Share

รักใหม่รักเก่า

สี่ทุ่มเศษต้นได้กลับมาทึ่ห้องพัก โดยนั่งรถสีล้อแดงให้มาส่งที่หน้าห้องพัก แต่แล้วต้นกับต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นสองหนุ่มต่างเชื้อชาติยืนประจันหน้ากัน พร้อมจ้องจะกินเลือดกินเนื้อซึ่งกันและกันได้ในทันที เมื่อจางและคิมเห็นต้น ทั้งสองจึงรีบเดินเข้ามาหาต้นในทันที

“มาดึกจัง กินข้าวมาหรือยัง”คิมถามไถ่

“ถ้ายังไม่ได้กินเดี๋ยวผมพาไป”จางชิงพูดตัดหน้า

“กินแล้วครับ”ต้นรีบพูดตัดบท

“กินข้าวแล้วก็ดี ถ้าอย่างงั้นเราไปเที่ยวกัน ผมจะพาไปดื่มเบียร์”จางรีบพูด ด้วยไหวพริบดี

“ใช่”คิมสนับสนุนความความคิดจาง เพราะเขาก็คิดเช่นนั้น ตอนแรกกะชวนกินข้าว แต่เมื่อต้นกินมาแล้ว จึงเปลื่ยนทิศทางการชวน และสนับสนุนความคิดของจาง ถึงแม้จะเป็นคู่แข่ง

ต้นยืนคิดชั่วครู่ มีความรู้สึกอยากไปเหมือนกัน เพราะจะได้คลายเครียดจากการทำงาน ที่หามรุ่งหามค่ำ ไหนจะเรื่องปรัชญ์อดีตแฟนหนุ่มอีก ต้นจึงตัดสินใจรับปากจะไป

“ก็ได้ แต่ขอไปอาบน้ำก่อนนะ”

ต้นพูดจบจำเป็นต้อง พาสองหนุ่มนั้นมาที่ห้องซึ่งแค่บพอสมควร หลังจากทั้งสองนั่งที่เก้าอี้ ต้นจึงจัดแจงเทน้ำให้สองหนุ่มดื่ม

ส่วนต้นนั้นก็ขอตัวเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งคู่กัน แต่ไร้การพูดคุยได้แต่นิ่งเงียบ อย่างไรก็ดีสิ่งที่ทั้งสองเริ่มทำเหมือนกัน คือนำมือถือออกมาดู เนื่องจากทั้งสองได้รับข้อความที่มาใหม่

ในส่วนของคิมเป็นข้อความไลน์ จากเพื่อนสนิทที่โปเกีย ชื่อ ซอง

“อยู่ไหน โยฮัน ผมมาถึงเชียงใหม่แล้ว ตอนนี้อยู่ที่สนามบิน มารับผมด้วย”พออ่านข้อความจบ คิมถึงนึกขึ้นได้ว่า เพื่อนรักจะมาถึงวันนี้ เขาลืมสนิททั้งที่เมื่อวานพึ่งคุยกับเพื่อน

ส่วนจางข้อความในเมาท์แชทก็เด้งขึ้นมาจาก หลันหลัน อดีตแฟนที่พึ่งหักอกเขา

“ฉันจะตามคุณไปในประเทศไทยอีกสองอาทิตย์ โปรดรอฉันที่นั่นด้วย”จางลบข้อความนั้นทิ้งแล้วนำมือถือใส่กระเป๋าไว้เช่นเดิม

สาเหตุที่เขาไม่บล็อกแฟนเก่า เพราะการเลิกกันครั้งนี้ จางยังพอมีเยื่อใยอยู่บ้าง จึงยังเก็บไว้เผื่อมีความหวัง แต่ตอนนี้เขาชักไม่แน่ใจ ว่ายังรักหลันหลันอยู่หรือเปล่า หลังจากเจอต้นหมอนวดหนุ่ม

พอเสียงประตูห้องน้ำเปิด จางและคิมต่างเงยหน้ามามองทันที และได้เห็นสภาพเปลือยกายท่อนบนของต้น มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันกายแค่ท่อนล่าง และได้เห็นผิวพรรณขาวผ่องไร้ริ้วรอย พร้อมนมชมพูของต้น ทั้งสองตาค้างพร้อมกลืนน้ำลายลงคอ

คิมเคยเห็นชายร่างเล็กมามาก แต่กับต้นนั้นผิดแผกจากคนอื่น ร่างเล็กแต่มีเนื้อไม่ผอม ถึงไม่มีกล้ามแต่หุ่นไม่มีไขมันเลย แต่ที่ชอบสุดๆคือนมชมพู ในขณะเดียวกันของคิมออกจะดำ ทั้งๆที่ผิวขาวใสกว่าต้นอีก

จางซึ่งก็เคยเห็นผู้ชายถอดเสื้อมาเยอะ แต่กับรู้สึกเฉยๆ ในส่วนของต้นเพียงเห็นแผงอกที่ไร้กล้ามนมขมพู ตัดกับของเขาที่สีน้ำตาล และนั้นส่งผลให้ใจของจางเต้นระรัว ไม่เป็นจังหวะซึ่งก็ทำให้จางแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่ามาไทยครั้งนี้ รสนิยมทางเพศเขาเปลี่ยนไป ถึงกะนั้นเขาก็อยากลองรักสักครั้ง อาจเป็นรักที่แปลกใหม่และดีกว่าเดิม

“มองอะไรกัน”ต้นรีบเอามือปิดนมชมพูและหันหลังให้ด้วยความเขินหาย เพราะไม่คิดว่าสองหนุ่มจะจ้องขนาดนี้ แต่แล้วผ้าเช็ดตัวดันหลุดล่วงลงพื้น เพราะหมุนตัวแรงไปหน่อย ต้นจึงรีบก้มลงเก็บผ้าเช็ดตัว จึงทำให้จางและคิมเห็นเต็มสองตาจนส่งเสียง

"อ้า"ออกมาพร้อมกัน

ต้นนั้นแสนอายจึงรีบเปิดตู้เอาเสื้อผ้า ที่จะใส่เที่ยวออกมา หลังจากนั้นก็เขาไปเปลื่ยนในห้องน้ำทันที

"บ้าซะมัดมาหลุดอะไรตอนนี้"ต้นพึมพำ

เมื่อต้นเข้าไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำ คิมหน้าตาเริ่มนิ่งขมวดคิ้ว เพราะคืนนี้ไม่สามารถไปเที่ยวกับต้นได้ เนื่องจากต้องไปรับเพื่อน และพามาที่โรงแรมเดียวกับเขาแต่คนละห้อง คิมจึงกลัวจะเสียคะแนน เพราะปล่อยให้คู่แข่ง อย่างจางอยู่กันสองคนกับต้น แต่ด้วยเหตผลต่างๆเขาจึงต้องตัดใจการไปเที่ยวครั้งนี้เพื่อเพื่อน

ไม่นานนักต้นก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดพร้อมเที่ยว ซึ่งเป็นที่แปลกตากับหนุ่มทั้งสอง เจอกับต้นครั้งใดก็อยู่แค่ในชุดยูนิฟอร์มร้านนนวด

“ต้นน่ารักมากเลย ครั้งแรกเลยที่เห็นต้นแต่งตัวแบบนี้”จางลุกขึ้นเดินมาหาต้น

ส่วนคิมคิดหนัก แต่ก็ต้องตัดใจ

“ต้น คืนนี้ผมไปไม่ได้แล้วนะ เพื่อนผมมาถึงสนามบินเมืี่อสักครู่ ผมต้องไปรับเดี๋ยวนี้” คิมตีหน้าเศร้าเล่าความจริง

“ฮือ ไม่เป็นไรไปรับเพื่อนเถอะ แล้วอย่าลืมพามานวดด้วยนะ”ต้นยิ้มให้

“ไม่เอา ไม่ให้นวด เดี๋ยวเพื่อนเราติดใจต้น เราจะทำอย่างไร”

“ก็ได้ ไม่นวดหรอก เดี๋ยวให้ริโอ้นวด”

“ดีเลย คนละคู่”คิมเห็นด้วยอย่างมาก เพราะซองเพื่อนของเขาก็ยังไม่มีแฟน

“คนละคู่อะไร ถามผมหรือยัง”จางไม่สบอารมณ์

“ถามทำไม เป็นต้นหรอ”คิมย้อนด้วยความโมโห

“พอได้แล้ว เจอกันทีไรทะเลาะกันทุกที”

ต้นห้ามทัพอีกตามเคย

“วันนี้ปล่อยไปก่อน มีธุระ”คิมมองแบบเอาเรื่องเหมือนกัน

“เราไปก่อนนะต้น บ่าย”คิมล่ำลาต้นเสร็จก็เปิดประตูออกไป โดยมีต้นไปส่งหน้าประตู พอหันหลังกลับมาก็เจอจางยืนยิ้มปากกว้าง

“ยิ้มอะไร”

“ยิ้มให้ต้น”

“ยิ้มให้ทำไม”

“ก็จะได้ไปเที่ยวกับต้นสองคนไง”จางรู้สึกดีต่อใจจะได้ออดกเดทกับต้นสองคน

“ใครจะไปด้วยกันสองคน ไปกันสองคนไม่สนุกต้องไปหลายคน”ต้นแกล้งย้ำ

“สนุกจะตาย นั่งดื่มเบียร์ คุยกัน โอ้ยสนุก ไปหลายคนไม่สนุก แย่งกันกินแย่งกันคุย”จางเดินเข้ามาใกล้ๆต้น ยื่นหน้ามาเกือบชนแก้มของต้น ส่วนต้นก็ถอยห่างอีกนิดแล้วทำตาขวางใส่จาง

“อย่ามองอย่างนั้นซิ”จางเสียงอ่อย

“มัวแต่คุยอยู่นั่นแหล่ะ ไป เดี๋ยวร้านปิดกันพอดี"

“อย่างงั้นก็ไปกันเลย”จางยิ้มไม่หุบ

เมื่อทั้งสองออกจากห้องพัก ก็นั่งรถตุ๊กๆไปยังร้านอาหารกึ่งผับแถวประตูท่าแพ ซึ่งเป็นร้านประจำของต้นกับริโอ้ และข้อสำคัญเป็นร้านแรกพบ ระหว่างปรัชญ์กับต้น สาเหตุที่ต้นมาร้านนี้เพราะจะลองใจตัวเอง ว่าลืมปรัชญ์ได้จริงไหม ซึ่งผลก็เป็นที่พอใจ ความรู้สึกของต้นตอนนี้ก็เฉยๆ

“ร้านนี้เนาะ ”ต้นถามจาง

“ที่ไหนได้หมด ถ้ามีต้นอยู่”

“งั้นเราเข้าไปเลย”ต้นแอบคิดในใจว่าจางจะปากหวานไปถึงไหน อยู่อันเจียนี่คงอ่อยไปทั่วเมือง

พอทั้งสองเข้าไปในร้าน ก็มีเด็กเสิร์ฟมาต้อนรับและพาไปนั่งที่โต๊ะ เนื่องด้วยเป็นร้านอาหารกึ่งผับ บริเวณจึงกว้างพอสมควร และแยกโซนระหว่างร้านอาหารกับผับ คือใครอยากกินก็นั่งที่โต๊ะ ใครอยากเต้นก็มีบริเวณให้เต้น

ทั้งสองนั่งโต๊ะที่ไม่ไกลสถานที่เต้นมากนัก ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง รองลงมาก็คนไทย ชาติอื่นบ้างประปราย

เด็กเสริฟยื่นเมนูมาให้ทั้งสอง และยืนรอรับออเดอร์

“ต้นสั่งเต็มที่เลยคนจ่ายอยู่นี่ ”จางชี้มาที่ตัวเอง

“เอาเบียร์ 2 ขวด ยำทะเลภูเขาไม่เผ็ด เม็ดมะม่วงในป่าหิมพานต์ หมูอบร้อยรส แค่นี้แหล่ะ” เด็กเสิร์ฟจดออเดอร์เสร็จก็จากไป ทิ้งความสงสัยในชื่ออาหารแก่ต้น

“น่าสนุก กินเสร็จเราไปเต้นกันนะ”จางโยกตัวตามจังหวะ

“ไม่เต้นหรอก ดูเขาเต้นท่าแปลกๆสนุกกว่า”

ตอนแรกจางก็ไม่เข้าใจ พอนานยิ่งเข้าใจโดยเฉพาะคนไทย ช่างสรรค์หาท่าแปลกๆดูมีสไตส์มาเต้นแข่งกันกลายๆ

“ไวดีนะ อาหารมาแล้วกินกันเลย”จางเอ่ยขึ้น

พอต้นเห็น ยำทะเลภูเขาก็ไม่แปลกใจ เพราะอาหารทะเลอยูบนยอดผักที่ก่อสูง ส่วนอีกสองอย่างก็แค่ชื่อไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ

ในระหว่างทั้งสองกินอาหารพร้อมจิบเบียร์ นั่งฟังเพลง ดูลีลาการเต้นที่แปลกแหวกแนว ตามดีไซน์แต่ละคนอย่างมีความสุข แต่ความสุขนั้นก็เริ่มหยุดชะงัก เมื่อมีหนุ่มคุ้นเคยต้นเดินมาหา

 “ต้น” เสียงที่คุ้นเคย

ต้นหันหน้ามามองแล้วต้องตกใจจนตาค้าง เขาคนนั้นที่ต้นจ้องมองก็คือ ปรัชญ์แฟนเก่าจอมเกเร ที่ดูไม่แตกต่างจากเมื่อก่อนเท่าไร และที่ต้นมาร้านนี้ก็เพื่อลองใจตัวเอง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเจอปรัชญ์แฟนเก่า

“มากับใคร”ปรัชญ์ถาม

“แฟน”ต้นพูดห้วนพอประมาณ เพื่อประชดปรัชญ์ และเขาจะได้ไม่ตอแยอีก

ส่วนจางจ้องมองหนุ่มตรงหน้าด้วยความแปลกใจ และเขาก็รู้ทันทีว่าเป็นคนไทย เพราะฟังจากการพูด

“ยินดีที่รู้จักครับ”ปรัชญ์ยื่นมือมาให้จาง

ส่วนจางก็จับมือแบบงงๆ และยิ้มให้ปรัชญ์ หลังจากนั้นทั้งสองก็ปล่อยมือพร้อมกัน

“ผมขอนั่งด้วยคนได้ไหม ”ปรัชญ์ส่งสายตามาที่ต้น

ต้นหันไปบอกจาง ซึ่งนั่งมึนงงแต่เขาก็พยักหน้าตกลง

“นั่งซิ”ต้นพูดขึ้น

“ไม่ใช่คนไทยนี่ คนอันเจียเหรอแฟนน่ะ”

“ใช่ คนอันเจีย”

“ไปรู้จักกันตอนไหน มีแฟนใหม่ไวเหมือนกันนะ”

“ก็ตอนที่ปรัชญ์ทิ้งเราไปนั่นแหล่ะ”ต้นมองตาขวางใส่

     “เราไม่ได้ทิ้ง เราไปตั้งหลัก มีคนจะทำร้ายเรา”ปรัชญ์หน้าชาแต่ก็พยายามแก้ตัว

“เหรอ”ต้นแสยะยิ้ม

ถึงจางจะฟังภาษาไทยที่ต้นและปรัชญ์พูดไม่ออก แต่ก็พอคาดเดาได้ว่าทั้งคู่น่าจะไม่ถูกกัน แต่ยังไม่รู้ได้ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์แบบไหนมาก่อน

“เรื่องมันผ่านมาแล้ว อย่าพูดถึงมันเลย” ปรัชญ์เสียงนุ่มขึ้นทันที

“ก็ได้ ไม่พูดถึง”ต้นยกเบียร์มาดื่ม

จางรู้สึกเป็นห่วงต้นที่ดื่มรวดเดียวเกือบหมดขวด และคิดว่าต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ เขาจึงตัดใจถาม

“เขาเป็นใคร มีอะไรกันเหรอ”จางกระซิบข้างหูของต้น

“แฟนเก่า”ต้นกระซิบบอกตามความจริง

จางตกใจที่ได้ยินคำนี้ แต่เขาก็ยังพอใจที่ต้นบอกกับเขาตรงๆ โดยไม่ปิดบัง และไม่ใช่เรื่องเสียหายที่ใครๆ จะมีแฟนมาก่อนและเลิกกันแล้วด้วย

“เรามีอะไรให้จางช่วยเราหน่อย”ต้นกระซิบข้างหูจางอีกครั้ง

“เรายินดีช่วยต้น”จางรีบรับคำ

“ช่วยเป็นแฟนเราหน่อยได้ไหม”

“ได้ซิ”จางรับปากทันที

“คุยอะไรกันกระซิบกระซาบ” ปรัชญ์เริ่มสงสัย แต่ก็แน่ใจว่าเป็นแฟนกันจริง ดูท่าทางสนิทสนมกัน แถมหนุ่มอันเจียยังมีท่าทีหึงอีกต่างหาก

“เรื่องส่วนตัว ไม่มีอะไรหรอก”ต้นตีสีหน้านิ่ง

“ใช่ซิ เราไม่มีความหมาย มันจน มีแต่หนี้ สร้างความลำบากให้ต้นตลอด”

“รู้ตัวก็ดีแล้ว”

“ต้นให้อภัยเราได้ไหม เราผิดไปแล้ว ต่อไปเราจะปรับปรุงตัว ตั้งใจทำงานหาเงินมาใช้หนี้ต้น เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”ปรัชญ์ใช้มุกเดิมที่ได้ผล แต่ครั้งนี้ดูท่าทีจะผิดฟอร์ม เพราะต้นนั่งเงียบ สาเหตุที่ปรัชญ์อยากกลับมาคืนดี เพราะได้ข่าวมาจากนนท์ หมอนวดรุ่นพี่ของต้น ที่นวดอยูที่ร้านป้าทอคำ ถนนคนเดิน ว่าต้นเป็นหมอนวด แล้วได้เงินเยอะพอสมควร จึงอยากกับมาให้ต้นเลี้ยงดูอีกครั้ง

“พอเถอะ ปรัชญ์ เราได้ยินคำนี้มาเป็นร้อยครั้งแล้ว แต่ก็ยังเหมือนเดิม”ต้นยกมือขึ้นห้ามปรัชญ์พูดอีก

“ปรัชญ์เรามีแฟนแล้ว เดี๋ยวแฟนเราเข้าใจผิด เรื่องของเรามันจบลงตั้งแต่ปรัชญ์ทิ้งต้นไป”ต้นพูดจบก็หันไปมองจางที่ยิ้มอย่างงงๆ เพราะฟังไม่เข้าใจ

“คิดเงินเลยนะ แล้วกลับกันเถอะ”ต้นกระซิบข้างหูจาง

“ครับ”

หลังจากนั้นต้นก็เรียกเด็กเสิร์ฟมาคิดเงิน โดยมีจางเป็นคนจ่าย

“ได้แฟนสายเปย์ ลืมแฟนจนจนคนนี้เลยนะ”

“ไม่ใช่แฟนจนจน แต่เป็นแฟนชาวเกาะ”

ต้นพูดกระแทกใส่แล้วจับมือจางลุกขึ้น เดินหนีออกจากร้านไป ปล่อยให้ปรัชญ์นั่งกำมือแน่น ด้วยความแค้นเคือง แต่เขาไม่ยอมแน่นอน และวางแผนในใจจะจัดการต้นให้อยู่หมัด

ทั้งสองออกมาจากร้านอาหารกึ่งผับ เดินลัดเลาะริมคูเมืองมาเรื่อยๆ

“เป็นไงบ้างต้น”จางถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรหรอก”ความจริงนั้นต้นก็รู้สึกสงสารปรัชญ์ แค่ด้วยสัญญากับ ริโอ้ นารี ครูแนน ป้าทองคำ ว่าจะไม่กลับไปคืนดีกับปรัชญ์อีก บวกกับสิ่งที่ปรัชญ์ทำนั้นเกินให้อภัย

“ก็ดีที่ไม่เป็นอะไร คนเราก็แบบนี้แหล่ะ มีแฟนแล้วก็เลิก”จางปลอบใจ

“พูดอย่างกับเคยมีแล้วก็เลิก”ต้นหันมาหาจาง

“ก็ใช่ เหมือนต้นนั่นแหล่ะ แต่ที่พูดว่าให้ผมแกล้งเป็นแฟนต้น เป็นตลอดไปได้ไหม”จางรีบเปลื่ยนเรื่องคุย

“เป็นชั่วคราวก็พอ”

“ก็ได้ ถ้าแฟนเก่าต้นมาตอแยอีก ผมจะบอกว่าเราแกล้งเป็นแฟนกัน”

“กล้าหรอ”

“กล้าทำอยู่แล้ว เพื่อที่จะให้ต้นเป็นแฟนเราตลอดไปไง”

“ปากดี”ต้นใช้มือปัดไปที่ปากจาง แต่สิ่งที่จางทำให้ต้นคือ จับมือต้นมาหอม ซึ่งสร้างความเขินอายบ้างเล็กน้อย

ต้นจึงแกล้งหันมองไปทางอื่น และเดินลัดเลาะเข้าในคูเมืองเพื่อเดินไปโรงแรมของจางก่อน แต่ใจก็ยังฉุกคิดถึงปรัชญ์ กลัวว่าเขาจะมาหาที่ห้อง เพราะต้นยังไม่ได้เปลื่ยนกุญแจใหม่ ต้นจึงไม่อยากกลับห้อง เพราะกลัวจะเกิดความผิดพลาดทางใจ ยอมให้ปรัชญ์กลับมาอยู่ด้วย เพราะปรัชญ์เป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ต้นคิดจนเดินมาถึงหน้าโรงแรมของจาง

“หยุดทำไม จะนอนกับผมหรอ”จางสงสัย เพราะเขาคิดว่ากำลังจะเดินต่อไป เพื่อส่งต้นที่หน้าห้องพัก เขาจึงแกล้งถามเล่นๆ

ต้นฉุกคิดขึ้นได้ เป็นความคิดที่ไม่เลวทีเดียว แต่ก็แอบกลัวคนเอาไปนินทรา ถึงอย่างนั้นก็ยังดีกว่าเผื่อไปเจอ ปรัชญ์ที่ห้อง

“ถ้าขอนอนด้วยให้นอนไหม”ต้นเบิกตามองจาง

“ได้เลย ”จางยิ้มไม่หุบ แอบคิดไปไกล

“อย่าคิดไปไกลเลย แค่ไปนอนเฉยๆ”

“ไม่ได้คิดเลย เข้าไปในโรงแรมกันเถอะ ยุงเยอะ คันไปหมดแล้ว”จางเกาแขนเกาขาด้วยคววมคัน

“ฮือ ไป”

แล้วทั้งสองก็เดินคู่กันเข้าไปในโรงแรม ที่จางพักอยู่ ต้นคิดเพียงแค่หลบปรัชญ์ และคิดว่าจางคงไม่ทำอะไรหรอก ส่วนจางก็คิดไปไกล ว่าจะทำอย่างไงดี เพราะไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อน

คิดไปถึงขั้นต้นต้องชอบตัวเองแน่ๆ ถึงได้อ่อยเขาขนาดนี้ จางเริ่มฝันหวาน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status