“ถามทำไม”
คาวีไม่คิดว่าหญิงสาวจะถามเขาเรื่องนี้ คิดว่าเธอจะคิดได้เองเสียอีกว่าเขามีหรือไม่มี
“ก็ฉันเห็นคุณเลิกงานก็กลับบ้าน บางทีก็มาทานข้าวกับฉัน”
“ก็ไม่มีน่ะสิ”
“คุณไม่ลองมีบ้างล่ะ จะได้มีคนมานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนคุณแทนฉันไง”
ต้นหลิวเห็นว่าถ้าหากชายหนุ่มมีแฟนอาจจะไม่ต้องลากเธอมาทานข้าวเป็นเพื่อนแบบนี้ก็ได้ เพราะอีกหน่อยเธอก็คงจะไม่ค่อยมีเวลามานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนของเขามากนัก
“ก็บอกว่าไม่มี ไม่อยากมี”
คาวีรู้สึกขัดใจที่หญิงสาวพยายามพูดยัดเยียดให้เขามีแฟนอยู่นั่น ทำอย่างกับว่าคนรู้ใจมันจะหาง่ายๆอย่างนั้น
“อะไรของเค้ามาทำเสียงแข็งใส่อีก ไม่มีก็ไม่มีสิ”
ต้นหลิวบ่นอู้อี้ที่ถูกชายหนุ่มก็เสียงแข็งใส่ จากนั้นเธอจึงตั้งตารออาหาร ไม่อยากพูดคุยกับอีกฝ่ายให้มากคำ เพราะเดาอารมณ์หมอหนุ่มไม่ถูก
เพนท์เฮ้าส์หรู
“นี่มันอะไรกันคะ”
“ก็เธอบอกว่าอยากได้ขนม”
ต้นรักเข้าห้องมาก็เห็นกองขนมขบเคี้ยวกับพวกช็อคโกแลตเต็มห้องไปหมดจึงหันมาถามชายหนุ่มแปลกใจว่าเขาจะซื้อมาทำไมเยอะแยะ เมื่อได้รับคำตอบจากเขาเธอถึงกับต้องส่ายหัว วันหลังหากเขาถามอะไรเธออีกเธอคงต้องอธิบายรายละเอียดว่าเธออยากได้อะไรปริมาณเท่าไรเสียแล้ว
21.00 น.
“ทำอะไรคะ”
ต้นรักนั่งอยู่หน้ากระจกหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอสังเกตเห็นชายหนุ่มนั่งยุ่งกับกระเป๋าเธอมาพักใหญ่แล้ว
“เอ่อ...ฉันแค่อยากรู้ว่าในถุงนี้มันคืออะไร เห็นเธอถือมาจากบ้านตั้งแต่เช้าแล้ว”
เบนจามินเห็นหญิงสาวถือถุงผ้านี้มาตั้งแต่เช้าก็แค่อยากจะรู้ว่ามันมีอะไรนักหนาเธอถึงได้แบกไปแบกมา
“ก็แค่ไหมพรมที่ฉันเอามาจากบ้านไว้ถักขายน่ะค่ะ”
ต้นรักอยู่ที่นี่ก็ค่อนข้างเบื่อที่ไม่มีอะไรทำ พอกลับบ้านก็ถือโอกาสขนเอาไหมพรมของเธอมาถักที่นี่เสียเลย อย่างน้อยก็แก้เหงาแล้วก็เป็นการหารายได้ไปในตัวด้วย
“ขาย เพื่อ? เงินฉันก็ให้เธอใช้ได้สบายจะทำงานทำไมอีก”
เบนจามินมองไปที่หญิงสาวเขม็งเขาให้เงินเธอใช้อยากได้อะไรก็ขอให้บอกเขาจะซื้อให้ แต่เธอกลับอยากจะถักไหมพรมขายเสียอย่างนั้น
“คือฉันแค่อยากหาอะไรทำแก้เบื่อน่ะค่ะ”
ต้นรักไม่ได้ปฏิเสธว่าที่เธออยู่มันไม่สบาย แต่เธอแค่อยากมีอะไรทำแก้เบื่อเท่านั้น
“อืมงั้นเหรอ งั้นฉันสั่งให้เธอถักเสื้อให้ฉัน คิดราคามาได้เลย อืม เอางี้ดีกว่า ฉันให้เธอตัวละสองหมื่น จะถักกี่ตัวก็ได้เอามาขายฉันได้เลย”
เบนจามินเห็นหน้าหญิงสาวก็พอจะเข้าใจหากเธออยากจะขายเขาก็ขอเป็นลูกค้าของเธอเลยก็แล้วกัน
“ตัวละสองหมื่น? สองพันก็แพงแล้วค่ะ”
ต้นรักส่ายหัวให้กับคนที่เกิดมารวยอย่างเขาจริงๆ ถ้าเธอขายเสื้อไหมพรมตัวละสองหมื่นป่านนี้เธอก็คงจะรวยไปนานแล้ว
“ก็จะให้สองหมื่น เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
เบนจามินยังยืนยันว่าเขาจะจ่ายให้เธอตัวละสองหมื่นหญิงสาวไม่เอาก็ต้องเอา เพราะเขาเป็นคนจ่าย ทั้งยังมองหน้าหญิงสาวอย่างเอาเรื่องอีกต่างหาก เป็นเพราะสิ่งที่เธอกำลังจะขัดใจเขาเมื่อครู่
“เปล่าค่ะ แล้วคุณเบนอยากได้สีอะไรแบบไหนคะ”
ต้นรักรู้สึกว่าลูกค้าคนนี้ของเธอช่างเป็นคนที่เธอจะต้องตามใจเป็นพิเศษ ไม่เช่นนั้นเธออาจจะโดนกินหัวเอาได้อารมณ์ยิ่งขึ้นๆลงๆอยู่ด้วย
“แบบไหนเธอก็ทำมาเถอะ ฉันใส่ได้หมด”
“โอเคค่ะ”
เบนจามินไม่สนว่าเธอจะทำเสื้อแบบไหนมาให้เขา แค่เธอทำแล้วมาขายให้เขาก็พอ
2 อาทิตย์ต่อมา
โรงพยาบาล
“แม่จ๋า”
หลังจากที่คาวีโทรบอกต้นรักว่าแม่ของเธอฟื้น หญิงสาวก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที
“หลิวล่ะลูก”
อนงค์ถามหาลูกสาวอีกคนของเธอด้วยเสียงแผ่วเบา ถึงคนอื่นมักจะแยกลูกเธอสองคนไม่ออก แต่เธอเห็นแวบแรกก็มองออกว่าลูกสาวของเธอคนนี้คือคนพี่หรือคนน้อง
“หลิวทำงานค่ะ วันนี้ยุ่งๆเดี๋ยวพรุ่งนี้หลิวบอกว่าจะมาหาแม่แต่เช้าเลยนะ”
วันนี้ต้นหลิวอยากจะลางานใจจะขาดเมื่อได้รู้ข่าวว่าแม่ฟื้นแล้ว แต่เธอดันติดงานอีเว้นสำคัญที่จะเริ่มในคืนนี้เลยยังมาไม่ได้
“คุณแม่คุณพึ่งฟื้นได้ไม่กี่ชั่วโมงให้ท่านพักก่อนเถอะครับ”
“ค่ะ”
อนงค์พึ่งจะฟื้นตัวคาวียังไม่อยากให้คนไข้ของเขาได้พูดคุยอะไรมากนัก เพราะตื่นมาเป็นชั่วโมงแล้วอยากจะให้คนไข้ของเขาพักก่อนจะดีกว่า
แกร็กกกก
“ต้นรัก”
เบนจามินได้รู้ข่าวจากฮาเปอร์ว่าต้นรักมาที่โรงพยาบาลด่วนเพราะแม่ของเธอรู้สึกตัวแล้วเขาจึงรีบเคลียร์งานแล้วตามเธอมาที่โรงพยาบาล
“คุณเบน”
ต้นรักหันไปยิ้มกับเบนจามินด้วยน้ำตา
“แม่เธอเป็นยังไงบ้าง”
เบนจามินเห็นหญิงสาวน้ำตาคลอแถมคนบนเตียงก็ยังนอนหลับเฉยอยู่เขาเลยไม่รู้ว่าแม่ของหญิงสาวตกลงดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้นกันแน่
“แม่ฉันพูดคุยกับฉันได้แล้วค่ะ ฉันดีใจที่สุดเลย”
ต้นรักโผเข้ากอดเบนจามินด้วยความดีใจจนลืมตัวว่าในห้องนี้ไม่ได้มีแค่เธอและชายหนุ่มเท่านั้น
“เอ่อ...ดีแล้ว”
เบนจามินตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆต้นรักก็โผมากอดเขา แต่เมื่อตั้งสติได้ก็กอดเธอตอบแสดงความดีใจกับเธอด้วย
“.....”
คาวีหลบสายตาที่จะไม่มองทั้งคู่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้ม รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของต้นรักและเบนจามินคืบหน้าไปเร็วมากอย่างเห็นได้ชัด
เพนท์เฮ้าส์หรู
20.00 น.
“คุณเบนคะ พรุ่งนี้ฉันขอไปหาแม่อีกนะคะ นัดกับต้นหลิวไว้”
ต้นรักเห็นเบนจามินเดินเข้ามาในห้องเลยถือโอกาสขออนุญาตเขาไปหาแม่เธออีกวัน เพราะเธอนัดกับพี่สาวเธอเอาไว้
“ได้สิ...วันนี้เธอดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะ”
วันนี้เขาเห็นต้นรักชอบนั่งอมยิ้มคนเดียวและดูเธอจะร่าเริงเป็นพิเศษตั้งแต่อยู่กับเขามา
“ค่ะ...ฉันรอวันนี้มานานมากเลยค่ะวันที่แม่ฟื้น”
ต้นรักรอวันนี้มานานแรมปี วันที่แม่เธอจะฟื้นขึ้นมาทั้งที่เคยหมดหวังไปหลายรอบแล้ว รู้สึกขอบคุณคาวีที่ช่วยรักษาแม่เธอให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และขอบคุณชายหนุ่มที่เป็นธุระเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด
“......”
เบนจามินอดยิ้มตามหญิงสาวไม่ได้ นับวันๆหญิงสาวยิ่งน่ามองขึ้นเรื่อยๆสำหรับเขา
“อ่อ...นี่ค่ะเสื้อฉันทำให้คุณเสร็จแล้วนะคะ”
ต้นรักนึกขึ้นได้ว่าเธอทำเสื้อให้ชายหนุ่มเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปหยิบเสื้อในตู้ออกมาให้ชายหนุ่มดู
“หมีพูห์”
เบนจามินถึงกับคิ้วขมวดเสื้อไหมพรมขนาดที่น่าจะพอดีกับตัวเขาพื้นสีน้ำตาลอ่อนแต่ตรงกลางเป็นรูปหมีพูห์ตัวใหญ่ เขาไม่เข้าใจว่าหญิงสาวคิดอะไรอยู่ในตอนที่ถักให้เขา
“ก็คุณเบนบอกว่าทำแบบไหนก็ได้ ฉันเห็นว่ามันก็น่ารักดี คุณเบนไม่เอาก็ได้นะคะ”ต้นรักสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยจากที่ยิ้มร่าอยู่ตอนแรก เพราะเห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่ดูจะไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นเสื้อที่เธอทำให้ก็เขาบอกเธอตอนแรกว่าเอาแบบไหนก็ได้ เธอเห็นว่าที่เธอทำมันก็น่ารักดี“ไม่...ฉันจะใส่”เบนจามินคิดว่าเขาผิดเองที่ไปบอกเธอว่าทำแบบไหนก็ได้ตั้งแต่แรก แต่ไม่เป็นไรยังไงเธอทำมาแล้วเขาก็ต้องใส่อยู่ดี พร้อมถอดเสื้อที่เขาใส่นั้นออกและสวมเสื้อไหมพรมที่หญิงสาวทำให้ทันที“อิ อิ น่ารักดีนะคะ”ต้นรักเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในเสื้อผ้าแบบนี้แล้วดูน่ารักไปอีกแบบ“อืม”เบนจามินไม่ค่อยได้ใส่เสื้อผ้าอะไรแบบนี้ จึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เขาสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกหลายรอบ ในเมื่อเป็นฝีมือของต้นรัก ยังไงเขาก็ต้องทำใจชอบให้ได้โรงแรม“เพอร์เฟคมากหลิว”“ค่ะพี่พิ้งค์”พิ้งกี้อดชมในฝีมือของต้นหลิวไม่ได้ที่ ออกแบบงานได้แปลกตาและสวยงามมากจริงๆ“ทางนี้คงจะเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราไปช่วยพี่ดูพวกนางแบบนายแบบทางนี้”“ค่ะ”พิ้งกี้เห็นว่าทางด้านหน้างานเรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ดูความเรียบร้อยของพวกนายแบบนางแบบให้พร้อมก็ไ
ตระกูลลอเปอร์“คุณพ่อเรียกผมเข้ามามีอะไรหรือเปล่าครับ”เบนจามินรีบเข้ามาที่บ้านใหญ่ของตระกูลอย่างเร่งด่วน เพราะทางนี้ติดต่อไปหาโจชัวว่ามีเรื่องด่วนจะคุยกับเขา“เรื่องหนูนิริน”“ถ้าจะเรียกผมมาคุยเรื่องนี้ผมขอไม่คุยนะครับ”เบนจามินได้ยินชื่อนี้เขาถึงกับเซ็ง อยากจะหันหน้ากลับเสียตอนที่พึ่งมา“แกจะยืดเยื้อเวลาไปจนถึงเมื่อไรฉันปล่อยให้แกใช้ชีวิตตามใจมามากแล้วนะ ทางเพื่อนฉันเค้าก็ถามมาแล้ว”นิรินเป็นลูกสาวของนราทรเพื่อนสนิทของบรูค เขาเคยสัญญากันเมื่อหลายปีก่อนว่าถ้าหากมีลูกจะให้หมั้นกัน แล้วตอนนี้ลูกของพวกเขาทั้งสองก็โตจนมีครอบครัวได้แล้ว แต่ทางเบนจามินยังไม่ยอมแต่งงานเสียที ทางด้านนราทรก็เร่งรัดมาแล้วทำให้บรูคต้องมาเร่งรัดลูกชายของเขาอีกที“ผมไม่เอาผู้หญิงแบบนั้นมาทำเมียหรอกครับ”เบนจามินยืนยันว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมแต่งกับนิรินเด็ดขาด“หนูนิรินเป็นยังไง เธอเหมาะสมกับแกแทบจะทุกอย่างเป็นผู้ดีมีสกุลขนาดนั้นแกยังต้องการอะไรอีก”บรูคเห็นว่านิรินนั้นเหมาะสมกับลูกชายของเขาทุกอย่าง ดีกว่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปแล้วลูกชายเขาไปคว้าแม่พริตตี้ที่ไหนไม่รู้มาทำเมีย“ยัยนั่นเสแสร้งเก่งจะตายไป”เบนจามินแทบจะรู
20 นาทีต่อมา“ดีขึ้นหรือยัง”“ค่ะ”“เราไปรู้จักกับคู่หมั้นคุณนิรินอย่างที่เธอกล่าวหาจริงหรือเปล่า”ตะวันเห็นว่าต้นรักเริ่มเงียบลงแล้วแต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่เล็กน้อย ด้วยความอยากรู้ว่าหญิงสาวเป็นผู้หญิงของเบนจามินตามที่นิรินมาหาเรื่องเธอหรือเปล่าจึงถามขึ้น“ฮึก...ฮือๆๆๆ”ต้นรักได้ยินแบบนั้นก็เหมือนกับมีดกรีดไปที่หัวใจของเธอที่เดิมจึงร้องออกมาอีกครั้งสะอื้นจนตัวโยน“โอเคๆพี่จะไม่ถาม”ตะวันฉวยโอกาสนี้กอดปลอบหญิงสาวอย่างแนบชิดเขาจะอาศัยจังหวะในช่วงที่หัวใจเธออ่อนแอนี่แหละเข้าหาหญิงสาว“ทำอะไร”ปั้กกก“โอ้ย...”เบนจามินเดินตามหาหญิงสาวตามจุดที่นิรินส่งข้อความมาบอก เมื่อเห็นภาพที่ชายแปลกหน้ากำลังกอดกุมหญิงสาวอยู่จึงเลือดขึ้นหน้า เดินดุ่มๆเข้าไปรั้งชายหนุ่มมาต่อยระบายอารมณ์“คุณเบนหยุดนะคะ”ต้นรักเห็นเบนจามินเงื้อหมัดจะชกตะวันอีกเธอจึงร้องห้ามเอาไว้ด้วยน้ำตา“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ห้ามใครแตะต้อง”เบนจามินยอมปล่อยตะวันพร้อมหันไปมองต้นรักด้วยสายตาขุ่นเคืองที่มาพลอดรักกับชายอื่นลับหลังเขา“อีกหน่อยถ้าคุณแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ”คำว่าผู้หญิงของเขาเธอไม่อยากได้ยินที่สุดเลยอดพูดประชดเรื
บ้านนราทร20.00 น.“แกไปสร้างเรื่องอะไรอีกล่ะ แค่ฉันต้องเร่งบรูคให้ลูกชายเค้ามาแต่งงานกับแกก็เกรงใจเค้าจะแย่อยู่แล้ว เพราะฉันรู้ว่าเบนจามินไม่สนใจแกเลยสักนิด ทำตัวให้มันสมกับเป็นลูกฉันหน่อย”นราทรนั่งอยู่บนรถเข็นเพราะเขาเดินไม่ได้มาสักพักเมื่อเห็นลูกสาวคนเดียวของเขาเดินออกมาจากห้องได้ก็ถือโอกาสต่อว่าเรื่องข่าวที่เขาพึ่งรู้มาเสียหน่อย เพราะเขารู้สึกว่าลูกสาวของเขานับวันๆยิ่งแต่จะควบคุมไม่อยู่“นิจะทำอะไรมันก็เรื่องของนิ นิว่าคุณพ่อเอาเวลาไปรักษาตัวแล้วก็รอฟังข่าวดีจากนิดีกว่านะคะ”นิรินไม่ได้สนใจคำของพ่อเธอเลยสักนิด ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะออกไปเที่ยวหาความสุขนอกบ้านแล้ว เมื่อพูดจาหักหารน้ำใจคนเป็นพ่อเสร็จก็ออกไปจากบ้านอย่างหน้าตาเฉย“ฉันเตือนแกแล้วนะ”นราทรตะโกนให้หลังคนเป็นลูกสาวเขารู้ว่าคนอย่างเบนจามินไม่ยอมให้ลูกสาวของเขาข่มอยู่ฝ่ายเดียวแน่ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาไม่น่ารับปากกับเพื่อนของเขาแบบนั้นเลย“ปล่อยคุณหนูไปก่อนเถอะค่ะคุณทร”ป้าจิตแม่บ้านที่ดูแลความเรียบร้อยของทุกอย่างบ้านนี้รู้ดีว่าคนอย่างนิรินเป็นอย่างไร ด้วยความที่ไม่มีแม่ตั้งแต่เล็กๆแถมพ่อก็ยังเอาแต่ทำงานเลี้ยงนิรินมาด้วย
“ก็ฉันพูดเรื่องจริง ฉันจะแต่งงานกับเธอจริงๆนะ เธอไม่ดีใจหรือไง แล้วเรื่องของเราที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันเป็นอดีตไปอย่ารื้อมาเล่าให้แม่เธอฟังแล้วไม่สบายใจเลย มันดีต่อแม่เธอแล้วก็พี่สาวเธอด้วย”เบนจามินไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมีทีท่าที่ดีใจสักนิดเมื่อเขาบอกกับแม่ของเธอว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ กลับทำสีหน้าตกใจและดูท่าจะงอนเขาอีกด้วยซ้ำ“เรื่องนั้นไม่พูดถึงมันฉันก็ว่าดีค่ะ...แต่เรื่องแต่งงานนี่สิคะทำไมไม่ถามฉันก่อนแล้วทางบ้านคุณจะว่ายังไง”ต้นรักคอนข้างเห็นด้วยกับเหตุผลขอชายหนุ่มที่ไม่เล่าเรื่องอดีตให้แม่ของเธอฟังแต่ยังไงเรื่องแต่งงานเธอคิดว่าชายหนุ่มควรจะเกริ่นบอกเธอก่อนก็ยังดี ตอนนี้แม่เธอก็รู้เรื่องไปแล้วด้วย หากวันนึงมันเป็นไปไม่ได้แล้วแม่เธอจะรู้สึกยังไง“ยังไงฉันเชื่อว่าครอบครัวฉันต้องชอบเธอแน่นอนเธอไม่ต้องกังวล”เบนจามินคิดว่าถ้าหากคนในครอบครัวของเขาได้รู้จักต้นรักจริงๆจะต้องรักเธอเหมือนที่เขารักเป็นแน่เขาเชื่อแบบนั้น“แล้วคุณเบนแน่ใจเหรอคะว่าอยากมีครอบครัว...ถ้าแต่งงานแล้วคุณเกิดเบื่อฉันขึ้นมาถึงวันนั้นฉันคงจะเสียใจมาก...”ต้นรักอยากถามชายหนุ่มให้แน่ใจอีกครั้งว่าเขาอยากจะมีครอบครัวจริงหรือเปล
“หมอคะ คุณเบนเป็นยังไงบ้าง”ต้นรักเห็นหมอหนุ่มก็รีบถามอาการของเบนจามินทันทีเพราะเธอรอฟังมาทั้งคืนแล้ว“ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วครับ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้ฟื้นเท่านั้นแหละครับ”คาวีถือว่าเบนจามินใจสู้มากทำให้การรักษาผ่านไปได้ด้วยดีตอนนี้ก็แค่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดก็เท่านั้น“รู้แบบนี้ก็สบายใจได้แล้วนะรัก”ต้นหลิวหันไปบอกกับคนเป็นน้องสาวเธอเองก็โล่งอกเหมือนกันที่ได้รู้แบบนี้น้องเธอจะได้เลิกร้องให้เสียที“ผมขอตัวก่อนนะครับ”คาวีรู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้นานคงไม่ดีเป็นแน่ เพราะรู้ว่าต้นหลิวคงไม่อยากจะเจอหน้าเขาสักเท่าไหร่ หลังจากวันนั้นที่เธอรู้ความจริงว่าเขาเป็นใครเธอก็เอาแต่หลบหน้าตลอด แม้แต่ตอนที่เขาเข้าไปตรวจอนงค์แล้วเจอต้นหลิว หญิงสาวก็จะขอตัวออกไปข้างนอกตลอดเลยไม่เคยได้พูดคุยกันเหมือนอย่างเคยเขาเองไม่ได้คิดจะไปยุ่งอะไรกับเธอหากต้นหลิวสบายใจที่จะเป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากกวนใจเธอ แต่ยังไงเรื่องที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเธอนั้นเขาก็ยังช่วยเหลือเธออยู่ตลอดเวลา“แกเห็นไหมว่าที่ลูกสะใภ้แกแสบแค่ไหน”เอมม่ากลับมาเพราะหลานชายคนเดียวของเธอบอกว่ามีข่าวดีจะบอก แต่เมื่อมาถึงกลับได้ฟังข
บริษัท“เดินเชิดหน้าสั่งงานคนโน้นคนนี้นึกว่ามีความสามารถ สุดท้ายก็เด็กเส้น”บอลลูนสาวสวยประจำออฟฟิศที่ดีแต่แต่งหน้าหาลูกค้าไปวันๆ รู้สึกเขม่นต้นหลิวตั้งแต่เข้ามาทำงานแล้ว ที่ดูมีผลงานดีจนเกินหน้าเกินตาเธอแถมเรื่องที่เธอพึ่งจะไปรู้มาก็ทำให้คุยกันกับพวกคนในออฟฟิศสนุกปากอีกด้วย“คือด่าฉันว่างั้น”“อืม...”“ฉันสัมภาษณ์งานเข้ามา ไม่ใช่เอะอะก็จะได้มาทำงานเลยรู้เอาไว้ด้วย”ต้นหลิวชักเหลืออดกับคนพวกนี้เสียแล้ว เธอรู้ว่าพวกของบอลลูนไม่ชอบหน้าเธอ แต่เธอเองก็พยายามใจเย็นมาหลายครั้งแต่ครั้งนี้มันสุดแล้วจริงๆ“ถ้าหมอคาวีไม่รู้จักกับคุณเอมอร เธอก็ไม่ได้เสนอหน้าอยู่ที่นี่หรอกนะ”บอลลูนยังกระแนะกระแหนต้นหลิวอย่างลอยหน้าลอยตาด้วยความสะใจ“หมอคาวีเกี่ยวอะไรด้วย”คำพูดของบอลลูนทำให้ต้นหลิวสงสัยหนักว่าเขาเกี่ยวอะไรด้วย“ทั้งงานที่เธอได้ก็เพราะคุณหมอ เงินเดือนที่สูงลิ่วของเธออีกไปทำอีท่าไหนมาได้ล่ะ”บอลลูนบอกเรื่องทั้งหมดที่เธอได้รู้มาให้หญิงสาวได้ยินเสียงดังฟังชัด และกะว่าจะให้คนที่อยู่ในออฟฟิศนี้ได้ยินไปด้วยจะได้รู้ว่าหญิงสาวเข้ามาทำงานที่นี่โดยใช้เส้น“......”ต้นหลิวรู้สึกเสียหน้าอย่างมากเมื่อรู้ว่าคา
โรงพยาบาล“คุณต้นรักครับ”“อ้าวคุณโจชัว วันนี้ไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”ต้นรักค่อนข้างแปลกใจที่โจชัวมาอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่ที่บริษัท“คุณบรูคให้ผมมาดูแลคุณเพราะตอนนี้ไม่ทราบว่าคุณนิรินจะทำอะไรอีกครับ”โจชัวได้รับคำสั่งจากบรูคให้มาคอยดูแลต้นรักอยู่ที่โรงพยาบาลระหว่างที่หญิงสาวเฝ้าเบนจามินกับแม่ของเธออยู่ เพราะรู้ว่านิรินไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่จากคำบอกเล่าของนราทร“อ่อ ค่ะ แต่ต้นหลิวล่ะคะ”ต้นรักเข้าใจที่โจชัวพูดแต่เธอก็ฉุกคิดได้ว่านิรินยังไม่รู้ว่าเธอมีคู่แฝด ถ้าหากนิรินจ้องจะทำอะไรเธอต้นหลิวก็ต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วย“จริงสิ ฮาเปอร์นายไปคอยดูคุณต้นหลิวด่วน”“โอเค ฉันจะรีบไป”โจชัวลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทจึงรีบให้ฮาเปอร์ไปดูแลต้นหลิวอีกคนอย่างเร่งด่วนทางด้านต้นหลิว“แกฉันของเข้าไปห้องน้ำก่อนนะสงสัยส้มตำทำพิษอะ”“อืม รีบไปรีบมา”พริกแกงรู้สึกปวดท้องกะทันหันเลยจะไปเข้าห้องน้ำที่ฝั่งตรงข้ามร้านค้าสักเดี๋ยว เป็นเพราะเธอทานเผ็ดเกินไปจึงมีอาการเป็นเช่นนี้10 นาทีต่อมา“อยู่ไหนกันนะ”ฮาเปอร์ตามสัญญาณมือถือของต้นหลิวมาจอดรถที่ข้างถนนแล้วเดินตามสัญญาณมาเรื่อยๆกับลูกน้องของเขาอีกสองสามคนจนมาถึง