“อื้ออๆๆ..”
เสียงหวานของผการ้องเจือในลำคอเล็กน้อยเมื่อสะโพกแกร่งกระแทกจนแท่งร้อนเข้าลึกลงมาในคอของเธอ
ซวบบบ..
“อ่าสส..”
ในส่วนของชายหนุ่มก็ตวัดฉกชิมน้ำรักของหญิงสาวเสียงซดมูมมามพักใหญ่จนหนำใจแล้วค่อยเปลี่ยนท่วงที่ให้หญิงสาวนอนหันหลังชันเข่าขึ้น
“ฉ..ฉันไม่ไหว..”
ผการีบแอ่นก้นให้ศักดิ์สิทธิ์ได้สอดใส่แท่งร้อนเพราะตอนนี้เธอรอมันไม่ได้อีกแล้วความเสียวมันซาบซ่านไปทั้งตัวจนลืมอายไปหมดแล้ว
“ข้าก็เหมือนกัน”
พลั่กกก
“อ้ะ...อื้ออ”
สิ้นเสียงชายหนุ่มเขาก็เสียบแท่งร้อนเข้าร่องสวาทที่เยิ้มฉ่ำแฉะจนมิด
ตับ ตับ ตับ
เสียงเนื้อที่กระทบกันดังสนั่นขณะที่ชายหนุ่มรัวสะโพกเข้าออกร่องสวาทผสมกับเสียงครางแห่งความสุขของหญิงสาวที่ไม่ได้สุขแบบนี้มานานแล้ว
“อืม..”
ผกาชันตัวขึ้นให้หลังของเธอแนบกับอกแกร่งของชายหนุ่มก่อนจะดึงมือหนาของเขามากอบกุมเต้างามทั้งสองเอาไว้
“อ้ะ...”
หลังจากที่ชายหนุ่มกระแทกจากข้างหลังจนหนำใจร่างอวบอิ่มถูกพลิกให้นอนหงายเขาจับเรียวของทั้งสองแยกออกจากกันและจับอีกข้างพาดบ่าเอาไว้และเสียบแทงเท่งร้อนรัวสะโพกใส่หนักๆรัวๆอีกครั้งจนร่างของผกาหัวสั่นหัวครอนรวมไปถึงทรวงอกอิ่มก็เด้งตามจังหวะให้ศักดิ์สิทธิ์ได้เชยชมเป็นการเร้าอารมณ์อีกทาง
“มา..ตาเอ็งบ้าง”
หลังจากที่ร่วมรักกันมาพักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ขอพักแรงโดยการให้ผกาขึ้นอยู่บนตัวของเขาบ้าง
“อ้ะ...อื้ม..อ๊า..พี่ศักดิ์..อื้อมม”
และเธอก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังหญิงสาวนั่งคุกเข่ามือเรียวจับกดแท่งร้อนเข้าร่องสวาทอย่างชำนาญขย่มควบถี่ระรัวสองมือเรียวบีบเค้นขยำหน้าอกตนระบายอารมณ์เสียวดวงตาปรือร้องครางไม่ได้ศัพท์
“โอ้ว..อ่าสส..ผกา..ช้าหน่อย..”
ศักดิ์ดาต้องรีบใช้สองมือกดสะโพกมนเอาไว้เมื่อเธอเร่งจังหวะจนเขานั้นแทบแปริแตกเขาไม่อยากเสร็จสมตอนนี้อยากจะมีความสุขแบบนี้อีกสักพัก
“อืม..”
ผกาหยุดการกระแทกกระทั้นก้มลงมาบดจูบกับศักดิ์สิทธิ์เธอพอใจไม่น้อยที่ลีลาของเธอทำให้ชายหนุ่มร้องเสียงหลง
“แกล้งฉันใช่ไหม...จะทำให้ครางไม่มีเสียงเลยคอยดู”
ศักดิ์สิทธิ์รู้ดีว่าผกาคงชอบใจที่เขากำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อครู่ว่าจบก็พลิกร่างบางนอนแผ่และรีบกดแท่งร้อนขย่มเธออย่างรุนแรง
“อะ...อ๊ายย..”
ไม่นานนักร่างบางก็บอดเกร็งเร่าเสร็จสมไปก่อนหน้าชายหนุ่มและคืนนี้ก็ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เธอเสร็จสมจวบจนเช้าเสียงร้องครางก็ยังคงมีให้ได้ยินแต่ก็อ่อนจนแทบไม่มีเสียง
วันต่อมา
“เสร็จหรือยังภาพี่ต้องรีบกลับมาที่ไร่นะ”
คีรียืนรอนภาหน้าบ้านตั้งแต่เช้าเห็นน้องสาวของเขาบอกว่าจะติดรถไปที่ตลาดด้วยแต่ก็ยังชักช้าไม่ยอมออกมาจนเขาต้องตะโกนเรียก
“รอเดี๋ยวสิพี่คีฉันรีบหาตระกร้าไปใส่ของอยู่นี่ไง...อะพี่ปิ่น”
นภาเดินจูงมือปิ่นงามลงมาจากบนเรือนเมื่อมาถึงข้างล่างก็ยื่นตระกร้าหวายให้กับหญิงสาวเพราะเธอไม่ได้คิดจะไปด้วยตั้งแต่คราแรกอยู่แล้ว
“อ้าว..แล้วไม่ไปกับพี่หรือไง”
สีหน้าคีรีดูไม่สบอารมณ์นัก
“ฉันต้องรีบคิดเงินเพื่อที่จะจ่ายคนงานเย็นนี้จะเดี๋ยวไม่ทันพี่คีไปกับพี่ปิ่นเลยนะ”
ว่าจบนภาก็เดินหนีไปทิ้งให้ทั้งสองอยู่กันแค่สองคน
ตลอดทางจากไร่มาถึงตลาดปิ่นงามเอาแต่มองข้างทางไม่ก็ก้มหน้าก้มตานั่งนิ่งเงียบเพราะรู้สึกอึดอัดที่ต้องมากับคีรีสองต่อสองทั้งที่คราแรกคิดว่านภาจะมาด้วยไม่รู้ว่านี่เป็นแผนของนภาที่อยากให้เธออยู่กับคีรีสองต่อสองหรือเปล่าหากใช่นภาจะรู้หรือไม่ว่าเวลานี้เธอรู้สึกไม่สบายใจที่สุด
“....”
คีรีขับรถไปพรางเหลือบมองหญิงสาวบ้างแอบหงุดหงิดที่อีกฝ่ายทำนิ่งใส่เหมือนไม่อยากจะมากับเขาทั้งที่เขาก็ไม่ได้อยากให้เธอมาด้วยเองต่างหาก
ตลาดในหมู่บ้าน
“เธอจะซื้ออะไรก็รีบๆหน่อยแล้วกัน...เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมันที่บ้านเสี่ยชัชแปปเดียว..แล้วจะมารับตรงนี้”
“ค่ะ”
เมื่อมาถึงตลาดในหมู่บ้านคีรีก็ปล่อยให้หญิงสาวเดินลงเลือกซื้อของเองส่วนเขามีธุระที่ต้องไปเอาน้ำมันจากบ้านของชัชชาติต่อ
ชั่วโมงต่อมา
“อืม...ทำไมยังไม่มาซะทีนะ”
ปิ่นงามเดินหาซื้อของใช้ส่วนตัวจนครบหมดแล้วแถมเธอยังนั่งรอคีรีที่หน้าตลาดพักใหญ่ก็ไม่ยักจะเห็นเขามารับเธอเสียทีใบหน้าหวานตอนนี้เริ่มบูดบึ้งเล็กน้อยเพราะเริ่มเอะใจแล้วว่าหรือเขานั้นจะทิ้งเธอเอาไว้ที่นี่
ไร่คีรีรักษ์
ทางด้านคีรีตอนนี้ขับรถกลับมาที่ไร่ได้พักใหญ่แล้วเขานั่งอมยิ้มหน้าระรื่นที่หนีปิ่นงามกลับมาได้ไม่รู้ตอนนี้หญิงสาวจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าถูกเขาแกล้ง
“อ้าวพี่คีกลับมาไวจังพี่ปิ่นซื้อของใช้ครบแล้วเหรอ”
นภาเดินกลับเข้ามาในสำนักงานในช่วงสายหลังจากไปดูรถมาขนผลผลิตเสร็จไม่นึกว่าพี่ชายเธอจะกลับมาไวเพราะเห็นว่าปิ่นงามต้องซื้อของหลายอย่าง
“อืม... น่าจะครบนะ”
“คีรีหนูปิ่นล่ะ”
ดอกแก้วเดินเข้ามาในสำนักงานกะว่าจะมาตามปิ่นงามไปวัดด้วยกันเสียหน่อยเพราะคิดว่าอยู่กับคีรีแต่มาถึงที่นี่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของว่าที่ลูกสะใภ้
“พี่ปิ่นไม่ได้อยู่ที่นี่จะแม่”นภาส่ายหัวหงึกหงักตอบแทนคีรีว่าปิ่นงามไม่ได้อยู่ที่นี่พอเห็นแม่เธอถามถึงปิ่นงามเธอก็เริ่มเห็นถึงความผิดปกติแล้วเพราะถ้าพี่ชายเธอไปส่งปิ่นงามที่บ้านก่อนจะมาที่นี่แล้วแม่เธอจะมาตามปิ่นงามที่นี่ทำไม“อ้าว.. ที่บ้านก็ไม่อยู่”ดอกแก้วเท้าเอวสงสัยว่าตกลงปิ่นงามอยู่ที่ไหนกันแน่“ฉันขอตัวก่อนนะ”คีรีเห็นท่าจะไม่ดีจึงเห็นว่าต้องขอตัวจากแม่และน้องสาวตนไปข้างนอกเสียตอนนี้จะดีกว่าแต่ยังไม่ทันได้ก้าวสักก้าวนภาก็ดึงเขาเอาไว้ก่อนทั้งยังเค้นถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าคาดโทษ“เดี๋ยวพี่คี...พาพี่ปิ่นกลับมาหรือเปล่า”“อืม... น่าจะลืม”คีรีตอบอย่างลอยหน้าลอยตา“พี่คี....ไปรับพี่ปิ่นกับภาเดี๋ยวนี้เลยทำแบบนี้ได้ยังไง”นภาบ่นพี่ชายตนอุกไม่รู้ว่าตอนนี้ปิ่นงามจะเป็นอย่างไรบ้าง“นั่นสิ...มันน่านัก”คนเป็นแม่บิดหน้าท้องลูกชายเธอจนร้องลั่น“โอ้ยย..ๆๆแม่ผมเจ็บ”“รีบไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”ดอกแก้วรู้ว่าคีรีไม่ได้พอใจที่จะแต่งงานแต่ก็ไม่คิดว่าลูกชายเธอจะแกล้งปิ่นงามแบบนี้“ต้องแกล้งกันขนาดนี้เลยเหรอ”ปิ่นงามเดินถือของกลับด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์นักมือน้อยยังคงคอยปาดเหงื่อที่กำลังหยดมาเรื่อยๆห
“ลูกสะใภ้พ่อเลี้ยงนี่งามสมชื่อปิ่นงามเลยนะ”ผู้ใหญ่บ้านกำนันที่มาร่วมงานก็เอ่ยชมปิ่นงามกับพ่อเลี้ยงอินทร์เปราะเพาะเธอสวยน่ารักจนเป็นที่จับจ้องของผู้ชายแทบจะทุกคน“ไม่ใช่สวยอย่างเดียวนะงานบ้านงานเรือนเก่งเสียด้วย”พ่อเลี้ยงอินได้ยินเช่นนี้ตลอดเวลาที่อยู่ในงานทำให้เขาเองก็ยิ้มไม่หุบทั้งยังอวดด้วยว่าลุกสะใภ้ของเขาไม่ได้สวยอย่างเดียวเท่านั้นยังเรียบร้อยเป็นแม่บ้านแม่เรือนได้ดีอีกด้วย“แบบนี้พ่อคีรีไม่หลงแย่เลยเหรอ..ฮ่าๆๆ”“อยากจะให้หลงน่ะสิจะได้มีหลานให้อุ้มหัวปีท้ายปี”เสียงผู้ใหญ่คุยหัวเราะเฮฮากันดูจะครึกครื้นตื่นเต้นมากกว่าตัวบ่าวสาวในงานเสียอีกหลังจากพิธีสู่ขวัญรดน้ำสังข์ผูกข้อไม้ข้อมือเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาที่จะส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอที่เรือนเล็กท้ายไร่ผู้คนจากเรื่อนใหญ่ก็เดินตามมาส่งสองบ่าวสาวกันเป็นขบวน“นาย.. เมียนายสวยยังกะนางฟ้าผู้ชายในไร่มองตากันเป็นมัน...นายไม่สนใจเธอจริงๆเหรอ”สรวงได้จังหวะก็มาเอ่ยกระซิบกับคนเป็นนายไม่อยากจะคิดว่านายของเขาจะไม่สนใจปิ่นงามจริงๆ“จะสนไม่สนเอ็งยุ่งอะไรด้วยวะ”คราแรกคีรีก็ว่าจะไม่สนใจพอได้ยินผู้ชายคนอื่นเอ่ยชมป่นงามมากๆเข้าเขาก็รู้สึก
“โถ่.. โว้ยย..”คีรีตวาดใส่หญิงสาวก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้หญิงสาวนอนหายใจหอบถี่ด้วยอาการตกใจเพียงคนเดียว“เฮ้อ...”ปิ่นงามรีบวิ่งไปล็อคประตูเอาไว้เพราะกลัวว่าคีรีจะกลับมากระทำสิ่งที่เธอไม่ต้องการอีก22.00 น.“ไม่เห็นเอ็งไปงานแต่งไอ้คีรี...เมียมันสวยเหมือนกันนี่หว่า”ศักดิ์สิทธิํทาหาผกาช่วงกลางดึกตั้งแต่คืนนั้นทั้งสองก็นัดกันเล่นบทสวาทเรื่อยมาโดยที่ไม่มีใครรู้“อย่ามาพูดให้ฉันได้ยินฉันไม่อยากฟัง”คำพูดของศักดิ์สิทธิ์ทำสาวร่างอวบอิ่มที่นุ่งผ้าถุงกระโจมอกอยู่บนตักชายหนุ่มหงุดหงิดขึ้นมากะทันหัน“เออ... ข้าไม่พูดเรื่องคนอื่นแล้วก็ได้..”ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้คิดจะมาเย้ยอะไรผกาเขาก็พูดตามที่คิดเพราะปิ่นงามนั้นงามสมชื่อจริงๆ“มาคุยเรื่องของเรากันดีกว่า”ว่าจบก็ถกผ้าถุงหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักขึ้นก่อนจะล้วงมือซ้ายไปที่กลีบกุหลาบงามส่งนิ้วแกร่งทั้งสองสอดใส่ไปในร่องสวาทชักเข้าออกช้าๆมือขวาก็ไม่ได้ปล่อยให้ว่างคว้าหมับบีบเค้นเต้างามทั้งขยี้ยอดปทุมถันที่แข็งตั้งชูชันเรียกอารมณ์สวาทให้หญิงสาวนั้นพร้อมกับกิจกรรมสวาทที่กำลังจะเกิดขึ้น“พ..พี่ศักดิ์”สองขาเรียวขอผกายกแยกชันขึ้นอัตโนมัติร่างบางแอ่นบิดเ
เย็นของวัน“ปิ่นทำแผลให้ค่ะ”ปิ่นงามเห็นคีรีอาบน้ำอาบท่าหลังจากกลับมาจากทำงานแล้วเธอจึงถือกล่องพยาบาลมานั่งตรงหน้าเขารู้สึกผิดที่ทำเขาเจ็บเหมือนกันแต่หากเขาไม่มาขัดใจเธอก่อนคงไม่เป็นแบบนี้“......”คีรีนั่งไม่พูดไม่จาเขาไม่ได้ตอบรับหรือพูดปฏิเสธเพราะนี่มันก็เป็นหน้าที่เธอต้องจัดการให้เขาอยู่แล้วเพราะเธอมาทำเขาเจ็บเอง“ก่อนทำแผลเมื่อวานล้างก่อนหรือยังคะ”ปิ่นงามแกะผ้าแปะแผลออกก็เห็นรอยเลือดเกรอะกรัง เมื่อวานที่เขาเจ็บเธอก็ไม่ได้ทำแผลให้ด้วยไม่รู้ว่าเขาล้างสะอาดดีหรือเปล่า“แค่เช็ดแล้วก็ใส่ยา”คีรีส่ายหัวเขาแค่ใช้ผ้าเช็ดเลือดเสร็จแล้วก็ใส่ยาแปะผ้าแปะแผลแล้วก็นอนอยู่อีกห้องข้างๆ“คราวหลังต้องเช็ดให้สะอาดไม่อย่างนั้นแผลจะอักเสบนะคะ”“เธอจะทำฉันเจ็บอีกเหรอ”คีรีจ้องหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังยื่นหน้ามาใกล้ๆเขม็งที่เธอพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าคิดที่จะทำเขาเจ็บอีกหรอกหรือ“คือปิ่นหมายถึง...คุณบาดเจ็บด้วยอย่างอื่น”ปิ่นงามต้องรีบอธิบายทันควันกลัวว่าเขาจะหาว่าเธอหัวรุนแรง“กับข้าวฝีมือปิ่นพอจะกินได้หรือเปล่าคะ”หลังจากทำแผลเสร็จทั้งสองก็มานั่งกินข้าวเย็นกันในครัวหญิงสาวเห็นคีรีเอาแต่นั่งกินข้าวไม่พูดไม่จาเล
“อืมม...”คีรีไล่สูดเนื้อนวลที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆกลิ่นของเธอทำให้เขารู้สึกดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแถมผิวเนื้อยังนวลเนียนนุ่มนิ่มจนเขาไม่อยากจะยกจมูกออกแม้นแต่วินาทีเดียว“อื้อ.. อืมม..”สาวเจ้าเมื่อถูกจู่โจมบดจูบอีกรอบก็เริ่มนอนตัวเกร็งไม่ยอมหายใจเพราะไม่เคยกับเหตุการณ์แบบนี้เลยริมฝีปากหนาที่กำลังบดจูบเธออย่างเร่าร้อนมันทำให้ภายในท้องของหญิงสาวเริ่มมวนแปลกๆไม่รู้ความรู้สึกนี้จะเรียกว่าดีหรือเรียกว่าอะไรเพราะไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกันคีรีถอดถอนริมฝีปากให้หญิงสาวพ้นพันธนาการเพราะรู้ได้เลยว่าเธอกำลังหายใจไม่ออกอึก..ฟู่วว... ริมฝีปากบางเป็นอิสระได้ปิ่นงามก็รีบสูดหายใจเข้าปอดทันเฮือกใหญ่“อื้อ..”พอเห็นว่าหญิงสาวเริ่มค่อยยังชั่วคีรีก็ไม่รีรอที่จะดำเนินกิจกรรมต่อเขาก้มลงบดจูบเธออีกครั้งและครั้งนี้ดูจะร้อนแรงกว่าเมื่อครู่พอสมควรทั้งยังส่งลิ้นร้ายตวัดฉกชิมภายในโพรงปากหวานดูดดึงลิ้นเรียวเล่นจนสาวเจ้าเริ่มอ่อนระทวยไปกับลีลารสจูบของคนที่มากประสบการณ์การจูบอย่างชายหนุ่มมือทั้งสองของคีรีเริ่มปล่อยให้มือหญิงสาวเป็นอิสระเพราะรู้ว่าเธอกำลังเคลิ้มไปกับเขาก่อนจะรีบกอดกางเกงตนออกอย่างรวดเร็วขณะที่ริมฝีปากก็
ในเช้าของวันต่อมาคีรีตื่นก็รู้สึกว่าร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดตัวรุมๆน่าจะมีไข้เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่รู้สึกตัวจึงค่อยๆลุกออกจากฟูกนอนหมายจะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปทำงานแต่ก็ต้องตกใจเพราะที่ฟูกมีแต่รอยเลือดเต็มไปหมดรวมทั้งที่หน้าขาของเขาด้วยคิดในใจว่านี่สินะที่เขาเรียกว่าเลือดพรหมจันทร์“หึ่...”ไม่รู้ทำไมถึงทำให้เขายิ้มได้เมื่อเห็นเลือดเกรอะกรังแบบนี้แต่ก็รู้สึกภูมิใจลึกๆว่าได้ร่างบางที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ใต้ผ้าห่มมาเป็นของเขาจริงๆแล้ว“หื้มม..”คีรีหยิบผ้าขาวม้าที่พับวางอยู่ในตู้มาพันรอบเอวเอาไว้....เหมือนตอนนี้คีรีในหัวของเขาจะตีกันกับหัวใจอยู่ไม่น้อยเพราะหัวใจที่กำลังรู้สึกดีกลับถูกสมองสั่งให้หยุดและย้ำว่าเขาไม่ต้องการหญิงสาวและต้องพยายามทำให้เธอออกไปจากที่นี่ให้ได้“ฉันช่วยเธอได้เท่านี้”คีรีเดินไปหยิบกะละมังใส่น้ำกับผ้ามาเช็ดตัวให้ปิ่นงามขณะที่เธอยังหลับไม่ได้สติและเปลี่ยนเสื้อผ้าเปลี่ยนฟูกนอนให้หญิงสาวก่อนจะอาบน้ำและออกไปทำงานทิ้งให้ร่างบางนอนอยู่คนเดียว10.00 น.“เฮ้ออ...”ตั้งแต่เช้ายันช่วงสายคีรีไม่เป็นอันทำงานเพราะในใจพะวงกับอาการของปิ่นงามพอสมควรไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะตื่นมากินข้าวกินปล
“อืม...ขอบใจนะภา..เอ่อ..คุณคี”ปิ่นงามรู้สึกตัวค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นหลังจากที่มีผ้าเย็นๆมาเช็ดอยู่ที่ใบหน้าคราแรกนึกว่าเป็นนภาเพราะเมื่อช่วงสายหญิงสาวก็มาดูแลเธอแต่เมื่อมองเห็นคนที่กำลังเช็ดตัวให้เธอชัดก็ต้องหลบสายตาของเขาเล็กน้อยเพราะยังรู้สึกเขินอายกับเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาอยู่ไม่น้อย“ลุกมากินข้าวก่อนสิ.. จะได้กินยา”“ปิ่นจัดการเองก็ได้ค่ะคุณไปทำงานเถอะ”“แม่ฉันไล่ให้มาดูแลเธอกลับไปมีหวังก็โดนบ่นอีกน่ะสิ”ปิ่นงามจำต้องค่อยๆลุกมากินข้าวเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องมาดูแลอะไรเธอมากนักแม้นตอนนี้จะนั่งลำบากอยู่พอสมควรก็เถอะหญิงสาวใช้เวลากินข้าวไม่เท่าไรเธอก็กินยาแล้วจึงนอนพักหวังว่าคีรีจะได้รีบกลับไปทำงานแต่เปล่าเลยเขายังคงนั่งเฝ้าหญิงสาวอยู่ที่ห้องระหว่างที่เธอหลับไม่ยอมห่างไปไหนคอยยื่นมืออังหน้าผากของคนที่นอนหลับอยู่ตลอดจวบจนเย็นเมื่อไข้หญิงสาวลดลงได้เขาก็ออกไปทำอาหารเย็นเพราะรู้ว่าเย็นนี้ปิ่นงามคงลุกมาทำไม่ไหวแน่“จะไปไหน”คีรีเห็นปิ่นงามเปิดประตูออกมาจากห้องพร้อมเสื้อผ้าอยู่ในมือสีหน้าของเธอซีดเซียวแถมยังเดินไม่ค่อยจะสะดวกเขาจึงต้องรีบมาพยุงตัวเธอเอาไว้“ปิ่นจะไปอาบน้ำค่ะ”“เดินจะไม่ไห
“เหรอคะ..”ปิ่นงามยังคงทำหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราวทั้งที่เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเธอดีขึ้นเพราะใคร“ใช่สิ...ไม่งั้นเธอคงนอนชักไปแล้ว”“ขอบคุณนะคะ...เอ่อ..ในครัวมีข้าวต้มกับหมูทอดแล้วก็ต้มจับฉ่ายถ้าคุณหิวก็กินได้ค่ะปิ่นไม่หวง”ว่าจบก็เดินออกไปเดินเล่นที่หน้าเรือนเธอคิดว่าถ้าหากเธอยังนั่งอยู่ในนี้คีรีคงไม่คิดจะกินอาหารที่เธอทำแน่เพราะเป็นคนที่มาดเยอะอยู่พอสมควรตั้งแต่ช่วงสายเมื่อวานถึงเที่ยงวันนี้คีรีไม่ได้เข้าไร่เพราะมัวแต่ดูแลปิ่นงามจนผกามาส่งขนมและไม่ได้เจอคีรีสองวันแล้ว“ดูแลกันถึงไหนไม่เข้าไร่เข้ากงเลยนะนาย”ทั้งรู้ว่าที่เขาไม่อยู่ก็เพราะดูแลภรรยาอยู่ที่เรือนเล็กยิ่งรู้แบบนี้เธอก็ยิ่งหงุดหงิดเพราะเขาเป็นคนบอกเธอว่าจะไม่สนใจเมียแต่งคนนี้เห็นทีจะไม่ใช่อย่างที่พูดแล้ว“วัว.. วัว”พลั้กกก“โอ้ยย...ฮือๆๆ”ดินเด็กชายวัยห้าขวบลูกของละไมคนงานในไร่ที่เป็นเด็กพิเศษไม่เหมือนเด็กทั่วไปทุกๆวันดินจะมานั่งเล่นใต้ต้นไม้ใหญ่รอคนเป็นแม่ทำงานทุกวันแต่วันนี้เหมือนโชคร้ายที่ทางที่ดินเดินอยู่นั้นเป็นทางที่นางยักษ์ที่กำลังโกธากำลังเดินผ่านมาเมื่อเห็นเด็กชายขวางทางจึงผลักเสียจนล้มเพราะยังคงหงุดหงิดเรื่องคีรีอยู่ใ