“เหงาหรือเปล่าไม่มีเจ้าดินมาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว”
คีรีนอนกอดก่ายร่างบางขณะที่มากางมุ้งนอนดูดาวยามค่ำคืนกันที่ชานเรือน
“นิดหน่อยแต่ปิ่นดีใจมากกว่าค่ะที่ดินได้อยู่กับพ่อและก็แม่อีกอย่างจะได้ไม่ลำบากอีกต่อไปแล้ว”
“อืม.. เธออยากมีเด็กเล็กๆมาอยู่ด้วยตลอดหรือเปล่า”
“มีก็ดีค่ะ...ว่าแต่เด็กที่ไร่เหรอคะ?”
ดวงตาปิ่นงามเบิกโพรงอย่างสนอกสนใจคำพูดของคีรีหากเธอได้เด็กเล็กลูกของคนงานที่ไร่มาเลี้ยงช่วงกลางวันก็คงไม่เหงา
“ฉันจะทำให้เธอไง”
“เอ่อ...คุณอยากมีลูกกับปิ่นอย่างนั้นเหรอคะ”
ปิ่นงามหลบสายตาคีรีเล็กน้อยพวงแก้มนวลตอนนี้เริ่มแดงระเรื่องเพราะเคอะเขินกับคำพูดของเขา
“อืม...”
ฟอดด
คนตัวโตรวบกระชับกอดร่างบางแน่นกดหอมภรรยาตนฟอดใหญ่เขาไม่ได้พูดเล่นเขาคิดจะมีลูกกับเธอจริงๆเพราะคิดว่าหญิงสาวน่าจะเป็นแม่ของลูกที่ดีได้เพราะมีนิสัยเป็นคนอ่อนโยนรักเด็ก
“แล้วกับผู้หญิงคนอื่นล่ะคะคุณอยากมีลูกกับพวกเธอหรือเปล่า”
ปิ่นงามถามคีรีให้มั่นใจหากเขาอยากมีลูกกับเธอแล้วผู้หญิงคนอื่นเขาอยากมีด้วยหรือไม่เพราะเธอไม่อยากให้ลูกเกิดมาแล้วได้ชื่อว่าเป็นลูกเมียหลวงเมียน้อย
“ไม่ฉันไม่เคยคิดจะมีลูกกับใครจนมาเจอเธอ”
เสียงแหบพร่าเอ่ยกระซิบข้างใบหน้านวลจนหญิงสาวรู้สึกขนลุกขนชัน
“คุณคี..”
“ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้ฉันจะไม่ข้องแวะกับผู้หญิงคนไหนอีก”
มือหนารวบมือเรียวมาเกี่ยวก้อยสัญญา
“คุณพูดจริงเหรอคะ”
ปิ่นงามน้ำตารื้นที่วันนี้เธอก็ได้รับคำสัญญาแบบนี้เสียทีใจจริงไม่ได้หวังให้คนเจ้าชู้อย่างเขามารักเธอเพียงคนเดียวแต่หากเขาจะเลิกนิสัยแบบนั้นได้ก็เป็นเรื่องดีเธอจะได้ไม่กังวลใจหากจะมีลูกกันขึ้นมา
“อืม..ฉันไม่ได้ยุ่งกับใครตั้งแต่แต่งกับเธอแล้วมีแค่เธอที่ผลักไสไล่ส่งฉันให้ไปหาผู้หญิงอื่น”
“ฉันคิดว่านั่นคือความสุขคุณไงคะ”
“ความสุขฉันอยู่ตรงนี้และจะอยู่ตลอดไป”
คีรีพลิกตัวคร่มร่างบางเอาไว้หลวมๆค่อยๆยื่นใบหน้าคมซุกไซร้ตามลำคอระหงส์แต่แล้วก็ถูกหญิงสาวนั้นรีบผลักให้เขาผละใบหน้าออกเล็กน้อย
“ต..ตรงนี้เหรอคะ”
“อืม..ที่นี่ไม่มีใครมาตอนนี้ไม่ต้องกลัว”
“อื้มม..”
ริมฝีปากบางถูกกอบกุมบดจูบดูดดึงด้วยความกระหายนับวันๆคีรียิ่งหลงปิ่นงามมากขึ้นทุกวันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเขาไม่ต้องเข้าไร่ดังนั้นวันนี้เขาจึงไม่ต้องยั้งมือเท่าไรนักจะทำให้หญิงสาวสุขจนจุกอกเท่าที่เคยสุขมาเลย
“อ..เอ่อ..ไม่ค่ะ”
ปิ่นงามรีบชันตัวขึ้นขณะที่คีรีถอดซับในใต้ผ้าถุงของเธอออกและเลื่อนตัวเข้ามาหมายจะซุกใบหน้าตรงกึ่งกลางลำตัวของเธอ
“ฉันอยากทำให้เธอมีความสุขอย่าขัดฉันเลย”
คีรีดันร่างบางให้นอนลงอย่างเบามือเขากระซิบเสียงเบาไม่ให้หญิงสาวนั้นขัดสิ่งที่เขาจะทำเพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาจะลงมือมันจะทำให้เธอมีความสุข
“อืม..”
ปิ่นงามใจเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาจากอกเมื่อคีรีค่อยๆถกผ้าถุงของเธอมาถึงโคนขาอ่อนและแยกขาเรียวของเธอออกจากกันเธอรีบกลับตาปี๋เพราะไม่กล้ามองขณะที่เขาจับจ้องสายตาตรงของสงวนเธอใกล้ๆแม้นจะผ่านบทสวาทกันมาหลายคืนแล้วแต่เธอก็ไม่ชินที่เขาจะมาจ้องอะไรๆของเธอแบบนี้อยู่ดี
“อืม..”
ชายหนุ่มไม่รีรอเขาเริ่มจัดการตวัดลิ้นร้ายลงบนกลีบกุหลาบงามไล่มายังร่องสวาทที่ปิดมิดชิดปกคลุมด้วยขนรำไรเล็กน้อย
“อ..อ้ะ..อืม”
ร่างบางบิดเกร็งตาปรือครางเสียงเล็กเสียงน้อยเมื่อปลายลิ้นร้ายตวัดที่เนินกลีบกุหลาบงามมาจนถึงร่องสวาท
ปลายลิ้นตวัดครั้งแล้วครั้งเล่าจนร่างบางอยู่ไม่สุขมือไม้ปัดป่ายจิกผ้าห่มร้องครางกระเส่าเธอรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว
“อะ..อ๊า..”
หญิงสาวเริ่มร้องเสียงดังขึ้นเมื่อคนที่กำลังก้มหัวอยู่ข้างล่างนั้นเริ่มใช้ริมฝีปากดูดน้ำหวานที่กำลังไหลเยิ้มอย่างมูมมามแม้นครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกได้รับการเล้าโลมเช่นนี้แต่ยอมรับว่าเธอนั้นรู้สึกดีไม่น้อย
“อืม..หวานไปทั้งตัวเลย”
คีรีบดจูบกลีบกุหลาบงามจนพอใจแล้วจึงรีบถอดเสื้อผ้าของเขาและหญิงสาวออกเขาเริ่มไล่จูบพรมที่หน้าท้องแบนราบและมาบรรจบอยู่ที่สองเต้างามเขาดุดดึงมูมมามจนเจ้าของเรือนร่างบิดเร่าด้วยความเสียวกระสัน
พลั้กก
“อืม..อ้ะ..”
คีรีขยับลำขาแกร่งเข้าแทรกขาเรียวเพื่อสอดใส่ตัวตนที่กำลังผงาดชูชันเข้าช่องทางรักที่ฉ่ำเยิ้มเขากดสะโพกสอดใส่หัวเห็ดที่กำลังปูดโปนหนักๆจนสุดตัวก่อนจะขย่มร่างบางด้วยอารมณ์สวาทที่กำลังประทุแรง
“อื้ม..อ๊า..”
สาวเจ้านอนตัวโยนครางไม่ได้ศัพท์เมื่อสามีตัวโตโหมกระหน่ำกระแทกสะโพกหนักหน่วงถี่ระรัวทุกช่วงไม่ยอมผ่อน
“อืม..”
ชายหนุ่มกดหอมดูดดึงซุกไซร้ลำคอระหงส์จนผิวเนียนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำไล่ลงมาจนถึงเนินอกตูมมือหนาทั้งสองขยำขยี้เต้างามทั้งสองจนแดงเถือกสลับกับดูดดึงยอดเต้างามละเลงลิ้นเล่นเรียกอารมณ์สวาทให้ภรรยาตัวน้อย
คราแรกทั้งสองว่าจะนอนดูดาวแต่ตอนนี้ดูท่าเหล่าดวงดาวจะเป็นฝ่ยที่ดูทั้งสองแสดงความรักต่อกันที่ชานเรือนมากกว่า
“เธอต้องช่วยฉันทำลูกนะปิ่น”
“ยังไงคะ”
เสียงหวานเอ่ยถามสามีที่กำลังขย่มบนตัวเธอแหบพร่าติดขัด
“แบบนี้ไง...ขยับสิ”
ว่าจบก็รวบอุ้มร่างบางมาไว้ในอ้อมกอดให้เธอมานั่งอยู่บนตักของเขา
“แต่..”
“ลองหน่อยนะ”
คีรีจับแขนเรียวทั้งสองของปิ่นงามให้คล้องคอของเขาเอาไว้ก่อนที่จะให้มือหนาทั้งสองของตัวเองบีบหมับอยู่ที่สะโพกมนจับให้เธอหัดขยับขึ้นลง
“อืม..”ปิ่นงามฟุบใบหน้าลงกับบ่าแกร่งขณะที่คนเป็นสามีกำลังดึงสะโพกเธอให้เข้าออกเป็นจังหวะและไม่นานนักเธอก็เริ่มขยับเองได้แต่เป็นจังหวะที่ค่อนข้างนุ่มนวล“อย่างนั้นแหละ...อืม..น่ารักที่สุดเลย”คีรีกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอขณะที่ภรรยาตัวน้อยเริ่มควบคุมเกมส์เองเป็นใบหน้าหวานที่ตาปรือเม้มปากแน่นครางเสียงอ่อนของเธอยิ่งเร้าอารมณ์ให้เขาได้เป็นอย่างดี“อืม..อื้ออ..อะ..อ๊ายยย”“อึก..อ่าส..”จากที่นั่งคุมเกมส์อยู่พักใหญ่ปิ่นงามก็เริ่มบิดเร่ากอดคนเป็นสามีตัวเกร็งด้วยแตะขอบสวรรค์ไปเรียบร้อยเสียงหวานร้องโหยหวนพร้อมกับเสียงคำรามในลำคอของคีรีเพราะชายหนุ่มก็เสียวจนแทบปริแตกเมื่อร่องสวาทของหญิงสาวตอดรัดตัวตนของเขาถี่ยิบ“อืม..”คีรีวางร่างบางให้นอนลงแล้วเริ่มขย่มบนตัวเธออีกครั้งเนิ่นนานเท่าไรนับเวลาไม่ได้กว่าจะได้ปล่อยให้ภรรยาตัวเล็กได้เป็นอิสระก็ได้ยินเสียงไก่ขันเสียแล้วหลายวันต่อมาคีรีทำได้อย่างที่สัญญากับปิ่นงามจริงๆเขาตัดขาดความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เขาเคยเกี้ยวพาราสีโดยเด็ดขาดชายหนุ่มพยายามทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีและรอคอยวันที่ปิ่นงามจะตั้งท้องคีรีเปลี่ยนเป็นคนละคนจากคนที่เคยเจ้าชู้ชอบสังสรรค์กล
“คุณคี..เป็นอะไรคะ”กลางดึกปิ่นงามตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าคีรีนั้นนอนไม่อยู่สุขเท่าไรแถมเขายังเอาแต่นอนหันหลังให้เธอไม่กอดเธอเหมือนกับทุกคืนที่เคยทำอีกด้วย“เปล่านอนเถอะ..”คีรีหันมามองหน้าปิ่นงามครู่หนึ่งก่อนจะรีบหันไปความรู้สึกของเขาตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเองและจิตใจนั้นไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไรนัก“....”ปิ่นงามนอนลืมตาอยู่พักใหญ่กว่าจะข่มตาหลบลงได้เพราะเป็นห่วงคีรีอยู่พอสมควรด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มมีอาการแบบนี้มาก่อนอีกอย่างตอนเย็นก็ยังดีๆอยู่เลยอาการวันต่อมา“ไม่กินข้าวเช้าก่อนเหรอคะ”“ปิ่นงามเห็นคีรีเตรียมตัวออกไปทำงานตั้งแต่ที่เธอยังจัดสำรับกับข้าวไม่เสร็จจึงรีบเรียกสามีเธอเอาไว้ก่อนเพราะเธอต้องการที่จะคุยกับเขาเรื่องความลับที่อยู่ในใจให้มันจบๆไปก่อนที่แสนคำจะมาที่นี่“ไม่”“คือปิ่นมีเรื่องต้องคุยกับคุณ”“ฉันไม่มีเวลา...”คีรีหันมาตอบปิ่นงามเสียงแข็งทั้งสายตาของเขาก็ยังมองเธอไม่อ่อนโยนเหมือนเดิมก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วจึงทำให้ปิ่นงามสลดอยู่พอสมควรหญิงสาวไม่รู้ว่าคีรีเป็นอะไรจริงๆแต่อาการของเขามันก็ทำให้เธอไม่สบายใจอยู่ไม่น้อยตั้งแต่เช้ายันเย็นปิ่นงามไม
ช่วงเช้าของวันต่อมาแสนคำและคำปันกับตองนวลก็เดินทางมาถึงไร่คีรีรักษ์พอดีตอนนี้ปิ่นงามรับหน้าที่ดูแลคนจากไร่แสนคำส่วนพ่อเลี้ยงอินก็รีบลากตัวลูกชายตัวดีออกมาต้อนรับแขกที่พึ่งมาเยือน“ต้อนรับกันเองไม่ได้หรือยังไง”“สงบปากของเอ็งไว้บ้างเห็นแก่หน้าข้าหน่อย”พ่อเลี้ยงอินเริ่มเสียงแข็งมองหน้าลูกชายตนไม่พอใจเรื่องเมื่อวานยังไม่ได้สะสางกันตัวต่อตัววันนี้หากคีรีทำให้เขาเสียหน้าอีกคงได้ตัดพ่อตัดลูกกันจริงๆแน่“แม่ปรางค์ไปไหนซะล่ะทำไมเราอยู่คนเดียวล่ะแม่ปิ่น”เมื่อเห็นทุกคนมานั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วแต่แสนคำชายวัยชราเจ้าของไร่แสนคำก็รีบถามหาหลานสาวอย่างปรางค์ทิพย์ทันทีคำพูดของแสนคำทำเอานภาและคีรีต่างก็มีสีหน้าสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนส่วนพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงของไร่ไม่ได้แปลกใจนักด้วยรู้เรื่องราวว่าปิ่นงามเป็นลูกของตองนวลตั้งแต่วันแต่งงานแล้ววันนั้นปิ่นงามสารภาพกับผู้ใหญ่ทั้งสองจนหมดเพราะไม่อยากปิดบัง...ส่วนอินและดอกแก้วเข้าใจทุกอย่างและยินดีที่จะรับลูกของตองนวลเป็นสะใภ้เพราะตองนวลก็เป็นเพื่อนรักของพวกเขา“คือ...ปิ่นอยู่ที่นี่คนเดียวค่ะคุณปู่”ปิ่นงามนั่งก้มหน้างุดและแล้วเธอก็ไม่ได้บอก
สามวันต่อมา“ทำไมวันนี้ไม่อยู่กับคีรีล่ะลูก..ไม่ใช่ทะเลาะกันหรอกนะลูก”ตองนวลเห็นลูกสาวเธอขลุกอยู่กับเธอที่เรือนใหญ่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่เห็นจะกลับไปหาคีรีที่ท้ายไร่เสียทีคงไม่ใช่ทะเลาะกันอีกหรือเปล่า“ไม่หรอกค่ะ..ปิ่นอยากอยู่กับแม่นี่คะ..อยากนอนกอดแม่กินข้าวฝีมือแม่พรุ่งนี้แม่ก็จะกลับแล้ว”“อ้อนเป็นเด็กๆไปได้นะเรา”ปิ่นงามกอดแม่จนกลมเธออยากกอดแม่เธอนานที่สุดเท่าที่จะนานได้เพราะหลังจากนี้คงอีกนานกว่าจะเจอกันอีกอย่างการที่ได้อยู่ใกล้กับแม่ตนตอนนี้ก็เป็นสิ่งเดียวที่เรียกว่าความสุขเพราะรับรู้อยู่ทุกขณะว่าหากแม่เธอกลับไปแล้วเธอจะต้องพบกับความทุกข์ใจแสนสาหัสเช้าวันต่อมาเมื่ออาทิตย์ยังไม่โผล่เต็มดวงดีแสนคำกับทุกคนที่มาพร้อมกันก็เตรียมตัวกลับหลังจากนั้นก็เป็นเวลาของปิ่นงามที่จะต้องเผชิญความจริงเธอรีบกลับไปที่เรือนเล็กทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคีรีว่าเธอจะปล่อยเขาไปหลังจากที่ปิ่นงามกลับมาถึงเรือนเล็กเธอเอ่ยลาคีรีเขาไม่เคยมีทีท่าที่จะคิดจะรั้งเธอไว้แม้แต่น้อยกลับบอกให้เธอรีบไปแล้วเขานั้นก็รีบไปหาผกาที่บ้านเพราะรู้สึกคิดถึงหญิงสาวร่างอวบอึ๋มใจจะขาด“.ฮึก..ฮือๆๆ..”สาวเจ้านั่งเก็บเสื้อผ้าไปร้องให
เดือนต่อมาเป็นเดือนกว่าแล้วที่ปิ่นงามไม่ได้อยู่ที่ไร่และไม่มีข่าวคราวว่าจะเจอเธอแม้แต่น้อยส่วนคีรีก็เอาแต่ขลุกอยู่กับผกาไม่ยอมห่างจนพ่อเลี้ยงอินและแม่เลี้ยงดอกแก้วต่างก็ท้อใจไม่คิดว่าลูกจะคิดตัดขาดกับพวกตนเพราะผู้หญิงจริงๆ“เฮ้อ...”นภาที่กำลังเหม่อที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในช่วงบ่ายของวันหญิงสาวนั่งเครียดกับเรื่องครอบครัวตอนนี้เธอสงสารพ่อกับแม่ที่ต้องมาเครียดเพราะเรื่องพี่ชายเธอไหนจะตามหาปิ่นงามไม่เจออีกไม่รู้เลยว่าครอบครัวเธอไปทำเวรทำกรรมเอาไว้ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้“คุณภาจ๊ะ”“มีอะไรเหรอป้าแดง”นภาหลุดออกจากภวังค์หายนั่งเหม่อเมื่อแดงแม่ครัวประจำไร่วัยเกือบห้าสิบก็เข้ามาเรียก“วันนั้นฉันเห็น... “เรื่องที่แดงบอกกับนภาทำให้หญิงสาวได้ข้อกระจ่างแล้วว่าทำไมพี่ชายเธอถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคนกะทันหันเช่นนั้น...ที่แดงต้องมาบอกเพราะคนเขารู้กันทั้งไร่ว่าคีรีตอนนี้หลงผกายังกับอะไรดีประจวบเหมาะกับเธอจำได้ว่าก่อนหน้านั้นผกาก็ไปหาหมอมั่นที่ตำหนักอยู่บ่อยๆเลยกลัวว่าที่คีรีเป็นแบบนี้ก็เพราะผกาจะทำของใส่หญิงสาวคุยกับแดงเรียบร้อยแล้วจึงรีบกลับที่เรือนใหญ่รีบมาบอกกับพ่อและแม่ตนอย่างที่แดงได้เล่าให้ฟัง“แม่ภ
“อ.. อ่ะ.. พี่ศักดิ์”ศักดิ์สิทธิ์โน้มตัวคร่อมร่างอวบอิ่มเขาล้วงมือหนามาที่กลีบกุหลาบงามค่อยๆสอดสองนิ้วแกร่งเข้าร่องสวาทจนสาวเจ้าร้องครางเสียงกระเส่า“คิดถึงข้าเหมือนกันล่ะสิ”ศักดิ์สิทธิ์เห็นว่าผกาไม่มีทีท่าขัดขืนก็ชอบใจและคิดเข้าข้างตัวเองในใจว่าเธอนั้นไม่มีทางลืมลีลารักของเขาได้“อื้มมม...”ชายหนุ่มถลกเสื้อสายเดี่ยวของผกาขึ้นไปกองบนเหนืออกเมื่อสองเต้างามโผล่ประจันหน้าได้เขาก็รีบตะกุมตะกามดูดดึงด้วยความกระหาย“..พี่ศักดิ์..อื้ม..”สองมือเรียวกดไรผมศักดิ์สิทธิ์เล่นก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งผลักศักดิ์สิมธิ์ให้นอนลงเพราะเธอไม่ไหวจะรอให้เขานั้นเล้าโลมแล้วผกาผลักชายหนุ่มจนเขานอนลงได้เธอก็รีบดึงกางเกงของชายหนุ่มจนเจ้าแท่งร้อนใหญ่ยักษ์ปูดเปล่งเด้งผึงมาอยู่ตรงหน้าของเธอ“อ้าสส.. ผกา”ผกาใช้มือเรียวชักรูดสามสี่ทีก่อนจะก้มดูดดึงเสมือนกำลังกินไอติมแสนอร่อยจนศักดิ์สิทธิ์เสียวจนกัดฟันกรอดสบถครางกระเส่าอยู่ในลำคอเมื่อดูดดึงแท่งไอติมรสโปรดจนพอใจแล้วสาวเจ้าก็รีบนั่งคร่อมคนตัวโตจับแท่งร้อนผงาดแข็งสอดเข้าร่องสวาทที่กำลังฉ่ำเยิ้มกดลงจนมิด“อ..อ๊า..”“อื้ม...ผกา..”ศักดิ์สิทธิ์ถึงกับรีบชันแขนนั่งเงยหน้าขึ้
เพล้งงงงเสียงแตกของจานกระเบื้องทำให้หมอหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามาในบ้านหลังจากที่ไม่ได้มาเยี่ยมเยียนที่นี่หลายวันต้องรีบวิ่งเข้ามาในครัวว่ามีอะไรเกิดขึ้น“คุณปิ่นเป็นอะไรครับ”พอเห็นปิ่นงามนั่งฟุบกองอยู่ที่พื้นเขาก็รีบพยุงเธอออกมาจากในครัวมานั่งที่โซฟาในห้องโถงของบ้าน“จู่ๆก็หน้ามืดค่ะ”“อืม.. ผมขอดูอาการหน่อยนะครับ”ชาวีรีบตรวจชีพจรหญิงสาวก่อนจะซักถามความเป็นอยู่ทั่วไปเรื่องอาหารการกินการนอนตรงเวลาหรือไม่พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติและเส้นชีพจรที่เขาจับได้ดูท่าว่าตอนนี้ปิ่นงามน่าจะตั้งครรภ์“คุณปิ่นกำลังตั้งครรภ์นะครับ”“อะไรนะคะ?”ปิ่นงามตัวชาวาบเพราะไม่คิดว่าจะมีพันธะอะไรกับคีรีแล้ว“สามีคุณล่ะครับ”“ปิ่นขอไม่พูดถึงนะคะ...แล้วถ้าคุณหมอจะไล่ปิ่นออกปิ่นก็ไม่ว่าค่ะ”ปิ่นงามรู้ดีว่าไม่มีใครอยากรับคนท้องทำงาน“ไม่หรอกครับ...คุณอยู่ที่นี่ดีแล้วเป็นอะไรผมจะได้ดูแลสะดวก...งานอะไรที่คุณทำไม่ไหวก็ไม่ต้องทำ”“ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะที่ดีกับปิ่นเหลือเกิน”“ไม่เป็นไรเลยครับถือว่าผมช่วยเพื่อนคนนึงแถมอีกหน่อยก็จะมีหลานตัวเล็กๆมาวิ่งเล่นทำให้บ้านนี้มีชีวิตชีวาอีกด้วย”หมอหนุ่มรู้สึกเห็นใจหญิงสาวมากกว่าเดิมเพ
ช่วงเย็นของวัน..ที่วัดในหมู่บ้านค่อนข้างวุ่นวายเพราะมีคนไปเจอศพของศักดิ์นอนขึ้นอืดอยู่ในป่าตอนนี้ทั้งสรวงและสมศรีเสียใจมากไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำกับศักดิ์สิทธิ์ได้โหดร้ายเช่นนี้“พี่ศักดิ์ใครทำพี่แบบนี้”สรวงนั่งกอดกัยกับคนเป็นแม่ร้องห่มร้องให้ระงมขณะที่คนอื่นๆที่มาช่วยจัดงานศพในศาลาวัดก็หดหู่ไม่แพ้กัน“กูเอง...ฮ่าๆๆ...กูนี่แหละที่ฆ่ามัน...มันเสือกอยากจะบอกกับคนอื่นเองว่ามันเป็นผัวกู”จู่ๆผกาก็เดินหัวฟูเข้ามาในศาลาอย่างคนที่สติไม่สมประดีเธอเปล่าประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอเป็นคนฆ่าศักสิทธิ์เอง“ผกา..เอ็งทำแบบนี้ทำไมห้ะ”สรวงโกรธมากที่ผกานั้นทำพี่ชายตนจนถึงตายและหมายจะเข้าไปทำร้ายหญิงสาวสักฉาดโดยที่ไม่สนใครจะว่าเขาทำร้ายผู้หญิงแต่ดีที่คนในศาลารีบห้ามเอ่าไว้ก่อน“ฮ่าๆๆๆๆ...ฮ่าๆๆๆๆๆ..”ผกาหัวเราะลั่นทั่วศาลาจนคนในศาลายืนมองหญิงสาวเป็นตาเดียวด้วยต่างก็คิดว่าหญิงสาวสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปแล้ว“ผกาเอ็งเป็นบ้าไปแล้วหรือไง”เทิดศักดิ์มองหน้าหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจที่เธอไม่คิดสลดบ้างหรืออย่างไรฆ่าคนตายทั้งคนยังจะมาหัวเราะหน้าระรื่นอยู่อีก“น่าจะบ้าจริงๆนั่นแหละของคงกลับเข้าตัวแล้วสิ”นภาตะโกนให้ทุ