เพนท์เฮ้าส์หรู
18.30 น.
“คุณเบนจะไปไหนครับ”
โจชัวเห็นเจ้านายเขาเตรียมตัวจะออกไปอย่างไม่บอกไม่กล่าวจึงต้องรีบเดินไปถาม มิเช่นนั้นหากเขาปล่อยให้เจ้านายของเขาไปไหนโดยที่เขาไม่รู้แล้วเกิดอันตรายอะไรกับเจ้านายคงไม่เป็นผลดีแน่
“นายไม่ต้องตามวันนี้ฉันอยากผ่อนคลายคนเดียว”
วันนี้เบนจามินอยากจะไปพักผ่อนตามประสาหนุ่มโสดสุดฮอตด้วยตัวคนเดียว เมื่อมีลูกน้องหรือคนสนิทแห่กันไปด้วยทีไรพวกสาวๆไม่อยากจะมาใกล้เขาทุกที เว้นเสียแต่ผู้หญิงที่อยากจะบริการเขาเพราะอยากได้ทิปหนักๆ แต่พวกนี้เขาเองก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไร
“เอ่อ...ครับ”
โจชัวเห็นดังนั้นจึงรีบถอยให้เจ้านายหนุ่มของเขาออกไปแต่โดยดี เพราะเห็นท่าเจ้านายตนมาแบบนี้แล้วเขาคงจะขัดอะไรไม่ได้ที่ผ่อนคลายของเจ้านายนั้นเขาพอจะรู้อยู่ว่าจะไปที่ไหน
เบนจามินเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลลอเปอร์เป็นลูกครึ่งไทยอิตาลีถูกเลี้ยงโดยคุณย่าของเขามาตั้งแต่เด็กๆ เป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจเพราะถูกตามใจอยู่บ่อยๆ หากแต่ชายหนุ่มเป็นคนที่เก่งในสายงานแทบจะทุกอย่างแถมยังเข้ามาบริหารงานแทนพ่อของเขาแทบจะทุกอย่างได้ดีอีกด้วย ประวัติเสียแทบจะไม่มีนอกเสียจากเรื่องผู้หญิงที่ทำให้ต้องเขม่นกับคู่ค้าธุรกิจอยู่บ่อยๆ เรื่องชู้สาวที่ผู้หญิงของอีกฝ่ายจะวิ่งโล่มาหาเขาเอง เพราะทั้งหนุ่มกว่าเก่งกว่ารวยกว่า
โรงพยาบาล
“บิลค่ารักษาของแม่เดือนนี้มาแล้วนะหลิว”
ต้นรักนั่งคุยกับต้นหลิวแฝดพี่ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเป็นกังวล เพราะเธอและพี่สาวของเธอต่างก็ช่วยกันทำงานเงินที่ได้มาส่วนใหญ่ก็ต้องมาใช้รักษาแม่เธอจนเกือบหมด แถมตอนนี้ที่เธอเครียดหนักก็เห็นจะเป็นพี่สาวของเธอก็พึ่งจะมาตกงานเพราะมีปัญหากับคนที่ทำงาน ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยยอมคนนั่นเอง
“อ่อ อืมเรื่องนี้เดี๋ยวหลิวจัดการเองรักไม่ต้องห่วง คืนนี้รักอยู่เฝ้าแม่ไปก่อนนะ”
ต้นหลิวดูบิลค่ารักษาเธอก็ต้องปั้นหน้าให้ยิ้มแย้มไว้ก่อนเพื่อที่น้องสาวของเธอนั้นจะได้ไม่กังวล พร้อมบอกให้ต้นรักนั้นเฝ้าแม่แทนเธอในคืนนี้ไปก่อน ด้วยมีธุระที่จะต้องไปทำ
“แล้วหลิวจะไปไหน”
ต้นรักถามคนเป็นพี่ด้วยสีหน้าสงสัย นี่ก็ดึกแล้วเธอไม่รู้ว่าพี่สาวเธอจะไปไหนอีก
“เค้าจะไปทำงานพิเศษน่ะ”
ต้นหลิวเลี่ยงที่จะตอบความจริง เพราะถ้าหากเธอบอกกับน้องเธอไปว่าเธอจะไปทำอะไรคงจะไม่ได้ไปเป็นแน่
“งานอะไรเหรอ”
ต้นรักก็ยังอยากจะรู้ว่าไอ้งานที่พี่สาวเธอจะไปทำมันเป็นงานอะไร ถ้าหากมันอันตรายเธอจะไม่ยอมให้พี่สาวเธอไปแน่นอน
“มันเป็นงานแถวๆคลับใกล้ๆนี่เองหลิวทำพวกเสริฟอาหารอะไรแบบนี้ เดี๋ยวขอตัวไปก่อนนะ”
ต้นหลิวเห็นว่าถ้าเธออยู่นานกว่านี้น้องเธอได้รู้แน่ว่าเธอจะไปทำอะไร จึงรีบปลีกตัวออกไปก่อนจะดีกว่าและปล่อยทิ้งให้ต้นรักสงสัยมีสีหน้าฉงนอยู่คนเดียว
ห้องตรวจ
“หมอครับ เคสคนไข้ที่หมอรับรักษา”
“ขอบคุณครับ”
คาวีหมอหนุ่มดีกรีลูกเจ้าของโรงพยาบาลที่พึ่งกลับมาจากการหาความรู้จากเมืองนอกจนจบปริญญาเอก ทำงานที่ต่างประเทศได้พักใหญ่มีฝีมือมากเมื่อชำนาญในเรื่องสายงานดีแล้วจึงกลับมาช่วยที่บ้านบริหารงานที่โรงพยาบาล เขาเป็นคนที่รักความสงบไม่ค่อยออกงานสังคมเท่าไหร่ มีแต่คนในเท่านั้นที่จะรู้ว่าเขาเป็นใคร
ตอนกลับมาเคสแรกที่เขาช่วยคนของเพื่อนที่เป็นหมอด้วยกันหายดีไปแล้ว เคสต่อมาเขาก็อยากจะช่วยอีกเหมือนกันเพราะรู้ประวัติคร่าวๆมาว่านอนที่โรงพยาบาลหลายเดือนแล้ว
ได้ยินจากปากหมอท่านอื่นมาว่าคนไข้ป่วยมานานมีเพียงลูกแฝดสองคนที่คอยผลัดกันมาดูแลเท่านั้น แถมค่าใช้จ่ายก็ผ่อนจ่ายกับโรงพยาบาลอีก หากเขาสามารถช่วยให้คนป่วยคนนี้กลับมาหายโดยเร็วก็เท่ากับเขานั้นช่วยทั้งสามชีวิต
แกร๊กกก
“สวัสดีครับ ผมหมอคาวีที่พึ่งรับเคสต่อมาจากคุณหมอท่านเดิมครับ”
ก่อนกลับคาวีถือโอกาสมาดูคนไข้ของเขาก่อนจะกลับเมื่อเห็นหญิงสาวเขาค่อนข้างประหม่าเล็กน้อย ก็แม่สาวเจ้าเล่นสวยหยาดเยิ้มเสียขนาดนั้น รอยยิ้มอย่างเป็นกันเองที่ส่งมาให้นั่นอีก ทำให้เขาต้องหลบสายตาไปมองคนที่นอนป่วยอยู่อย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะคุณหมอ ฉันต้นรักค่ะ”
ต้นรักรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใครก็รีบยกมือไหว้ทักทายอย่างมีมารยาทตามวิสัยของเธอ หญิงสาวได้ยินจากพยาบาลที่ดูแลแม่เธอบอกว่าหมอคนใหม่ที่จะรับเคสของแม่มารักษาต่อนั้นเก่งมาก ขนาดคนไข้ที่พึ่งรักษาไปนอนหลับไปเป็นเดือนพอถึงมือหมอคนนี้ไม่นานก็ฟื้นแถมยังเป็นปกติอย่างรวดเร็วอีกด้วย เธอหวังว่าจะฝากความหวังกับหมอหนุ่มช่วยให้แม่เธอหายวันหายคืนได้
“ผมดูประวัติของคุณแม่คุณคร่าวๆแล้ว ผมว่าผมมีทางรักษาให้คุณแม่คุณกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้งอย่างรวดเร็วจะได้เซฟค่ารักษาของพวกคุณด้วย”
คาวีดูการรักษาในระยะเวลาที่ผ่านมา บวกกับอาการที่คนป่วยเป็นเขาว่าเขาสามารถหาวิธีรักษาแม่ของหญิงสาวให้กลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน
“จริงเหรอคะคุณหมอ ขอบคุณจริงๆนะคะ”
ต้นรักรู้สึกมีความหวังอีกครั้ง จากครั้งก่อนๆที่เหมือนหมอท่านเดิมรักษาไปตามอาการก็เท่านั้น
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ หน้าที่ของหมอคือรักษาคนไข้ให้หายจากโรคที่เป็นอยู่อยู่แล้วครับ”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
คาวียิ้มตามหญิงสาวอย่างไม่รู้ตัวรู้สึกประหม่าแปลกๆเวลาอยู่ใกล้กับเธอ ดังนั้นเขาคิดว่าเขาควรจะออกไปจากตรงนี้จะดีกว่า
อืด..อืด..
“อ้าวมือถือหลิวนี่นา ว่าไงพริกแกงพอดีหลิวลืมมือถือ”
ต้นรักรีบบอกปลายสายว่าพี่สาวเธอนั้นลืมมือถือไว้ที่เธอ
“เอ้า!!..มาลืมอะไรตอนนี้ยิ่งมีธุระสำคัญอยู่ด้วย”
“ฉันอยู่ไม่ไกลจากหลิวเท่าไหร่ เดี๋ยวนั่งวินเอาไปให้ก็ได้แค่นี้นะ”
ต้นรักเห็นว่าพริกแกงน่าจะมีธุระสำคัญไม่อย่างนั้นคงไม่ทำเสียงตกใจแบบนั้น เมื่อรู้ว่าต้นหลิวนั้นลืมมือถือหญิงสาวคิดว่าคลับที่ต้นหลิวบอกว่าไปทำงานน่าจะเป็นคลับเดียวกับที่เธอคิด หากนั่งวินเอามือถือไปให้ต้นหลิวก็คงใช้เวลาไม่นานมากนัก เธอจึงรีบถือกระเป๋าแล้วออกไปทันทีจะได้รีบไปรีบกลับ
“คุณจะไปไหนเหรอครับ”
คาวีกำลังเดินจะไปที่ลานจอดรถหน้าโรงพยาบาลเขาเห็นหญิงสาวเดินถือกระเป๋าดูรีบร้อนจึงร้องทักเอาไว้ก่อน
“พอดีต้นหลิวพี่สาวฉันลืมมือถือไว้น่ะค่ะ เธอบอกว่าไปเป็นเด็กเสริฟที่คลับใกล้ๆ ฉันเลยจะเอามือถือไปให้ค่ะคุณหมอ”
“ไปพร้อมผมก็ได้ครับ ผมกำลังจะกลับบ้านผ่านตรงนั้นพอดี ตอนนี้วินหน้าโรงพยาบาลก็คิวค่อนข้างแน่นด้วย”
คาวีเห็นว่าเดี๋ยวเขาก็ต้องขับผ่านตรงนั้นอยู่ดีแต่ก็แอบตกใจนิดหน่อยที่พี่สาวของหญิงสาวไปเป็นเด็กเสริฟที่นั่น เพราะที่คลับนั้นมีแต่พวกคนมีอิทธิพล แล้วก็พวกที่มาหาความสุขชั่วคราวทั้งนั้น
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ”
“ตามผมมาเลยครับ”
ต้นรักเห็นจะเป็นดั่งที่หมอหนุ่มว่า เธอนั่งรถไปกับเขาเลยจะไวกว่า
คลับหรู“แกลืมมือถือใช่ไหม”พริกแกงเห็นต้นหลิวเดินมาที่จุดนัดพบก็รีบดึงมือเพื่อนเธอเข้ามาที่มุมมืดของร้านทันที พริกแกงเข้านอกออกในที่นี่บ่อยเธอจึงรู้แทบทุกซอกทุกมุม“แกรู้ได้ไง”ต้นหลิวแปลกใจเล็กน้อยที่เพื่อนเธอรู้ว่าเธอลืมมือถือ ตัวเธอเองยังรู้ตัวเมื่อถึงที่นี่แล้วเลย“ก็ฉันโทรหาแกแล้วยัยต้นรักรับน่ะสิ แถมบอกจะรีบเอามือถือมาให้แกอีก”“อ้าวอย่างนั้นก็ซวยน่ะสิ ยัยต้นรักก็ต้องสงสัยแน่เลย”ต้นหลิวเริ่มมีสีหน้าตระหนก หากต้นรักรู้ว่าเธอไม่ได้มาทำงานที่นี่อย่างที่บอก เรื่องนี้เธอจะต้องทะเลาะกับต้นรักใหญ่โตแน่“งั้นแกก็ต้องรีบเลยก่อนที่ยัยต้นรักจะมา ฉันมองไว้ให้แกแล้วว่าเหยื่ออยู่ตรงไหน น่าจะมีเงินเพราะดื่มแต่ของแพงๆ”พริกแกงเห็นทีจะต้องให้ต้นหลิวนั้นรีบลงมืออย่างรวดเร็วก่อนที่ต้นรักนั้นจะมาที่นี่ เธอลอบมองเหยื่อไว้หลายคนเห็นจะเป็นพ่อฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้นที่นั่งอยู่คนเดียวน่าจะเข้าถึงง่ายที่สุด“ฝรั่งคนนั้นอะนะ”ต้นหลิวมองไปตามที่เพื่อนของเธอชี้เธอเห็นว่าเขานั้นนั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่งตัวก็ธรรมดาคงจะเป็นการง่ายต่อการที่เธอจะปลดทรัพย์“ใช่แก ฉันเห็นนั่งเซ่ออยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว ดื่มหนักด้วยคง
ทางด้านต้นหลิว“นี่แกทำไมมันซวยงี้วะ”พริกแกงหน้าจ๋อยที่เมื่อเปิดกระเป๋าที่ต้นหลิวใช้วิชามือเบาได้มาดูแล้วมันไม่มีเงินสักนิด มีแต่บัตรเครดิต“แกเป็นคนเลือกเหยื่อไม่ใช่หรือไง ไหนล่ะเงินเยอะมีแต่บัตรแบบนี้ฉันจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่ารักษาแม่ฉันล่ะ”ต้นหลิวเองก็เซ็งกันไปตามๆกัน เมื่อนึกถึงค่ารักษาของแม่เธอก็ถึงกับคอตก“แกลองดูที่บัตรสิเผื่อมีรหัส”พริกแกงยังแอบหวังเล็กๆว่ายังไงวันนี้เพื่อนเธอก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้างและน่า“แกนี่ก็คิดได้เนอะ ไอ้ฝรั่งนั่นมันคงจะโง่เขียนรหัสไว้หรอกนะ”ต้นหลิวอยากจะเขกหัวเพื่อนเธอจริงๆ ที่พูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้“คุณต้นรัก”คาวีนั่งรออยู่ในรถครู่หนึ่งก็เห็นหญิงสาวเดินออกมาแต่ไม่ยักจะมาหาเขาที่รถ ทั้งที่รถของเขาก็จอดอยู่ตรงหน้าของเธอ จึงเปิดประตูรถแล้วลงไปเรียกหญิงสาว“คุณเรียกฉันว่าอะไรนะคะ”พริกแกงกับต้นหลิวถึงกับชะงักการเดินเมื่อได้ยินใครบางคนเรียกชื่อต้นรัก ต้นหลิวหันมาถามชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอด้วยความแปลกใจ เธอไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าเธอรู้จักต้นรักได้อย่างไรแล้วเขาเป็นใคร“คุณต้นรักไงครับ เอามือถือไปให้พี่สาวคุณเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ”คาวีถึงกับทำ
โรงพยาบาลต้นหลิวมานั่งรอฟังข่าวกับคาวีที่โรงพยาบาล ส่วนพริกแกงนั้นต้นหลิวให้เพื่อนเธอกลับไปก่อนเพราะดึกมากแล้ว“เป็นยังไงบ้างคุณ”ต้นหลิวเห็นคาวีคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานเมื่อเห็นเขาวางสายเธอก็รีบเข้าไปถามเรื่องถามราวทันทีว่าตอนนี้น้องสาวของเธอเป็นยังไงบ้าง“ข่าวดีก็คือ เค้าจะไม่เอาเรื่องคุณ”“จริงเหรอ??”“แต่เค้าจะไม่ปล่อยน้องคุณ”“ทำแบบนี้ไม่ได้คุณติดต่อเค้าไปใหม่ได้ไหมว่าฉันยอมรับผิดทุกอย่าง แต่ให้เขาปล่อยน้องฉันเถอะนะ เค้าจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะแจ้งตำรวจที่เค้าจับน้องฉันไปเหมือนกัน”ต้นหลิวถึงกับเข่าทรุดผู้ชายคนนั้นจะทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย ไม่ได้ยังไงเธอก็ไม่ยอมให้เขากักตัวน้องสาวเธอไว้แบบนี้แน่“ตำรวจทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก เรื่องนี้คุณผิดเต็มๆ เห็นหรือยังการทำอะไรไม่คิดมันจะเป็นยังไง”คาวีก็หมดหนทางที่จะช่วยจริงๆ เบนจามินนั้นมีอิทธิพลแค่ไหนเขารู้ดี พร้อมหันไปคาดโทษหญิงสาวให้เธอได้คิดว่าผลของการทำอะไรสิ้นคิดมันก่อให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง“ฮึก ฮือๆๆ แล้วจะให้ฉันทำยังไง”ต้นหลิวจากที่เป็นคนที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เจอแบบนี้เธอเองก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ดันไป
ชั่วโมงต่อมา“ให้มันเบามือหน่อยนะคะพี่เบน”น้ำใส หมอสาวที่ประจำอยู่ที่คลินิกของบ้านตัวเอง เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเบนจามิน สนิทกันเหมือนพี่เหมือนน้องแท้ๆเพราะเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากได้ตรวจดูอาการหญิงสาวเธอถึงกับต้องหน้าหงิกหน้างอใส่คนเป็นพี่ชายที่ดูจะรุนแรงเกินเหตุเกินเรื่องไป แต่เธอก็แปลกใจเล็กน้อยที่ดูพี่ชายเธอดูจะห่วงผู้หญิงที่นอนหลับอยู่บนเตียงเป็นพิเศษ เท่าที่เธอเคยรู้มาพี่ชายเธอไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่“อืม...รู้แล้วน่า”เบนจามินทำหน้าเซ็ง เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงเป็นหนักขนาดนี้เสียหน่อย แค่ควบคุมตัวเองไม่ได้ก็เท่านั้นเอง“นี่ยาค่ะ เธอตื่นก็ให้เธอทานด้วย น้ำเช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอแล้ว”น้ำใสยื่นซองยาให้คนเป็นพี่ชายจากนั้นจึงเตรียมตัวกลับทันที เพราะใกล้จะได้เวลาที่เธอจะต้องไปตรวจที่คลินิกแล้วโรงพยาบาล“นี่คุณ จะไปหาน้องฉันเมื่อไหร่”หลังจากที่หมอหนุ่มตรวจอาการของแม่เธอเสร็จต้นหลิวก็ถือโอกาสนี้ถามชายหนุ่มทันทีว่าเขานั้นจะไปหาผู้ชายคนเมื่อคืนเพื่อเจรจาเรื่องน้องเธอตอนไหน“ผมต้องออกเวรก่อน คงจะเป็นช่วงเย็น”“ฉันไปด้วยได้ไหม”ต้นหลิวอยากจะไป
วันต่อมา“เป็นยังไงบ้าง”เบนจามินเห็นหญิงสาวขยับตัวขึ้นในช่วงสายของวันจึงใช้หลังมือนั้นวัดอุณหภูมิที่หน้าผากของเธอดูว่าไข้ลดแล้วหรือยัง เพราะเมื่อคืนเธอตัวร้อนทั้งคืนจนเขาต้องปลุกให้เธอลุกขึ้นมาทานยาเบนจามินนึกโมโหที่หญิงสาวผละหน้าหนีจากมือของเขาอย่างท้าทาย ซ้ำยังไม่ยอมตอบยอมคุยกับเขาว่าตัวเธอนั้นอาการเป็นอย่างไรบ้าง รู้แบบนี้ปล่อยให้นอนป่วยโดยไม่ดูแลเสียก็ดี“ฉันจะบอกอะไรเธอให้ เธอควรจะทำตัวดีๆกับฉันเอาไว้แล้วเธออยากได้อะไรก็จะได้ทานข้าวแล้วทานยาซะ”จากนั้นจึงลุกขึ้นหันหลังให้หญิงสาวและประกาศก้องให้เธอได้ยินสิ่งที่เขาต้องการจะให้เธอได้รู้ เป็นการบอกนัยๆว่าเธอไม่ควรที่จะปฏิเสธเขาหลังจากชายหนุ่มเดินหันหลังออกจากห้องไปแล้วน้ำตาหญิงสาวก็ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่ขาดสาย คิดว่าหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาเรื่องร้ายๆมันจะเป็นแค่ฝันเสียอีกเธอร้องออกมาจนน้ำตาแห้งเหือดพร้อมบอกกับตัวเองให้ทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้ แล้วทำใจอยู่กับมันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เย็นของวัน“เอกสารที่ต้องเซ็นครับคุณเบน”เมื่อเจ้านายหนุ่มไม่ยอมเข้าบริษัทก็ต้องเป็นธุระของโจชัวที่จะต้องยกแฟ้มเอกสารทั้งหมดมาให้เจ้านายของเข
“ถ้าวันไหนรักไม่โอเคเค้าบอกเลยว่าเค้าจะช่วยรักทุกวิถีทาง แม้ต้องแลกด้วยชีวิตเค้าก็ยอม”ต้นหลิวก็ยังยืนยันให้น้องสาวของเธอได้มั่นใจว่าเธอพร้อมเป็นที่พึ่งของน้องสาวเธอได้ตลอดเวลา“ไม่หรอกหลิว เค้าโอเคจริงๆ”ต้นรักกุมมือคนเป็นพี่สาวแน่น ยืนยันคำเดิมว่าเธอโอเคเพราะเธอได้ตัดสินใจไปแล้ว“แล้วถ้าแม่ฟื้นมาเราจะบอกกับแม่ยังไง”ต้นหลิวยังคงกังวลใจอีกเรื่องหากแม่เธอฟื้นมาแล้วรู้เรื่องราวทุกอย่างวันนั้นมันจะเป็นอย่างไร เธอรู้ว่าแม่ต้องผิดหวังในตัวเธอมากแน่ๆ“อืม ให้มันถึงวันนั้นก่อนก็แล้วกัน”ต้นรักเองก็ยังคิดไม่ออกว่าถึงวันนั้นแล้วมันจะเป็นอย่างไรแต่ยังไงความจริงมันก็คือความจริงที่แม่ของเธอจะต้องรับรู้อยู่ดี“จะเที่ยงแล้วเค้าจะออกไปซื้อข้าว รักจะเอาอะไรไหม”ต้นหลิวเห็นว่านี่มันก็ใกล้เที่ยงแล้วเธอยังไม่ได้หาข้าวไว้ทานเลย หญิงสาวจึงต้องออกไปหาซื้ออะไรแถวห้างใกล้ๆนี้เสียหน่อย เพราะวันนี้น้องสาวเธอกลับมาทานข้าวกับเธอทั้งทีก็คงต้องหาอาหารญี่ปุ่นของโปรดให้น้องเธอทานบ้าง“อะไรก็ได้หลิวไปเถอะ เดี๋ยวเค้าอยู่เฝ้าแม่เอง”ต้นรักอยากอยู่เฝ้าแม่เธอมากกว่า หากพี่สาวเธอจะซื้ออะไรมาก็ทานได้ทั้งนั้น“อืม...แล้วเค
“โอเค แล้วรอยที่หน้าคุณล่ะอันนี้คุณแก้ตัวกับน้องคุณเองก็แล้วกัน”คาวีรู้ว่าเขาควรทำอะไรไม่ทำอะไรเพียงแต่รอยที่หน้าหญิงสาวให้เธอหาคำตอบให้น้องของเธอเองก็แล้วกัน เพราะมันเห่อแดงไปทั่วแก้มเสียขนาดนั้น“ไหนผมขอดูหน่อย”เมื่อจอดรถได้คาวีก็หันมาจับหน้าหญิงสาวแล้วจ้องดูรอยใกล้ๆเขาจะดูว่ามันช้ำแค่ไหนจะได้ให้ยาทาถูก“....”ต้นหลิวถึงกับเบิกตาโพรงหายใจติดขัดที่จู่ๆหมอหนุ่มก็ยื่นหน้ามาเสียใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน เธอเคยอยู่ใกล้ผู้ชายขนาดนี้เสียที่ไหนกัน“เดี๋ยวผมหายาให้ทาก็แล้วกันนะ”“เอ่อ อืม ขอบคุณ เลิกดูได้แล้ว”ต้นหลิวรู้สึกว่าใจเธอเต้นผิดจังหวะ พร้อมผละตัวออกจากหมอหนุ่มและเปิดประตูรถเดินดุ่มๆเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างไม่คิดจะรอเจ้าของรถ“อะไรกัน จะรอหน่อยก็ไม่ได้”คาวีส่ายหัวให้กับพฤติกรรมที่เดาใจยากของหญิงสาว จากนั้นจึงลงจากรถและเดินตามเธอไปติดๆ“รักเค้ามาแล้ว ซื้อแซลมอนโรลของโปรดมาให้ด้วยนะ”ต้นหลิวเข้าห้องมาได้ก็รีบชูกล่องของโปรดให้น้องเธอดูทันที“มันแพงจะตายหลิว ซื้อมาทำไม”ต้นรักรู้ว่าสถานการณ์การเงินที่บ้านเธอตอนนี้เป็นยังไง แล้วอีกอย่างพี่เธอก็ไม่มีงานทำยังจะซื้อของแพงๆให้เธอได้ทานอีก“ไม่เป
“บ้านคุณน่ารักดีนะ”หลังจากที่คาวีและต้นหลิวมาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ต้นหลิวก็จัดการกับอาหารที่พึ่งซื้อมาใส่จานเพื่อให้ชายหนุ่มนั้นได้รีบทานจะได้รีบกลับ“อืม ช่วงนี้บ้านไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ คุณก็อย่าถือแล้วกัน”เนื่องจากต้นหลิวไม่ค่อยได้มีเวลาทำงานบ้านเท่าไรที่นี่บ้านจึงดูไม่ค่อยเรียบร้อยต้องชิงบอกกับชายหนุ่มเอาไว้เสียก่อน เพราะเดี๋ยวเธอจะโดนเขากล่าวหาว่าไม่เป็นกุลสตรีอีก“นี่คุณถ้าคุณขาดเหลืออะไรคุณบอกผมได้เลย ผมยินดีช่วย”คาวีดูไปแล้วมันก็ไม่ได้ไม่เรียบร้อยเช่นที่หญิงสาวพูด ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ เพียงแต่มีเพียงแค่ฝุ่นเล็กน้อย อันนี้เขาเจ้าใจได้ว่าเธอไม่ค่อยได้กลับมาดูแลบ้าน เพราะหลังๆมานี้เธอเฝ้าแม่อยู่แต่โรงพยาบาล เขารู้ว่าเธอลำบากแต่ก็ไม่ยอมปริปากบอกใครแม้แต่น้องสาวของเธอเอง เขาจึงคิดอยากจะช่วย“จะปล่อยเงินกู้ให้ฉันหรือไง”ต้นหลิวที่กำลังสนใจกับอาหารในจานอยู่ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อดูสีหน้าของคาวีว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น เมื่อมองดูแล้วก็รู้ว่าท่าจะจริง แต่เธอเองก็คงจะรับน้ำใจนี้ไว้ไม่ได้เพราะเธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร เธอยังมีสองไม้สองมือครบเหมือนคนอื่นเธอจะต้องหา