ต้นขึ้นรถสี่ล้อแดงมาจากห้องเช่าใหม่ กว่าจะมาถึงก็สายพอสมควร เนื่องด้วยต้องไปส่งคิมที่ห้องก่อน
เมื่อมาถึงก็เห็นริโอ้ยืนอยู่หน้าร้าน กำลังครุ่นคิดเรื่องของซองว่าจะเดินต่อหรือถอยหลัง
"มายืนทำอะไรตรงนี้"ต้นถาม
"ก็ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่ต้นนั่นแหล่ะ เมื่อคืนเป็นไงบ้าง"ริโอ้จ้องหน้าด้วยความอยากรู้
"ไม่มีอะไรหรอก หลับสบายดี"ต้นยิ้ม
"จริงเหรอ"ริโอ้ไม่ค่อยอยากเชื่ิอ
"เข้าไปข้างในกันเถอะ"ต้นรีบเปลื่ยนเรืี่อง ไม่อยากคุยเรื่องนี้
ริโอ้หันหลังกำลังจะเดินเข้าไปในร้าน พร้อมกับต้นแต่แล้วต้องหยุดชะงัก
"ต้น"เสียงเรียกมาจากด้านหลัง
ต้นและริโอ้หันไปพร้อมกัน ซึ่งคนที่เรียกต้น ก็คือนนท์ หมอวิ่งร้านป้าทองคำ
"อ้าวพี่นนท์มีอะไร"ต้นยิ้มให้
"ปรัชญ์อยู่ไหน"นนท์พูดเสียงห้วน
"ต้นจะไปรู้ได้ไง"
"เมื่อคืนก่อนมีคนเห็น ปรัชญ์ไปที่ห้องพักต้น"
ในระหว่างนั้น กัน ปัน และสามหน่อ ได้ออกมาดูเหตุการณ์
"เมื่อคืนก่อนต้นไม่ได้นอนห้อง"
"ไม่ได้นอนห้องแล้วไปนอนที่ไหน"นนท์มีสีหน้าไม่เชื่อ
"คือ ต้น "ต้นอ้ำอึ้ง
"ไปนอนที่ไหนก็บอกพี่นนท์ไปซิ"ริโอ้พูด
"เมื่อคืนก่อนต้นเจอปรัชญ์ที่ร้านอาหาร แต่เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก เพราะต้นไปกับจาง"
" ฮ่า"ทุกคนส่งเสียงพร้อมกัน แล้วหันมามองหน้าต้น ยกเว้นนนท์ที่ยังไม่เชื่อ
"พี่ถามว่าไปนอนทื่ไหน ไม่ใช่ถามว่าไปเที่ยวกับใคร"
"ต้นยังพูดไม่จบ ต้นกลัวปรัชญ์จะมาตอแย ต้นเลยนอนอยู่ที่ห้องจาง พอเช้าต้นกลับมาก็เจอปรัชญ์"ต้นพูดยังไม่ทันจบ นนท์พูดแทรก
"นั่นไง แล้วมาแก้ตัวไปกับคนโน้นคนนี้ ทำอย่างตัวเองหน้าตาดีเหลือเกิน"
"เจอกันก็แค่นั้น ไม่มีอะไรเกินเลย ต้นไม่ได้ชอบปรัชญ์แล้ว เลิกกันแล้วด้วย พี่นนท์ก็รู้ "
"แล้วปรัชญ์ไปหาทำไม"
"มาขอเงินต้น แต่ต้นไม่ให้"
"น่าเชื่อเนาะ"
"ปรัชญ์ไม่เคยขอเงินพี่นนท์หรอ"
"อ้า"นนท์พูดไม่ออก เพราะเคยขอจริงๆ แต่ด้วยรักมาก เจอคำหวานเข้าไปเลยทุ่มสุดตัว
กันยืนดูและฟังอยู่นานจึงทนไม่ไหว
"นนท์กลับไปก่อนเถอะ ไปเคลียร์กับปรัชญ์ก่อน"
"พี่กันเข้าข้างต้นน่ะ"
"เปล่า พี่ก็เห็นเลิกกันจริงๆ แล้วต้นก็มีแฟนใหม่แล้ว"
นนท์คิดชั่วครู่จึงตัดสินใจได้ เพราะเป็นถิ่นของต้น ขืนอยู่นานพี่กันเจ้าของร้าน อาจเคืองจนเลิกเรียกเขามานวดลูกค้า
"ก็ได้ครับพี่กัน เห็นแกพี่กันนะ"นนท์หันหน้าไปมองตาขวางใส่ต้นแล้วเดินจากไป
"ไม่มีอะไรกันแล้ว เข้าไปข้างในกัน"กันตบมือบอกทุกคน
"อือ"ต้นถอนหายใจ
"ช่างมันเถอะ หลุดพ้นแล้ว"ริโอ้ปลอบใจต้นด้วยความเอ็นดู
"ต้นเดี๋ยวเข้ามาหาพี่ที่เค้าท์เตอร์นะ"กันหันหลังมาพูดกับต้น ที่กำลังเสียความรู้สึกนิดหน่อย
เมื่อต้นมาถึงที่เค้าท์เตอร์ กันจึงเรียกให้เข้าไปข้างในทันที
"ต้องให้ได้อย่างนี้ซิต้น"กันยิ้มตบไหล่ของต้น
"อะไรครับ"ต้นงงนิดหน่อย
"ที่เด็ดขาดกับปรัชญ์ไง แล้วกล้าเถียงนนท์ด้วย"
"ต้นก็พูดตามความจริงนะครับ"
"เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่ากับ ต้นรู้จักปกป้องตัวเองมากขึ้น ถึงมันจะยังไม่เต็มร้อยแต่ก็เป็นนิมิตรหมายที่ดี"
"ครับ ต้นจะพยามยามเข้มแข็ง"
"แต่พี่ห่วงอยู่เรื่องหนึ่ง"
"เรื่องอะไรครับ"
"ก็เรื่องโยฮันกับจาง"
"ทำไมครับ"ต้นมีสีหน้าสงสัย
"พี่ว่ามันถึงเวลาที่ต้นต้องเลือกแล้วนะ ขืนปล่อยไปอย่างนี้เจ็บทั้งสามฝ่าย"กันมองหน้าต้นด้วยคำวามเอ็นดู
" คือ"ต้นถอนหายใจ
"ก็ลองคิดดูว่าชอบใครก็คนนั้นแหล่ะ อย่าไปให้ความหวังใคร ถ้าเราเจอคนที่ใช่ ช่วงแรกที่พี่ให้คบสองคน เพราะต้นยังไม่ชอบใคร แต่ตอนนี้ต้นมีคนที่ชอบอยู่แล้วแน่ๆ "
"ก็"ต้นอมยิ้ม
"ไม่ต้องบอกหรอก แต่คนที่ไม่ใช่ ก็สามารถคบเป็นเพื่อนได้อย่างริโอ้ไง"
" ครับ "ต้นรับคำ
"ต้นจางมา"เสียงปันตะโกนมาจากหน้าร้าน
"เอ้ คนนี้หรือเปล่านะ"กันแอบชำเลืองมอง
"อาจจะใช่"ต้นอมยิ้ม
"ถ้างั้นไปหาเขาซะ สงสัยจะมานวดแปดชั่งโมงมั่ง"กันแซว
ต้นเดินไปหาจางที่หน้าร้านทันที ซึ่งเขารออยู่อย่างใจจดใจจ่อ อยากเห็นหน้าต้นไวๆ
"วันนี้ผมจะมานวดไทย 2 ชั่วโมง"
"ฮือ "ต้นพยักหน้าและพาจางไปยังห้องนวด
เมื่อทั้งสองเข้าห้องนวดจนลับตา ก็เริ่มมีเสียงสนธนาลับหลัง
"อิจฉาต้นจังเลย มีหนุ่มหล่อมาชอบตั้งสองคน เราไม่มีใครมาชอบเลย"ปันพูดพร้อมอมยิ้มไปในตัว แต่ก็แอบน้อยใจในวาสนาตัวเอง
"เดี๋ยวริโอ้จีบ เอาไหม"ริโอ้หันหน้าไปหาปัน
"ไอ้โอ้ ใครได้เอง ซวย"ปันจ้องหน้าใส่
"ซวยอย่างไงออกจะหล่อ นิสัยดี"
"หล่อตาย นิสัยดีหรอ เห็นเปลื่ยนแฟนรายวัน"
"รู้ได้ไง แอบชอบริโอ้หรือเปล่า ถึงตามติดชีวิตริโอ้"
"เชอะ เราไม่ชอบ เอเชี่ยนสไตส์ เราชอบ ยูโรเปี้ยน ต่างหาก"
" ฮัลโหล"ฝรั่งหนุ่มเข้ามาในร้าน ทักทายบรรดาหมอนวด
"นั่นไงเนื้อคู่มาแล้ว"ริโอ้โบ้ยปากไปทางฝรั่งหนุ่ม
และเป็นจังหวะเดียว คิวนวดของปันพอดี ปันมองค้อนริโอ้สักครู่หนึ่งแล้วเดินไปหาลูกค้านวดฝรั่งหนุ่ม
ปันทักทายและแนะนำคอร์สนวด จนในที่สุดฝรั่งหนุ่มนวดเท้าสองชั่วโมง
ริโอ้แอบหัวเราะ เพราะนวดเท้าสองชั่วโมงหนักเอาการ
"ริโอ้"เสียงของซองดังขึ้น ริโอ้รีบหันไปมองแล้วยิ้มให้
"วันนี้ซองจะมานวดเท้าสองชั่วโมง ริโอ้ว่างไหม"
"ว่างครับ ทำไมไม่นวดไทยล่ะ"
"ไม่เอา ไม่เอา ซองพึ่งกินอาหารเช้า ถ้านวดไทยเดี๋ยวออกทางปากอีก"
"ฮือ จริง"ริโอ้พยักหน้า
"เมื่อคืนไปเดินตลาดกับริโอ้เมื่อยขามาก ปวดเท้าด้วย ริโอ้ต้องนวดให้หายนะ ถ้าหายแล้วตอนเลิกงานจะมาหาอีก ไปเที่ยวกันใหม่"
"โอเค ไปที่เก้าอี้นวดกัน"ริโอ้เน้นเสียง
ทั้งสองจึงเดินไปยังเก้าอี้นวด ซึ่งมีปันนั่งนวดลูกค้าฝรั่งหนุ่มอยู่
"หวัดดี"ซองทักทายปัน เมื่อวานปันนวดไทยให้จึงคุ้นเคยกันบ้าง
"หวัดดีเช่นกัน"ปันหันมายิ้มให้ซอง
"รู้จักกันด้วยหรอ"ฝรั่งหนุ่มพูดขึ้นมา
"เมื่อวานนวดไทยกับปันหมอนวดคนนี้"ซองเล่าเรื่องทันที
"อ๋อ ชื่อปัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมานวดไทยนะ ผมชื่อ โมย่า มาจากประเทศสปีกาน"
"ครับ"ปันยิ้มไม่หุบ
สักพักริโอ้ก็เดินมาหาซอง แล้วก็นั่งลงบรรจงเช็ดเท้าให้ หลังจากนั้นก็ทำการนวดให้ซอง อย่างสุดฝีมือถึงเวลาจะยาวนาน ริโอ้ก็พร้อมสู้หาเงินเที่ยว
ในห้องนวดไทย จางนอนนิ่งซึ่งผิดวิสัย ยามปกติจะพูดไม่หยุดหย่อน แต่เวลานี้กับนิ่งเงียบ
เมื่อจางเงียบ จึงทำให้ต้นใจคอไม่ดี รู้สึกผิดอยากจะพูดคุย แต่จนแล้วจนรอดต้นยังปากหนัก ไม่ได้พูดคำใดๆออกมาให้จางได้ยิน
จางก็เช่นกันอยากให้ต้นพูดคำใดออกมาบ้าง นิดหน่อยก็ยังดีพอให้ชื่นใจ ทั้งสองฝ่ายต่างรอถ้อยคำซึ่งกันและกัน สุดท้ายจางจึงเอ่ยขึ้นก่อน
"ผมปวดที่หัวใจนวดให้หน่อยได้ไหม"จางเบิกตามองต้น ที่กำลังนวดขาข้างขวา
"จะให้นวดอย่างไงหัวใจ มันอยู่ข้างใน"ต้นอมยิ้ม
"นวดได้ซิ แบบวันที่ต้นนอนค้างห้องผม"
ต้นนึกดูว่านวดหัวใจจางตอนไหน นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
"แล้วจางจะให้ต้นทำอย่างไง"
"ก็แค่นอนให้ผมกอดแบบคืนนั้น ไปไหนกับผมคนเดียว ไม่ต้องไปกับคนอื่น โดยเฉพาะโยฮัน"
"เอ่อลืมถาม ทำไมต้นถึงย้ายห้องกะทันหัน"
ต้นนิ่งชั่วครู่
"ปรัชญ์แฟนเก่าต้นเขามารบกวนที่ห้อง ต้นเลยตัดปัญหาย้ายหนี"
"ทำไมไม่บอกผม จะได้ไปช่วย"
"มันกะทันหันน่ะ"
"ก็ได้ ผมไม่น้อยใจต้นแล้ว แต่ตอนนี้ผมเจ็บตรงนี้"จางชี้ไปที่ต้นแขนข้างขาว ความจริงไม่ได้เจ็บหรอก
"นอนตะแครงข้างซ้ายเลย"
จางรีบตะแครงอย่างว่าง่าย ต้นจึงนวดสะบัก บ่าไหล่ และแขน ให้จาง จากตอนแรกไม่เจ็บ ตอนนี้เริ่มเจ็บ แต่เป็นเจ็บที่สุขใจ
จางรู้สึกสบายตัวขึ้น แถมใจก็สดชื่น จึงทำให้จางหลับอย่างสุขใจ ตื่นมาอีกทีเพราะต้นปลุกให้ตื่นมาดัดตัว
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นนวดจบ ต้นจึงไปรอจางที่หน้าร้าน สักพักจางเดินตามมาและจ่ายเงิน จึงแวะมาคุยกับต้น
"หลังเลิกงานผมจะมาหานะ"
ต้นยิ้มให้พร้อมพยักหน้า รับคำของจาง เพราะเขาเริ่มรู้แล้วว่าต้องการใคร
"อุ้ย อิจฉาจัง"กันเจ้าของร้านเดินมาแซว
"พี่ก็แซวต้นอีกแล้ว"ต้นอมยิ้ม
"อย่าลืมที่พี่บอกนะ ทำตามใจตัวเอง"
"ครับ"ต้นรับคำ
หลังจากจางกลับ ต้นก็ไม่ได้งานอีกเลย รวมทั้งคนอื่นด้วย เป็นบางวันลูกค้ามากน้อยแตกต่างกันไป จวบจนถึงเวลาเลิกงาน จางก็มาตามสัญญา พร้อมมอเตอร์ที่เช่าเพื่อพาต้นเที่ยว
'อุ้ย จะไหวไหมน่ะ"ริโอ้หวาดเสียว เพราะจางขับรถไม่ชำนาญ จางจึงจอดรถแล้วเดินมาหาต้น
"ไป ต้น"
"ไปไหน"ต้นถามด้วยความสงสัย
"ไปห้องต้น แล้วเราก็ไปเที่ยวกันต่อ"จางยิ้ม
ต้นหันไปโบกมือลาเพื่อนๆเสร็จก็เดินตามจางไปที่รถมอเตอร์ไซค์ ต้นยืนลังเล ไม่ใช่ไม่อยากไป แต่กลัวไปไม่ถึงห้อง จะบอกขับเองก็ไม่กล้า กลัวจางเสียหน้า
"ต้นขับนะ แค่ผมขับมานี่ก็จะไม่รอดแล้ว" จางยื่นกุญแจให้ต้น
"ก็ได้"ต้นโล่งใจยังดีที่จางรู้ตัวไม่ฝืน
"ใส่หมวกกันน็อคให้ผมด้วย ใส่ไม่ถนัดเลย"จางยื่นหมวกกันน็อคให้ต้น ต้นจำเป็นต้องรับมา และใส่ให้จาง โดยมีบรรดาสายตาหมอนวดหลายคู่จ้องมอง
เมื่อใส่หมวกกันน็อคให้จางเสร็จ ต้นจึงใส่หมวกกันน็อคของตัวเอง แล้วขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พร้อมสตาร์ทเครื่องรอ จางรีบซ้อนท้ายกอดเอวแน่น ไม่ได้กลัวตกแต่กลัวเสียโอกาส
พอรถแล่นออกไป คิมกับซองก็มาถึง ทันได้เห็นต้นกับจางหวานซึ้งก่อนขับรถจากไป คิมรู้สึกปวดใจ เขาเริ่มหวาดระแวงต้นตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งมันก็เป็นจริงดั่งคิมคิด
"โยฮัน อย่าคิดมาก"ซองตบไหล่คิมเบาๆ
"เรากลับก่อนนะ ซองอยู่ก่อนก็ได้"
"ไม่ได้หรอก เวลานี้ซองต้องอยู่กับโยฮัน"
"ก็ได้ เรากลับโรงแรมกัน"
คิมกับซองเกือบเดินมาถึงหน้าร้านนวด แต่เจอภาพที่ปวดใจยิ่งหนัก จึงหันหลังกลับอย่างเศร้า เพราะสองหนุ่มโปเกีย จะมารับต้นกับริโอ้ไปทานข้าว แต่แล้วต้องผิดหวัง เมื่อได้เห็นภาพบาดใจที่เจ็บลึก
ในระหว่างสองหนุ่มแดนโปเกียเดินกลับ ก็ไม่พ้นสายตาริโอ้ที่สังเกตเห็นตั้งแต่มาและรู้สึกเศร้าใจ ไม่ได้เศร้าใจเพราะส่งสารคิม แต่เศร้าใจที่คืนนี้อดเจอหน้าซอง ทั่งที่เมื่อเช้ายังคิดอยู่ ว่าจะเดินหรือจะถอยแต่พอเห็นซองปลอบใจโยฮัน ถึงกับสะดุ้งใจแอบหึง
"มองอะไรริโอ้ เห็นมองตั้งนานแล้ว"ปันเดินมาจากข้างหลังริโอ้
"ไม่มีอะไรกำลังคิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี"
"ไปดูหนังไหม"
"ไม่ไปหรอก ริโอ้ไม่ชอบดูหนังฝรั่ง"
"ตามใจไปคนเดียวก็ได้ว่าจะเลี้ยงซะหน่อย วันนี้ได้ทิปจากฝรั่งเยอะ"
"เดี๋ยวก่อน"
"ว่าไง"
"ไปก็ได้ แต่ดูหนังจบแล้วไปต่อกับริโอ้นะ"
"ไปไหน แต่ต้องดูก่อนนะว่าน่าไปไหม"ปันยืนรอฟังคำตอบ
"บาร์โฮสต์"ริโอ้รู้สึกเหงาอยากหาเพื่อนคุย
"ฮือ จะดีหรอ คือ ไม่อยากไปเลย"ปันแกล้งลังเล
"ตามใจ ริโอ้ไปชวนสามหน่อก็ได้"ริโอ้หันหลังกำลังจะไปหาสามหน่อ
"เดี๋ยวก่อน"ปันดึงแขนริโอ้ไว้
"อะไรอีก ก็ไม่ไปนี่"
"คิดดูอีกทีไปเปิดหูเปิดตาก็ดีนะ หนังไม่ดูแล้ว ไปดูคนหล่อดีกว่า" ปันดึงแขนต้นให้กลับมา และพาริโอ้ไปที่มอเตอร์ไซค์
"ไปกันเลย ใส่หมวกกันน็อคให้ปันด้วยนะ ปันใส่ไม่ถนัด"ปันยิ้มแล้วหัวเราะ
"มา เดี๋ยวใส่ให้ "ริโอ้คว้าหมวกกันน็อค ครอบใส่หมวกกันน็อคบนศีรษะของปัน แต่ใส่กระแทกแรงไปหน่อย จนปันเจ็บศีรษะ
"โอ๊ย เบาๆหน่อย"ปันร้องเสียงหลง ปันเลยใส่เอง
"ยิ้มอะไร" ปันถาม
"เปล่าไปได้แล้ว"
ปันกำลังจะขึ้นรถนั่งไม่ถนัด ริโอ้รีบสตาร์ทรถแกล้งปันจนเกือบหงายหลัง ปันจึงต้องรีบเกาะเอวริโอ้ไว้แน่น ริโอ้ขับรถวิ่งไปยังบาร์โฮสต์
ต้นใช้เวลาไม่นานนักก็พาจางมาถึงห้อง พอจอดรถลงรถปุ๊บจางพูดทันที
"ดูใหญ่กว่าที่เก่าอีกนะ"
ต้นเลือกห้องที่นี่เหตุผลหลักที่เลือก เพราะมีระบบป้องกันคนนอกเข้ามาได้ดี มีทั้งยาม คีย์การ์ด ถึงจะแพงแต่ปลอดภัย ต้นเลยยอมเช่า
เมื่อมาถึงห้องต้นจึงหาน้ำให้จางดื่ม ส่วนตัวต้นก็เปลื่ยนเสื้อผ้า จะได้อาบน้ำก่อนไปเที่ยว พอถอดเสื้อออกเท่านั้นแหล่ะ จางถึงสำลักน้ำเพราะนมชมพู
"ค่อยๆดื่มก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน"ต้นพูดจบก็เข้าห้องน้ำไปในทันที ปล่อยให้จางยิ้มหวานอยู่คนเดียว แต่ก็ต้องหุบยิ้มทันที เมื่อเสียงข้อความเมาท์แชทดังขึ้น เขาจึงนำโทรศัพท์มืมือถือออกจากกระเป๋ากางเกง เพื่ออ่านข้อความซึ่งก็ไม่ใช่ใคร หลันหลันอดีตแฟนจางนั่นเอง
"ถ้าฉันไปถึงประเทศไทย ฉันจะไปภูเก็ตก่อน แล้วค่อยไปหาคุณ" จางกดลบตามเคย
จางเอนตัวพิงโซฟา กอดอกครุ่นคิด ถ้าหลันหลันมาถึงจะบอกกับต้นอย่างไงดี จางไม่รู้เลยว่าหลันหลัน จะมาที่เชียงใหม่ทำไม
"คิดอะไร"
ต้นเห็นจางนั่งเหม่ออยู่จึงทักขึ้น
"ไม่มีอะไร" จางยยิ้ม
"รอแป๊บนะ แต่งตัวก่อนเดี๋ยวเราไปกัน"
ต้นใช้เวลาแต่งตัวไม่นาน พอเสร็จก็พากันออกจากห้อง และขับรถแล่นออกไปในทันที
คิมกลับมาถึงห้อง พร้อมด้วยซองที่มาส่งและมาเป็นเพื่อน
"ซองคิดว่าต้นจะรักจางไหม"
"ไม่รู้นะ ซองเดาใจต้นไม่ออก เพราะต้นเก็บอาการเก่ง"
"ก็คงงั้นมั้ง"
"พูดตรงๆนะ ในฐานะเราเป็นเพื่อนกัน อย่าโกรธซอง สัญญาก่อน"
"สัญญา"คิมพยักหน้าตอบรับ
"ซองว่า ต้นรักเผื่อเลือก"ซองพูดอย่างที่ตัวเองคิด จะด้วยความสงสาร หรือ อิจฉาเล็กๆ เขาก็ไม่แน่ใจตัวเอง
ส่วนคิมได้ฟัง สิ่งที่ซองพูดก็ครุ่นคิด แต่ก็ยังมองต้นในแง่ดีอยู่ ถึงจะคบเผื่อเลือกคิมก็ยอม ถ้าจะเป็นตัวเลือกที่โดนตัดทิ้ง
"ซองหยิบเบียร์ในตู้เย็นให้โยฮันหน่อย"
"อย่าดื่มเลยมันก็ไม่ได้ให้หายทุกข์"ซองไม่อยากให้โยฮันดื่ม ด้วยกลัวจะเมาหนักจนขาดสติ
"โยฮันต้องดื่มจะได้หลับลืมความเจ็บปวด"คิมมีสีหน้าที่เศร้า
" ก็ได้"ซองเดินไปหยิบเบียร์มาสองขวด
ซองเปิดเบียร์ทั้งสองขวด เดินมายื่นให้คิมหนึ่งขวด ส่วนที่เหลือซองจะดื่มเป็นเพื่อนคิม
"ชน แด่ความเศร้า"คิมชนขวดกับซองเสร็จก็ดื่มทันที
ทั้งสองไม่ได้ดื่มกันแค่สองขวด เมื่อจุดติดจึงหยุดไม่ได้ สั่งต่อมาอีกหลายขวด จนคิมกับซองเริ่มเมา คิมจะหนักหน่อยเพราะดื่มขวดต่อขวด ส่วนซองดื่มเยอะก็จริง แต่ไม่ถึงกับคิมจึงแค่เมานิดหน่อย
คิมเริ่มไม่ไหว ซองเห็นเช่นนั้นจึงเป็นห่วงเพื่อน จึงบอกให้คิมไปนอน
"โยฮันนอนพักก่อนเถอะ ไม่ต้องคิดอะไร พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่"ซองพาคิมไปยังเตียงนอน
"โอเค"คิมขยับตัวไปที่กลางเตียง แล้วนอนตะแครงหันหน้าให้ซองซักพักเขาก็กลับไปนอนหงาย
ซองนั่งคิดอะไรต่อมิอะไร อยู่หลายอย่างรวมทั้งเรื่องคิม ซองนั่งครุ่นคิดชั่วครู่ แล้วหันมามองหน้าคิมที่หลับใหลลงอย่างง่ายดาย เขาจึงลุกขึ้นจับแขนเขย่าเรียกชื่อ
"โยฮัน โยฮัน โยฮัน"เมื่อไร้ตอบสนองกลับ ซองจึงก้มลงบรรจงจุมพิตที่แก้ม ชั่วเวลาน้อยนิดต้องรีบพอ เพราะกลัวคิมตื่น จะได้ไม่มีปัญหาในความเป็นเพื่อน แต่ซองก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เขามองร่างของคิมที่นอนนิ่ง อยากสัมผัสให้ทั่ว ยิ่งเลื่อนสายตาต่ำลงตรงกลางตัว ใจของซองสั่นระรัว ด้วยความเมาและแอบรักมาเนิ่นนาน เขาจึงยังไม่อยากหักห้ามใจอีกต่อไป
ซองค่อยๆ เอื่อมมือไปจับเป้ากางเกงของคิม ได้สัมผัสแกนกลางเพียงภายนอก มือของเขายังสั่นไม่หยุด ซองตัดสินใจใช้มืออีกข้างปลดตะขอกางเกงออก พร้อมรูดซิบลงอย่างช้าๆ จนเผยเห็นกางเกงในสีขาวที่พองนูน
ซองอยู่ในช่วงการตัดสินใจครั้งสำคัญ เพียงอึดใจความคิดให้ทำตามใจต้องการ เขาจึงตัดสินใจดึงกางเกงในเลื่ิอนลง จนเผยเห็นแกนกลางนอนสลบสงบนิ่ง ซองใช้มือจับดึงออกมา สัมผัสทั้งตั้งแต่หัวจรดปลาย ขยับขึ้นลงตามใจปราถนา ไม่ช้าไม่นานได้ขยายเพิ่มขึ้น ซองอยากสัมผัสให้มากว่านั้น
แกนกลางของคิมได้ตื่นตัวเต็มอัตรา ดังเหล็กที่หนาแข็งหาใครเทียม ซองอดใจต่อไม่ไหว เขาก้มลงสัมผัสชิมรสชาตแกนกลาง ที่หอมกลิ่นผู้ชายน่าสูดดม ซองรูดขึ้นลงตามใจปราถนา จนคิมสะท้านทั่วร่างยามอยู่ในภวังค์ เขาเห็นภาพใบหน้าเป็นต้นหนุ่มที่เขารัก คิมจึงปล่อยกายปล่อยใจให้ล่องลอย เคว้งคว้างตามแรงรักที่ผลักไผลสู่อารมณ์ใคร่เสน่หา
คิมครางด้วยเสียงแผ่วเบา ในห้วงคำนึงรสสวาทที่ได้รับ เขารู้สึกเสียวซ่านแกนกลางจนสุดยั้ง คิมไม่คิดสักน้อยว่าเป็นคนอื่น คิดเพียงแค่ต้นเท่านั้นที่สัมผัสแกนกลางของเขาอยู่
ซองรับสัมผัสแกนกลางจนอิ่มเอม เขาจึงหยุดกระทำทุกอย่าง เพียงเงยหน้าขึ้นแกนกลางของคิมยังกระดิกเป็นระยะ ซองคิดอย่างหนักจะใช้มือสัมผัส หรือจะใช้ประตูหฤหรรษ์ของเขาดี ซองหันไปมองหน้าคิมที่เลิกส่งเสียงแผ่วเบา แค่เขายังนอนนิ่งหลับสนิทอยู่
จะใช้ประตูหฤหรรษ์ก็กลัวคิมตื่น ถ้าใช้มือบรรเลงรักก็ไม่ถึงใจ ซองคิดอย่างหนัก เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วต้องไปให้สุด ซองจึงปลดกางเกงตัวเองออก
"ต้น ผมรักต้น ทำไมต้นถึงไม่รักผม"เสียงคิมดังขึ้น
ซองตกใจนึกว่าคิมตื่น เขาจึงใส่กางเกงกลับไว้อย่างเดิม ซองจึงเปลื่ยนใจกะทันหัน คิดได้ฉับพลันใช้มือบรรเลงเพลงรัก ถึงจะเจ็บปวดเพียงใดก็ฝืนทน เพียงคิมเรียกชื่อต้นใจเขาแท่บขาดในบัดดล
แกนกลางของคิม ที่ตั้งตรงผงกหัวกระตุกเป็นบางครั้ง ซองนั้นได้นั่งมองอยู่พัก เขาจึงใช้มือข้างหนึ่งจับไว้ พร้อมกันนั้นขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ อีกมือหนึ่งถกเสื้อคิมขึ้นถึงเนินอก เผยเห็นซิกแพ็คเป็นคลื่น ซองไล่สัมผัสเคล้าคลึงทุกคลื่นที่มี ที่ซองทำเช่นนั้นเพื่ิอรองรับลาวาที่หลั่งไหล เกิดเปื้อนเสื้อผ้าคิมอาจสงสัยได้
ซองเร่งความเร็วขึ้นตามลำดับ ขยับขึ้นลงไม่ยั้งมือ แต่เขาก็คิดได้ในทันควัน ขืนปล่อยให้ไหลเปื้อนลำตัวอาจลำบากแอบชำระล้าง เขาจึงหยุดใช้มือบรรเลงเพลงรัก หันมาใช้ปากพาชิวหา ซองไม่รอช้าทำตามที่ใจสั่งให้ลุล่วง ขยับขึ้นลงดูดอมสลับกันไป
เสียงคิมครางกระเส่า เสริมสร้างแรงผลักให้ซองยิ่งหนัก เขาจึงเร่งความเร็วขึ้นเท่าตัว ยิ่งคิมแอ่นสะโพก เขารู้ทันทีใกล้ถึงเวลา เหมือนยั่งรู้อนาคตล่วงหน้าแกนกลางคิมปล่อยลาวาออกมาไม่หยุดหย่อน พร้อมเสียงครางที่เริ่มค่อยๆแผ่วจนจางหาย ซองหยุดและถอนออกรีบเข้าห้องน้ำ เพื่อชำระคราบสวาทกลิ่นคาวให้หมดสิ้น
ซองรีบออกมาจากห้องน้ำเพื่อชำระล้างแกนกลาง เมื่อมาถึงยังเห็นคิมหลับอยู่ แต่แกนกลางของเขาดันไม่หลับยืนตรงตั้งสง่าดั่งเดิม ซองจึงรีบหาทิชชูมาเช็ดให้หายคราบสวาท เพียงไม่นานก็สะอาดไร้กลิ่นคาว ซองรีบจับแกนกลางหลบเข้ากางเกงใน แต่มันยังพองนูนเป็นรูปร่าง ซองตัดใจเลิกมอง เขาค่อยรูดซิบใส่ตะขอกางเกงไว้ดั่งเดิม พร้อมดึงเสื้อที่ถกขึ้นไปถึงเนินอกลงมา
พอซองสมดั่งอารมณ์พาไป ซองจึงยืนนิ่งมองชั่วครู่ หลังจากนั้นจึงเดินออกจากห้องของคิม เพื่อไปนอนห้องของตัวเอง
เสียงประตูปิดดังเพียงนิด คิมลืมตาขึ้นมองไปที่ประตู แล้วหลับตาลงเหมือนเดิม เขารับรู้ทุกอย่างที่ซองทำ คิมเริ่มรู้สึกตัวตอนซองใช้ปากชิวหารอบสอง จนเกือบเสร็จสมอารมณ์หมาย เขารู้สึกถึงจุดที่ทนไม่ไหวก่อนปล่อยลาวา คิมได้ลืมตาขึ้นเพราะในห้วงคำนึงนั้นเป็นต้น เขาอยากเห็นต้นเผด็จศึกแกนกลางของเขา แต่ในความเป็นจริงนั้นเป็นซอง คิมนั้นตระหนกตกใจ แต่ไม่กล้าแสดงอาการรับรู้ออกมา หนึ่งกลัวมิตรภาพขาดสิ้นถ้าซองรู้ เพราะซองจะตีตัวออกห่างด้วยความอายที่ทำผิดต่อเขา สองด้วยอารมณ์พาไปใกล้ถึงจุดสุขสม ไม่มีผู้ใดจะหยุดกลั้นยับยั้งอารมณ์ได้
ในห้วงเวลามีเพียงสองคน ต้นและจางโบยบิน ปล่อยกายใจ ให้ปลิดปลิวไปกับสายลม สองหนุ่มขับมอเตอร์ไซค์ลัดเลาะไปทั่วเมือง หาจุดเหมาะที่สานความสัมพันธ์จางและต้นจึงแวะไนท์พลาซ่า เพื่อเดินชมหาสิ่งบันเทิงใจ เดินดูอยู่หลายร้านซ้ายขวาแวะหยิบจับมาขึ้นดู พอใจก็ซื้อมายังไม่ถูกใจก่อนจากไปก็ขอโทษแม่ค้าครั้นผ่านร้านเครื่องเงินสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้องหยุดชะงักในทันที"ฮู้ สร้อยเส้นนี้สวยจัง"ต้นอุทาน พร้อมจับมาดู เป็นลายเกลียวคลื่นพันเกี่ยวกัน มีจี้เป็นรูปกระต่ายซึ่งเป็นปีเกิดของต้น""อยากได้ไหมเดี๋ยวผมซื้อให้"จางเหลือบสายตาดูต้น ที่มองสร้อยเส้นนั้นไม่วางตา พลิกกลับไปมาแล้วอมยิ้ม"ป้า เอาเส้นนี้ เท่าไรครับ"ต้นถามพร้อมเตรียมเงินในกระเป๋าออกมาจ๋าย"999บาทค่ะ"ไม่ต้องเดี๋ยวผมจ่ายเองครับ"จางห้ามต้นไว้ และควักเงินแบงก์พันออกมาให้แม่ค้า"เดี๋ยวผมใส่ให้ครับ"จางยื่นมือขอสร้อยจากต้นแต่ต้นไม้ให้ เพราะเห็นแม่ค้ายืนมองต้นเลยรู้สึกเขิน"ไว้ใส่ที่ห้อง""ทำไม่ใส่ที่นี่ไม่ได้""หิวแล้วไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่า"ต้นรีบตัดบทและจับมือจางเดินหนีหาย จนลับสายตาแม่ค้าสร้อยเงินสองหนุ่มเดินชมสินค้าที่มีให้เลือกหลากหลาย จนจางต
ซองเข้ามาในห้องของคิม ตั้งแต่เช้าก็ยังเห็นคิมซึมอยู่ ในความคิดของซองยังมีสองอย่างสงสารกับแอบดีใจ ที่ต้นนั้นเลือกจางแต่ถ้าเทียบความรู้สึกกันแล้วจะสงสารมากกว่า เพราะซองก็รู้สึกเศร้าตามคิมไปด้วย ซองจึงพยายามหาทางคุยเรื่องอื่น เพื่อที่จะให้คิมได้คลายความเศร้าได้ลงบ้าง"วันนี้เราไปเที่ยวไหนกันดี" ซองถามพร้อมมองหน้าคิมว่ามีอาการเช่นไร แต่ก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม"โยฮัน เป็นอะไร”ซองต้องย้ำอีกรอบคิมจึงรู้สึกตัว"ฮ่ะ”คิมหันมามองหน้าซอง"วันนี้จะไปไหนไหม""ไปนวดเหมือนเดิม”เมื่อพูดจบคิมลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำ"ไปที่ไหน"ซองอยากรู้มาก"ที่เดิม"คิมพูดอย่างเย็นชาไร้อารมณ์ซองไม่เข้าใจทำไมต้องไปที่เดิม แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และนั่งรอคิมที่พึ่งเข้าไปอาบน้ำ คิมเปิดน้ำฝักบัวเพื่อชำระร่างกาย ที่เปื้อนคราบสวาทจากซอง เขาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่ซองทำให้เขาเจ็บซ้ำสองต่อ แต่เขาก็ไม่ปริปากพูด เพื่อมิตรภาพที่ดีจะได้อยู่ต่อไป เจาหลับตาปล่อยสายน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ก่อนออกจากห้องน้ำเพื่อไปปั้นหน้าพบแทนซองซองนั่งรอคิมอยู่พักใหญ่ โยฮันก็ออกมาจากห้องน้ำ ในชุดผ้าเช็ดตัวพันกายผืนเดียว จึงทำให้เกิดภาพในเมื่อคืนลอยมา
หลังจากดูหนังจบ ปันกับโมย่าก็เดินออกมา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มทั้งคู่ โมย่ารู้สึกว่าปันนั้นน่ารักน่าคบหา ไว้เป็นเพื่อนตอนอยู่ในประเทศไทย ส่วนปันนั้นรู้สึกผ่อนคลายความเครียด และเจ็บนิดๆ ที่ริโอ้ไปกับซองไม่ยอมมาดูหนังกับตัวเอง"ปันรู้ไหมผมมีความสุขมากเลยคืนนี้ ถึงดูหนังจะเป็นเรื่องปกติ "โมย่าหันมามองปันที่กำลังอมยิ้มอยู่"ผมก็เช่นกันครับ"ปันรีบเดินนำหน้าด้วยความเขินอายนิดหน่อย ส่วนโมย่าก็ก้าวเท้าแค่ก้าวเดียวก็ทันปันแล้ว เพราะฝรั่งขาจะยาว"แล้วเราจะไปไหนต่อกันดี"โมย่าเดินมาเคียงคู่ปันแล้วเริ่มเอ่ยชวน"คงกลับห้องน่ะครับ""ปันไม่ชอบเที่ยวกลางคืนหรอครับ""ก็มีบ้างครับ แต่วันนี้ค่อนข้างดึกแล้วเลยอยากกลับห้องไปพักผ่อน""ก็ดีครับ พรุ่งนี้จะได้มีแรงนวดผม"โมย่ายิ้ม"จะมานวดจริงหรือเปล่า เดี๋ยวเหมือนครั้งที่แล้วอีก"ปันชำเลืองมอง"ครั้งที่แล้วผมมีธุระนิดหน่อยเลยไม่ได้มา แต่ครั้งนี้รับรองไปแน่นอนครับ""จะลองเชื่ออีกซักครั้ง" ปันเร่งฝีเท้าเดินไปยังที่รถตุ๊กๆ"จะไปพร้อมกันหรือว่าจะไปคนละคัน"ปันถามโมย่า"คนละคันก็ได้ครับ"โมย่ามีแผนจะไปต่อที่ผับเลยปฎิเสธไปคันเดียวกัน"ก็ได้ครับนั้นแยกกันตรงนี้ บ่าย" ปัน
หลังจากที่ได้วางแผนจับผิดจางกันมาแล้ว โดยมี ต้น นำทีม มีริโอ้เป็นทัพเสริม คราวนี้มีพี่นารีเป็นตัวช่วยอีกคนพอเลิกงานต้นจึงมาหาจางที่ห้อง จางจะชวนออกไปข้างนอกอต่ ต้นก็ไม่ไปเพราะว่าจะสืบเรื่องราวแฟนเก่าจางให้ได้ ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"ต้นอยากรู้จังว่าจางอยู่ที่อันเจียทำงานอะไร" ต้นช้อนตามองจาง"ทำงานบริษัทเอกชน""แล้วลางานมานานๆไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม""ผมลาพักร้อนสองเดือน วันหยุดผมเยอะ เพราะไม่ค่อยได้ลา ทำงานอย่างเดียว"จางเกิดความสงสัย ทำไมวันนี้ต้นมาแปลก"เมื่อก่อนต้นก็ไม่ได้เป็นหมอนวดหรอกนะ เป็นพนักงานเสริฟอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่ง""ทำไมออกล่ะ"จางสงสัย"ร้านมีปัญหาด้านการเงิน ต้นเลยโดนให้ออก""แล้วต้นมาเป็นหมอนวดได้อย่างไรล่ะ""ริโอ้เป็นอยู่ก่อนแล้ว เห็นต้นตกงาน ริโอ้เลยชวนมาเป็นหมอนวด""ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะ""ใช่ ริโอ้เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย" ต้นมาผิดแผนลืมตัว แทนที่จะถามจาง แต่จางมาเหนือเมฆ ต้นเลยชิงถามก่อน"จางอยู่แถวไหนของประเทศอันเจียหรอ"ต้นถามไปอย่างนั้นแหล่ะ"ผมอยู่เจ้อเจียงแต่มาทำงานที่กวางตุ้ง""อ่อ แล้วอยู่คนเดียวหรอที่กวางตุ้ง""อยู่คนเดียว""แล้วแฟนเก่าที่เลิกล่ะ"เริ่
ปันเดินไปยังโต๊ะของฝรั่งเพื่อขอเก้าอี้มาหนึ่งตัว ซึ่งฝรั่งก็ให้ปันมาแต่โดยดี ปันจึงเอามาถึงที่โต๊ะและตั้งแทรกกลางระหว่างต้นกับจาง"นั่งเลยจีจี้"นารีช้อนตามองจีจี้แล้วขยิบตาส่วนจางก็เขยิบเก้าอี้ถอยห่างเพื่อให้จีจี้นั่งสะดวกขึ้น ข้อสำคัญเขาไม่ค่อยไว้วางใจผู้หญิงคนนี้ ถึงจางจะเคยผ่านผู้หญิงมาเพียงคนเดียว แต่เขาก็ดูออกว่าผู้หญิงคนนี้มาไม่ดีแน่ และสิ่งที่เขาห่วงมากที่สุดคือต้นจะเข้าใจผิด เพราะต้นรู้แล้วว่าแฟนเก่าเขาเป็นผู้หญิงจีจี้พยายามใช้มารยาจับจุออ่อนของจาง"ชนแก้ว"จีจี้ชนแก้วกับทุกคน และคนสุดท้ายก็คือจาง เขาจึงชนแก้วในทันที เพราะโดยส่วนตัวจางชอบดื่มเบียร์ ไม่ใช่เพราะจีจี้แม้แต่น้อย แต่คนในกลุ่มไม่คิดเช่นนั้นเพราะบางที่ก็ชนแก้วกันแค่สองคน ข้อสำคัญจางขอชนแก้วเองอีกต่างหาก พอจีจี้ดื่มหมดชนต่ออีก ทำเช่นเดิมอยู่หลายครั้งจนสร้างความไม่พึ่งพอใจแก่ต้นและพรรคพวก จางก็สังเกตเห็นแต่ก็จะแกล้งต่อไปอีก"จางแฟนของต้นคอแข็งเป็นบ้าเลย จีจี้ยอมแพ้จีจี้เมาเบียร์"จีจี้ทำท่าจะเล่อแต่พยายามกลืนลงไป"จีจี้ ชนอีครั้งกผมกำลังได้ที่เลย"จางยื่นแก้วพร้อมชน"พอแล้วจาง"จีจี้โบกมือ แต่จางคะยั้นคะยอจนจีจี้ยอมอีกแ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จางรู้สึกยากที่จะไปเปิดประตู ไม่ว่าจะเป็นหลันหลันหรือต้น เขาก็รู้สึกจะรับในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นจางก็หาหลีกเลี่ยงได้ เขาจึงแง้มประตูเปิดออกอย่างลุ้น แล้วชะงักงันชั่วครู่“เป็นอะไรจาง”ต้นสงสัยในท่าทีที่แปลกไป ทั้งหน้าตาที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก“จางรักต้น”จางจับร่างของต้นดึงมาในอ้อมกอด“จาง”ต้นงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในสิ่งที่จางทำอย่างกะทันกัน“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ต้นสัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่โกรธผม”จางดันร่างต้นออกห่างแล้วมองหน้าต้นด้วยสายตาแห่งความหวังต้นสับสนจิตใจยังไม่สามารถสัญญาได้ในทันที“จางบอกต้นก่อนได้ไหมมันเรื่องอะไร”“เรื่องมันยาวรับปากจางก่อนนะ”จางดึงร่างต้นเข้ามากอดอีดครั้งตรงหน้าประตู เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก็พบกับหลันหลันยืนมองดูด้วยสีหน้าหลากหลายอารมณ์ ที่ไม่สามารถบ่งบอกได้ทั้งตกใจ ประหลาดใจ ผิดหวัง เป็นห้วงลึกของจิตใจของหลันหลันจางนั้นพอเห็นหลันหลัน เขาถึงกับตะลึง ร่างกายชาชั่วขณะทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่นานเขาก็ดึงสติกับมาดันร่างของต้นออกห่างต้นแปลกใจพฤติกรรมของจาง จึงมองหน้าเขาเพื่อให้คลายสงสัย แต่สิ่งที่ต้นเห็นนั้นคือสายต
จางนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลันหลันยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลันหลันอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลันหลัน แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางจึงเดินออกจากห้องไปหาหลันหลันจางเคาะประตูสักพักหลันหลันก็เปิดประตูออกมา หลันหลันมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก"มีอะไรจาง"หลันหลันใช้สายตาเย็นชามองจาง"เข้าไปคุยข้างในได้ไหม""ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย""ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางมีสายตาที่เศร้าจนหลันหลันใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางอยู่ดีจางเดินเข้ามาในห้องของหลันหลันแล้วนั่งลง ส่วนหลันหลันก็นั่งลงช้างๆ"มีอะไรว่ามา"หลันหลันถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางนั้นมาเพื่ออะไร"คือ ผมอยากให้หลันหลันอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ"รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลันหลันเริ่มอ่อนลง"ผมรู้ตัวที่นี
หลันหลันเคาะประตูเพียงครั้งเดียว จางก็เปิดประตูออกมาทันที และเขาก็มีสีหน้าที่ผิดหวังที่ไม่ใช่ต้น"มองหาแฟนหรอ""ต้นมาเหรอ"จางถาม"เขาฝากกุญแจไว้"หลันหลันยื่นกุญแจรถให้จาง เขาจึงรับไว้"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ"จางเดินออกจากห้องรีบมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา"จะมองอะไรแค่เขาไม่เข้าห้องก็น่าบอกได้แล้วนะว่า เขาเลิกกับจางแล้ว"หลันหลันยักไหล่เหล่สายตามองจาง ในท่าทีเย้ยหยัน"ทำใจซะ คงคิดได้คบกับจางต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร "หลันหลันหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ"ไม่จริง"จางใช้ที่เสียงหนักแน่น แต่เริ่มแผ่วในช่วงท้าย"ทำไมจะไม่จริง จางก็ลองดูซิถ้าอีกสามวันเขาไม่มาหาจาง แสดงว่าเขาคงอยากเลิกกับจาง"เมื่อจางเจอหลันหลันย้ำ เขาถึงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางคิดไปว่าต้นคงกลับไปคบกับปรัชญ์เหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เคยรักใคร่ต่อกันมาก่อนเขา"เขาคงคิดได้ล่ะมั้ง ถ้าอยู่กับจางก็แค่มีความสุขในไทย แต่ไม่สามารถไปที่อันเจียได้ จางก็รู้ดีนี่ ที่นั้นเขายังไม่ยอมรับเรื่องนี้ จางกล้าที่จะเผชิญความจริงเหรอ"หลี่่หลันหลันพยายามสังเกตสีหน้าของจาง ซึ่งก็เป็นผลดั่งที่เธอคาดไว้ หลันหลันจึงใส่ไฟต่อไม่พอแค่นี้"ถ้า