“น้ำค่ะคุณหมอ...ปิ่นถือรอไว้แล้ว”
ปิ่นงามกลั้นหัวเราะเล็กน้อยทั้งรีบยื่นแก้วน้ำให้หมอหนุ่มได้ดื่ม
“คุณปิ่นไม่บอกผมล่ะครับว่ามันเผ็ด”
หน้าหมอหนุ่มตอนนี้แดงเป็นลูกตำลึงจนคนในวงกินข้าวต่างก็มองกันด้วยความตกใจเว้นคีรีที่มองแต่ปิ่นงามด้วยสายตาที่น้อยอกน้อยใจที่เห็นหญิงสาวดูใส่ใจชาวีมากกว่าตัวเองในตอนนี้
“อีกแก้วค่ะ..คุณหมอกินเผ็ดไม่ได้เหรอคะ”
นภารีบยื่นน้ำอีกแก้วให้ชาวีเพราะเห็นว่าในมือของเขากำลังจะหมด
“ค่ะ..เผ็ดนิดหน่อยก็หน้าแดงทันทีเลยล่ะ”
“อ่อ...ภาไม่รู้ว่าคุณหมอกินเผ็ดไม่ได้โทษทีค่ะ”
นับว่าเป็นที่ตกอกตกใจกันไปกับสีหน้าของชาวีแต่ดีที่หายเผ็ดได้หน้าของเขาจึงหายแดงนภาตอนนี้จึงไม่กล้าตักอะไรให้หมอหนุ่มอีกจนสิ้นสุดมื้อเย็นวันนี้
หลังจากทุกคนกินข้าวเย็นกันเรียบร้อยแล้วคีรีก็พาลูกกับเมียกลับเรือนเล็กส่วนหมอหนุ่มก็พักอยู่ที่เรื่อนใหญ่
“เดี๋ยวพ่ออาบน้ำให้นะครับอคิณ”
พอคีรีพาทั้งสองมาถึงบ้านเขาก็รีบที่จะทำหน้าที่สามีโดยการจะช่วยภรรยาอาบน้ำให้ลูกชายแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ทำหน้าที่อาบน้ำให้ลูกในวันนี้เสียแล้วเพราะอคิณเดินหนีเขาหน้าตาเฉยขณะที่จะถอดเสื้อผ้าให้
“ให้แม่อาบให้ครับ”
อคิณแม้จะคุ้นเคยกับพ่อตนบ้างแล้วแต่การอาบน้ำเขาก็ยังเคยชินกับการที่แม่จะเป็นคนอาบให้เท่านั้น
“อคิณคงยังไม่คุ้นกับคุณน่ะค่ะ..รออีกนิดนะคะ”
ปิ่นงามว่าจบก็พาอคิณเข้าห้องน้ำไปทิ้งให้คีรีนั่งหน้าหงอยอยู่คนเดียวตอนนี้เขาพยายามทำความเข้าใจว่าต้องใช้เวลากับลูกให้มากกว่านี้หากจะให้อคิณสนิทแต่อีกใจก็แอบน้อยใจที่เห็นทั้งลูกและเมียสนิทกับชาวีมากกว่าตน
21.00 น.
หลังจากที่อคิณหลับไปแล้วปิ่นงามก็ออกมานั่งเล่นที่ชานเรือนมองดูดาวยามค่ำคืนทั้งยังหวนนึกถึงความหลังเมื่อครั้งอยู่ที่นี่
คงจะจริงอย่างที่มีคนเคยบอกความรู้สึกเก่าๆมักจะกลับมาให้เรารู้สึกได้ชัดเมื่อตอนอยู่ที่เก่าๆเพราะตอนนี้ภาพเรื่องราวดีๆและเรื่องราวร้ายๆในหัวของเธอปรากฎเป็นภาพและความรู้สึกได้ชัดพอสมควร
ชัดจนความรู้ตัวว่าความรู้สึกรักคีรีไม่เคยขจัดออกไปจากใจได้เลยที่คิดว่าตัวเองลืมคงเป็นเพราะสมองสั่งอยู่ตลอดเวลามากกว่าว่าห้ามคิดถึงเขาอีกอย่างชีวิตเธอช่วงที่ผ่านมาก็สนใจเพียงแค่ลูกเท่านั้นเพราะไม่เคยคิดว่าตนจะได้กลับมาอยู่กับคีรีอีกครั้งอย่างตอนนี้
“เอ่อ... คุณคีรี”
ปิ่นงามสะดุ้งเฮือกเพราะจู่ๆคีรีก็เข้ามาสวมกอดเธอจากด้านหลังขระที่ยืนมองดาวคิดอะไรอยู่เพลินๆเธอคิดว่าตอนนี้เขาจะอยู่ในห้องทำงานเสียอีก
“ขอฉันกอดแบบนี้สักพักนะปิ่น”
“..ปิ่นคิดว่าคุณจะอยู่ในห้องทำงานซะอีก..”
“ฉันเห็นเธอยืนเหม่อตั้งนานแล้วคิดอะไรอยู่เล่าให้ฉันฟังได้หรือเปล่า”
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ”
“งั้นเหรอ...ในความคิดนั้นมีฉันอยู่ด้วยหรือเปล่า”
คีรีพลิกร่างบางให้หันมามองหน้าของเขาแต่ปิ่นงามก็เอาแต่ก้มหลบสายตาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“หลบสายตาฉันทำไม”
คีรีเริ่มยิ้มหน้าระรื่นเพราะรู้ว่าหากหญิงสาวไม่มีเขาในความคิดคงกล้าตอบไปแล้วว่าตนนั้นคิดอะไรแต่นี่ไม่ใช่
“ปิ่นง่วงแล้วขอไปนอนก่อนนะคะ”
ปิ่นงามรีบผละตัวออกจากคีรีแต่ก็ถูกเขารวบกอดคะยั้นคะยอให้เธอตอบเขามาให้ได้
“เดี๋ยวสิ...ยังไม่ได้ตอบฉันเลย..เธอกำลังนึกถึงฉันอยู่ใช่หรือเปล่า”
คีรีค่อยๆก้มหน้าเข้าไปใกล้ๆใบหน้านวลเขาค่อยๆกระซิบข้างหูของหญิงสาวก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปประกบจูบกับริมฝีปากอวบอิ่ม
ปิ่นงามยืนนิ่งไม่ได้ขัดขืนรสจูบของเขาทำให้วันวานอันแสนหวานของเขาและเธอปรากฎชัดกว่าเดิมรสจูบที่นุ่มนวลอบอุ่นของชายหนุ่มนี้เป็นสิ่งที่เธอเองไม่เคยนึกถึงอยู่ในหัวแต่เมื่อได้สัมผัสความรู้สึกดีๆในวันเก่าๆก็หวนคืนเข้ามาในหัวใจใช่เธอลืมเขาไม่ได้อย่างที่เคยคิดเลยจริงๆ
หัวใจของคีรีพองโตเป็นพิเศษเมื่อภรรยารักไม่คิดที่จะต่อต้านแบบนี้ก็เท่ากับว่าเขามีหวังที่จะมีวันคืนที่หวานกับเธอเหมือนเดิม
คีรีอุ้มร่างบางเข้าไปในห้องทำงานของเขาก่อนจะค่อยๆวางเธอลงบนโซฟาตัวใหญ่ขณะที่เขาก็ยังคงบดจูบเธอไม่หยุด
ในห้องนี้มีเพียงแค่แสงไฟจากด้านนอกที่ส่องผ่านม่านมาเท่านั้นบรรยากาศในตอนนี้ก็ยิ่งดูเป็นใจกับการกระชับสัมพันธ์มากพอสมควร
ชายหนุ่มพรมจูบตวัดลิ้นฉกชิมความหวานจากปากนุ่มจนพอใจแล้วจึงค่อยๆไล่ลงบดจูบลำคอระหงส์เขารีบดึงเชือกผูกเสื้อของหญิงสาวถอดออกและลงลิ้นปัดป่ายไปที่ยอดปทุมถันที่ตั้งชูชันจนร่างบางเริ่มขนลุกเล็กน้อย
“อืม...”
ปิ่นงามครางเสียงอ่อนรู้สึกร้อนระอุในกายอยู่พอสมควรเมื่อถูกคนเป็นสามีเล่าโลมหนักเข้า
คีรีพรมจูบดอมดมร่างบางที่แสนคิดถึงมาจนถึงหน้าท้องน้อยและค่อยๆถลกผ้าถุงสีหวานของหญิงสาวขึ้นไปจนถึงขาอ่อนใช้มือหนาเกี่ยวดึงซับในตัวจิ๋วถอดทิ้งไปอย่างรวดเร็วเสร็จแล้วจึงใช้สองมือหนาจับสองขาเรียวแยกออกแล้วซุกใบหน้าลงตรงกลางกลีบกุหลาบงาม
“อือ.. อื้มม...”
ปิ่นงามขบเม้มริมฝีปากแน่นดวงตากลมโตปรือหวานร้องครางในลำคอเบาๆเมื่อปลายลิ้นร้ายของคีรีตวัดลงที่กลีบกุหลาบและค่อยๆลากไปที่ร่องสวาท
คีรีฉกชิมน้ำหวานพักใหญ่จนพอใจแล้วจึงรีบถอดเสื้อผ้าตนออกเสียบแท่งร้อนเข้าช่องทางรักในคราเดียวจนมิดแม้นว่าสาวเจ้าจะเคยคลอดลูกมาแล้วแต่เขายังรู้สึกว่าช่องทางรักของเธอยังบีบรัดตัวตนของเขาแน่นไม่ต่างจากเดิมแม้แต่น้อย
“อื้มม..”
คีรีก้มลงจูบกลืนเสียงครางหวานของภรรยาตัวเล็กเขาบดสะโพกกระแทกถี่ยิบด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านและโหยหาร่าบางมานานวันนี้เขาได้เธอมาครอบครองสมใจเสียที
มือของทั้งสองสอดประสานกันแน่นบทสวาทที่คีรีมอบให้ปิ่นงามวันนี้เป็นการต้อนรับที่แสนอบอุ่นแน่นแฟ้นจวบจนฟ้าเกือบสางจึงได้เวลาที่คีรีพาร่างบางมานอนกับลูกที่ห้องได้คีรีคิดว่าไม่นานอคิณคงมีน้องตัวน้อยๆมาวิ่งเล่นด้วยกันแน่นอน
หลังจากวันที่คีรีและปิ่นงามกลับมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ได้เขาก็ทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีไม่ขาดตกบกพร่องตอนนี้วันเวลาก็ผ่านมาแรมปีจนเขากับปิ่นงามนั้นก็มีโซ่ทองคล้องใจกันถึงสองคนแล้ว
เรื่องราวความรักของทั้งสองแม้นจะดูไม่ลงรอยกันในคราแรกแต่คนที่คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันตามคำโบราณนั้นเคยบอกแม้นจะมีอุปสรรคในความรักหรือจากกันไปนานเพียงใดเมื่อคนที่จะอยู่คู่กันก็ต้องกลับมาคู่กันดั่งเช่นปิ่นงามและคีรีในตอนนี้
จบแล้วค่า...
ไร่คีรีรักษ์เป็นไร่ของพ่อเลี้ยงอินและดวงแก้วเป็นไร่ที่มีอาณาเขตกว้างขวางปลูกพืชไร่พืชสวนหลายชนิดมีคนงานในไร่มากมายทั้งสองช่วยกันบุกเบิกมาตั้งแต่ยังหนุ่มยังสาวจนตอนนี้มีโซ่ทองคล้องใจถึงสองคนและอายุก็เข้าสู่ช่วงวัยหนุ่มสาวที่จะต้องมีครอบครัวแล้วด้วยพ่อเลี้ยงอินจึงให้ลูกชายคนโตอย่างคีรีหนุ่มรูปงามวัย26ที่เป็นที่หมายปองของสาวๆทั้งในไร่และในระแวกหมู่บ้านนี้เป็นคนดูแลควบคุมทุกอย่างต่อส่วนลูกสาวคนเล็กอย่างนภาหญิงสาววัย22ก็เป็นคนทำบัญชีและดูแลเรื่องโรงครัวของทางไร่แม้นพวกเขาทั้งสองจะละมือจากการควบคุมดูแลไร่แล้วก็ยังออกช่วยคนงานทำไร่ทำสวนเป็นการออกกำลังไปในตัวยามเย็นโพล้เพล้พระอาทิตย์จะตกไม่ตกแหล่เหล่าคนงานในไร่คีรีรักษ์ต่างก็เก็บอุปกรณ์การเกษตรที่เอามาจากโรงนาเก็บเข้าที่ก่อนจะเตรียมตัวกลับที่พักกลุ่มผู้หญิงโสดก็เดินเป็นกลุ่มพูดคุยไถ่ถามเรื่องทั่วไปทั้งงานและเรื่องสารทุกข์สุขดิบในระหว่างเดินทางกลับส่วนผู้หญิงที่มีผัวแล้วก็เร่งรีบที่จะต้องกลับไปทำกับข้าวกับปลาไว้ให้ลูกผัวพวกผู้ชายที่มีเมียแล้วรักดีหน่อยก็กลับบ้านพร้อมเมียแต่บางคนก็รวมกลุ่มตั้งวงกินเหล้ากินยากันตามประสาผู้ชายที่ชอบสังสรรห
“ข้าไม่รู้ไม่เคยเห็นไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ...แต่ถึงจะแต่งข้าก็จะทำให้แม่ผู้ดีนั่นอยู่ไม่ได้เตลิดไปในไม่ช้า...เพราะข้าไม่ได้อยากมีครอบครัวแล้วก็ไม่ชอบการคลุมถุงชนแบบนี้ด้วย”คีรีไม่ใช่เพียงแค่พูดไปเรื่องเพราะฤทธิ์น้ำเมาแต่เขาคิดแผนการเอาไว้จริงๆ“ไม่แน่นะ...นายอาจจะรักผู้หญิงคนนี้จริงๆก็ได้”สรวงเอ่ยหยอกคนเป็นนายให้หายเครียด“จริงสินาย...ผู้หญิงคนนั้นอาจจะสวยหยาดเยิ้มจนนายหลงหัวปลักหัวปลำก็ได้..ฮ่าๆๆๆ”“ฮ่าๆๆ..”คนในวงสังสรรค์ตอนนี้ก็เช่นกันเพราะเห็นมานักต่อนักแล้วคนที่ไม่อยากแต่งงานพอได้แต่งแล้วแทบจะไม่อยากห่างเมียตนไปไหนกันเลย“ตลกอะไรนักหนาวะ..”คีรีเริ่มเสียงแข็งคนในวงตอนนี้เลยเริ่มหัวเราะไม่ออก“ข้าจะกลับแล้วไอ้สรวงพาข้าไปหาผกา”สิ้นเสียงไม่พอใจคีรีก็สั่งให้สรวงพาเขาไปหาผกาแม่ค้าขนมหวานที่ตลาดในหมู่บ้านเพราะรู้ตัวว่าตอนนี้ขับรถไปไม่ไหวแน่“นายจะไปทำไม”สรวงขมวดคิ้วจนผูกโบว์เขาไม่เคยเห็นนายของเขาไปหาใครตอนดึกดื่นเลยสักครั้งยิ่งครั้งนี้นายตนใกล้จะเข้าพิธีแต่งงานแล้วด้วยเขายิ่งไม่อยากตามใจนายตนนักเพราะพ่อเลี้ยงอินอาจจะหมายหัวเขาเอาได้หากปล่อยให้คีรีเถลไถล“บอกให้พาไปก็พาไปสิวะรึจะให้ข้
“ผกา..”คีรีพยายามหักห้ามใจแต่ทั้งความเมาและเนื้อหนังเต่งตึงอกตูมของผกากำลังทำให้สติของเขาควบคุมไม่อยู่สิ้นเสียงเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแหบพร่าคีรีก็กดเธอลงกับฟูกนอนรีบตะกุมตะกามดูดดึงยอกประทุมถันฟัดเล่นให้สาแก่ใจ“อ้ะ...”ชายหนุ่มใช้มือหนาถลกผ้าถุงสีหวานของหญิงสาวขึ้นมากองที่เอวก่อนจะใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงในตัวจิ๋วลูบไล้ร่องสวาทที่กำลังฉ่ำแฉะ“คีรี..”และแล้วกิจกรรมสวาทที่ได้สิ้นลงเมื่อคีรีได้ยินเสียงพ่อตนมาตะโกนที่หน้าบ้านของผกาสติของเขาจึงกลับคืนมาได้“พ่อ..”“ถ้าเอ็งไม่ออกมาเอ็งไม่ต้องกลับไปที่ไร่อีก”“ฉันไปก่อนนะผกา”คีรีรีบใส่กางเกงลุกหนีร่างอวบอึ๋มที่นอนโชว์ของสงวนอยู่บนฟูกออกไปอย่างรวดเร็วเขามีสติรู้ตัวเพราะเสียงของพ่อไม่อย่างนั้นเกือบมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผกาไปแล้ว“โถ่เอ้ย..”ผกานั่งกัดฟันกรอดกำมือแน่นอีกแค่นิดเดียวเธอก็จะทำให้สิ่งที่หวังได้สำเร็จแล้วแต่ดันมีคนมาขัดเสียก่อนยิ่งคิดเธอก็ยิ่งโมโหปึกก“ดึกดื่นไม่กลับบ้านกลับช่องเอ็งจะไปค้างอ้างแรมบ้านผกามันได้ยังไง”พ่อเลี้ยงอินลากลูกชายคนโตมาเหวี่ยงกองตรงกลางบ้านกลางดึกก่อนจะตวาดเสียงสั่นด้วยความโมโหดีที่สรวงมาบอกให้เขาไปตามคี
“ค่ะ...หนูชื่อปิ่นงาม..ส่วนนี่พี่คำปันจะ”“สวัสดีครับ”หลังจากที่ปิ่นงามแนะนำตัวคำปันชายหนุ่มก็รีบยกมือสวัสดี“คำปันเองเหรอลูกทิดปลั่งใช่ไหม”ดอกแก้วจำได้ดีว่าเคยเจอคำปันเมื่อยังเล็กๆตอนไปเยี่ยมแสนคำที่ทางเหนือครั้งพวกตนยังไม่มีลูกมีเต้า“ครับแม่เลี้ยง”“ตอนนั้นที่เห็นกันยังเล็กๆอยู่เลยนะจำไม่ได้ล่ะสิ..ไปๆขึ้นเรือนพักผ่อนกันก่อน”หลังจากทักทายกันเสร็จเจ้าบ้านก็ชวนแขกขึ้นเรือนเอาของไปเก็บแล้วจะได้พักผ่อนหลังจากเดินทางมาเหนื่อยๆวันนี้เลยได้แค่ทักทายไม่ได้คุยอะไรกันมากนักเพราะนี่ก็มืดค่ำแล้ว“นึกว่าพ่อเลี้ยงจะมาพร้อมหนูปิ่นเสียอีก..ดันมาป่วยเอาเสียได้”สองสามีภรรยามาคุยกันที่ห้องหลังจากจัดแจงที่พักให้ปิ่นงามและคำปันเรียบร้อยแล้วทั้งสองแอบเสียดายที่คิดว่าแสนคำจะมาพร้อมกับหลานสาวแต่กลับมารู้ว่าป่วยกะทันหันจากปากปิ่นงาม“นั่นสิ..จะว่าไปหนูปิ่นกิริยาท่าทางเหมือนตองนวลไม่มีผิดเลย”พ่อเลี้ยงอินอดนึกถึงเพื่อนตนในวันวานที่อยู่ที่ไร่แสนคำไม่ได้ยิ่งเห็นปิ่นงามก็ยิ่งนึกถึงตองนวล“ก็คงจะเหมือนคนเลี้ยงนั่นแหละ”ดอกแก้วเองก็คิดเช่นเดียวกับสามีเธอรู้มาว่าตองนวลมีลูกรุ่นราวคราวเดียวกับหลานของแสนคำและตอง
“พี่คีนะพี่คี..ตื่นสายทุกวันเลยนะเดี๋ยวนี้”ช่วงสายนภาเข้ามาปลุกพี่ชายเธอในห้องนอนเพราะเดี่ญวนี้เห็นจะทำตัวเกเรเมามาทุกวันแถมยังตื่นไปทำงานสายทุกวันอีก“อืม..”“พี่ปิ่นมาถึงแล้วว่าที่เมียพี่น่ะไปทำความรู้จักกับเธอหน่อย”“ไม่..ไม่ได้อยากรู้จัก”เสียงเอะอะโวยวายภายในห้องทำให้ปิ่นงามที่นั่งอยู่ที่ชานเรือนด้านบนถึงกับทำใจไว้เลยว่าคีรีน่าจะไม่ใช่คนที่เป็นมิตรกับเธอแน่นอนก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะใครก็ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนแต่ต้องแต่งเพราะเป็นข้อผูกมัดที่ผู้ใหญ่ทำขึ้นเอาไว้หลังจากนภาว่างงานจากสำนักงานของไร่แล้วบ่ายๆเกือบเย็นแดดร่มลมตกเธอก็เดินพาปิ่นงามปั่นจักรยานดูรอบๆไร่คร่าวๆว่าตรงไหนมีอะไรบ้างเพื่อสร้างความคุ้นเคย“ไร่นี้สวยเหมือนไร่แสนคำเลยภา”“พ่อบอกว่าทุกอย่างที่ไร่นี้เกิดขึ้นมาได้ก็เพราะความช่วยเหลือของปู่แสนคำการทำไร่ก็ทำทุกอย่างแทบจะเหมือนกับที่ไร่โน้นแต่แค่ปลูกพืชเมืองหนาวไม่ค่อยได้เท่านั้นเองจะ”“เพื่อนคุณภาเหรอจ๊ะ...งามเหลือเกิน”ระหว่างที่สองสาวหยุดคุยกันก็มีคนงานผู้หญิงในไร่ที่กำลังนั่งถางหญ้ากลางร่องผักใกล้ๆเอ่ยชมหญิงสาวที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนแถม
วันต่อมาซ่า.....เสียงน้ำตกที่ไหลมาจากต้นทางในป่าลึกไหลผ่านมายังหลังเรือนเล็กท้ายไร่ของคีรีที่นี่ค่อนข้างเป็นที่เงียบสงบและเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคีรีเฉพาะคนที่เขาอนุญาตให้เข้าเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้กระท่อมริมลำธารน้ำตกตอนนี้มีสองหนุ่มสาวอย่างคีรีและบุญตาสาวโสดที่หน้าตาดีที่สุดในไร่กำลังนั่งพลอดรักกันกระหนุงกระหนิงอย่างไม่คิดอายใครเพราะรู้ว่าไม่มีใครมาที่นี่ตอนนี้“นายจะแต่งงานแล้วบุญตาไม่อยากให้นายแต่งเลยจะ”บุญตาสาวสวยร่างผอมบางใบหน้าคมออดอ้อนคีรีเสียงอ่อนเสียงหวานเพราะรู้ตัวว่าคีรีกำลังจะแต่งงานไปในเร็ววันนี้และไม่รู้ว่าหลังจากนี้เธอจะสำคัญกับคีรีอยู่หรือเปล่าหากเขามีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้ว“เธอก็รู้ว่าฉันขัดพ่อฉันได้ที่ไหน”“แบบนี้บุญตาก็จะไม่ได้รับความรักจากนายอีกแล้วใช่หรือเปล่าจ๊ะ”บุญตารู้ดีว่าจะออดอ้อนคีรีอย่างไรเพราะคีรีมีนิสัยรักอิสระเธอจึงไม่เคยทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอยู่อย่างนี้เธอก็สบายดีแถมยังได้เงินจากคีรีอยู่เรื่อยๆเธอเคยเห็นผู้หญิงที่คิดจะจับคีรีแล้วแต่ก็ถูกเฉดหัวทิ้งทุกคนเลยขออยู่แบบนี้จะดีกว่าทั้งที่คราแรกที่ถูกคีรีจีบก็มีความคิดอยากเป็นเจ้าของเจ้านายหนุ่มเหมือนกัน“
“นั่นลูกวัวพึ่งคลอดก่อนหน้าที่พี่ปิ่นจะมาสองวันเอง”นภาชี้เจ้าลูกวัวตัวเมียที่เดินตามแม่กินหญ้าต้อยๆให้ปิ่นงามได้ดูขณะที่นั่งมองวิวทิวทัศน์กันอยู่ใต้ร่มต้นก้ามปูใหญ่“น่ารักดีนะดูสิตามแม่ต้อยๆเลย”“พี่ปิ่นนั่งเล่นตรงนี้ก่อนน้ะจ๊ะเดี๋ยวฉันไปเก็บชะอมริมรั้วสักหน่อยเอาไว้ทำกับข้าวเย็นนี้จะ”“เดี๋ยวพี่ไปช่วย”“ไม่ต้องหรอกจะแปปเดียวก็เสร็จแล้ว”“ก็ได้จะ”นภาอยากให้ปิ่นงามนั่งรับลมเล่นตรงนี้จะดีกว่าเพราะเธอก็ไม่ได้ไปนานเท่าไรนัก“เอ่อ..มีอะไรหรือเปล่า”ขณะที่ปิ่นงามนั่งเล่นเพลินๆจู่ๆก็มีหญิงสาวรูปร่างอวบอิ่มแต่งตัวแต่งหน้าสีสันฉูดฉาดเดินเข้ามายืนกอดอกมองหน้าเธออย่างไม่เป็นมิตรเท่าไรนัก“คุณน่ะเหรอจะมาเป็นเมียนาย”“.....”ปิ่นงามพยักหน้ารับทั้งยังคิดในใจว่าไม่พ้นผู้หญิงคนนี้จะเป็นผู้หญิงของคีรีอีกแน่“นายบอกกับฉันเองตอนที่นอนอยู่ด้วยกันว่าไม่ได้ต้องการคุณเลยสักนิดที่ต้องแต่งเพราะจำเป็น”“แค่นี้ใช่หรือเปล่าที่จะบอกฉัน”ปิ่นงามหลุบสายตาลงเล็กน้อยที่แท้ก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ“อีกอย่างคือ...นายเป็นของฉันคุณอย่าคิดว่าจะแย่งนายไปได้ไม่อย่างนั้นได้เจ็บตัวแน่..ฉันขอตัว”ผกามองค้อนปิ่นงามดวงตาแทบจ
“อื้ออๆๆ..”เสียงหวานของผการ้องเจือในลำคอเล็กน้อยเมื่อสะโพกแกร่งกระแทกจนแท่งร้อนเข้าลึกลงมาในคอของเธอซวบบบ..“อ่าสส..”ในส่วนของชายหนุ่มก็ตวัดฉกชิมน้ำรักของหญิงสาวเสียงซดมูมมามพักใหญ่จนหนำใจแล้วค่อยเปลี่ยนท่วงที่ให้หญิงสาวนอนหันหลังชันเข่าขึ้น“ฉ..ฉันไม่ไหว..”ผการีบแอ่นก้นให้ศักดิ์สิทธิ์ได้สอดใส่แท่งร้อนเพราะตอนนี้เธอรอมันไม่ได้อีกแล้วความเสียวมันซาบซ่านไปทั้งตัวจนลืมอายไปหมดแล้ว“ข้าก็เหมือนกัน”พลั่กกก“อ้ะ...อื้ออ”สิ้นเสียงชายหนุ่มเขาก็เสียบแท่งร้อนเข้าร่องสวาทที่เยิ้มฉ่ำแฉะจนมิดตับ ตับ ตับ เสียงเนื้อที่กระทบกันดังสนั่นขณะที่ชายหนุ่มรัวสะโพกเข้าออกร่องสวาทผสมกับเสียงครางแห่งความสุขของหญิงสาวที่ไม่ได้สุขแบบนี้มานานแล้ว“อืม..”ผกาชันตัวขึ้นให้หลังของเธอแนบกับอกแกร่งของชายหนุ่มก่อนจะดึงมือหนาของเขามากอบกุมเต้างามทั้งสองเอาไว้“อ้ะ...”หลังจากที่ชายหนุ่มกระแทกจากข้างหลังจนหนำใจร่างอวบอิ่มถูกพลิกให้นอนหงายเขาจับเรียวของทั้งสองแยกออกจากกันและจับอีกข้างพาดบ่าเอาไว้และเสียบแทงเท่งร้อนรัวสะโพกใส่หนักๆรัวๆอีกครั้งจนร่างของผกาหัวสั่นหัวครอนรวมไปถึงทรวงอกอิ่มก็เด้งตามจังหวะให้ศักดิ์สิทธิ