"ท่านบาทหลวงเอสวา วันนี้ท่านจะพาข้าลงนรกหรือว่าจะพาข้าขึ้นสวรรค์กันล่ะคะ?"
Lihat lebih banyak“แล้วก็ยังมีเรื่องของพิธีสาบานตนเพื่อรับใช้นายท่านของเหล่า4ตระกูลใหญ่ นายท่านต้องการให้จัดพิธีนั้นในวันงานเลี้ยงต้อนรับด้วยเลยไหมครับ หรือว่าจะจัดขึ้นแยกกัน”เอสวาหลุบตาลงเพื่อมองดูโรแอนด์ที่กำลังครอบครองส่วนนั้นของเขาเอาไว้ในปาก เธอดูน่ารักเสมอในสายตาของเขา..“เรื่องนั้นเอาตามที่สะดวกเถิด ข้าแค่ต้องการให้จัดพิธี..อะ..อึ่ก..”เธอรู้สึกมันเขี้ยวเขามากทีเดียวที่เขากล้าพูดคุยงานในขณะที่เรากำลังทำเรื่องเช่นนั้น เพราะแบบนั้นโรแอนด์จึงจงใจดูดดึงส่วนปลายนั้นแรงๆ พร้อมกับใช้ฟันหยอกล้อกับแท่งร้อนที่อยู่ในโพรงปากเบาๆ“เป็นอะไรรึเปล่าครับนายท่าน..”อาเดนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเขาเห็นสีหน้าที่ดูคล้ายว่ากำลังเจ็บปวดของนายท่านเอสวาก้มหน้าลง เขาหลับตาก่อนจะที่มุมปากจะยกสูงขึ้น“ไม่มีอะไร ข้าอยากให้เจ้าจัดงานพิธีสาบานตนก่อน ข้าต้องการให้ทั้ง4ตระกูลกล่าวคำปฏิญาณว่าจะรับใช้ข้าและว่าที่ราชินีของข้าพร้อมๆ กัน”อาเดนพยักหน้าพร้อมกับจดรายละเอียดเรื่องงานที่เขากำลังพูดคุยกับนายท่านลงในสมุดเล่มเล็กที่พกติดตัวมาโรแอนด์แลบลิ้นออกมาเลียหยดหยาดที่ซึมออกมาจากปลายยอด ขณะที่ใช้ริมฝีปากเพื่อครอบครอง ปลายนิ้วก
“....การเข่นฆ่ามนุษย์นั้นง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ ในความคิดเห็นของข้านั้น ข้าไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องขยายอาณาเขตของเมืองปีศาจเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนปีศาจที่แฝงอยู่กับหมู่มนุษย์ก็ต้องป้องกันตัวเองให้ดี ส่วนใหญ่ปีศาจที่ยังคงอยู่ที่นั่นก็คือพวกซักคิวบัสหรือว่าอินคิวบัสที่ต้องจะกินจิตวิญญาณของมนุษย์..”เอสวาคิดว่าเขาไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นั่งมองอยู่ที่นี่เขาคาดว่าเขาน่าจะได้เห็นราชวงศ์ที่ล่มจมและประชาชนที่ทนไม่ไหวจนต้องก่อกบฏรัชทายาทโง่เขลาเช่นนั้นไม่คู่ควรให้เขาต้องมือเองด้วยซ้ำ“ครับนายท่าน จะมีการจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับการกลับมาของนายท่านด้วย อีกทั้งสี่ตระกูลใหญ่ก็กำลังรอคอยที่จะปฏิญาณตนเพื่อรับใช้นายท่านด้วย”เอสวามองหน้าของลุคคา“ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม โรแอนด์คือราชินีของข้า สิ่งนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เข้าใจรึเปล่า”ลุคคาก้มหน้าลงเพื่อตอบคำคำสั่งของนายท่าน ที่เมืองปีศาจแห่งนี้ประกอบไปด้วยสี่ตระกูลใหญ่ๆ ที่ต้องเป็นมือเป็นเท้ารับใช้ราชาปีศาจ และหนึ่งในนั้นคือตระกูลราชสีห์ ที่มีสัญญาหมั้นหมายกันมานานหลายร้อยปี ตัวเขาเป็นเพียงข้ารับใช้ตัวเล็กๆ เรื่องเช่นนี้เขาไม่คอยสอดมือเข้าไปย
เหมือนพายุกำลังพัดหมุนวนเวียนอยู่ในร่างกาย สัมผัสที่เอสวาส่งมอบให้มันช่างแสนหวานจับใจมากเกินกว่าที่เธอจะทำใจยอมรับไหว แน่นอนว่าเขานั้นหลงเสน่ห์อย่างมากในยามที่เขากำลังขยับเขยื้อนร่างกายของเขาอยู่บนตัวของฉันฝ่ามือนั้นลูบไล้ไปตามเนินอกที่นูนขึ้น เขาออกแรงที่ฝ่ามือเพื่อบีบเคล้นมันอย่างถึงใจ ดวงตาคู่นั้นจับจ้องมองเธอไม่วางสายตา เม็ดเหงื่อผุดพราวระยับบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของเขา นั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองถูกมนต์สะกด จนหัวใจร่ำร้องถึงความไม่ยุติธรรม เธอหลงใหลเขาถึงเพียงนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเอสวาจะรู้สึกเช่นไรกับเธอบ้าง ตัวของเขาจะหลงใหลเธอบ้างรึเปล่านะ เขาจะรักเธอเหมือนอย่างที่เธอรักเขา จะเทิดทูนและบูชาเธอเหมือนกับที่หัวใจของเธอรู้สึกบ้างรึเปล่า?“เอสวา..ท่านรักข้าบ้างรึเปล่า?”เอสวาเลิกคิ้วขึ้นเลิกน้อย เรียวขาทั้งสองข้างของเธอกำลังพาดอยู่บนบ่าของเขาและนั่นทำให้เอสวาพรมจูบลงไปบนเท้าที่เปลือยเปล่าของโรแอนด์“มากกว่านั้นโรแอนด์มากกว่าคำว่ารัก..ข้ามอบให้เจ้าทั้งหมด..ทั้งลมหายใจ ชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่าง หากสายตาที่กำลังเป็นกังวลของเจ้ามองมาที่ข้า ข้าพูดได้เต็มปากเลยว่าเจ้านำเอาเวลาที่แส
“หิวก็กินสิโรแอนด์..” หลังจากกล่าวจบเอสวาก็นั่งลงบนเตียง เขากางขาออกเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาตรงมุมปาก และนั่นทำให้โรแอนด์เข้าใจได้ในทันทีว่าเอสวาต้องการอะไร เธอนั่งลงบนพื้นก่อนจะเริ่มถอดกางเกงของเขาออกมา ดวงตากลมโตช้อนขึ้นเพื่อมองใบหน้าของเอสวาราวกับเธอต้องการคำยืนยันจากสายตาของเขา.. “โรแอนด์..ที่นี่มีแค่เราเท่านั้น ทำอย่างที่อยากทำก็พอ” ยังไม่ทันได้ทำอะไร ส่วนนั้นของเขาก็อยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อมต่อการสู้รบแล้ว แน่นอนว่าเธอเคยเห็นส่วนนั้นของเขามานับครั้งไม่ถ้วน ที่แตกต่างออกไปคงเป็นเพราะว่าเธอมองเห็นส่วนนั้นของเขาในระยะประชิดมากกว่าทุกครั้ง ถึงแม้ไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อนแต่โรแอนด์เองก็มั่นใจว่าเธอจะสามารถทำมันได้ดีตั้งแต่ครั้งแรก เธอกดจูบลงอย่างนุ่มนวลที่ส่วนปลายสีลูกพีช ลิ้นค่อยๆ ลากไล้ผ่านช้าๆ ตามลำแท่งและเส้นเลือดที่ปูดโปนขึ้นมา ทำให้เขารู้สึกถึงความปรารถนาที่กำลังพุ่งสูงขึ้น “อืม..โรแอนด์..สาบานได้เลยว่านี่มันดีจนข้าอยากให้เจ้าหิวบ่อยๆ เลยล่ะ” ลมหายใจที่อุ่นร้อนของเธอเป่ารดลงบนส่วนนั้นพร้อมกับปลายลิ้นที่ลากไล้ผ่านไปมา มันทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้องเลย ร่างกายยิ่ง
อ้อมกอดของเอสวายังคงหนักแน่นและอบอุ่นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา มือเขาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเธออย่างแผ่วเบา เธอกอดเขาเอาไว้แน่นราวกับต้องการส่งผ่านความรู้สึกในใจนี้ไปให้เขาเอสวาค่อยๆ เล่าเรื่องของเขาให้โรแอนด์ฟังอย่างช้าๆ เล่าตั้งแต่ตอนที่เขาพยายามจะตายเพราะชีวิตมันสิ้นหวังไปหมด เล่าให้เธอฟังทุกสิ่งอย่างโดยไม่คิดปิดบังเธอเริ่มกอดเขาแน่นขึ้นเมื่อได้ฟังถึงเรื่องราวความเจ็บปวดของเขา ในความฝันแรกของเอสวาเธอจำได้ดีว่าตัวเองมองเห็นเขาในวัยเด็กเป็นเช่นไร มันทั้งน่าสงสารและน่าเห็นใจมากแค่ไหน เธอรู้ว่าเขาภาวนาถึงพระเจ้าอย่างแรงกล้าเพื่อให้มีใครสักคนมาพาเขาออกไปจากวังวนที่แสนโหดร้ายในชีวิตนั้นของเขา“ทุกอย่าง..มันผ่านไปแล้วนะเอสวา เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นมานั้นมันผ่านไปแล้วเพราะฉะนั้น..อะไรที่เมื่อคิดถึงแล้วเจ็บปวดท่านควรจะปล่อยวางมัน..”โรแอนด์กล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาจับเข้าที่ใบหน้าของเขา ในยามนี้เราอยู่ดินแดนปีศาจ เธอเคยคิดว่าที่นี่คือปรโลกแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น ที่นี่มืดครึ้มและดูแล้วหดหู่ใจไม่น้อยแต่ทว่าเมื่อได้ลองออกออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างจริงๆ ทุกชีวิตล้วนแล้วแต่น่าสงสาร ไม่เว้น
ฉันวิ่งไปข้างหน้าเท่าที่เท้าทั้งสองข้างของตัวเองจะมีแรง วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ แขนทั้งสองข้างกางออก แม้ว่ายังไม่แน่ใจว่านั่นใช่เอสวาหรือไม่ ทว่าความหวังเพียงริบหรี่พวกนั้นก็สามารถต่อเติมความรู้สึกในใจของฉันได้อย่างน้อยที่สุด หากเป็นเขาฉันก็พร้อมจะทิ้งทุกอย่างที่มีเพื่อโอบกอดเขาเอาไว้เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเท้าทั้งสองข้างก็ลอยขึ้นจากพื้นเสียแล้ว ฉันคิดว่าตัวเองวิ่งไวแล้วแต่ทว่าอีกฝ่ายกับไวกว่า เขาเดินเข้ามาหาพร้อมกับช้อนตัวของฉันขึ้นไปสู่อ้อมกอดที่แสนปลอดภัยของเขาอีกครั้งหนึ่ง ต่อให้ในยามนี้ดวงตาทั้งสองข้างนี้ของฉันมันมืดบอดแต่ทว่าฉันก็แน่ใจว่าชายเบื้องหน้าคือเอสวาไม่ผิดแน่ ไม่มีอ้อมกอดของใครที่จะอบอุ่นได้เท่ากับอ้อมแขนของเขาอีกแล้ว“เอสวา..”มือของเขาลูบผมของโรแอนด์อย่างเบามือ เขาคือเอสวาไม่ผิดแน่ ใบหน้านั้นคือเอสวาอย่างแน่นอนและถึงแม้ว่าบรรยากาศรอบๆ ข้างของเอสวาจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนแต่เขาก็คือเอสวา คนรักของฉันดวงตาของเอสวาเหลือบมองเท้าที่เปลือยเปล่าของโรแอนด์ ฝ่ามือที่กำลังโอบกอดเขาอยู่มีเลือดไหลซึมออกมา ในขณะที่ลำคอของเธอนั้นมีรอยแดงราวกับถูกเหล็กบาด และเมื่อเขามองไ
“ต้องทานอาหารบ้างนะคะ การอดอาหาร นานๆ เช่นนี้จะทำให้ร่างกายของท่านเป็นอันตราย..”สาวใช้พยายามพดคุยกับโรแอนด์แต่ไม่ว่านางจะกล่าวคำใดออกมา สตรีงดงามผู้นั้นก็ยังคงนั่งกอดเข่าอยุ่บนเตียงเช่นเดิม ไม่ดื่มน้ำหรือว่าแตะต้องอาหาร ทำได้เพียงการนั่งมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างราวกับว่ากำลังรอคอยอะไรสักอย่าง หากมิใช่ว่าองค์รัชทายาททรงรับสั่งให้นางดูแลสตรีผู้นี้เป็นอย่างดีแล้วละก็ นางเองก็คงจะเดินหนีออกไปแล้วไม่สนใจไยดีสตรีที่แม้แต่ร่างกายของตัวเองยังไม่สนใจลีออนเดินเข้ามาในห้องพักข้างๆ ห้องนอนของเขา เขานั่งลงบนเตียงก่อนจะส่งสายตาให้สาวใช้เดินออกไปให้หมด เขายกมือขึ้นมาโอบกอดโรแอนด์เอาไว้ในอ้อมแขน ราวกับว่ากำลังปลอบโยนเธอจากฝันร้าย“วันนี้ก็ไม่แตะต้องอาหารอีกแล้วอย่างนั้นหรือ เจ้าไม่หิวแน่หรือ? หรือว่าเจ้าต้องการที่จะกลืนกินพลังชีวิตของข้า เช่นนั้นก็ทำสิโรแอนด์ เจ้าต้องการสิ่งใดข้ายินดีจะมอบให้เจ้าทั้งนั้นเลย เจ้าเอ่ยปากออกมาแล้วร้องขอมันกับข้า..”เขาไม่ได้โกหกที่ว่าเขาส่งมอบให้เธอได้ทุกอย่าง ลีออนให้โรแอนด์ได้ทุกอย่างจริงๆ เขาคิดว่าเธอน่าจะเป็นซักคิวบัส แต่ทว่าทำไมเธอถึงไม่คิดกินฝันของเขาเลยล่ะ หรื
เฟอน่าเหลือบมองมีดที่วางเอาไว้ข้างๆ เมื่อมองเห็นใบหน้าที่ราวกับกำลังปลอบประโลมความโศกเศร้าของเอสวา ที่มุมปากเฟอน่าก็ถูกกดลึกเป็นรอยยิ้ม เธอรู้ดีว่าเอสวาต้องการให้เธอทำอะไร และเธอเองก็ต้องการที่จะทำสิ่งนั้นอยู่พอดีเลย“โรแอนด์โชคดีที่มีท่านรักนาง..ข้าฝากดูแลหัวใจที่สั่นไหวของนางด้วยนะคะ"เอสวามิได้ตอบคำถามนั้น เขาเพียงส่งยิ้มให้เฟอน่าและท่านคาดินันก่อนที่ร่างกายของเขาจะจางหายไปราวกับกลุ่มควันขอให้ท่านเจ็บปวดปางตายอย่างที่ข้ารู้สึกนะครับท่านคาดินัน..ท่านทำให้ข้าเชื่อใจและหลอกใช้ข้าอย่างแนบเนียน ถึงจะน่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นใบหน้าในยามที่ท่านแตกสลายแต่ข้าจะถือซะว่านี่คือความปรานีอย่างถึงที่สุดของข้าก็แล้วกันจงมอดไหม้ลงไปพร้อมกับเลือดแดงฉานที่อาบท่วมไปทั่วมือและร่างกายของท่านเถิดครับ โศกเศร้าจนหยาดน้ำตาหลั่งไหลลงมาเป็นสายเลือด..จงมีชีวิตต่อไปด้วยความร้สึกผิดและเจ็บปวด..เฟอน่ายื่นมือไปจับมีดเล่มนั้นมาถือครองเอาไว้ เธอแย้มยิ้มออกมาราวกับว่ามีดเล่มนี้คือสิ่งที่เธอต้องการและตามหามาทั้งชีวิต“เฟอน่า..เจ้ารู้อยู่แก่ใจที่รักว่าข้าจะไม่ตายภายใต้คมมีดนั้นอย่างแน่นอน”เฟอน่าแค่นหัวเราะออกมาด้วยคว
มาลิคแทบจะอ้าปากค้างในทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างมากยิ่งกว่าทุกครั้งในชีวิต เขาตกใจจนแทบสิ้นสติและถามตัวเองว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นเขามีดวงตาที่สามารถมองเห็นร่างที่แท้จริงได้และเขามั่นใจมาก ว่าบุรุษที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าของเขานั้นมันคือท่านเอสวาไม่ผิดแน่ แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือพลังทั้งหมดของท่านเอสวา ไม่มีพลังสีทองอย่างที่เขาเคยเห็น พลังในยามนี้คือพลังสีดำสนิทที่ทั้งชวนให้อึดอัดและสัมผัสได้ถึงความอันตรายมาลิคมองเห็นเขาบนศีรษะและ..ปีกขนาดใหญ่ที่กลางแผ่นหลัง มันเหมือนกับรูปลักษณ์ของซาตานมากกว่าที่จะเป็นมนุษย์“ฮะ..ฮ่า ข้าคิดเอาไว้แล้วเชียว”เอียนหัวเราะเสียงดังพร้อมกับชี้นิ้วไปที่บาทหลวงเอสวา“ข้าคิดเอาไว้ว่าพวกท่านคนใดคนหนึ่งจะต้องเก็บโรแอนด์เอาไว้กินเอง เอ๊ะ..หรือว่าไม่ใช่แค่คนเดียวแค่พวกท่านผลัดกัน..อะ..เฮือก!!”กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งทะลุหน้าอกของเอียนไปอย่างรวดเร็ว และที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือบนอกของเขาบริเวณที่ถูกกลุ่มควันพวกนั้นพุ่งผ่านมันเกิดเป็นรูโบ๋ราวกับถูกของมีคมคว้าน..เลีอดสีแดงไหลออกมาพร้อมๆ กับเศษเนื้อที่ร่วงหล่น“อะ..อ้าก!! ช่วยด้วย!!เจ้าทำอะไรกับข้ากัน ช่วยข้าสิมาลิค อ้าก!”
กว่าจะรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดไป ก็คือวันที่สายเกินกว่าจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้วฉันทำได้เพียงมองร่างของตัวเองที่กำลังถูกหมอปั๊มหัวใจครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเรียกคืนลมหายใจที่หายไปกลับคืนมา แต่ทว่าหมอท่านนั้นถึงแม้ว่าจะทำสุดความสามารถแต่พวกเขาก็ไม่อาจฟื้นคืนชีพให้กับคนตายได้..ฉันตาย..แม่งเอ๊ย!! ถ้ารู้ว่าตัวเองจะมาตายง่ายๆ แบบนี้ฉันคงจะใช้ชีวิตที่อยากใช้ไปแล้ว เพราะเติบโตขึ้นมาในสถานสงเคราะห์ เมื่อโตขึ้นมาฉันถึงได้พยายามหาเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ตัวเองได้กลับไปในสถานที่เช่นนั้นอีกฉันตั้งใจเรียนและตั้งใจทำงานอย่างบ้าคลั่งเพื่อวิ่งหนีความจนที่ตามติดเป็นเงา ฉันตั้งใจว่าจะทำงานเพื่อเก็บเงินซื้อบ้านสักหลังที่เป็นของตัวเอง จะได้ทำงานน้อยลงเผื่ออายุมากขึ้นจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตครอบครัวและมีความรักกับเขาดูบ้างแต่ฉันดันตายก่อน..ตายโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองเลย“เจ้ามนุษย์ที่แสนโง่เขลาเอ๋ย ข้ามีชีวิตที่ยาวนานนับนิรันดรแต่กลับไม่เคยเห็นใครมีชีวิตที่จืดชืดและไร้สีสันเช่นเจ้ามาก่อนเลย”พอกะพริบตาอีกครั้งจากที่เมื่อครู่ฉันยืนอยู่ในโรงพยาบาลแต่ทว่าในยามนี้ฉันกลับกำลังยืนอยู่ในสถานที่ที่ว...
Komen