ดอกแก้ว สตรีผู้เพียบพร้อมงามพิสุทธิ์บุตรีท่านพระยา ชีวิตที่สูงส่งกลับพลิกผันมีหนี้สินก้อนโต ไหนจะผู้เป็นน้องสาวที่กำลังรอความหวังจากนาง ดอกฟ้าจึงโน้มลงดินให้บุรุษที่ตนชังหนักหนาเชยชม กลายเป็นทาสสวาท เมียขัดดอก ทอดกายให้บุรุษมากเล่ห์ตักตวงความหวานจากดอกแก้วดอกงาม
View Moreดอกแก้วมองอาคารเบื้องหน้าด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดาความรู้สึก หนี้สินของนางตอนนี้ถูกเปลี่ยนมือไปเสียแล้ว และเจ้าหนี้ผู้นั้นคือบุรุษที่นางกำลังจะเข้าไปพบอีกฝ่ายในตอนนี้ แม้จะรู้จักเรือนของอีกฝ่ายแต่นางเลือกที่จะมาพบเขาที่บ่อนแห่งนี้ บ่อนที่นางเองก็พึ่งจะทราบว่าบุรุษผู้นั้นได้กลายเป็นหนึ่งในเจ้าของ แม้ว่าจะไม่ชมชอบสถานที่เช่นนี้ แต่หากจะไปขอพบอีกฝ่ายที่เรือนมันจะดูไม่ดีกับสตรีที่กำลังจะออกเรือนเช่นนางที่ไปพบชายหนุ่มเพียงลำพังถึงเรือน อีกอย่างนางเองก็ไม่คิดที่จะไว้ใจเขาด้วยเรื่องราวในวันนั้นยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของนาง ถึงแม้ว่าอยากจะลืมเลือนแต่มันกลับมิง่ายเลย และนางจะไม่ยินยอมให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง เรื่องหนี้สินที่ถูกเปลี่ยนมือ ทำให้นางกระวนกระวายใจจนแทบไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน เมื่อวานนางนั้นเดินทางไปพบเจ้าหนี้ เพื่อเจรจาที่จะขอผ่อนจ่ายหนี้สินเป็นงวดๆ ไป และยินยอมที่จะจ่ายดอกเบี้ยให้ตามสมควร เพราะนางนั้นไม่อาจที่จะเอาเปรียบคู่หมายที่จะกลายมาเป็นคู่ชีวิต เท่าที่อีกฝ่ายช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของบิดานาง ก็มากเกินพอแล้ว จะให้เขาต้องมารับผิดชอบหนี้สินเหล่านั้นได้อีกอย่างไรกันแต่ทุกอ
ร่างเล็กของสตรีที่เดินอยู่ริมถนนเพียงลำพังในยามบ่ายคล้อยทำให้หมื่นเดชาหาญณรงค์ต้องชะลอรถให้ช้าลง เขาพึ่งเดินทางกลับจากทำงานที่กระทรวงเหมือนเช่นทุกวัน ใบหน้างดงามคุ้นตาที่ดูเศร้าหมองราวกับพึ่งผ่านการร้องไห้มานั้นทำให้เขาต้องวนรถกลับไปหานาง"แม่เฉิดจันทร์จะไปไหนหรือ ขึ้นรถสิประเดี๋ยวข้าจักไปส่ง"เสียงของบุรุษที่เอ่ยขึ้นทำให้เฉิดจันทร์ชะงักฝีเท้า แววตาหวานปนเศร้าที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำฉ่ำวาวจ้องมองมายังเขา ทำให้หัวใจแกร่งกระตุก ก่อนจะเอ่ยกับอีกฝ่ายอีกครั้ง"ขึ้นรถสิ""เอ่อ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ"เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นอย่างสั่นเครือ เอ่ยบอกอีกฝ่ายอย่างเกรงใจ"ขึ้นรถเถอะประเดี๋ยวข้าจักไปส่ง มืดค่ำไปจักอันตราย"เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะไม่ยินยอมจึงเอ่ยเตือนนางเพราะตอนนี้ท้องฟ้าเหมือนจะมืดครึ้มลงเฉิดจันทร์ที่เห็นว่าเป็นดังที่อีกฝ่ายกล่าวและเพราะเกรงใจอีกฝ่ายที่รอนางอยู่นานจึงได้ยอมขึ้นรถไปกับบุรุษผู้เป็นคู่หมายของพี่สาวต่างสายเลือดหมื่นเดชาหาญณรงค์จ้องมองสตรีด้านข้างที่นั่งขดกายชิดประตูรถเป็นระยะ ให้นึกแปลกใจว่าผู้ใดกันที่ทำให้สตรีนางนี้หมองเศร้าได้ถึงเพียงนี้ เขาคิดว่านางจะเป็นสตรีอารมณ์ร้ายนิสัยห
เสียงหวานของสตรีผู้มาใหม่ ทำให้เกิดความเงียบอันน่าอึดอัดขึ้น ต่างคนต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ดอกแก้วทำเพียงปรายตามองท่าทางอ่อนหวานของสตรีนางนั้นที่ช่างดูเสแสร้งอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจ นางชินชากับท่าทางไร้เดียงสาของอีกฝ่ายเสียแล้ว แต่ก็ไม่คิดฝันว่าสตรีนางนี้ยังจะกล้าเข้ามาทักทายนางอีก ทั้งๆ ที่มารดาของนางทำให้บิดาของตนเจ็บหนักถึงเพียงนั้น ช่างไม่มีความละอายส่วนบุรุษข้างกายนางก็ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก ทั้งที่มีสตรีอยู่ข้างกายใยถึงยังใช้สายตาเช่นนั้นมองนางอีก นางจะไม่มีวันหลงใหลกับการล่อลวงของอีกฝ่ายอีกเด็ดขาด บุรุษผู้นี้ร้ายกาจเกินไป ทั้งกับความรู้สึกและร่างกายนาง ชายมากรักไม่รู้จักพอ ตัวเองมีคนรักอยู่แล้วแท้ๆ ยังมายุ่งวุ่นวายกับนางอีก เพราะความรู้สึกที่มีต่อบุคคลทั้งสองที่มาปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำให้ดอกแก้วมิทันที่จะสังเกตอาการของบุรุษผู้เป็นคู่หมายของนาง ที่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง"ข้าไหว้เจ้าค่ะท่านขุน"ดอกแก้วจำต้องเอ่ยทักทายอีกฝ่ายอย่างเสียมิได้อย่างไรเขาก็ถือว่ามีบุญคุณ ช่วยเหลือนางในหลายๆ ครั้ง แต่ตั้งใจที่จะเมินสตรีข้างกายของเขา แม้นางจะเตือนตัวเองมิให้สนใจอีกฝ่
เรือนท่านหมื่นเดชาหาญณรงค์ในวันนี้ช่างดูครึกครื้นยิ่งนัก บรรดาบ่าวไพร่ต่างมีใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเพราะได้รับเงินรางวัลกันถ้วนหน้า เนื่องในโอกาสที่บนเรือนล้วนมีแต่ข่าวที่น่ายินดี ในอีกสองวันนี้จะมีงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของคุณหญิงระพี นายหญิงของเรือนที่มีอายุครบห้าสิบปีบริบูรณ์ ทุกคนต่างช่วยกันจัดเตรียมข้าวของกันอย่างขยันขันแข็ง และข่าวน่ายินดียังไม่หมดเพียงเท่านั้น ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าก็จะมีงานมงคลของท่านหมื่นเดชาหาญณรงค์กับคุณหนูดอกแก้วผู้เป็นคู่หมายที่หมั้นหมายกันมานาน ในที่สุดก็ได้ฤกษ์แต่งเสียที คุณหญิงระพีนั้นก็หน้าตาสดชื่นแจ่มใสที่จะได้แต่งสะใภ้ที่ท่านทั้งรักทั้งเอ็นดู ตกรางวัลให้บ่าวไพร่ในเรือนเสียยกใหญ่ เป็นวาสนาของคุณหนูดอกแก้วเธอจริงๆ ที่มีว่าที่แม่ผัวทั้งรักทั้งหลง ถึงแม้ว่าเรือนของเธอจะประสบเคราะห์กรรมครั้งใหญ่ก็หาได้เป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ไม่"พ่อเดชจักไปหาน้องรึ"คุณหญิงระพีเอ่ยถามผู้เป็นบุตรชายทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังก้าวออกมาจากหอนอนของตนร่างสูงเดินเข้ามาทรุดกายลงนั่งข้างๆ มารดาของตนเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง หลายวันมานี้เขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
เฉิดจันทร์ใช้หวีสางผมที่ดูยุ่งเหยิงของตนจนมันกลับมาเรียบลื่นเป็นทรงงดงามดังเดิม ดวงตาคู่งามจ้องมองใบหน้าสวยในกระจก นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามรอยจ้ำสีกุหลาบที่ผุดขึ้นทั่วเนินสล้างพลันยกยิ้มขึ้น เหลือบมองบุรุษที่หลับสนิทอยู่บนเตียงกว้าง นางสู้อุตส่าห์ลงทุนลงแรงเปลืองเนื้อตัวจนถึงขนาดนี้ เขาจักให้นางเห็นเขาร่วมผูกวาสนากับสตรีอื่นเช่นนั้นหรือ และสตรีนางนั้นยังเป็นสตรีที่นางเกลียดชังจนเข้ากระดูกอีกด้วย ช่างน่าขันเสียจริง เฉิดจันทร์นางเดินนวยนาดออกจากรังรักของนางกับหมื่นเดชาหาญณรงค์ไปอย่างอารมณ์ดี วันนี้นางอยากจะออกไปทำผมเสียหน่อย ในคราแรกนางคิดว่าจะไปนวดเนื้อขัดตัวเพื่อเตรียมตัวกับการเป็นภริยาท่านหมื่น แต่เห็นทีว่าวันนี้คงจะทำมิได้ เพราะบุรุษที่ยังคงหลับใหลอยู่นั้นทิ้งรอยรักตามเนื้อนวลของนางเต็มไปหมด เพียงแค่นี้ก็บ่งบอกได้ว่าอีกฝ่ายหลงใหลในตัวนางมากเพียงใด อยากจะเห็นหน้านังดอกแก้วในวันที่รู้เรื่องของนางกับคู่หมายของมันแทบไม่ไหว อยากจะรู้นักว่ามันจะวางท่าเย่อหยิ่งจองหองอยู่อีกหรือไม่ เมื่อรู้ว่าบุรุษของมันได้กลายเป็นของนางเสียแล้ว เพียงแค่คิดนางก็แทบจะอดทนรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหว นางเกลียดแสนเกลียด
ใบหน้างามของดอกแก้วซีดเผือดหลังจากที่ได้ฟังคำวินิจฉัยอาการของบิดา คำพูดของหมอยังดังอื้ออึงอยู่ในหัว นางได้แต่พร่ำถามตัวเองว่านางได้ไปทำกรรมใดเอาไว้หนักหนา ชีวิตถึงได้ดูยุ่งเหยิงตกต่ำนักบิดาของนางตอนนี้ยังไม่ฟื้น มีเลือดบางส่วนที่คั่งค้างอยู่ในหัว เพราะหัวนั้นฟาดกับของแข็งอย่างรุนแรง จำเป็นที่จะต้องเอาเลือดส่วนนั้นออกอย่างเร่งด่วนจึงจะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ และต้องได้รับการรักษาจากหมอฝรั่งที่มีความชำนาญเฉพาะทาง ต้องส่งตัวไปโรงหมอฝรั่งที่มีเครื่องมือครบครัน นั่นหมายถึงค่ารักษามหาศาล นางจะไปเอาเงินมาจากไหนกัน เรือนก็กำลังจะถูกยึด ชีวิตบิดาก็สำคัญ แล้วยังจะอาการป่วยของหนูยิ้มอีกเล่า ร่างบางนั้นสิ้นไร้เรี่ยวแรงทรุดกายลงนั่งโดยการประคองของบุรุษข้างกาย"แม่ดอกแก้ว ไม่เป็นไร เจ้าอย่าลืมสิว่ายังมีพี่อยู่ทั้งคน"ดอกแก้วแหงนเงยใบหน้าเศร้าหมองขึ้นมองเจ้าของน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่เอ่ยปลอบประโลม สายตาที่ทอดมองนางทำให้นางปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น โผเข้าหาอ้อมแขนที่อ้ารับนางอย่างต้องการที่พึ่ง หมื่นเดชาหาญณรงค์ปล่อยให้สตรีในอ้อมแขนร้องไห้อยู่เช่นนั้น เขาอยากให้นางระบายมันออกมาให้หมด จนกระทั่งเสียง
เป็นสายจากคนของเขาที่โทรมาจากโรงหมอ ความร้อนใจทำให้ดอกแก้วหลงลืมเรื่องน่าอายระหว่างนางกับบุรุษข้างกาย ทั้งคู่เร่งมาที่โรงหมอในทันที"เฮ้ ขุนไกร"ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินตรงไปยังห้องที่คุณพระสรเดชรักษาตัวอยู่ระหว่างทางมีฝรั่งตัวใหญ่เอ่ยเรียกคนตัวสูงเอาไว้ แม้จะมองจากไกลๆ ดอกแก้วนางก็จำได้ว่าเป็นนายฝรั่งเจ้าของบ่อนผู้เป็นสหายของเขา และดูเหมือนว่าฝรั่งผู้นั้นคงมีธุระกับอีกฝ่าย แต่เห็นบุรุษข้างกายมองมายังนางอย่างลังเลใจจึงได้กล่าวออกไป"ท่านไปหาสหายเถอะเจ้าค่ะ ข้าไปผู้เดียวได้"นางเอ่ยกับเขาอย่างเกรงใจแค่เขาเป็นธุระให้นางถึงขนาดนี้นางก็รู้สึกเกรงใจมากแล้ว"เช่นนั้น ประเดี๋ยวข้าจักรีบตามไป"ขุนไกรบอกกับนางสายตาที่ทอดมองอย่างห่วงใยทำให้นางส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างขอบคุณ พยักหน้ารับ มองแผ่นหลังกว้างที่เดินไปหาสหายด้วยความรู้สึกหลากหลายยากจะอธิบาย ก่อนจะเดินไปหาผู้เป็นบิดาเมื่อมาถึงห้องที่บิดารักษาตัวอยู่คุณหมอก็เชิญนางเข้าไปคุยถึงอาการของบิดา"แม่ดอกแก้ว"แต่ยังมิทันที่นางจะได้เดินเข้าไปพบหมอ เสียงของบุรุษผู้มาใหม่ที่เอ่ยเรียกทำให้นางต้องหันกลับไปมอง ภาพของบุรุษใบหน้าหล่อเหลาที่เร่งฝีเท้าเดินเข้
รสชาติแปลกใหม่ที่ได้รับกับกลิ่นหอมที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งปาก สร้างความพอใจให้โฉมสะคราญเป็นอย่างยิ่ง จนต้องยกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ความสดชื่นที่ได้รับไหลผ่านลำคอพร้อมความร้อนวาบวูบหนึ่งที่แผ่ซ่านขึ้นมาบนใบหน้า สัมผัสได้ถึงเลือดลมที่ไหลเวียนคล่องขึ้นอย่างประหลาด แล้วยังรู้สึกถึงความปลอดโปร่งสบายตัวดังคำที่เขาบอก ก่อนจะวางแก้วที่ว่างเปล่าลงตรงหน้าเอ่ยถามขึ้นทำลายความเงียบด้วยกิริยาที่ดูผ่อนคลายลง"ทางโรงหมอยังมิติดต่อมาหรือเจ้าคะ""ยังเลย เจ้าอยากจะพักสายตาสักหน่อยหรือไม่"ขุนไกรส่ายหน้าประกอบคำพูดเอ่ยกับสตรีตรงหน้าโดยที่สายตาไม่ละจากใบหน้างามแม้แต่น้อย จนร่างบางขยับกายอย่างอึดอัดระคนเขินอายเมื่อสบเข้ากับดวงตาคมกล้านั้น ในอกของนางสั่นไหวขึ้นมาแปลกๆ จึงส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเก้อกระดาก"เอ่อ ขออีกแก้วได้หรือไม่เจ้าคะ"เสียงหวานกล่าวขึ้น ยื่นแก้วมาตรงหน้าเขา นัยน์ตาหวานนั้นฉ่ำเยิ้มจนคนมองลมหายใจติดขัด"ข้าบอกว่าไม่เมาหากดื่มเพียงเล็กน้อย แต่หากมากไปกว่านี้เจ้าอาจจักเมาได้"ขุนไกรกล่าวเตือนสตรีตรงหน้า สายตาคมจับจ้องทุกกิริยาของนาง มองมือเรียวขาวที่ยื่นมารับแก้วที่เขารินส่งให้"ข้าคงมิเมาง่ายดายถึงเ
ดอกแก้วกวาดตามองไปรอบห้องที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ทว่าดูดี สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเจ้าของ ห้องนี้คงเป็นห้องนอนของเขาอย่างมิต้องสงสัย เตียงกว้างดูทันสมัยโดยเฉพาะเบาะรองนอนนั้นดูหนานุ่มเป็นอย่างมาก เพียงแค่นางทิ้งร่างลงนั่งบนเตียงกว้างอย่างถือวิสาสะความนุ่มหยุ่นและกลิ่นอายของชายหนุ่มเจ้าของห้องก็กรุ่นอยู่ตรงปลายจมูก สัมผัสที่ได้รับทำให้ใบหน้างามร้อนผ่าวแดงเรื่อขึ้นมาดื้อๆ จนต้องสะบัดหน้าแรงๆ ไปทีหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปชำระกายในห้องอาบน้ำที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันดูแปลกตา ภาพสะท้อนของสตรีรูปร่างสะโอดสะอง ใบหน้างดงามแต่ดวงตากลมโตหวานซึ้งนั้นกลับดูเศร้าหมอง ภาพที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาบนผนังนั้นช่างงดงามเป็นอย่างยิ่ง ความงามที่สตรีทุกผู้พากันอิจฉา ความงามเย้ายวนที่เหล่าบุรุษล้วนอยากที่จะครอบครอง รวมทั้งตัวของบุรุษผู้เป็นเจ้าของเรือนแห่งนี้ด้วยดอกแก้วมองใบหน้างามของตนเองในกระจกเงาบานใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นไปทั้งเรือนร่าง ก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างเยาะหยันกับชะตาชีวิตของตนเอง มือขาวนวลเนียนยกขึ้นไล้ปลายนิ้วเรียวเสลาดังลำเทียนไปตามคิ้วเรียวสวยได้รูป ดวงตากลมโตที่มีแพขนตางอนยาวทำให้ยิ่งด
สายลมเย็นจากลำคลองกว้าง พัดผ่านสายน้ำที่ยาวสุดลูกหูลูกตา พัดโชยหอบเอากลิ่นหอมของมวลดอกไม้ป่ามากระทบใบหน้าให้ความสดชื่นเย็นสบาย ผมยาวดำสลวยที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่มาเป็นอย่างดีปลิวสยายเต็มแผ่นหลังบอบบาง พลิ้วไหวเคล้าคลอไปกับสไบสีกลีบบัวผืนงามที่ห่มลาดไหล่เล็กขาวผ่อง ลมอ่อนโชยนั้นปะทะบางเบากับใบหน้าหวานละมุนที่เจ้าของกำลังหลับตานิ่งเห็นเพียงแพขนตางอนยาวเรียงตัวสวยเป็นระเบียบ เรือนร่างงดงามสมส่วนนั่งเอนศีรษะทุยเล็ก พิงกับเสาของศาลาริมน้ำที่ยื่นออกไปนอกท่า สองขาเรียวขาวผ่องยื่นปลายเท้าเปลือยลงไปในสายน้ำเย็นฉ่ำทอดอารมณ์ไปกับกลิ่นอายของธรรมชาติ นึกถึงเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาของตน มรสุมชีวิตที่โหมกระหน่ำเข้ามาไม่จบไม่สิ้น แต่ในครั้งนี้ดูเหมือนจะหนักหนายิ่งนัก และมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้โฉมสะคราญจากพระนคร จำต้องจากเรือนมาอาศัยชายคาของผู้อื่นไกลถึงต่างเมืองเรือนไทยหลังงามติดริมน้ำอันใหญ่โตโออ่าแห่งนี้ คือเรือนของ ท่านเศรษฐีทองคำ แห่งเมืองสังคบุรี เศรษฐีใหญ่เจ้าของผืนดินมากมายในเมืองสังคบุรีแห่งนี้ เป็นบุคคลที่เหล่าชาวบ้านชาวเมืองและเจ้าขุนมูลนายให้ความนับหน้าถือตา และดูเหมือนว่าท่านเศรษฐีจะร่...
Comments