“คุณคี..เป็นอะไรคะ”
กลางดึกปิ่นงามตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าคีรีนั้นนอนไม่อยู่สุขเท่าไรแถมเขายังเอาแต่นอนหันหลังให้เธอไม่กอดเธอเหมือนกับทุกคืนที่เคยทำอีกด้วย
“เปล่านอนเถอะ..”
คีรีหันมามองหน้าปิ่นงามครู่หนึ่งก่อนจะรีบหันไปความรู้สึกของเขาตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเองและจิตใจนั้นไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไรนัก
“....”
ปิ่นงามนอนลืมตาอยู่พักใหญ่กว่าจะข่มตาหลบลงได้เพราะเป็นห่วงคีรีอยู่พอสมควรด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มมีอาการแบบนี้มาก่อนอีกอย่างตอนเย็นก็ยังดีๆอยู่เลยอาการ
วันต่อมา
“ไม่กินข้าวเช้าก่อนเหรอคะ”
“ปิ่นงามเห็นคีรีเตรียมตัวออกไปทำงานตั้งแต่ที่เธอยังจัดสำรับกับข้าวไม่เสร็จจึงรีบเรียกสามีเธอเอาไว้ก่อนเพราะเธอต้องการที่จะคุยกับเขาเรื่องความลับที่อยู่ในใจให้มันจบๆไปก่อนที่แสนคำจะมาที่นี่
“ไม่”
“คือปิ่นมีเรื่องต้องคุยกับคุณ”
“ฉันไม่มีเวลา...”
คีรีหันมาตอบปิ่นงามเสียงแข็งทั้งสายตาของเขาก็ยังมองเธอไม่อ่อนโยนเหมือนเดิมก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วจึงทำให้ปิ่นงามสลดอยู่พอสมควรหญิงสาวไม่รู้ว่าคีรีเป็นอะไรจริงๆแต่อาการของเขามันก็ทำให้เธอไม่สบายใจอยู่ไม่น้อย
ตั้งแต่เช้ายันเย็นปิ่นงามไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเพราะยังกังวลกับอาการของคีรีอีกอย่างก็อยากจะพูดความจริงกับเขาใจจะขาดเมื่อตอนกลางวันเธอคิดว่าเขาจะมากินข้าวที่เรือนเล็กเพราะไม่ได้เอาปิ่นโตไปแต่กลับไม่มีวี่แววของเขาว่าจะกลับมาจนตอนนี้ก็จวบเย็นเกือบจะมืดแล้วก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาคีรี
“เย็นป่านนี้แล้วทำไมยังไม่กลับอีกนะ”
ปิ่นงามตัดสินใจเดินออกจากเรือนเล็กปั่นจักรยานไปที่สำนักงานไร่แต่ก็ไม่เห็นคีรีจึงร้อนใจเลยรีบปั่นจักรยานมาที่เรือนใหญ่เพื่อถามหาคีรีกับทุกคนว่าเขานั้นอยู่ที่เรือนใหญ่หรือไม่
“วันนี้ไม่มีใครเห็นพี่คีอยู่ที่ไร่นะจ๊ะภานึกว่าพี่คีอยู่เรือนกับพี่ปิ่นซะอีก”
“นั่นสิแล้วคีรีไม่ได้บอกเราเหรอลูกว่าจะไปไหน”
“เปล่าค่ะแม่”
ปิ่นงามเริ่มหน้าเสียเมื่อไปที่ไหนๆในไร่ก็ไม่เจอคีรีหนำซ้ำยังรับรู้ด้วยอีกว่าวันนี้เขาไมได้เข้าไร่เลยในใจไม่อยากจะคิดในเรื่องไม่ดีแม้นแต่น้อยแต่ก็อดคิดว่าเขาจะไปหาผู้หญิงคนอื่นไม่ได้หากเขาทำแบบนั้นจริงๆเธอคงใจสลายเพราะตอนนี้ยกทั้งตัวและหัวใจให้เขาไปหมดแล้ว
ตอนนี้ทุกคนตัดสินใจมาพร้อมกับปิ่นงามที่บ้านของสรวงเพราะคิดว่าคีรีจะต้องอยู่ที่นี่แน่นอนแต่กลับต้องผิดหวังเพราะสรวงเองก็ไม่รู้เรื่อง
“นายไม่ได้มาที่นี่ครับคุณภา...นี่ก็มืดแล้วทุกคนกลับไปก่อนเถอะครับเดี๋ยวผมไปตามหานายให้เอง”
สรวงเห็นทุกคนกรูกันเต็มหน้าบ้านก็รีบบอกว่าคีรีไม่ได้อยู่ที่นี่เขาหลบสายตาทุกคนเล็กน้อยเพราะรู้สึกผิดในใจทั้งที่รู้ว่านายตนอยู่ที่ไหนแต่บอกไม่ได้ไม่ใช่ว่าอยากช่วยคีรีปิดแต่ไม่อยากให้นายตนมีปัญหาทะเลาะวุ่นวายเท่านั้น
“แล้วคุณคีจะอยู่ที่ไหนล่ะภา”
ปิ่นงามจับมือนภาแน่นเธอแทบจะร้องให้แล้วเพราะฟ้าในตอนนี้นั้นมืดจนมองอะไรไม่เห็นแล้วแต่ยังหาคีรีไม่พบเสียที
“ฉันเห็นนายอยู่บ้านนังผกาตั้งแต่เช้า”
สมศรีหญิงวัยกลางคนเดินออกมาจากในครัวบอกกับทุกคนว่าเธอนั้นเห็นคีรีและรู้ว่าอยู่บ้านผกาตั้งแต่เช้า
“แม่..”
สรวงหันมาเอ็ดสมศรีแม่ของตนเขาอุตส่าห์พยายามพูดให้ไม่เกิดเรื่องเกิดราวแล้วแท้ๆ
“อะไรนะ”
นภาขมวดคิ้วจนผูกโบว์ปิ่นงามในตอนนี้พูดอะไรไม่ออกได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างแทนความเสียใจ
“ไอ้สรวงเอ็งไปลากคีรีกลับมาให้ได้ไม่งั้นนายเอ็งจะไม่ได้กลับไร่อีก”
“ครับพ่อเลี้ยง”
หลังจากพ่อเลี้ยงอินสั่งสรวงเรียบร้อยแล้วทุกคนก็พากันขึ้นรถกลับในตอนนี้ปิ่นงามเอาแต่นั่งเหม่อร้องให้ทุกคนก็ทำได้เพียงอยู่ข้างๆเพื่อปลอบใจปิ่นงามเท่านั้นเพราะรู้ว่าพูดอะไรไปคงไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
หลังจากที่ทุกคนมาถึงเรือนใหญ่ได้ไม่นานนักสรวงก็พาคีรีมาส่งที่บ้านพร้อมคนงานอีกสามสี่คนเพราะหากไม่ใช้วิธีอุ้มกันกลับมาคีรีก็คงไม่กลับมาง่ายๆแน่นอน
คีรีมาถึงบ้านได้ทุกคนต่างก็ปล่อยให้สองสามีภรรยาพูดคุยกันเองด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องของคนสองคนจะเข้าไปก้าวก่ายอะไรมากไม่ได้
“ใครสัญญากับปิ่นว่าจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นไง”
ปิ่นงามเอ่ยถามคีรีที่นั่งหน้าหงิกหน้างอตรงหน้าเธอทั้งน้ำตาที่กลางเรือนใหญ่หลังจากที่ทุกคนเข้าห้องกันไปหมดแล้ว
“อย่าพูดมากน่ารำคาญ”
คีรีตวาดปิ่นงามจนร่างบางสะดุ้งเฮือกตอนนี้เขาไม่เหลือความเมตตารักใคร่ปิ่นงามในใจแม้แต่น้อยเพราะในใจตอนนี้โหยหาแต่ผกาอยากจะกลับไปหาหญิงสาวใจจะขาดแต่ก็ทำไม่ได้เพราะพ่อของเขาสั่งให้พวกของสรวงเฝ้าอยู่ที่หน้าเรือนไม่ให้เขาออกไปหาผกาได้
“เป็นอะไรของคุณ”
ปิ่นงามปาดน้ำตาลวกๆในใจตอนนี้ปวดหนึบเอ่ยถามสามีเสียอ่อนปนสะอื้นอยากรู้นักว่าวันเวลาที่เขาทำดีกับเธอมันคือเรื่องหลอกลวงอย่างนั้นหรือ
“ฉันอยากอยู่กับผกาไม่ใช่เธอ”
“คุณคีรี”
คำพูดของคีรีแม้จะดูแผ่วเบาไม่ชัดถ้อยชัดคำเท่าไรนักแต่มันเป็นเหมือนมีดแหลมคมที่ทิ่งแทงหัวใจของหญิงสาวจนเป็นแผลลึกเธอร้องให้จนตัวโยนแต่คีรีก็ไม่ได้สนใจเอาแต่นั่งหันหลังให้หญิงสาวเพราะไม่ได้อยากจะมองหน้าเธอแม้นแต่น้อย
“พี่นะพี่คี...นึกว่าจะเลิกทำนิสัยแบบนี้แล้วซะอีก”
“..ฮือๆๆ...”
คืนนี้ทั้งคืนปิ่นงามเอาแต่นอนร้องให้ในห้องของนภาจะให้เธอข่มตาหลับลงคงทำไม่ได้เพราะเดาไม่ออกเลยว่าก่อนหน้าที่เขาทำดีกับเธอนั้นเป็นเพราะเขาเสแสร้งแกล้งให้เธอตายใจแล้วมาทำร้ายเธอหรือไม่
ช่วงเช้าของวันต่อมาแสนคำและคำปันกับตองนวลก็เดินทางมาถึงไร่คีรีรักษ์พอดีตอนนี้ปิ่นงามรับหน้าที่ดูแลคนจากไร่แสนคำส่วนพ่อเลี้ยงอินก็รีบลากตัวลูกชายตัวดีออกมาต้อนรับแขกที่พึ่งมาเยือน“ต้อนรับกันเองไม่ได้หรือยังไง”“สงบปากของเอ็งไว้บ้างเห็นแก่หน้าข้าหน่อย”พ่อเลี้ยงอินเริ่มเสียงแข็งมองหน้าลูกชายตนไม่พอใจเรื่องเมื่อวานยังไม่ได้สะสางกันตัวต่อตัววันนี้หากคีรีทำให้เขาเสียหน้าอีกคงได้ตัดพ่อตัดลูกกันจริงๆแน่“แม่ปรางค์ไปไหนซะล่ะทำไมเราอยู่คนเดียวล่ะแม่ปิ่น”เมื่อเห็นทุกคนมานั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วแต่แสนคำชายวัยชราเจ้าของไร่แสนคำก็รีบถามหาหลานสาวอย่างปรางค์ทิพย์ทันทีคำพูดของแสนคำทำเอานภาและคีรีต่างก็มีสีหน้าสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนส่วนพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงของไร่ไม่ได้แปลกใจนักด้วยรู้เรื่องราวว่าปิ่นงามเป็นลูกของตองนวลตั้งแต่วันแต่งงานแล้ววันนั้นปิ่นงามสารภาพกับผู้ใหญ่ทั้งสองจนหมดเพราะไม่อยากปิดบัง...ส่วนอินและดอกแก้วเข้าใจทุกอย่างและยินดีที่จะรับลูกของตองนวลเป็นสะใภ้เพราะตองนวลก็เป็นเพื่อนรักของพวกเขา“คือ...ปิ่นอยู่ที่นี่คนเดียวค่ะคุณปู่”ปิ่นงามนั่งก้มหน้างุดและแล้วเธอก็ไม่ได้บอก
สามวันต่อมา“ทำไมวันนี้ไม่อยู่กับคีรีล่ะลูก..ไม่ใช่ทะเลาะกันหรอกนะลูก”ตองนวลเห็นลูกสาวเธอขลุกอยู่กับเธอที่เรือนใหญ่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่เห็นจะกลับไปหาคีรีที่ท้ายไร่เสียทีคงไม่ใช่ทะเลาะกันอีกหรือเปล่า“ไม่หรอกค่ะ..ปิ่นอยากอยู่กับแม่นี่คะ..อยากนอนกอดแม่กินข้าวฝีมือแม่พรุ่งนี้แม่ก็จะกลับแล้ว”“อ้อนเป็นเด็กๆไปได้นะเรา”ปิ่นงามกอดแม่จนกลมเธออยากกอดแม่เธอนานที่สุดเท่าที่จะนานได้เพราะหลังจากนี้คงอีกนานกว่าจะเจอกันอีกอย่างการที่ได้อยู่ใกล้กับแม่ตนตอนนี้ก็เป็นสิ่งเดียวที่เรียกว่าความสุขเพราะรับรู้อยู่ทุกขณะว่าหากแม่เธอกลับไปแล้วเธอจะต้องพบกับความทุกข์ใจแสนสาหัสเช้าวันต่อมาเมื่ออาทิตย์ยังไม่โผล่เต็มดวงดีแสนคำกับทุกคนที่มาพร้อมกันก็เตรียมตัวกลับหลังจากนั้นก็เป็นเวลาของปิ่นงามที่จะต้องเผชิญความจริงเธอรีบกลับไปที่เรือนเล็กทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคีรีว่าเธอจะปล่อยเขาไปหลังจากที่ปิ่นงามกลับมาถึงเรือนเล็กเธอเอ่ยลาคีรีเขาไม่เคยมีทีท่าที่จะคิดจะรั้งเธอไว้แม้แต่น้อยกลับบอกให้เธอรีบไปแล้วเขานั้นก็รีบไปหาผกาที่บ้านเพราะรู้สึกคิดถึงหญิงสาวร่างอวบอึ๋มใจจะขาด“.ฮึก..ฮือๆๆ..”สาวเจ้านั่งเก็บเสื้อผ้าไปร้องให
เดือนต่อมาเป็นเดือนกว่าแล้วที่ปิ่นงามไม่ได้อยู่ที่ไร่และไม่มีข่าวคราวว่าจะเจอเธอแม้แต่น้อยส่วนคีรีก็เอาแต่ขลุกอยู่กับผกาไม่ยอมห่างจนพ่อเลี้ยงอินและแม่เลี้ยงดอกแก้วต่างก็ท้อใจไม่คิดว่าลูกจะคิดตัดขาดกับพวกตนเพราะผู้หญิงจริงๆ“เฮ้อ...”นภาที่กำลังเหม่อที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในช่วงบ่ายของวันหญิงสาวนั่งเครียดกับเรื่องครอบครัวตอนนี้เธอสงสารพ่อกับแม่ที่ต้องมาเครียดเพราะเรื่องพี่ชายเธอไหนจะตามหาปิ่นงามไม่เจออีกไม่รู้เลยว่าครอบครัวเธอไปทำเวรทำกรรมเอาไว้ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้“คุณภาจ๊ะ”“มีอะไรเหรอป้าแดง”นภาหลุดออกจากภวังค์หายนั่งเหม่อเมื่อแดงแม่ครัวประจำไร่วัยเกือบห้าสิบก็เข้ามาเรียก“วันนั้นฉันเห็น... “เรื่องที่แดงบอกกับนภาทำให้หญิงสาวได้ข้อกระจ่างแล้วว่าทำไมพี่ชายเธอถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคนกะทันหันเช่นนั้น...ที่แดงต้องมาบอกเพราะคนเขารู้กันทั้งไร่ว่าคีรีตอนนี้หลงผกายังกับอะไรดีประจวบเหมาะกับเธอจำได้ว่าก่อนหน้านั้นผกาก็ไปหาหมอมั่นที่ตำหนักอยู่บ่อยๆเลยกลัวว่าที่คีรีเป็นแบบนี้ก็เพราะผกาจะทำของใส่หญิงสาวคุยกับแดงเรียบร้อยแล้วจึงรีบกลับที่เรือนใหญ่รีบมาบอกกับพ่อและแม่ตนอย่างที่แดงได้เล่าให้ฟัง“แม่ภ
“อ.. อ่ะ.. พี่ศักดิ์”ศักดิ์สิทธิ์โน้มตัวคร่อมร่างอวบอิ่มเขาล้วงมือหนามาที่กลีบกุหลาบงามค่อยๆสอดสองนิ้วแกร่งเข้าร่องสวาทจนสาวเจ้าร้องครางเสียงกระเส่า“คิดถึงข้าเหมือนกันล่ะสิ”ศักดิ์สิทธิ์เห็นว่าผกาไม่มีทีท่าขัดขืนก็ชอบใจและคิดเข้าข้างตัวเองในใจว่าเธอนั้นไม่มีทางลืมลีลารักของเขาได้“อื้มมม...”ชายหนุ่มถลกเสื้อสายเดี่ยวของผกาขึ้นไปกองบนเหนืออกเมื่อสองเต้างามโผล่ประจันหน้าได้เขาก็รีบตะกุมตะกามดูดดึงด้วยความกระหาย“..พี่ศักดิ์..อื้ม..”สองมือเรียวกดไรผมศักดิ์สิทธิ์เล่นก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งผลักศักดิ์สิมธิ์ให้นอนลงเพราะเธอไม่ไหวจะรอให้เขานั้นเล้าโลมแล้วผกาผลักชายหนุ่มจนเขานอนลงได้เธอก็รีบดึงกางเกงของชายหนุ่มจนเจ้าแท่งร้อนใหญ่ยักษ์ปูดเปล่งเด้งผึงมาอยู่ตรงหน้าของเธอ“อ้าสส.. ผกา”ผกาใช้มือเรียวชักรูดสามสี่ทีก่อนจะก้มดูดดึงเสมือนกำลังกินไอติมแสนอร่อยจนศักดิ์สิทธิ์เสียวจนกัดฟันกรอดสบถครางกระเส่าอยู่ในลำคอเมื่อดูดดึงแท่งไอติมรสโปรดจนพอใจแล้วสาวเจ้าก็รีบนั่งคร่อมคนตัวโตจับแท่งร้อนผงาดแข็งสอดเข้าร่องสวาทที่กำลังฉ่ำเยิ้มกดลงจนมิด“อ..อ๊า..”“อื้ม...ผกา..”ศักดิ์สิทธิ์ถึงกับรีบชันแขนนั่งเงยหน้าขึ้
เพล้งงงงเสียงแตกของจานกระเบื้องทำให้หมอหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามาในบ้านหลังจากที่ไม่ได้มาเยี่ยมเยียนที่นี่หลายวันต้องรีบวิ่งเข้ามาในครัวว่ามีอะไรเกิดขึ้น“คุณปิ่นเป็นอะไรครับ”พอเห็นปิ่นงามนั่งฟุบกองอยู่ที่พื้นเขาก็รีบพยุงเธอออกมาจากในครัวมานั่งที่โซฟาในห้องโถงของบ้าน“จู่ๆก็หน้ามืดค่ะ”“อืม.. ผมขอดูอาการหน่อยนะครับ”ชาวีรีบตรวจชีพจรหญิงสาวก่อนจะซักถามความเป็นอยู่ทั่วไปเรื่องอาหารการกินการนอนตรงเวลาหรือไม่พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติและเส้นชีพจรที่เขาจับได้ดูท่าว่าตอนนี้ปิ่นงามน่าจะตั้งครรภ์“คุณปิ่นกำลังตั้งครรภ์นะครับ”“อะไรนะคะ?”ปิ่นงามตัวชาวาบเพราะไม่คิดว่าจะมีพันธะอะไรกับคีรีแล้ว“สามีคุณล่ะครับ”“ปิ่นขอไม่พูดถึงนะคะ...แล้วถ้าคุณหมอจะไล่ปิ่นออกปิ่นก็ไม่ว่าค่ะ”ปิ่นงามรู้ดีว่าไม่มีใครอยากรับคนท้องทำงาน“ไม่หรอกครับ...คุณอยู่ที่นี่ดีแล้วเป็นอะไรผมจะได้ดูแลสะดวก...งานอะไรที่คุณทำไม่ไหวก็ไม่ต้องทำ”“ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะที่ดีกับปิ่นเหลือเกิน”“ไม่เป็นไรเลยครับถือว่าผมช่วยเพื่อนคนนึงแถมอีกหน่อยก็จะมีหลานตัวเล็กๆมาวิ่งเล่นทำให้บ้านนี้มีชีวิตชีวาอีกด้วย”หมอหนุ่มรู้สึกเห็นใจหญิงสาวมากกว่าเดิมเพ
ช่วงเย็นของวัน..ที่วัดในหมู่บ้านค่อนข้างวุ่นวายเพราะมีคนไปเจอศพของศักดิ์นอนขึ้นอืดอยู่ในป่าตอนนี้ทั้งสรวงและสมศรีเสียใจมากไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำกับศักดิ์สิทธิ์ได้โหดร้ายเช่นนี้“พี่ศักดิ์ใครทำพี่แบบนี้”สรวงนั่งกอดกัยกับคนเป็นแม่ร้องห่มร้องให้ระงมขณะที่คนอื่นๆที่มาช่วยจัดงานศพในศาลาวัดก็หดหู่ไม่แพ้กัน“กูเอง...ฮ่าๆๆ...กูนี่แหละที่ฆ่ามัน...มันเสือกอยากจะบอกกับคนอื่นเองว่ามันเป็นผัวกู”จู่ๆผกาก็เดินหัวฟูเข้ามาในศาลาอย่างคนที่สติไม่สมประดีเธอเปล่าประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอเป็นคนฆ่าศักสิทธิ์เอง“ผกา..เอ็งทำแบบนี้ทำไมห้ะ”สรวงโกรธมากที่ผกานั้นทำพี่ชายตนจนถึงตายและหมายจะเข้าไปทำร้ายหญิงสาวสักฉาดโดยที่ไม่สนใครจะว่าเขาทำร้ายผู้หญิงแต่ดีที่คนในศาลารีบห้ามเอ่าไว้ก่อน“ฮ่าๆๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆๆๆ..”ผกาหัวเราะลั่นทั่วศาลาจนคนในศาลายืนมองหญิงสาวเป็นตาเดียวด้วยต่างก็คิดว่าหญิงสาวสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปแล้ว“ผกาเอ็งเป็นบ้าไปแล้วหรือไง”เทิดศักดิ์มองหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจที่เธอไม่คิดสลดบ้างหรืออย่างไรฆ่าคนตายทั้งคนยังจะมาหัวเราะหน้าระรื่นอยู่อีก“น่าจะบ้าจริงๆนั่นแหละของคงกลับเข้าตัวแล้วสิ”นภาตะโกนให้ทุ
สองวันต่อมาคีรีและนภามาที่กรุงเทพตั้งแต่เมื่อวานพอถึงวันนี้พวกเขาก็เข้ามาดูโรงงานแปรรูปที่ชานเมืองกรุงเทพมหานครกันตังแต่เช้าเพื่อที่จะตัดสินใจว่าจะให้บริษัทของผจญไปสร้างโรงงานให้หรือไม่“รูปแบบเครื่องจักรทั้งหมดของที่นี่จะถูกสร้างที่ไร่คีรีรักษ์แบบเดียวกันทั้งหมดครับ...นี่สัญญาเอาไปอ่านรายละเอียดก่อนนะครับ”ผจญนักธุรกิจวัยหลางคนเข้ามาให้การต้อนรับคีรีและนภาด้วยตัวเองหลังจากดูโรงงานกันมาพักใหญ่แล้วผจญก็ยื่นสัญญาปึกใหญ่ให้กับนภาเอาไว้ศึกษาก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการบริษัทของเขาสร้างโรงงานให้“ขอบคุณค่ะคุณผจญ...แล้วจะได้รูปแบบนี้แน่นอนใช่หรือเปล่าคะ...คือภาต้องถามให้แน่ใจค่ะเพราะเราจะได้จำกัดจำนวนการแบ่งขายให้เจ้าอื่นถูก”“แน่นอนครับ...หากไม่ใช่ทางคุณภาสามารถทำเรื่องฟ้องได้เลยครับ”“ได้ยินแบบนี้ภาก็มั่นใจค่ะ”ตอนนี้แม้นจะเดินด้วยกันสามคนแต่คนที่คุยกันมีเพียงแค่นภาและผจญเท่านั้นไม่จนผจญนั้นแอบคิดว่าคีรีไม่พอใจตรงไหนหรือเปล่า“คุณคีรีติดอะไรตรงไหนหรือเปล่าถามผมได้นะครับ”“อ๋อ..ไม่เลยครับทุกอย่างตามนภาหมดเลยครับ”“ครับ”นภาถึงกับยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่ว่าพาพี่เธอมาด้วยยากแล้วให้พี่เธอช่วยกันออ
“พี่อยากเจอปิ่นใจจะขาดแล้วภา”“ภารู้...แต่ขอให้ใจเย็นๆเกิดพี่ปิ่นหนีไปอีกจะทำยังไง”นภาคิดถูกแล้วที่เธอไม่รีบบอกคีรีเรื่องที่เจอปิ่นงามตั้งแต่ในห้างไม่อย่างนั้นคงจะกระโตกกระตากจนปิ่นงามอาจจะเตลิดหนีไปอีกแน่ตอนนี้เธอให้พี่ชายเธอรออย่างใจเย็นและจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเองในช่วงเย็นของวันต่อมานภาคะยั้นคะยอให้คีรีรออย่างใจเย็นที่โรงแรมกว่าจะบังคับพี่ชายเธอให้เชื่อฟังได้ก็เหนื่อยที่จะพูดพอสมควรหลังจากที่จัดการกับคีรีได้เธอก็เดินทางมาที่คลินิคของหมาวีในช่วงเย็นเพื่อที่จะคุยอะไรบางอย่างกับหมอชาวีเสียก่อน“คุณนภาอาการที่มีแค่ปวดหัวไม่ได้รุนแรง..”ชาวีดูประวัติคนไข้รายสุดท้ายของวันที่พยาบาลผู้ช่วยยื่นประวัติให้ก่อนที่จะพาคนไข้เข้ามาเขาก็แอบสงสัยพอสมควรเรพาะปกติแล้วคนไข้ที่ปวดหัวส่วนมากแค่หายากินเองนอนพักแล้วก็น่าจะหายไม่ต้องมาหาหมอ“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“อ้าวคุณนั่นเองเชิญนั่งก่อนครับ..ปวดหัวอีกแล้วเหรอครับ”ชาวีเงยหน้ามางมองคนไข้หลังจากที่เธอเอ่ยทักทายเขาก็จำด้ทันทีว่าเป็นหญิงสาวที่เขาเจอในห้างสรรพสินค้าเมื่อวาน“เอ่อ...พอดีฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณหมอน่ะค่ะ”นภาไม่พูดอะไรมากความเธอมาถึงก็ขอคุยกั