จางรอต้นจนใกล้จะถึงเวลา ที่ต้องเข้าไปข้างในสนามบิน เขาหมดหวังแล้วที่ต้นจะมาหาเขา จางจึงพยายามทำใจก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งหลันหลันก็สังเกตเห็นจางดูซึมลง แต่เธอก็ไม่แคร์ขอแค่จางกลับไปด้วยกันเป็นพอ
"รอแฟนใหม่อยู่เหรอ เขาไม่มาหรอกอย่าหวังเลย"หลันหลันยิ้มเยาะ
"ผมไม่ได้รอ และก็ไม่ได้หวังหรอกว่าต้นจะมา"จางมีสีหน้าที่ซึมลงกว่าเก่าอีก
"คิดได้ก็ดี ได้เวลาแล้วไปกัน"หลันหลันลุกขึ้นยืน และแอบชำเลืองมองจาง
"ฮือ"จางรับคำ และเขาก็ยังไม่อยากกลับอันเจียอยากอยู่ที่เชียงใหม่ต่อ แต่ในเมื่อต้นไม่สนใจเขา จางจำใจต้องจากไป
พอรถมอเตอร์ไซค์จอด ต้นลงจากรถยืนนิ่งครุ่นคิด สักพักคิมโยอันก็ลงตาม ต่อจากนั้นก็เก็บหมวกกันน็อคทั้งสองใบไว้ที่หน้ารถ
"เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวไม่ทันจาง"คิมพูดอย่างจริงใจ และหวังว่าทั้งสองจะปรับความเข้าใจกัน
"คือ ต้น เอ่อ"ต้นอ้ำอึ่ง
"ไปเหอะอย่าเสียเวลาเลย ทำตามใจที่เราต้องการ"
ต้นยืนคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปหาจางี่ย เพราะอย่างน้อยจางก็ยังบอกเขาเมื่อจะกลับอันเจีย ถ้าเกิดจางยังจะกลับอันเจียหลังจากเจอเขา ต้นก็พร้อมที่จะปล่อยจางจากไปเช่นกัน
ต้นและคิมเดินมาอย่างรวดเร็ว และหยุดวนรอบตัวเองมองหาจางอยู่หลายรอบ ต้นสอดส่ายสายตาวนมาวนไปไม่ให้คลาดแต่ก็ยังไม่เจอ เนื่องด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาหลากเชื้อชาติที่คละเคล้า ปะปนกันในสนามบิน ต้นเริ่มมีสายตาที่พล่ามัวแต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ หาต่อจนคลับคล้ายคลับคลาเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่กำลังจะเดินเข้าไปข้างใน ต้นไม่แน่ใจว่าจะใช่จางหรือเปล่า ต้นจึงตัดสินใจตะโกนสุดเสียง
"จาง"ต้นยืนรอยู่ที่เดิม โดยมีคิมยืนอยู่ข้างหลังห่างกันพอประมาณ ต้นใจระทึกเต้นรัวไม่เป็นจังหวะในหัวใจดวงน้อยของเขา
ต้นลุ้นทุกวินาทีที่ชายหนุ่มผู้นั้นค่อยๆหันหลังกลับมา ซึ่งก็แน่ใจว่าใช่จาง จึงต้องเผื่อใจไว้เพราะจังหวะนี้เขาเริ่มตาลาย เพียงจางหันมาแค่ด้านข้าง ต้นก็แน่ใจได้ว่าเป็นจาง
จางเจี่่ยได้หันหลังมาเต็มตัว ได้พบเห็นต้นที่ยืนเรียกเขาอยู่ จางดีใจปนแปลกใจ ไม่อยากกจะเชื่อสายตา นั่นคือต้นแฟนหนุ่มของเขา จางยืนนิ่งด้วยความตกใจ ในขณะเดียวกันหลันหลันก็หันมามองด้วย เธอจำได้ทันที่นั่นคือแฟนใหม่ของต้น ถึงแม้จะเจอกันเพียงสองครั้ง แต่อยู่คุยกันนานพอสมควร เธอจึงต้องรีบแก้ไขสถานการณ์นี้ให้ได้
"ไปเถอะจาง อย่าไปสนใจใครเลย อย่าลืมเรื่องที่เราตกลงกันไว้นะ ถ้าจางไมกลับทุกอย่างจะถูกเปิดเผยต่อทุกคน"หลันหลันมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ถึงฝีปากจะกล้ามากก็ตาม
"หลันหลันไม่ต้องมาขู่ผมหรอก แค่ต้นมาหาผมถึงสนามบินก็พิสูจน์ได้ว่าต้นรักผม ส่วนผมก็ไม่แคร์อะไรอีกแล้ว แค่มีต้นอยู่ด้วยกับผมก็พอ"จางหันมามองหน้าหลันหลัน
"จางคิดซิ มันไม่มีทางเป็นนไปได้หรอก"หลันหลันใจคอเริ่มไม่ดี
"โชคดีหลันหลัน เจอกันที่อันเจียเมื่อผมพร้อมที่จะไป"จางหันหลังให้หลันหลัน หันมาทางที่ต้นมองเขาอยู่
"จาง อย่าลืมเมื่อคืนเรามีอะไรกัน นั่นแสดงว่าจางยังต้องการผู้หญิง"หลันหลันทิ้งไพ่ใบสุดท้าย
"ผมไม่สนใจ จะผู้หญิงผู้ชายผมได้หมดขอแค่ความสุข แต่ความรักผมมีให้ต้นคนเดียว"จางพูดจบรีบวิ่งไปหาต้นทันที
"จาง เห็นดีกันแน่ถ้ากลับอันเจีย"หลันหลันตะโกนตามหลัง เธอรู้สึกแค้นมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่เธอก็ยังดีใจข้อหนึ่งที่สร้างความคาใจ เรื่องสัมพันธ์ทางกายระหว่างเธอกับจาง
หลันหลันไม่อยากเห็นภาพบาดตา เธอจึงหันหลังกลับเดินเข้าไปข้างในห้องต้อนรับผู้โดยสาร อย่างท่าที่เชิด ทรนง หยิ่ง ที่แสนมั่นจนหลายตาเหลียวมอง
เมื่อต้นเห็นจางวิ่งมาหาเขา ต้นจึงไม่รีรอที่จะวิ่งเข้าไปหาจางเหมือนกัน เพราะเขาเริ่มแน่ใจแล้วว่าขาดจางเจ่ี่ยไม่ได้ ต้นจึงวิ่งไปอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้เห็นหน้าจางได้ชัดให้เต็มตา
ทั้งสองวิ่งประกบพบเจอกันครึ่งทาง ต้นกระโดดเข้ามาจางโดยกอดคอของเขาไว้ ส่วนจางก็กอดเอวของต้นอย่างแน่นตึง หลังจากนั้นจางก็หมุนร่างจนรอบพร้อมเงยหน้ามองต้น ส่วนต้นก็ก้มลงมองจาง เขาได้เห็นจางยิ้มอย่างเบิกกว้าง ต้นจึงก้มลงไปอีกเพื่อประกบปากของจาง
จางรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก แต่ก็ชอบอย่างที่สุด ที่ได้ทำอะไรตามใจปราถนา แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องสะดุดกับเสียตะโกนแสดงความยินดีที่กึกก้อง ต้นจึงถอนริมฝีปากห่างจากเจี่ยทันที จางก็ปล่อยร่างของต้นให้ลงเหยีบบพื้น
หลันหลันได้ยินเสียงแซ่ซ้องดังพอสมควร เธอจึงหันไปมองและได้เจอกับภาพที่บาดตา เธอเห็นจางกอดต้น ในขณะเดียวกันเธอก็เห็นต้นหอมจาง หลันหลันจึงหันหน้ากลับ พร้อมรีบเดินไปให้ไกลจากที่นี้ให้เร็วที่สุุด เธอไม่อยากได้ยินได้เห็นภาพเล่านี้ ที่มันอาจฝังตาในอนาคตได้
คิมหันรู้สึกยินดี ที่ความต้องการของเขาจะสมดังที่หวัง แต่จิตใจตอนนี้ของเขากลับเจ็บปวดแสนสาหัส เขารู้เพียงแต่ว่าต้องไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุด เพื่อไปรักษาแผลใจที่ไหนซักแห่งโดยเร็ว พอเขาหันกลับก็เห็นพ้องเพื่อนสี่คนยืนเรียงหน้า
"คิม นายทำดีที่สุดแล้ว"ซองเข้ามาจับแขนคิม
"นายแมนมาก ริโอ้นับถือน้ำใจคิม"ริโอ้เม้มปากพยักหน้า ด้วยความใจเด็็ดของคิม
"ไปกันเถอะ เราส่งสองคนนั้นถึงฝั่งแล้ว"ปันชักชวนทุกคนกลับ โดยมีโมย่าสนับสนุนความคิดนี้
ทั้งห้าเดินออกจากสนามบินไปพร้อมกัน แต่ตอนกลับต้องแยกทาง ซอง ริโอ้ ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับ ปันและโมย่าขึ้นรถสี่ล้อแดง ส่วนคิมขึ้นรถตุ๊กๆกลับเเพียงคนเดียว ความเหงา ความเศร้า ความผิดหวัง เขารับไว้เพียงผู้เดียว คิมมองผู้คนตลอดเส้นทาง ด้วยสายตาที่เหม่อลอยไร้ความคิด มีแต่ความว่างเปล่าที่ไร้ความรู้สึก จนเขาต้องหลับตาลง เพื่อพักสายตาและใจที่บอบซ้ำอย่าสาหัส ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าจะหาย จากป่วยทางใจนี้เมื่อไร คิมจึงทอดถอนหายใจไปตลอดทางจนถึงโรงแรม
ยามค่ำคืนภายในห้องที่มีเพียงสองคน ต้นได้พาจาง มาที่ห้องนอนของเขา เพราะจางได้คืนห้องทีโรงแรมไปแล้ว ค่ำคืนนี้เขาจึงต้องมานอนกับต้น ทั้งสองได้นอนเคียงคู่กันบนเตียงนอนที่ไม่ใหญ่มาก แต่จางและต้นก็พร้อมใจกันนอนเบียดเสียดร่างกาย
ต้นได้นอนหนุนแขนของจางที่มีแต่มัดกล้าม เขานอนตะแครงร่างใ ช้แขนพาดกอดบริเวณกลางอกของจาง ส่วนจางหันหน้ามาบรรจงจูบศีรษะของต้น
"ผมรักต้นมากที่สุด ผมต้องขอโทษต้นกับเรื่องราวที่ผ่านมาด้วย"จางใช้วงแขนอีกข้างเข้ากอดต้นไว้แน่น
"ไม่เป็นไรหรอก เพราะต้นก็คิดที่น้อยใจจาง และกลับไปเชื่อหลันหลัน"ต้นเงยหน้ามองจาง
"ผมว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้กันก่อนเถอะ มาพูดเรื่องของเราดีกว่า"ถึงจางยังคาใจ เรื่องเมื่อคืนวานระหว่างเขากับหลันหลันเกิดอะไรขึ้น ถึงจะคาใจอย่างไร จางก็คิดว่าจะเก็บไว้ในใจเพียงแต่ผู้เดียว ส่วนต้นเงยหน้ามองจางแล้วอมยิ้ม
"จะคุยเรื่องอะไร"ต้นพูดขึ้น และสงสัยจางจะพูดอะไรต่อ
"ก็เรื่องนี้ไง"จางประกบปากต้นทันที ถึงต้นจะไม่ทันตั้งตัวแต่เขาก็ไม่ขัดขืน กลับกันเขาตอบสนองจางในทันใด ต้นได้ดึงศีระษของจางมา ให้มาแนบใบหน้าของเขามากยิ่งขึ้น ส่วนริมฝีปากก็ประกบกันอย่างดูดดื่ม ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆภายในห้องแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยความรักที่อบอวล ในคืนแห่งหฤหรรษ์
จางพลิกร่างตัวเองให้นอนคว่ำอยู่ข้างลำตัวของต้น และได้ผลักต้นให้นอนหงาย เขาถอนริมฝีปากออกจากต้น หลังจากนั้นบรรจงจูบทั่วใบหน้าของต้น แม้แต่บริเวณติ่งหูก็ไม่เว้น ต้นถึงกับออกอาการคราง ด้วยความซ่านอารมณ์ไปทั่วเรือนร่าง ถึงแม้จะมีเสื้อผ้าห่อหุ้มร่างกายอยู่
หลังจากนั้นจางไล่ลงมาบริเวณซอกคอที่ขาวนวล น่าสัมผัส จางได้ไซร้ซอกคอที่นุ่มยังกับทารกน้อยของต้น เวียนวนทั่วลำคอ บางครั้งขบเบาๆให้ต้นรู้สึกถึงความต้องการของกันและกัน
"ถอดเสื้อน่ะ"จางหยุดสัมผัสใบหน้าของต้น
"ฮือ"ต้นพยักหน้าพร้อมแอนลำตัว จางได้ขยับเสื้อของต้นขึ้นไปเรื่อยๆจนพ้นศีรษะ หลังจากนั้นขว้างทิ้งลงเตียงและหันมาจัดการ ถอดเสื้อผ้าของตัวเอง โยนไปข้างหลังของเขา
จางไม่รอช้าใช้ริมฝีปากขบเบาๆที่นมชมพู ที่เขาฝันถึงอยู่หลายวัน และสัมผัสรสชาติอย่างดูดดื่มจนสมอุรา ทั้งซ้ายขวาสลับปรับเปลื่ยนตามใจปราถนา ส่วนต้นนั้นบิดตัวซ้ายขวาด้วยความสุขกระสันต์ในรสรัก
จางดมดูดดื่มนมชมพูจนสมใจอยาก ถึงเวลาต้องปลดปล่อยพลังงานที่เหลืออยู่ จางจึงหยุดภาระกิจชิมรสชาตที่เนินอกบริสุทธิ์ ต้นรู้จังหวะรีบลุกขึ้นและผลักจางให้ลมลงนอนกับพื้นเตียง ต้นขยับร่างกายลงต่ำเพื่อปลดตะขอกางเกงของจางออกให้หลุดพ้น จางแอ่นสะโพกเพื่อให้ถอดอย่างง่ายดาย
ต้นดึงออกทีเดียวทั้งกางกงใส่ภายนอก กับกางเกงในสีขาวของจาง ให้หลุดพ้นจากร่างกายชองเขา เพียงกางเกงได้หายไปจากร่างกายส่วนล่าง ความยิ่งใหญ่ภายในกายได้ผงาดพร้อมสู้รบ อออกสงครามรักพร้อมเผด็จศึก
ต้นไม่รอช้าจัดการปกปิดสิ่งนั้น ให้อยู่ภายในปากของเขา ต้นได้ไล่สัมผัส ตวัดผลัดเปลื่ยนทั่วพื้นที่ จนจางส่งเสียงออกแบบไร้จังหวะ เขาพึ่งเคยโดนต้นมอบสัมผัสนี้ให้เพียงไม่กี่ครั้ง แต่เขากลับจำแม่นเพราะถูกใจในรสชาติแห่งสัมผัสนี้
จางรู้สึกถึงรสชาติรักที่แปลกใหม่จนสุดทนไหว ถ้าฝืนทนต่อไปคงจะพังทลายในไม่ช้า
"พอก่อน เดี่๋ยวผมทำเอง"ต้นหยุดทุกการกระทำเพื่อรับคำสั่งจากคนรักที่เริ่มชำนาญ
จางรีบลุกขึ้น แล้วจับร่างของต้นนอนหงายในทันใด พร้อมปลดอาภรณ์ที่เหลือไม่ให้มีซักชิ้นเดียว จางจึงเห็นร่างกายที่ขาวเนียนของต้น จางไม่รอช้า จับขาของต้นดันโน้มไปข้างหน้าเกือบแนบลำตัว จางขยับร่างให้ตรงจุดรักที่ต้องการ พร้อมใส่พลังผลักดันความเป็นชาย ออกแรงทีละน้อยจนสู่ทางสุขสันต์ เขาปล่อยแน่นิ่งไม่ขยับเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม
ส่วนต้นนั้นรู้สึกความคับแน่นจนจุกท้อง แต่อดทนเพราะความสุขที่รออยู่ข้างหน้า ยิ่งจางเผลอขยับยิ่งแท่บขาดใจในทันที จางเห็นเวลาเริ่มเนิ่นนาน เขาพร้อมขยับดันเข้าและถอยหลังอย่างช้าๆ ต้นนั้นหายเจ็บปวดซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก ก็กลายเป็นความสมบูรณ์ของรสรัก ยิ่งจางขยับกายมากเร็วยิ่งขึ้น ต้นดิ้นส่งสียงเหมือนคนทำร้ายร่างกาย
อารมณ์รักของจาง เริ่มคึกอยากลองเพิ่มความเร็ว จางจึงพิสูจน์รสรักนี้ โดยเร่งเครื่องพร้อมโหมกำลังที่มีอยู่ใส่ให้เต็มที่ เขาโน้มร่างทับขาของต้นที่พาดบ่าเขาอยู่ ส่วนสองมือยันพื้นรองรับน้ำหนัก ร่างกายส่วนล่างนั้นทำงานอย่างหนัก ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โหมกระหน่ำใส่พลังจนเต็มเหนี่ยว ส่วนต้นตั้งรับแท่บไม่ทัน เพราะมาถี่จนเริ่มจะถึงฝั่งฝัน ยิ่งมาบ่อยถี่เท่าไร ยิ่งทำให้ต้นสุขสันต์ในรสรัก ซึ่งก็ใกล้เข้าใปทุกขณะยิ่งจางเร่งพลัง ต้นยิ่งจะไปถึงจุดหมายก่อนในไม่ช้า เพียงชั่วอึดใจเดียวก็หลุดพ้นความคั่งค้างของสายน้ำแห่งรัก พุ่งสู่เรือนร่างของต้นกระจายทั่วแแผ่นอก
จางเห็นต้นสูสวรรค์ในรสรัก เขาจึงอยากตามไปหาในทันใด จางจึงเร่งพลังครั้งสุดท้ายอย่างเต็มที่ เพียงแค่ไม่ถึงสิบวินาที จางก็ตามต้นไปติดๆ ลาวาได้ไหลออกสู่ภายนอกกายของเขาเป็นระยะจนไม่มีเหลือ จางจึงเงยหน้าหลับตาหอบเหนื่อย หายใจถี่ด้วยความขีดสุดในรสรัก ที่เขาพึ่งค้นพบเจอกับต้นในหลายๆครั้ง จนเขาติดใจไม่อาจลืมเลือนอารมณ์รักนี้ได้ตลอดไป
หลายวันผ่านไป คิมยังรู้สึกเหงาเศร้าใจ ปวดร้าวไปทั้งหัวใจ เขาอยากหาเพื่อนคุยคลายเหงาเพื่อลดความทุกข์ลงชั่วคราว เขาจึงขึ้นรถตุ๊กๆเที่ยวรอบเมือง แต่แล้วเขาเห็นบาร์โฮสต์เปิดอยู่ คิมจึงได้ความคิดว่าจะหาเพื่อนคุย เขาจึงลงจากรถตุ๊กๆเพื่อเข้าไปบำบัดทุกข์ให้คลายเหงา
เพียงก้าวเท้าเข้าไป พนักงานก็ออกมาต้อนรับ บริการดุจญาติที่ห่างหาย จากกันไปนานแล้วมาพบเจอ คิมมองหนุ่มรุ่น ต้น ริโอ้ ปัน จนเพลินตาเพลินใจ แล้วมาสะดุดกับหนุ่มหมายเลขแปด
คนเชียร์แขกเหมือนรู้ใจ จึงรีบเดินเข้าไปหาคิมโยอัน
"สนใจเบอร์แปดใช่ไหมครับ"
"ใช่ เอาคนนี้แหล่ะ"คิมค่อนข้างพอใจ
น้องเบอร์แปดที่คิมต้องการมาเป็นเพื่อนคุย ก็เดินมาหาเขาและยิ้มให้พร้อมทักทาย
"สวัสดีครับ ผมชื่อเบียร์ครับ"เบียร์หนุ่มบาร์โอสต์แสนร้ายเข้ามาทักทาย พร้อมว่านเสน่หใส่ทันที
"สวัสดีครับผมชื่อ คิมครับ"คิมยิ้มให้เบียร์หนุ่มบาร์โฮสต์ ที่สายตาแสนจะเร้าร้อน
"คุณเป็นคนโปเกียเหรอครับ"เบียร์ยิ้มอย่างสดใสแต่ไม่ไร้มายา
"ครับ ยินดีที่รู้จัก"คิมยิ้มให้ด้วยสายตาที่หวานฉ่ำ
ต้นหนุ่มตกงานประจำรักคุด รีบเดินอย่างว่องไวเพื่อมาทำอาชีพเสริม เขายิ่งรีบเหมือนยิ่งช้าเพราะผู้คนเดินกันควักไข่ว ในบริเวณถนนคนเดินที่เชียงใหม่ ต้นใช้เวลาเดินทางราวสามสิบนาที ก็มาถึงร้านนวดฝ่าเท้าข้างทาง"มาเร็วเข้าประจำที่เลย ลูกค้านั่งรอเต็มไปหมดแล้ว" ป้าทองคำตะโกนเสียงดัง พร้อมกับจัดที่ให้ลูกค้า และต้นหมอนวดหนุ่มวัยยี่สิบสาม"ครับป้า"ต้นรีบนำกระเป๋าไปเก็บไว้และมานั่งประจำตำแหน่ง ซึ่งลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียนั่งรออยู่"สวัสดีครับ"ต้นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ เขาพอพูดได้บ้างเพราะจบชั้น ม.6 มา ลูกค้าหนุ่มชาวอันเจียยิ้มให้ต้น และมองต้นนิ่งชั่วครู่ จนทำให้ต้นเริ่มรู้สึกเขินอาย"นวดกี่ชั่วโมงครับ"ต้นรีบถามเพราะจะได้เริ่มทำงาน" 1 ชั่วโมงครับ"เมื่อได้รับคำตอบแล้ว ต้นจึงจัดแจงนำผ้าชุ่มน้ำ บรรจงเช็ดเท้าอย่างช้าๆจนสะอาด หลังจากนั้นต้นก็ชะโลมน้ำมันนวดคลึงเบาๆบริเวณเท้าทั้งสองข้าง"นวดหนักๆหน่อย"หนุ่มอันเจียพูดขึ้น"ยังไม่ได้นวดครับ แค่เริ่มต้นชะโลมน้ำมันก่อน"ต้นฝืนยิ้มให้ลูกค้าแถมคิดในใจว่า โดนงานหินอีกแล้ว ถึงว่าทำไมป้าทองคำไม่นวดเองหลังจากชะโลมน้ำมันที่ฝ่ามือเสร็จ ต้นจึงเริ่มออกแรงห
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พอร์ทไท้แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้าน
ต้นมาทำงานนวดที่ร้านประจำ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไรนัก เมื่อก่อนต้นทำแค่พาร์ทไทม์แต่หลังจากตกงาน เขาจึงมาทำเต็มตัว ในความคิดของต้นคือมาทำเพื่อฆ่าเวลา พร้อมกับหางานประจำที่มั่นคงทำต่อร้านนวดที่ต้นมาทำมีแต่ผู้ชาย รุ่นไล่ๆกับเขา สาเหตุที่ร้านนวดนี้มีแต่ผู้ชาย เพราะเป็นร้านทางเลือกส่วนใหญ่ร้านนวดจะผสมกันไป ซึ่งจะมีผู้หญิงซะส่วนมาก มีผู้ชายน้อยและขาดตลาด เพราะลูกค้าบางครั้งอยากนวดหนักๆ ผู้หญิงแรงไม่ถึง บางคนไม่อยากนวดกับผู้หญิง เช่นเดียวกันบางคนไม่อยากนวดกับผู้ชาย คละเคล้ากันไปกัน หนุ่มใหญ่หมอนวดเก่า จึงมาเปิดร้านที่เป็นทางเลือก แต่เป็นร้านนวดจริงๆไม่อะไรแอบแฝง เป็นร้านขนาดกลางค่อนข้างไปทางเล็ก มีเพียงแค่สิบเตียง และหมอนวดหกคนแค่นั้น ถ้าลูกค้าเต็มก็เรียกหมอวิ่งมาเสริม เหมือนอย่างแต่ก่อนที่ต้นเคยทำต้นเดินเข้ามาในร้านก่อนเวลาพอสมควร เพราะร้านเปิดเก้าโมงเช้าปิดสองทุ่ม และเป็นเวรที่ต้นต้องเข้ามาช่วยจัดร้าน"หวัดดีพี่กัน"ต้นทักทายนายจ้างผู้ใจดี"มาก็ดีแล้วลูกค้ารออยู่"กันชี้ไปที่เตียงนวด ซึ่งมีหนุ่มโปเกียหุ่นดีนั่งอ่านหนังสือรออยู่"เร็วๆเข้าอย่าให้ลูกค้ารอนาน เดี๋ยวพี่จัดร้านเอ
หลังแยกจากสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้นก็เข้ามาภายในห้องของเขา ที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเพียงพัดลมที่ทำให้คลายร้อนแค่นั้นต้นนั่งลงบนเตียง ที่มีเพียงหมอนหนุนและหมอนข้าง แต่ก่อนมีหมอนหนุนสองอัน พอปรัชญ์แฟนหนุ่มได้หนีจากไป ต้นจึงนำไปเก็บไว้ในตู้อย่างมิดชิด สายตาของต้นสอดส่ายทั่วห้อง และหยุดมองรูปของปรัชญ์แฟนหนุ่มที่เขายังไม่ได้เก็บ เพราะยังอยากเห็นใบหน้าของแฟนหนุ่มอยู่ ต้นจ้องมองดูอยู่ไม่นาน หลังจากนั้นจึงเดินไปนำรูปแฟนหนุ่ม ใส่ไว้ในลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งต้นทั้งรักทั้งเกลียดปรัชญ์ในระดับเดียวกัน รักมากจนยอมใช้หนี้ก้อนโตแทน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นแท่บหมดตัว ซึ่งเป็นจังหวะเดียว ที่โดนปลดจากร้านอาหารฝรั่ง เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองรายได้ไม่เข้าเป้าต้นจึงเป็นหนึ่งตัวเลือก ที่โดนขอร้องให้ออกจากงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นหันมาเป็นหมอนวด เพราะได้เงินดีและได้ทุกวันส่วนปรัชญ์แฟนหนุ่มนั้น พอรู้ว่าต้นหมดตัว จึงหนีจากไปอย่างไม่บอกลาสักคำ จนทำให้ต้นนั้นสุดซ้ำใจอย่างหนัก แต่ต้นก็ใจแข็งตัดใจไม่ตามหา ต้นล้มตัวลงนอนคิดถึงอดีตที่แสนหวานกับปรัชญ์แฟนหนุ่ม ครั้งแรกที่เจอกันในร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งต้นกับริโอ้
สี่ทุ่มเศษต้นได้กลับมาทึ่ห้องพัก โดยนั่งรถสีล้อแดงให้มาส่งที่หน้าห้องพัก แต่แล้วต้นกับต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นสองหนุ่มต่างเชื้อชาติยืนประจันหน้ากัน พร้อมจ้องจะกินเลือดกินเนื้อซึ่งกันและกันได้ในทันที เมื่อจางและคิมเห็นต้น ทั้งสองจึงรีบเดินเข้ามาหาต้นในทันที“มาดึกจัง กินข้าวมาหรือยัง”คิมถามไถ่“ถ้ายังไม่ได้กินเดี๋ยวผมพาไป”จางชิงพูดตัดหน้า“กินแล้วครับ”ต้นรีบพูดตัดบท“กินข้าวแล้วก็ดี ถ้าอย่างงั้นเราไปเที่ยวกัน ผมจะพาไปดื่มเบียร์”จางรีบพูด ด้วยไหวพริบดี“ใช่”คิมสนับสนุนความความคิดจาง เพราะเขาก็คิดเช่นนั้น ตอนแรกกะชวนกินข้าว แต่เมื่อต้นกินมาแล้ว จึงเปลื่ยนทิศทางการชวน และสนับสนุนความคิดของจาง ถึงแม้จะเป็นคู่แข่งต้นยืนคิดชั่วครู่ มีความรู้สึกอยากไปเหมือนกัน เพราะจะได้คลายเครียดจากการทำงาน ที่หามรุ่งหามค่ำ ไหนจะเรื่องปรัชญ์อดีตแฟนหนุ่มอีก ต้นจึงตัดสินใจรับปากจะไป“ก็ได้ แต่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ”ต้นพูดจบจำเป็นต้อง พาสองหนุ่มนั้นมาที่ห้องซึ่งแค่บพอสมควร หลังจากทั้งสองนั่งที่เก้าอี้ ต้นจึงจัดแจงเทน้ำให้สองหนุ่มดื่มส่วนต้นนั้นก็ขอตัวเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งคู่กัน แต่ไร้การพูดคุยได้แต่นิ่ง
เมื่อมาถึงห้องพักในโรงแรมของจาง ต้นก็มองไปรอบๆห้องที่ดูใหญ่พอสมควร“นั่งลงก่อนซิ”จางเชื้อเชิญ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกตื่นเต้นใจคึกครื้น เมื่อต้นนั่งลงข้างๆ“จะอาบน้ำหรือว่านอนเลย”จางถาม“อาบซิ เหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว”ต้นเอ่ยขึ้นด้วยความงง จะให้นอนโดยไม่อาบน้ำ เลยสงสัยจางคงทำบ่อยจนชิน“งั้นผมเอาผ้าเช็ดตัวให้”จางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ มายื่นให้ต้นผลัดเปลื่ยน ต้นรับมาไว้พาดบ่าหลังจากนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที จางอดเสียดายไม่ได้เห็นเรือนร่างของต้นอีกครั้งจางสลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพื่อเอาเวลาไปหาเสื้อกับกางเกงในต้นใส่นอนในคืนนี้ แต่อีกใจหนึ่งคิดว่าต้นอาจไม่ใส่ เพราะมาอ่อยถึงห้องขนาดนี้จางเดินไปค้นเสื้อผ้ามาสองชุด ที่เหมาะสำหรับใส่นอน มาวางไว้บนเตียงนอนเพื่อรอให้ต้นมาสวมใส่ ต้นนั้นใช้เวลาไม่นานนักก็อาบน้ำเสร็จ เขาจึงเดินออกมาในสภาพเปลื่อยกายท่อนบน จางเห็นถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความกระหาย"จางเตรียมเสื้อกับกางเกงไว้ให้ต้น"จางชี้มือไปที่กองเสื้อผ้าที่วางไว้"ขอบใจมากนะจาง"ต้นยิ้มให้พร้อมเดินไปหยิบเสื้อมาใส่"มองอะไรจาง รีบไปอาบน้ำจะได้มานอน"ต้นรู้สึกเขินที่เห็นสายตาจาง มองอย่างกับอยากกลืนกิ
เมื่อทุกอย่างสงบลง หลายอย่างก็เริ่มเข้าที่ ในที่สุดต้นก็ได้ห้องเช่า แต่อยู่ไกลพอสมควร ไม่สามารถเดินทางด้วยเท้าได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาสามารถขึ้นรถรับจ้างไปมาสะดวก ก่อนหน้านี้ต้นก็มีรถมอเตอร์ไซค์ แต่ได้ขายเพื่อนำเงินมาช่วยปรัชญ์ ในหลายๆเรื่องย้ายห้องครั้งนี้ได้คิม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยย้าย ส่วนตอนค่ำมีริโอ้ ซอง เพื่อนของคิมมาสมทบ ซึ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว"เสียดายจังมาไม่ทัน เสร็จพอดีเลย"ริโอ้พูดติดตลก"มาช้าดีกว่าไม่มา แค่มาก็ดีใจมากแล้ว"ต้นไม่ได้หันมองริโอ้ แต่มองคนข้างๆที่ยืนงง"อ๋อ ผมลืมแนะนำ นี่ซอง เพื่อนผมเอง พอดีเมื่อเช้าผมพาไปนวดได้คิวปัน ผมเลยได้นั่งคุยกับริโอ้ เรื่องของต้น ผมเป็นห่วงเลยไปหาต้นที่ห้อง"คิมแนะนำและอธิบายเหตุการณ์เมื่อเช้า"ส่วนนี่ ต้น"ต้นยิ้มให้ซองซองยื่นมือเพื่อจะจับมือกับต้น เป็นการแสดงไมตรีจิต"ไม่ต้องจับมือกันก็ได้"คิมหึง"นี่แน่"ริโอ้ตีมือซอง"ตีทำไมผมเจ็บ นี่ไงแฟนเพื่อนยังจะจับมืออีก""อ๋อ คนนี้เองที่โยฮันบอกว่าชอบ กำลังจีบอยู่ " ซองพูดอย่างซื่อ"ฮึ ฮึ"ริโอ้แอบหัวเราะ"จริงไหมโยฮัน"ริโอ้ก็ถาม"จริง"คิมมองตาของต้น ส่วนต้นหลบตาและเฉไฉ พูดเรื่องอื่น"ร
ริโอ้ขับรถมอเตอร์ไซค์คันโปรด พาซองซ้อนท้าย ร่อนทั่วเมืองเชียงใหม่ ทีแรกริโอ้จะพาซองเข้าผับ แต่ซองปฏิเสธเพราะไม่ชอบคนเยอะ เหม็นเหล้าบุหรี่ ขาแดนซ์อย่างริโอ้เกิดอาการเซ็ง เขาจึงจอดรถบนลานประตูท่าแพ เพื่อนเคลียร์ความเยอะของซอง"ซองอยากไปเที่ยวไหนบอกริโอ้มา"ริโอ้แอบเซ็งความเยอะของซอง ยังดีที่หน้าหวานตรงสเป็คจึงยอมให้"ซอง อยากไปเที่ยวน้ำตก พรุ่งนี้ริโอ้พาไปได้ไหม""คืนนี้ก่อนว่าจะไปไหน พรุ่งนี้ไม่ว่าง"ริโอ้เสียงเข้ม"ซองอยากไปตลาดกลางคืน หาของอร่อยๆกินกัน""โอเค เดี๋ยวพาไปขึ้นรถมาเลย""จะไปกาดหลวงก็ไม่บอกแต่ทีแรก ให้ขับรถวนมาวนไป เปลืองน้ำมันจะตาย" ริโอพูดเป็นภาษาไทย"ริโอ้บ่นซองเหรอ ถ้าอย่างงั้นซองไม่ไปแล้ว"ซองคาดเดาจากน้ำเสียง"ไม่ได้บ่น แค่เป็นห่วงต้น ไม่รู้ตอนนี้เป็นอย่างไงบ้าง""คงเสร็จโยฺฺฮันแล้วมั้ง""อะไรนะ"ริโอ้มีท่าทีตกใจ"เป็นอะไร ตกใจทำไม ผู้ชายกับผู้ชายอยู่ด้วยกันสองคน มันต้องมีอะไรกันบ้างนั่นแหล่ะ""แล้วผมกับซองล่ะ""ต้องดูกันยาวๆ""ผมไม่ชอบดูยาวๆ มันช้าไป เจอปุ๊บติดปั๊บ""ถ้าถูกใจก็ได้ แต่ตอนนี้ซองหิว ถ้าหิวมากๆซองจะกินริโอ้แล้วนะ""โอเค"ริโอ้ใช้เวลาขับรถไม่นานนัก ก็มาถึงก