Share

ตอนที่14

ในเช้าของวันต่อมาคีรีตื่นก็รู้สึกว่าร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดตัวรุมๆน่าจะมีไข้เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่รู้สึกตัวจึงค่อยๆลุกออกจากฟูกนอนหมายจะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปทำงานแต่ก็ต้องตกใจเพราะที่ฟูกมีแต่รอยเลือดเต็มไปหมดรวมทั้งที่หน้าขาของเขาด้วยคิดในใจว่านี่สินะที่เขาเรียกว่าเลือดพรหมจันทร์

“หึ่...”

ไม่รู้ทำไมถึงทำให้เขายิ้มได้เมื่อเห็นเลือดเกรอะกรังแบบนี้แต่ก็รู้สึกภูมิใจลึกๆว่าได้ร่างบางที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ใต้ผ้าห่มมาเป็นของเขาจริงๆแล้ว

“หื้มม..”

คีรีหยิบผ้าขาวม้าที่พับวางอยู่ในตู้มาพันรอบเอวเอาไว้....เหมือนตอนนี้คีรีในหัวของเขาจะตีกันกับหัวใจอยู่ไม่น้อยเพราะหัวใจที่กำลังรู้สึกดีกลับถูกสมองสั่งให้หยุดและย้ำว่าเขาไม่ต้องการหญิงสาวและต้องพยายามทำให้เธอออกไปจากที่นี่ให้ได้

“ฉันช่วยเธอได้เท่านี้”

คีรีเดินไปหยิบกะละมังใส่น้ำกับผ้ามาเช็ดตัวให้ปิ่นงามขณะที่เธอยังหลับไม่ได้สติและเปลี่ยนเสื้อผ้าเปลี่ยนฟูกนอนให้หญิงสาวก่อนจะอาบน้ำและออกไปทำงานทิ้งให้ร่างบางนอนอยู่คนเดียว

10.00 น.

“เฮ้ออ...”

ตั้งแต่เช้ายันช่วงสายคีรีไม่เป็นอันทำงานเพราะในใจพะวงกับอาการของปิ่นงามพอสมควรไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะตื่นมากินข้าวกินปลาและหายากินหรือยัง

“เป็นอะไรพี่คี”

นภาที่กำลังนั่งนับเงินค่าผลผลิตที่เสี่ยชัชเอามาให้เมื่อเช้าและจดใส่สมุดบัญชีเห็นพี่ชายเธอดูนั่งพะวักพะวงไม่เป็นอันทำงานมาพักใหญ่แล้วจึงต้องถามขึ้นเพราะรำคาญท่าทีหมุนไปหมุนมาของพี่เธอพอสมควร

“อืม...พี่ลืมสมุดบัญชีรายจ่ายคนงานที่เรือนเล็กน่ะสิเมื่อวานเอากลับไปตรวจด้วยแต่ลืมหยิบมาภาไปเอาให้พี่หน่อยสิ”

“อ้าว...พี่คีก็ไปเองสิคะ”

สิ้นเสียงพี่ชายนภาก็หน้าบูดหน้าบึ้ง

“ขี้เกียจไปแล้วไปเอาให้พี่หน่อยตอนนี้เลยน่าจะอยู่ในห้องนอน”

“ก็ได้ๆ”

คีรีนั่งอมยิ้มหลังจากคะยั้นคะยอให้น้องสาวเขาไปที่เรือนเล็กได้เขาไม่ได้ลืมสมุดบัญชีจริงๆอย่างที่ว่ามันอยู่ในลิ้นชักที่โต๊ะทำงานที่นี่แต่เพราะไม่อยากกลับไปดูอาการของปิ่นงามด้วยตัวเองเท่านั้น

นภามาถึงที่เรือนเล็กก็รีบวิ่งตรงมาที่ห้องนอนของพี่ชายเธอทันทีเธอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นปิ่นงามยังคงนอนอยู่จึงแปลกใจว่าทำไมสายป่านนี้พี่สะใภ้ของเธอยังไม่ตื่นอีก

“ พี่ปิ่นจ๊ะ...พี่ปิ่น..หืมตัวร้อนจี๋เลย...ทำไมตัวแดงแบบนี้ล่ะแพ้อะไรหรือเปล่า”

เมื่อสัมผัสตัวหญิงสาวได้เธอก็รู้สึกถึงไอร้อนระอุจากตัวคนที่นอนนิ่งอยู่จึงรู้สาเหตุของการตื่นสายตอนนี้เธอไม่สนใจจะหาสมุดบัญชีไรทั้งนั้นรีบไปหาน้ำหาผ้ามาเช็ดตัวพี่สะใภ้เธอก่อนไม่รู้เลยว่าหากเธอไม่มาที่นี่ปิ่นงามจะเป็นอย่างไร

เวลาเนิ่นนานผ่านไปเกือบสองชั่วโมงได้กว่านภาจะกลับมาที่สำนักงานไร่ทำเอาคีรีที่รอฟังข่าวอยู่นั่งไม่ติดที่เมื่อเห็นน้องสาวเจ้าตัวกลับมาก็บ่นอุกหน้าหงิกหน้างอ

“ทำไมกลับมาช้า”

“สมุดบัญชีภาไม่เจอ.. เจอแต่พี่ปิ่นนอนตัวร้อนอยู่ในห้องไม่รู้หรือไงว่าเมียพี่ไม่สบาย”

นภาคิดว่าพี่ชายเธอคงห่วงบัญชีมากเธอจึงรีบบอกว่าหาไม่เจอและรู้ตัวอยู่แล้วว่าต้องถูกดุแต่เธอขอดุพี่ชายเธอกลับก่อนเรื่องที่ปิ่นงามไม่สบายไม่รู้ว่าพี่ชายเธอรู้บ้างหรือเปล่าถึงออกมาทำงานสบายใจแบบนี้

“อ้าวหนูปิ่นเป็นอะไรล่ะยัยภา”

ดอกแก้วเอาข้าวเที่ยงเข้ามาให้ลูกเธอทั้งสองได้ยินที่นภาพูดพอดีจึงถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่รู้ว่าแพ้อะไรจะแม่ฉันเช็ดตัวให้ก็มีแต่รอยแดงเป็นจ้ำๆทั่วเลยลุกเดินก็ไม่ไหวถามอะไรพี่ปิ่นก็ตอบว่าไม่รู้”

เมื่อสิ้นคำพูดนภาคีรีก็ก้มหน้างุดทั้งดอกแก้วเองก็พอจะรู้สาเหตุแล้วว่าปิ่นงามเป็นอะไรถึงไข้ขึ้นแบบนั้นเธอคิดไม่ผิดที่ลูกชายเธอนั้นต้องกลืนน้ำลายตัวเองคำที่ว่าจะไม่สนใจภรรยาแต่งคนนี้

“คงไม่ได้แพ้อะไรมากหรอกมั้งกินยาเดี๋ยวก็หาย”

น้ำเสียงของคีรีสูงเป็นพิเศษทั้งยังไม่กล้ามองหน้าใครในตอนนี้เท่าไร

“เมียป่วยก็กลับไปดูแลสิจะมาอยู่นี่ทำไม”

ดอกแก้วต้องสั่งให้คีรีกลับไปดูแลปิ่นงามคนไข้สูงขืนปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่มีคนเช็ดเนื้อเช็ดตัวคอยเตือนให้กินยากลัวว่าจะช็อคเอาได้

“ก็ยัยภาจัดการแล้วนี่ครับ”

“นี่ถ้าพี่คีไม่ให้ภาไปหาสมุดบัญชีป่านนี้พี่ปิ่นนอนชักเพราะพิษไข้แล้วล่ะมั้ง”

“เป็นคนทำก็กลับไปดูแลอย่าลีลา”

ดอกแก้วรู้ว่าคีรีคงอยากจะกลับไปดูแลปิ่นงามแต่ก็ยังคงทำวางมาดไปอย่างนั้นจึงต้องรีบคะยั้นคะยอ

“พี่คีเป็นคนทำ...ทำอะไรเหรอจ๊ะแม่...อย่าบอกนะว่าที่พี่ปิ่นตัวแดงทั้งตัวแบบนั้นพี่คีทำอะไรพี่ปิ่นบอกมานะ”

“เปล่าจะถามอะไรนักหนา”

คีรีเริ่มโวยวายเพราะเขาก็ไม่รู้จะตอบน้องสาวของเขายังไงเหมือนกัน

“อย่ามัวเถียงกับน้องเลยไปดูแลเมียเราเดี๋ยวนี้เลยคีรี”

“ครับแม่”

ดอกแก้วต้องรีบไล่คีรีให้รีบไปไม่อย่างนั้นนภาคงเค้นอยู่ไม่ยอมจบแน่เธอรู้นิสัยลูกสาวเธอดี

“ภาว่าพี่คีต้องแกล้งอะไรพี่ปิ่นแน่เลยชอบแกล้งเธออยู่เรื่อยนิสัยไม่ดีเลย”

หลังจากคีรีออกไปแล้วนภาก็หันมาบ่นกับคนเป็นแม่อุกเพราะเธอเชื่อว่าคีรีต้องรังแกอะไรปิ่นงามแน่นอน

“มากินข้าวเถอะเที่ยงกว่าแล้ว”

ดอกแก้วส่ายหัวแม้นเธอจะรู้แต่จะให้พูดไปคงไม่งามเท่าไรนักดังนั้นจึงต้องรีบเปลี่ยนเรื่องดึงให้ลูกสาวเธอมาสนใจกับข้าวในจานที่เธอยกมาจากโรงครัวจะดีกว่า

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status