”“อ้าวคุณโจชัว วันนี้ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”ต้นรักค่อนข้างแปลกใจที่โจชัวมาอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่ที่บริษัท“คุณบรูคให้ผมมาดูแลคุณเพราะตอนนี้ไม่ทราบว่าคุณนิรินจะทำอะไรอีกครับ”โจชัวได้รับคำสั่งจากบรูคให้มาคอยดูแลต้นรักอยู่ที่โรงพยาบาลระหว่างที่หญิงสาวเฝ้าเบนจามินกับแม่ของเธออยู่ เพราะรู้ว่านิรินไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่จากคำบอกเล่าของนราทร“อ่อ ค่ะ แต่ต้นหลิวล่ะคะ”ต้นรักเข้าใจที่โจชัวพูดแต่เธอก็ฉุกคิดได้ว่านิรินยังไม่รู้ว่าเธอมีคู่แฝด ถ้าหากนิรินจ้องจะทำอะไรเธอต้นหลิวก็ต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย“จริงสิ ฮาเปอร์นายไปคอยดูคุณต้นหลิวด่วน”“โอเค ฉันจะรีบไป”โจชัวลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทจึงรีบให้ฮาเปอร์ไปดูแลต้นหลิวอีกคนอย่างเร่งด่วนทางด้านต้นหลิว“แกฉันของเข้าไปห้องน้ำก่อนนะสงสัยส้มตำทำพิษอะ”“อืม รีบไปรีบมา”พริกแกงรู้สึกปวดท้องกะทันหันเลยจะไปเข้าห้องน้ำที่ฝั่งตรงข้ามร้านค้าสักเดี๋ยว เป็นเพราะเธอทานเผ็ดเกินไปจึงมีอาการเป็นเช่นนี้10 นาทีต่อมา“อยู่ไหนกันนะ”ฮาเปอร์ตามสัญญาณมือถือของต้นหลิวมาจอดรถที่ข้างถนนแล้วเดินตามสัญญาณมาเรื่อยๆกับลูกน้องของเขาอีกสองสามคนจนมาถึง
โรงพยาบาล“หลิวเป็นยังไงบ้างคะ”ต้นรักรู้ข่าวว่าพี่สาวเธอโดนยิงก็แทบช็อค ไม่เข้าใจว่าทำไมคนรอบข้างของเธอต้องพากันนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด“หมอกำลังผ่าตัดเอากระสุนออกอยู่ครับ”ฮาเปอร์รีบบอกหญิงสาวที่รีบเดินมาถามข่าวกับเขาอย่างรวดเร็วแอบหวั่นใจอยู่ว่าเรื่องแบบนี้คงกระทบหกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอยู่ไม่น้อยเมื่อต้องรับรู้ว่าคนรอบข้างล้วนมีแต่เรื่องเจ็บตัวกันไปหมด“โถ่...”“รัก!!”ต้นรักถึงกับยืนไม่อยู่ แล้วสติเธอก็ดับวูบไปดีที่พริกแกงนั้นรับเอาไว้ทัน“หนูต้นรักเป็นยังไงบ้าง”เอมม่ารู้สึกปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหลือเกินยังไงเธอก็เชื่อไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นว่าเรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือของนิรินแน่นอน“คือ คุณต้นรักพึ่งจะตั้งครรภ์อ่อนๆร่างกายเธออ่อนเพลียมากช่วงนี้ญาติก็อย่าให้คนไข้มีอะไรมากระทบจิตใจมากนักนะคะ”หมอสาวตรวจดูอาการของต้นรักแล้วก็พอจะรู้สาเหตุของอาการที่เธอเป็นลมบ่อยๆ ทั้งยังต้องให้เธอนั้นระวังอย่าให้อะไรมากระทบกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอีกด้วย“อะ..เอ่อ..ค่ะหมอ”พริกแกงถึงกับสะอึกกับคำกล่าวของหมอสาวคนในห้องทุกคนต่างก็อึ้งไปตามๆกัน ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาในตอนนี้“นี่เจ้าตัวก็น่าจะไ
“อ๋อ น่ารักเหมือนกันนะถ้าย่าได้เห็นตาเบนใส่เสือแบบนี้คงแปลกตาน่าดู”เอมม่าเห็นเสื้อไหมพรมในมือของต้นรักก็อดชมไม่ได้ หญิงสาวมีฝีมือจริงๆแถมยังนึกภาพไม่ออกอีกด้วยหากหลานชายเธอใส่เสื้อแบบนี้จะเป็นแบบไหน“ค่ะ คุณเบนเคยใส่ลายหมีพูห์ด้วยนะคะ”ต้นรักอยากจะให้เอมม่าเห็นแบบที่เธอเคยเห็นเหลือเกินตอนที่เบนจามินนั้นใส่เสื้อไหมพรมลายหมีพูห์ที่เธอทำให้ตัวแรก“ตาเบนเนี่ยเหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เอมม่าอดหัวเราะไม่ได้เมื่อรู้ว่าหลานชายเธอเคยใส่เสื้อแบบนี้แล้ว“ค่ะคุณย่า”ต้นรักอดขำตามเอมม่าไม่ได้ เพราะตอนนั้นที่เบนจามินใส่ก็ดูไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน แต่เขาก็ยอมใส่เพราะว่าเธอเป็นคนทำให้สองวันต่อมา16.00 น.“โอเคแล้วใช่ไหมหลิว หรือจะอยู่ที่อีกคืน”ต้นรักสอบถามอาการของพี่สาวเธอว่าดีขึ้นแล้วหรือไม่ ใจจริงเธออยากจะให้พี่สาวนอนดูอาการที่นี่ก่อนสักคืนสองคืนด้วยซ้ำ ติดตรงที่ต้นหลิวคะยั้นคะยอจะกลับบ้านนี่แหละ“โอ้ย เค้าไม่อยู่แล้วล่ะรัก เบื่อการนอนที่นี่จะตายอยู่แล้ว จะได้กลับไปอยู่กับแม่ด้วย”ต้นหลิวนึกถึงเรื่องที่จะต้องนอนโรงพยาบาลอีกคืนก็ถึงกับมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะเธออยากกลับไปนอนที่บ้านเต็มทนแล้ว อีกอย่างก็อย
อาทิตย์ต่อมาเพนท์เฮ้าส์หรู“อาหารเช้าเรียบร้อยแล้วค่ะคุณเบน”เบนจามินกลับมาพักที่เพนท์เฮ้าส์ได้วันสองวันแล้ว แต่ก็ยังคงมีทีมแพทย์แวะเวียนมาดูอาการของเขาอยู่ไม่ห่าง ต้นรักยังคงตามติดเบนจามินคอยดูแลเขาอยู่ตลอด หวังทุกวินาทีว่าเขาจะจำเธอได้ เรื่องลูกในท้องเธอยังไม่คิดที่จะบอกเขาตอนนี้ เพราะเธออยากให้เขาจำความรู้สึกที่เคยรู้สึกกับเธอได้เสียก่อนจึงค่อยบอกเรื่องนี้กับเขา“นี่ฉันกำลังจะแต่งงานกับเธอจริงๆเหรอ”เบนจามินจำต้องให้ต้นรักมาอยู่กับเขาตามคำขอของคุณย่าของเขา ชายหนุ่มนึกสงสัยตัวเองอยู่ว่าตอนก่อนหน้านั้นเขาคิดอะไรอยู่ถึงอยากจะแต่งงาน แถมหญิงสาวยังดูจืดชืดไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยควงอีกด้วย“ค่ะ...”“อืม...”ต้นรักรีบพยักหน้าตอบชายหนุ่มอย่างมีความหวัง ว่าที่เขาถามเธอเรื่องนี้มาเขาอาจจะจำอะไรได้ก็ได้ แต่เบนจามินไม่ได้พูดอะไรต่อแถมยังทำหน้าเซ็ง ทำให้เธอรู้ว่าที่เขาถามเธอเขาไม่ได้คิดอะไรได้ คงแค่ไม่แน่ใจเท่านั้นว่าเขากับเธอจะแต่งงานกันจริงๆ“คุณเบนทานเยอะๆเลยนะคะ เสร็จแล้วจะได้ทานยาค่ะ”ถึงชายหนุ่มจะกลับมาเอาแต่ใจหรือหงุดหงิดใส่เธอแบบเดิมเธอก็ยอม ขอแค่ได้ดูแลอยู่ข้างๆเขาแบบนี้ก็พอ“ฉันรู้
“เข้าใจละ”ต้นรักพยักหน้าพลางเข้าใจและหายห่วงที่แม่เธอจะได้มีเพื่อนคุยนอกจากพยาบาลที่คอยดูแลอยู่“ผมอยากได้คำตอบ”คาวีเห็นว่าจังหวะนี้แหละที่เขาจะได้ขอคำตอบที่เคยถามหญิงสาวเอาไว้เสียที เพราะเขารอมันไม่ไหวแล้ว“คำตอบอะไร”ต้นหลิวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคาวีหมายถึงเรื่องอะไร“อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้”คาวีรู้ว่าต้นหลิวรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เธอทำไขสือไปเท่านั้นเอง“ก็คุณบอกว่าให้ฉันคิดก่อนนี่”ต้นหลิวยังคิดที่จะบ่ายเบี่ยงในการตอบคำถาม“มันนานแล้วนี่คุณ”คาวีเห็นว่าที่เขาต้องถามเพราะว่าคำตอบที่เขารอคอยเขารอมันมานานแล้ว ถ้าเขาไม่ท้วงเธอมีหรือจะได้คำตอบ“ถ้าคุณช่วยให้คุณเบนกลับมาเหมือนเดิมเมื่อไหร่ วันนั้นฉันจะ...ตกลง”อันที่จริงต้นหลิวเองก็คิดเรื่องนี้มาแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยิ่งมองว่าเธอกับเขามันต่างกันก็ยิ่งทำให้เธอตอบตกลงกับเขาไม่ได้ แต่วันนี้เธอไม่สนแล้ว เธอคิดอย่างเดียวว่าถ้าตอนนี้หมอหนุ่มรักษาเบนจามินให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็วได้ เธอก็จะตกลงคำขอของเขา เพราะเธออยากเห็นน้องเธอมีความสุขกับชีวิตครอบครัวเสียที“จริงนะคุณ”คาวีดึงมือเรียวมากุมเอาไว้ด้วยความดีใจ“อื
สองอาทิตย์ต่อมา20.00 น.คาวีพยายามหาทางช่วยให้เบนจามินกลับมาจำทุกอย่างได้ทุกวิถีทาง คราแรกเบนจามินก็ไม่ค่อยจะยอมให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แต่เมื่อได้รับคำสั่งจากคุณย่าของเขาเบนจามินก็ต้องทำตามเพราะไม่อยากจะขัดใจคนเป็นย่า ส่วนต้นรักนั้นก็แพ้ท้องหนักจนต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของเธอ ด้วยไม่อยากให้ชายหนุ่มสงสัย“เสื้อตัวนี้...”เบนจามินเข้าไปนั่งในห้องของต้นรัก เขาเห็นบางอย่างอยู่บนหัวเตียงของเธอจึงเข้าไปหยิบขึ้นมาดู มันเป็นเสื้อไหมพรมที่ยังถักไม่เสร็จที่เสร็จ แล้วก็เห็นจะมีเสื้อที่ตัวขนาดเท่าๆกันอีกหนึ่งตัวและตัวเล็กอีกหนึ่งตัวที่สีเหมือนกัน ทำให้ภาพบางภาพปรากฏขึ้นในหัวของเขาเป็นภาพที่เขากำลังลองใส่เสื้อไหมพรมหมีพูห์และมีต้นรักยืนยิ้มอยู่ข้างๆ และภาพต่างๆก็ค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวอย่างชัดเจน ต่างจากเมื่อตอนแรกที่คาวีพยายามรักษาเขามาก ตอนนั้นทุกอย่างมันยังคงเลือนลางไม่ประติดประต่อ แต่ตอนนี้มันค่อนข้างที่จะทำให้เขาคิดอะไรขึ้นมาได้ความรู้สึกเก่าๆที่มันกลับมาทำให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะทำอะไรเช้าวันต่อมา“คุณเบน”ต้นรักค่อนข้างแปลกใจเบนจามินก็มาโผล่ที่บ้านของเธอแต่เช้า“เห็นหน้าฉันทำไมต้องทำ