Share

ตอนที่21

“ฉันแค่จะเดินสายไฟเธอกินข้าวต่อเถอะ”

พอปิ่นงามหันมามองได้คนที่มาดเยอะก็รีบหุบยิ้มก่อนจะเดินไปทางอื่น

“ค่ะ”

ปิ่นงามยิ้มกว้างหลังจากที่คีรีออกไปแล้วแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่ใช่ว่าเพราะเหตุการณ์เมื่อคืนจึงทำให้คีรีอยากจะติดไฟที่นี่เพื่อเพิ่มแสงสว่างให้เธอแม้นจะไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่แต่เธอก็ดีใจที่ที่นี่จะได้มีแสงสว่างยามค่ำคืนเสียที

“จะรีบไปไหนไอ้สรวง”

เทิดศักดิ์คนขับรถคีบอ้อยของไร่เขาเป็นเพื่อนรักของสรวงเห็นสรวงเดินจ้ำอ้าวถือสายไฟแบกลำไม้ไผ่ยาวไปกับคนงานสองสามคนก็รีบตะโกนถาม

“เอาสายไฟไปให้นายน่ะสิเผื่อไม่พอ...ปากก็บอกไม่สนใจเมียได้เข้าหอมาไม่เท่าไรรีบอำนวยความสะดวกให้เมียใหญ่”

“ฮ่าๆๆ...สวยหยาดเยิ้มขนาดนั้นก็ต้องประเคนความสุขให้หน่อยล่ะโว้ย...”

สองหนุ่มเอ่ยถึงนายจอมปากแข็งของตนกันเสียงดังทำเอาคนที่ได้ยินต่างก็อมยิ้มตามกันไปด้วยเพราะก็คิดอย่างคนทั้งสองว่าเหมือนกัน

ค่ำนี้ดูปิ่นงามจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะที่เรือนเล็กมีแสงสว่างจากไฟฟ้าแล้วตอ่ไปนี้เธอก็จะทำอะไรได้สะดวกยิ่งขึ้น

“เธอก็เก่งเหมือนกันนี่ที่สอนดินจนกินข้าวเองเป็น”

เป็นครั้งแรกที่คีรีเอ่ยชมหญิงสาวขณะที่นั่งร่วมโต๊ะกินข้าวเย็น

“แค่เข้าใจอารมณ์ของเค้าก็พอค่ะไม่ได้มีอะไรยากเลย...ขอบคุณนะคะที่ติดไฟฟ้าให้ฉันมีใช้”

“ฉันไม่ได้ทำให้เธอ...ฉันทำให้ตัวเองต่างหากจะได้ใช้ชีวิตสะดวกๆ”

คีรีหลบสายตาหญิงสาวก่อนจะลงมือแกะปลาหมอย่างของโปรด

“อ่อ..ค่ะ”

ปิ่นงามไม่ได้รู้สึกอย่างที่คีรีพูดจริงๆเพราะปกติแล้วคีรีจะไม่หลบสายตาของเธอแสดงว่าตอนนี้เขากำลังโกหกเธอแน่นอนแต่ก็ไม่ได้คิดจะเค้นอะไรเพราะรู้ว่าคีรีคงไม่ยอมรับง่ายๆแน่ว่าทำเพราะเธอแสดงว่าตอนนี้เขาก็คงจะรู้สึกเป็นห่วงเธอบ้างไม่มากก็น้อยแน่นอน

“นาย..นายครับ”

“อะไรวะ”

คีรีได้ยินเสียงคมตะโกนอยู่หน้าเรือนคิดไม่ผิดคงมาตามเขาไปร่วมวงแน่นอนจึงตะโกนกลับไปด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดพอสมควรเพราะเขาไม่ได้อยากไปไหนในตอนนี้

“พวกผมตั้งวงรอแล้วนะนาย”

“พวกเอ็งไปกันเลยข้าไม่ไปกินข้าวแล้วโว้ย”

“ครับนาย..”

คมได้ยินเช่นนั้นเขาก็ไม่ได้คะยั้นคะยออะไรคนเป็นนายที่มาชวนเพราะมาตามเป็นมารยาทเท่านั้นรู้ดีว่านายตนคงจะอยากฉลองการมีไฟฟ้าใช้ในเรือนวันแรกกับภรรยา

“ทำไมไม่ไปล่ะคะ”

ปิ่นงามเห็นคีรีไปร่วมวงกับเหล่าคนในไร่เป็นปกติแต่ไม่รู้ว่าวันนี้ทำไมถึงได้ปฏิเสธได้

“ฉันกินข้างแล้วไง...เธอชอบให้ผัวตัวเองกินเหล้าเมายางั้นเหรอ”

“ถ้าคุณอยากกิน..ปิ่นจะไปบังคับอะไรคุณได้ล่ะคะ”

“อืม..ฉันจะได้รู้เอาไว้ว่าเมียฉันไม่เคยคิดจะหวงอะไรฉันเลย”

สีหน้าของคีรีตอนนี้ดูจะไม่พอใจมากกว่ามีคมมาขัดจังหวะเมื่อครู่เสียอีก

“ปิ่นไม่คิดหวง...แต่หากคุณจะไปไหนทำอะไรให้บอกปิ่นก่อนนะคะจะได้ไม่ต้องห่วง”

ปิ่นงามวางช้อนก่อนจะค่อยๆพูดออกมาตามเสียงของหัวใจที่มันรู้สึกอยู่ในตอนนี้ดวงตากลมเหลือบมองชายหนุ่มที่ยังคงก้มหน้าก้มตามองจานข้างนิ่งก่อนจะหลุบสายตาลง

“..อืม..”

คีรีอึ้งไปครู่หนึ่งกับคำว่าห่วงของปิ่นงามก่อนจะกลั้นไม่ให้เผลอยิ้มออกมาและเอ่ยตอบหญิงสาวในลำคอวินาทีหลังจากนี้ต่างคนต่างก็เงียบใส่กันแต่เมื่อเผลอสบตากันเมื่อไรเป็นต้องมีอมยิ้มบ้างเพราะความรู้สึกดีต่อกันในตอนนี้มันเปี่ยมล้นอยู่ในใจทุกวินาที

วันเวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนกว่าหลังจากที่ปิ่นงามแต่งงานกับคีรีหลังจากที่ทั้งสองพูดดีกันวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆตลอดมาคีรีกลับบ้านตรงเวลาทุกวันไม่เคยปล่อยให้ปิ่นงามอยู่คนเดียว

ผู้หญิงในสายตาของเขาตอนนี้ดูจะเป็นเพียงแค่ปิ่นงามเท่านั้นเพราะคนอื่นๆเขาก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวไปมาหาสู่กับใครเหมือนที่เคยทำ

“กินเยอะๆเลยนะดิน”

“ครับ”

ปิ่นงามนั่งกินข้าวกลางวันอยู่กับดินที่แคร่ไม้ข้างเรือนตรงแปลงผักตรงนี้ลมค่อนข้างพัดเย็นสบายเพราะอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อีกอย่างปิ่นงามสังเกตแล้วว่าดินจะกินข้าวได้เยอะเมื่อนั่งตรงนี้

“ทำไมวันนี้กลับมาไวล่ะคะ”

ปิ่นงามเห็นคีรีขับรถเข้ามาจอดหน้าเรือนทั้งที่ตอนนี้ก็พึ่งจะเที่ยงไม่รู้ว่าวันนี้งานเสร็จไวหรืออย่างไรกัน

“ฉันจะมากินข้าวที่นี่..กับข้าวที่โรงครัวไม่ถูกปากเท่าไร”

คีรีติดใจฝีมือปิ่นงามจนกินอาหารที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าฝีมือภรรยาตนไปแล้ว

“งั้นเดี๋ยวปิ่นไปเอาจานมาตักข้าวให้นะคะ”

“อืม..”

คีรีเข้ามานั่งบนแคร่ข้างๆกับดินที่เอาแต่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆไม่สนใจใคร

“ไงดิน..อร่อยไหมเคี้ยวตุ้ยๆเลย”

“หร่อยครับ”

ดูท่าฝีมือภรรยาของขาจะถูกปากดินน่าดูเพราะช่วงนี้ดูเด็กชายจะอ้วนท้วนขึ้นกว่าเดิมเยอะ

“นี่ค่ะ...วันหลังปิ่นทำกับข้าวใส่ปิ่นโตให้คุณเองก็ได้จะกินอะไรก็บอกจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาดีหรือเปล่า”

“ อืม.. ก็ดีเหมือนกัน”

เมื่อรับจานข้าวมาจากปิ่นงามได้คีรีก็เริ่มลงมือกินข้าวไม่พูดไม่จาเช่นเดียวกับดินคนที่ทำกับข้าวอย่างปิ่นงามก็รู้สึกปลื้มอกปลื้มใจที่ฝีมือเธอทำให้คนที่กินมีความสุขได้

คีรีเองคิดไปคิดมาก็ไม่ใช่เพียงแค่ดินเท่านั้นที่อ้วนท้วนขึ้นเพราะฝีมือปิ่นงามแต่กลับเป็นเขาด้วยที่รู้ตัวเลยว่าน้ำหนักคงขึ้นเพราะฝีมือของปิ่นงามที่ทำกับข้าวอร่อยเสียจนไม่อยากจะวางช้อนวางจานกันเลยทีเดียว

ตกดึกสองสามีภรรยานอนกอดกันกลมด้วยอากาศข้างนอกเริ่มเย็นจัดเพราะเข้าหน้าหนาวเป็นแบบนี้แทบทุกคืนคีรีจะไม่ค่อยจะปล่อยให้ร่างบางเป็นอิสระเพราะหากไม่ได้กอดได้หอมให้ชื่นใจก็ข่มตาหลับไม่ลง

“ฉันว่าฉันน้ำหนักขึ้นเพราะกับข้าวฝีมือเธอ”

“อืม..ตอนนั้นใครว่าฝีมือฉันธรรมดาคะ”

“แล้วตอนนั้นใครว่าจะไม่ทำอาหารให้ฉัน”

“ยอกย้อนเหรอคะ”

“เปล่านี่”

ฟอดด

ว่าจบก็กดหอมพวงแก้มนวลฟอดใหญ่หญิงสาวต้องรีบยกมือมาถูหน้าเพราะหนวดของเขาที่ขึ้นอยู่รำไรทิ่มแทงพวงแก้มของเธอจนรู้สึกเจ็บ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status