“นั่นลูกวัวพึ่งคลอดก่อนหน้าที่พี่ปิ่นจะมาสองวันเอง”
นภาชี้เจ้าลูกวัวตัวเมียที่เดินตามแม่กินหญ้าต้อยๆให้ปิ่นงามได้ดูขณะที่นั่งมองวิวทิวทัศน์กันอยู่ใต้ร่มต้นก้ามปูใหญ่
“น่ารักดีนะดูสิตามแม่ต้อยๆเลย”
“พี่ปิ่นนั่งเล่นตรงนี้ก่อนน้ะจ๊ะเดี๋ยวฉันไปเก็บชะอมริมรั้วสักหน่อยเอาไว้ทำกับข้าวเย็นนี้จะ”
“เดี๋ยวพี่ไปช่วย”
“ไม่ต้องหรอกจะแปปเดียวก็เสร็จแล้ว”
“ก็ได้จะ”
นภาอยากให้ปิ่นงามนั่งรับลมเล่นตรงนี้จะดีกว่าเพราะเธอก็ไม่ได้ไปนานเท่าไรนัก
“เอ่อ..มีอะไรหรือเปล่า”
ขณะที่ปิ่นงามนั่งเล่นเพลินๆจู่ๆก็มีหญิงสาวรูปร่างอวบอิ่มแต่งตัวแต่งหน้าสีสันฉูดฉาดเดินเข้ามายืนกอดอกมองหน้าเธออย่างไม่เป็นมิตรเท่าไรนัก
“คุณน่ะเหรอจะมาเป็นเมียนาย”
“.....”
ปิ่นงามพยักหน้ารับทั้งยังคิดในใจว่าไม่พ้นผู้หญิงคนนี้จะเป็นผู้หญิงของคีรีอีกแน่
“นายบอกกับฉันเองตอนที่นอนอยู่ด้วยกันว่าไม่ได้ต้องการคุณเลยสักนิดที่ต้องแต่งเพราะจำเป็น”
“แค่นี้ใช่หรือเปล่าที่จะบอกฉัน”
ปิ่นงามหลุบสายตาลงเล็กน้อยที่แท้ก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ
“อีกอย่างคือ...นายเป็นของฉันคุณอย่าคิดว่าจะแย่งนายไปได้ไม่อย่างนั้นได้เจ็บตัวแน่..ฉันขอตัว”
ผกามองค้อนปิ่นงามดวงตาแทบจะถลนก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดกลับไปเธอยิ่งเห็นปิ่นงามสวยตามที่คนในไร่บอกก็ยิ่งหวงคีรีหนักเพราะฉะนั้นเธอต้องแสดงตัวตนให้ปิ่นงามรู้เอาไว้เสียก่อนว่าหากคิดจะแย่งของๆเธอจะต้องเจอกับอะไร
“พี่ปิ่น..ผกามาคุยอะไรกับพี่”
นภารีบเดินจ้ำอ้าวกลับมาหาปิ่นงามเมื่อเห็นว่าผกาเดินเข้ามาหาว่าที่พี่สะใภ้กลัวเหลือเกินว่าจะมาพูดเรื่องไม่ดีให้ปิ่นงามหม่นหมองใจ
“ไม่มีอะไรหรอกเธอแค่มาทักทายเฉยๆน่ะเราไปทำกับข้าวกันเถอะ”
ปิ่นงามฉีกยิ้มอ่อนไม่คิดจะบอกว่าผกามาคุยอะไรกับเธอเพราะคิดว่าพูดไปคงจะทำให้เป็นปัญหาเกิดขึ้นเปล่าๆดีเหมือนกันที่ผกามาแสดงตัวเธอจะได้ทำใจเอาไว้ว่าว่าที่สามีของเธอนั้นมีใครอยู่บ้าง
20.00 น.
ว่าที่เมียนายสวยหยาดเยิ้มจังเลยว่ะ
ผกานั่งอยู่หน้ากระจกด้วยชุดผ้าถุงกระโจมอกหลังจากอาบน้ำเสร็จเธอนึกถึงคำพูดของคนในไร่ที่เยินยอปิ่นงามสารพัดเมื่อตอนเธอเอาขนมไปส่งที่ไร่ก็นึกหมั่นไส้ไม่น้อย
“หึ่...ใครจะสวยไปกว่าฉันไม่มีทาง”
แกร๊กกก
“พ..พี่ศักดิ์..”
ศักดิ์สิทธิ์พี่ชายของสรวงคนรักเก่าของผกาตั้งแต่สมัยวัยรุ่นเขาทิ้งเธอไปมีเมียใหม่แล้วหนีไปอยู่กรุงเทพทำให้เธอตรอมใจอยู่เป็นปีๆไม่คิดว่าวันนี้เขาจะกลับมาหาเธอที่นี่อีก
“คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า”
ศักดิ์สิทธิ์ชายหนุ่มร่างท้วมสูงใหญ่วัย30เข้าบ้านผกามาได้ก็รวบกอดร่างอวบอิ่มที่กำลังอยู่ในชุดผ้าถุงกระโจมอกเอาไว้แน่น
“พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไร”
ผกาพยายามดิ้นหนีออกจากอ้อมกอดของศักดิ์สิทธิ์เพราะเธอไม่ได้เหลือใจให้เขาแล้วแม้แต่น้อย
“ตั้งแต่เมื่อวาน..เอ็งยังสวยเหมือนเดิมเลยนะผกา”
ใบหน้าที่หนวดเคราเฟื้มซุกไซร้ซอกคอหอมดอมดมคนที่เคยมีสัมพันธ์เมื่อหลายปีก่อนด้วยความหื่นกระหาย
“ปล่อยฉัน..พี่มีเมียแล้วจะมายุ่งอะไรกับฉันอีก”
ผกาพยายามผลักร่างสูงออกให้ห่างจากตัวแม้นจะไม่ได้รักแต่ก็ยังคับแค้นใจศักดิ์สิทธิ์ที่ได้เธอแล้วก็ทิ้งไปไม่ใยดี
“ข้าเลิกกับเมียข้าแล้วโว้ย”
“เลิกแล้วก็เรื่องของพี่แต่อย่ามายุ่งกับฉัน”
ผกาไม่สนว่าศักดิ์สิทธิจะโสดหรือมีเมียแต่เธอไมได้สนใจเขาแล้วและไม่อยากให้เขามายุ่งกับเธอ
“ได้ข่าวว่าเป็นผู้หญิงไอ้คีรีไม่ใช่เหรอเห็นมันจะแต่งงานแล้วนี่อีกหน่อยก็คงเฉดหัวเอ็งทิ้ง”
ชายหนุ่มรงวบอุ้มผกามานอนทับที่ฟูกนอนในห้องนอนของเธอห้องนี้เขาจำได้ดีว่าเขาเคยร่วมรักกับเธอออกจะบ่อยก่อนจะไปแต่งงานกับสาวสวยจากเมืองกรุงที่มาเที่ยวที่นี่แล้วเจอกัน
“ไม่มีทางนายบอกว่าจะมาหาฉันเหมือนเดิม..ปล่อย”
ผกาไม่เชื่อคำที่ศักดิ์สิทธิ์พูดแม้แต่น้อยเพราะเธอยังคงเชื่อในคำพูดของคีรี
“ถ้าเอ็งไม่ยอม...เรื่องของเอ็งกับข้าถึงหูไอ้คีรีแน่”
ฟึ่บ
พูดจบมือหนาก็ถลกผ้าถุงจากที่มันปกปิดทรวงอกอิ่มอยู่ก็ร่นไปกองที่เอวเผยให้เห็นสองเต้างามที่คุ้นเคยตั้งตระหง่านอยู่เต็มสองตาเขาไม่รีรอรีบยกมือหนาคว้าหมับบีบทรวงอกอิ่มขยำเล่นอย่างสนุกมือก่อนจะก้มลงดูดดึงตะกุมตะกามยกใหญ่ด้วยอารมณ์ที่หื่นกระหายด้วยเลิกร้างกับเมียเมืองกรุงมาสักระยะทำให้ความต้องการใรตัวมันพุ่งสูง
“พี่ศักดิ์..”
ผกากัดฟันกรอดที่ศักดิ์สิทธิ์ใช้ข้อนี้มาบังคับเธอแต่ไม่นานนักหญิงสาวที่มีความต้องการพอกันกับอีกฝ่ายเมื่อถูกจุดฟสวาทติดสมองก็เริ่มขาวโพลนไม่รับรู้อะไรรู้เพียงแค่ตัวเองมีความสุขกับการร่วมรักครั้งนี้เท่านั้น
“อืม...”
ผกากัดริมฝีปากอวบอิ่มของตนจนแทบห้อเลือดใบหน้าแดงซ่านหลับตาปี๋แอ่นอกเกร็งเป็นระยะขณะที่ศักดิ์สิทธิ์กำลังเล้าโลมดูดดึงตามเนื้อตัว
“อืม...เอ็งนี่มันน่าฟัดไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ”
ศักดิ์สิทธิ์ยิ้มกริ่มพอใจกับอารมณ์ของผกาที่จุดติดได้ไวไม่น้อยเขาค่อยๆเลื่อนตัวลงมาจนถึงท่อนล่างของหญิงสาวใช้สองมือถลกผ้าถุงขึ้นก่อนจะดันหัวเข่าให้เรียวขาทั้งสองของเธอแยกออกจากกันเผยให้เห็นร่องสวาทที่มีขนปกปิดรำไร
“สวยเหมือนเดิมนี่นา”
“อืม..อ้ะ”
ชายหนุ่มลูบไร้สัมผัสเล่นมันอย่างคุ้นเคยจนร่างอวบอิ่มสะดุ้งเฮือกพร้อมเปล่งเสียงครางในลำคอหวานออกมาด้วยความเสียว
“อ้ะ..พี่ศักดิ์...”
ผกาเริ่มก้นไม่ติดฟูกเมื่อชายหนุ่มสอดนิ้วแกร่งเข้าไปในร่องสวาทชักเข้าออกระรัวจนตอนนี้น้ำรักไหลออกมาหยาดเยิ้มเต็มมือของเขาก่อนจะก้มใบหน้าคมประชิดดอกบัวงามตวัดลิ้นซดน้ำรักหวานหยาดเยิ้มอย่างกระหาย
ซวบบบ “อืม”
“อ๊า..อ้ะ”
สาวเจ้าเริ่มครางไม่ได้ศัพท์มือน้อยทั้งสองก็ซุกไซร์กดอยู่ที่ไรผมของชายหนุ่มเธอยังคงกดหัวเขาเอาไว้อยู่อย่างนั้นเพราะสิ่งที่เขากำลังทำในทำให้เธอรู้สึกดีไม่น้อย
“ทำให้ข้าบ้างสิวะ”
“อืม..อือ”
ร่างหนาพลิกตัวหันให้แท่งร้อนของเขาอยู่ตรงปากของผกาหญิงสาวก็รู้ดีว่าเธอจะต้องทำอะไรเพราะเคยๆกันมาก่อนเธอดูดดึงแท่งร้อนราวกับไอติมอันแสนอร่อยส่วนร่องสวาทของเธอก็ถูกลิ้นร้ายของศักดิ์สิ์ทธิ์ตวัดเลียร่องสวาทระรัวเช่นเดิมตอนนี้ทั้งสองจึงมีความสุขแทบจุกอกกันเลยทีเดียว
“อื้ออๆๆ..”เสียงหวานของผการ้องเจือในลำคอเล็กน้อยเมื่อสะโพกแกร่งกระแทกจนแท่งร้อนเข้าลึกลงมาในคอของเธอซวบบบ..“อ่าสส..”ในส่วนของชายหนุ่มก็ตวัดฉกชิมน้ำรักของหญิงสาวเสียงซดมูมมามพักใหญ่จนหนำใจแล้วค่อยเปลี่ยนท่วงที่ให้หญิงสาวนอนหันหลังชันเข่าขึ้น“ฉ..ฉันไม่ไหว..”ผการีบแอ่นก้นให้ศักดิ์สิทธิ์ได้สอดใส่แท่งร้อนเพราะตอนนี้เธอรอมันไม่ได้อีกแล้วความเสียวมันซาบซ่านไปทั้งตัวจนลืมอายไปหมดแล้ว“ข้าก็เหมือนกัน”พลั่กกก“อ้ะ...อื้ออ”สิ้นเสียงชายหนุ่มเขาก็เสียบแท่งร้อนเข้าร่องสวาทที่เยิ้มฉ่ำแฉะจนมิดตับ ตับ ตับ เสียงเนื้อที่กระทบกันดังสนั่นขณะที่ชายหนุ่มรัวสะโพกเข้าออกร่องสวาทผสมกับเสียงครางแห่งความสุขของหญิงสาวที่ไม่ได้สุขแบบนี้มานานแล้ว“อืม..”ผกาชันตัวขึ้นให้หลังของเธอแนบกับอกแกร่งของชายหนุ่มก่อนจะดึงมือหนาของเขามากอบกุมเต้างามทั้งสองเอาไว้“อ้ะ...”หลังจากที่ชายหนุ่มกระแทกจากข้างหลังจนหนำใจร่างอวบอิ่มถูกพลิกให้นอนหงายเขาจับเรียวของทั้งสองแยกออกจากกันและจับอีกข้างพาดบ่าเอาไว้และเสียบแทงเท่งร้อนรัวสะโพกใส่หนักๆรัวๆอีกครั้งจนร่างของผกาหัวสั่นหัวครอนรวมไปถึงทรวงอกอิ่มก็เด้งตามจังหวะให้ศักดิ์สิทธิ
“พี่ปิ่นไม่ได้อยู่ที่นี่จะแม่”นภาส่ายหัวหงึกหงักตอบแทนคีรีว่าปิ่นงามไม่ได้อยู่ที่นี่พอเห็นแม่เธอถามถึงปิ่นงามเธอก็เริ่มเห็นถึงความผิดปกติแล้วเพราะถ้าพี่ชายเธอไปส่งปิ่นงามที่บ้านก่อนจะมาที่นี่แล้วแม่เธอจะมาตามปิ่นงามที่นี่ทำไม“อ้าว.. ที่บ้านก็ไม่อยู่”ดอกแก้วเท้าเอวสงสัยว่าตกลงปิ่นงามอยู่ที่ไหนกันแน่“ฉันขอตัวก่อนนะ”คีรีเห็นท่าจะไม่ดีจึงเห็นว่าต้องขอตัวจากแม่และน้องสาวตนไปข้างนอกเสียตอนนี้จะดีกว่าแต่ยังไม่ทันได้ก้าวสักก้าวนภาก็ดึงเขาเอาไว้ก่อนทั้งยังเค้นถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าคาดโทษ“เดี๋ยวพี่คี...พาพี่ปิ่นกลับมาหรือเปล่า”“อืม... น่าจะลืม”คีรีตอบอย่างลอยหน้าลอยตา“พี่คี....ไปรับพี่ปิ่นกับภาเดี๋ยวนี้เลยทำแบบนี้ได้ยังไง”นภาบ่นพี่ชายตนอุกไม่รู้ว่าตอนนี้ปิ่นงามจะเป็นอย่างไรบ้าง“นั่นสิ...มันน่านัก”คนเป็นแม่บิดหน้าท้องลูกชายเธอจนร้องลั่น“โอ้ยย..ๆๆแม่ผมเจ็บ”“รีบไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”ดอกแก้วรู้ว่าคีรีไม่ได้พอใจที่จะแต่งงานแต่ก็ไม่คิดว่าลูกชายเธอจะแกล้งปิ่นงามแบบนี้“ต้องแกล้งกันขนาดนี้เลยเหรอ”ปิ่นงามเดินถือของกลับด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์นักมือน้อยยังคงคอยปาดเหงื่อที่กำลังหยดมาเรื่อยๆห
“ลูกสะใภ้พ่อเลี้ยงนี่งามสมชื่อปิ่นงามเลยนะ”ผู้ใหญ่บ้านกำนันที่มาร่วมงานก็เอ่ยชมปิ่นงามกับพ่อเลี้ยงอินทร์เปราะเพาะเธอสวยน่ารักจนเป็นที่จับจ้องของผู้ชายแทบจะทุกคน“ไม่ใช่สวยอย่างเดียวนะงานบ้านงานเรือนเก่งเสียด้วย”พ่อเลี้ยงอินได้ยินเช่นนี้ตลอดเวลาที่อยู่ในงานทำให้เขาเองก็ยิ้มไม่หุบทั้งยังอวดด้วยว่าลุกสะใภ้ของเขาไม่ได้สวยอย่างเดียวเท่านั้นยังเรียบร้อยเป็นแม่บ้านแม่เรือนได้ดีอีกด้วย“แบบนี้พ่อคีรีไม่หลงแย่เลยเหรอ..ฮ่าๆๆ”“อยากจะให้หลงน่ะสิจะได้มีหลานให้อุ้มหัวปีท้ายปี”เสียงผู้ใหญ่คุยหัวเราะเฮฮากันดูจะครึกครื้นตื่นเต้นมากกว่าตัวบ่าวสาวในงานเสียอีกหลังจากพิธีสู่ขวัญรดน้ำสังข์ผูกข้อไม้ข้อมือเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาที่จะส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอที่เรือนเล็กท้ายไร่ผู้คนจากเรื่อนใหญ่ก็เดินตามมาส่งสองบ่าวสาวกันเป็นขบวน“นาย.. เมียนายสวยยังกะนางฟ้าผู้ชายในไร่มองตากันเป็นมัน...นายไม่สนใจเธอจริงๆเหรอ”สรวงได้จังหวะก็มาเอ่ยกระซิบกับคนเป็นนายไม่อยากจะคิดว่านายของเขาจะไม่สนใจปิ่นงามจริงๆ“จะสนไม่สนเอ็งยุ่งอะไรด้วยวะ”คราแรกคีรีก็ว่าจะไม่สนใจพอได้ยินผู้ชายคนอื่นเอ่ยชมป่นงามมากๆเข้าเขาก็รู้สึก
“โถ่.. โว้ยย..”คีรีตวาดใส่หญิงสาวก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้หญิงสาวนอนหายใจหอบถี่ด้วยอาการตกใจเพียงคนเดียว“เฮ้อ...”ปิ่นงามรีบวิ่งไปล็อคประตูเอาไว้เพราะกลัวว่าคีรีจะกลับมากระทำสิ่งที่เธอไม่ต้องการอีก22.00 น.“ไม่เห็นเอ็งไปงานแต่งไอ้คีรี...เมียมันสวยเหมือนกันนี่หว่า”ศักดิ์สิทธิํทาหาผกาช่วงกลางดึกตั้งแต่คืนนั้นทั้งสองก็นัดกันเล่นบทสวาทเรื่อยมาโดยที่ไม่มีใครรู้“อย่ามาพูดให้ฉันได้ยินฉันไม่อยากฟัง”คำพูดของศักดิ์สิทธิ์ทำสาวร่างอวบอิ่มที่นุ่งผ้าถุงกระโจมอกอยู่บนตักชายหนุ่มหงุดหงิดขึ้นมากะทันหัน“เออ... ข้าไม่พูดเรื่องคนอื่นแล้วก็ได้..”ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้คิดจะมาเย้ยอะไรผกาเขาก็พูดตามที่คิดเพราะปิ่นงามนั้นงามสมชื่อจริงๆ“มาคุยเรื่องของเรากันดีกว่า”ว่าจบก็ถกผ้าถุงหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักขึ้นก่อนจะล้วงมือซ้ายไปที่กลีบกุหลาบงามส่งนิ้วแกร่งทั้งสองสอดใส่ไปในร่องสวาทชักเข้าออกช้าๆมือขวาก็ไม่ได้ปล่อยให้ว่างคว้าหมับบีบเค้นเต้างามทั้งขยี้ยอดปทุมถันที่แข็งตั้งชูชันเรียกอารมณ์สวาทให้หญิงสาวนั้นพร้อมกับกิจกรรมสวาทที่กำลังจะเกิดขึ้น“พ..พี่ศักดิ์”สองขาเรียวขอผกายกแยกชันขึ้นอัตโนมัติร่างบางแอ่นบิดเ
เย็นของวัน“ปิ่นทำแผลให้ค่ะ”ปิ่นงามเห็นคีรีอาบน้ำอาบท่าหลังจากกลับมาจากทำงานแล้วเธอจึงถือกล่องพยาบาลมานั่งตรงหน้าเขารู้สึกผิดที่ทำเขาเจ็บเหมือนกันแต่หากเขาไม่มาขัดใจเธอก่อนคงไม่เป็นแบบนี้“......”คีรีนั่งไม่พูดไม่จาเขาไม่ได้ตอบรับหรือพูดปฏิเสธเพราะนี่มันก็เป็นหน้าที่เธอต้องจัดการให้เขาอยู่แล้วเพราะเธอมาทำเขาเจ็บเอง“ก่อนทำแผลเมื่อวานล้างก่อนหรือยังคะ”ปิ่นงามแกะผ้าแปะแผลออกก็เห็นรอยเลือดเกรอะกรัง เมื่อวานที่เขาเจ็บเธอก็ไม่ได้ทำแผลให้ด้วยไม่รู้ว่าเขาล้างสะอาดดีหรือเปล่า“แค่เช็ดแล้วก็ใส่ยา”คีรีส่ายหัวเขาแค่ใช้ผ้าเช็ดเลือดเสร็จแล้วก็ใส่ยาแปะผ้าแปะแผลแล้วก็นอนอยู่อีกห้องข้างๆ“คราวหลังต้องเช็ดให้สะอาดไม่อย่างนั้นแผลจะอักเสบนะคะ”“เธอจะทำฉันเจ็บอีกเหรอ”คีรีจ้องหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังยื่นหน้ามาใกล้ๆเขม็งที่เธอพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าคิดที่จะทำเขาเจ็บอีกหรอกหรือ“คือปิ่นหมายถึง...คุณบาดเจ็บด้วยอย่างอื่น”ปิ่นงามต้องรีบอธิบายทันควันกลัวว่าเขาจะหาว่าเธอหัวรุนแรง“กับข้าวฝีมือปิ่นพอจะกินได้หรือเปล่าคะ”หลังจากทำแผลเสร็จทั้งสองก็มานั่งกินข้าวเย็นกันในครัวหญิงสาวเห็นคีรีเอาแต่นั่งกินข้าวไม่พูดไม่จาเล
“อืมม...”คีรีไล่สูดเนื้อนวลที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆกลิ่นของเธอทำให้เขารู้สึกดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแถมผิวเนื้อยังนวลเนียนนุ่มนิ่มจนเขาไม่อยากจะยกจมูกออกแม้นแต่วินาทีเดียว“อื้อ.. อืมม..”สาวเจ้าเมื่อถูกจู่โจมบดจูบอีกรอบก็เริ่มนอนตัวเกร็งไม่ยอมหายใจเพราะไม่เคยกับเหตุการณ์แบบนี้เลยริมฝีปากหนาที่กำลังบดจูบเธออย่างเร่าร้อนมันทำให้ภายในท้องของหญิงสาวเริ่มมวนแปลกๆไม่รู้ความรู้สึกนี้จะเรียกว่าดีหรือเรียกว่าอะไรเพราะไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกันคีรีถอดถอนริมฝีปากให้หญิงสาวพ้นพันธนาการเพราะรู้ได้เลยว่าเธอกำลังหายใจไม่ออกอึก..ฟู่วว... ริมฝีปากบางเป็นอิสระได้ปิ่นงามก็รีบสูดหายใจเข้าปอดทันเฮือกใหญ่“อื้อ..”พอเห็นว่าหญิงสาวเริ่มค่อยยังชั่วคีรีก็ไม่รีรอที่จะดำเนินกิจกรรมต่อเขาก้มลงบดจูบเธออีกครั้งและครั้งนี้ดูจะร้อนแรงกว่าเมื่อครู่พอสมควรทั้งยังส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมภายในโพรงปากหวานดูดดึงลิ้นเรียวเล่นจนสาวเจ้าเริ่มอ่อนระทวยไปกับลีลารสจูบของคนที่มากประสบการณ์การจูบอย่างชายหนุ่มมือทั้งสองของคีรีเริ่มปล่อยให้มือหญิงสาวเป็นอิสระเพราะรู้ว่าเธอกำลังเคลิ้มไปกับเขาก่อนจะรีบกอดกางเกงตนออกอย่างรวดเร็วขณะที่ริมฝีปากก็
ในเช้าของวันต่อมาคีรีตื่นก็รู้สึกว่าร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดตัวรุมๆน่าจะมีไข้เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่รู้สึกตัวจึงค่อยๆลุกออกจากฟูกนอนหมายจะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปทำงานแต่ก็ต้องตกใจเพราะที่ฟูกมีแต่รอยเลือดเต็มไปหมดรวมทั้งที่หน้าขาของเขาด้วยคิดในใจว่านี่สินะที่เขาเรียกว่าเลือดพรหมจันทร์“หึ่...”ไม่รู้ทำไมถึงทำให้เขายิ้มได้เมื่อเห็นเลือดเกรอะกรังแบบนี้แต่ก็รู้สึกภูมิใจลึกๆว่าได้ร่างบางที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ใต้ผ้าห่มมาเป็นของเขาจริงๆแล้ว“หื้มม..”คีรีหยิบผ้าขาวม้าที่พับวางอยู่ในตู้มาพันรอบเอวเอาไว้....เหมือนตอนนี้คีรีในหัวของเขาจะตีกันกับหัวใจอยู่ไม่น้อยเพราะหัวใจที่กำลังรู้สึกดีกลับถูกสมองสั่งให้หยุดและย้ำว่าเขาไม่ต้องการหญิงสาวและต้องพยายามทำให้เธอออกไปจากที่นี่ให้ได้“ฉันช่วยเธอได้เท่านี้”คีรีเดินไปหยิบกะละมังใส่น้ำกับผ้ามาเช็ดตัวให้ปิ่นงามขณะที่เธอยังหลับไม่ได้สติและเปลี่ยนเสื้อผ้าเปลี่ยนฟูกนอนให้หญิงสาวก่อนจะอาบน้ำและออกไปทำงานทิ้งให้ร่างบางนอนอยู่คนเดียว10.00 น.“เฮ้ออ...”ตั้งแต่เช้ายันช่วงสายคีรีไม่เป็นอันทำงานเพราะในใจพะวงกับอาการของปิ่นงามพอสมควรไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะตื่นมากินข้าวกินปล
“อืม...ขอบใจนะภา..เอ่อ..คุณคี”ปิ่นงามรู้สึกตัวค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นหลังจากที่มีผ้าเย็นๆมาเช็ดอยู่ที่ใบหน้าคราแรกนึกว่าเป็นนภาเพราะเมื่อช่วงสายหญิงสาวก็มาดูแลเธอแต่เมื่อมองเห็นคนที่กำลังเช็ดตัวให้เธอชัดก็ต้องหลบสายตาของเขาเล็กน้อยเพราะยังรู้สึกเขินอายกับเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาอยู่ไม่น้อย“ลุกมากินข้าวก่อนสิ.. จะได้กินยา”“ปิ่นจัดการเองก็ได้ค่ะคุณไปทำงานเถอะ”“แม่ฉันไล่ให้มาดูแลเธอกลับไปมีหวังก็โดนบ่นอีกน่ะสิ”ปิ่นงามจำต้องค่อยๆลุกมากินข้าวเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องมาดูแลอะไรเธอมากนักแม้นตอนนี้จะนั่งลำบากอยู่พอสมควรก็เถอะหญิงสาวใช้เวลากินข้าวไม่เท่าไรเธอก็กินยาแล้วจึงนอนพักหวังว่าคีรีจะได้รีบกลับไปทำงานแต่เปล่าเลยเขายังคงนั่งเฝ้าหญิงสาวอยู่ที่ห้องระหว่างที่เธอหลับไม่ยอมห่างไปไหนคอยยื่นมืออังหน้าผากของคนที่นอนหลับอยู่ตลอดจวบจนเย็นเมื่อไข้หญิงสาวลดลงได้เขาก็ออกไปทำอาหารเย็นเพราะรู้ว่าเย็นนี้ปิ่นงามคงลุกมาทำไม่ไหวแน่“จะไปไหน”คีรีเห็นปิ่นงามเปิดประตูออกมาจากห้องพร้อมเสื้อผ้าอยู่ในมือสีหน้าของเธอซีดเซียวแถมยังเดินไม่ค่อยจะสะดวกเขาจึงต้องรีบมาพยุงตัวเธอเอาไว้“ปิ่นจะไปอาบน้ำค่ะ”“เดินจะไม่ไห