“เมียฉันอยู่ที่ไหน”“ฉันจะไปรู้เหรอจ๊ะ”ผกายังคงตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่เห็นกับคำถามของคีรี“ดินบอกกับฉันว่าเธอพาเดินไปหลบที่กอไผ่”“นายจะเชื่ออะไรกับไอ้เด็กไม่เต็มบาทนั่น”“เธอสิไม่เต็มบาท...ปิ่นงามอยู่ที่ไหน”คีรีเริ่มโมโหหนักจากที่อารมณ์คุกรุ่นมาตั้งแต่คราแรกอยู่แล้ว“นายดุฉันเหรอจ๊ะ”“ฉันถามว่าปิ่นงามอยู่ที่ไหนไม่ได้ยินหรือไงวะ”ผกามองหน้าคีรีด้วยความเคืองใจปกติไม่มีเลยสักครั้งที่คีรีจะขึ้นเสียงกับเธอแต่ครั้งนี้ดูเขาจะเป็นห่วงปิ่นงามมากจนกล้าตะคอกใส่เธอยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหอยู่ในใจแต่แค่โวยวายอะไรออกมาไม่ได้เท่านั้น“คุณปิ่นไปที่น้ำตก...ไม่รู้เข้าป่าไปหรือเปล่า..ฉันก็ไม่เห็น”และแล้วผกาก็ต้องยอมกัดฟันพูดจนได้“ถ้าเมียฉันเป็นอะไรไปฉันไม่เอาเธอไว้แน่”คีรีชี้หน้าผกาเขารีบขับรถกลับออกไปอย่างรวดเร็วตอนนี้หัวใจดวงโตหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มเพราะนี่ก็มืดแล้วมีทางเดียวที่จะตามหาปิ่นงามให้ได้ไวที่สุดคืดเขาต้องไปตามพรานในหมู่บ้านมาให้ช่วยแกะรอยตามหาหากเขาไปงมหาคนเดียวมีหวังปิ่นงามอาจจะมีอันตรายก่อนที่เขาจะหาเจอได้“นายหลงมันเข้าแล้ว..หึ้ยย..อีปิ่นอีมารหัวใจ”ผกากลับเข้ามาในบ้านได้เธอก็ไม่มีอารมณ์กินข้าวแ
“ฉันจะไม่ให้ผกามาเหยียบที่ไร่อีกแบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นอีก”คีรีในตอนนี้โกรธผกามากจนแทบไม่อยากจะเห็นหน้าไม่คิดว่าคนที่เขาชมชอบนั้นจะเป็นคนที่นิสัยเหี้ยมโหดเช่นนี้ได้“อย่านะคะที่ผกาทำก็เพราะรักคุณ...”ปิ่นงามเห็นว่าการทำแบบนั้นมันจะไม่ใช่ผลดีเท่าไรนักเพราะมันจะยิ่งทำให้ผกาเกลียดเธอเข้าไปอีก“หึ่... ให้ได้อย่างนี้สิ”คีรีสบถในลำคอคนจะดีก็ดีเสียจนใจหายคนจะร้ายก็ร้ายเสียจนคิดว่าชีวิตคนหนึ่งชีวิตไม่มีค่าช่วงเที่ยงของวันต่อมาหลังจากที่ผกาส่งขนมเรียบร้อยแล้วคีรีก็เรียกผกาเข้ามาคุยในสำนักงานไร่เพราะเขาต้องการจะตักเตือนเธอว่าอย่าให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกไม่อย่างนั้นเขาจะเอาผิดผกาโดยที่ไม่สนคำทัดทานของใครทั้งนั้น“ครั้งนี้ฉันจะละโทษเพราะปิ่นขอถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกฉันเอาเรื่องแน่...แล้วจะไม่ให้เธอไปเหยียบที่ไร่นี้อีก”“ผกาไม่มาที่นี่ก็ได้...เชิญไปสั่งขนมร้านอื่นเลย”ผกามองหน้าคีรีด้วยความไม่พอใจจากคำที่ว่าจะละโทษเธอเพราะปิ่นงามขอเท่ากับว่าอะไรๆตอนนี้คีรีก็ต้องรับฟังคำปิ่นงามทั้งนั้นหากจะละโทษเพราะปิ่นงามดังนั้นก็ถือว่าคีรีไม่เห็นหัวเธอแล้วจึงยื่นคำขาดกับเขาว่าจะไม่มาที่นี่อีกดูสิเขา
“เหงาหรือเปล่าไม่มีเจ้าดินมาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว”คีรีนอนกอดก่ายร่างบางขณะที่มากางมุ้งนอนดูดาวยามค่ำคืนกันที่ชานเรือน“นิดหน่อยแต่ปิ่นดีใจมากกว่าค่ะที่ดินได้อยู่กับพ่อและก็แม่อีกอย่างจะได้ไม่ลำบากอีกต่อไปแล้ว”“อืม.. เธออยากมีเด็กเล็กๆมาอยู่ด้วยตลอดหรือเปล่า”“มีก็ดีค่ะ...ว่าแต่เด็กที่ไร่เหรอคะ?”ดวงตาปิ่นงามเบิกโพรงอย่างสนอกสนใจคำพูดของคีรีหากเธอได้เด็กเล็กลูกของคนงานที่ไร่มาเลี้ยงช่วงกลางวันก็คงไม่เหงา“ฉันจะทำให้เธอไง”“เอ่อ...คุณอยากมีลูกกับปิ่นอย่างนั้นเหรอคะ”ปิ่นงามหลบสายตาคีรีเล็กน้อยพวงแก้มนวลตอนนี้เริ่มแดงระเรื่องเพราะเคอะเขินกับคำพูดของเขา“อืม...”ฟอดดคนตัวโตรวบกระชับกอดร่างบางแน่นกดหอมภรรยาตนฟอดใหญ่เขาไม่ได้พูดเล่นเขาคิดจะมีลูกกับเธอจริงๆเพราะคิดว่าหญิงสาวน่าจะเป็นแม่ของลูกที่ดีได้เพราะมีนิสัยเป็นคนอ่อนโยนรักเด็ก“แล้วกับผู้หญิงคนอื่นล่ะคะคุณอยากมีลูกกับพวกเธอหรือเปล่า”ปิ่นงามถามคีรีให้มั่นใจหากเขาอยากมีลูกกับเธอแล้วผู้หญิงคนอื่นเขาอยากมีด้วยหรือไม่เพราะเธอไม่อยากให้ลูกเกิดมาแล้วได้ชื่อว่าเป็นลูกเมียหลวงเมียน้อย“ไม่ฉันไม่เคยคิดจะมีลูกกับใครจนมาเจอเธอ”เสียงแหบพร่าเอ่ยกระ
“อืม..”ปิ่นงามฟุบใบหน้าลงกับบ่าแกร่งขณะที่คนเป็นสามีกำลังดึงสะโพกเธอให้เข้าออกเป็นจังหวะและไม่นานนักเธอก็เริ่มขยับเองได้แต่เป็นจังหวะที่ค่อนข้างนุ่มนวล“อย่างนั้นแหละ...อืม..น่ารักที่สุดเลย”คีรีกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอขณะที่ภรรยาตัวน้อยเริ่มควบคุมเกมส์เองเป็นใบหน้าหวานที่ตาปรือเม้มปากแน่นครางเสียงอ่อนของเธอยิ่งเร้าอารมณ์ให้เขาได้เป็นอย่างดี“อืม..อื้ออ..อะ..อ๊ายยย”“อึก..อ่าส..”จากที่นั่งคุมเกมส์อยู่พักใหญ่ปิ่นงามก็เริ่มบิดเร่ากอดคนเป็นสามีตัวเกร็งด้วยแตะขอบสวรรค์ไปเรียบร้อยเสียงหวานร้องโหยหวนพร้อมกับเสียงคำรามในลำคอของคีรีเพราะชายหนุ่มก็เสียวจนแทบปริแตกเมื่อร่องสวาทของหญิงสาวตอดรัดตัวตนของเขาถี่ยิบ“อืม..”คีรีวางร่างบางให้นอนลงแล้วเริ่มขย่มบนตัวเธออีกครั้งเนิ่นนานเท่าไรนับเวลาไม่ได้กว่าจะได้ปล่อยให้ภรรยาตัวเล็กได้เป็นอิสระก็ได้ยินเสียงไก่ขันเสียแล้วหลายวันต่อมาคีรีทำได้อย่างที่สัญญากับปิ่นงามจริงๆเขาตัดขาดความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เขาเคยเกี้ยวพาราสีโดยเด็ดขาดชายหนุ่มพยายามทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีและรอคอยวันที่ปิ่นงามจะตั้งท้องคีรีเปลี่ยนเป็นคนละคนจากคนที่เคยเจ้าชู้ชอบสังสรรค์กล
“คุณคี..เป็นอะไรคะ”กลางดึกปิ่นงามตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าคีรีนั้นนอนไม่อยู่สุขเท่าไรแถมเขายังเอาแต่นอนหันหลังให้เธอไม่กอดเธอเหมือนกับทุกคืนที่เคยทำอีกด้วย“เปล่านอนเถอะ..”คีรีหันมามองหน้าปิ่นงามครู่หนึ่งก่อนจะรีบหันไปความรู้สึกของเขาตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเองและจิตใจนั้นไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไรนัก“....”ปิ่นงามนอนลืมตาอยู่พักใหญ่กว่าจะข่มตาหลบลงได้เพราะเป็นห่วงคีรีอยู่พอสมควรด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มมีอาการแบบนี้มาก่อนอีกอย่างตอนเย็นก็ยังดีๆอยู่เลยอาการวันต่อมา“ไม่กินข้าวเช้าก่อนเหรอคะ”“ปิ่นงามเห็นคีรีเตรียมตัวออกไปทำงานตั้งแต่ที่เธอยังจัดสำรับกับข้าวไม่เสร็จจึงรีบเรียกสามีเธอเอาไว้ก่อนเพราะเธอต้องการที่จะคุยกับเขาเรื่องความลับที่อยู่ในใจให้มันจบๆไปก่อนที่แสนคำจะมาที่นี่“ไม่”“คือปิ่นมีเรื่องต้องคุยกับคุณ”“ฉันไม่มีเวลา...”คีรีหันมาตอบปิ่นงามเสียงแข็งทั้งสายตาของเขาก็ยังมองเธอไม่อ่อนโยนเหมือนเดิมก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วจึงทำให้ปิ่นงามสลดอยู่พอสมควรหญิงสาวไม่รู้ว่าคีรีเป็นอะไรจริงๆแต่อาการของเขามันก็ทำให้เธอไม่สบายใจอยู่ไม่น้อยตั้งแต่เช้ายันเย็นปิ่นงามไม
ช่วงเช้าของวันต่อมาแสนคำและคำปันกับตองนวลก็เดินทางมาถึงไร่คีรีรักษ์พอดีตอนนี้ปิ่นงามรับหน้าที่ดูแลคนจากไร่แสนคำส่วนพ่อเลี้ยงอินก็รีบลากตัวลูกชายตัวดีออกมาต้อนรับแขกที่พึ่งมาเยือน“ต้อนรับกันเองไม่ได้หรือยังไง”“สงบปากของเอ็งไว้บ้างเห็นแก่หน้าข้าหน่อย”พ่อเลี้ยงอินเริ่มเสียงแข็งมองหน้าลูกชายตนไม่พอใจเรื่องเมื่อวานยังไม่ได้สะสางกันตัวต่อตัววันนี้หากคีรีทำให้เขาเสียหน้าอีกคงได้ตัดพ่อตัดลูกกันจริงๆแน่“แม่ปรางค์ไปไหนซะล่ะทำไมเราอยู่คนเดียวล่ะแม่ปิ่น”เมื่อเห็นทุกคนมานั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วแต่แสนคำชายวัยชราเจ้าของไร่แสนคำก็รีบถามหาหลานสาวอย่างปรางค์ทิพย์ทันทีคำพูดของแสนคำทำเอานภาและคีรีต่างก็มีสีหน้าสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนส่วนพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงของไร่ไม่ได้แปลกใจนักด้วยรู้เรื่องราวว่าปิ่นงามเป็นลูกของตองนวลตั้งแต่วันแต่งงานแล้ววันนั้นปิ่นงามสารภาพกับผู้ใหญ่ทั้งสองจนหมดเพราะไม่อยากปิดบัง...ส่วนอินและดอกแก้วเข้าใจทุกอย่างและยินดีที่จะรับลูกของตองนวลเป็นสะใภ้เพราะตองนวลก็เป็นเพื่อนรักของพวกเขา“คือ...ปิ่นอยู่ที่นี่คนเดียวค่ะคุณปู่”ปิ่นงามนั่งก้มหน้างุดและแล้วเธอก็ไม่ได้บอก
สามวันต่อมา“ทำไมวันนี้ไม่อยู่กับคีรีล่ะลูก..ไม่ใช่ทะเลาะกันหรอกนะลูก”ตองนวลเห็นลูกสาวเธอขลุกอยู่กับเธอที่เรือนใหญ่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่เห็นจะกลับไปหาคีรีที่ท้ายไร่เสียทีคงไม่ใช่ทะเลาะกันอีกหรือเปล่า“ไม่หรอกค่ะ..ปิ่นอยากอยู่กับแม่นี่คะ..อยากนอนกอดแม่กินข้าวฝีมือแม่พรุ่งนี้แม่ก็จะกลับแล้ว”“อ้อนเป็นเด็กๆไปได้นะเรา”ปิ่นงามกอดแม่จนกลมเธออยากกอดแม่เธอนานที่สุดเท่าที่จะนานได้เพราะหลังจากนี้คงอีกนานกว่าจะเจอกันอีกอย่างการที่ได้อยู่ใกล้กับแม่ตนตอนนี้ก็เป็นสิ่งเดียวที่เรียกว่าความสุขเพราะรับรู้อยู่ทุกขณะว่าหากแม่เธอกลับไปแล้วเธอจะต้องพบกับความทุกข์ใจแสนสาหัสเช้าวันต่อมาเมื่ออาทิตย์ยังไม่โผล่เต็มดวงดีแสนคำกับทุกคนที่มาพร้อมกันก็เตรียมตัวกลับหลังจากนั้นก็เป็นเวลาของปิ่นงามที่จะต้องเผชิญความจริงเธอรีบกลับไปที่เรือนเล็กทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคีรีว่าเธอจะปล่อยเขาไปหลังจากที่ปิ่นงามกลับมาถึงเรือนเล็กเธอเอ่ยลาคีรีเขาไม่เคยมีทีท่าที่จะคิดจะรั้งเธอไว้แม้แต่น้อยกลับบอกให้เธอรีบไปแล้วเขานั้นก็รีบไปหาผกาที่บ้านเพราะรู้สึกคิดถึงหญิงสาวร่างอวบอึ๋มใจจะขาด“.ฮึก..ฮือๆๆ..”สาวเจ้านั่งเก็บเสื้อผ้าไปร้องให
เดือนต่อมาเป็นเดือนกว่าแล้วที่ปิ่นงามไม่ได้อยู่ที่ไร่และไม่มีข่าวคราวว่าจะเจอเธอแม้แต่น้อยส่วนคีรีก็เอาแต่ขลุกอยู่กับผกาไม่ยอมห่างจนพ่อเลี้ยงอินและแม่เลี้ยงดอกแก้วต่างก็ท้อใจไม่คิดว่าลูกจะคิดตัดขาดกับพวกตนเพราะผู้หญิงจริงๆ“เฮ้อ...”นภาที่กำลังเหม่อที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในช่วงบ่ายของวันหญิงสาวนั่งเครียดกับเรื่องครอบครัวตอนนี้เธอสงสารพ่อกับแม่ที่ต้องมาเครียดเพราะเรื่องพี่ชายเธอไหนจะตามหาปิ่นงามไม่เจออีกไม่รู้เลยว่าครอบครัวเธอไปทำเวรทำกรรมเอาไว้ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้“คุณภาจ๊ะ”“มีอะไรเหรอป้าแดง”นภาหลุดออกจากภวังค์หายนั่งเหม่อเมื่อแดงแม่ครัวประจำไร่วัยเกือบห้าสิบก็เข้ามาเรียก“วันนั้นฉันเห็น... “เรื่องที่แดงบอกกับนภาทำให้หญิงสาวได้ข้อกระจ่างแล้วว่าทำไมพี่ชายเธอถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคนกะทันหันเช่นนั้น...ที่แดงต้องมาบอกเพราะคนเขารู้กันทั้งไร่ว่าคีรีตอนนี้หลงผกายังกับอะไรดีประจวบเหมาะกับเธอจำได้ว่าก่อนหน้านั้นผกาก็ไปหาหมอมั่นที่ตำหนักอยู่บ่อยๆเลยกลัวว่าที่คีรีเป็นแบบนี้ก็เพราะผกาจะทำของใส่หญิงสาวคุยกับแดงเรียบร้อยแล้วจึงรีบกลับที่เรือนใหญ่รีบมาบอกกับพ่อและแม่ตนอย่างที่แดงได้เล่าให้ฟัง“แม่ภ
“น้ำค่ะคุณหมอ...ปิ่นถือรอไว้แล้ว”ปิ่นงามกลั้นหัวเราะเล็กน้อยทั้งรีบยื่นแก้วน้ำให้หมอหนุ่มได้ดื่ม“คุณปิ่นไม่บอกผมล่ะครับว่ามันเผ็ด”หน้าหมอหนุ่มตอนนี้แดงเป็นลูกตำลึงจนคนในวงกินข้าวต่างก็มองกันด้วยความตกใจเว้นคีรีที่มองแต่ปิ่นงามด้วยสายตาที่น้อยอกน้อยใจที่เห็นหญิงสาวดูใส่ใจชาวีมากกว่าตัวเองในตอนนี้“อีกแก้วค่ะ..คุณหมอกินเผ็ดไม่ได้เหรอคะ”นภารีบยื่นน้ำอีกแก้วให้ชาวีเพราะเห็นว่าในมือของเขากำลังจะหมด“ค่ะ..เผ็ดนิดหน่อยก็หน้าแดงทันทีเลยล่ะ”“อ่อ...ภาไม่รู้ว่าคุณหมอกินเผ็ดไม่ได้โทษทีค่ะ”นับว่าเป็นที่ตกอกตกใจกันไปกับสีหน้าของชาวีแต่ดีที่หายเผ็ดได้หน้าของเขาจึงหายแดงนภาตอนนี้จึงไม่กล้าตักอะไรให้หมอหนุ่มอีกจนสิ้นสุดมื้อเย็นวันนี้หลังจากทุกคนกินข้าวเย็นกันเรียบร้อยแล้วคีรีก็พาลูกกับเมียกลับเรือนเล็กส่วนหมอหนุ่มก็พักอยู่ที่เรื่อนใหญ่“เดี๋ยวพ่ออาบน้ำให้นะครับอคิณ”พอคีรีพาทั้งสองมาถึงบ้านเขาก็รีบที่จะทำหน้าที่สามีโดยการจะช่วยภรรยาอาบน้ำให้ลูกชายแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ทำหน้าที่อาบน้ำให้ลูกในวันนี้เสียแล้วเพราะอคิณเดินหนีเขาหน้าตาเฉยขณะที่จะถอดเสื้อผ้าให้“ให้แม่อาบให้ครับ”อคิณแม้จะคุ้นเคยกั
“พี่ขอเวลาอีกนิดแล้วจะกลับไปกราบขอโทษพวกท่าน”“พ่อกับแม่คงดีใจนะจ๊ะที่รู้ว่ามีหลานแล้ว”หลังจากที่สองสาวคุยกันจนนภาเห็นว่าปิ่นงามเข้าใจทุกอย่างดีแล้วเธอก็อยู่เล่นทำความรู้จักกับอคิณพักใหญ่และอยู่ร่วมโต๊ะอาหารเย็นกับทุกคนแล้วจึงกลับมาบอกข่าวดีกับคีรีว่าปิ่นงามนั้นเข้าใจทุกอย่างดีเพียงแค่ตอนนี้ขอเวลาทำใจที่จะเจอกับคีรีอีกสักหน่อยเท่านั้น“แล้วพี่ต้องรอจนถึงเมื่อไรล่ะภา”คีรีคิดว่านภากลับมาเขาจะได้เจอกับปิ่นงามเลยเสียอีกกลับต้องรอเวลาจึงหัวเสียไม่น้อย“ให้เวลาพี่ปิ่นหน่อยสิพี่คี...ตอนนั้นพี่ก็ทำพี่ปิ่นเสียใจมากแถมพี่กับพี่ปิ่นก็ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีแล้ว”“เฮ้อ..”23.00 น.คีรีรู้ที่อยู่ของปิ่นงามจากที่คุยกับนภาเมื่อช่วงเย็นและตอนนี้เขาก็จอดรถอยู่ที่หน้าบ้านที่ภรรยารักของเขาแล้วชายหนุ่มทนไม่ไหวที่จะรอให้ปิ่นงามพร้อมที่จะคุยกับเขาเพราะไม่รู้ว่าจะนานอีกเท่าไรถึงจะได้เจอหน้ากันเสียที“ฉันคิดถึงเธอแทบบ้า..ใครจะทนรอไหว”คีรีปีนรั้วเดินดุ่มๆพร้อมไฟฉายหนึ่งกระบอกมายืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านแกร๊กกกเขาเดินมาข้างบ้านก่อนจะเริ่มงัดหน้าต่างจนเข้ามาด้านในได้คืนนี้ค่อนข้างเงียบเชียบแม้แต่เสียงลมก็ยังไม
“พี่อยากเจอปิ่นใจจะขาดแล้วภา”“ภารู้...แต่ขอให้ใจเย็นๆเกิดพี่ปิ่นหนีไปอีกจะทำยังไง”นภาคิดถูกแล้วที่เธอไม่รีบบอกคีรีเรื่องที่เจอปิ่นงามตั้งแต่ในห้างไม่อย่างนั้นคงจะกระโตกกระตากจนปิ่นงามอาจจะเตลิดหนีไปอีกแน่ตอนนี้เธอให้พี่ชายเธอรออย่างใจเย็นและจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเองในช่วงเย็นของวันต่อมานภาคะยั้นคะยอให้คีรีรออย่างใจเย็นที่โรงแรมกว่าจะบังคับพี่ชายเธอให้เชื่อฟังได้ก็เหนื่อยที่จะพูดพอสมควรหลังจากที่จัดการกับคีรีได้เธอก็เดินทางมาที่คลินิคของหมาวีในช่วงเย็นเพื่อที่จะคุยอะไรบางอย่างกับหมอชาวีเสียก่อน“คุณนภาอาการที่มีแค่ปวดหัวไม่ได้รุนแรง..”ชาวีดูประวัติคนไข้รายสุดท้ายของวันที่พยาบาลผู้ช่วยยื่นประวัติให้ก่อนที่จะพาคนไข้เข้ามาเขาก็แอบสงสัยพอสมควรเรพาะปกติแล้วคนไข้ที่ปวดหัวส่วนมากแค่หายากินเองนอนพักแล้วก็น่าจะหายไม่ต้องมาหาหมอ“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“อ้าวคุณนั่นเองเชิญนั่งก่อนครับ..ปวดหัวอีกแล้วเหรอครับ”ชาวีเงยหน้ามางมองคนไข้หลังจากที่เธอเอ่ยทักทายเขาก็จำด้ทันทีว่าเป็นหญิงสาวที่เขาเจอในห้างสรรพสินค้าเมื่อวาน“เอ่อ...พอดีฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณหมอน่ะค่ะ”นภาไม่พูดอะไรมากความเธอมาถึงก็ขอคุยกั
สองวันต่อมาคีรีและนภามาที่กรุงเทพตั้งแต่เมื่อวานพอถึงวันนี้พวกเขาก็เข้ามาดูโรงงานแปรรูปที่ชานเมืองกรุงเทพมหานครกันตังแต่เช้าเพื่อที่จะตัดสินใจว่าจะให้บริษัทของผจญไปสร้างโรงงานให้หรือไม่“รูปแบบเครื่องจักรทั้งหมดของที่นี่จะถูกสร้างที่ไร่คีรีรักษ์แบบเดียวกันทั้งหมดครับ...นี่สัญญาเอาไปอ่านรายละเอียดก่อนนะครับ”ผจญนักธุรกิจวัยหลางคนเข้ามาให้การต้อนรับคีรีและนภาด้วยตัวเองหลังจากดูโรงงานกันมาพักใหญ่แล้วผจญก็ยื่นสัญญาปึกใหญ่ให้กับนภาเอาไว้ศึกษาก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการบริษัทของเขาสร้างโรงงานให้“ขอบคุณค่ะคุณผจญ...แล้วจะได้รูปแบบนี้แน่นอนใช่หรือเปล่าคะ...คือภาต้องถามให้แน่ใจค่ะเพราะเราจะได้จำกัดจำนวนการแบ่งขายให้เจ้าอื่นถูก”“แน่นอนครับ...หากไม่ใช่ทางคุณภาสามารถทำเรื่องฟ้องได้เลยครับ”“ได้ยินแบบนี้ภาก็มั่นใจค่ะ”ตอนนี้แม้นจะเดินด้วยกันสามคนแต่คนที่คุยกันมีเพียงแค่นภาและผจญเท่านั้นไม่จนผจญนั้นแอบคิดว่าคีรีไม่พอใจตรงไหนหรือเปล่า“คุณคีรีติดอะไรตรงไหนหรือเปล่าถามผมได้นะครับ”“อ๋อ..ไม่เลยครับทุกอย่างตามนภาหมดเลยครับ”“ครับ”นภาถึงกับยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่ว่าพาพี่เธอมาด้วยยากแล้วให้พี่เธอช่วยกันออ
ช่วงเย็นของวัน..ที่วัดในหมู่บ้านค่อนข้างวุ่นวายเพราะมีคนไปเจอศพของศักดิ์นอนขึ้นอืดอยู่ในป่าตอนนี้ทั้งสรวงและสมศรีเสียใจมากไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำกับศักดิ์สิทธิ์ได้โหดร้ายเช่นนี้“พี่ศักดิ์ใครทำพี่แบบนี้”สรวงนั่งกอดกัยกับคนเป็นแม่ร้องห่มร้องให้ระงมขณะที่คนอื่นๆที่มาช่วยจัดงานศพในศาลาวัดก็หดหู่ไม่แพ้กัน“กูเอง...ฮ่าๆๆ...กูนี่แหละที่ฆ่ามัน...มันเสือกอยากจะบอกกับคนอื่นเองว่ามันเป็นผัวกู”จู่ๆผกาก็เดินหัวฟูเข้ามาในศาลาอย่างคนที่สติไม่สมประดีเธอเปล่าประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอเป็นคนฆ่าศักสิทธิ์เอง“ผกา..เอ็งทำแบบนี้ทำไมห้ะ”สรวงโกรธมากที่ผกานั้นทำพี่ชายตนจนถึงตายและหมายจะเข้าไปทำร้ายหญิงสาวสักฉาดโดยที่ไม่สนใครจะว่าเขาทำร้ายผู้หญิงแต่ดีที่คนในศาลารีบห้ามเอ่าไว้ก่อน“ฮ่าๆๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆๆๆ..”ผกาหัวเราะลั่นทั่วศาลาจนคนในศาลายืนมองหญิงสาวเป็นตาเดียวด้วยต่างก็คิดว่าหญิงสาวสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปแล้ว“ผกาเอ็งเป็นบ้าไปแล้วหรือไง”เทิดศักดิ์มองหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจที่เธอไม่คิดสลดบ้างหรืออย่างไรฆ่าคนตายทั้งคนยังจะมาหัวเราะหน้าระรื่นอยู่อีก“น่าจะบ้าจริงๆนั่นแหละของคงกลับเข้าตัวแล้วสิ”นภาตะโกนให้ทุ
เพล้งงงงเสียงแตกของจานกระเบื้องทำให้หมอหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามาในบ้านหลังจากที่ไม่ได้มาเยี่ยมเยียนที่นี่หลายวันต้องรีบวิ่งเข้ามาในครัวว่ามีอะไรเกิดขึ้น“คุณปิ่นเป็นอะไรครับ”พอเห็นปิ่นงามนั่งฟุบกองอยู่ที่พื้นเขาก็รีบพยุงเธอออกมาจากในครัวมานั่งที่โซฟาในห้องโถงของบ้าน“จู่ๆก็หน้ามืดค่ะ”“อืม.. ผมขอดูอาการหน่อยนะครับ”ชาวีรีบตรวจชีพจรหญิงสาวก่อนจะซักถามความเป็นอยู่ทั่วไปเรื่องอาหารการกินการนอนตรงเวลาหรือไม่พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติและเส้นชีพจรที่เขาจับได้ดูท่าว่าตอนนี้ปิ่นงามน่าจะตั้งครรภ์“คุณปิ่นกำลังตั้งครรภ์นะครับ”“อะไรนะคะ?”ปิ่นงามตัวชาวาบเพราะไม่คิดว่าจะมีพันธะอะไรกับคีรีแล้ว“สามีคุณล่ะครับ”“ปิ่นขอไม่พูดถึงนะคะ...แล้วถ้าคุณหมอจะไล่ปิ่นออกปิ่นก็ไม่ว่าค่ะ”ปิ่นงามรู้ดีว่าไม่มีใครอยากรับคนท้องทำงาน“ไม่หรอกครับ...คุณอยู่ที่นี่ดีแล้วเป็นอะไรผมจะได้ดูแลสะดวก...งานอะไรที่คุณทำไม่ไหวก็ไม่ต้องทำ”“ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะที่ดีกับปิ่นเหลือเกิน”“ไม่เป็นไรเลยครับถือว่าผมช่วยเพื่อนคนนึงแถมอีกหน่อยก็จะมีหลานตัวเล็กๆมาวิ่งเล่นทำให้บ้านนี้มีชีวิตชีวาอีกด้วย”หมอหนุ่มรู้สึกเห็นใจหญิงสาวมากกว่าเดิมเพ
“อ.. อ่ะ.. พี่ศักดิ์”ศักดิ์สิทธิ์โน้มตัวคร่อมร่างอวบอิ่มเขาล้วงมือหนามาที่กลีบกุหลาบงามค่อยๆสอดสองนิ้วแกร่งเข้าร่องสวาทจนสาวเจ้าร้องครางเสียงกระเส่า“คิดถึงข้าเหมือนกันล่ะสิ”ศักดิ์สิทธิ์เห็นว่าผกาไม่มีทีท่าขัดขืนก็ชอบใจและคิดเข้าข้างตัวเองในใจว่าเธอนั้นไม่มีทางลืมลีลารักของเขาได้“อื้มมม...”ชายหนุ่มถลกเสื้อสายเดี่ยวของผกาขึ้นไปกองบนเหนืออกเมื่อสองเต้างามโผล่ประจันหน้าได้เขาก็รีบตะกุมตะกามดูดดึงด้วยความกระหาย“..พี่ศักดิ์..อื้ม..”สองมือเรียวกดไรผมศักดิ์สิทธิ์เล่นก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งผลักศักดิ์สิมธิ์ให้นอนลงเพราะเธอไม่ไหวจะรอให้เขานั้นเล้าโลมแล้วผกาผลักชายหนุ่มจนเขานอนลงได้เธอก็รีบดึงกางเกงของชายหนุ่มจนเจ้าแท่งร้อนใหญ่ยักษ์ปูดเปล่งเด้งผึงมาอยู่ตรงหน้าของเธอ“อ้าสส.. ผกา”ผกาใช้มือเรียวชักรูดสามสี่ทีก่อนจะก้มดูดดึงเสมือนกำลังกินไอติมแสนอร่อยจนศักดิ์สิทธิ์เสียวจนกัดฟันกรอดสบถครางกระเส่าอยู่ในลำคอเมื่อดูดดึงแท่งไอติมรสโปรดจนพอใจแล้วสาวเจ้าก็รีบนั่งคร่อมคนตัวโตจับแท่งร้อนผงาดแข็งสอดเข้าร่องสวาทที่กำลังฉ่ำเยิ้มกดลงจนมิด“อ..อ๊า..”“อื้ม...ผกา..”ศักดิ์สิทธิ์ถึงกับรีบชันแขนนั่งเงยหน้าขึ้
เดือนต่อมาเป็นเดือนกว่าแล้วที่ปิ่นงามไม่ได้อยู่ที่ไร่และไม่มีข่าวคราวว่าจะเจอเธอแม้แต่น้อยส่วนคีรีก็เอาแต่ขลุกอยู่กับผกาไม่ยอมห่างจนพ่อเลี้ยงอินและแม่เลี้ยงดอกแก้วต่างก็ท้อใจไม่คิดว่าลูกจะคิดตัดขาดกับพวกตนเพราะผู้หญิงจริงๆ“เฮ้อ...”นภาที่กำลังเหม่อที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในช่วงบ่ายของวันหญิงสาวนั่งเครียดกับเรื่องครอบครัวตอนนี้เธอสงสารพ่อกับแม่ที่ต้องมาเครียดเพราะเรื่องพี่ชายเธอไหนจะตามหาปิ่นงามไม่เจออีกไม่รู้เลยว่าครอบครัวเธอไปทำเวรทำกรรมเอาไว้ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้“คุณภาจ๊ะ”“มีอะไรเหรอป้าแดง”นภาหลุดออกจากภวังค์หายนั่งเหม่อเมื่อแดงแม่ครัวประจำไร่วัยเกือบห้าสิบก็เข้ามาเรียก“วันนั้นฉันเห็น... “เรื่องที่แดงบอกกับนภาทำให้หญิงสาวได้ข้อกระจ่างแล้วว่าทำไมพี่ชายเธอถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคนกะทันหันเช่นนั้น...ที่แดงต้องมาบอกเพราะคนเขารู้กันทั้งไร่ว่าคีรีตอนนี้หลงผกายังกับอะไรดีประจวบเหมาะกับเธอจำได้ว่าก่อนหน้านั้นผกาก็ไปหาหมอมั่นที่ตำหนักอยู่บ่อยๆเลยกลัวว่าที่คีรีเป็นแบบนี้ก็เพราะผกาจะทำของใส่หญิงสาวคุยกับแดงเรียบร้อยแล้วจึงรีบกลับที่เรือนใหญ่รีบมาบอกกับพ่อและแม่ตนอย่างที่แดงได้เล่าให้ฟัง“แม่ภ
สามวันต่อมา“ทำไมวันนี้ไม่อยู่กับคีรีล่ะลูก..ไม่ใช่ทะเลาะกันหรอกนะลูก”ตองนวลเห็นลูกสาวเธอขลุกอยู่กับเธอที่เรือนใหญ่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่เห็นจะกลับไปหาคีรีที่ท้ายไร่เสียทีคงไม่ใช่ทะเลาะกันอีกหรือเปล่า“ไม่หรอกค่ะ..ปิ่นอยากอยู่กับแม่นี่คะ..อยากนอนกอดแม่กินข้าวฝีมือแม่พรุ่งนี้แม่ก็จะกลับแล้ว”“อ้อนเป็นเด็กๆไปได้นะเรา”ปิ่นงามกอดแม่จนกลมเธออยากกอดแม่เธอนานที่สุดเท่าที่จะนานได้เพราะหลังจากนี้คงอีกนานกว่าจะเจอกันอีกอย่างการที่ได้อยู่ใกล้กับแม่ตนตอนนี้ก็เป็นสิ่งเดียวที่เรียกว่าความสุขเพราะรับรู้อยู่ทุกขณะว่าหากแม่เธอกลับไปแล้วเธอจะต้องพบกับความทุกข์ใจแสนสาหัสเช้าวันต่อมาเมื่ออาทิตย์ยังไม่โผล่เต็มดวงดีแสนคำกับทุกคนที่มาพร้อมกันก็เตรียมตัวกลับหลังจากนั้นก็เป็นเวลาของปิ่นงามที่จะต้องเผชิญความจริงเธอรีบกลับไปที่เรือนเล็กทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคีรีว่าเธอจะปล่อยเขาไปหลังจากที่ปิ่นงามกลับมาถึงเรือนเล็กเธอเอ่ยลาคีรีเขาไม่เคยมีทีท่าที่จะคิดจะรั้งเธอไว้แม้แต่น้อยกลับบอกให้เธอรีบไปแล้วเขานั้นก็รีบไปหาผกาที่บ้านเพราะรู้สึกคิดถึงหญิงสาวร่างอวบอึ๋มใจจะขาด“.ฮึก..ฮือๆๆ..”สาวเจ้านั่งเก็บเสื้อผ้าไปร้องให